บรื้น บรื้น บรื้นเสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถ Ferrari ดังขึ้นก่อนที่รถแข่งทั้งสี่คันจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เก้าทัพขับรถด้วยความใจเย็นและมีสติ สายตาที่คมกริบมองไปข้างหน้าอย่างมีสมาธิและไม่วอกแวก ตอนนี้รถที่เขาขับอยู่ลำดับที่สองเมื่อถึงโค้งอันตรายเก้าทัพไม่รอช้าเร่งเครื่องขึ้นไปแซงรถคันแรกตอนเข้าโค้งด้วยความชำนาญไม่มีหลุดเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะวิ่งเข้าเส้นชัยไปอย่างฉิวเฉียดพร้อมกับเสียงกรี๊ดของผู้ชมที่มาดูการแข่งขันของวันนี้"กรี๊ดด อยากเห็นหน้าเจ้าของรถคันสีดำจังเลยผู้หญิงหรือผู้ชายอะแกตอนเข้าโค้งโคตรเท่เลย""ใครวะแก ฝีมือขับรถไม่ธรรมดาเลย เอาชนะพี่เอ็มได้นี่โคตรเทพเลย""รอดูหน้าเลยแกนั่นๆ เขาจอดรถแล้ว เขาจะหล่อไหมน้า"เอี๊ยดเสียงล้อรถบดกับพื้นสนามเสียงดังลั่นก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จะดับลงเก้าทัพเปิดประตูรถออกมา ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์สีดำเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าออกอย่างลวก ๆ ก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนๆที่กำลังรอการมาของเขาอยู่ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของสาว ๆ เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าของรถ Ferrari ที่เป็นผู้ชนะก็ถึงกับพากันกรี๊ดออกมาสุดเสียงเพราะเขาคือพี่เก้าทัพ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าหล่อแต่หน
ปัง ปัง ปังเสียงกระสุนปืนดังขึ้นสามนัดติดก่อนที่ร่างของ เคน อิจิยะ จะร่วงลงไปนอนขาดใจตายอยู่บนพื้น กฤษฎิ์โยนปืนทิ้งอย่างไม่ไยดีเพราะสามนัดที่เขายิงคือสามนัดสุดท้ายในปืนกระบอกนี้แล้ว ก่อนจะเดินออกมาจากตึกร้างแถวชานเมือง ด้านหน้าตึกมีชินกับเรียวที่สตาร์ตรถรอรับเจ้านายอยู่ กฤษฎิ์เดินไปขึ้นรถด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่ชินจะขับรถออกไปจากที่นี่ทันทีหน้าที่ส่งพวกคนเลวลงนรกของเขาได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เล่นกับใครไม่เล่นดันมากระตุกหนวดเสือเจ้าพ่อมาเฟียแบบเขามีแต่ตายกับตายเท่านั้นแหละพวกกระจอก“คุณกฤษฎิ์ขาคืนนี้ไม่ค้างกับน้ำหวานเหรอคะ”น้ำหวานนางแบบสาวชื่อดังซบหน้าลงที่อกแกร่งของกฤษฎิ์เบาๆ ก่อนจะทำน้ำเสียงออดอ้อนผู้ชายที่เธอมาบริการในค่ำคืนนี้ คุณกฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก เจ้าของโรงพยาบาล N โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่มีสาขามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ“เธอน่าจะรู้จักฉันดีนะน้ำหวานว่าคนแบบฉันไม่ชอบค้างคืนกับใครและไม่เคยกินใครเกินสองรอบ หึหึ”กฤษฎิ์เชยคางมนของน้ำหวานขึ้นก่อนที่จะก้มหน้าลงมากระซิบที่ใบหูเล็กแล้วกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ“แหม ก็เผื่อว่าคืนนี้คุณกฤษฎิ์อาจจะติดใจน้ำหวานจนไม่อยากกลับไปนอนที่บ้าน
ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีที่แล้วประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่“มะเร็งกระเพาะอาหารเหรอคะ”ร่างบอบบางในชุดนักเรียนม.ปลายถามคุณหมอที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยน้ำเสียงอันเบาหวิวก่อนที่น้ำตาจะไหลรินเป็นสายลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ มือบอบบางสั่นระริก ไร้เรี่ยวแรงจะควบคุม เพียงเพราะคำพูดสั้น ๆ ที่ได้รับรู้นั้นคล้ายบีบหัวใจคนฟังให้แตกสลายได้ทุกเมื่อ“ใช่ครับ ตอนนี้อาการของคนไข้อยู่ในระยะที่สอง ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นและเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นแล้ว หมอแนะนำว่าเราควรผ่าตัดกระเพาะอาหารนำส่วนที่เป็นก้อนเนื้อออกมา ร่วมกับการทำเคมีบำบัดหลังผ่าตัดและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด”“แต่การรักษาให้หายขาดนั้นเป็นไปได้ยากกว่าในระยะแรกครับ เพราะถ้าคนไข้รู้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เรายังสามารถผ่าตัดนำเฉพาะก้อน เนื้อออกมาและรักษาให้หายขาดได้”“การรักษาในระยะที่สองนี้ พูดตามตรงว่าเป็นการรักษาเพื่อยื้อเวลาของคนไข้ให้อยู่กับญาติได้นานขึ้นเท่านั้นครับ อย่างน้อย ๆ ก็ประมาณห้าปีหรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสุขภาพและจิตใจของคนไข้”คุณหมอหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับที่รักอธิบายรายละเอียดให้เธอฟังด้วยความเห็นใจระคนสงสารเด็กสาวที่นั่งน้ำต
โรงแรม K“ฮัลโหล เจ้ผิงฉันมาถึงแล้วเนี่ย อ๋อ เดี๋ยวคนของเขามารับเหรอ ใช่ ๆ ตอนนี้อยู่ที่ล็อบบี้แล้ว ไหนอะ…คนไหน ใส่แว่นใส่สูท อ้อ โอเค เห็นแล้ว ๆ แค่นี้นะ บายจ้า”อ้อยวางสายลงทันทีที่เหลือบไปเห็นเกริกพลกำลังเดินมาทางที่พวกเธอกำลังยืนอยู่พอดี“คุณอ้อยใช่ไหมครับ”เมื่อเกริกพลเดินมาถึงที่ ๆ สองสาวยืนอยู่ก็ทักขึ้นซึ่งอ้อยเมื่อได้ยินแบบนั้นก็รีบพยักหน้าตอบรับทันที“ใช่ค่ะอ้อยเองพอดีพาน้องมาส่งค่ะ น้องชื่อที่รักนะคะอายุ 21 ปีบรรลุนิติภาวะเรียบร้อยแล้ว”อ้อยปั้นหน้าโกหกคำโต ใครจะไปกล้าบอกล่ะว่าที่รักอายุแค่ 18 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ ขืนบอกไปที่รักก็ชวดงานที่ทำเงินมหาศาลน่ะสิแล้วจะเอาเงินที่ไหนมารักษาป้าผกากันล่ะ“โอเคครับ เจ้ผิงแจ้งเงื่อนไขที่เจ้านายผมบอกไปแล้วใช่ไหมครับ”เกริกพลถามอ้อยเพื่อให้เข้าใจถึงข้อตกลงที่กฤษฎิ์ขอไป อ้อยรีบพยักหน้ารัว ๆ ทันทีว่าบอกเรียบร้อยแล้ว“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณตกลงตามนี้ไม่มีปัญหา แต่ฝากบอกเจ้านายคุณช่วยถนอมที่รักหน่อยนะคะน้องเพิ่งเคยรับงานแบบนี้ครั้งแรกยังไงก็ช่วยอ่อนโยนสักนิดหนึ่ง”พูดไปก็กระดากปากไปส่วนที่รักนั้นก้มหน้างุดทันทีที่ได้ยินอ้อยพูดแบบนั้น เ
