“แก้มคงไม่ได้ถ่ายรูปมาให้พวกเธอดู เพราะแก้มไม่ได้ไปร่วมงานของอาจารย์ทิวากับคุณมินตรา” แก้มใสบอกปัดเพื่อน เด็กสาวฝืนยิ้มให้เป็นปกติที่สุด เธอก็แค่หลานสาวแม่บ้าน คงไม่อาจเอื้อมไปร่วมงานของลูกเจ้านาย
“ทำไมล่ะแก้ม” เพื่อนสาวทั้งสามคนถามขึ้นพร้อมกัน
“แก้มต้องอยู่เฝ้าบ้านน่ะ เพราะทุกคนคงไปร่วมงานแต่งที่โรงแรมหมดเลย” แก้มใสบอกทีเล่นทีจริง เพื่อน ๆ มองหน้ากันแล้วเกาหัว คฤหาสน์หลังใหญ่ออกอย่างนั้น มียามรักษาความปลอดภัยและมีคนเฝ้าบ้านอยู่แล้ว แก้มใสไม่เห็นจำเป็นต้องเฝ้าบ้านเลย
“วันนี้คาบบ่ายไม่มีเรียน ไปหาอะไรกินกันเถอะ” แก้มใสรีบพูดตัดบท เธอไม่อยากตอบข้อซักถามใดๆเกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณวาแล้ว
“ก็ดีเหมือนกัน ไปหาอะไรแซ่บ ๆ กินดีกว่า” วิวเสนอความเห็น
“ร้านตำแซ่บในห้างกำลังจัดโปรโมชั่นลดราคาด้วยล่ะแก เราต้องไปตำกันแล้วล่ะ” หนิงรีบเสริมด้วยการเสนอชื่อร้านที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย
“แล้วก็ไปต่อด้วยคาเฟ่ชิค ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากห้าง ถ่ายรูปสวย ๆ อวดลงในอินสตราแกรม เผื่อบางทีจะมีแมวมองมาเห็น เผลอ ๆ ฉันอาจจะได้เป็นดาราดัง” โยพูดพร้อมกับแอคท่าโพสต์บิดตัวไปมา
พอเอกเข้าใจอะไรง่าย ๆ แก้มใสก็โล่งใจ เด็กสาวหันไปมองหน้าเขา ซึ่งเอกก็หันมาสบตาเธอแวบหนึ่งพอดี“คงไม่มีวันนั้นหรอกเอก”“ตอนนี้อาจจะยังไม่มี สักวันอาจจะมีก็ได้ เราจะรอ แต่ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันต่อไปก่อนนะ”“จ้ะ เป็นเพื่อนกัน” แก้มใสตอบแล้วยิ้มอย่างโล่งใจเอกขับรถมาส่งแก้มใสที่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ แก้มใสบอกว่าให้เขาจอดหน้าประตู เธอจะเดินเข้าไปเอง เอกอยากเอาใจแก้มใสเขาจึงไม่ขัดใจเธอ เขาจอดรถที่หน้าประตูรั้ว พอเธอลงจากรถไปแล้วเขาก็กดกระจกลงและโบกมือให้เธอ ก่อนจะกลับรถขับกลับไปทางเดิมแก้มใสยืนมองรถของเอกแล่นห่างออกไปครู่หนึ่ง เธอจึงเดินไปเรียกคนที่เฝ้าประตูมาเปิดประตูบานเล็กให้ เมื่อเข้ามาในเขตรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ แก้มใสเดินยังไม่ถึงสามก้าว ประตูรั้วบานใหญ่ก็เปิดออกตามหลัง แก้มใสหันไปมองก็เห็นรถของคุณวาแล่นเข้ามาในบ้านและแล่นผ่านเธอไปเด็กสาวมองตามท้ายรถด้วยสายตาหม่นเศร้า ยิ่งพอเห็นรถจอดที่หน้าคฤหาสน์ แล้วเห็นเจ้าของรถลงมาเปิดประตูให้ผู้โดยสารที่นั่งเคียงข้างมากับเขา ทั้งสองเดินควงแขนกันเข้าไปในคฤหาสน์ น้ำตาเจ้ากรรมก็พานจะไหล แก้มใสจึงเด
แก้มใสกวาดตามองไปรอบห้องด้วยดวงตาตื่นตระหนก เธอถูกมัดไว้บนเตียงภายในห้องนอนของคุณวา“ตื่นแล้วเหรอ หิวหรือยัง” เจ้าของห้องเดินถือถาดอาหารเข้ามาวางลงที่โต๊ะใกล้หัวเตียง ก่อนจะนั่งลงบนเตียง แล้วขยับเข้าไปใกล้จำเลยที่เขามัดไว้“คุณวาแก้มัดให้แก้มหน่อยค่ะ แก้มจะไปรับใช้คุณท่านที่โต๊ะรับประทานอาหาร”ทิวายิ้มบางบนใบหน้า เป็นยิ้มที่แก้มใสก็เดาไม่ออกว่าเขารู้สึกอย่างไร“ไม่ต้องไป เธอต้องอยู่ที่นี่”“แต่...”“กินข้าวก่อน ฉันจะป้อน”“คุณวา...ปล่อยแก้มนะคะ” แก้มใสอ้อนวอนเสียงสั่น แต่คนที่จับเธอมัดไว้ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเธอเลย เขาหันไปยกชามข้าวต้มมาถือไว้ ใช้ช้อนคนข้าวต้มแล้วตักขึ้นมาเป่าครู่หนึ่ง“กินข้าวก่อน วันนี้ฉันต้องออกไปแจกการ์ดแต่งงานกับมิน จะกลับเข้ามาอีกครั้งช่วงบ่าย ถ้าเธอไม่กิน เธอจะหิว” ทิวาพูดพลางยื่นช้อนข้าวต้มไปตรงหน้าเด็กสาว“คุณวา…” คราวนี้แก้มใสเหมือนจะรู้ชะตาของตัวเอง เขาคิดจะกักขังเธอไว้ เธอไม่รู้ว่าเขาจะขังไว้นานแค่ไหน แต่เธอไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้ เขากำลังจะแต่งงานนะ แล้วจะมาทำอย่างนี้กับเธอทำไม“อ้าปาก”
“ว่าไงเปิ้ล” มินตราทักทายเพื่อนไปตามสาย ขาเรียวก็ก้าวเดินตรงไปยังลิฟต์ในตัวอาคาร“เพื่อน ๆ นัดกันจัดปาร์ตี้สละโสดให้แกคืนนี้ แกมาได้มั้ย”“ทำไมกะทันหันจัง”“ก็เพิ่งรวมตัวกันได้ ว่าแต่แกจะมามั้ย พวกฉันจัดของเด็ดไว้ให้แกทิ้งทวนก่อนจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนด้วยนะ”คำว่าของเด็ดของเพื่อนทำให้มินตรายิ้มพราว“ไม่...ไม่ปฏิเสธ” มินตราตอบแล้วยิ้มมุมปาก ทิ้งทวนกับของเด็ดก่อนจะมีผัว...แค่คิดก็ขนลุกซู่ ใจเต้นแรง แล้วแบบนี้เธอจะพลาดปาร์ตี้ที่เพื่อนอุตส่าห์จัดขึ้นเพื่อเธอได้อย่างไรณ ห้องหรูชั้นบนสุดของคอนโดมีระดับกลางเมือง มีเสียงเพลงคลอเบา ๆ บรรยากาศในห้องมีเพียงแสงสลัว มีผู้หญิงสี่คนกับผู้ชายรูปร่างสมบูรณ์อีกเจ็ดคน ทั้งหมดไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น พวกเขากำลังร่วมปาร์ตี้สละโสดอย่างถึงพริกถึงขิง“อ๊า ๆ แรงอีก ! อื๊อ ! ซี้ด…” เสียงครวญครางของมินตราดังไม่ขาดปาก เธอเป็นหญิงสาวหนึ่งเดียวบนเตียงวงกลมใหญ่กลางห้อง บนนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาดีและรูปร่างน่าขย้ำอีกสี่คนอยู่กับเธอ พวกเขากำลังปรนเปรอบำเรอกามให้เธออย่างเร่าร้อน ส่วนเพื่อนคนอื่นก็จับคู่
“อ่า...ยัดเข้าไปสุดลำแล้วครับคุณมิน”“ดี...ดีมาก เข้ามาอีก ยัดอีกอันเข้ามาในรูนี้” มินตราสอดนิ้วกลางใส่ร่องรูสาวแล้วขยับเข้าออกเร็ว ๆ ทั้งส่งสายตาบงการคนที่นั่งอยู่กลางหว่างขาของเธอหนึ่งในสองคนที่ลงลิ้นจนเธอแตกซ่านสุดเสียวทำตามคำสั่งของเธอ เขาขยับเข้าไปคุกเข่ากลางหว่างขาของเธอ จับสองขาเธอยกขึ้นแล้วแหกออก เขาขยับบั้นเอวส่งส่วนหัวลำกายใหญ่แหวกปากร่อง ค่อย ๆ ยัดมันเข้าไปในตัวเธอ“อ๊า !” มินตราสูดปากครางเซ็กซี่ หญิงสาวผงกหัวขึ้นมองกลางหว่างขา เธอแลบลิ้นเลียปากพอใจที่เห็นลำเนื้อยาวใหญ่แหวกร่องแดงแจ๋เปียกแฉะเข้ามา มันใหญ่ยาวสะใจ ยามมันเคลื่อนเข้ามาในตัวเธอ ลำเอ็นของเขาเบียดกันกับเอ็นท่อนยาวอีกลำที่ฝังกลางร่องก้น ความแน่นความหนึบทำหญิงสาวแอ่นแผนหลังขึ้น กระทั่งเขากระเด้าอัดในจังหวะสอดใส่สุดโคนเต็มแรง“อ๊าย !” มินตราสะดุ้งแอ่นแผ่นหลังโค้งเหนือร่างกายที่เธอนอนทับอยู่ หญิงสาวหลับตา รับเอาความรู้สึกเสียดเสียว เจ็บและจุกด้วยความสะใจ“เอาฉันแรง ๆ กระแทกให้แหกให้ยับ อ๊า ๆ กรี๊ด ๆ” เมื่อสองหนุ่มทำตามที่เธอสั่ง มินตราก็กร
“กี่โมงแล้ว” มินตราถามพลางลุกขึ้นนั่งบนเตียงที่เธอเสพสมกามจนอิ่มเต็มคราบมาทั้งคืน“บ่ายโมงแล้วแก แกเป็นไงบ้าง โอเคมั้ย”เปิ้ลนั่งลงบนเตียง หญิงสาวลูบบ่าเนียนของเพื่อนเบา ๆ“โอเค...มันดีมาก”“แกอิ่มหรือยัง ฉันเตรียมน้ำใส่อ่างไว้รอแกแล้ว” เปิ้ลถามแล้วยิ้มพราว มินตราหรี่ตามองเพื่อนอย่างรู้ทันกัน“อาบน้ำด้วยกันมั้ย”“เอาสิ...ฉันจะได้บริการขัดถูให้แกทุกซอกทุกมุม ทิ้งท้ายปาร์ตี้สละโสดของแกไง”สองเพื่อนสาวยิ้มให้กันแล้วพากันเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยกันหญิงสาวทั้งสองก้าวลงไปในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ สองสาวผลัดกันถูหลังและอาบน้ำให้กัน มือบางนุ่มนิ่มลูบไล้กันและกัน ทั้งสองทำมากกว่าอาบน้ำ“อื๊อ ! เปิ้ล” มินตราเงยหน้าครางกระเส่า เมื่อเพื่อนสาวก้มดูดนมเธอ แล้วสอดนิ้วกลางเข้ามาในร่องเนื้อของเธอ เป็นสัมผัสบางเบาที่กระตุ้นเร้าให้เธออยากกระสัน แม้ไม่หนักหน่วงเหมือนยามถูกหนุ่ม ๆ ปรนเปรอ ทว่าเป็นสัมผัสที่ทำให้เธอใจเต้นแรงได้เหมือนกัน“ไปให้ถึงเลยมิน แตกออกมา…” เปิ้ลกระซิบบอกเพื่อนสาวแล้วเลื่อนปากแนบประกบจูบ สองสาวแลกลิ้นจูบดื่มด่ำ
“คุณวา...ปล่อยแก้มได้หรือยังคะ” แก้มใสถามคนที่นั่งอยู่บนเตียงกับเธอ เธอถามเขาหลังจากที่รับประทานอาหารเช้าบนเตียงเสร็จแล้วคุณวากักขังเธอไว้ตั้งแต่เมื่อวาน กระทั่งถึงเช้าวันนี้ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะปล่อยเธอ เขาหาข้าวหาน้ำมาให้เธอกินถึงที่ ดูแลอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เขาทำราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตา เป็นจำเลยที่เขาจะกักขังไว้นานแค่ไหนก็ได้ตามแต่ใจทิวาวางแก้วน้ำที่เพิ่งป้อนเด็กสาวไปเมื่อครู่ลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วก็หันกลับมายิ้มให้เธอ“ไม่...ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปหรอกแก้ม”“แต่วันพรุ่งนี้แก้มมีเรียนนะคะ” แก้มใสอุทธรณ์ เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เธอไม่อยากขาดเรียน เธอกลัวเรียนไม่ทันเพื่อน แล้วอีกอย่างเธอหายมาตั้งแต่เมื่อวาน ป่านนี้ป้ารุ่งคงเป็นห่วงเธอแย่แล้ว เขาขังเธอไว้ในบ้านหลังนี้ บ้านที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย จึงไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่“หยุดเรียนไปสักหนึ่งสัปดาห์ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก”“แต่แก้มไม่อยากขาดเรียน”“ฉันสั่ง เธอต้องทำตาม จะหยุดเรียนแค่หนึ่งสัปดาห์ หรือว่าจะออกจากมหาวิทยาลัยแล้วหยุดเรียนตลอดไป”
“คุณท่านไล่เราออกจากบ้านเหรอคะป้ารุ่ง”“ไม่ใช่จ้ะ คุณท่านจะจัดงานเลี้ยงที่บ้านไร่ ป้าต้องไปจัดการดูแล แก้มไปกับป้านะ ไปช่วยกัน ขาดเรียนสักวันสองวันคงไม่เป็นไรใช่ไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแก้มขอดูแลคเชอร์กับเพื่อนก็ได้ ว่าแต่เป็นงานอะไรหรือคะป้ารุ่ง”“อย่าเพิ่งถามเลย รู้แค่ว่าเป็นงานสำคัญของคุณท่านก็พอ รีบไปกันเถอะ”“ค่ะ ป้ารุ่ง”แก้มใสเดินทางมาโดยรถตู้ของคุณท่าน บนรถมีเธอ ป้ารุ่ง และคุณท่าน โดยมีลุงชิดเป็นคนขับรถให้ พอไปถึงบ้านไร่ แก้มใสก็เห็นว่ามีการเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับจัดงานจริง ๆ ด้วยตอนที่นั่งมาบนรถด้วยกัน แก้มใสอยากจะเอ่ยปากถามคุณท่านเหลือเกินว่า ท่านไม่อยู่ร่วมงานแต่งงานของลูกชายท่านเหรอ หรือว่าท่านจะมาดูการจัดเตรียมงานที่นี่ก่อน แล้วพรุ่งนี้ถึงจะกลับกรุงเทพเพื่อไปร่วมงานแต่งงานของลูกชาย แล้วงานที่จะจัดที่บ้านไร่นี่คืองานอะไร สำคัญถึงขนาดที่คุณท่านต้องมาดูแลด้วยตนเองเลยเหรอ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดความสงสัยของเธอ เพราะแก้มใสไม่กล้าละลาบละล้วงถามคุณท่านเพราะมาถึงบ้านไร่ในช่วงที่ตะวันใกล้จะตกด
แก้มใสนั่งลงบนเตียง เด็กสาววางมือลงบนที่นอน ค่อย ๆ ลูบไล้สัมผัสมัน ก่อนจะเอนกายลงนอนตะแคง แนบแก้มกับที่นอนของเขา แล้วน้ำตาก็ไหลรินอีกครั้ง“แก้มคิดถึงคุณวา...ฮึก ๆ”แม้รู้ว่าไม่ควรคิดถึง แม้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์รัก แม้จะบอกตัวเองให้รีบทำใจ แต่แก้มใสก็ไม่อาจหักห้ามใจได้เลย“นี่มันอะไรกันคะคุณวา คุณจะยกเลิกงานแต่งของเรา ในวันที่ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วได้ยังไงกันคะ” มินตราตะเบ็งเสียงถามด้วยความโมโห หญิงสาวอยู่ในชุดไทยศิวาลัยสวยหรู เป็นชุดเจ้าสาวที่ตัดเย็บจากร้านไฮโซชื่อดัง ที่จริงแล้วเวลานี้ เธอจะต้องนั่งรับน้ำสังข์เคียงข้างกับเจ้าบ่าว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกับเขากำลังถกเถียงกันอยู่ในห้องสวีตของโรงแรม“มินตรา...คุณจะประกาศยกเลิกงานแต่งเอง หรือจะให้ผมเป็นคนประกาศ” ทิวาถามย้ำคำเดิมหลังจากเรียกเธอเข้ามาคุยลำพังสองคนในห้อง เขาเปิดโอกาสให้เธอเลือกเอาว่า เธอจะเป็นคนประกาศยกเลิกงานนี้เอง หรือว่าจะให้เขาเป็นคนประกาศ เพราะหากให้เขาต้องประกาศยกเลิกงานแต่งในครั้งนี้ เหตุผลและหลักฐานที่เขาจะหยิบยกขึ้นมาเพื่ออธิบายให้ทุกคนได้รับรู้ อาจจะทำให้เธอ
