แชร์

บทที่ 19

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-11 00:16:33

ครรภ์ของจินเยว่เข้าเดือนที่ห้าแล้ว ตอนนี้นางสามารถดื่มกินได้ปกติ แล้วแม่ครัวของนางยังทำอาหารได้ถูกปากนางอีก แม้ตัวของนางจะไม่ได้อ้วนขึ้นแต่ก็มีน้ำมีนวลน่ามองยิ่งนัก

จินเยว่ยังคงใช้ชีวิตเช่นเดิม นางยังคงเขียนจดหมายถึงจ้าวตงหยางทุกห้าวัน เพราะนางไม่รู้ว่าสงครามกับคนนอกด่านได้จบสิ้นลงแล้ว ตอนนี้จ้าวตงหยางกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเข้าเมืองหลวง

ที่เพิ่งจะได้เดินทางเข้าเมืองหลวงเป็นเพราะเขาต้องรายงานเรื่องสงครามไปยังวังหลวงเสียก่อน หากมิได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ จ้าวตงหยางก็มิอาจออกเดินทางโดยมิมีราชโองการได้

การรบครั้งนี้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว จ้าวตงหยางและทหารของเขาจึงได้รับราชโองการให้เข้าเฝ้าเพื่อรับพระราชทานรางวัล เมื่อได้รับราชโองการ จ้าวตงหยางก็เร่งเดินทางเข้าเมืองหลวงทันที

ครั้งนี้เขานำกองทัพของจนเข้าเมืองหลวงเพียงสามร้อยนายเท่านั้น ที่เหลือยังคงป้องกันชายแดนอยู่ เป็นเพราะเรื่องของจินเยว่ทำให้เขากังวลใจ การเดินทางของเขาจึงเร่งรีบ ทหารสามร้อยนายเดินทางด้วยม้าเร็วทั้งหมดจึงทำให้เขาไม่เสียเวลามากนัก

เมื่อถึงเมืองเจียงชางจ้าวตงหยางจึงได้หยุดพัก เพราะหลิวเหล่ยที่ได้รับบาดเจ็บจนเขาเดินท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 20

    "ท่านแม่ทัพ ข้าคงมิอาจบอกได้ สามีของแม่นางคนนั้นเป็นใครข้าเองก็มิรู้" หมออู่ตอบเลี่ยงๆไปจ้าวตงหยางถึงจะสงสัยอย่างมาก แต่ก็ได้แค่สงสัยเพราะจินเยว่รอเขาอยู่ที่เมืองหลวง นางจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และหากนางตั้งครรภ์จริง จดหมายที่เขียนถึงตนทุกห้าวัน นางคงจะต้องบอกเขาแล้วที่จ้าวตงหยางสงสัยในตัวตนของสตรีนางนั้นเป็นเพราะขุนนางคนใดกันที่มีอำนาจมากกว่าเขาในเมืองนี้ หมออู่ถึงกับไม่กล้าผิดนัดมาตรวจให้กุนซือของกองทัพเช่นหลิวเหล่ยก่อนในเมื่อความกังวลเรื่องของหลิวเหล่ยหมดไป ทหารทั้งหมดร่วมถึงตัวเขาจึงได้พักผ่อนดีๆถึงสามวัน ก่อนที่ทั้งหมดจะออกเดินทางอีกครั้ง จินเยว่ที่ทราบข่าวเรื่องจ้าวตงหยางออกจากเมืองเจียงชางไปแล้วก็โล่งใจ นางยังไม่พร้อมที่จะพบเขาในเวลานี้ ต่อให้เขาตามมาเจอนางในภายหลัง จะโกรธแค้นนางก็ค่อยว่ากันอีกครั้งจ้าวตงหยางถึงเมืองหลวงในสิบห้าวันให้หลัง เพราะเขาหยุดพักตลอดทางก่อนจะเข้าเมืองหลวง ทหารทั้งสามร้อยนายจึงไม่ได้เหนื่อยล้าเกินไปนัก เมื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ จ้าวตงหยางก็พบกับเสนาบดีเสวี่ยในท้องพระโรง เขาเพียงแต่มองเท่านั้นมิได้ทักทาย เสนาบดีเสวี่ยที่ยังคงโกรธเคืองจ้าวตงหยางเรื่องของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 21

