สวยหยาดเยิ้มกับหน้าอกที่ล้นทะลัก และก้นกลมแน่นงดงามนวลเนียน ด้วยคุณลักษณะที่เย้ายวนขนาดนี้ เธอไม่น่าจะเหลือ แต่ก็เหลือ มันก็จริงที่เธอเคยเล่นตัวมาตลอด แต่พอพ้นยี่สิบสองมาแล้ว เธอก็ผ่อนปรนกฏเกณฑ์ไปหลายข้อ แต่กระนั้นก็ยังไร้คนดมดอม อย่าหวังถึงมนุษย์ผู้ชายเลย แม้แต่ยุงสักตัวก็ไม่มี!!!
เว้นก็แต่...งูจงอางยักษ์ตัวนั้น!!
เธอไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เพื่อนฟัง เธอไม่ได้บอกถึงสิ่งที่น่าอับอายสำหรับเธอ ใช่แล้ว เธอกับงูตัวนั้นมีความสัมพันธ์กันทุกครั้งที่ฝันถึง และทุกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนมันเป็นเรื่องจริง !!!
มันเริ่มต้นเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเธอเพิ่งจะฉลองอายุครบยี่สิบ เธอไปเยี่ยมญาติที่หนองคาย เธอจำได้แม่นว่าคืนนั้นพระจันทร์เต็มดวง นวลสวย สว่างไสว ขณะที่เธอนอนหลับสบายที่บ้านพักริมแม่น้ำโขง
เจ้างูยักษ์ตัวนั้นก็โผล่เข้ามาในความฝันของเธอ...เธอผวาและตกใจสุดขีดที่ได้เห็นมันจ้องมองอยู่ตรงหน้า แววตาเลือดเย็นจนน่าขนลุก ขนาดลำตัวที่ใหญ่เท่าๆขามนุษย์ผู้ชาย และความยาวเกือบห้าเมตร!!!
วินาทีเผชิญหน้ากันครั้งแรก หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกจากขั้ว เธอรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริง เธอรู้สึกถึงการสัมผัสที่เยือกเย็นของมัน มันจู่โจมเธออย่างรวดเร็ว เลื้อยลัดมัดตัวเธอจนดิ้นไม่หลุด
เธอกรีดร้องสุดเสียง ก่อนจะกลืนเสียงร้องลงคอไป เพราะริมฝีปากของมันทาบลงบนริมฝีปากเธอ
‘อือออ’ เธอพยายามบ่ายหน้าหนีแต่ไม่สำเร็จ ร้ายไปกว่านั้น เธอรู้สึกได้ถึงการสอดใส่ในส่วนกลางลำตัวของเธอ...เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า...เธอกำลังร่วมรักกับงูยักษ์ที่มีพิษร้ายแรง...พิษที่ทำให้ถึงตาย...พิษร้อนระอุที่กำลังฉีดพล่านในกายเธออย่างไม่ยั้ง
เธอเสียความบริสุทธิ์วัยสาวให้กับงูจงอางยักษ์ตัวนั้น เธอรู้สึกเหมือนมันเป็นเรื่องจริง แม้ตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ดีไม่ได้ถูกฉีกขาดไปเหมือนในฝัน
ทว่า...ร่องรอยบนเนื้อตัวเธอมันมาจากไหนกันนะ?
“ตื่นได้แล้วยัยผึ้ง” วิมาลาเขย่าเตือนเธอ ทันทีที่รถทัวร์เข้าจอดที่สถานีขนส่งประจำจังหวัดพะเยา “ถึงซะที อากาศหน๊าวหนาวเนอะ”
วิมาลาชวนคุยไปเรื่อย ขณะจัดแจงแต่งหน้าเพิ่มความสดใสก่อนลงจากรถ ส่วนแพรทองลุกจากที่นั่ง ทำสมาธิ ตั้งสติครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดลมหายใจลึกยาวเพื่อผ่อนคลายอารมณ์และความตึงเครียดในหัว“ไม่เห็นจะหนาวเลย ร้อนจะตาย” เจ้าหล่อนบิดเนื้อตัวเพื่อคลายกล้ามเนื้อ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นทำให้เรือนร่างเธอดูโดดเด่นจนใครก็ต้องมอง “ยังมืดอยู่เลย ลองโทรหายัยสาซิว่ามาถึงรึยัง”วันวิสาว่าที่เจ้าสาวบอกว่าจะมารับเพื่อนรักจากกรุงเทพฯด้วยตัวเองในเช้ามืดวันนี้ แต่เจ้าหล่อนกลับผิดคำพูด โดยแจ้งว่ามาไม่ได้ เพราะติดธุระสำคัญเกี่ยวกับงานวิวาห์ “ยัยสามันบอกว่า มันให้เพื่อนเจ้าบ่าวมันมารับแทน”“เหรอ ใครอ่ะ? คนไหน?”“โน่นมั้ง” วิมาลาชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้ารถกระบะคันใหญ่ “มันบอกว่า รถกระบะสองตอนสีดำ ทะเบียน...”แพรทองทอดสายตาไปตามนิ้วชี้ของวิมาลา ทำให้เธอได้เห็นชายหนุ่มร่างสูง ล่ำสัน บึกบึนสมเป็นชายชาตรีผู้หนึ่ง เขาสวมเสื้อยืดสีดำสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตหนังสุดเท่ และกางเกงยีนสีซีด...ดูสมาร์ทไม่เบา“อุ๊ย! หล่ออ่ะแก” วิมาลาตาโต เนื้อเต้นทันทีที่เห็นเขาชัดขึ้นเมื่อเขาหันมามองสองสาว “ยัยสาบอกว่าเขาเป็นลูกช
วิมาลารู้ว่าความสวยของเธอเทียบไม่ติดแพรทอง แต่ความขาวและหมวยของเธออาจเข้าตาหนุ่มบ้านนอกสุดหล่อคนนี้ก็เป็นได้...ใครจะไปรู้!!!“เออ เอาไปเหอะ ไม่ใช่สเป๊ก” ถึงแม้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเธอชอบผู้ชายแบบไหนก็ตาม “ไปได้แล้ว”แพรทองถือกระเป๋าใบใหญ่เดินไปหาชายหนุ่มผู้นั้น เขาหันมามองเธออยู่นาน ก่อนจะหันมองวิมาลาที่เคลื่อนตัวเข้าบังแพรทองไว้จนเกือบมิด “คุณนาคินทร์รึเปล่าคะ”“ครับ” เสียงนุ่มชะมัด “ผมนาคินทร์ เป็นเพื่อนของชาญวุฒิและวันวิสาครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ...”“ฉันวิมาลาค่ะ หรือจะเรียกว่าวิก็ได้ ส่วนนี่” เจ้าหล่อนชี้ไปที่แพรทองซึ่งยืนเชิดหน้าอยู่ข้างๆ “แพรทอง หรือจะเรียกว่ายัยผึ้งก็ได้ค่ะ คุณนาคินทร์มารอนานแล้วหรือคะ”นาคินทร์จ้องมองแพรทองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปมองวิมาลาที่ถามเจื้อยแจ้วไม่หยุด สายตาของเขาทำให้แพรทองสั่นสะเทือนอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่เคยต้องร่างกายปั่นป่วนเพราะผู้ชายมาก่อนเลย ตานี่เป็นคนแรก!!!“ไม่นานหรอกครับ ก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญคุณวิกับคุณผึ้งขึ้นรถเถอะครับ เราต้องเดินทางต่อด้วยรถยนต์อีกประมาณเก้าสิบกิโลจึงจะถึงภูซางครับ”“ห๊า!!! เก้าสิบกิโลเลยหรือคะ” วิมาลาแกล้
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหล่อนขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย ชายหนุ่มขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับตามหน้าที่ ก่อนจะบึ่งรถออกจากสถานีขนส่งจังหวัด เพื่อมุ่งตรงไปยังอำเภอภูซางบ้านเกิดทันที “พวกคุณสองคนเดินทางไกลมาทั้งคืนคงจะเหนื่อยน่าดูสินะครับ ถ้าจะนอนเอาแรงก็ไม่เป็นไรนะครับ ตามสบายเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ” แพรทองชิงวิมาลาที่กำลังอ้าปากจะพูด บอกเสียเอง ด้วยน้ำเสียงกระด้างนิดๆ “ฉันสองคนนอนบนรถทัวร์มาหลายชั่วโมงแล้ว นอนจนเบื่อล่ะค่ะ ขอชมทิวทัศน์ตามรายทางดีกว่า”อันที่จริงเธอไม่ไว้ใจเขาต่างหาก ผู้ชายอะไร สายตาเจ้าชู้ มองกระจกส่องหลังอยู่เรื่อย จนเธอสบตากับเขาไม่รู้สักกี่ครั้ง มันทำให้ใจเธอเต้นแปลกๆ“คุณนาคินทร์มากกว่าที่เหนื๊อยเหนื่อย” วิมาลายิ้มหน้าแป้นแล้นใส่ชายหนุ่ม “ อุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามืดมารับวิ เอาไว้ถ้ามีโอกาสให้วิเลี้ยงข้าวนะคะ”“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไร ปกติผมขับรถเข้าเมืองบ่อยอยู่แล้ว เวลามาทำธุระให้คุณแม่”“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องตอบแทน เอามื้อไหนดีคะ”“มางานแต่งเพื่อนนะ ไม่ได้มาเที่ยว” แพรทองติงเพื่อนจอมยั่วทันที “มัวแต่จีบผู้ชายอยู่นั่นล่ะ คุณนาคินทร์คะ...”“เรียกผมว่าคินก็ได้ครับ” เขาเสนอเธอ ด้วยสีห
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถามได้ ผมยังไม่แต่งงานครับ”“อุ๊ยตาย! หล่อขนาดนี้ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจะเหลือ” วิมาลาตะโกนลั่น เจ้าหล่อนก็มีความหวังน่ะสิ ทว่า...“ไม่เหลือหรอกครับ ผมมีคู่หมั้นแล้วครับ” มีคู่หมั้นแล้ว...แต่ยังทำตาแบบนั้นใส่เธอ หมอนี่เจ้าชู้ไม่น้อย แพรทองรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาดื้อๆ“มีคู่หมั้นแล้วหรือคะ” วิมาลาหน้าจ๋อยทันที ความหวังของเธอพังทลาย “แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้วิมโนไปไกลถึงดาวอังคารเลยค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะ ขนาดเสียงหัวเราะยังหล่อเลย“มโนเรื่องอะไรครับ”“ปละ เปล่าค่ะ วิล้อเล่น แหม ก็คุณคินทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนรักก็คงจะแปลกล่ะค่ะ ยินดีด้วยนะคะ” วิมาลายิ้มอย่างเสียดาย “คู่หมั้นคงน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ”“ไม่ต้องยินดีหรอกครับ พอดีเราหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่นะครับ ไม่ใช่เพราะรักกัน” เขาตั้งใจจะบอกให้หญิงสาวที่นั่งเบาะหลังรู้มากกว่าใคร นั่นเพราะเขารู้สึกสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น...ผู้หญิงสวยที่ดูหยิ่งนิดๆแบบนี้แหละ น่าค้นหาเป็นที่สุด “พวกคุณสองคนล่ะ แต่งงานรึยัง?”“ยังค่ะ” วิมาลารีบตอบ “แต่ยัยผึ้งอ่ะ กำลังจะเจอเนื้อคู่ค่ะ เพราะนางฝันถึง ง...”“ยัยวิ!” แพรทองตวาดเพื่อนเป็นครั้งที
“มองหาอะไรอยู่ยะ!”“เปล๊า” คนถูกทักถึงกับสะดุ้งโหยง “ก็แบบ...คุณนาคินทร์มาส่งพวกฉันเสร็จก็ไปเลยเหรอ ทำไมไม่เห็นเลยอ่ะ ไปจอดรถตรงไหนนะ???”“นั่นแน่ยัยวิ!”“คุณวิชอบไอ้คินเหรอครับ” ชาญวุฒิถึงกับหัวเราะร่า น้ำตาเล็ด “ไปชอบมันได้ไงครับ ไอ้นี่ปากหมาจะตาย อีกอย่าง มันมีคู่หมั้นแล้วนะครับ แล้วคู่หมั้นมันเนี่ย น่ากลัวสุดๆ”“น่ากลัวยังไงคะ”“เอาไว้เห็นเองจะดีกว่าครับ อย่าให้พูดเลย เดี๋ยวหาว่านินทา”“โอ้ว สงสัยจะแรงส์แน่ๆ”“ฉันขอเข้าที่พักเลยได้มั้ยสา?” แพรทองพูดแทรกวงสนทนา เพราะไม่อยากได้ยินเรื่องของหมอนั่นแล้ว “ฉันอยากอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็พักสักสองสามชั่วโมง จะได้มีแรงมาช่วยงานแกบ้างไง”“โอ๊ยแก ไม่ต้องช่วยอะไรเลย พักผ่อนให้สบายเถอะ ฉันให้พวกแกมาร่วมงานในฐานะเพื่อนเจ้าสาว ไม่ได้ให้มาช่วยทำงาน” วันวิสาพูดจบก็หันไปหาว่าที่เจ้าบ่าว “วุฒิไปดูพวกคนงานหน่อยนะว่าจัดสถานที่สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ได้เป๊ะตามสั่งรึเปล่า เดี๋ยวสาพาเพื่อนไปส่งที่ห้องพักแล้วจะรีบตามไป”“ได้จ้ะที่รัก”“ส่วนแกสองคนตามมาเลย ฉันเตรียมห้องพักสุดหรูไว้ให้พวกแกสองคนแล้ว เรือนพักริมน้ำระดับห้าดาวเชียวนะโว้ย”วันวิสาลากเ
“ในที่สุด เราก็ได้เจอกัน” เขากำลังพูดกับหญิงสาวในภาพ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับแพรทองไม่มีผิด “คุณรู้มั้ย ว่าผมฝันถึงคุณมานานแค่ไหนแล้ว นางฟ้าในฝันของผม ผมไม่เคยลืมเลยนะ ว่าคุณทำให้ผมมีความสุขมากแค่ไหน”ชายหนุ่มกวาดสายตามองภาพเขียนฝีมือตัวเองไปโดยรอบ เขาไม่เคยนับเลยว่าเคยวาดรูปของนางในฝันมากี่ภาพแล้ว รู้เพียงแค่ว่า หลังจากที่ฝันถึงเธอทุกครั้ง พอตื่นในตอนเช้า เขาก็จะจับดินสอทันที “แพรทองเหรอ?...ตัวจริงของคุณดูดุจัง แต่ในฝัน คุณโคตรน่ารักเลย”นาคินทร์ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงนอน แล้วหลับตานิ่ง...เขาไม่ได้พยายามจะฝันถึงเธอเหมือนห้าปีที่ผ่านมาเขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พยายามจะฝันถึงเธอ เขาไม่เคยทำสำเร็จ หากแต่วันใดที่เขามีจิตใจที่โล่งโปร่งสบาย คืนนั้นเจ้าหล่อนจะมาปรากฏกายบนเตียงของเขาอย่างแน่นอน“กลิ่นเนื้อตัวของคุณหอมมาก มันเป็นกลิ่นที่ติดจมูกจริงๆ” เนื้อตัวของเจ้าหล่อนทำให้เขาโหยหา หัวใจเต้นรัวและเนื้อกายสั่นเทา “ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้นะ”มันอดไม่ได้ที่เขาจะหวนนึกถึงภาพการร่วมรักระหว่างเขากับเธอที่กระทำกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปเอาพลังงานมาจากไหน ถึงได้ทะลวงและกระ
หญิงสาวอดหัวเราะเพื่อนไม่ได้ ก่อนหันมองรอบห้องที่กว้างขวางและสะดวกสบาย สไตล์ไทยผสมโมเดิลที่ให้ความรู้สึกลงตัวทุกซอกทุกมุม“บรรยากาศดี๊ดี”เธอเดินไปหยุดมองทิวทัศน์ของลำธารสวยขนาดใหญ่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจีเบื้องหน้า ทั้งๆที่ยังสวมผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว ด้วยความที่คิดไปเองว่าคงไม่มีใครเห็น“อากาศเย็นสบายดีจัง กลิ่นดอกไม้ก็หอมตลบอบอวลไปหมด แชื่นใจสุดๆ น้ำในลำธารก็ใสน่าเล่นชะมัดเลย เฮ้อ สงสัยฉันจะหลงเสน่ห์เมืองนี้เข้าแล้วสินะ”เจ้าหล่อนจ้องมองไปยังลำธารสวยขนาดใหญ่ ที่มีทั้งแก่งและกลุ่มโขดหินตั้งเรียงรายไปทั่ว เวลาเย็นย่ำเช่นนี้ แสงอาทิตย์อุ่นๆที่สาดส่องลงมายิ่งทำให้ผืนน้ำสวยงามระยิบระยับ“เอ๊ะ...ทางนั้น” แพรทองพยายามจ้องมองผานไปยังริมลำธารฝั่งตรงข้าม เธอจึงได้เห็นบ้านพักหลังใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หมู่ไม้เขียวครึ้ม “มีบ้านอยู่ตรงนั้นใช่มั้ยนะ หรือว่าเป็นรีสอร์ทเหมือนกัน”หญิงสาวพยายามจ้องมองบ้านพักหลังนั้น เพื่อดูว่ามีใครอยู่หรือไม่ แต่เพ่งเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เธอไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียวทว่า...หากเจ้าหล่อนยืนอยู่ในบ้านพักหลังนั้น เจ้าหล่อนก็จะรู้ว่าสามารถมองเห็นเรือนพักของเธอได้ชัดเจน และเห็
“จะไปช่วยทำอะไร ญาติมันเยอะจะตาย ไหนจะคนงานอีก เขาก็คงช่วยๆกันทำหมดแล้วล่ะ ฉันว่าเรานอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆสวยๆไง”เจ้าหล่อนพูดจบก็หลับตาทันที ขนาดแพรทองพยายามเรียกหลายครั้งก็ไม่ยอมลืมตา ตั้งใจจะนอนท่าเดียวเลยแพรทองเห็นว่ายังไงยัยเพื่อนตัวแสบก็คงไม่ลุกจากเตียงแล้วแน่ๆ เธอจึงไม่ตื๊อต่อให้เสียเวลา เธอจึงเปลี่ยนเป็นชุดลำลองโดยใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นพอดีตัว แล้วลงจากเรือนไปภายนอกตัวเรือนนั้น อากาศค่อนข้างเย็นชื้น และมีลมที่พัดโชยอ่อนตลอดเวลา ยามลมกระทบต้องเนื้อนวล ทำให้เธอรู้สึกหนาวจับจิตจับใจแพรทองเดินมาตามทางเดินที่คดเคี้ยวไปตามแนวสวนและเรือนพักที่ปลูกลดหลั่นกันเป็นหลังๆซึ่งแต่ละหลังก็มีผู้เข้าพักแล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งโดยส่วนมากก็เป็นแขกที่มาร่วมงานแต่ง ทั้งญาติและเพื่อนๆของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่นเองหญิงสาวรู้สึกสดชื่นและสบายตัวไม่น้อย ขณะเดินสูดอากาศมาตามทางเดินในสวนเล็กๆที่มีแสงของหิ่งห้อยนำทางไปยังเรือนหอของเจ้าสาวที่ตั้งอยู่ไกลลิบออกไปและโดยไม่ทันระวังตัว ขณะเลี้ยวตรงพุ่มไม้ใหญ่ที่ทะมึนทึนทึบ เพื่อทะลุไปยังถนนเส้นเล็กใจกลางรีสอร์ทนั่นเอง อยู่ๆเธอก็ถูก
“เออสิ ก็ยัยสาวิตรีน่ะมันชอบคินมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอโตขึ้นมันก็ร้องจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ให้มันแต่งงานกับคิน”“ว๊ายตาย อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยเหรอ”“แล้วทำไมเขาตกลงล่ะ” แพรทองเองที่อยากรู้ “หรือว่าตอนนั้นก็แอบมีใจให้ยัยนั่นอยู่เหมือนกัน”“ฉันว่าไม่ใช่ เดาว่าคินทำตามที่พ่อต้องการ และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีใครด้วย ไม่เหมือนตอนนี้...”วินาทีนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ“วุฒิ กลับมาแล้วหรือคะ”“ใช่ ผมได้หลักฐานมาแล้วนะ แล้วก็จัดการส่งให้ตำรวจแล้ว ตอนนี้นายอัคนีถูกเรียกไปสอบสวนแล้ว”ทั้งสามสาวพากันดีใจเฮละโล “แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทเราล่ะ?”“แน่นอน” ชาญวุฒิหมายมั่นปั้นมือ “ภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวนายอัคนีแบบดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”“อะไรนะ นี่มีภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ” แพรทองถามอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอยัยสา?”“ใช่ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อมันจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานมันชัดขนาดนี้ มันก็หนีคุกหนีตะรางไม่พ้นหรอก” วันวิสาพูดด้วยความสะใจ “โทษฐานที่มันล้วงคองูเห่า”ใครบอกว่าล้วงคองูเห่า...มันล้วงคองูจงอางต่างหาก!!!“อ้อ สาจ๊ะ ได้ข่าวเรื่องบ
เธอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างโหยหา “อะไรคะ”“ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จะล้างคำสาปในตัวผมจนหมดสิ้น แล้วผมจะกลายเป็นมนุษย์เต็มตัว ไม่ต้องเป็นงูอีกแล้ว”“หืม...” หญิงสาวรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “จริงหรือคะ?”“จริง คุณจะช่วยล้างคำสาปให้ผมรึเปล่า”“ช่วยสิคะ แล้วฉันต้องทำยังไง”“คุณก็แค่รักผมให้มากๆ และยอมให้ผมทำอะไรกับคุณก็ได้ในคืนนั้น”“ทำอะไรก็ได้ หมายถึงกัดรึคะ” เจ้าหล่อนยิ้มยั่ว“มั้ง” เขายิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกสวยของหญิงสาว “แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะถึงวันเพ็ญ คุณก็ต้องยอมเป็นเมียงูไปก่อนนะ”“ใครบอกคะ ฉันลาพักร้อนได้แค่สิบห้าวันเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ใช้ไปตั้งสามวันแล้วนะคะ ฉันคงต้องกลับกรุงเทพฯก่อนถึงวันเพ็ญ”“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอก”“ก็คอยดูว่าฉันจะไปได้รึเปล่า ฉันไม่ได้มีคู่หมั้นอย่างใครบางคนนี่คะ” เจ้าหล่อนแสร้งพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อเตือนความจำของเขา“พรุ่งนี้ผมกูกถอนหมั้นแล้วคุณ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น “เหรอ?”เขายิ้มร่า ดูกะล่อนไม่เบา “ไม่เชื่อคุณก็คอยดูแล้วกัน”“อืม....อ้า!!!...” เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอ ก้าวล้ำเข้าไปภายในของเจ้า
วันวิสาและวิมาลามองหน้ากัน รู้สึกทะแม่งๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน“อ๊ะๆ ทำไมห่วงนายคินขนาดนั้นยะ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าเนี่ยคู่นี้” วันวิสาแซว แพรทองทำหน้าแทบไม่ถูก เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างรู้สึกสำนึกผิด“วิ แกอย่าโกรธฉันนะ”วิมาลาจ้องแพรทองนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ”แพรทองก้มหน้านิดๆ เธอจะพูดอย่างไรดี ให้เพื่อนเสียใจน้อยที่สุด และไม่เกลียดโกรธเธอที่แย่งผู้ชายที่เธอหมายปองไปแต่เจ้าหล่อนไม่ทันจะตอบเพื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน วันวิสาเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ทุกคนกำลังรอคอย“นาคินทร์!!!” เขากลับมาแล้ว ในสภาพที่ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด “ทุกอย่างเรียบร้อย คลิปของคุณถูกทำลายแล้ว ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่โรงพักแล้ว ยอมออกไปมอบตัวด้วยตัวเอง”“จริงหรือคะ!!!” วิมาลาดีใจจนเกือบจะกรี๊ดออกมา “ขอบคุณนะคะคุณคิน คุณนี่ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยค่ะ แล้ววิจะเลี้ยงข้าวนะคะ”“แล้วคินทำยังไงให้พวกนั้นมันยอมมอบตัวได้” วันวิสาถามอย่างใคร่รู้นาคินทร์หันมองหญิงสาวที่กุมความลับเขาไว้ เธอยิ้มนิดๆให้เขา“ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันคงสำนึกผิดเองมั้ง”“
“คุณอย่าชะล่าใจนะ หมองูคนนั้นท่าทางน่ากลัวจะตายไป บางทีเขาอาจจะมีคาถาอาคมแก่กล้าจนคุณนึกไม่ถึงก็ได้”เขาหัวเราะ “เอาเป็นว่า เรามาคอยดูกันคืนนี้ดีมั้ย ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน”“คุณนี่นะ ยังจะปากดีอีก ฉันว่าคืนนี้คุณอย่าอยู่ที่เมืองนี้เลย ไปไหนก็ได้ ให้มันไกลๆ เชียงใหม่เชียงราย หรือ...”“ไม่ ผมจะอยู่ที่นี่” เขาจับมือเธอแล้วบีบแน่น “ผมวางแผนจะออกไปเล่นงานลูกน้องไอ้อัคนีคืนนี้ ผมนัดแนะกับงูตัวอื่นๆไว้แล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันหมดแล้ว ผมไปไหนไม่ได้หรอก”“คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” เธอเริ่มจะหัวเสียแล้ว “เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอตัวก่อน เดี๋ยวยัยสาจะมารับไปเยี่ยมยัยวิที่โรงพยาบาล”เจ้าหล่อนหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เขาคว้าข้อมือเธอไว้“ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะคุณ มีเมียสวยขนาดนี้จะทิ้งให้เป็นหม้ายได้ยังไง คืนนี้รอฟังข่าวดีนะ”ในที่สุดเธอก็แพ้เขา ยอมปล่อยเขาไป ตามที่เขาต้องการ เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพักเรียบร้อย ไม่นานนัก วันวิสาก็โทรศัพท์ให้เธอออกไปรอที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ทขณะเดินออกจากเรือนพัก เธอเห็นหมองู เสี่ยอาทรและลูกน้องสามสี่คน กำลังจัดเตรี
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจูบแน่น ก่อนเงยหน้ามองด้วยสายตาออดอ้อน “ผมรักคุณนะ รักคุณมากจริงๆ อดทนอีกนิด แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่าสาวิตรีจะทิ้งผมทันทีเลย”เธอหน้าตื่น “คุณจะทำยังไงคะ หรือว่าคุณจะเผยตัวตน”เขาส่ายหน้า “มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”ขณะนั้นเอง บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารกลางของรีสอร์ท ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หนึ่งในนั้น มีบิดามารดาของวันวิสา และเสี่ยอาทร บิดาของอัคนีและสาวิตรีเดินมาด้วยกัน ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคน เหมือนมีเรื่องกังวลใจหนักหนา“มีเรื่องอะไรรึเปล่า เสี่ยอาทรถึงมาที่นี่”“ใครคะ”“โน่น พ่อของนายอัคนีตัวแสบ”“อ่อ ว่าที่พ่อตาคุณ”“เอ๊ะนั่น!” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสี่ยอาทรเท่ากับชายชราอีกคน ที่สวมชุดขาวทั้งตัวและมีหนาวเคราขาวรกรุงรัง “หมองู”“ว่าไงนะคะ” เจ้าหล่อนหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มทันที “หมายความว่าไงคะ เสี่ยอาทรพาหมองูมาที่นี่ทำไมคะ”“คุณจะกลับห้องพักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพวกเขาหน่อย เผื่อมีอะไรจะช่วยได้”หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง เธอลงจากรถไปด้
“แต่พี่ชายตรียังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลยนะครับ”“พี่หินฟื้นแล้วค่ะ พ้นขีดอันตรายแล้วด้วย ตรีบอกป๊ากับม๊าแล้ว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะคะ”แต่คนที่ขัดข้องคือว่าที่เจ้าบ่าวนี่แหละ เขายิ้มแทบไม่ออก ที่ยอมหมั้นในเวลานั้นก็เพราะบิดาใกล้เสียชีวิต อยากให้ท่านมีความสุขและสบายใจที่ลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้“ไหนๆก็หมั้นกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งกันสักที จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเขา แม่ว่าจะไปสู่ขอน้องตรีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ลูกคิดว่าไงจ๊ะ”“ผมยังไม่พร้อมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมดุหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมล่ะลูก นี่ลูกพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ น้องตรีเสียหายมากนะลูก ถูกคนเขาเม้าท์ไปทั่วว่าลูกไม่เอา...”“คุณน้าคะ...” เจ้าหล่อนสะอื้นฮึกฮักขึ้นมาจนทำให้มารดาของชายหนุ่มสงสาร คว้ามากอดแนบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ตรีรอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ”“ไม่เอานะลูก ไม่ร้องนะหนูตรี ยังไงพี่คินก็ต้องแต่งกับหนูตรีนะ”นาคินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาควรต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนที่เ
นาคินทร์ยิ้มนิดๆอย่างรู้ทัน “ไม่ต้องทำเสียงหวานเลย”“อ้าว นี่คุณจะไม่ช่วยหรือคะ”“ช่วยสิ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ เพื่อนรักของคุณทั้งคนนะ”“นี่ถ้ามันจับตัวฉันไป คุณจะทำไงคะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเสียงฉอเลาะ ยั่วเย้า เบียดเนื้อเบียดตัว “หือ...”“ผมก็จะฆ่ามันน่ะสิ” สายตาของเขายิ่งกว่าอสรพิษ ยามก้มเข้าหาใบหน้าเธอแล้วจูบแน่น เธอไม่ปล่อยให้เขาสูบเอาความหวานจากริมฝีปากอิ่มไปแต่เพียงผู้เดียว จึงจูบตอบพร้อมเคลื่อนขยับงับเม้มริมฝีปากร้ายของเขาอย่างกระหาย“อืม...” เขาพึงพอใจไม่น้อย ยามลิ้นอุ่นของหญิงสาวทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเขา ชายหนุ่มจึงตวัดลิ้นรัดรึงดุนดันจนพัลวันไปหมด“อา....” เธอครางผ่านลำคอออกมา ขณะเขาอุ้มร่างกายอรชนขึ้นแล้วนำไปที่เตียงนอน ก่อนกระโจนลงไปนัวเนียเล้าโลมอย่างกระหืดกระหาย จนร่างกายหญิงสาวอ่อนระทวย“ที่รักขา....”“ผมรักคุณ...แพทอง ผมรักคุณ” เขาคร่ำครวญขณะสอดใส่ลำยาวเข้าไปในกายเธอ หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนตวัดสองขาขึ้นรัดสะเอวของชายหนุ่มไว้ สะโพกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มขยับ กระแทกกระทั้นอย่างดุดัน“โอ้วววววว” หากแต่ทำไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก๊อกๆ ก๊อกๆ ชายหนุ่มจำต้องหยุดทำรั
“อยู่กับตรีที่นี่ได้มั้ยคะ ตรีเหงาน่ะค่ะ”เขาปลดมือเจ้าหล่อนออกอีกครั้ง อย่างไม่ไยดี “พี่มีอะไรต้องทำเยอะแยะเลย ไม่ว่างมาเฝ้าพี่ชายตรีหรอก อีกอย่าง ตรีก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายของตรีก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไหร่ จริงมั้ย?”เมื่อฟังเหตุผลข้อหลัง เจ้าหล่อนจึงยอมปล่อยชายหนุ่มออกจากห้องไป ไม่กล้ากระเง้ากระงอดอีก เพราะกลัวเขารำคาญ เธอตั้งใจจะหาโอกาสครั้งใหม่ ในการยั่วชายหนุ่มแล้วรวบหัวรวมหางซะ ให้เขาตกเป็นของเธอเธอกับเขาจะได้แต่งงานกันให้เร็วที่สุด!!! วิมาลายังนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีเพื่อนรักสองคนนั่งข้างเตียง ดูแลไม่ห่าง เจ้าหล่อนกำลังนึกถึงสิ่งที่โดนสองคนร้าย ลูกน้องสุดชั่วของอัคนีกระทำกับเธอ!!!“ว่าไงยัยวิ จะบอกได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” แพรทองเริ่มคาดคั้น เพราะเห็นเพื่อนเงียบไปนาน แต่วันวิสาแอบหยิกเนื้อแพรทองเบาๆเพื่อเตือนให้หยุดกวนสมาธิเพื่อนเสีย “พักผ่อนก่อนเถอะวิ จะได้แข็งแรงเร็วๆ”“ไม่” วิมาลาพูดขัดขึ้น “ฉันหลับไม่ลงจริงๆ”แพรทองจับมือวิมาลาไว้แน่น “พวกมันทำอะไรเธอรึเปล่า”“ทำสิ พวกมันทำ”“ไอ้พวกเลวระยำ” วันวิสาสบถด้วยความเจ็บใจ “เธอจำหน้าพวกมันได้ครบใช่มั้ย”“ใ
“บอกว่าคุณเป็นงูจงอางเหรอ”เขาหัวเราะเสียงใส อารมณ์ดี ก่อนจะหอมแก้มเธอเสียฟอดใหญ่ “บอกว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้ว และจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนแรกในชีวิตที่เธอร่วมรักด้วยและมีใจเสน่หา เธอเสียพรหมจรรย์ให้แก่เขา ผู้ชายครึ่งงู ตัวประหลาดที่มีอยู่จริงในโลกนี้“คุณวิฟื้นรึยัง”ชาญวุฒิถามเมีย ทันทีที่เจ้าหล่อนออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาลอำเภอ “ฟื้นแล้ว แต่หลับไปอีก เพราะฤทธิ์ยา”“เสียดายที่จับคนร้ายไม่ได้”“เอาไว้ให้ยัยวิฟื้นและมีสติก่อน เมื่อไหร่มันพร้อมจะให้ปากคำกับตำรวจ ไม่ว่าจะใหญ่โตคับฟ้ามาจากไหน ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย”“ยัยสา!” เสียงเรียกของแพรทองดังมาแต่ไกล วันวิสากับชาญวุฒิหันไปมองต้นเสียง ก็ได้เห็นแพรทองกับนาคินทร์เดินมาด้วยกัน“ยัยผึ้ง!”วันวิสาและแพรทองเข้าสวมกอดกันทันที เพื่อปลอบโยนกันและกัน ตามประสาเพื่อนรักที่รักกันราวกับพี่น้องท้องเดียว “ไม่เป็นไรแล้ว ยัยวิปลอดภัยแล้ว มันไม่เป็นอะไรแล้ว”เมื่อผละจากกัน วันวิสาจับมือแพรทองไว้แน่น“ฉันขอโทษนะที่ชวนพวกแกมา เลยทำให้พวกแกต้องเจอกับเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ ฉันดูแลพวก