“ในที่สุด เราก็ได้เจอกัน” เขากำลังพูดกับหญิงสาวในภาพ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับแพรทองไม่มีผิด “คุณรู้มั้ย ว่าผมฝันถึงคุณมานานแค่ไหนแล้ว นางฟ้าในฝันของผม ผมไม่เคยลืมเลยนะ ว่าคุณทำให้ผมมีความสุขมากแค่ไหน”
ชายหนุ่มกวาดสายตามองภาพเขียนฝีมือตัวเองไปโดยรอบ เขาไม่เคยนับเลยว่าเคยวาดรูปของนางในฝันมากี่ภาพแล้ว รู้เพียงแค่ว่า หลังจากที่ฝันถึงเธอทุกครั้ง พอตื่นในตอนเช้า เขาก็จะจับดินสอทันที
“แพรทองเหรอ?...ตัวจริงของคุณดูดุจัง แต่ในฝัน คุณโคตรน่ารักเลย”
นาคินทร์ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงนอน แล้วหลับตานิ่ง...เขาไม่ได้พยายามจะฝันถึงเธอเหมือนห้าปีที่ผ่านมา
เขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พยายามจะฝันถึงเธอ เขาไม่เคยทำสำเร็จ หากแต่วันใดที่เขามีจิตใจที่โล่งโปร่งสบาย คืนนั้นเจ้าหล่อนจะมาปรากฏกายบนเตียงของเขาอย่างแน่นอน
“กลิ่นเนื้อตัวของคุณหอมมาก มันเป็นกลิ่นที่ติดจมูกจริงๆ” เนื้อตัวของเจ้าหล่อนทำให้เขาโหยหา หัวใจเต้นรัวและเนื้อกายสั่นเทา “ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้นะ”
มันอดไม่ได้ที่เขาจะหวนนึกถึงภาพการร่วมรักระหว่างเขากับเธอที่กระทำกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปเอาพลังงานมาจากไหน ถึงได้ทะลวงและกระแทกเนื้ออุ่นของเธออย่างบ้าคลั่งขนาดนั้นได้
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในสักวัน เขาคิดภาพไม่ออกเลยว่าเนื้ออุ่นของเธอจะขาดสะบั้นและยับเยินแค่ไหน
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้ง ราวกับตื่นจากความฝัน แล้วพลันหวนนึกถึงวันเวลาที่มาเยือนอีกครา
“คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่นา” เขาเปิดหน้าต่างแล้วเงยหน้ามองพระจันทร์ดวงโตบนฟากฟ้า ด้วยสายตาเศร้า “และมันคงจะผ่านพ้นไปอีกคืน”
ไม่มีใครรู้ว่าแสงจันทร์ของคืนเพ็ญ สามารถปลดปล่อยเขาจากคำสาปได้ หากเขาได้ร่วมรักกับหญิงสาวที่รักและยอมรับในความเป็นอมนุษย์ของเขา เขาก็จะกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์
“เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่” เมื่อไหร่ที่เขาไม่ต้องกลายร่างเป็นงูจงอางในทุกค่ำคืนเช่นนี้!!!! “หรือว่าจะไม่มีวันนั้น”
ยามเที่ยงคืนมาเยือน นาคินทร์รู้ตัวว่าตนเองจะต้องกลายร่างเป็นมัน และต้องใช้ชีวิตอย่างพญาอสรพิษจนถึงรุ่งสางของทุกวัน รอจนแสงของรุ่งอรุณมาเยือน แสงสีทองและน้ำค้างยามเช้าจะทำให้เขากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
เขาจึงมาอยู่ที่เรือนส่วนตัวแห่งนี้ เพื่อหลบซ่อนจากสายตาผู้อื่น แม้แต่มารดา เพื่อไม่ให้ใครรู้ เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่อายุยี่สิบห้า!