โรงพยาบาล“อ้อย อ้อยลูก”เช้าวันใหม่เมื่อผกาตื่นขึ้นมาก็เจอกับอ้อยที่ฟุบหน้าลงข้างเตียงนอนเฝ้าเธออยู่หน้าสวยที่ย่นไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ขมวดคิ้วมุ่นอย่างครุ่นคิดว่าลูกสาวเธอหายไปไหน“อือ อะ ป้าผกาตื่นแล้วเหรอจ๊ะ”อ้อยสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอกับผกาที่กำลังจ้องมองเธอเขม็ง เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างไรชอบกล“ที่รักล่ะอ้อย ที่รักไปไหนทำไมไม่มาหาป้า”ผกาถามหาลูกสาวอย่างเป็นห่วงที่รักหายไปไหนแต่เช้าทำไมไม่มาอยู่กับเธอ“อะ เอ่อคือ คือแบบนี้จ้ะป้า พอดีที่รักมันหางานเสริมทำเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลมารักษาป้า ที่รักมันเลยรับจ็อบขายของที่ตลาดช่วยป้าบัวน่ะจ้ะ สักบ่าย ๆ ตลาดวายที่รักมันคงกลับมาป้าไม่ต้องห่วงนะจ๊ะเดี๋ยวระหว่างที่ป้าเข้าโรงบาลอ้อยจะดูแลป้าเอง”โกหกหน้าตายตอบผกาไปอย่างภาวนาไม่ให้ถูกจับได้หน้าสวยตีหน้าซื่อยิ้มให้ผกาอย่างต้องการให้คนแก่คลายกังวลที่ไม่เห็นลูกสาวมาเฝ้าอยู่ข้าง ๆ“โธ่เอ๋ย ที่รักต้องทำงานเหนื่อยแบบนี้เพราะแม่คนเดียวแท้ ๆ”ผกาน้ำตาคลอเบ้าทันทีที่อ้อยพูดจบโดยไม่ได้นึกสงสัยเลยว่าสิ่งที่อ้อยพูดออกมานั้นเป็นการโกหกเพื่อให้ตนสบายใจ“ป้าจ๋า อย่าคิดมากไปเลยนะจ๊ะ ที่รัก
“คุณหมอจะพาที่รักไปไหนคะ” ที่รักถามกฤษฎิ์เมื่อทั้งคู่ขึ้นมานั่งบนรถคันหรูเรียบร้อยแล้ว“กินข้าวไงสาวน้อย นี่มันเย็นแล้วนะเธอไม่หิวหรือไง”กฤษฎิ์เลิกคิ้วถามที่รักในขณะที่มือข้างหนึ่งก็เล่นผมสั้นทรงเด็กนักเรียนของที่รักไปพลาง ๆ เพลินดีจัง ผมนิ่มชะมัดเลย หอมด้วย“ช่วงนี้ที่รักไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ บางวันข้าวเย็นก็ไม่ได้ตกถึงท้องด้วยซ้ำมัวแต่ทำงานพาร์ตไทม์”ที่รักบอกกฤษฎิ์ด้วยรอยยิ้มจริงใจ ส่วนกฤษฎิ์อมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูกับท่าทางไร้เดียงสาของที่รัก“แต่หนึ่งอาทิตย์ที่เธออยู่กับฉัน เธอต้องทานให้ครบทุกมื้อนะจะได้มีแรงไว้ใช้กับฉันเยอะ ๆ เพราะฉันมันคนความต้องการสูง หึหึ”กระซิบข้างหูแผ่วเบาชวนให้ดวงหน้าเนียนใสนั้นเห่อแดงไปทั้งหน้า“คุณหมอทะลึ่งจังเลยค่ะ”ก่อนที่จะได้สติแล้วเอ็ดชายหนุ่มออกมา กฤษฎิ์หัวเราะให้กับคำพูดน่ารักของที่รักเออ อยู่กับเด็กนี่ทีไรอารมณ์ดีทุกทีเลยแต่ละคำพูดที่พูดออกมาช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง“เขาว่าผู้ชายทะลึ่งจริงใจนะ ไม่รู้เหรอพวกที่พูดจาดี ๆ บางทีอาจจะแอบร้ายก็ได้อย่าไว้ใจพวกที่มันพูดจาหวานหูมากล่ะ อันนี้ฉันสอนไว้ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ชายด้วยกัน”กฤษฎิ์บอกที่รัก