    จ้าวตงหยางนั่งนิ่งโดยไม่เอ่ยคำใดเป็นเวลานาน"เจ้าปล่อยวางเรื่องหนเก่ามิได้เลยหรือ" หลิวเหล่ยทนไม่ไหวที่เห็นสหายของตนต้องเป็นเช่นนี้"ในเมื่อนางเลือกเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่บังคับนางอีก" หากบิดาของนางไม่ตัดเสบียงกองทัพมีหรือที่บิดาของตนจะต้องเร่งเข้าโจมตีจนต้องสิ้นชีพ เขาจดจำวันที่นำร่างของบิดากลับคืนสู่เมืองโยวเป่ยได้ดี มารดาร่ำไห้จนแทบขาดใจ ทหารห้าหมื่นนายเหลือรอดเพียงหยิบมือ เสียงร้องของครอบครัวที่มารับเงินปลอบขวัญ เศร้าสลดเพียงใด ขุนนางในเมืองหลวงที่อยู่สุขสบายคงไม่ได้รับรู้เรื่องนี้หลังจากรับรางวัลจากฮ่องเต้แล้ว ก็หมดเรื่องที่ตนต้องอยู่ที่เมืองหลวง จ้าวตงหยางจัดเตรียมคนของตนเสร็จก็เดินทางออกจากเมืองหลวงทันที หลิวเหล่ยที่ขี่ม้าเคียงข้างสหายก็ถอนหายใจบ่อยครั้ง อารมณ์ของจ้าวตงหยางดูจะร้ายกาจขึ้นมากกว่าเก่า เมื่อคืนพวกเขาพาทหารสามร้อยนายไปดื่มฉลองเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อยล้า มีทหารในกองเรียกคณิกามาคอยปรนนิบัติ พวกเขาก็มิได้เอ่ยว่าอันใด แต่มีคณิกาเข้ามาจ้าวตงหยางเพียงแค่ลูบมือเขาตอนที่ยกจอกสุราให้เท่านั้น จ้าวตงหยางถึงกับพังโต๊ะแล้วลุกเดินหนีออกไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน มีเพียงหลิวเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 22

    จ้าวตงหยางสลัดความคิดทั้งหมดออกไป ตอนนี้เขาเป็นห่วงนางเกินกว่าจะหาเรื่องนาง เกาซื่อหันมาเห็นจ้าวตงหยางที่ยืนราวกับรูปปั้นก็ตกใจ "คารวะท่านแม่ยาย" จ้าวตงหยางเดินเข้าไปคารวะเกาซื่อ แต่ก่อนที่เกาซื่อจะสอบถามว่าเหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ เสียงกรีดร้องของจินเยว่ก็ดังขึ้นจ้าวตงหยางมิสนใจคำห้ามของใคร เขาพุ่งเข้าไปในห้องทันที เสียงร้องตกใจของหมอตำแยดังขึ้น ภายในห้องไล่ตงหยางออกมา เสียงเอะอะวุ่นวายไปหมด หลิวเหล่ยที่เดินตามมาทีหลังถึงกับกุมขมับ แล้วบอกจะไม่สนใจแล้ว เพียงนางร้องเจ็บปวดถึงกับทนไม่ไหวจ้าวตงหยางเห็นจินเยว่นอนท้องโต เส้นผมสยาย เนื้อตัวมีแต่เหงื่อราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำก็มือไม้สั่นรีบเดินเข้าไปนั่งลงที่เตียงข้างนาง"เยว่เออร์ ข้ามาแล้ว" เขาจับมือนางพร้อมบีบแน่นจินเยว่ปรือตาขึ้นมองเขา นางตกใจจนลืมร้องเพราะเจ็บท้องไปเลย"ทะ ท่าน มาได้ ยะ อย่าง ไร" เสียงนางขาดหายไปเพราะกัดฟันพูดไปด้วย"เจ้าโดนข้าคิดบัญชีภายหลังแน่" เขากระซิบข้างหูนาง จินเยว่ไม่สนใจจ้าวตงหยางแล้ว เพราะตอนนี้ความเจ็บของนางปะทุขึ้นมาอีกครั้ง"หากเจ้าทำให้มารดาของเจ้าทรมานไปมากกว่านี้ เมื่อออกมาก็รอดูว่าข้าบิดาเจ้าจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 23

    จินเยว่รีบรับบุตรชายมาเข้าเต้าอยากทุลักทุเล จนแม่นมที่ยืนมองอยู่ต้องเข้ามาช่วยเหลือ"ท่านจะไม่ออกไปก่อนหรือ" จินเยว่หันไปถามจ้าวตงหยาง"ไม่" มีหรือที่เข้าจะยอมออกห่างนาง เขาอยากเห็นนางให้นมบุตรด้วยตาตนเองจินเยว่เบี่ยงตัวปลดเสื้ออย่างเขินอาย แม่นมน้ำผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดเต้านมให้นางก่อนจะจับบุตรคนโตเข้าเต้า เพียงบุตรดูดนมนางก็ตื่นเต้นจนหันไปหาจ้าวตงหยางให้เขาดูบุตรชายดูดนมจนแก้มตอบเมื่อเห็นเช่นนั้นเกาซื่อและแม่นมทั้งสองก็ถอยออกไปจากห้องปล่อยให้สี่คนพ่อแม่ลูกได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจ้าวตงหยางมองบุตรชายที่ดูดนมภรรยาของตนอย่างอิจฉา เขาจ้องนมที่ยังว่างอีกข้างของนางอย่างมีความหมาย จนจินเยว่ต้องตีมือเขาไปหนึ่งที"ตงหยาง เจ้าลืมหรือไม่ว่าข้ายังอยู่ที่นี่ด้วย" หลิวเหล่ยตะโกนอยู่หน้าห้องจินเจย่หันไปสบตาจ้าวตงหยาง ที่เจ้าตัวทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วยังช่วยประคองบุตรทั้งคู่ให้ดื่มนมอยู่อย่างมิสนใจเสียงของหลิวเหล่ย"ท่านไม่ออกไปหาท่านกุนซือหลิวเสียหน่อยหรือ" "ประเดี๋ยวก็เงียบไปเอง" เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจเมื่อบุตรทั้งสองดื่มนมเสร็จแล้ว จ้าวตงอยางก็นำไปส่งให้แม่นมที่ยืนรออยู่ด้านนอก จึงได้พูดคุยกับหลิวเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 24

    วันงานฉลองครบเดือนก็มีเพียงคนในจวนเท่านั้นที่ฉลองร่วมกัน นอกจากหลิวเหล่ยที่ส่งของขวัญมาให้หลานชายทั้งสองก็มีหมออู่อีกคนที่มีร่วมงานเลี้ยงด้วยจ้าวตงหยางอยากจะพาบุตรทั้งสองรวมทั้งจินเยว่ไปโยวเป่ยแล้วป่าวประกาศให้คนได้รู้กันทั่วว่านางคือฮูหยินของตน แต่จนใจที่นางยังมิยอมเสียที ส่วนเขาก็ยังมิยอมที่จะพูดคุยอย่างเป็นทางการกับพ่อตาของตน ได้แต่เดินผ่านกันไปกันมา สร้างความขุ่นใจให้กับฮูหยินจ้าวและจินเยว่ยิ่งนัก จนจินเยว่ปิดห้องมิยอมให้จ้าวตงหยางเข้ามาในห้องนาง มีหรือที่คนเช่นจ้าวตงหยางจะทำไม่ได้ พอนางเผลอเขาก็งัดหน้าต่างเข้ามาซุกตัวนอนกับนางเสียแล้ว"ท่านเข้ามาได้อย่างไร" จินเยว่แม้รู้อยู่แล้วแต่ก็ยังจะถาม "เยว่เออร์ เจ้าจะโกรธเคืองข้าเพื่ออันใด เรื่องที่เจ้าหนีมาอยู่เจียงชางและตั้งครรภ์โดยมิบอกข้าสักคำ ข้ายังไม่กล่าวโทษเจ้าให้ช้ำใจ" จ้าวตงหยางวางคางของเขากับศีรษะของนาง พร้อมทั้งกอดนางไว้กับอก"เรื่องบิดาของเจ้าข้ามิใช่จะปล่อยวางไม่ได้ แต่ขอเวลาข้าเสียหน่อย ข้าอยู่กับความทุกข์มานับสิบปี เจ้าจะให้ข้าลืมเลือนเสียเดี๋ยวนี้ก็ดูจะเสแสร้งเกินไปเสียหน่อย" จ้าวตงหยางพูดขึ้นอย่างจริงจัง"ท่านแม่ก็โกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-13
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 25

    ทางด้านจ้าวตงหยางเมื่อกลับถึงเมืองโยวเป่ยก็มีคนมาแจ้งว่าอันอ๋องเดินทางมาถึงโยวเป่ยแล้วรอเขาเข้าไปพบอยู่ จ้าวตงหยางรู้อยู่แล้วว่าอันอ๋องมาด้วยเรื่องอันใด แต่จะไม่ไปพบก็เห็นจะมิได้อันอ๋องมารอพบจ้าวตงหยางอยู่โยวเป่ยได้สองวันแล้ว เขารออย่างใจเย็น เพราะเรื่องที่ตนวางแผนมาแล้วจ้าวตงหยางคงมิอาจปฏิเสธตนได้"ท่านอ๋อง ท่านแม่ทัพจ้าวมาขอพบพ่ะย่ะค่ะ" "เข้ามา" อันอ๋องบุรุษวัยเกือบสี่สิบหนาวนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน "ถวายพระพรอันอ๋องพ่ะย่ะค่ะ" "อย่าได้มากพิธี เปิ่นหวางรอพบเจ้าถึงสองวัน ว่าแต่แม่ทัพจ้าวไปทำอันที่เจียงชางหรือ" อันอ๋องส่งสายตามีความหมายให้จ้าวตงหยาง จ้าวตงหยางสีหน้าไม่เปลี่ยนมองจิ้งจอกเฒ่าตรงหน้าอย่างเย็นชา คนเมืองหลวงต่างลดความระแวงต่ออันอ๋องลง คงนึกไม่ถึงว่ากองกำลังของอันอ๋องจะเกือบครึ่งของกองทัพในมือของกองทัพจ้าวของเขาเลยทีเดียว"ท่านอ๋องต้องการพบกระหม่อมด้วยเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ""รีบร้อนอันใดเล่า ข้าเพียงสอบถามเรื่องเจียงชางเท่านั้น เจ้าถึงกับไม่พอใจข้าเลยหรือ" อันอ๋องยังคงหยอกล้อจ้าวตงหยางด้วยเรื่องของเมืองเจียงชางไม่เลิก"หามิได้พ่ะย่ะค่ะ" ถึงหัวจะก้มลงแต่แววตาก็มิได้ยินยอมที่อันอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-14
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 26

    จ้าวตงหยางมิเสียเวลาอีก เขารีบพากองทัพพยัคฆ์ดำห้าพันนายกระจายตัวออกเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง เส้นทางที่เขาใช้ย่อมเป็นป่าเขาเพราะต้องการหลบเลี่ยงคนของอันอ๋องที่กำลังเดินทางเข้าเมืองหลวงเช่นกันทางด้านจินเยว่ นางได้รับจดหมายจากจ้าวตงหยางถึงเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังจะเกิด เพื่อให้นางเตรียมตัวให้พร้อมหากเกิดสิ่งใดขึ้นจะได้มีสติในการรับมือ จินเยว่ยังคงให้คนของนางออกทำการค้าดั่งเช่นปกติ เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตมากนักส่วนตัวนางพาแม่นมเสวี่ย เกาซื่อ ฮูหยินจ้าว และบ่าวเพียงไม่กี่คนติดตามไปอยู่ที่จวนพักตากอากาศที่นางสร้างไว้บนภูเขาที่อยู่ไม่ห่างจากจวนของนางนัก คนที่รู้ที่ตั้งก็มีเพียงคนของนางเท่านั้น ภายในจวนตระกูลเสวี่ยที่เมืองเจียงชางในเวลานี้จึงเหลือเพียงบ่าวไม่กี่คนที่อาศัยอยู่ในเรือนเพื่อทำการค้าด้านนอก องครักษ์เงาอีกหลายสิบนายก็ติดตามนางไปด้วย คนของจ้าวตงหยางที่ทิ้งไว้ก็เดินทางล่วงหน้าไปตรวจดูบริเวณโดยรอบภูเขาก่อนแล้วเพราะนางรู้ว่าสิ่งที่บิดากับจ้าวตงหยางกำลังทำอยู่นั้นเป็นอันตรายอย่างมาก หากพวกนางยังเป็นตัวถ่วงหรือหากพวกนางถูกคนของอันอ๋องจับตัวไว้เพื่อต่อรอง จะทำบิดากับจ้าวตงหยางพะวงกับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-14
  • จองจำรักร้าย   บทที่ 27

    ฮูหยินจ้าวที่รู้เรื่องราวทั้งหมดจากบุตรชาย และตอนนี้บุตรชายของนางกำลังเดินทางเข้าสู่สนามรบระหว่างราชวงศ์ด้วย หากจะพูดว่าจ้าวตงหยางเลือกฝ่ายแล้วก็คงมิผิดนัก แต่นางก็เศร้าเพียงไม่นาน เมื่อเห็นความสดใสร่าเริงของ จางหมิ่นกับจางหย่ง ท่านย่าเช่นนางก็กลับมายิ้มได้อีกครั้งจินเยว่จะกังวลเรื่องในเมืองหลวงก็ใช่ที่ นางจึงหันมาสนใจสภาพแวดล้อมของภูเขาที่อยู่ พร้อมทั้งให้คนของนางวางกับดักรอบบริเวณเรือนเผื่อพบเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นคนของอันอ๋องที่จับตาดูความเคลื่อนไหวภายในจวนตระกูลเสวี่ยเมื่อยังพบว่าบ่าวในจวนยังคงออกมาทำการค้าและใช้ชีวิตปกติก็ลดความรอบคอบลง พ่อบ้านเสวี่ยที่เห็นเช่นนั้นก็รีบให้คนจัดเตรียมเสบียงจำนวนมากทันทีเพราะจินเยว่ที่ได้รับจดหมายของจ้าวตงหยางว่าตนถึงเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว จึงให้คนของตนทั้งหมดที่อยู่ในจวนเดินทางมาอยู่ที่จวนพักตากอากาศบนเขาด้วยกัน หากเป็นไปตามแผนของจ้าวตงหยางทั้งหมด อันอ๋องคงต้องให้คนของตนบุกเข้ามาจับคนในจวนเพื่อต่อรองกับจ้าวตงหยางเป็นแน่นับว่าจวนบนเขาตอนนี้ครึกครื้นเสียยิ่งกว่าเรือนด้านล่างเสียอีก เมื่อพ่อบ้านเสวี่ยนำคนของจินเยว่ขึ้นมาอยู่ด้านบนทั้งหมด ความกังวล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15

บทล่าสุด

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 43

    ฉีเฟยหลางนั่งรอคำตอบของหมอหลวงแทบไม่ติด เขาอยากจะไปดูอาการของนางให้เห็นกับตาแต่ก็ติดที่จางหมิ่นนั่งเฝ้าเป็นพระพุทธรูปอยู่ "องค์ชายสาม คุณหนูจ้าวมีไข้สูง ตัวร้อนดั่งไฟ แต่..." หมอหลวงยังพูดไม่จบ ฉีเฟยหลางก็ลุกขึ้นพุ่งตัวออกไปที่เรือนของหลิงอวี้แล้วจางหมิ่นก็รั้งตัวเขาไว้ไม่ทัน จางหย่งที่เพิ่งเดินสวนออกมาก็ต้องรีบตามกลับไปที่เรือนของน้องสาวตนทันที"อวี้เออร์ เจ้าเป็นเช่นใดบ้าง" เสียงขององค์ชายสามมาก่อนที่ตัวจะมาถึง หลิงอวี้ที่กำลังหยิบขนมขึ้นมากินก็แทบจะกลืนทันทีฉีเฟยหลางมองดูสภาพคนตรงหน้าที่บอกว่าป่วยหนักแต่ลุกขึ้นมานั่งกินขนมอยู่ก็ใจกระตุก"อวี้เออร์ เจ้าทำเช่นนี้เพราะไม่อยากแต่งกับเปิ่นหวางใช่หรือไม่" เขารู้ว่านางแกล้งป่วยเพราะหลิงอวี้เช็ดปากแล้วแป้งที่มารดานางทาไว้หลุดออก จากปากที่ขาวซีดก็เผยให้เห็นปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อขึ้นแววตาที่เจ็บปวดของเขาจ้องมองมาที่ใบหน้างามของนาง นางรู้ดีว่าเขาคิดเช่นใด ก่อนหน้างานเลี้ยงฉีเฟยหลางก็บอกประสงค์ของตนที่จะเลือกนางเป็นพระชายาไว้แล้ว พอนางทำเช่นนี้จะไม่ให้เขาปวดใจได้อย่างไร"องค์ชายสาม หม่อมฉันขอพูดตามตรง หม่อมฉันมิอาจแต่งเข้าราชวงศ์ฉีได้ เพรา

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 42

    "ประเดี๋ยว เปิ่นหวางกำลังจะกลับเช่นกัน เช่นนั้นไปพร้อมพวกเจ้าแล้วกัน" องค์ชายสามไม่ได้รอให้จางหย่งรับปากก็เดินนำหน้าไปที่ม้าของตนแล้ว"คุณหนูจ้าว เปิ่นหวางยังมิเคยขอโทษเจ้าเลยสักครั้ง" องค์ชายสามหาเรื่องคุยกับหลิงอวี้"หามิได้เพคะ หลิงอวี้จะกล้ารับคำขอโทษจากองค์ชายได้อย่างไร" นางก้มศีรษะลงแล้วก้าวเท้าขึ้นรถม้าไปองค์ชายสามมองหลิงอวี้ขึ้นรถม้าเสร็จก็กระโดดขึ้นหลังม้าขี่ประกบรถม้าคนละข้างกับจางหย่ง เสียงพูดคุยหัวเราะของดรุณีทั้งสองในรถม้า พาให้คนด้านนอกฟังจนเคลิบเคลิ้ม มารู้ตัวอีกทีก็ถึงจวนแม่ทัพเสียแล้ว"เปิ่นหวางขอตัวก่อน" องค์ชายสามกล่าวกับทั้งสามคนก่อนจะควบม้าไปทางวังหลวงนับตั้งแต่ครั้งนั้นเมื่อหลิงอวี้ไปค่ายทหารทุกครั้งจะบังเอิญพบองค์ชายสามไปเสียทุกครั้ง จ้าวตงหยางก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่องค์ชายสามมิได้แสดงท่าทีเกินเลยกับบุตรสาวจึงมิอาจว่ากล่าวสิ่งใดได้แต่จะให้หลิงอวี้เรียนกับอาจารย์อยู่แต่ภายในจวนเท่านั้นเขาก็สงสารนางเพราะงานเลี้ยงน้ำชาก็แทบจะไม่ได้ไป จะกักขังมากไปก็ดูจะไม่ดี จึงมิได้พูดสิ่งใดที่ไม่ได้พูดเพราะพูดไปแล้วจินเยว่ก็อดที่จะตำหนิเขาไม่ได้ บุตรสาววัยเพียงสิบเอ็ดหนาวก็แท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 41

    องค์ชายสามมิคิดว่าเพียงกลั่นแกล้งหลิงอวี้เล็กน้อยเท่านั้นตนกับสหายถึงพบกับเรื่องเช่นนี้ในเมื่อฮ่องเต้ยังส่งองค์ชายสามไปให้จ้าวตงหยางสั่งสอนด้วยตนเอง พวกเขาจะมิยินยอมส่งตัวบุตรหลานไปได้หรือ เหตุการณ์วุ่นวายจึงจบลงเพียงเท่านั้นพอถึงจวนของตนต่างก็จัดเตรียมของกำนัลมากมายส่งไปจวนแม่ทัพเพื่อให้จ้าวตงหยางคลายโทสะ หวังให้สั่งสอนบุตรหลานของตนเบาลงจางหมิ่นกับจางหย่งจากที่วางแผนจะจัดการองค์ชายสามกับสหายก็เปลี่ยนความคิด พรุ่งนี้พวกเขาจะติดตามบิดาไปค่ายนอกเมืองเพื่อร่วมชมความครึกครื้นด้วย"ท่านพ่อ ท่านทำเกินไปหรือไม่เจ้าคะ" หลิงอวี้เมื่อขึ้นนั่งรถม้ากับบิดามารดาก็เอ่ยปากขึ้นครั้งแรก"อวี้เออร์ เจ้าเป็นเสมือนไข่มุกในฝ่ามือพ่อ เรื่องของเจ้าพ่อย่อมจัดการอย่างเหมาะสม เจ้าอย่าได้คิดมากหรือใจอ่อนกับคนพวกนั้นเด็ดขาด มิฉะนั้นเมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไปที่พวกเขาจะรังแกเจ้า" จ้าวตงหยางลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่เขาถนอมนางมาอย่างดีถึงสิบปี คนพวกนั้นจะรังแกก็รังแกง่ายๆเช่นนี้ หากเขาปล่อยผ่านไปก็นับว่าผิดต่อเวลาสิบปีที่ถนอมนางแล้วจินเยว่ดึงบุตรสาวเข้ามากอด ที่นางมิเอ่ยห้ามสามีเพราะนางรู้ดีว่าหากถูกรังแก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status