ซึ่งเขารู้ดีว่า ที่ชีวิตเขาเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะใคร แต่เป็นเพราะตัวเขาเอง ความทรงจำในชาติที่แล้วซึ่งยังประทับอยู่ในหัวเขา ตอกย้ำให้เขาไม่ลืมตัวเอง ไม่ลืมความจริงที่แสนเจ็บปวด
ว่าตัวเขานั้นเคยเป็นงูจงอางอยู่บนสวรรค์ชื่อว่านาคี หากแต่นาคีทำผิดกฎเพราะแอบไปร่วมรักกับนางฟ้าแล้วเผลอทำให้เธอถูกพิษจนทำให้ดวงจิตสลาย เขาเสียใจมาก ร้องบอกกับพระอินทร์ว่านางฟ้ากับเขารักกันด้วยใจบริสุทธิ์ ขอให้เขาและเธอได้ไปเกิดยังโลกมนุษย์ เพื่อครองคู่กัน
พระอินทร์ทรงเมตตายินยอมให้ตามนั้น เพียงแต่เขาจะยังไม่เป็นมนุษย์เต็มตัว จนกว่าจะได้เจอรักแท้และร่วมรักกันในคืนวันเพ็ญท่ามกลางแสงสวรรค์
“ใครจะมารักงูอย่างเราได้วะ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่”
และสำหรับอีกเรื่องที่เขาไม่สามารถทำได้อย่างมนุษย์ทั่วไป แม้อยู่ในร่างมนุษย์ ราวกับเป็นคำสาป นั่นก็คือการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาถึงจุดสุดยอด เขาจะกลายร่างเป็นงูจงอางในทันที
ชายหนุ่มจึงเลี่ยงการประกอบกิจกามกับสตรีเพศมาโดยตลอด ทั้งเพื่อป้องกันตัวเองและเพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล หากคราใดต้องการขึ้นมาระงับไม่อยู่ เขาทำได้เพียงช่วยตัวเองไปเท่านั้น
“แต่ผมก็จะรอ ไม่ว่าจะอีกกี่ปีกี่ชาติ แม้จะทรมานแค่ไหนก็ตาม ผมจะรอเจอคุณทุกลมหายใจ นางฟ้าที่รักของผม”
แพรทองอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ออกจากห้องน้ำ เนื้อกายขาวผุดผ่องเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเกาะพราว เธอเดินมานั่งที่ปลายเตียง มือยังใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมไปด้วย เพราะเพิ่งสระมาหมาดๆ
“ยัยวิ ยายวิ!” เจ้าหล่อนลองร้องเรียกชื่อเพื่อนดู แต่เจ้าของชื่อไม่ตอบ กลับส่งเสียงกรนมาแทน “หลับซะแล้ว ยังไม่ทันได้อาบน้ำเลย สกปรกจริง”
หญิงสาวอดหัวเราะเพื่อนไม่ได้ ก่อนหันมองรอบห้องที่กว้างขวางและสะดวกสบาย สไตล์ไทยผสมโมเดิลที่ให้ความรู้สึกลงตัวทุกซอกทุกมุม“บรรยากาศดี๊ดี”เธอเดินไปหยุดมองทิวทัศน์ของลำธารสวยขนาดใหญ่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจีเบื้องหน้า ทั้งๆที่ยังสวมผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว ด้วยความที่คิดไปเองว่าคงไม่มีใครเห็น“อากาศเย็นสบายดีจัง กลิ่นดอกไม้ก็หอมตลบอบอวลไปหมด แชื่นใจสุดๆ น้ำในลำธารก็ใสน่าเล่นชะมัดเลย เฮ้อ สงสัยฉันจะหลงเสน่ห์เมืองนี้เข้าแล้วสินะ”เจ้าหล่อนจ้องมองไปยังลำธารสวยขนาดใหญ่ ที่มีทั้งแก่งและกลุ่มโขดหินตั้งเรียงรายไปทั่ว เวลาเย็นย่ำเช่นนี้ แสงอาทิตย์อุ่นๆที่สาดส่องลงมายิ่งทำให้ผืนน้ำสวยงามระยิบระยับ“เอ๊ะ...ทางนั้น” แพรทองพยายามจ้องมองผานไปยังริมลำธารฝั่งตรงข้าม เธอจึงได้เห็นบ้านพักหลังใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หมู่ไม้เขียวครึ้ม “มีบ้านอยู่ตรงนั้นใช่มั้ยนะ หรือว่าเป็นรีสอร์ทเหมือนกัน”หญิงสาวพยายามจ้องมองบ้านพักหลังนั้น เพื่อดูว่ามีใครอยู่หรือไม่ แต่เพ่งเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เธอไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียวทว่า...หากเจ้าหล่อนยืนอยู่ในบ้านพักหลังนั้น เจ้าหล่อนก็จะรู้ว่าสามารถมองเห็นเรือนพักของเธอได้ชัดเจน และเห็
“จะไปช่วยทำอะไร ญาติมันเยอะจะตาย ไหนจะคนงานอีก เขาก็คงช่วยๆกันทำหมดแล้วล่ะ ฉันว่าเรานอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆสวยๆไง”เจ้าหล่อนพูดจบก็หลับตาทันที ขนาดแพรทองพยายามเรียกหลายครั้งก็ไม่ยอมลืมตา ตั้งใจจะนอนท่าเดียวเลยแพรทองเห็นว่ายังไงยัยเพื่อนตัวแสบก็คงไม่ลุกจากเตียงแล้วแน่ๆ เธอจึงไม่ตื๊อต่อให้เสียเวลา เธอจึงเปลี่ยนเป็นชุดลำลองโดยใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นพอดีตัว แล้วลงจากเรือนไปภายนอกตัวเรือนนั้น อากาศค่อนข้างเย็นชื้น และมีลมที่พัดโชยอ่อนตลอดเวลา ยามลมกระทบต้องเนื้อนวล ทำให้เธอรู้สึกหนาวจับจิตจับใจแพรทองเดินมาตามทางเดินที่คดเคี้ยวไปตามแนวสวนและเรือนพักที่ปลูกลดหลั่นกันเป็นหลังๆซึ่งแต่ละหลังก็มีผู้เข้าพักแล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งโดยส่วนมากก็เป็นแขกที่มาร่วมงานแต่ง ทั้งญาติและเพื่อนๆของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่นเองหญิงสาวรู้สึกสดชื่นและสบายตัวไม่น้อย ขณะเดินสูดอากาศมาตามทางเดินในสวนเล็กๆที่มีแสงของหิ่งห้อยนำทางไปยังเรือนหอของเจ้าสาวที่ตั้งอยู่ไกลลิบออกไปและโดยไม่ทันระวังตัว ขณะเลี้ยวตรงพุ่มไม้ใหญ่ที่ทะมึนทึนทึบ เพื่อทะลุไปยังถนนเส้นเล็กใจกลางรีสอร์ทนั่นเอง อยู่ๆเธอก็ถูก
มันใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว หากเขาไม่วิ่งหนีไปในวินาทีนี้ เขาคงไม่รอดจากงูตัวนี้เป็นแน่ เขารนรานหวาดกลัวจนสติกระเจิง ก้มมองหญิงสาวที่นอนสลบอยู่ตรงหน้าอย่างเวทนาใจ“ฉันคงพาเธอไปด้วยไม่ได้ ขอโทษจริงๆ ฉันไปละโว้ย”ว่าแล้ว เจ้าอัคนีตัวร้ายก็วิ่งสุดชีวิต โดยออกไปทางด้านข้างของรีสอร์ท ซึ่งเป็นแนวป่าขนาดย่อมที่มีเส้นทางทะลุออกไปยังถนนใหญ่ด้านหน้าเขาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งแบบคนหนีตาย!!!โดยปล่อยให้ร่างไร้สติของหญิงสาวโชคร้ายนอนเป็นเหยื่ออันโอชะของงูจงอางยักษ์ขนาดห้าเมตร...หากงูตัวนั้นไม่ใช่มนุษย์ครึ่งงูที่มีหัวใจให้เธอแล้วล่ะก็ คืนนี้เธอคงไม่รอดคมเขี้ยวนั้นไปได้จงอางจ้องมองเรือนกายขาวโพลนของหญิงสาว ภายใต้แสงจันทร์ที่อาบไล้ไปทั่วทุกซอกทุกมุม กลิ่นกายของเธอทำให้หัวใจของจงอางสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง เขาอยากเข้าไปรึงรัดเธอไว้ทั้งตัวแล้วสอดใส่เข้าสู่กายเธอจนหนำใจ พ่นพิษรักให้ทั่วสรรค์พางกายหอมหวานนี้เต็มไปด้วยพิษรักจากกายเขาแต่เขาก็ทำไม่ได้อย่างใจสิเน่หา เธอไร้สติและคงสติแตกหากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ากำลังร่วมรักกับงูตัวเป็นๆ ซึ่งเป็นเพียงสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็นที่มนุษย์เรียกว่าอสรพิษถึงแม้ว่ามันเป็นโอก
เมื่อเพื่อนพูดถึงงู ก็ทำให้เธอหวนนึกถึงงูจงอางยักษ์ขึ้นมาอีกครั้ง เธอมั่นใจว่าเธอสบตากับมันอย่างแน่นอน และมันก็จ้องมองเธออย่างมีความหมาย ความหมายที่ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง “งู?”“ใช่ งูไงแก และที่สำคัญนะโว้ย คน! คนน่ากลัวที่สุด มานอนอยู่ได้ยังไง คนงานในรีสอร์ทครึ่งร้อยเลยนะโว้ย ไม่กลัวบ้างรึไงวะ”“จริงสิ!” เมื่อคืนเธอถูกฉุด ด้วยฝีมือของผู้ชายคนหนึ่ง เขาโปะยาสลบเธอแล้วลากมานี่ “ฉันต้องไปคุยกับยัยวันวิสาเดี๋ยวนี้ว่ะ”“ไม่ได้ ยัยสามันไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านในตัวอำเภอแล้ว ส่วนเราสองคนก็ควรไปแต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยๆเพื่อร่วมพิธีแต่งงานของเพื่อนในตอนเช้าเหมือนกันนะจ๊ะ อย่าลืมว่าเราสองคนเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะจ๊ะ”“แต่...”“ไม่มีแต่ ไม่มีเวลาแล้ว แกค่อยคุยกับมันนะ ไม่สำคัญใช่มั้ย?”สำคัญสิ..สำคัญมาก“งานเพื่อนรักนะโว้ย เราต้องสวยนะแก”ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันดีและวันสำคัญของเพื่อนรัก หากเธอโวยวายและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ก็คงทำให้เกิดความวุ่นวายและเสียบรรยากาศไปหมด อีกอย่าง เพื่อนรักเพิ่งจะเปิดรีสอร์ท หากเสียชื่อตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดบริการ งานที่ตระเตรียมไว้คงพังไม่เหลือชิ้นดี แต่เรื่อ
“ก็มันเป็น...พี่ชายของตรีนี่จ๊ะ ยังไงอนาคตก็ต้องเกี่ยวดองกันอยู่แล้ว แล้วจะมัวห้ำหั่นกันอยู่ทำไมให้เสียเวลา”ได้ยินนาคินทร์พูดอย่างนี้ เจ้าหล่อนถึงกับยิ้มแก้มปริ ด้วยรู้สึกว่ามีความหวังเรื่องการแต่งงานระหว่างเธอกับนาคินทร์ขึ้นมาบ้างแล้ว “แกสวยมากเลยผึ้ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไม่มีผู้ชายเอาแก”สองสาวเพื่อนซี๊เดินพูดคุยกันมาตามทางเดินในตัวรีสอร์ท ขณะสายตาของแพรทองคอยเหลือบมองไปทั่วบริเวณเพื่อหาคนร้ายในเงามืดคนนั้น “ใครบอกว่าไม่มี ฉันเลือกต่างหากย่ะ”“จ๊ะแม่คนเลือกได้ แม้นางฟ้านางสวรรค์ แต่จะเลือกใครก็เลือกไปนะ กับคุณนาคินทร์ห้ามเด็ดขาด ห้ามแม้แต่คิด เข้าใจนะจ๊ะ”“ตามสบาย ฉันไม่ชอบคนมีเจ้าของแล้ว”“โอ๊ย ก็แค่คู่หมั้นที่ผู้ใหญ่คลุมถุงชนเท่านั้นแหละ ตราบใดที่ไม่ใช่คนรักที่แท้จริง ฉันก็ยังมีสิทธิ์ย่ะ”สองสาวเดินเม้าท์เพลินมาจนถึงตัวอาคารที่ใช้ประกอบพิธีแต่งงาน สองสาวหยุดยืนใต้ร่มไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ด้านข้างของตัวอาคาร เพื่อจัดแต่งเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง และดูความเรียบร้อยให้กันและกัน“โอ๊ย ตื่นเต้นอย่างกับจะแต่งงานเอง ฉันสวยพอรึยัง?”“แกสวยมากวิ แล้วฉันล่ะ”“สวยครับ” คนที่ตอบคำถามของหญิง
“ไปกันเถอะวิ” แพรทองลากวิมาลาออกไปจากกลุ่มสนทนา ทั้งนาคินทร์และอัคนีมองตามอย่างเสียดาย จนหญิงสาวอีกคนรู้สึกไม่พอใจ เพราะจับได้ทันทีว่าสองหนุ่มสนใจสาวๆพวกนั้น“พี่คินขา จะไปกันได้รึยังคะ ป่านนี้พิธีเริ่มแล้วมั้ง มัวแต่ชะเง้อเป็นยีราฟกันอยู่ได้ ก็แค่...ผู้หญิงหน้าแปลก!” สาวิตรีจึงทำหน้าที่คู่หมั้น ด้วยการดึงนาคินทร์ให้เดินตามเจ้าหล่อนไปทันที“ไอ้คิน! เดี๋ยวเหอะมึง” อัคนีที่รั้งท้ายสุด รีบเดินตามทุกคนไป ไม่ใช่เพราะเขาอยากไปร่วมอวยพรบ่าวสาว หากแต่ต้องการใกล้ชิดกับเพื่อนเจ้าสาวแสนสวยให้หนำใจต่างหากไม่นานนัก...พิธีแต่งงานระหว่างวันวิสาและชาญวุฒิก็เสร็จสิ้นลง โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ตามที่หลายคนคาดการณ์ เพราะอัคนีตัวร้ายประจำอำเภอ ซึ่งตามจีบวันวิสามาหลายปี ไม่มีทีท่าจะป่วนงาน ตามข่าวลือที่สะพัดมาสักพัก...เกิดอะไรขึ้น ทำไมหมอนั่นถึงเปลี่ยนใจ!!! “ขอบใจเธอทั้งสองคนมากนะที่มาร่วมงานแต่งของฉัน” วันวิสากอดวิมาลาและแพรทองด้วยความซาบซึ้งใจ “พวกเธอสองคนแต่งงานเมื่อไหร่ รับรองฉันไปเป็นแม่งานแน่นอน”“ว่าแต่ จะไม่อยู่เที่ยวก่อนจริงๆหรือครับ” เจ้าบ่าวหมาดๆถามสองสาวอีกครั้ง ตัววิมาลานั้นอยากอ
“เมื่อคืนนี้น่ะสิ ฉันเจอ...” แต่ไม่ทันจะเล่าต่อ กลับมีเสียงหนึ่งตะโกนแทรกเข้ามาเสียก่อน จนทำให้สองสาวชะงัก“คุณแพรทองครับ” เสียงนั่นเป็นของนายอัคนีเจ้าเดิม เขาเดินเข้ามาจนใกล้กับสองสาว แล้วเอ่ยถามเสียงนุ่ม “ไม่ทราบว่า สนใจออกไปเที่ยวรอบๆเมืองมั้ยครับ...”“เผอิญนัดกับเจ้าสาวเอาไว้ว่าจะท่านมื้อเที่ยงด้วยกันค่ะ” แพรทองชิงพูดตัดหน้าก่อนเพื่อนตัวดีจะอ้าปาก ทำเอาวิมาลาขัดใจไปเลย“แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องทานมื้อเที่ยงกับผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดนะครับ พอดีตะกี้ผู้ว่าท่านแวะมาน่ะครับ”“อ้าว หรือคะ ถ้าอย่างนั้น...”“ยังมีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะค่ำ พวกคุณน่าจะใช้เวลาให้คุ้มหน่อย ที่นี่มีที่สวยๆเยอะนะครับ”“ก็ดีเหมือนกันนะผึ้ง” วิมาลากระดี๊กระด๊าใหญ่ “ออกไปเที่ยวดีกว่า ได้คุณอัคนีเจ้าถิ่นพาไปอย่างนี้ เราคงสนุกแน่ๆ”“ครับ รับรองสนุกสุดๆไปเลย”แต่แพรทองไม่สนุกด้วยหรอก เธอไม่ชอบสายตาของอัคนีเวลาที่มองเธอ มันเหมือนเขากำลังกลืนเธอทั้งตัว“วิไปเถอะ ฉันปวดหัว ว่าจะนอนพักสักหน่อย” แพรทองหันมายิ้มให้อัคนี “ฝากเพื่อนฉันด้วยนะคะ แล้วอย่ามาส่งช้าล่ะ เพราะคืนนี้เธออยากจัดเต็ม จะเต้นรำโชว์หนุ่มๆค่ะ”“ย
“ถ้าอย่างนั้นสบายใจได้ค่ะ ฉันจะบอกสาเองว่าให้คนรถไปส่งแทน”“ไม่ได้!”“ทำไมคะ คุณมีอะไรเหรอ?”จากสีหน้าตื่นๆ ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติอีกครั้ง“คือ...ผมต้องเข้าจังหวัดอยู่แล้ว ไหนๆก็ไปทางเดียวกัน จะไปรบกวนคนรถทำไมล่ะครับ ให้พี่เขาทำงานของเขาไปดีกว่าครับ”“อ้อ ค่ะ” เธอถึงกับอึ้งในเหตุผลของเขา “ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันสักหกโมงเช้าแล้วกัน คุณจะพาผู้หญิงสวยๆที่อยู่กับคุณในงานไปด้วยก็ได้นะคะ คู่หมั้นของคุณน่ะค่ะ”แล้วเธอจะพูดถึงยัยนั่นทำไม...แพรทองอยากจะตบปากตัวเองนัก!!! นาคินทร์หัวเราะนิดๆ “ทำไมครับ หรือว่าคุณอยากรู้จักเธอ”“ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่เกรงใจเธอ กลัวเธอจะเข้าใจผิดคุณ ที่คอยเป็นสารถีให้ฉันกับเพื่อน”“เธอรู้ครับว่าพวกคุณเป็นเพื่อนเจ้าสาว ไม่ต้องห่วง”“อ้อ เป็นคู่หมั้นที่ใจกว้างสินะคะ”“ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่เธอไม่กล้างี่เง่ากับผมเท่านั้นเอง”คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวอึ้งอีกครั้ง“เอ่อ...งั้นตามนั้นแล้วกันนะคะ ขอบคุณที่เทคแคร์ฉันกับเพื่อนค่ะ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ”เจ้าหล่อนบอกลาแล้วหมุนตัวหันหลัง“คุณปวดหัวใช่มั้ย” เขาหยิบซองยาออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้เธอพร้อมรอยยิ
“เออสิ ก็ยัยสาวิตรีน่ะมันชอบคินมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอโตขึ้นมันก็ร้องจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ให้มันแต่งงานกับคิน”“ว๊ายตาย อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยเหรอ”“แล้วทำไมเขาตกลงล่ะ” แพรทองเองที่อยากรู้ “หรือว่าตอนนั้นก็แอบมีใจให้ยัยนั่นอยู่เหมือนกัน”“ฉันว่าไม่ใช่ เดาว่าคินทำตามที่พ่อต้องการ และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีใครด้วย ไม่เหมือนตอนนี้...”วินาทีนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ“วุฒิ กลับมาแล้วหรือคะ”“ใช่ ผมได้หลักฐานมาแล้วนะ แล้วก็จัดการส่งให้ตำรวจแล้ว ตอนนี้นายอัคนีถูกเรียกไปสอบสวนแล้ว”ทั้งสามสาวพากันดีใจเฮละโล “แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทเราล่ะ?”“แน่นอน” ชาญวุฒิหมายมั่นปั้นมือ “ภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวนายอัคนีแบบดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”“อะไรนะ นี่มีภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ” แพรทองถามอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอยัยสา?”“ใช่ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อมันจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานมันชัดขนาดนี้ มันก็หนีคุกหนีตะรางไม่พ้นหรอก” วันวิสาพูดด้วยความสะใจ “โทษฐานที่มันล้วงคองูเห่า”ใครบอกว่าล้วงคองูเห่า...มันล้วงคองูจงอางต่างหาก!!!“อ้อ สาจ๊ะ ได้ข่าวเรื่องบ
เธอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างโหยหา “อะไรคะ”“ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จะล้างคำสาปในตัวผมจนหมดสิ้น แล้วผมจะกลายเป็นมนุษย์เต็มตัว ไม่ต้องเป็นงูอีกแล้ว”“หืม...” หญิงสาวรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “จริงหรือคะ?”“จริง คุณจะช่วยล้างคำสาปให้ผมรึเปล่า”“ช่วยสิคะ แล้วฉันต้องทำยังไง”“คุณก็แค่รักผมให้มากๆ และยอมให้ผมทำอะไรกับคุณก็ได้ในคืนนั้น”“ทำอะไรก็ได้ หมายถึงกัดรึคะ” เจ้าหล่อนยิ้มยั่ว“มั้ง” เขายิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกสวยของหญิงสาว “แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะถึงวันเพ็ญ คุณก็ต้องยอมเป็นเมียงูไปก่อนนะ”“ใครบอกคะ ฉันลาพักร้อนได้แค่สิบห้าวันเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ใช้ไปตั้งสามวันแล้วนะคะ ฉันคงต้องกลับกรุงเทพฯก่อนถึงวันเพ็ญ”“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอก”“ก็คอยดูว่าฉันจะไปได้รึเปล่า ฉันไม่ได้มีคู่หมั้นอย่างใครบางคนนี่คะ” เจ้าหล่อนแสร้งพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อเตือนความจำของเขา“พรุ่งนี้ผมกูกถอนหมั้นแล้วคุณ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น “เหรอ?”เขายิ้มร่า ดูกะล่อนไม่เบา “ไม่เชื่อคุณก็คอยดูแล้วกัน”“อืม....อ้า!!!...” เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอ ก้าวล้ำเข้าไปภายในของเจ้า
วันวิสาและวิมาลามองหน้ากัน รู้สึกทะแม่งๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน“อ๊ะๆ ทำไมห่วงนายคินขนาดนั้นยะ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าเนี่ยคู่นี้” วันวิสาแซว แพรทองทำหน้าแทบไม่ถูก เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างรู้สึกสำนึกผิด“วิ แกอย่าโกรธฉันนะ”วิมาลาจ้องแพรทองนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ”แพรทองก้มหน้านิดๆ เธอจะพูดอย่างไรดี ให้เพื่อนเสียใจน้อยที่สุด และไม่เกลียดโกรธเธอที่แย่งผู้ชายที่เธอหมายปองไปแต่เจ้าหล่อนไม่ทันจะตอบเพื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน วันวิสาเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ทุกคนกำลังรอคอย“นาคินทร์!!!” เขากลับมาแล้ว ในสภาพที่ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด “ทุกอย่างเรียบร้อย คลิปของคุณถูกทำลายแล้ว ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่โรงพักแล้ว ยอมออกไปมอบตัวด้วยตัวเอง”“จริงหรือคะ!!!” วิมาลาดีใจจนเกือบจะกรี๊ดออกมา “ขอบคุณนะคะคุณคิน คุณนี่ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยค่ะ แล้ววิจะเลี้ยงข้าวนะคะ”“แล้วคินทำยังไงให้พวกนั้นมันยอมมอบตัวได้” วันวิสาถามอย่างใคร่รู้นาคินทร์หันมองหญิงสาวที่กุมความลับเขาไว้ เธอยิ้มนิดๆให้เขา“ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันคงสำนึกผิดเองมั้ง”“
“คุณอย่าชะล่าใจนะ หมองูคนนั้นท่าทางน่ากลัวจะตายไป บางทีเขาอาจจะมีคาถาอาคมแก่กล้าจนคุณนึกไม่ถึงก็ได้”เขาหัวเราะ “เอาเป็นว่า เรามาคอยดูกันคืนนี้ดีมั้ย ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน”“คุณนี่นะ ยังจะปากดีอีก ฉันว่าคืนนี้คุณอย่าอยู่ที่เมืองนี้เลย ไปไหนก็ได้ ให้มันไกลๆ เชียงใหม่เชียงราย หรือ...”“ไม่ ผมจะอยู่ที่นี่” เขาจับมือเธอแล้วบีบแน่น “ผมวางแผนจะออกไปเล่นงานลูกน้องไอ้อัคนีคืนนี้ ผมนัดแนะกับงูตัวอื่นๆไว้แล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันหมดแล้ว ผมไปไหนไม่ได้หรอก”“คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” เธอเริ่มจะหัวเสียแล้ว “เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอตัวก่อน เดี๋ยวยัยสาจะมารับไปเยี่ยมยัยวิที่โรงพยาบาล”เจ้าหล่อนหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เขาคว้าข้อมือเธอไว้“ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะคุณ มีเมียสวยขนาดนี้จะทิ้งให้เป็นหม้ายได้ยังไง คืนนี้รอฟังข่าวดีนะ”ในที่สุดเธอก็แพ้เขา ยอมปล่อยเขาไป ตามที่เขาต้องการ เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพักเรียบร้อย ไม่นานนัก วันวิสาก็โทรศัพท์ให้เธอออกไปรอที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ทขณะเดินออกจากเรือนพัก เธอเห็นหมองู เสี่ยอาทรและลูกน้องสามสี่คน กำลังจัดเตรี
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจูบแน่น ก่อนเงยหน้ามองด้วยสายตาออดอ้อน “ผมรักคุณนะ รักคุณมากจริงๆ อดทนอีกนิด แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่าสาวิตรีจะทิ้งผมทันทีเลย”เธอหน้าตื่น “คุณจะทำยังไงคะ หรือว่าคุณจะเผยตัวตน”เขาส่ายหน้า “มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”ขณะนั้นเอง บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารกลางของรีสอร์ท ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หนึ่งในนั้น มีบิดามารดาของวันวิสา และเสี่ยอาทร บิดาของอัคนีและสาวิตรีเดินมาด้วยกัน ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคน เหมือนมีเรื่องกังวลใจหนักหนา“มีเรื่องอะไรรึเปล่า เสี่ยอาทรถึงมาที่นี่”“ใครคะ”“โน่น พ่อของนายอัคนีตัวแสบ”“อ่อ ว่าที่พ่อตาคุณ”“เอ๊ะนั่น!” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสี่ยอาทรเท่ากับชายชราอีกคน ที่สวมชุดขาวทั้งตัวและมีหนาวเคราขาวรกรุงรัง “หมองู”“ว่าไงนะคะ” เจ้าหล่อนหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มทันที “หมายความว่าไงคะ เสี่ยอาทรพาหมองูมาที่นี่ทำไมคะ”“คุณจะกลับห้องพักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพวกเขาหน่อย เผื่อมีอะไรจะช่วยได้”หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง เธอลงจากรถไปด้
“แต่พี่ชายตรียังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลยนะครับ”“พี่หินฟื้นแล้วค่ะ พ้นขีดอันตรายแล้วด้วย ตรีบอกป๊ากับม๊าแล้ว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะคะ”แต่คนที่ขัดข้องคือว่าที่เจ้าบ่าวนี่แหละ เขายิ้มแทบไม่ออก ที่ยอมหมั้นในเวลานั้นก็เพราะบิดาใกล้เสียชีวิต อยากให้ท่านมีความสุขและสบายใจที่ลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้“ไหนๆก็หมั้นกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งกันสักที จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเขา แม่ว่าจะไปสู่ขอน้องตรีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ลูกคิดว่าไงจ๊ะ”“ผมยังไม่พร้อมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมดุหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมล่ะลูก นี่ลูกพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ น้องตรีเสียหายมากนะลูก ถูกคนเขาเม้าท์ไปทั่วว่าลูกไม่เอา...”“คุณน้าคะ...” เจ้าหล่อนสะอื้นฮึกฮักขึ้นมาจนทำให้มารดาของชายหนุ่มสงสาร คว้ามากอดแนบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ตรีรอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ”“ไม่เอานะลูก ไม่ร้องนะหนูตรี ยังไงพี่คินก็ต้องแต่งกับหนูตรีนะ”นาคินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาควรต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนที่เ
นาคินทร์ยิ้มนิดๆอย่างรู้ทัน “ไม่ต้องทำเสียงหวานเลย”“อ้าว นี่คุณจะไม่ช่วยหรือคะ”“ช่วยสิ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ เพื่อนรักของคุณทั้งคนนะ”“นี่ถ้ามันจับตัวฉันไป คุณจะทำไงคะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเสียงฉอเลาะ ยั่วเย้า เบียดเนื้อเบียดตัว “หือ...”“ผมก็จะฆ่ามันน่ะสิ” สายตาของเขายิ่งกว่าอสรพิษ ยามก้มเข้าหาใบหน้าเธอแล้วจูบแน่น เธอไม่ปล่อยให้เขาสูบเอาความหวานจากริมฝีปากอิ่มไปแต่เพียงผู้เดียว จึงจูบตอบพร้อมเคลื่อนขยับงับเม้มริมฝีปากร้ายของเขาอย่างกระหาย“อืม...” เขาพึงพอใจไม่น้อย ยามลิ้นอุ่นของหญิงสาวทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเขา ชายหนุ่มจึงตวัดลิ้นรัดรึงดุนดันจนพัลวันไปหมด“อา....” เธอครางผ่านลำคอออกมา ขณะเขาอุ้มร่างกายอรชนขึ้นแล้วนำไปที่เตียงนอน ก่อนกระโจนลงไปนัวเนียเล้าโลมอย่างกระหืดกระหาย จนร่างกายหญิงสาวอ่อนระทวย“ที่รักขา....”“ผมรักคุณ...แพทอง ผมรักคุณ” เขาคร่ำครวญขณะสอดใส่ลำยาวเข้าไปในกายเธอ หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนตวัดสองขาขึ้นรัดสะเอวของชายหนุ่มไว้ สะโพกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มขยับ กระแทกกระทั้นอย่างดุดัน“โอ้วววววว” หากแต่ทำไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก๊อกๆ ก๊อกๆ ชายหนุ่มจำต้องหยุดทำรั
“อยู่กับตรีที่นี่ได้มั้ยคะ ตรีเหงาน่ะค่ะ”เขาปลดมือเจ้าหล่อนออกอีกครั้ง อย่างไม่ไยดี “พี่มีอะไรต้องทำเยอะแยะเลย ไม่ว่างมาเฝ้าพี่ชายตรีหรอก อีกอย่าง ตรีก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายของตรีก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไหร่ จริงมั้ย?”เมื่อฟังเหตุผลข้อหลัง เจ้าหล่อนจึงยอมปล่อยชายหนุ่มออกจากห้องไป ไม่กล้ากระเง้ากระงอดอีก เพราะกลัวเขารำคาญ เธอตั้งใจจะหาโอกาสครั้งใหม่ ในการยั่วชายหนุ่มแล้วรวบหัวรวมหางซะ ให้เขาตกเป็นของเธอเธอกับเขาจะได้แต่งงานกันให้เร็วที่สุด!!! วิมาลายังนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีเพื่อนรักสองคนนั่งข้างเตียง ดูแลไม่ห่าง เจ้าหล่อนกำลังนึกถึงสิ่งที่โดนสองคนร้าย ลูกน้องสุดชั่วของอัคนีกระทำกับเธอ!!!“ว่าไงยัยวิ จะบอกได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” แพรทองเริ่มคาดคั้น เพราะเห็นเพื่อนเงียบไปนาน แต่วันวิสาแอบหยิกเนื้อแพรทองเบาๆเพื่อเตือนให้หยุดกวนสมาธิเพื่อนเสีย “พักผ่อนก่อนเถอะวิ จะได้แข็งแรงเร็วๆ”“ไม่” วิมาลาพูดขัดขึ้น “ฉันหลับไม่ลงจริงๆ”แพรทองจับมือวิมาลาไว้แน่น “พวกมันทำอะไรเธอรึเปล่า”“ทำสิ พวกมันทำ”“ไอ้พวกเลวระยำ” วันวิสาสบถด้วยความเจ็บใจ “เธอจำหน้าพวกมันได้ครบใช่มั้ย”“ใ
“บอกว่าคุณเป็นงูจงอางเหรอ”เขาหัวเราะเสียงใส อารมณ์ดี ก่อนจะหอมแก้มเธอเสียฟอดใหญ่ “บอกว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้ว และจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนแรกในชีวิตที่เธอร่วมรักด้วยและมีใจเสน่หา เธอเสียพรหมจรรย์ให้แก่เขา ผู้ชายครึ่งงู ตัวประหลาดที่มีอยู่จริงในโลกนี้“คุณวิฟื้นรึยัง”ชาญวุฒิถามเมีย ทันทีที่เจ้าหล่อนออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาลอำเภอ “ฟื้นแล้ว แต่หลับไปอีก เพราะฤทธิ์ยา”“เสียดายที่จับคนร้ายไม่ได้”“เอาไว้ให้ยัยวิฟื้นและมีสติก่อน เมื่อไหร่มันพร้อมจะให้ปากคำกับตำรวจ ไม่ว่าจะใหญ่โตคับฟ้ามาจากไหน ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย”“ยัยสา!” เสียงเรียกของแพรทองดังมาแต่ไกล วันวิสากับชาญวุฒิหันไปมองต้นเสียง ก็ได้เห็นแพรทองกับนาคินทร์เดินมาด้วยกัน“ยัยผึ้ง!”วันวิสาและแพรทองเข้าสวมกอดกันทันที เพื่อปลอบโยนกันและกัน ตามประสาเพื่อนรักที่รักกันราวกับพี่น้องท้องเดียว “ไม่เป็นไรแล้ว ยัยวิปลอดภัยแล้ว มันไม่เป็นอะไรแล้ว”เมื่อผละจากกัน วันวิสาจับมือแพรทองไว้แน่น“ฉันขอโทษนะที่ชวนพวกแกมา เลยทำให้พวกแกต้องเจอกับเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ ฉันดูแลพวก