เขาขอปฏิเสธได้ไหม? มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะจองที่นี่ได้แคทเธอรีน “...”เธอปฏิเสธได้ไหม? มันอึดอัดใจเกินไปที่จะต้องเผชิญกับใบหน้าที่เหมือนซาตานของฌอน“คุณสองคน… ดูเหมือนไม่ค่อยยินดีกับความคิดนี้เลย พวกเรารบกวนคุณหรือเปล่าครับ?” ฌอนมองไปที่พวกเขา น้ำเสียงของเขาทุ้มเข้ม“ไม่เลยครับ เชิญมารับประทานอาหารร่วมกับพวกเราเถอะครับ” จากนั้นเวสลีย์จึงขอให้พนักงานเสิร์ฟนำเมนูมาให้เพราะมีคนสี่คนนั่งอยู่รวมกัน พื้นที่บนโต๊ะจึงแคบลงด้วยช่อดอกกุหลาบบนโต๊ะแคทเธอรีนเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกกุหลาบมาวางเอาไว้ข้าง ๆ เธอ ทว่าฌอนเร็วกว่าเธอ และส่งช่อดอกไม้ให้พนักงานเสิร์ฟ“เอาไปทิ้ง ผมแพ้เกสรดอกไม้”แคทเธอรีนสงสัยว่าเธอได้ยินที่เขาพูดผิดไปหรือเปล่า เธอไม่เคยเห็นอาการแพ้เกสรดอกไม้ของเขามาก่อน เมื่อเธอซื้อดอกไม้ไปประดับแจกันที่บ้าน เขาต้องจงใจทำแบบนี้แน่ ๆ“คุณฮิลล์ ผมไม่เคยทราบมาก่อนว่าคุณแพ้เกสรดอกไม้” เวสลีย์แทบจะฝืนหัวเราะไม่ออก“ครับ โดยเฉพาะดอกไม้สีชมพู จะแพ้เป็นพิเศษ” ฌอนเปิดเมนูอย่างใจเย็นและสั่งอาหารเนิบ ๆ หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จแล้ว เวสลีย์ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ที่จริงแล้ว ผมค่อนข้างสงสัยว่าทำ
ฌอนคีบบุหรี่เอาไว้ที่หว่างนิ้วของเขา พลางสูดอัดควันเข้าปอดแล้วพ่นมันออกมาอย่างอ้อยอิ่งขณะที่เขาหายใจออกมาเขาขยี้ก้นบุหรี่ลงในถังขยะข้าง ๆ แล้วก้าวยาว ๆ ไปหาเธอ“มากับผม”เขาลากเธอไปที่อีกด้านหนึ่งของร้านอาหารแคทเธอรีนที่ถูกเขาลากเดินตามหลังเขาไปจนถึงโถงทางเดินตู้เก็บไวน์แสงไฟด้านในสลัว และใบหน้าของชายคนนี้เผยความรู้สึกอันตรายที่มองไม่เห็นเมื่อเขามองลงมายังเธอ “คุณทำอะไรของคุณ?” แคทเธอรีนผลักแผ่นอกแกร่งของเขาออก ทว่ามันไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย“คุณถามเหมือนที่ผมกำลังจะถามคุณอยู่พอดี” ฌอนจับมือของเธอ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม “คุณกำลังคบหากับเวสลีย์อยู่เหรอ? คุณลืมไปหรือเปล่าว่าคุณแต่งงานแล้ว? ผมไม่แปลกใจเลยที่คุณพยายามจะหย่ากับผมให้ได้ คุณมีผู้ชายคนใหม่แล้วใช่ไหม?”“ฌอน ฮิลล์ช่วยระวังคำพูดของคุณเอาไว้ให้ดี” แคทเธอรีนตัวสั่นด้วยความโกรธที่โดนดูถูก “ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างเวสลีย์กับฉัน”“แล้วเขาจะมอบดอกไม้ให้คุณทำไมถ้าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกคุณ? เขาจะพาคุณมาร้านอาหารหรูขนาดนี้ไหม? คุณจะยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขแบบนี้ไหม?!” ขณะที่ฌอนกำลังพูดความโกรธของเขาก็ปะทุข
