เมื่อเขาพูดว่า ‘เขาไม่มีทางเลือก’ คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจและจนปัญญาเชสพูดอะไรไม่ออก “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เธอทิ้งนายเอาไว้ที่นี่หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเหรอ?”“หุบปากไปเถอะ” ฌอนจ้องเขม็งมองเขา เขาเปิดประตูรถขึ้นนั่งและหลับตาลง เขาปวดมากจนไม่อยากพูดอะไรอีก เชสมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของเขา และแอบถ่ายรูปของเขาเพื่อส่งไปให้แคทเธอรีนในวอทส์แอป[พี่สะใภ้ ฌอนปวดท้องจากที่ตามพี่สะใภ้ไปกินหม้อไฟ ตอนนี้ผมกำลังพาเขาไปส่งที่โรงพยาบาล แคทเธอรีนอย่าโกรธเขาเลย ถึงเขาจะไม่ได้ป่าวประกาศออกมา แต่เขาก็เป็นห่วงคุณ]“เมื่อกี้นายถ่ายรูปอะไรของนาย?” จู่ ๆ ฌอนก็ลืมตาขึ้นแล้วแย่งโทรศัพท์ของเชสไป เขาอ่านข้อความที่เชสพิมพ์ไปแล้วรู้สึกเหมือนกันว่าเขาเสียศักดิ์ศรีและชื่อเสียงไป “ฉันเป็นห่วงเธออย่างนั้นเหรอ? ฉันคิดว่านายต้องเสียสติไปแล้ว”“นี่คือแผนของฉันที่จะทำให้เธอกลับมาทำอาหารให้นายไง มันเป็นกลอุบายที่ใช้อาการเจ็บป่วยเป็นข้ออ้างเพื่อเอาชนะศัตรู” เชสถอนหายใจออกมา มันยากนักหรือไงที่จะยอมรับว่าเขาชอบเธอ?ฌอนเยาะเย้ยทว่าไม่พูดออกมาอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังจับตาดูข้อความในโทรศัพท์ไม่นานนัก โทรศัพท
“ก่อนหน้านี้ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่านายเป็นคนหน้าด้านหน้าทนแบบนี้? นายลืมไปแล้วเหรอว่านายเคยตบฉันที่ทางเข้าสถาบันออกแบบ? หรือที่นายผลักฉันเพราะรีเบคก้าอีก? หรือตอนที่นายจ้างคนให้มาทำน้ำท่วมวิลล่าเพื่อจะใส่ร้ายป้ายสีฉันเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว? ถ้าฉันไม่รู้เรื่องก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแค่ฉันที่ต้องจ่ายค่าเสียหาย แต่บริษัทของฉันก็จะถูกลากมาเกี่ยวข้องด้วย”“อีธาน โลว์ความเลวร้ายของนายทำให้ฉันกลัว และการพูดถึงความสัมพันธ์ของเราที่ผ่านมามันทำให้ฉันขนลุก แล้วนายล่ะ? นายไม่สำนึกผิดและไม่ใส่ใจจะขอโทษ แต่นายก็หน้าด้านมากพอที่จะยืนอยู่ตรงหน้าฉัน”ใบหน้าของอีธานแดงก่ำจากการถูกเธอต่อว่า แต่เขาก็เถียงอะไรไม่ได้เนื่องจากความอับอายของเขาความจริงแล้ววันนั้นเขาโกรธมากและรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ถึงอย่างนั้น ความหยิ่งในศักดิ์ศรีทำให้เขาไม่อาจก้มหัวลงได้แคทเธอรีนชำเลืองมองไปที่เขาก่อนจะมองไปรอบ ๆ จู่ ๆ ก็ถอนหายใจออกมา“ช่างเถอะ ไม่ต้องมาพูดว่าฉันใจร้ายเกินไปแล้วกัน สุดท้ายแล้วปัญหาของโกลเด้น คอร์ปอเรชั่น คือการถอนการลงทุนไม่ใช่เหรอ? นายจะแก้ปัญหาไม่ได้ถ้านายไม่สามารถทำให้การลงทุนกลับมาคงเดิมได้
