ทั้งสามสาวเป็นเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยกันมา พอสำเร็จการศึกษาก็ยังได้ทำงานที่เดียวกันอีกด้วย ความสัมพันธ์จึงแน่นแฟ้นชนิดซี้ปึ๊กเลยทีเดียว
“ผึ้ง แกไม่เชื่อจริงๆเหรอ งูใหญ่ขนาดนี้นะโว้ย ต้องเป็นเนื้อคู่กระดูกคู่ร่วมบุญร่วมชาติกันมาหลายร้อยชาติแล้วแน่ๆ”
“เว่อร์” เจ้าหล่อนพูดใส่หน้าวิมาลาเสียงดังจนผู้โดยสารรอบข้างหันมอง ก็เลยจำต้องเบาเสียงลงในประโยคต่อมา “โอเค ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่ได้จริงเสมอไปไงแก บอกแล้วไงว่าฝันถึงงูตัวนี้มาหลายครั้งแล้ว หลายครั้งจนฉันจำหน้ามันได้แล้วนะ นี่ถ้าโผล่มาอีกทีนะ ฉันจะสับให้เละเอามาทำลาบทำน้ำตกเลยคอยดู”
แพรทองหลับตาอีกครั้ง เพื่อบอกลาการสนทนาที่เธอเบื่อหน่ายสุดๆ ขณะวิมาลาเริ่มจะหมั่นไส้เพื่อนรักเข้าแล้วสิ ที่เจ้าหล่อนดื้อด้านไม่ยอมเชื่อ
“สาธุ ขอให้มาจริงๆเหอะ อยากรู้นักว่าจะสับให้เละหรือถลกผ้าถุงให้” วิมาลาแบะปากใส่เพื่อน ก่อนจะวางหลังพิงพนัก แล้วบ่นเหมือนคนแก่ “เฮ้อ ยัยสาก็กำลังจะแต่งงาน ส่วนแกก็อาจจะได้เจอเนื้อคู่เร็วๆนี้ สงสัยเหลือแค่ฉันคนเดียวแหง๋ ที่ต้องนอนตีพุงบนคาน ทำไงดีวะ อยากมีผัวกับเขามั่ง ทำยังไงให้ฝันเห็นงูกับเขาบ้าง เจ้าประคู้ณ ขอให้หนูฝันเห็นงูตัวใหญ่ๆหรืออนาคอนด้าก็ได้เจ้าค่ะ แล้วหนูจะถวายหัวหมูเลยเอ้า!”
วิมาลาบ่นและบนคนเดียวไปตามประสาคนอยากมีผัว ก่อนจะหลับไปเพราะความเพลียในที่สุด
แต่คนที่ตื่นตลอดคืนและนอนไม่หลับคือแพรทองนั่นเอง ใช่ว่าเธอไม่คิดเรื่องที่เพื่อนพูดกรอกหูตั้งแต่รถออกจาก บขส.หมอชิต กระทั่งเดินทางผ่านมาหลายจังหวัด
เนื้อคู่เหรอ...เธอคิดถึงมันตลอดแหละ...เนื้อคู่ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน?
“เนื้อคู่ฉันยังไม่เกิดมั้ง หรือไม่ก็ตายไปแล้ว” เธอบอกตัวเองเช่นนั้น เพราะเธอท้อใจและหมดหวังกับเรื่องผู้ชายมาหลายปีแล้ว ด้วยตั้งแต่เกิดมา เธอยังไม่เคยมีแฟนกับเขาเลยสักคน อย่าว่าแต่เนื้อคู่เลย แค่คนที่เธอแอบชอบหรือแอบสนใจ ก็ยังไม่เจอแม้แต่เงา “ชีวิตนี้ ไม่พ้นขึ้นคานแน่ๆ ไม่รู้จะเกิดมาสวยทำไมให้เปล่าประโยชน์”
แต่ไม่เคยได้ใช้งานกับเขาสักครั้ง!
“เฮ้อ.....สงสัยจะยานก่อนแน่ๆ”
สวยหยาดเยิ้มกับหน้าอกที่ล้นทะลัก และก้นกลมแน่นงดงามนวลเนียน ด้วยคุณลักษณะที่เย้ายวนขนาดนี้ เธอไม่น่าจะเหลือ แต่ก็เหลือ มันก็จริงที่เธอเคยเล่นตัวมาตลอด แต่พอพ้นยี่สิบสองมาแล้ว เธอก็ผ่อนปรนกฏเกณฑ์ไปหลายข้อ แต่กระนั้นก็ยังไร้คนดมดอม อย่าหวังถึงมนุษย์ผู้ชายเลย แม้แต่ยุงสักตัวก็ไม่มี!!!เว้นก็แต่...งูจงอางยักษ์ตัวนั้น!!เธอไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เพื่อนฟัง เธอไม่ได้บอกถึงสิ่งที่น่าอับอายสำหรับเธอ ใช่แล้ว เธอกับงูตัวนั้นมีความสัมพันธ์กันทุกครั้งที่ฝันถึง และทุกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนมันเป็นเรื่องจริง !!!มันเริ่มต้นเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเธอเพิ่งจะฉลองอายุครบยี่สิบ เธอไปเยี่ยมญาติที่หนองคาย เธอจำได้แม่นว่าคืนนั้นพระจันทร์เต็มดวง นวลสวย สว่างไสว ขณะที่เธอนอนหลับสบายที่บ้านพักริมแม่น้ำโขงเจ้างูยักษ์ตัวนั้นก็โผล่เข้ามาในความฝันของเธอ...เธอผวาและตกใจสุดขีดที่ได้เห็นมันจ้องมองอยู่ตรงหน้า แววตาเลือดเย็นจนน่าขนลุก ขนาดลำตัวที่ใหญ่เท่าๆขามนุษย์ผู้ชาย และความยาวเกือบห้าเมตร!!!วินาทีเผชิญหน้ากันครั้งแรก หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกจากขั้ว เธอรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริง เธอรู้สึกถึงการสัมผัสที่เ
วิมาลาชวนคุยไปเรื่อย ขณะจัดแจงแต่งหน้าเพิ่มความสดใสก่อนลงจากรถ ส่วนแพรทองลุกจากที่นั่ง ทำสมาธิ ตั้งสติครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดลมหายใจลึกยาวเพื่อผ่อนคลายอารมณ์และความตึงเครียดในหัว“ไม่เห็นจะหนาวเลย ร้อนจะตาย” เจ้าหล่อนบิดเนื้อตัวเพื่อคลายกล้ามเนื้อ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นทำให้เรือนร่างเธอดูโดดเด่นจนใครก็ต้องมอง “ยังมืดอยู่เลย ลองโทรหายัยสาซิว่ามาถึงรึยัง”วันวิสาว่าที่เจ้าสาวบอกว่าจะมารับเพื่อนรักจากกรุงเทพฯด้วยตัวเองในเช้ามืดวันนี้ แต่เจ้าหล่อนกลับผิดคำพูด โดยแจ้งว่ามาไม่ได้ เพราะติดธุระสำคัญเกี่ยวกับงานวิวาห์ “ยัยสามันบอกว่า มันให้เพื่อนเจ้าบ่าวมันมารับแทน”“เหรอ ใครอ่ะ? คนไหน?”“โน่นมั้ง” วิมาลาชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้ารถกระบะคันใหญ่ “มันบอกว่า รถกระบะสองตอนสีดำ ทะเบียน...”แพรทองทอดสายตาไปตามนิ้วชี้ของวิมาลา ทำให้เธอได้เห็นชายหนุ่มร่างสูง ล่ำสัน บึกบึนสมเป็นชายชาตรีผู้หนึ่ง เขาสวมเสื้อยืดสีดำสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตหนังสุดเท่ และกางเกงยีนสีซีด...ดูสมาร์ทไม่เบา“อุ๊ย! หล่ออ่ะแก” วิมาลาตาโต เนื้อเต้นทันทีที่เห็นเขาชัดขึ้นเมื่อเขาหันมามองสองสาว “ยัยสาบอกว่าเขาเป็นลูกช
วิมาลารู้ว่าความสวยของเธอเทียบไม่ติดแพรทอง แต่ความขาวและหมวยของเธออาจเข้าตาหนุ่มบ้านนอกสุดหล่อคนนี้ก็เป็นได้...ใครจะไปรู้!!!“เออ เอาไปเหอะ ไม่ใช่สเป๊ก” ถึงแม้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเธอชอบผู้ชายแบบไหนก็ตาม “ไปได้แล้ว”แพรทองถือกระเป๋าใบใหญ่เดินไปหาชายหนุ่มผู้นั้น เขาหันมามองเธออยู่นาน ก่อนจะหันมองวิมาลาที่เคลื่อนตัวเข้าบังแพรทองไว้จนเกือบมิด “คุณนาคินทร์รึเปล่าคะ”“ครับ” เสียงนุ่มชะมัด “ผมนาคินทร์ เป็นเพื่อนของชาญวุฒิและวันวิสาครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ...”“ฉันวิมาลาค่ะ หรือจะเรียกว่าวิก็ได้ ส่วนนี่” เจ้าหล่อนชี้ไปที่แพรทองซึ่งยืนเชิดหน้าอยู่ข้างๆ “แพรทอง หรือจะเรียกว่ายัยผึ้งก็ได้ค่ะ คุณนาคินทร์มารอนานแล้วหรือคะ”นาคินทร์จ้องมองแพรทองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปมองวิมาลาที่ถามเจื้อยแจ้วไม่หยุด สายตาของเขาทำให้แพรทองสั่นสะเทือนอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่เคยต้องร่างกายปั่นป่วนเพราะผู้ชายมาก่อนเลย ตานี่เป็นคนแรก!!!“ไม่นานหรอกครับ ก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน เชิญคุณวิกับคุณผึ้งขึ้นรถเถอะครับ เราต้องเดินทางต่อด้วยรถยนต์อีกประมาณเก้าสิบกิโลจึงจะถึงภูซางครับ”“ห๊า!!! เก้าสิบกิโลเลยหรือคะ” วิมาลาแกล้
“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหล่อนขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย ชายหนุ่มขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับตามหน้าที่ ก่อนจะบึ่งรถออกจากสถานีขนส่งจังหวัด เพื่อมุ่งตรงไปยังอำเภอภูซางบ้านเกิดทันที “พวกคุณสองคนเดินทางไกลมาทั้งคืนคงจะเหนื่อยน่าดูสินะครับ ถ้าจะนอนเอาแรงก็ไม่เป็นไรนะครับ ตามสบายเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ” แพรทองชิงวิมาลาที่กำลังอ้าปากจะพูด บอกเสียเอง ด้วยน้ำเสียงกระด้างนิดๆ “ฉันสองคนนอนบนรถทัวร์มาหลายชั่วโมงแล้ว นอนจนเบื่อล่ะค่ะ ขอชมทิวทัศน์ตามรายทางดีกว่า”อันที่จริงเธอไม่ไว้ใจเขาต่างหาก ผู้ชายอะไร สายตาเจ้าชู้ มองกระจกส่องหลังอยู่เรื่อย จนเธอสบตากับเขาไม่รู้สักกี่ครั้ง มันทำให้ใจเธอเต้นแปลกๆ“คุณนาคินทร์มากกว่าที่เหนื๊อยเหนื่อย” วิมาลายิ้มหน้าแป้นแล้นใส่ชายหนุ่ม “ อุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามืดมารับวิ เอาไว้ถ้ามีโอกาสให้วิเลี้ยงข้าวนะคะ”“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไร ปกติผมขับรถเข้าเมืองบ่อยอยู่แล้ว เวลามาทำธุระให้คุณแม่”“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องตอบแทน เอามื้อไหนดีคะ”“มางานแต่งเพื่อนนะ ไม่ได้มาเที่ยว” แพรทองติงเพื่อนจอมยั่วทันที “มัวแต่จีบผู้ชายอยู่นั่นล่ะ คุณนาคินทร์คะ...”“เรียกผมว่าคินก็ได้ครับ” เขาเสนอเธอ ด้วยสีห
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถามได้ ผมยังไม่แต่งงานครับ”“อุ๊ยตาย! หล่อขนาดนี้ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจะเหลือ” วิมาลาตะโกนลั่น เจ้าหล่อนก็มีความหวังน่ะสิ ทว่า...“ไม่เหลือหรอกครับ ผมมีคู่หมั้นแล้วครับ” มีคู่หมั้นแล้ว...แต่ยังทำตาแบบนั้นใส่เธอ หมอนี่เจ้าชู้ไม่น้อย แพรทองรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาดื้อๆ“มีคู่หมั้นแล้วหรือคะ” วิมาลาหน้าจ๋อยทันที ความหวังของเธอพังทลาย “แล้วก็ไม่บอก ปล่อยให้วิมโนไปไกลถึงดาวอังคารเลยค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะ ขนาดเสียงหัวเราะยังหล่อเลย“มโนเรื่องอะไรครับ”“ปละ เปล่าค่ะ วิล้อเล่น แหม ก็คุณคินทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนรักก็คงจะแปลกล่ะค่ะ ยินดีด้วยนะคะ” วิมาลายิ้มอย่างเสียดาย “คู่หมั้นคงน่ารักมากเลยใช่มั้ยคะ”“ไม่ต้องยินดีหรอกครับ พอดีเราหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่นะครับ ไม่ใช่เพราะรักกัน” เขาตั้งใจจะบอกให้หญิงสาวที่นั่งเบาะหลังรู้มากกว่าใคร นั่นเพราะเขารู้สึกสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น...ผู้หญิงสวยที่ดูหยิ่งนิดๆแบบนี้แหละ น่าค้นหาเป็นที่สุด “พวกคุณสองคนล่ะ แต่งงานรึยัง?”“ยังค่ะ” วิมาลารีบตอบ “แต่ยัยผึ้งอ่ะ กำลังจะเจอเนื้อคู่ค่ะ เพราะนางฝันถึง ง...”“ยัยวิ!” แพรทองตวาดเพื่อนเป็นครั้งที
“มองหาอะไรอยู่ยะ!”“เปล๊า” คนถูกทักถึงกับสะดุ้งโหยง “ก็แบบ...คุณนาคินทร์มาส่งพวกฉันเสร็จก็ไปเลยเหรอ ทำไมไม่เห็นเลยอ่ะ ไปจอดรถตรงไหนนะ???”“นั่นแน่ยัยวิ!”“คุณวิชอบไอ้คินเหรอครับ” ชาญวุฒิถึงกับหัวเราะร่า น้ำตาเล็ด “ไปชอบมันได้ไงครับ ไอ้นี่ปากหมาจะตาย อีกอย่าง มันมีคู่หมั้นแล้วนะครับ แล้วคู่หมั้นมันเนี่ย น่ากลัวสุดๆ”“น่ากลัวยังไงคะ”“เอาไว้เห็นเองจะดีกว่าครับ อย่าให้พูดเลย เดี๋ยวหาว่านินทา”“โอ้ว สงสัยจะแรงส์แน่ๆ”“ฉันขอเข้าที่พักเลยได้มั้ยสา?” แพรทองพูดแทรกวงสนทนา เพราะไม่อยากได้ยินเรื่องของหมอนั่นแล้ว “ฉันอยากอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็พักสักสองสามชั่วโมง จะได้มีแรงมาช่วยงานแกบ้างไง”“โอ๊ยแก ไม่ต้องช่วยอะไรเลย พักผ่อนให้สบายเถอะ ฉันให้พวกแกมาร่วมงานในฐานะเพื่อนเจ้าสาว ไม่ได้ให้มาช่วยทำงาน” วันวิสาพูดจบก็หันไปหาว่าที่เจ้าบ่าว “วุฒิไปดูพวกคนงานหน่อยนะว่าจัดสถานที่สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ได้เป๊ะตามสั่งรึเปล่า เดี๋ยวสาพาเพื่อนไปส่งที่ห้องพักแล้วจะรีบตามไป”“ได้จ้ะที่รัก”“ส่วนแกสองคนตามมาเลย ฉันเตรียมห้องพักสุดหรูไว้ให้พวกแกสองคนแล้ว เรือนพักริมน้ำระดับห้าดาวเชียวนะโว้ย”วันวิสาลากเ
“ในที่สุด เราก็ได้เจอกัน” เขากำลังพูดกับหญิงสาวในภาพ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับแพรทองไม่มีผิด “คุณรู้มั้ย ว่าผมฝันถึงคุณมานานแค่ไหนแล้ว นางฟ้าในฝันของผม ผมไม่เคยลืมเลยนะ ว่าคุณทำให้ผมมีความสุขมากแค่ไหน”ชายหนุ่มกวาดสายตามองภาพเขียนฝีมือตัวเองไปโดยรอบ เขาไม่เคยนับเลยว่าเคยวาดรูปของนางในฝันมากี่ภาพแล้ว รู้เพียงแค่ว่า หลังจากที่ฝันถึงเธอทุกครั้ง พอตื่นในตอนเช้า เขาก็จะจับดินสอทันที “แพรทองเหรอ?...ตัวจริงของคุณดูดุจัง แต่ในฝัน คุณโคตรน่ารักเลย”นาคินทร์ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงนอน แล้วหลับตานิ่ง...เขาไม่ได้พยายามจะฝันถึงเธอเหมือนห้าปีที่ผ่านมาเขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พยายามจะฝันถึงเธอ เขาไม่เคยทำสำเร็จ หากแต่วันใดที่เขามีจิตใจที่โล่งโปร่งสบาย คืนนั้นเจ้าหล่อนจะมาปรากฏกายบนเตียงของเขาอย่างแน่นอน“กลิ่นเนื้อตัวของคุณหอมมาก มันเป็นกลิ่นที่ติดจมูกจริงๆ” เนื้อตัวของเจ้าหล่อนทำให้เขาโหยหา หัวใจเต้นรัวและเนื้อกายสั่นเทา “ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้นะ”มันอดไม่ได้ที่เขาจะหวนนึกถึงภาพการร่วมรักระหว่างเขากับเธอที่กระทำกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปเอาพลังงานมาจากไหน ถึงได้ทะลวงและกระ
หญิงสาวอดหัวเราะเพื่อนไม่ได้ ก่อนหันมองรอบห้องที่กว้างขวางและสะดวกสบาย สไตล์ไทยผสมโมเดิลที่ให้ความรู้สึกลงตัวทุกซอกทุกมุม“บรรยากาศดี๊ดี”เธอเดินไปหยุดมองทิวทัศน์ของลำธารสวยขนาดใหญ่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจีเบื้องหน้า ทั้งๆที่ยังสวมผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว ด้วยความที่คิดไปเองว่าคงไม่มีใครเห็น“อากาศเย็นสบายดีจัง กลิ่นดอกไม้ก็หอมตลบอบอวลไปหมด แชื่นใจสุดๆ น้ำในลำธารก็ใสน่าเล่นชะมัดเลย เฮ้อ สงสัยฉันจะหลงเสน่ห์เมืองนี้เข้าแล้วสินะ”เจ้าหล่อนจ้องมองไปยังลำธารสวยขนาดใหญ่ ที่มีทั้งแก่งและกลุ่มโขดหินตั้งเรียงรายไปทั่ว เวลาเย็นย่ำเช่นนี้ แสงอาทิตย์อุ่นๆที่สาดส่องลงมายิ่งทำให้ผืนน้ำสวยงามระยิบระยับ“เอ๊ะ...ทางนั้น” แพรทองพยายามจ้องมองผานไปยังริมลำธารฝั่งตรงข้าม เธอจึงได้เห็นบ้านพักหลังใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หมู่ไม้เขียวครึ้ม “มีบ้านอยู่ตรงนั้นใช่มั้ยนะ หรือว่าเป็นรีสอร์ทเหมือนกัน”หญิงสาวพยายามจ้องมองบ้านพักหลังนั้น เพื่อดูว่ามีใครอยู่หรือไม่ แต่เพ่งเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เธอไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียวทว่า...หากเจ้าหล่อนยืนอยู่ในบ้านพักหลังนั้น เจ้าหล่อนก็จะรู้ว่าสามารถมองเห็นเรือนพักของเธอได้ชัดเจน และเห็
“เออสิ ก็ยัยสาวิตรีน่ะมันชอบคินมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอโตขึ้นมันก็ร้องจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ให้มันแต่งงานกับคิน”“ว๊ายตาย อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยเหรอ”“แล้วทำไมเขาตกลงล่ะ” แพรทองเองที่อยากรู้ “หรือว่าตอนนั้นก็แอบมีใจให้ยัยนั่นอยู่เหมือนกัน”“ฉันว่าไม่ใช่ เดาว่าคินทำตามที่พ่อต้องการ และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีใครด้วย ไม่เหมือนตอนนี้...”วินาทีนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ“วุฒิ กลับมาแล้วหรือคะ”“ใช่ ผมได้หลักฐานมาแล้วนะ แล้วก็จัดการส่งให้ตำรวจแล้ว ตอนนี้นายอัคนีถูกเรียกไปสอบสวนแล้ว”ทั้งสามสาวพากันดีใจเฮละโล “แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทเราล่ะ?”“แน่นอน” ชาญวุฒิหมายมั่นปั้นมือ “ภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวนายอัคนีแบบดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”“อะไรนะ นี่มีภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ” แพรทองถามอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอยัยสา?”“ใช่ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อมันจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานมันชัดขนาดนี้ มันก็หนีคุกหนีตะรางไม่พ้นหรอก” วันวิสาพูดด้วยความสะใจ “โทษฐานที่มันล้วงคองูเห่า”ใครบอกว่าล้วงคองูเห่า...มันล้วงคองูจงอางต่างหาก!!!“อ้อ สาจ๊ะ ได้ข่าวเรื่องบ
เธอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างโหยหา “อะไรคะ”“ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จะล้างคำสาปในตัวผมจนหมดสิ้น แล้วผมจะกลายเป็นมนุษย์เต็มตัว ไม่ต้องเป็นงูอีกแล้ว”“หืม...” หญิงสาวรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “จริงหรือคะ?”“จริง คุณจะช่วยล้างคำสาปให้ผมรึเปล่า”“ช่วยสิคะ แล้วฉันต้องทำยังไง”“คุณก็แค่รักผมให้มากๆ และยอมให้ผมทำอะไรกับคุณก็ได้ในคืนนั้น”“ทำอะไรก็ได้ หมายถึงกัดรึคะ” เจ้าหล่อนยิ้มยั่ว“มั้ง” เขายิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกสวยของหญิงสาว “แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะถึงวันเพ็ญ คุณก็ต้องยอมเป็นเมียงูไปก่อนนะ”“ใครบอกคะ ฉันลาพักร้อนได้แค่สิบห้าวันเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ใช้ไปตั้งสามวันแล้วนะคะ ฉันคงต้องกลับกรุงเทพฯก่อนถึงวันเพ็ญ”“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอก”“ก็คอยดูว่าฉันจะไปได้รึเปล่า ฉันไม่ได้มีคู่หมั้นอย่างใครบางคนนี่คะ” เจ้าหล่อนแสร้งพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อเตือนความจำของเขา“พรุ่งนี้ผมกูกถอนหมั้นแล้วคุณ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น “เหรอ?”เขายิ้มร่า ดูกะล่อนไม่เบา “ไม่เชื่อคุณก็คอยดูแล้วกัน”“อืม....อ้า!!!...” เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอ ก้าวล้ำเข้าไปภายในของเจ้า
วันวิสาและวิมาลามองหน้ากัน รู้สึกทะแม่งๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน“อ๊ะๆ ทำไมห่วงนายคินขนาดนั้นยะ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าเนี่ยคู่นี้” วันวิสาแซว แพรทองทำหน้าแทบไม่ถูก เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างรู้สึกสำนึกผิด“วิ แกอย่าโกรธฉันนะ”วิมาลาจ้องแพรทองนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ”แพรทองก้มหน้านิดๆ เธอจะพูดอย่างไรดี ให้เพื่อนเสียใจน้อยที่สุด และไม่เกลียดโกรธเธอที่แย่งผู้ชายที่เธอหมายปองไปแต่เจ้าหล่อนไม่ทันจะตอบเพื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน วันวิสาเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ทุกคนกำลังรอคอย“นาคินทร์!!!” เขากลับมาแล้ว ในสภาพที่ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด “ทุกอย่างเรียบร้อย คลิปของคุณถูกทำลายแล้ว ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่โรงพักแล้ว ยอมออกไปมอบตัวด้วยตัวเอง”“จริงหรือคะ!!!” วิมาลาดีใจจนเกือบจะกรี๊ดออกมา “ขอบคุณนะคะคุณคิน คุณนี่ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยค่ะ แล้ววิจะเลี้ยงข้าวนะคะ”“แล้วคินทำยังไงให้พวกนั้นมันยอมมอบตัวได้” วันวิสาถามอย่างใคร่รู้นาคินทร์หันมองหญิงสาวที่กุมความลับเขาไว้ เธอยิ้มนิดๆให้เขา“ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันคงสำนึกผิดเองมั้ง”“
“คุณอย่าชะล่าใจนะ หมองูคนนั้นท่าทางน่ากลัวจะตายไป บางทีเขาอาจจะมีคาถาอาคมแก่กล้าจนคุณนึกไม่ถึงก็ได้”เขาหัวเราะ “เอาเป็นว่า เรามาคอยดูกันคืนนี้ดีมั้ย ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน”“คุณนี่นะ ยังจะปากดีอีก ฉันว่าคืนนี้คุณอย่าอยู่ที่เมืองนี้เลย ไปไหนก็ได้ ให้มันไกลๆ เชียงใหม่เชียงราย หรือ...”“ไม่ ผมจะอยู่ที่นี่” เขาจับมือเธอแล้วบีบแน่น “ผมวางแผนจะออกไปเล่นงานลูกน้องไอ้อัคนีคืนนี้ ผมนัดแนะกับงูตัวอื่นๆไว้แล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันหมดแล้ว ผมไปไหนไม่ได้หรอก”“คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” เธอเริ่มจะหัวเสียแล้ว “เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอตัวก่อน เดี๋ยวยัยสาจะมารับไปเยี่ยมยัยวิที่โรงพยาบาล”เจ้าหล่อนหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เขาคว้าข้อมือเธอไว้“ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะคุณ มีเมียสวยขนาดนี้จะทิ้งให้เป็นหม้ายได้ยังไง คืนนี้รอฟังข่าวดีนะ”ในที่สุดเธอก็แพ้เขา ยอมปล่อยเขาไป ตามที่เขาต้องการ เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพักเรียบร้อย ไม่นานนัก วันวิสาก็โทรศัพท์ให้เธอออกไปรอที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ทขณะเดินออกจากเรือนพัก เธอเห็นหมองู เสี่ยอาทรและลูกน้องสามสี่คน กำลังจัดเตรี
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจูบแน่น ก่อนเงยหน้ามองด้วยสายตาออดอ้อน “ผมรักคุณนะ รักคุณมากจริงๆ อดทนอีกนิด แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่าสาวิตรีจะทิ้งผมทันทีเลย”เธอหน้าตื่น “คุณจะทำยังไงคะ หรือว่าคุณจะเผยตัวตน”เขาส่ายหน้า “มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”ขณะนั้นเอง บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารกลางของรีสอร์ท ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หนึ่งในนั้น มีบิดามารดาของวันวิสา และเสี่ยอาทร บิดาของอัคนีและสาวิตรีเดินมาด้วยกัน ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคน เหมือนมีเรื่องกังวลใจหนักหนา“มีเรื่องอะไรรึเปล่า เสี่ยอาทรถึงมาที่นี่”“ใครคะ”“โน่น พ่อของนายอัคนีตัวแสบ”“อ่อ ว่าที่พ่อตาคุณ”“เอ๊ะนั่น!” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสี่ยอาทรเท่ากับชายชราอีกคน ที่สวมชุดขาวทั้งตัวและมีหนาวเคราขาวรกรุงรัง “หมองู”“ว่าไงนะคะ” เจ้าหล่อนหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มทันที “หมายความว่าไงคะ เสี่ยอาทรพาหมองูมาที่นี่ทำไมคะ”“คุณจะกลับห้องพักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพวกเขาหน่อย เผื่อมีอะไรจะช่วยได้”หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง เธอลงจากรถไปด้
“แต่พี่ชายตรียังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลยนะครับ”“พี่หินฟื้นแล้วค่ะ พ้นขีดอันตรายแล้วด้วย ตรีบอกป๊ากับม๊าแล้ว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะคะ”แต่คนที่ขัดข้องคือว่าที่เจ้าบ่าวนี่แหละ เขายิ้มแทบไม่ออก ที่ยอมหมั้นในเวลานั้นก็เพราะบิดาใกล้เสียชีวิต อยากให้ท่านมีความสุขและสบายใจที่ลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้“ไหนๆก็หมั้นกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งกันสักที จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเขา แม่ว่าจะไปสู่ขอน้องตรีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ลูกคิดว่าไงจ๊ะ”“ผมยังไม่พร้อมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมดุหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมล่ะลูก นี่ลูกพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ น้องตรีเสียหายมากนะลูก ถูกคนเขาเม้าท์ไปทั่วว่าลูกไม่เอา...”“คุณน้าคะ...” เจ้าหล่อนสะอื้นฮึกฮักขึ้นมาจนทำให้มารดาของชายหนุ่มสงสาร คว้ามากอดแนบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ตรีรอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ”“ไม่เอานะลูก ไม่ร้องนะหนูตรี ยังไงพี่คินก็ต้องแต่งกับหนูตรีนะ”นาคินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาควรต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนที่เ
นาคินทร์ยิ้มนิดๆอย่างรู้ทัน “ไม่ต้องทำเสียงหวานเลย”“อ้าว นี่คุณจะไม่ช่วยหรือคะ”“ช่วยสิ ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ เพื่อนรักของคุณทั้งคนนะ”“นี่ถ้ามันจับตัวฉันไป คุณจะทำไงคะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเสียงฉอเลาะ ยั่วเย้า เบียดเนื้อเบียดตัว “หือ...”“ผมก็จะฆ่ามันน่ะสิ” สายตาของเขายิ่งกว่าอสรพิษ ยามก้มเข้าหาใบหน้าเธอแล้วจูบแน่น เธอไม่ปล่อยให้เขาสูบเอาความหวานจากริมฝีปากอิ่มไปแต่เพียงผู้เดียว จึงจูบตอบพร้อมเคลื่อนขยับงับเม้มริมฝีปากร้ายของเขาอย่างกระหาย“อืม...” เขาพึงพอใจไม่น้อย ยามลิ้นอุ่นของหญิงสาวทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเขา ชายหนุ่มจึงตวัดลิ้นรัดรึงดุนดันจนพัลวันไปหมด“อา....” เธอครางผ่านลำคอออกมา ขณะเขาอุ้มร่างกายอรชนขึ้นแล้วนำไปที่เตียงนอน ก่อนกระโจนลงไปนัวเนียเล้าโลมอย่างกระหืดกระหาย จนร่างกายหญิงสาวอ่อนระทวย“ที่รักขา....”“ผมรักคุณ...แพทอง ผมรักคุณ” เขาคร่ำครวญขณะสอดใส่ลำยาวเข้าไปในกายเธอ หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนตวัดสองขาขึ้นรัดสะเอวของชายหนุ่มไว้ สะโพกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มขยับ กระแทกกระทั้นอย่างดุดัน“โอ้วววววว” หากแต่ทำไปได้สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก๊อกๆ ก๊อกๆ ชายหนุ่มจำต้องหยุดทำรั
“อยู่กับตรีที่นี่ได้มั้ยคะ ตรีเหงาน่ะค่ะ”เขาปลดมือเจ้าหล่อนออกอีกครั้ง อย่างไม่ไยดี “พี่มีอะไรต้องทำเยอะแยะเลย ไม่ว่างมาเฝ้าพี่ชายตรีหรอก อีกอย่าง ตรีก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่ชายของตรีก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สักเท่าไหร่ จริงมั้ย?”เมื่อฟังเหตุผลข้อหลัง เจ้าหล่อนจึงยอมปล่อยชายหนุ่มออกจากห้องไป ไม่กล้ากระเง้ากระงอดอีก เพราะกลัวเขารำคาญ เธอตั้งใจจะหาโอกาสครั้งใหม่ ในการยั่วชายหนุ่มแล้วรวบหัวรวมหางซะ ให้เขาตกเป็นของเธอเธอกับเขาจะได้แต่งงานกันให้เร็วที่สุด!!! วิมาลายังนอนลืมตานิ่งๆอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีเพื่อนรักสองคนนั่งข้างเตียง ดูแลไม่ห่าง เจ้าหล่อนกำลังนึกถึงสิ่งที่โดนสองคนร้าย ลูกน้องสุดชั่วของอัคนีกระทำกับเธอ!!!“ว่าไงยัยวิ จะบอกได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” แพรทองเริ่มคาดคั้น เพราะเห็นเพื่อนเงียบไปนาน แต่วันวิสาแอบหยิกเนื้อแพรทองเบาๆเพื่อเตือนให้หยุดกวนสมาธิเพื่อนเสีย “พักผ่อนก่อนเถอะวิ จะได้แข็งแรงเร็วๆ”“ไม่” วิมาลาพูดขัดขึ้น “ฉันหลับไม่ลงจริงๆ”แพรทองจับมือวิมาลาไว้แน่น “พวกมันทำอะไรเธอรึเปล่า”“ทำสิ พวกมันทำ”“ไอ้พวกเลวระยำ” วันวิสาสบถด้วยความเจ็บใจ “เธอจำหน้าพวกมันได้ครบใช่มั้ย”“ใ
“บอกว่าคุณเป็นงูจงอางเหรอ”เขาหัวเราะเสียงใส อารมณ์ดี ก่อนจะหอมแก้มเธอเสียฟอดใหญ่ “บอกว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้ว และจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนแรกในชีวิตที่เธอร่วมรักด้วยและมีใจเสน่หา เธอเสียพรหมจรรย์ให้แก่เขา ผู้ชายครึ่งงู ตัวประหลาดที่มีอยู่จริงในโลกนี้“คุณวิฟื้นรึยัง”ชาญวุฒิถามเมีย ทันทีที่เจ้าหล่อนออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาลอำเภอ “ฟื้นแล้ว แต่หลับไปอีก เพราะฤทธิ์ยา”“เสียดายที่จับคนร้ายไม่ได้”“เอาไว้ให้ยัยวิฟื้นและมีสติก่อน เมื่อไหร่มันพร้อมจะให้ปากคำกับตำรวจ ไม่ว่าจะใหญ่โตคับฟ้ามาจากไหน ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย”“ยัยสา!” เสียงเรียกของแพรทองดังมาแต่ไกล วันวิสากับชาญวุฒิหันไปมองต้นเสียง ก็ได้เห็นแพรทองกับนาคินทร์เดินมาด้วยกัน“ยัยผึ้ง!”วันวิสาและแพรทองเข้าสวมกอดกันทันที เพื่อปลอบโยนกันและกัน ตามประสาเพื่อนรักที่รักกันราวกับพี่น้องท้องเดียว “ไม่เป็นไรแล้ว ยัยวิปลอดภัยแล้ว มันไม่เป็นอะไรแล้ว”เมื่อผละจากกัน วันวิสาจับมือแพรทองไว้แน่น“ฉันขอโทษนะที่ชวนพวกแกมา เลยทำให้พวกแกต้องเจอกับเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ ฉันดูแลพวก