แคทเธอรีนรีบวางสาย เมื่อเธอสบตากับฌอนอีกครั้ง เธอก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอแดงเห่อขึ้นราวกับมะเขือเทศฌอนเองก็สังเกตเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน และรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ริมฝีปากที่เซ็กซี่ของเขายกขึ้น “ปวดท้องเหรอ?”แคทเธอรีนจ้องไปที่เขา ทั้งยังรู้สึกอับอายมากขึ้นเรื่อย ๆ “ฉันไม่อยากกวนใจคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันนอกใจ ฉันแนะนำให้คุณรีบมาหย่ากับฉันให้เร็วที่สุด”“นี่คุณกล้าขู่ผมเหรอ?” ฌอนรั้งเธอเอาไว้อีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเย็นชา “แคทเธอรีน โจนส์ ถ้าคุณกล้านอกใจผม ผมจะทำให้คุณต้องชดใช้อย่างสาสม”แคทเธอรีนไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้น“ฉันทราบแล้วค่ะว่าคุณเป็นทนายความ แล้วก็มีหลายร้อยวิธีที่จะทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่คงจะไร้ประโยชน์ เพราะชื่อเสียงของฉันพังไปนานแล้ว แล้วกฎหมายก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าการนอกใจในการแต่งงานเป็นสิ่งผิดกฎหมายถูกไหมคะ?”“ไม่มีสินสมรสใดที่เราสร้างขึ้นร่วมกันหลังแต่งงาน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดการโต้แย้ง ฉันไม่มีเงินและไม่มีชื่อเสียง แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้คะ?”เธอเลิกคิ้วขึ้นอย่างถือไพ่เหนือกว่า ฌอนไม่รู้ว่าเขาอยากจะ
ทันใดนั้นเอง สายตามากกว่าสิบคู่ก็จับจ้องมาที่แคทเธอรีน ดวงตาของหญิงสาวเหล่านั้นแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาแคทเธอรีนพูดอะไรไม่ออก เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งได้รับความสนใจจากผู้หญิงคนอื่น ถึงอย่างนั้น เขายังกล้ามาพูดแบบนั้นกับเธออีกหญิงสาวตะคอกใส่เขา “ฉันไม่ใช่ที่รักของคุณ เลิกพูดไร้สาระ ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ”“ที่รักครับ กลับไปตะโกนใส่ผมที่บ้านเถอะนะครับ ทำไมเราต้องมาทะเลาะกันข้างนอกด้วย?” ฌอนยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นและจนปัญญา พลางหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าของเขา “โชคดีที่วันนี้ผมพกทะเบียนสมรสติดมาด้วย”เขาคลี่เอกสารให้ทุกคนได้เห็นชายชราคนหนึ่งพูดขึ้น “เธอเป็นภรรยาของคุณจริง ๆ คุณผู้หญิง คุณทำเกินไปแล้ว พวกเราเกือบจะหลงกลคุณ”คนขับเองก็รู้สึกโกรธเช่นกัน “รีบมาจ่ายค่าโดยสารให้สามีของคุณเลย รถบัสไม่ใช่สถานที่ที่พวกคุณจะมาทะเลาะกัน”ผู้หญิงบางคนบ่นพึมพำขึ้น “คุณมีสามีหล่อถึงขนาดนี้ แต่คุณกลับไม่ต้องการเขา บางคนก็ทำตัวเหมือนลิงได้แก้ว”แคทเธอรีน “...”หญิงสาวกำลังรู้สึกโมโห ฌอนเป็นบ้าอะไรของเขา เขาพกกระทั่งทะเบียนสมรสติดตัวมากับเขาด้วยท่ามกลางคำครหา เธอต้องฝืนใจจ่ายค่าโดยสารให้กับฌอนเขา
หลังจากที่เข้าไปภายในร้านหม้อไฟแล้ว เธอก็สั่งหม้อไฟที่เผ็ดที่สุดและสั่งเครื่องในจำพวกผ้าขี้ริ้ว เนื้อแกะ และเนื้อวัว...เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เธอคีบเครื่องในอย่างผ้าขี้ริ้วขึ้นมาหนึ่งชิ้น แล้วแกว่งเนื้อลงในหม้อครู่หนึ่งใช้เวลาไม่นานเธอก็คีบมันเข้าปากอร่อยมาก หอมมาก!ท่าทางของฌอนแสดงออกถึงความไม่พอใจเท่าที่ควร เธอสนใจอยู่แต่กับอาหารของเธอ และไม่สนใจเขาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะสั่งแต่เมนูที่เขาชอบแล้วแนะนำวิธีรับประทานให้อร่อยกับเขาทว่าในตอนนี้ เธอไม่ได้สนใจเขาอีกแล้ว ราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของเธออีกต่อไปจู่ ๆ เขาก็รู้สึกอึดออัดตันใจและสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำให้ผมชิ้นหนึ่ง”“คุณไม่มีมือหรือไง? ถ้าคุณอยากกินคุณก็ทำเองสิคะ” แคทเธอรีนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองขมับของชายหนุ่มเต้นตุบ ๆ ทว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเรียนรู้วิธีการปรุงเนื้อให้สุกหลังจากที่ได้กัดเข้าไป ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็เปลี่ยนกับเป็นสีแดงจากความเผ็ดร้อน และก็ถามออกมา “คุณสั่งหม้อไฟแบบไหนมาเนี่ย?”“แบบเผ็ดที่สุดค่ะ”ฌอนยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา “คุณพยายามจะแกล้งผมจริง ๆ ด้วย”แคทเธ
เมื่อเขาพูดว่า ‘เขาไม่มีทางเลือก’ คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจและจนปัญญาเชสพูดอะไรไม่ออก “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เธอทิ้งนายเอาไว้ที่นี่หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเหรอ?”“หุบปากไปเถอะ” ฌอนจ้องเขม็งมองเขา เขาเปิดประตูรถขึ้นนั่งและหลับตาลง เขาปวดมากจนไม่อยากพูดอะไรอีก เชสมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของเขา และแอบถ่ายรูปของเขาเพื่อส่งไปให้แคทเธอรีนในวอทส์แอป[พี่สะใภ้ ฌอนปวดท้องจากที่ตามพี่สะใภ้ไปกินหม้อไฟ ตอนนี้ผมกำลังพาเขาไปส่งที่โรงพยาบาล แคทเธอรีนอย่าโกรธเขาเลย ถึงเขาจะไม่ได้ป่าวประกาศออกมา แต่เขาก็เป็นห่วงคุณ]“เมื่อกี้นายถ่ายรูปอะไรของนาย?” จู่ ๆ ฌอนก็ลืมตาขึ้นแล้วแย่งโทรศัพท์ของเชสไป เขาอ่านข้อความที่เชสพิมพ์ไปแล้วรู้สึกเหมือนกันว่าเขาเสียศักดิ์ศรีและชื่อเสียงไป “ฉันเป็นห่วงเธออย่างนั้นเหรอ? ฉันคิดว่านายต้องเสียสติไปแล้ว”“นี่คือแผนของฉันที่จะทำให้เธอกลับมาทำอาหารให้นายไง มันเป็นกลอุบายที่ใช้อาการเจ็บป่วยเป็นข้ออ้างเพื่อเอาชนะศัตรู” เชสถอนหายใจออกมา มันยากนักหรือไงที่จะยอมรับว่าเขาชอบเธอ?ฌอนเยาะเย้ยทว่าไม่พูดออกมาอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังจับตาดูข้อความในโทรศัพท์ไม่นานนัก โทรศัพท