อีธานมองไปที่คนที่พูด “ผมท้าให้คุณลองพูดอีกครั้ง”คน ๆนั้นเป็นผู้จัดการหญิงของบริษัท เธอยืนขึ้นพูด “ฉันพูดอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ? ใครในเมลเบิร์นจะไม่รู้ว่าประธานโลว์คนเก่งทิ้งแฟนของเขาที่คบหากันมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อมาเป็นผู้สืบทอด? ไม่เพียงเท่านั้น เขายังทำกระทั่งเข้าไปใกล้ชิดกับคนอื่นเพื่อที่เขาจะได้เป็นคาสโนว่า ช่างเป็นความอัปยศของโลว์ คอร์ปอเรชั่นอะไรอย่างนี้!”“ใช่ ประธานโลว์ ลูกชายของคุณคนนี้ต้องได้รับการสั่งสอนอย่างถูกต้อง เขาไม่มีคุณธรรมไม่คู่ควรกับตำแหน่งของเขา” ผู้ถือหุ้นอีกรายกล่าวกับแซคคารี่แซคคารี่รู้สึกอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างยิ่งและทำได้เพียงพูดออกมาอย่างเย็นชา “อีธาน ให้เพอร์ซี่จัดการแทนแกในตำแหน่งประธานชั่วคราว แกไม่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการของบริษัทที่กำลังจะเกิดขึ้น”อีธานแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน “คุณพ่อครับ...”“แกทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ” แซคคารี่กล่าวเรียบ ๆ ก่อนจะเดินออกไปหลังจากที่ประชุมเสร็จแล้ว เพอร์ซี่ก็เดินไปหาอีธานและยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ไม่ต้องกังวลนะครับพี่ชาย ผมจะดูแลบริษัทเป็นอย่างดี พี่สามารถถอนตัวออกไปจากแผนกโลจิสติกส์ได้ตามสบายเลยนะครับ
“เจ้าฟัดจ์กำลังจะคลอดเหรอคะ?” “ในที่สุดคุณก็ยอมโทรกลับมาหาผมแล้วเหรอ?” น้ำเสียงของฌอนเย็นชา“ฉันถามคุณอยู่นะคะ!” แคทเธอรีนรู้สึกกระวนกระวายใจ เธอดูแลเจ้าฟัดจ์มาตั้งนาน ดังนั้นเธอจึงเป็นห่วงแมว“มันคลอดยาก”“ถ้างั้นก็รีบพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลสิ!” แคทเธอรีนตะโกนด้วยความหงุดหงิด เขาทนให้ลูกแมวน่ารัก ๆ ทรมานได้อย่างไร?“ตอนนี้เธอกำลังคลอดอยู่ ผมเลยเคลื่อนย้ายเธอไม่ได้ คุณมาเองจะดีกว่า เจ้าฟัดจ์คิดถึงคุณและต้องการกำลังใจของคุณตอนนี้ เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้น คุณจะได้เห็นเธอเป็นครั้งสุดท้าย”ฌอนไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ว่าเขาโมโหแค่ไหนตอนที่เขาปวดท้องก่อนหน้านี้ แล้วเธอกลับทำแค่แนบเบอร์โทรศัพท์ติดต่อโรงพยาบาลมาให้กับเขา เธอเป็นห่วงแมวมากกว่าที่เป็นห่วงเขาแคทเธอรีนตะคอกใส่เขา “อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้น ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”“ช่วยรีบหน่อยแล้วกัน ผมกลัวว่าเธอจะทนได้ไม่นาน” ฌอนวางสายหลังจากที่พูดจบ“ลัลลาลัลลา เคธี่ที่รักของฉัน ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ” เฟรยาเปลี่ยนเป็นเดรสสีแดงแล้วหมุนตัวออกมา “ฉันสวยไหมล่ะ?”“เฟรยา ฉันขอโทษจริง ๆ นะ แต่ตอนนี้เจ้าฟัดจ์กำลังจะคลอดลูก ฉันต้องรีบไปแล้ว เรายก