วันผ่าตัด“แม่ทำใจให้สบาย ๆ นะจ๊ะ ยังไงแม่ก็ต้องหายออกมาหาที่รักน้า”ที่รักจับมือผกาไว้แน่นอย่างต้องการที่จะส่งกำลังใจให้เมื่อต้องส่งตัวผกาเข้าห้องผ่าตัดแล้ว“แม่สัญญาจะอดทนนะลูกเพราะแม่อยากอยู่กับที่รักไปนาน ๆ”มองที่รักทั้งน้ำตาคลอเบ้าก่อนที่พยาบาลจะเข็นเตียงผกาเข้าห้องผ่าตัดไปสองแม่ลูกมองกันจนลับสายตา“วันนี้วันสุดท้ายแล้วใช่ไหมที่แกต้องอยู่กับคุณเขา เขาบินกลับกรุงเทพวันนี้นี่”อ้อยถามถึงกฤษฎิ์ที่วันนี้เป็นวันที่ที่รักต้องอยู่ดูแลวันสุดท้าย ที่รักพยักหน้าตอบรับก่อนที่หน้าสวยจะหม่นลงเล็กน้อย“แล้วไม่ดีใจเหรอที่เขาจะกลับแล้ว แกจะได้ดูแลแม่แกไงล่ะที่รัก”อ้อยถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นที่รักทำหน้าเศร้าเหมือนคนอกหักอย่างไรอย่างนั้นเลยเอ๊ะ หรือว่า...อ้อยยกมือทาบอกด้วยความตกใจก่อนที่จะหันไปถามที่รักทันที“ที่รัก แกอย่าบอกนะว่าหลงรักคุณเขาไปแล้ว”อ้อยถามที่รักด้วยความตกใจก่อนที่หน้าสวยของที่รักจะเศร้าลงอีกอย่างเห็นได้ชัดที่โดนอ้อยตั้งคำถามที่จี้ใจเธออย่างแรง“คุณหมอเขาเป็นคนดีนะพี่อ้อย เกือบอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมา เขาดูแลที่รักดีมากเลย มันจริงที่ที่รักคอยดูแลเขา ให้ความพึงพอใจเขาทางร่างกายแ
เมื่อกฤษฎิ์จากไปแล้วที่รักจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะหยิบเช็คที่กฤษฎิ์วางไว้ให้บนหัวเตียงขึ้นมาเตรียมเก็บใส่กระเป๋า แต่ตัวเลขที่ปรากฏบนเช็คนั้นทำให้ที่รักต้องตกใจ ด้วยคาดไม่ถึงว่ากฤษฎิ์จะกล้าให้เงินจำนวนที่มากขนาดนี้ซึ่งมากกว่าที่เธอร้องขอถึงสิบเท่า ดวงตาคู่สวยปริ่มด้วยน้ำตาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงประโยคสุดท้ายของกฤษฎิ์ก่อนที่จะจากกันไป“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอบคุณจริง ๆ”ยกมือขึ้นปิดปากสะอื้นฮักก่อนตัดใจปาดน้ำตา กลั้นสะอื้น คว้ากระเป๋าและโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กฤษฎิ์ซื้อให้เดินออกจากห้องไป แต่ก่อนที่จะเดินพ้นห้อง ที่รักกวาดสายตาดูรอบห้องที่มีแต่ความทรงจำของเธอกับกฤษฎิ์อีกครั้ง ไม่ว่าจะมุมไหนก็จะมีภาพของเธอกับกฤษฎิ์พูดคุยหยอกล้อกันอยู่ทั่วทุกมุมห้องก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอีกครั้ง ที่รักกลั้นใจยกมือปาดน้ำตาแล้วตัดสินใจปิดประตูห้องลงเพื่อเดินทางกลับไปโรงพยาบาล กลับไปสู่ความเป็นจริงที่เธอต้องอยู่กับมันต่อจากนี้ Move on ซะนะที่รักโรงพยาบาล N“พี่อ้อยจ๊ะแม่เป็นยังไงบ้าง”ที่รักถามอ้อยทันทีที่มาถึงห้องพักฟื้นที่มีร่างของผกานอนพักผ่อนอยู่หลังจากเข้ารับการผ่าตั