“ก่อนหน้านี้ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่านายเป็นคนหน้าด้านหน้าทนแบบนี้? นายลืมไปแล้วเหรอว่านายเคยตบฉันที่ทางเข้าสถาบันออกแบบ? หรือที่นายผลักฉันเพราะรีเบคก้าอีก? หรือตอนที่นายจ้างคนให้มาทำน้ำท่วมวิลล่าเพื่อจะใส่ร้ายป้ายสีฉันเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว? ถ้าฉันไม่รู้เรื่องก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแค่ฉันที่ต้องจ่ายค่าเสียหาย แต่บริษัทของฉันก็จะถูกลากมาเกี่ยวข้องด้วย”“อีธาน โลว์ความเลวร้ายของนายทำให้ฉันกลัว และการพูดถึงความสัมพันธ์ของเราที่ผ่านมามันทำให้ฉันขนลุก แล้วนายล่ะ? นายไม่สำนึกผิดและไม่ใส่ใจจะขอโทษ แต่นายก็หน้าด้านมากพอที่จะยืนอยู่ตรงหน้าฉัน”ใบหน้าของอีธานแดงก่ำจากการถูกเธอต่อว่า แต่เขาก็เถียงอะไรไม่ได้เนื่องจากความอับอายของเขาความจริงแล้ววันนั้นเขาโกรธมากและรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ถึงอย่างนั้น ความหยิ่งในศักดิ์ศรีทำให้เขาไม่อาจก้มหัวลงได้แคทเธอรีนชำเลืองมองไปที่เขาก่อนจะมองไปรอบ ๆ จู่ ๆ ก็ถอนหายใจออกมา“ช่างเถอะ ไม่ต้องมาพูดว่าฉันใจร้ายเกินไปแล้วกัน สุดท้ายแล้วปัญหาของโกลเด้น คอร์ปอเรชั่น คือการถอนการลงทุนไม่ใช่เหรอ? นายจะแก้ปัญหาไม่ได้ถ้านายไม่สามารถทำให้การลงทุนกลับมาคงเดิมได้
อีธานมองไปที่คนที่พูด “ผมท้าให้คุณลองพูดอีกครั้ง”คน ๆนั้นเป็นผู้จัดการหญิงของบริษัท เธอยืนขึ้นพูด “ฉันพูดอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ? ใครในเมลเบิร์นจะไม่รู้ว่าประธานโลว์คนเก่งทิ้งแฟนของเขาที่คบหากันมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อมาเป็นผู้สืบทอด? ไม่เพียงเท่านั้น เขายังทำกระทั่งเข้าไปใกล้ชิดกับคนอื่นเพื่อที่เขาจะได้เป็นคาสโนว่า ช่างเป็นความอัปยศของโลว์ คอร์ปอเรชั่นอะไรอย่างนี้!”“ใช่ ประธานโลว์ ลูกชายของคุณคนนี้ต้องได้รับการสั่งสอนอย่างถูกต้อง เขาไม่มีคุณธรรมไม่คู่ควรกับตำแหน่งของเขา” ผู้ถือหุ้นอีกรายกล่าวกับแซคคารี่แซคคารี่รู้สึกอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างยิ่งและทำได้เพียงพูดออกมาอย่างเย็นชา “อีธาน ให้เพอร์ซี่จัดการแทนแกในตำแหน่งประธานชั่วคราว แกไม่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการของบริษัทที่กำลังจะเกิดขึ้น”อีธานแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน “คุณพ่อครับ...”“แกทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ” แซคคารี่กล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะเดินออกไปหลังจากที่ประชุมเสร็จแล้ว เพอร์ซี่ก็เดินไปหาอีธานและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ไม่ต้องกังวลนะครับพี่ชาย ผมจะดูแลบริษัทเป็นอย่างดี พี่สามารถถอนตัวออกไปจากแผนกโลจิสติกส์ได้ตามสบายเลยนะครับ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก