Share

บทที่ 14

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-08 00:07:37

จินเยว่ที่ดื่มยานอน แผลที่หลังเริ่มจะสมานแล้วจึงมิได้เจ็บมากเช่นตอนแรก และตอนนี้นางมีคนคอยช่วยจัดการเรื่องในบ้านจึงไม่ต้องทำสิ่งใดให้กระทบบาดแผล นางเพียงนอนพักรักษาตัวเท่านั้น

ในช่วงกลางวันนางยังออกไปนั่งสนทนากับบิดามารดาเพื่อไม่ให้ทั้งคู่สงสัยเรื่องการบาดเจ็บของนาง จินเยว่ไม่อยากให้บิดามารดาขอนางกังวลเรื่องของนางมากเกินไป

"องค์รัชทายาทส่งข่าวมา พระองค์หาหลักฐานเรื่องที่ข้ามิได้ทำผิดพบแล้ว อีกไม่นานเรื่องทั้งหมดคงจบสิ้นเสียที" เสวี่ยป๋อเหวินกล่าวขึ้นหลังทานมื้อกลางวันเสร็จ

"จริงหรือเจ้าคะท่านพี่ สวรรค์เมตตาพวกเราแล้ว" เกาซื่อแทบจะลงไปคำนับที่พื้น นางจับมือสามีหลั่งน้ำตาออกมา ความน้อยใจในโชคชะตาที่ได้รับตอนนี้ลดลงไปอย่างมาก เมื่อเห็นสามีพยักหน้ายิ้มให้นาง

"ดียิ่งเจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่ พวกเราจะได้หลุดพ้นกับคำว่าขุนนางต้องโทษเสียที" จินเยว่ยิ้มกว้างกว่าทุกวัน นางอดที่จะดีใจกับบิดาของนางไม่ได้

เกาซื่อลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่ นานเพียงใดแล้วที่บุตรสาวของนางไม่ได้ยิ้มกว้างเช่นในตอนนี้ ความลำบากที่บุตรสาวได้รับอีกไม่นานก็จะจบลงเสียที

เมื่อพูดคุยกับจบจินเยว่ก็ขอตัวกลับห้องของตน เพราะนางเริ่มจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wanrada Namkoksee
สนุกมาก ขอบคุณค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 15

    จินเยว่พยักหน้า นางรับรู้เพียงแต่นางควบคุมตนเองไม่ได้ นางทรมานเกินกว่าจะทนได้อีกแล้ว นางรู้ว่าต่อจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดอันใดกับนาง แต่เพียงแค่ผ่านไปได้ต่อไปเขากับนางก็จะเป็นเพียงแค่คนเคยช่วยเหลือกันเท่านั้นเพียงแค่นางพยักหน้าจ้าวตงหยางก็เร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น เพื่อไปที่รถม้า เขาถอดเสื้อคลุมเพื่อปูรองนางไว้ แม้สถานที่ไม่อำนวยแต่แรงของอารมณ์ในตอนนี้ก็ไม่อาจมีสิ่งใดมาขวางไว้ได้"เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ ข้ารับรองว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนได้กระทำ" จินเยว่จ้องมองเขา แววตาที่ฉ่ำนางของนางช่างยั่วยวนให้สติของจ้าวตงหยางแทบจะเตลิด"ท่านอย่าได้เอ่ยเช่นนี้ เพียงช่วยข้าท่านไม่ต้องลำบากรับผิดชอบ" คงเป็นเพราะคำพูดของนางทำให้จ้าวตงหยางหยุดความคิดลง เขาหัวเราะเย้ยตนเอง แล้วลุกขึ้นเดินออกจากรถม้าไปจ้าวตงหยางออกมายืนสูดอากาศที่เย็นด้านนอกเพื่อเรียกสติ สตรีหน้าตาย กล้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เขายอมที่จะรับผิดชอบนาง แต่นางกลับพูดขึ้นมาไม่ต้องลำบาก แต่ก่อนที่เขาจะขึ้นบังคับรถม้าเพื่อพานางออกจากกลางป่า เสียงหวานก็ครางร้องขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เสียงถอดเสื้อผ้าเพราะความร้อนที่ได้จากฤทธิ์ยา ทำให้จ้าวตงหยางกั

    Last Updated : 2025-02-09
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 16

    จ้าวตงหยางมิคิดว่าจะยุ่งยากถึงเพียงนี้ หากนางแต่งให้ตนต่อไปนางก็เป็นคนของตระกูลจ้าวมิใช่ตระกูลเสวี่ยต่อไป แต่จินเยว่มิได้คิดเช่นจ้าวตงหยาง บิดาของนางถึงจะทำผิดแต่ก็คือบิดาของนาง จะให้นางทอดทิ้งตระกูลเพื่อสามีนางคงทำมิได้"ท่านกลับไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวมีคนมาพบเข้า ทหารหน้าเรือนท่านจัดการได้ใช่หรือไม่" "เจ้าวางใจเรื่องในคืนนี้ ข้าจะมิให้พวกเขาพูดสิ่งใด" จ้าวตงหยางเอ่ยลาจินเยว่อย่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อตรวจว่านางมิได้บาดเจ็บที่ใดแล้ว เขาก็กลับออกไป จินเยว่ลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วกลับมานั่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น หากนางไม่พบเขา หากเขาไม่พานางไปที่จวน นางจะพบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างไร แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หากนางตั้งครรภ์ขึ้นมานางจะบอกบิดามารดาว่าเช่นไร ยุคนี้ไม่เหมือนยุคที่นางจากมา ต่อให้ตั้งครรภ์โดยไม่มีบิดาของเด็กก็ไม่มีใครสนใจ แต่ในยุคนี้บิดาของนางจะมีหน้าพบใครได้หากเป็นเช่นนั้นจริงจินเยว่ถอนหายใจเสียหลายครั้ง หากยังไม่พูดเรื่องนางแจ็คพอตตั้งครรภ์ขึ้นมา พูดเพียงแค่เรื่องระหว่างจ้าวตงหยางกับบิดาของนาง หากทั้งสองตระกูลจะเกี่ยวดองกันจริง คงได้เป็นที่ขบขันแน่ เพราะพ่อตากับบุตรเขยไม่ลง

    Last Updated : 2025-02-09
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 17

    วันนี้ก็เช่นเคยที่จ้าวตงหยางมาที่เรือนของนาง แต่สีหน้าของเขานั้นไม่ค่อยดีเช่นทุกวันที่มา"มีเรื่องอันใดหรือไม่" หากไม่บอกก็คงคิดว่าทั้งคู่ใช้ชีวิตเช่นสามีภรรยา เขามาถึงนางก็เตรียมน้ำให้เขาล้างหน้าล้างตา แถมยังมีอาหารของว่างรอไว้ด้วย"เยว่เออร์ ข้าต้องออกไปจัดการกับพวกคนนอกด่าน เมื่อกลับมาเจ้ายอมแต่งให้ข้าเถิด" จ้าวตงหยางจ้องหน้านางอย่างจริงจัง"ท่านคิดดีแล้วใช่หรือไม่" "ไม่เคยนึกเสียใจหากคนที่แต่งเป็นเจ้า แต่หากไม่ใช่เจ้าข้าคงไม่แต่ง" จินเยว่เบะปากมองเขา คำพูดเช่นนี้ท่านก็พูดออกมาได้เพราะต้องจากกันไม่รู้ว่านานเพียงใด หากเร็วสุดก็เพียงสองเดือน หากอย่างช้าก็นานนับปี จ้าวตงหยางจึงหว่านล้อมจนจินเยว่ใจอ่อน กว่าบทรักของเขาจะจบลงจินเยว่ก็แทบจะถีบเขาลงจากเตียงเมื่อกินอิ่มจากที่หงอยเป็นหมาเศร้าก็ลุกกลับออกไปอย่างม้าที่พักเต็มกำลัง จินเยว่มองส่งจ้าวตงหยางอย่างเศร้าสร้อย มิใช่นางอาลัยอาวรณ์ที่เขาต้องออกไปรบ แต่ที่นางเศร้าเพราะเรื่องที่นางต้องกลับเมืองหลวงนางยังมิได้บอกเขา หากเขารู้เขาจะกล่าวโทษนางหรือไม่เกือบเดือนที่จ้าวตงหยางมาหาจินเยว่ วันที่เขาออกเดินทัพ คืนนั้นเขากอดนางไว้เสียแน่นแทบจะฝั

    Last Updated : 2025-02-10
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 18

    ทั้งคู่ไม่ยอมทิ้งบุตรสาวไว้ที่เจียงชางเพียงคนเดียวแน่ "ข้าไม่อยากกลับไปให้ท่านอายคนอื่น ฟังข้าสักนิดท่านพ่อ เมื่อเรื่องของท่านเข้าที่ข้าก็จะเดินทางกลับเมืองหลวงทันที หากมีเรื่องของข้าให้ขุนนางคนอื่นโจมตีท่านอีก ท่านจะต้องมีเรื่องให้เหนื่อยเพิ่ม""ท่านซื้อบ่าวให้ข้าสักสองสามคนก็ได้เจ้าค่ะ เมื่อถึงตอนนั้นข้าก็พาหลานกลับไปอยู่กับพวกท่านแล้ว" เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อคิดตามที่บุตรสาวพูดก็เห็นด้วย เขาจึงยอมให้นางได้อยู่ที่เจียงชาง โดยหาทาสหลวงที่ดูน่าไว้ใจนับสิบคนทิ้งไว้กับนางด้วยจ้าวตงหยางที่เดินทางถึงเขตชายแดนนอกด่าน ก็เตรียมตัวออกรบทันที เมื่อเขาหารือเข้าวันที่สาม หลินเหล่ยก็ถือจดหมายเดินเข้ามา"มีเรื่องอันใดที่โยวเป่ย" เขาถามโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองจากแผนที่ชายแดน"องค์รัชทายาทส่งคนมารับเสวี่ยป๋อเหวินกลับเมืองหลวงแล้ว" เหมือนฟ้าผ่าลงมา เขาเพิ่งได้รับจดหมายของนางเมื่อวานนี้เอง จินเยว่มิได้บอกอันใดกับเขา นางบอกเพียงให้เขารักษาตัว ห้ามบาดเจ็บเด็ดขาด ส่วนนางอยู่อย่างสุขสบายดีมิต้องเป็นห่วง"ตั้งแต่เมื่อใด" เขาแทบจะเปร่งเสียงออกมาไม่ได้"ราวครึ่งเดือนมาแล้ว ตอนนี้น่าจะถึงเจียงชางแล้ว"

    Last Updated : 2025-02-10
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 19

    ครรภ์ของจินเยว่เข้าเดือนที่ห้าแล้ว ตอนนี้นางสามารถดื่มกินได้ปกติ แล้วแม่ครัวของนางยังทำอาหารได้ถูกปากนางอีก แม้ตัวของนางจะไม่ได้อ้วนขึ้นแต่ก็มีน้ำมีนวลน่ามองยิ่งนักจินเยว่ยังคงใช้ชีวิตเช่นเดิม นางยังคงเขียนจดหมายถึงจ้าวตงหยางทุกห้าวัน เพราะนางไม่รู้ว่าสงครามกับคนนอกด่านได้จบสิ้นลงแล้ว ตอนนี้จ้าวตงหยางกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเข้าเมืองหลวงที่เพิ่งจะได้เดินทางเข้าเมืองหลวงเป็นเพราะเขาต้องรายงานเรื่องสงครามไปยังวังหลวงเสียก่อน หากมิได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ จ้าวตงหยางก็มิอาจออกเดินทางโดยมิมีราชโองการได้การรบครั้งนี้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว จ้าวตงหยางและทหารของเขาจึงได้รับราชโองการให้เข้าเฝ้าเพื่อรับพระราชทานรางวัล เมื่อได้รับราชโองการ จ้าวตงหยางก็เร่งเดินทางเข้าเมืองหลวงทันที ครั้งนี้เขานำกองทัพของจนเข้าเมืองหลวงเพียงสามร้อยนายเท่านั้น ที่เหลือยังคงป้องกันชายแดนอยู่ เป็นเพราะเรื่องของจินเยว่ทำให้เขากังวลใจ การเดินทางของเขาจึงเร่งรีบ ทหารสามร้อยนายเดินทางด้วยม้าเร็วทั้งหมดจึงทำให้เขาไม่เสียเวลามากนักเมื่อถึงเมืองเจียงชางจ้าวตงหยางจึงได้หยุดพัก เพราะหลิวเหล่ยที่ได้รับบาดเจ็บจนเขาเดินท

    Last Updated : 2025-02-11
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 20

    "ท่านแม่ทัพ ข้าคงมิอาจบอกได้ สามีของแม่นางคนนั้นเป็นใครข้าเองก็มิรู้" หมออู่ตอบเลี่ยงๆไปจ้าวตงหยางถึงจะสงสัยอย่างมาก แต่ก็ได้แค่สงสัยเพราะจินเยว่รอเขาอยู่ที่เมืองหลวง นางจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และหากนางตั้งครรภ์จริง จดหมายที่เขียนถึงตนทุกห้าวัน นางคงจะต้องบอกเขาแล้วที่จ้าวตงหยางสงสัยในตัวตนของสตรีนางนั้นเป็นเพราะขุนนางคนใดกันที่มีอำนาจมากกว่าเขาในเมืองนี้ หมออู่ถึงกับไม่กล้าผิดนัดมาตรวจให้กุนซือของกองทัพเช่นหลิวเหล่ยก่อนในเมื่อความกังวลเรื่องของหลิวเหล่ยหมดไป ทหารทั้งหมดร่วมถึงตัวเขาจึงได้พักผ่อนดีๆถึงสามวัน ก่อนที่ทั้งหมดจะออกเดินทางอีกครั้ง จินเยว่ที่ทราบข่าวเรื่องจ้าวตงหยางออกจากเมืองเจียงชางไปแล้วก็โล่งใจ นางยังไม่พร้อมที่จะพบเขาในเวลานี้ ต่อให้เขาตามมาเจอนางในภายหลัง จะโกรธแค้นนางก็ค่อยว่ากันอีกครั้งจ้าวตงหยางถึงเมืองหลวงในสิบห้าวันให้หลัง เพราะเขาหยุดพักตลอดทางก่อนจะเข้าเมืองหลวง ทหารทั้งสามร้อยนายจึงไม่ได้เหนื่อยล้าเกินไปนัก เมื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ จ้าวตงหยางก็พบกับเสนาบดีเสวี่ยในท้องพระโรง เขาเพียงแต่มองเท่านั้นมิได้ทักทาย เสนาบดีเสวี่ยที่ยังคงโกรธเคืองจ้าวตงหยางเรื่องของ

    Last Updated : 2025-02-11
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 21

    จ้าวตงหยางนั่งนิ่งโดยไม่เอ่ยคำใดเป็นเวลานาน"เจ้าปล่อยวางเรื่องหนเก่ามิได้เลยหรือ" หลิวเหล่ยทนไม่ไหวที่เห็นสหายของตนต้องเป็นเช่นนี้"ในเมื่อนางเลือกเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่บังคับนางอีก" หากบิดาของนางไม่ตัดเสบียงกองทัพมีหรือที่บิดาของตนจะต้องเร่งเข้าโจมตีจนต้องสิ้นชีพ เขาจดจำวันที่นำร่างของบิดากลับคืนสู่เมืองโยวเป่ยได้ดี มารดาร่ำไห้จนแทบขาดใจ ทหารห้าหมื่นนายเหลือรอดเพียงหยิบมือ เสียงร้องของครอบครัวที่มารับเงินปลอบขวัญ เศร้าสลดเพียงใด ขุนนางในเมืองหลวงที่อยู่สุขสบายคงไม่ได้รับรู้เรื่องนี้หลังจากรับรางวัลจากฮ่องเต้แล้ว ก็หมดเรื่องที่ตนต้องอยู่ที่เมืองหลวง จ้าวตงหยางจัดเตรียมคนของตนเสร็จก็เดินทางออกจากเมืองหลวงทันที หลิวเหล่ยที่ขี่ม้าเคียงข้างสหายก็ถอนหายใจบ่อยครั้ง อารมณ์ของจ้าวตงหยางดูจะร้ายกาจขึ้นมากกว่าเก่า เมื่อคืนพวกเขาพาทหารสามร้อยนายไปดื่มฉลองเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อยล้า มีทหารในกองเรียกคณิกามาคอยปรนนิบัติ พวกเขาก็มิได้เอ่ยว่าอันใด แต่มีคณิกาเข้ามาจ้าวตงหยางเพียงแค่ลูบมือเขาตอนที่ยกจอกสุราให้เท่านั้น จ้าวตงหยางถึงกับพังโต๊ะแล้วลุกเดินหนีออกไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน มีเพียงหลิวเห

    Last Updated : 2025-02-12
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 22

    จ้าวตงหยางสลัดความคิดทั้งหมดออกไป ตอนนี้เขาเป็นห่วงนางเกินกว่าจะหาเรื่องนาง เกาซื่อหันมาเห็นจ้าวตงหยางที่ยืนราวกับรูปปั้นก็ตกใจ "คารวะท่านแม่ยาย" จ้าวตงหยางเดินเข้าไปคารวะเกาซื่อ แต่ก่อนที่เกาซื่อจะสอบถามว่าเหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ เสียงกรีดร้องของจินเยว่ก็ดังขึ้นจ้าวตงหยางมิสนใจคำห้ามของใคร เขาพุ่งเข้าไปในห้องทันที เสียงร้องตกใจของหมอตำแยดังขึ้น ภายในห้องไล่ตงหยางออกมา เสียงเอะอะวุ่นวายไปหมด หลิวเหล่ยที่เดินตามมาทีหลังถึงกับกุมขมับ แล้วบอกจะไม่สนใจแล้ว เพียงนางร้องเจ็บปวดถึงกับทนไม่ไหวจ้าวตงหยางเห็นจินเยว่นอนท้องโต เส้นผมสยาย เนื้อตัวมีแต่เหงื่อราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำก็มือไม้สั่นรีบเดินเข้าไปนั่งลงที่เตียงข้างนาง"เยว่เออร์ ข้ามาแล้ว" เขาจับมือนางพร้อมบีบแน่นจินเยว่ปรือตาขึ้นมองเขา นางตกใจจนลืมร้องเพราะเจ็บท้องไปเลย"ทะ ท่าน มาได้ ยะ อย่าง ไร" เสียงนางขาดหายไปเพราะกัดฟันพูดไปด้วย"เจ้าโดนข้าคิดบัญชีภายหลังแน่" เขากระซิบข้างหูนาง จินเยว่ไม่สนใจจ้าวตงหยางแล้ว เพราะตอนนี้ความเจ็บของนางปะทุขึ้นมาอีกครั้ง"หากเจ้าทำให้มารดาของเจ้าทรมานไปมากกว่านี้ เมื่อออกมาก็รอดูว่าข้าบิดาเจ้าจะ

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 43

    ฉีเฟยหลางนั่งรอคำตอบของหมอหลวงแทบไม่ติด เขาอยากจะไปดูอาการของนางให้เห็นกับตาแต่ก็ติดที่จางหมิ่นนั่งเฝ้าเป็นพระพุทธรูปอยู่ "องค์ชายสาม คุณหนูจ้าวมีไข้สูง ตัวร้อนดั่งไฟ แต่..." หมอหลวงยังพูดไม่จบ ฉีเฟยหลางก็ลุกขึ้นพุ่งตัวออกไปที่เรือนของหลิงอวี้แล้วจางหมิ่นก็รั้งตัวเขาไว้ไม่ทัน จางหย่งที่เพิ่งเดินสวนออกมาก็ต้องรีบตามกลับไปที่เรือนของน้องสาวตนทันที"อวี้เออร์ เจ้าเป็นเช่นใดบ้าง" เสียงขององค์ชายสามมาก่อนที่ตัวจะมาถึง หลิงอวี้ที่กำลังหยิบขนมขึ้นมากินก็แทบจะกลืนทันทีฉีเฟยหลางมองดูสภาพคนตรงหน้าที่บอกว่าป่วยหนักแต่ลุกขึ้นมานั่งกินขนมอยู่ก็ใจกระตุก"อวี้เออร์ เจ้าทำเช่นนี้เพราะไม่อยากแต่งกับเปิ่นหวางใช่หรือไม่" เขารู้ว่านางแกล้งป่วยเพราะหลิงอวี้เช็ดปากแล้วแป้งที่มารดานางทาไว้หลุดออก จากปากที่ขาวซีดก็เผยให้เห็นปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อขึ้นแววตาที่เจ็บปวดของเขาจ้องมองมาที่ใบหน้างามของนาง นางรู้ดีว่าเขาคิดเช่นใด ก่อนหน้างานเลี้ยงฉีเฟยหลางก็บอกประสงค์ของตนที่จะเลือกนางเป็นพระชายาไว้แล้ว พอนางทำเช่นนี้จะไม่ให้เขาปวดใจได้อย่างไร"องค์ชายสาม หม่อมฉันขอพูดตามตรง หม่อมฉันมิอาจแต่งเข้าราชวงศ์ฉีได้ เพรา