“อีกแล้วนะรุ่ง เธอว่าฉันอีกแล้ว” คนที่ยังเตะปี๊บเสียงดังสนั่นรถมองคนที่เพิ่งว่าเขาอายุมากแล้วด้วยสายตาดุ“ก็รุ่งเป็นห่วงคุณท่านนี่คะ”“ฉันยังแข็งแรงดี”“แต่เราไม่ควรประมาทนะคะ”“พูดมากจริง มานี่ฉันจะทำให้เธอสำนึกสักทีว่า อายุสำหรับฉันมันก็แค่ตัวเลข”คุณท่านกดป้ารุ่งลงนอนหงายบนเบาะ เขาตามไปสอดใส่กระเด้าอัดเธอเต็มแรง คุณท่านจับสองขาขึ้นพาดบ่า เขาคุกเข่าข้างหนึ่งบนเบาะรถ วางเท้าข้างหนึ่งบนพื้นพรม แล้วเริ่มลีลารักเนิบนาบทว่าดุดันหนักแน่นป้ารุ่งสะดุ้งครางสยิว เธอรองรับแก่นกายที่สอดใส่เสียดสีเข้าออกอย่างไร้ทางสู้ เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอีกเลย เพราะจังหวะรักช่ำชองรู้จุดเสียวจุดขยี้ของเขา ทำให้ป้ารุ่งครวญครางแทบขาดใจ“ไม่เห็นต้องไปถึงบ้านไร่เลย”ป้ารุ่งขมุบขมิบว่าคนที่บังคับให้เธอไปบ้านไร่ด้วย“ไปโน่นแหละดีแล้ว ไม่มีคนกวนใจ” คุณท่านกางแขนข้างขวาโอบกอดเมียมาแนบตัว“แก้มกับคุณวาก็ไม่ได้กวนอะไรสักหน่อยนี่คะ” ป้ารุ่งว่าแล้วเอนศีรษะซบอกคุณท่าน เธอโอบกอดเอวเขาไว้“ถึงเด็ก ๆ ไม่กวน แต่เธอก็ชอบทำโน่นท
กระทั่งคนที่กำลังกระเด้าอัดถี่ยิบกระทุ้งแรง แล้วค้างคาไว้ ดูท่าทางเขาจะแตกในร่องเนื้อสาวแล้ว เขาโม่บดหมุนควานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอดถอนดุ้นสีเข้มอันเขื่องออกมา เขาขยับถอยหลัง เปิดทางให้เพื่อนอีกคนเข้ามาจัดการเสพสังวาสกับแคดดี้สาวสวยต่อเมื่อถูกเอ็นอีกท่อนกระเด้าอัด แคดดี้สาวก็เริ่มครวญครางใหม่อีกครั้ง เธอสั่นกระเพื่อมไปทั้งตัว เสียงเนื้อน้ำปะทะกันดังสนั่นจนคุณท่านและป้ารุ่งได้ยินชัดเจน“อ๊า ๆ หนูจะแตกแล้วค่ะ อ๊ะ ๆ กรี๊ด !” แคดดี้สาวสะท้านเฮือก เธอกรีดร้องออกมา พร้อมกับน้ำแตกกระจาย เพื่อนของคุณท่านล็อกเอวเธอไว้ แล้วดึงเข้าหา พร้อมกับเด้าอัดเต็มแรง เขาเงยหน้าครางกระหึ่ม แล้วกระตุกยึก ๆ แตกในใส่ร่องเนื้อสาว แล้วถอดถอนตัวเองออกมาแคดดี้สาวรีบพาตัวเองไปนั่งที่เบาะท้ายของรถกอล์ฟทันทีที่ทั้งสองคนนั้นเดินหนีเธอไป หญิงสาวนั่งหอบหายใจแรง ท่าทางอ่อนเปลี้ยเต็มที แต่พอเพื่อนของคุณท่านอีกสามคนที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ไม่ไกลเมื่อครู่เดินตรงเข้ามาหา เธอก็ยิ้มหวานให้พวกเขา และอ้าแขนรับให้พวกเขาทั้งสามนัวเนียกับเธอตามแต่ใจป้ารุ่งปิดปากตัวเองด้วยสองมือ เธอเบิกตามองอย่างไม่อยาก
คุณท่านหัวเราะในลำคอ เขาเลื่อนมือขึ้นมาโอบบ่าบอบบางแล้วดึงป้ารุ่งให้เอนตัวมาใกล้ เขาจูบกระหม่อมเธอเบา ๆ แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างไม่ปิดบัง แล้วกระซิบบอกเธอว่า“สมัยหนุ่ม ๆ น่ะ เคยนะ...มันตื่นเต้นดี”ป้ารุ่งมองค้อนคนที่โอบบ่าเธออยู่ เธอเมินหน้ามองไปทางอื่น ในอกมันร้อนรุ่ม เธอหวงเขา…“ตอนนี้แก่แล้ว ฉันไม่ทำแบบนั้นแล้วล่ะน่า”“ใครจะไปรู้ด้วยล่ะคะ วันนี้ถ้ารุ่งไม่มาด้วย ป่านนี้คุณท่านอาจจะออกรอบไปกับเพื่อนแล้วก็ได้”“ก็นี่ไง ฉันถึงได้ชวนเธอมาด้วย”ป้ารุ่งหันขวับกลับมามองคนพูด“แสดงว่า ถ้ารุ่งไม่มา…”“ไม่ ๆ ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า เธออย่าทำตาดุแบบนี้ได้ไหม ฉันไม่ชอบ”ที่จริงคุณท่านไม่ใช่ไม่ชอบ แต่เขาเกรงใจตาดุ ๆ ของเธอต่างหาก ไม่บ่อยนักหรอกที่เมียจะมองเขาด้วยสายตาแบบนี้ แต่เมื่อไรที่ถูกเธอมองแบบนี้ ไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมเธอทุกอย่าง“รุ่งยังไม่ทันได้ว่าอะไรสักหน่อย”“ถึงไม่ได้ว่า แต่สายตาเธอมันฟ้องว่าเธอกำลังโกรธฉัน”“ไม่ได้โกรธค่ะ”ป้ารุ่งว่าแล้วเมินหน้าหนีไปทางอื่นอีกครั้ง คุณท่านจึงใช้มือบีบแก้
ป้ารุ่งเสียวจนใกล้จะแตกกระจายเต็มที เธอขยับขา แยกออกอีกนิด แอ่นก้นขึ้นอีกหน่อย ให้คุณท่านถาโถมส่งแรงกระแทกกระทั้นเต็มเหนี่ยว เธอรองรับเอาเอ็นท่อนใหญ่เข้ามาในตัว ขมิบรัด ตอดเขาหนุบหนับไปทั้งลำ กระทั่งคุณท่านกระเด้าอัดถี่ยิบ เธอก็เสียวจนไม่อาจทนได้ ป้ารุ่งกรีดร้อง และน้ำแตกกระจาย เธอถูกคุณท่านสอดเสยกระทุ้งส่งไปยังปลายทางความสุขสมแสนเสียวอย่างสะใจ“ถึงแล้วใช่ไหม อ่า...รุ่งจ๋า…” คุณท่านขยับบั้นเอวกระเด้าร่องเนื้อที่กำลังตอดรัดถี่ ๆ อย่างรุนแรงอีกไม่กี่ครั้ง เขาก็ตอกอัดยัดท่อนเอ็นเต็มร่องสาว ฝากฝังตัวตนแนบสนิท แล้วพ่นน้ำกามออกจากรูเล็กเติมเต็มในร่องอุ่นอย่างสาแก่ใจคุณท่านนาบตัวลงบนแผ่นหลังนุ่ม เขาหอมแก้มนวลแล้วซุกหน้ากับซอกคอหอม จังหวะหายใจของหนุ่มสาวรุ่นใหญ่ถี่กระชั้น ต่างคนต่างซึมซับความสุขสมแสนเสียวที่ยังลอยวนอยู่รอบกายครู่หนึ่ง“หนักไหม” คุณท่านกระซิบถาม“ไม่ค่ะ รุ่งชอบเวลาคุณท่านอยู่ในตัวรุ่งแนบนี้ค่ะ”“ฉันก็ชอบให้เธอตอดแบบนี้ มันเสียวดี แต่ตอนนี้เราควรขึ้นห้องได้แล้ว” คุณท่านค่อย ๆ ขยับเอวดึงเอาแก่นกายเปียกชุ่มออกมา เขาดึงกางเกงขึ้นมาสวม แล้วหันม
กลีบเนื้อนุ่มขยับไหวเพราะถูกลิ้นตวัดเลียหยอกล้อ ติ่งเสียวเต้นตุบ ๆ กระสันอยากอย่างแรงกล้า ป้ารุ่งขยับบั้นท้ายส่ายเนิบนาบ แอ่นอ้ากระดกก้นให้คุณท่านโลมเลียซอกเนื้อเปียกแฉะทุกซอกหลืบ หนวดเหนือริมฝีปากถูครูดเนื้อนุ่มให้ความรู้สึกเจ็บนิด ๆ ปากและลิ้นที่แนบสนิทเร่งเร้าให้อารมณ์สาวร้อนฉ่า ความเสียดเสียวทิ่มแทงจุดอ่อนไหว เสียวจัดจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อไม่อาจต้านทานการจู่โจมช่ำชองของคุณท่านได้ ป้ารุ่งก็กดหัวคุณท่านสุดแรง กระดกก้นแอ่นอ้าเนื้อนวลแนบปากอุ่นร้อน แตกกระจายน้ำหวานซ่านเสียวออกมาอย่างสุดจะกลั้น“อ๊าย ! คุณท่านขา…” ป้ารุ่งหลับตาเงยหน้ากรีดร้องระบายความเสียว ร่างสาวสั่นกระตุกเป็นจังหวะเดียวกับสายน้ำเสียวที่ฉีดพุ่งออกมาคุณท่านครางในลำคอด้วยความพอใจ เขาดูดกลืนปาดเลียหยาดน้ำของเธอ และเกลือกใบหน้าบนผืนเนื้อสาวแดงก่ำเพราะถูกตอหนวดบดขยี้ และถูกปากและลิ้นของเขาดูดเลียจนเธอแตกกระจาย“ซี้ด ! คุณท่านขา...รุ่งเสียว อื๊อ !” ป้ารุ่งสั่นกระตุกเพราะถูกคุณท่านแกล้ง เธอทิ้งสองขาห้อยลงข้างขอบโต๊ะ เธอปีนป่ายถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้ว ความเสียดเสียวแผ่ลามอยู่กลางซอกขา พอถูกเขา
หลังจากทิวาซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวแต่งงานกับแก้มใส และเข้ามารับช่วงสืบทอดกิจการทุกอย่างจากเขาไปดูแลทั้งหมด คุณท่านทัดเทพจึงมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ตอนแรกเขาอยากย้ายไปอยู่บ้านไร่ แต่คนที่เขาอยากให้ไปอยู่ด้วยไม่ยอมไป เธออ้างว่าอยากอยู่ดูแลแก้มใสซึ่งเป็นหลานสาวของเธอและเป็นลูกสะใภ้ของเขา พอป้ารุ่งไม่ยอมย้ายไปอยู่ด้วย คุณท่านจึงยื่นข้อเสนอให้เธอต้องย้ายไปนอนบนเตียงเดียวกับเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะใช้ความเป็นเจ้านายบังคับให้เธอไปอยู่ที่บ้านไร่ด้วย ป้ารุ่งจึงยอมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้“เมื่อไรจะขึ้นห้อง” เจ้าของคฤหาสน์วัยหกสิบปีที่รอแม่บ้านวัยย่างสี่สิบปีขึ้นไปนอนด้วยถึงกับลงมาตามเธอในห้องครัว เมื่อเขารอจนเกือบสี่ทุ่มแล้ว เธอก็ยังไม่ขึ้นไปหาบนห้อง“รุ่งหมักหมูนุ่มเตรียมทำหมูปิ้งพรุ่งนี้เช้าอยู่ค่ะ แก้มอยากกิน” ป้ารุ่งที่เพิ่งเก็บกล่องหมูผสมเครื่องปรุงหมักแล้วไว้ในตู้เย็นหันมาบอกคนหน้าดุ เธอยิ้มให้เขาแล้วเดินเลี่ยงไปล้างมือที่ซิงค์ คนที่ลงมาตามแม่บ้านสถานะเมียเดินตามไปหยุดอยู่ข้างหลังเธอเงียบ ๆ พอป้ารุ่งล้างมือเสร็จและเช็ดมือเรียบร้อยหันกลับมาจึงสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“รุ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” ป้ารุ่งตอบแล้วหลุบตาหนีสายตาคม“ไม่ว่าอะไรแต่หนีฉันมาถึงนี่เนี่ยนะ” คุณท่านว่าแล้วส่งเสียงหึในลำคอ“รุ่งก็แค่อยากมาพักผ่อน”“หึงก็บอกว่าหึง จะปากแข็งทำไม” คุณท่านก้มลงจูบแก้มนวลแล้วซุกหน้ากับซอกคอหอม เขาปากลิ้นเลียจงใจกระตุ้นอารมณ์เธอ“อื๊อ ! อย่านะคะ” ป้ารุ่งดิ้นขยุกขยิก และเริ่มหอบหายใจแรงขึ้น เพียงแค่ได้ใกล้ชิด เพียงแค่ได้กลิ่นกายของคุณท่าน เธอก็อยากกระสันอย่างน่าอาย“เลิกคิดมากได้แล้ว ถ้าเธอกลัวว่าฉันจะมีคนอื่น ฉันจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเมีย”“ไม่นะคะ รุ่งพอใจแค่นี้ แค่ได้อยู่ใกล้คุณท่าน ได้อยู่ดูแลแก้มและคุณวา แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ”“คนอื่นเขาอยากเป็นเมียออกหน้าออกตา แต่เธอกลับอยากอยู่ในมุมลับ”“เพราะรุ่งรู้ว่ารุ่งไม่คู่ควร รุ่งไม่อยากทำให้คุณท่านเสียหาย”“ไร้สาระ...พรุ่งนี้ฉันจะประกาศแต่งงานกับเธอดีมั้ย”“อย่านะคะ ไม่เอาแบบนั้น”“ก็ถ้าไม่แต่งงานกัน เธอก็จะหาเรื่องอ้างไปจากฉัน ไปหาคนที่หนุ่มกว่าฉัน ใช่สิ...ฉันมันแก่แล้วนี่”“คุณท่าน…” ป้ารุ่งมองสบตาคนที่ยืนคร่อมเธออย
สองหนุ่มสาวที่มาพักผ่อนบ้านไร่มองตากันอย่างแปลกใจ เมื่ออยู่ดี ๆ คุณท่านกับป้ารุ่งก็มาถึงไร่ในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยที่ทั้งสองไม่ได้บอกก่อนว่าจะตามมาที่นี่ แล้วพอมาถึง ป้ารุ่งก็เอาเสื้อผ้าเข้าไปเก็บในห้องและไม่ยอมออกมาอีกเลย ผู้สูงวัยที่สุดในบ้านที่ตามมาถึงทีหลังก็ออกอาการหงุดหงิดอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนพอถึงเวลารับประทานอาหารเย็น ปกติป้ารุ่งจะคอยดูแลรับใช้คุณท่านอยู่ที่โต๊ะอาหารเสมอ แต่วันนี้หลังจากทำอาหารเสร็จและตั้งโต๊ะเรียบร้อย ป้ารุ่งก็ขอตัวกลับเข้าห้องไปที่จริงหลังจากที่แก้มใสแต่งงานกับคุณวาแล้ว คุณท่านบอกให้ป้ารุ่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วยกันเลย ไม่ต้องไปยืนคอยดูแลรับใช้เหมือนเดิม แต่ป้ารุ่งบอกว่า ถึงแม้หลานจะเป็นลูกสะใภ้ของคุณท่านแล้ว แต่เธอยังเป็นแม่บ้านเหมือนเดิม เธอจึงจะทำหน้าที่นี้ต่อไประหว่างรับประทานอาหาร คุณท่านทัดเทพหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะแม่บ้านรู้ใจไม่มายืนอยู่ในสายตา แก้มใสมองคุณท่านอย่างไม่เข้าใจ แต่พอมองสามี เขาดูไม่แปลกใจ และไม่สงสัยอะไรเหมือนเธอเลยพอรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จทิวาก็รีบชวนภรรยาขึ้นห้อง ทั้งที่แก้
“วันนี้ทิวาไม่อยู่บ้านนะครับ เขาพาหนูแก้มไปพักผ่อนที่บ้านไร่”“เสียดายจังเลยค่ะ พอดีตรีผ่านมาแถวนี้ ก็เลยจะมาคุยเรื่องงานสักหน่อย ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ไม่ได้โทรถามก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เข้ามารบกวนคุณทัดเทพหรอกค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ เรามันคนกันเอง ไหน ๆ ก็มาแล้ว อยู่รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนนะครับ”“แหม...เกรงใจจังเลยค่ะ”“อย่าเกรงใจเลยนะครับ เดี๋ยวรอแม่บ้านตั้งโต๊ะสักครู่ แล้วเราเข้าไปรับประทานอาหารด้วยกันนะครับ”“รบกวนคุณทัดเทพด้วยนะคะ มื้อเที่ยงนี้ตรีขอฝากท้องด้วยแล้วกัน”“ยินดีครับ”ขณะที่รอแม่บ้านจัดโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง คุณท่านทัดเทพเชิญราตรีเข้าไปนั่งพูดคุยในห้องรับแขก ด้วยว่าเป็นคนทำงานเหมือนกัน แม้คุณทัดเทพจะวางมือจากกิจการและส่งมอบงานให้ลูกชายทั้งหมดแล้ว แต่เขาก็ยังพูดคุยเรื่องงานได้อย่างไม่ติดขัด แถมยังมีคำแนะนำดี ๆ ในเรื่องการลงทุนให้แม่หม้ายพราวเสน่ห์ด้วย“คุณท่านคะ อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ” หลังจากจัดเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว ป้ารุ่งจึงเดินเข้ามาบอกทั้งสอง เธอยืนอยู่ค่อนข้างไกลและก้มศีรษะเล็กน้อยหลังจากพูดจบ