แคทเธอรีนเชื่อตามที่เขาพูดพลางลูบเจ้าฟัดจ์อย่างแผ่วเบาด้วยความรัก “ฟัดจ์ แกเก่งมากเลยนะ แกกล้าหาญที่สุดเลย แกทำได้ดีมาก”ฟัดจ์ร้องเมี๊ยวอย่างอ่อนแรงจากความเหนื่อยล้า“เธอคงหิว” ฌอนพูดขึ้นแคทเธอรีนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน การคลอดลูกเป็นกระบวนการที่ยากลำบาก“ฉันจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้เธอกินค่ะ”แสงไฟสว่างขึ้นภายในห้องครัว ทั้งเตาแก๊สก็ถูกเปิด หญิงสาวใส่ผ้ากันเปื้อนที่เธอเคยใส่มาก่อนฌอนยืนอยู่ที่ด้านหลังของหญิงสาว แล้วรู้สึกว่าภาพที่เห็นอยู่นี้น่ามอง แน่นอนอยู่แล้วที่เธอดูเหมาะสมที่จะเป็นส่วนสำคัญของบ้าน “ผมก็หิวเหมือนกันนะ”แคทเธอรีนแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาพูด ดังนั้นเขาจึงเข้าไปใกล้เธอแล้วพ่นลมหายใจชิดริมหูของหญิงสาว “ผมพูดว่าผมหิว คุณได้ยินที่ผมพูดไหม?”ดวงตาของเธอไหวระริก แล้วเธอก็เกือบจะทำไม้พายที่ถืออยู่หล่นหลงเมื่อมองกลับไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา เธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณฮิลล์คะ ฉันเหมือนจะจำได้ว่าคุณด่าว่าฉันเป็นผู้หญิงสกปรกพอ ๆ กับผู้หญิงข้างถนน แล้วคุณก็ไม่อยากทานอาหารที่ฉันทำอีกแล้วเพราะมันทำให้คุณทานไม่ลง”“...”ใบหน้าที่หล่อเหลาของฌอนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เขาเคยพูดแบบ
แม่งเอ้ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขานึกอยากจะบีบคอผู้หญิงมากขนาดนี้แคทเธอรีนรู้สึกกลัวจนขาสั่น อยากอยากจะร้องไห้ออกมา คืนนี้ทำเธอถึงต้องมาที่นี่ด้วย?“ฉันผิดเองที่คิดกับคุณเพียงตื้นเขินและผิวเผินเท่านั้น ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ”ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววความหวาดกลัวสุดขีดออกมาและดวงตาของเธอก็ใสเป็นประกายราวกับลูกแมวน้อย เธอไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลยหัวใจของฌอนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาเต้นแรงขนาดนี้ ทว่าก็เป็นเพราะผู้หญิงใจร้ายคนนี้ทั้งสิ้น“ออกไป”เขาไม่สามารถควบคุมความโกรธของเขาได้และเหวี่ยงเธอลงบนพื้น “อย่าให้ผมเจอคุณอีก” แรงเหวี่ยงของชายหนุ่มรุนแรงมากจนทำให้แคทเธอรีนล้มลงกับพื้น เมื่อเธอล้มลงหญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดราวกับตกนรกทั้งเป็นเธอฝืนตัวเองให้ยืนขึ้น ทั้งรู้สึกโกรธเคืองไม่ต่างกัน “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าฟัดจ์ คุณคิดว่าฉันยังอยากจะเจอคุณอยู่ไหม? คุณเป็นคนอารมณ์ไม่แน่นอนแถมยังอารมณ์ร้าย ใครจะทนคุณได้?”จากนั้นเธอก็รีบออกไปคราวนี้เธอจะไม่กลับมาอีกแล้วภายในบ้าน สายป่านที่มัดแน่นในหัวใจฌอนขาดลงจนหมดสิ้นแล้วเขาคว้าชามบะหมี่ที่เธอปรุงและกำลังจะทุ่ม
“คุณพ่อของแพทริกกับคุณพ่อของลินดาเป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากที่พวกท่านเกษียณอายุราชการทหารแล้ว พวกเขาจึงก่อตั้งธุรกิจร่วมกัน แพทริกและลินดาอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กันและโตมาด้วยกัน เขาจึงดูแลลินดาเหมือนกับเป็นน้องสาวของเขา”“ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกว่าลินดาไม่ได้รู้สึกกับเขาเหมือนเป็นพี่ชาย” แคทเธอรีนเหลือบมองเฟรยาเฟรยายังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถอนหายใจออกมา “เธอก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเหรอ? ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ฉันไม่มีหลักฐาน”“จับตามองเธอเอาไว้ให้ดีแล้วกัน” แคทเธอรีนเตือนเฟรยา“ตกลง”...หนึ่งสัปดาห์ต่อมารีเบคก้าและครอบครัวของเธอกลับถึงเมลเบิร์นหลังจากไปพักผ่อนเพียงไม่นานหลังจากที่พวกเขากลับถึงคฤหาสน์ตระกูลโจนส์ อีธานก็โทรมาหารีเบคก้าอีกครั้งเมื่อรีเบคก้ามองไปที่การแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา แววตาของเธอก็ฉายแววความรำคาญออกมา แต่ถึงอย่างไรเธอก็ตัดสินใจรับสายด้วยรอยยิ้ม เธอถามขึ้น “มีอะไรคะอีธาน?”“ผมโทรหาคุณโดยที่ไม่มีเรื่องอะไรไม่ได้หรือไง?”เพียงไม่นานอีธานก็อยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้าของคฤหาสน์ ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นว่ารีเบคก้าและครอบครัวของเธอกลับมาแล้
ไม่ถึงสิบนาที จู่ ๆ อีธานก็ได้รับโทรศัพท์จากซอนย่า“เกิดอะไรขึ้นอีธาน? รีเบคก้าประกาศในเฟซบุ๊กว่า เธอยกเลิกการแต่งงานกับลูกเพราะลูกยังรักแคทเธอรีนอยู่”อีธานตะลึงไปเพราะเขาคิดไม่ถึงว่ารีเบคก้าจะรีบประกาศออกไปแบบนั้นเขารีบคลิกเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊คของรีเบคก้าเธอเขียนว่า : [หญิงสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งไต่บันไดขึ้นไปด้วยคิดว่าเธอได้พบกับเจ้าชายของเธอ ทว่ากลับต้องพบว่าเขาไล่ตามเธอเพียงเพราะสถานะผู้สืบทอดบริษัทของเธอ][เมื่อไม่นานมานี้ ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าฉันเป็นมือที่สามระหว่างน้องสาวกับแฟนของเธอ ความจริงแล้วฉันไม่รู้ตัวเลย][เขาบอกว่าเขารักฉันแล้วฉันเองก็เชื่อ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉันจึงคบกับเขา ฉันไม่สนใจแม้ว่าฉันจะถูกก่อกวนในงานแต่งงาน][แต่ถึงอย่างนั้นฉันเพิ่งได้รู้ว่าเขายังมีความรู้สึกให้คนอื่นอยู่ เขาแสร้งทำเป็นหมั้นกับฉันก่อนหน้านี้ แล้วทำเหมือนกับว่าฉันเป็นหนทางก้าวไปสู่การรักษาตำแหน่งของเขาในโลว์ คอร์ปอเรชั่น ส่วนฉันก็ถูกเขี่ยทิ้งหลังจากนั้น]หลังจากข้อความ รีเบคก้าก็โพสต์รูปของแคทเธอรีนและเขาที่กรีน เมาน์เทนจากมุมของภาพถ่าย มันทำให้เขาดูเหมือนกำลังพูดคุยกับแคทเธอ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก