“ซี๊ด~แสบชะมัด ไม่เช็ดแล้วดีกว่า” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง รีบเก็บแอลกอฮอล์เตรียมปิดพลาสเตอร์
“ทำอะไรของเธอ ทำไมไม่ล้างแผลก่อน” ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาข้างกัน มือหนาจับรั้งข้อเล็กไว้แน่น
“จะทำอะไร ไม่เอามันแสบ”
“นั่งนิ่งๆ”
“ดุอย่างกับหมา”
“เดี๋ยวจะโดนดี!! โตป่านนี้แล้วทำแผลไม่เป็นรึไง” เสียงทุ้มบนงึมงำในขณะที่มือหนาใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์บรรจงเช็ดอย่างเบามือ ใส่ยา ปิดพลาสเตอร์ให้เป็นอันเสร็จ
“ขอบ....” โมเอิร์นเอ่ยไม่ทันจบประโยคคำพูดทั้งหมดต้องกลืนกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อเซนโซ่แทรกขึ้น
“ซุ่มซ่าม!”
“นี่!ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย” ไม่ต้องขอบคงขอบคุณมันแล้ว ไอ้ผู้ชายปากเสีย ชิ๊!
“กลับไปนอนได้แล้ว”
“....”
“หรืออยากนอนกับฉัน” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงได้ยินคำพูดกำกวมของเขา ร่างบางดันตัวลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องทำงานกลับไปยังห้องนอนเล็ก จึงไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหล่อเหลา
ร่างสูงดูดีนั่งบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดกับงานเอกสารตรงหน้า ออเดอร์สั่งซื้อสินค้าและจำนวนเงินไม่ตรงกับสินค้าที่ถูกส่งออกไป“เรียกผมมา...มีอะไรรึเปล่าครับนาย” จิมเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของคนเป็นเจ้านายหยุดยืนหน้าโต๊ะสุดหรู“มึงไปสืบหาตัวคนที่มันกล้ายักยอกของกู เร็วที่สุด!”“อะไรนะครับ”“หูแตกรึไงวะ!? มีคนในแอบขนสินค้าออกไปพวกมึงทำงานกันยังไง!!” เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยไฟโทสะ ทำคนฟังสะดุ้งโหยงตกใจ“เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบหาตัวมันมาลงโทษให้เร็วที่สุด” จบคำ จิมโค้งศีรษะลงเล็กน้อยรีบสาวเท้าออกจากห้องไป ‘ใครวะกล้าทำแบบนั้น มึงไม่ตายดีแน่’ จิมคิดในใจ เขาต้องรีบหาตัวให้เจอไม่อย่างนั้นเขาอาจจะซวยไปด้วยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นให้หลังลูกน้องคนสนิทเดินออกไปมือหนาหยิบโทรศัพท์กดต่อสายหาเพื่อนสนิททั้งสองคน และนัดแนะไปดื่มเพื่อพูดคุยธุระสำคัญ“เป็นคนนัดพวกกูแท้ๆ แต่ดันมาช้า” นอร์ธว่าขณะเซนโซ่นั่งลงบนโซฟาตัวว่า
“โมเกิดอะไรขึ้น”“เป็นอะไรโม”พะแพงกับนิวถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงบรรยากาศในค่อนมืดสลัวจึงไม่มีใครเห็นตอนผู้ชายคนนั้นลงมือ และคงคิดว่าโมเอิร์นจะไม่กล้าโวยวายเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่เคยผ่านมา“ไอ้บ้านี่ มันจับก้นฉัน” โมเอิร์นจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว เป็นจังหวะเดียวกับเซนโซ่สาวเท้าเข้ามาใกล้หญิงสาวทันได้ยินสิ่งที่โมเอิร์นบอกเพื่อน“ไอ้โรคจิต!”“นังตัวดี คืนนี้กูจะเล่นงานมึงให้ถึงตาย” จบประโยค ชายฉกรรจ์เตรียมพุ่งตัวเข้าหาหญิงสาวเพื่อเอาคืน แต่พวกเธอกลับพากันกรูถอยหนี“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับจับร่างบางหมุนซ้ายหมุนขวามองหาความผิดปกติของร่างกาย ก่อนจะรั้งคนตัวเล็กกว่าหลบข้างหลังเขา ให้ตัวเองยืนประจันหน้ากับคนก่อเรื่อง โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่มองมายังเขาและเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ”“ไม่ต้องกลัวนะคนสวย เดี๋ยวพวกพี่จัดการให้” ฟาสกับนอร์ธเดินเข้ามาสมทบ พร้อมกับการ์ดประจำคลับรวมถึงจิมก็รีบมายังจุดเกิดเหตุเช่นกัน“อย่ายุ่งเรื่องของผัวเมีย” แม้จะเจ็บแผลอยู่มากแต่ความโกรธแค้นอยากเอาชนะก็มีมากเช่นกัน ทำให้ชายคนนั้นพ่นคำโกหกออกไป พร้อมกับยื่นมือหมายจะชิงตัวโมเอิร์น แต่ไม่สำเร็จ“ใครเมียมึง?
เซนโซ่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องทำงานเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ยังไงอย่างงั้น มีเพียงเสียงลมจากเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่องไม่บกพร่อง สายตาคมกวาดมองทั่วทั้งห้องสี่เหลี่ยมและสะดุดกับร่างบางคุ้นเคยนอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาหนังตัวใหญ่ เห็นอย่างนั้นจึงพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดหมดจดและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่“โมเอิร์น...โมเอิร์น”“....”ไม่ว่าจะเอ่ยเรียกซักกี่ครั้งเธอกลับนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ไม่แม้แต่ครางอื้ออึงโต้ตอบกลับมาแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าสาวเจ้าไม่ได้สติตื่นขึ้นมาในตอนนี้แน่ เซนโซ่จึงตัดสินใจช้อนอุ้มคนตัวเล็กในท่าเจ้าสาวพาลงไปยังลานจอดรถ“เอ่อ...นายจะไปไหนครับ” จิมกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังเจ้านาย พลางขยับปากถาม“กลับเพนท์เฮาส์”เมื่อได้รับคำตอบ จิมรีบสับเท้าวิ่งเร่งจังหวะแซงเพื่อเปิดประตูรถให้คนเป็นเจ้านายและคู่หมั้นสาว ก่อนจะวิ่งอ้อมไปยังอีกฝั่งของตัวรถขึ้นนั่งประจำที่คนขับกดสตาร์ทเครื่องยนต์เหยียบคันเร่งขับรถออกไปจากตรงนั้น“สั่งให้การ์ดขับรถโมเอิร
ใช้เวลาไม่นานรถสปอร์ตหรูขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ บอดี้การ์ดที่ยืนดูแลความปลอดภัยบริเวณนั้นรีบเข้ามาเปิดประตูรถให้ทั้งสองคนก้าวเดินเข้ามาภายในห้องรับแขกที่มีญาติผู้ใหญ่นั่งพูดคุยกันอยู่“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีครับ”“ไงลูกสาวป๊า...ดื้อกับพี่เขารึเปล่า”“ป๊าอ่ะ! โมลูกป๊านะ...ปู่โฬมดูป๊าสิคะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยท่าทีเง้างอนยู่หน้าให้คนเป็นพ่อ สองเท้าเล็กก้าวเดินเปลี่ยนทิศทางไปหาปู่โฬมแทน“แกก็พูดเกินไปเจ้าแบล็ค” แล้วมีหรือคนรักหลานอย่างโฬมจะไม่ออกโรงปกป้อง ยิ่งเธออ้อนเขายิ่งตามใจข้อนี้โมเอิร์นรู้ดี“พ่อน่ะตามใจจนหลานไม่เชื่อฟัง”“แกก็เหมือนกันนั่นแหละวะ...ไอ้ลูกคนนี้”“เอาล่ะๆ หยุดเถียงกันได้แล้ว...อายเด็ก ไปกินข้าวกันเถอะอาหารพร้อมแล้ว” ไซซีเอ่ยห้ามทัพดันตัวลุกขึ้นเดินนำไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวหลายอย่างจัดเรียงไว้นัดทานอาหารในวันนี้เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพื่อสังเกตเด็กสองคนเข้ากันได้ดีมากเพียงใดมีโอกาสมากน้อยแค
@ผับK“เมาแล้วหรอ?” ครามเจ้าของสถานที่เอ่ยกระซิบข้างใบหูเล็กของโมเอิร์น บางจังหวะกลิ่นหอมของสาวเจ้าลอยเข้าจมูกโด่งจนเขาอดใจแทบไม่ไหวหากแต่เธอกลับรักษาระยะห่างตลอดเวลาคงเป็นเพราะข่าวชู้สาวหนาหูของเขา พักหลังมานี้เธอไม่อ่านข้อความไม่รับสายเขาเลยด้วยซ้ำ“ไม่เมาค่ะ”“โอเคครับ...พี่เพิ่งรู้ว่าเฟิร์สเป็นน้องรหัสโม”“เราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ส่วนมากจะส่งข้อความคุยกันมากกว่า” ขณะพูดตอบเธอเองก็ต้องยื่นหน้าเข้าใกล้ครามเพราะเสียงเพลงในผับค่อนข้างดังทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง“อะแฮ่ม...คุยอะไรกันอยู่หรอครับ นี่คอกเทลของพี่โมเอิร์นครับ” เฟิร์สเดินเข้ามาขัดจังหวะ พร้อมกับยื่นแก้วน้ำสีสวยให้รุ่นพี่“คุยกันตามประสา....” ครามพูดไม่ทันจบประโยคโมเอิร์นเอ่ยแทรกขึ้น ราวกับล่วงรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร“พี่กับพี่ครามกำลังพูดถึงเรานั่นแหละ”“ผมหรอครับ?” เฟิร์สถามกลับพลางยกมือขึ้นชี้นิ้วยาวเข้าหาตัว มองหน้าทั้งสองสลับกันไปมา“ใช่...
เซนโซ่ขับรถไปบนถนนแถบชานเมือง ก่อนจะกดต่อสายหาลูกน้องคนสนิทให้ขับรถเขาจอดทิ้งไว้ที่ผับตามมาสมทบที่โกดัง โมเอิร์นนั่งเงียบตลอดทางไม่แม้แต่เอ่ยถามถึงจุดหมาย หากเขาอยากให้เธอให้รู้คงพูดบอกเองนั่นแหละใช้เวลากว่าสามสิบนาทีรถหรูก็ขับเข้ามาจอดหน้าโกดังขนาดใหญ่ใกล้ท่าเรือที่มีชายชุดดำนับร้อยกำลังปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเคร่งครัด เซนโซ่เปิดประตูทันทีที่รถจอดสนิท เท้าหนาก้าวลงจากรถยืนฟังรายงานสถานการณ์จากชายคนหนึ่งด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่นานนักชายคนนั้นโค้งศีรษะและเดินจากไป เห็นอย่างนั้นโมเอิร์นจึงรีบเปิดประตูเดินไปหาเขาทว่า สายตากลับมองเห็นรถของผู้เป็นพ่อจอดอยู่ไม่ไกล เธอจำรถคันนี้จำได้ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ‘ป๊ามาทำอะไรที่นี่’“ตามมา” จบคำ เซนโซ่เดินนำเข้าไปด้านใน สายตาคู่สวยมองสำรวจโดยรอบบริเวณพร้อมกับสับเท้าเล็กเดินตาม ด้านในมีลังไม้จำนวนมากวางซ้อนกันแต่ไม่รู้ว่าข้างในบรรจุอะไรไว้แต่ก็คงเป็นของมีมูลค่าดูจากจำนวนคนดูแลคุ้มกันก็รู้“มาแล้วหรอ” เสียงขรึมดังขึ้นเมื่อประตูห้องบานใหญ่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแบล็คนั่งอยู่บนโซฟา“ป๊า~” เสียงหวานเอ่ยเรีย
แกร๊ก!ประตูบานใหญ่หน้าห้องถูกเปิดออกกว้างอย่างถือวิสาสะ พร้อมกับคนมาใหม่สาวเท้าเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเท้าเมื่อสายตามองเห็นฉากวาบหวามของเพื่อนสนิท ทว่า ไม่ทันได้เพ่งมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างชัดเจนเซนโซ่ก็หมุนเก้าอี้หนีให้เห็นเพียงพนักพิงเท่านั้น“ไอ้หมอเถื่อน!” เซนโซ่เอ่ยเสียงเข้มเล็ดลอดออกมาจากปากหนาทั้งที่ยังบดจูบดูดดื่ม มือหนาเค้นคลึงหน้าอกอวบใหญ่ไม่ห่าง“เอ่อ…กะ กูเพิ่งนึกขึ้นได้กูมีเคสด่วนว่ะไว้เจอกัน” คนมาใหม่เอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกักท่าทีเลิ่กลั่กรีบหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ไม่ลืมปิดประตูล็อคเพื่อให้เพื่อนทำกิจกรรมในร่มให้เสร็จสมโดยไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนอีก เขาเพิ่งออกเวรมาแท้ๆแต่กลับต้องโกหกคำโตเพราะมาผิดเวลากลายเป็นส่วนเกินซะอย่างนั้น ความคิดชวนเพื่อนนั่งดื่มเป็นอันต้องล่มไม่เป็นท่า“อื้อ...” เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอ มือปลาหมึกไม่อยู่สุขลูบไล้บีบขย้ำทั่วทั้งเรือนร่างบางอย่างเล้าโลมปลุกอารมณ์ความใคร่ในกายทั้งสองให้ลุกโชนเข้าสู่ห้วงกามอารมณ์จนยากจะถอนตัวร่างบางระหงบิดเร้
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ
แกร๊ก!ประตูบานใหญ่หน้าห้องถูกเปิดออกกว้างอย่างถือวิสาสะ พร้อมกับคนมาใหม่สาวเท้าเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเท้าเมื่อสายตามองเห็นฉากวาบหวามของเพื่อนสนิท ทว่า ไม่ทันได้เพ่งมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างชัดเจนเซนโซ่ก็หมุนเก้าอี้หนีให้เห็นเพียงพนักพิงเท่านั้น“ไอ้หมอเถื่อน!” เซนโซ่เอ่ยเสียงเข้มเล็ดลอดออกมาจากปากหนาทั้งที่ยังบดจูบดูดดื่ม มือหนาเค้นคลึงหน้าอกอวบใหญ่ไม่ห่าง“เอ่อ…กะ กูเพิ่งนึกขึ้นได้กูมีเคสด่วนว่ะไว้เจอกัน” คนมาใหม่เอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกักท่าทีเลิ่กลั่กรีบหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ไม่ลืมปิดประตูล็อคเพื่อให้เพื่อนทำกิจกรรมในร่มให้เสร็จสมโดยไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนอีก เขาเพิ่งออกเวรมาแท้ๆแต่กลับต้องโกหกคำโตเพราะมาผิดเวลากลายเป็นส่วนเกินซะอย่างนั้น ความคิดชวนเพื่อนนั่งดื่มเป็นอันต้องล่มไม่เป็นท่า“อื้อ...” เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอ มือปลาหมึกไม่อยู่สุขลูบไล้บีบขย้ำทั่วทั้งเรือนร่างบางอย่างเล้าโลมปลุกอารมณ์ความใคร่ในกายทั้งสองให้ลุกโชนเข้าสู่ห้วงกามอารมณ์จนยากจะถอนตัวร่างบางระหงบิดเร้
เซนโซ่ขับรถไปบนถนนแถบชานเมือง ก่อนจะกดต่อสายหาลูกน้องคนสนิทให้ขับรถเขาจอดทิ้งไว้ที่ผับตามมาสมทบที่โกดัง โมเอิร์นนั่งเงียบตลอดทางไม่แม้แต่เอ่ยถามถึงจุดหมาย หากเขาอยากให้เธอให้รู้คงพูดบอกเองนั่นแหละใช้เวลากว่าสามสิบนาทีรถหรูก็ขับเข้ามาจอดหน้าโกดังขนาดใหญ่ใกล้ท่าเรือที่มีชายชุดดำนับร้อยกำลังปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเคร่งครัด เซนโซ่เปิดประตูทันทีที่รถจอดสนิท เท้าหนาก้าวลงจากรถยืนฟังรายงานสถานการณ์จากชายคนหนึ่งด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่นานนักชายคนนั้นโค้งศีรษะและเดินจากไป เห็นอย่างนั้นโมเอิร์นจึงรีบเปิดประตูเดินไปหาเขาทว่า สายตากลับมองเห็นรถของผู้เป็นพ่อจอดอยู่ไม่ไกล เธอจำรถคันนี้จำได้ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ‘ป๊ามาทำอะไรที่นี่’“ตามมา” จบคำ เซนโซ่เดินนำเข้าไปด้านใน สายตาคู่สวยมองสำรวจโดยรอบบริเวณพร้อมกับสับเท้าเล็กเดินตาม ด้านในมีลังไม้จำนวนมากวางซ้อนกันแต่ไม่รู้ว่าข้างในบรรจุอะไรไว้แต่ก็คงเป็นของมีมูลค่าดูจากจำนวนคนดูแลคุ้มกันก็รู้“มาแล้วหรอ” เสียงขรึมดังขึ้นเมื่อประตูห้องบานใหญ่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแบล็คนั่งอยู่บนโซฟา“ป๊า~” เสียงหวานเอ่ยเรีย
@ผับK“เมาแล้วหรอ?” ครามเจ้าของสถานที่เอ่ยกระซิบข้างใบหูเล็กของโมเอิร์น บางจังหวะกลิ่นหอมของสาวเจ้าลอยเข้าจมูกโด่งจนเขาอดใจแทบไม่ไหวหากแต่เธอกลับรักษาระยะห่างตลอดเวลาคงเป็นเพราะข่าวชู้สาวหนาหูของเขา พักหลังมานี้เธอไม่อ่านข้อความไม่รับสายเขาเลยด้วยซ้ำ“ไม่เมาค่ะ”“โอเคครับ...พี่เพิ่งรู้ว่าเฟิร์สเป็นน้องรหัสโม”“เราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ส่วนมากจะส่งข้อความคุยกันมากกว่า” ขณะพูดตอบเธอเองก็ต้องยื่นหน้าเข้าใกล้ครามเพราะเสียงเพลงในผับค่อนข้างดังทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง“อะแฮ่ม...คุยอะไรกันอยู่หรอครับ นี่คอกเทลของพี่โมเอิร์นครับ” เฟิร์สเดินเข้ามาขัดจังหวะ พร้อมกับยื่นแก้วน้ำสีสวยให้รุ่นพี่“คุยกันตามประสา....” ครามพูดไม่ทันจบประโยคโมเอิร์นเอ่ยแทรกขึ้น ราวกับล่วงรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร“พี่กับพี่ครามกำลังพูดถึงเรานั่นแหละ”“ผมหรอครับ?” เฟิร์สถามกลับพลางยกมือขึ้นชี้นิ้วยาวเข้าหาตัว มองหน้าทั้งสองสลับกันไปมา“ใช่...
ใช้เวลาไม่นานรถสปอร์ตหรูขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ บอดี้การ์ดที่ยืนดูแลความปลอดภัยบริเวณนั้นรีบเข้ามาเปิดประตูรถให้ทั้งสองคนก้าวเดินเข้ามาภายในห้องรับแขกที่มีญาติผู้ใหญ่นั่งพูดคุยกันอยู่“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีครับ”“ไงลูกสาวป๊า...ดื้อกับพี่เขารึเปล่า”“ป๊าอ่ะ! โมลูกป๊านะ...ปู่โฬมดูป๊าสิคะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยท่าทีเง้างอนยู่หน้าให้คนเป็นพ่อ สองเท้าเล็กก้าวเดินเปลี่ยนทิศทางไปหาปู่โฬมแทน“แกก็พูดเกินไปเจ้าแบล็ค” แล้วมีหรือคนรักหลานอย่างโฬมจะไม่ออกโรงปกป้อง ยิ่งเธออ้อนเขายิ่งตามใจข้อนี้โมเอิร์นรู้ดี“พ่อน่ะตามใจจนหลานไม่เชื่อฟัง”“แกก็เหมือนกันนั่นแหละวะ...ไอ้ลูกคนนี้”“เอาล่ะๆ หยุดเถียงกันได้แล้ว...อายเด็ก ไปกินข้าวกันเถอะอาหารพร้อมแล้ว” ไซซีเอ่ยห้ามทัพดันตัวลุกขึ้นเดินนำไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวหลายอย่างจัดเรียงไว้นัดทานอาหารในวันนี้เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพื่อสังเกตเด็กสองคนเข้ากันได้ดีมากเพียงใดมีโอกาสมากน้อยแค
เซนโซ่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องทำงานเงียบสนิทราวกับไม่มีคนอยู่ยังไงอย่างงั้น มีเพียงเสียงลมจากเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่องไม่บกพร่อง สายตาคมกวาดมองทั่วทั้งห้องสี่เหลี่ยมและสะดุดกับร่างบางคุ้นเคยนอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาหนังตัวใหญ่ เห็นอย่างนั้นจึงพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดหมดจดและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่“โมเอิร์น...โมเอิร์น”“....”ไม่ว่าจะเอ่ยเรียกซักกี่ครั้งเธอกลับนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ไม่แม้แต่ครางอื้ออึงโต้ตอบกลับมาแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าสาวเจ้าไม่ได้สติตื่นขึ้นมาในตอนนี้แน่ เซนโซ่จึงตัดสินใจช้อนอุ้มคนตัวเล็กในท่าเจ้าสาวพาลงไปยังลานจอดรถ“เอ่อ...นายจะไปไหนครับ” จิมกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังเจ้านาย พลางขยับปากถาม“กลับเพนท์เฮาส์”เมื่อได้รับคำตอบ จิมรีบสับเท้าวิ่งเร่งจังหวะแซงเพื่อเปิดประตูรถให้คนเป็นเจ้านายและคู่หมั้นสาว ก่อนจะวิ่งอ้อมไปยังอีกฝั่งของตัวรถขึ้นนั่งประจำที่คนขับกดสตาร์ทเครื่องยนต์เหยียบคันเร่งขับรถออกไปจากตรงนั้น“สั่งให้การ์ดขับรถโมเอิร
“โมเกิดอะไรขึ้น”“เป็นอะไรโม”พะแพงกับนิวถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงบรรยากาศในค่อนมืดสลัวจึงไม่มีใครเห็นตอนผู้ชายคนนั้นลงมือ และคงคิดว่าโมเอิร์นจะไม่กล้าโวยวายเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่เคยผ่านมา“ไอ้บ้านี่ มันจับก้นฉัน” โมเอิร์นจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว เป็นจังหวะเดียวกับเซนโซ่สาวเท้าเข้ามาใกล้หญิงสาวทันได้ยินสิ่งที่โมเอิร์นบอกเพื่อน“ไอ้โรคจิต!”“นังตัวดี คืนนี้กูจะเล่นงานมึงให้ถึงตาย” จบประโยค ชายฉกรรจ์เตรียมพุ่งตัวเข้าหาหญิงสาวเพื่อเอาคืน แต่พวกเธอกลับพากันกรูถอยหนี“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับจับร่างบางหมุนซ้ายหมุนขวามองหาความผิดปกติของร่างกาย ก่อนจะรั้งคนตัวเล็กกว่าหลบข้างหลังเขา ให้ตัวเองยืนประจันหน้ากับคนก่อเรื่อง โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่มองมายังเขาและเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ”“ไม่ต้องกลัวนะคนสวย เดี๋ยวพวกพี่จัดการให้” ฟาสกับนอร์ธเดินเข้ามาสมทบ พร้อมกับการ์ดประจำคลับรวมถึงจิมก็รีบมายังจุดเกิดเหตุเช่นกัน“อย่ายุ่งเรื่องของผัวเมีย” แม้จะเจ็บแผลอยู่มากแต่ความโกรธแค้นอยากเอาชนะก็มีมากเช่นกัน ทำให้ชายคนนั้นพ่นคำโกหกออกไป พร้อมกับยื่นมือหมายจะชิงตัวโมเอิร์น แต่ไม่สำเร็จ“ใครเมียมึง?
ร่างสูงดูดีนั่งบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดกับงานเอกสารตรงหน้า ออเดอร์สั่งซื้อสินค้าและจำนวนเงินไม่ตรงกับสินค้าที่ถูกส่งออกไป“เรียกผมมา...มีอะไรรึเปล่าครับนาย” จิมเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของคนเป็นเจ้านายหยุดยืนหน้าโต๊ะสุดหรู“มึงไปสืบหาตัวคนที่มันกล้ายักยอกของกู เร็วที่สุด!”“อะไรนะครับ”“หูแตกรึไงวะ!? มีคนในแอบขนสินค้าออกไปพวกมึงทำงานกันยังไง!!” เสียงทุ้มต่ำตวาดลั่นด้วยไฟโทสะ ทำคนฟังสะดุ้งโหยงตกใจ“เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบหาตัวมันมาลงโทษให้เร็วที่สุด” จบคำ จิมโค้งศีรษะลงเล็กน้อยรีบสาวเท้าออกจากห้องไป ‘ใครวะกล้าทำแบบนั้น มึงไม่ตายดีแน่’ จิมคิดในใจ เขาต้องรีบหาตัวให้เจอไม่อย่างนั้นเขาอาจจะซวยไปด้วยที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นให้หลังลูกน้องคนสนิทเดินออกไปมือหนาหยิบโทรศัพท์กดต่อสายหาเพื่อนสนิททั้งสองคน และนัดแนะไปดื่มเพื่อพูดคุยธุระสำคัญ“เป็นคนนัดพวกกูแท้ๆ แต่ดันมาช้า” นอร์ธว่าขณะเซนโซ่นั่งลงบนโซฟาตัวว่า
“ซี๊ด~แสบชะมัด ไม่เช็ดแล้วดีกว่า” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง รีบเก็บแอลกอฮอล์เตรียมปิดพลาสเตอร์“ทำอะไรของเธอ ทำไมไม่ล้างแผลก่อน” ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาข้างกัน มือหนาจับรั้งข้อเล็กไว้แน่น“จะทำอะไร ไม่เอามันแสบ”“นั่งนิ่งๆ”“ดุอย่างกับหมา”“เดี๋ยวจะโดนดี!! โตป่านนี้แล้วทำแผลไม่เป็นรึไง” เสียงทุ้มบนงึมงำในขณะที่มือหนาใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์บรรจงเช็ดอย่างเบามือ ใส่ยา ปิดพลาสเตอร์ให้เป็นอันเสร็จ“ขอบ....” โมเอิร์นเอ่ยไม่ทันจบประโยคคำพูดทั้งหมดต้องกลืนกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อเซนโซ่แทรกขึ้น“ซุ่มซ่าม!”“นี่!ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย” ไม่ต้องขอบคงขอบคุณมันแล้ว ไอ้ผู้ชายปากเสีย ชิ๊!“กลับไปนอนได้แล้ว”“....”“หรืออยากนอนกับฉัน” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงได้ยินคำพูดกำกวมของเขา ร่างบางดันตัวลุกขึ้นวิ่งออกไปจากห้องทำงานกลับไปยังห้องนอนเล็ก จึงไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหล่อเหลา
ร่างบางระหงในชุดเกาะอกสีขาวสะอาดตากระโปรงฟูฟ่องใบหน้าใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางยิ่งส่งให้เธอดูสวยออร่า เท้าเล็กก้าวลงบันไดอย่างระมัดระวังเมื่อถึงเวลาอันสมควร เรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมองอย่างชื่นชมเอ็นดู ภายในงานมีเพียงญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นเพราะนั่นเป็นความต้องการของโมเอิร์น“วันนี้ลูกสวยมากครับ” แบล็คเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแฝงไปด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยม โฬมเองก็มองหลานสาวเพียงคนเดียวด้วยแววตาเช่นนั้นไม่ต่างกัน“หนูโมนั่งข้างเซนโซ่เลยลูก” ไซซีบอกด้วยความเอ็นดูเด็กสาวพร้อมกับเผยรอยยิ้มใจดีส่งให้ โมเอิร์นยิ้มตอบและยอมทำตามอย่างว่าง่าย ‘คุณปู่ไซซีใจดีจัง ไม่เหมือนกับ…ชิ๊!’ สายตาคู่สวยเหลือบมองคู่หมั้นเพียงน้อย ก่อนจะแอบเบะปากมองบนโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น“ได้ฤกษ์แล้ว เจ้าโซ่สวมแหวนให้น้องสิ” ไซซีพูดขึ้นอีกครั้งเซนโซ่เอื้อมมือหยิบแหวนเพชรน้ำงามสวมใส่นิ้วเรียวเล็กของหญิงสาวโมเอิร์นเองก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างอวยพรให้คนทั้งสองใช้ชีวิตเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วยความเข้าใ