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 42

    "ประเดี๋ยว เปิ่นหวางกำลังจะกลับเช่นกัน เช่นนั้นไปพร้อมพวกเจ้าแล้วกัน" องค์ชายสามไม่ได้รอให้จางหย่งรับปากก็เดินนำหน้าไปที่ม้าของตนแล้ว"คุณหนูจ้าว เปิ่นหวางยังมิเคยขอโทษเจ้าเลยสักครั้ง" องค์ชายสามหาเรื่องคุยกับหลิงอวี้"หามิได้เพคะ หลิงอวี้จะกล้ารับคำขอโทษจากองค์ชายได้อย่างไร" นางก้มศีรษะลงแล้วก้าวเท้าขึ้นรถม้าไปองค์ชายสามมองหลิงอวี้ขึ้นรถม้าเสร็จก็กระโดดขึ้นหลังม้าขี่ประกบรถม้าคนละข้างกับจางหย่ง เสียงพูดคุยหัวเราะของดรุณีทั้งสองในรถม้า พาให้คนด้านนอกฟังจนเคลิบเคลิ้ม มารู้ตัวอีกทีก็ถึงจวนแม่ทัพเสียแล้ว"เปิ่นหวางขอตัวก่อน" องค์ชายสามกล่าวกับทั้งสามคนก่อนจะควบม้าไปทางวังหลวงนับตั้งแต่ครั้งนั้นเมื่อหลิงอวี้ไปค่ายทหารทุกครั้งจะบังเอิญพบองค์ชายสามไปเสียทุกครั้ง จ้าวตงหยางก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่องค์ชายสามมิได้แสดงท่าทีเกินเลยกับบุตรสาวจึงมิอาจว่ากล่าวสิ่งใดได้แต่จะให้หลิงอวี้เรียนกับอาจารย์อยู่แต่ภายในจวนเท่านั้นเขาก็สงสารนางเพราะงานเลี้ยงน้ำชาก็แทบจะไม่ได้ไป จะกักขังมากไปก็ดูจะไม่ดี จึงมิได้พูดสิ่งใดที่ไม่ได้พูดเพราะพูดไปแล้วจินเยว่ก็อดที่จะตำหนิเขาไม่ได้ บุตรสาววัยเพียงสิบเอ็ดหนาวก็แท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 41

    องค์ชายสามมิคิดว่าเพียงกลั่นแกล้งหลิงอวี้เล็กน้อยเท่านั้นตนกับสหายถึงพบกับเรื่องเช่นนี้ในเมื่อฮ่องเต้ยังส่งองค์ชายสามไปให้จ้าวตงหยางสั่งสอนด้วยตนเอง พวกเขาจะมิยินยอมส่งตัวบุตรหลานไปได้หรือ เหตุการณ์วุ่นวายจึงจบลงเพียงเท่านั้นพอถึงจวนของตนต่างก็จัดเตรียมของกำนัลมากมายส่งไปจวนแม่ทัพเพื่อให้จ้าวตงหยางคลายโทสะ หวังให้สั่งสอนบุตรหลานของตนเบาลงจางหมิ่นกับจางหย่งจากที่วางแผนจะจัดการองค์ชายสามกับสหายก็เปลี่ยนความคิด พรุ่งนี้พวกเขาจะติดตามบิดาไปค่ายนอกเมืองเพื่อร่วมชมความครึกครื้นด้วย"ท่านพ่อ ท่านทำเกินไปหรือไม่เจ้าคะ" หลิงอวี้เมื่อขึ้นนั่งรถม้ากับบิดามารดาก็เอ่ยปากขึ้นครั้งแรก"อวี้เออร์ เจ้าเป็นเสมือนไข่มุกในฝ่ามือพ่อ เรื่องของเจ้าพ่อย่อมจัดการอย่างเหมาะสม เจ้าอย่าได้คิดมากหรือใจอ่อนกับคนพวกนั้นเด็ดขาด มิฉะนั้นเมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไปที่พวกเขาจะรังแกเจ้า" จ้าวตงหยางลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่เขาถนอมนางมาอย่างดีถึงสิบปี คนพวกนั้นจะรังแกก็รังแกง่ายๆเช่นนี้ หากเขาปล่อยผ่านไปก็นับว่าผิดต่อเวลาสิบปีที่ถนอมนางแล้วจินเยว่ดึงบุตรสาวเข้ามากอด ที่นางมิเอ่ยห้ามสามีเพราะนางรู้ดีว่าหากถูกรังแก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status