“โอ้ ฉันสงสารเธอจริง ๆ เธอแค่ไปยั่วคนรวยที่สุดในประเทศเข้า” เฟรยาถอนหายใจ “ไม่เพียงแค่สลัดเขาไม่หลุด เขาต้องการแค่เธอและห้ามเธอปฏิเสธเขาอีกด้วย”ความรังเกียจที่อยู่ในใจแวบขึ้นมาในดวงตาของแคทเธอรีนขณะที่เธอได้ฟังเธอเกลียดผู้ชายที่ไม่รู้ว่าจะทะนุถนอมคนอื่นอย่างไรแบบฌอน ฮิลล์ที่สุดถ้าเธอสามารถเริ่มใหม่ทั้งหมดได้อีกครั้ง เธอก็ไม่อยากพบเจอเขาอีกเลยจริง ๆ............11:00 น.ญาติของตระกูลลียงส์มาดูเจ้าสาวทีละคนแคทเธอรีนสวมรองเท้าส้นสูงของเธอแล้วลุกขึ้นยืน แลเห็นซอนย่า ลียงส์, อีธาน โลว์ และเทรซี่ สตีล เดินเข้ามาด้วยกันมานึกดูก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่อีธานกับเธอได้มาเจอกัน ปีนั้นเธอออกจากเมลเบิร์น ส่วนอีธานต้องให้เทรซี่เป็นแฟนเขาเพื่อช่วยตระกูลโลว์ และแล้วพวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกันนับแต่นั้นมา“แคทเธอรีน มันนานมากเลยนะ” อีธานจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากอธิบายหลังจากไม่ได้เจอเธอกว่าสามปี เธอก็สวยขึ้นมากโดยเฉพาะวันนี้ในชุดแต่งงานสีขาวราวหิมะและใบหน้าเล็ก น่าทึ่งที่รังสรรค์ผ่านฝีมือศิลปิน เธอจึงสวยงามดั่งนางฟ้าเมื่อเขายังเด็ก เขาเคยนึกฝันถึงการได้แต่งงานกับเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่เ
ถึงใบหน้าของอีธานหม่นลงกับคําพูดเหล่านั้น ทว่าเขารู้สึกเสียใจเมื่อนึกย้อนอดีต “ในตอนนั้น ผม... ผมถูกรีเบคก้านอกใจว่าแต่ช่วงนี้คุณเห็นรีเบคก้าบ้างไหม?”การแสดงออกของแคทเธอรีนดิ่งลงเมื่อพูดถึงบุคคลนั้น “เมื่อสามปีที่แล้วเธออยู่ที่แคนเบอร์รา หลังจากทําศัลยกรรมพลาสติกเพื่อเปลี่ยนโฉมใบหน้าของเธอในรูปลักษณ์ใหม่เธอก็หายตัวไป ฉันรู้สึกว่าใครบางคนที่มีอิทธิพลมากให้การสนับสนุนเธออยู่เบื้องหลังมาตลอดค่ะ”อีธานแสดงร่องรอยของความไม่สบายใจต่อคําพูดเธอ "ผมหวังว่าเธอจะไม่ปรากฏตัวอีก""อืมใช่" เฟรยารำพึง “ซาร่าคนเดียวก็ทำเราปวดหัวพอแล้ว มันคงจะลําบากหนักถ้ารีเบคก้าโผล่มาด้วย”แคทเธอรีนขมวดคิ้ว เธอคิดเสมอว่ารีเบคก้าฉลาดแกมโกงมากกว่าซาร่า และเธอมีความรู้สึกตะหงิดใจว่ารีเบคก้าจะต้องโผล่มาอีกครั้งอย่างแน่นอน“แคธี่นี่คือข้อมูลติดต่อของผม ในอนาคตเราจะนับถือว่าเป็นเครือญาติกัน” อีธานยื่นนามบัตรให้เธออย่างกระอักกระอ่วน “เมื่อก่อนผมเป็นฝ่ายผิดและทําร้ายคุณมาตลอด ในอนาคตถ้าลุงรังแกคุณหรือถ้าแม่พูดจาไม่ดีใส่คุณ คุณสามารถมาหาผมได้ทุกเมื่อ แม้ว่าผมจะไม่มีสิทธิ์แต่ผมก็จะเป็นพี่อีธานของคุณเสมอ นอกจากนั้นผมจะไ
ซูซี่กัดริมฝีปากของเธอเองและอดร้องไห้ไม่ได้ลูคัสมองมาที่เธอ แล้วใบหน้าที่เย็นชาของเขาเผยให้เห็นความนุ่มนวลที่มีไม่บ่อย "เกิดอะไรขึ้น? เธอทนปล่อยแม่ไปไม่ได้เหรอ? ไม่ต้องกังวล แม่จะยังคงรักเรามากเหมือนเดิมนะ”“อย่าโกหกฉันเลย ในอนาคตแม่กับลุงเวสลีย์จะมีน้อง ๆ ตัวน้อยมาให้เราอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นแม่ก็จะไม่รักเรามากอีกแล้ว”ซูซี่สะอื้นฮัก ๆ พึมพําด้วยเสียงเบาอย่างรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจมากแม้ลุงเวสลีย์จะดีกับเธอมาก แต่เขาไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอเป็นความผิดของพ่อที่ไม่เอาไหนทั้งหมด ทําไมเขาโง่จัง? เธอบอกใบ้เขาแล้วแต่เขาก็ยังไม่มาอีกช่างมันเถอะแม่แต่งงานแล้ว เธอต้องยอมรับความจริง"นั่นคงไม่เกิดขึ้นหรอก" ลูคัสเม้มริมฝีปากบางของเขาและจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ “แม่ไม่ใช่คนแบบนั้นและเธอจะเป็นน้องสาวตัวน้อยของฉันตลอดไป ฉันจะรักและดูแลเอาใจใส่เธอให้มาก ๆ เลยนะ ”“ลูคัส...” ซูซี่ร้องไห้อีกครั้ง หลังจากใช้ชีวิตมาเป็นเวลาสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่ลูคัสพูดถ้อยคําที่อบอุ่นเช่นนี้............หลังพิธี นักข่าวได้โพสต์ภาพงานแต่งงานที่สวยงามเหล่านั้นทางออนไลน์เวสลีย์ยังจูงมือแคทเธอรีนและถ่ายรูปพวกเข
“ได้ยินเรื่องอะไรเหรอ?”หัวใจของฌอนสะดุ้งหวาดกลัวจากน้ำเสียงของเชสเตอร์ใช่แล้วเขากลัว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาเผชิญความกลัวแบบเดียวกันนี้อีกครั้ง ครั้งแรกตอนที่เขาผลักแคทเธอรีนซึ่งตั้งครรภ์อยู่ล้มลงไปความรู้สึกกลัวเดียวกันนี้เกิดขึ้นขณะที่เขาส่งเธอไปที่โรงพยาบาลมันเหมือนกับเขาใกล้จะสูญเสียบางอย่างที่ล้ำค่าสําหรับเขาไป“แคทเธอรีนกับเวสลีย์แต่งงานกันแล้วที่เมลเบิร์น” เชสเตอร์กล่าวอย่างหมดหวัง “งานแต่งงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว เวสลีย์ยอมรับต่อสาธารณะแล้ว และนักข่าวก็ถ่ายรูปในงานมาแล้ว หากนายไม่เชื่อฉันล่ะก็เพียงแค่ค้นหาดูเรื่องที่มาแรงสุด ทุกคนรู้กันทั่วแล้ว”“......”ฌอนลูบขมับของเขาและหัวเราะเสียงแหบ “นายกําลังโกหกฉัน วันนี้เป็นวันเอพริลฟูลเดย์ใช่ไหม?”“ไม่ฌอน แคทเธอรีนแต่งงานแล้วจริง ๆ ดึงสติตัวเองแรง ๆ แล้วกลับมาซะ ร็อดนีย์กับฉันจะดื่มกับนายเอง”“หุบปากน่ะ เธอไม่สามารถแต่งงานได้ ตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลย” เขาคํารามปฏิเสธที่จะเชื่อข้อเท็จจริง“ไม่มีใครกําหนดว่าการแต่งงานจะต้องเป็นหลังเที่ยงนะ” เชสเตอร์เกลี้ยกล่อม “ใจเย็น ๆ ที่อดีตนายหย่าและแยกทางกับแคทเธอรีนได้นั้นอาจเพราะว่า
ที่ห้องจัดเลี้ยงรับรองงานแต่งแคทเธอรีนเปลี่ยนเป็นชุดราตรียาวสีแดง ชุดเน้นโค้งเว้าเข้ารูปพอดีทุกสัดส่วนและสร้อยคอเพชรสวยโดดเด่นประดับบนคอระหงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าสาววันนี้เธอสวยงามกว่าใครทั้งหมดในงาน“ลุงครับ ป...ป้าครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะ”ที่โต๊ะของครอบครัวและเพื่อน ๆ โต๊ะหนึ่ง อีธานยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอวยพรด้วยอารมณ์ที่หลากหลายผสมปนเป"ขอบคุณนะคะ" ขณะแคทเธอรีนกําลังจะดื่มด้วยเวสลีย์เตือนเธอเบา ๆ ว่า “อย่าดื่มมาก จิบเบา ๆ ก็ใช้ได้”“ว้าว เจ้าบ่าวห่วงใยเจ้าสาวมากเหลือเกิน”ใครบางคนจากครอบครัวลียงส์ตะโกนด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสาวดื่มน้อยได้ แต่เจ้าบ่าวต้องดื่มสามแก้ว”“ลุงครับ อย่าทําให้เวสลีย์ลําบากเลย” แคทเธอรีนอดยิ้มไม่ได้ “บ่ายนี้เรามีเที่ยวบินไฟล์ทบ่ายสำหรับการไปฮันนีมูนของเรานะคะ”“โอ้โหเวสลีย์ ดูสิเจ้าสาวของนายดูแลปกป้องแค่ไหน นายไม่ควรดื่มให้มากขึ้นอีกเหรอ?” ชายคนนั้นใช่แค่ไม่ยอมถอยแต่กลับรุกหนักยิ่งขึ้นอีก"โอเค" เวสลีย์มองแคทเธอรีนอย่างเสน่หา “ไม่ต้องห่วง ผมรับมือกับเครื่องดื่มได้ ผมไม่เป็นไรหรอก”"แต่..."“ผมดีใจมากเลยนะที่คุณเป็นห่วงผมขนาดนี้” เวสลีย์รู้สึกภูมิใจปล
“แม่ นั่นฌอน ฮิลล์ไง เขาหล่อมากเลย ตัวจริงเขาหล่อกว่ารูปถ่ายบนอินเทอร์เน็ตอีก”“ฉันว่าเวสลีย์ก็หล่ออยู่นะ แต่เมื่อเทียบกับฌอนแล้วฌอนหล่อกว่าเยอะ”"หุบปากนะยัยตัวแสบ"“......”หญิงสาวกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันฉอด ๆ แล้วใบหน้าที่หล่อเหลาของเวสลีย์ก็ได้แต่จ๋อยลงไปเขามายืนอยู่ตรงหน้าแคทเธอรีนทันทีโดยสัญชาตญาณฌอนเหลือบแว่บเดียวก็เห็นแคทเธอรีนในกลุ่มคน เธอโดดเด่นท่ามกลางผู้คนได้อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยเสื้อราตรียาวสีแดงและผิวขาวราวกับหิมะของเธอทําให้เธอดูน่าทึ่งนั่นคือผู้หญิงของเขาอย่างไรก็ตามขณะนั้นเวสลีย์จับมือเธอไว้จริง ๆ และเธอก็ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเวสลีย์เหมือนสาวน้อยคนหนึ่งความหนาวเย็นยะเยือกกวาดไปทั่วห้องฌอนก้าวเท้ายาว ๆ มุ่งหน้าไปทางพวกเขาใบหน้าเศร้าหมองของเขาราวมีมีดสั้นคมกริบอยู่ในดวงตา และไม่มีใครคิดหรอกว่าเขามาแสดงความยินดีกับงานนี้“คุณชายใหญ่ฮิลล์ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับเรา ผมยินดีต้อนรับคุณนะ แต่ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อทําลายงานแต่งงาน ผมบอกคุณได้แค่ว่าคุณช้าไปแล้วล่ะ ตอนนี้แคธี่เป็นภรรยาของผมแล้ว”เวสลีย์มองไปที่ฌอนอย่างขึงขัง “โปรดหยุดรังควานภรรยาของผม”"ภรรย
ทุกคนในงานแต่งงานจ้องเขม็งมาที่ฌอนเขาเป็นคนที่โดดเด่นเหนือใครที่สุดในประเทศ แต่ในขณะนั้นเขาดูน่าสังเวชเหมือนเด็กชายตัวโตที่ทำของรักหาย ใบหน้าของเขาถูกฉาบไว้ด้วยความไม่มั่นใจและทําอะไรไม่ถูกแต่ครู่ต่อมา เขาก็หัวเราะอย่างมืดมน มันเย็นชา น่าขนลุกและน่ากลัวมาก“เวสลีย์ ลียงส์ นายไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นคนแบบไหน? เธอเป็นผู้หญิงของฉัน เธอเป็นของฉันไปตลอดชีวิต สำคัญยังไงเหรอที่เธอแต่งงาน? มันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว”ฌอนก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างเฉยชา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเขียนป้ายไว้แล้วว่ากำลังบ้าคลั่งเวสลีย์และแคทเธอรีนหวาดกลัวมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาประเมินความหน้าด้านไร้ยางอายของฌอนต่ำไป“ฌอน ฮิลล์ ปลงซะแล้วก้าวพ้นไปให้ได้ ฉันหมดรักคุณไปนานแล้ว” แคทเธอรีนอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่ เธอเคยบอกเขาไปแล้วตั้งหลายครั้ง"มันไม่สําคัญหรอกตราบใดที่ผมรักคุณ" ฌอนเอื้อมมือออกไปจะจับมือเธอ แต่เวสลีย์สวนหมัดใส่เขาทันทีหลังจากแลกหมัดซัดกันไปมาได้ไม่กี่หมัด เวสลีย์ก็เสียเปรียบ"ลุงครับ ผมจะช่วยลุงเอง" อีธานรีบลุกพรวดขึ้นมาจากที่นั่งทันที และบรรดาชายฉกรรจ์จากตระกูลลียงส์ก็เข้ามารุมล้อมกันอย่างว่องไวด้วยเพื่อช่วยเ
“ใช่ แกโทรหาตํารวจไม่ได้” นายลียงส์กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “แกไม่สามารถคว้าผู้หญิงคนนั้นมาได้ด้วยเช่นกัน ทันทีที่เธอกลับมาก็หย่ากับเธอเลยนะ”“นี่มันเรื่องของผม อย่ามายุ่ง”เวสลีย์จากไปพร้อมกับสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดซูซี่และลูคัสเหลือบสบตากัน แล้วทั้งคู่ก็มองเลียมที่พูดไม่ออก“ลุงคะ เราควรทําอย่างไรกันดี? พ่อใจร้ายพาแม่ไปแล้วจริง ๆ” ซูซี่ตัวสั่น เมื่อกี้พ่อใจร้ายน่ากลัวจริง ๆลูคัสก็กังวลใจเช่นกัน “ลุงครับ แม่จะเป็นอะไรหรือเปล่า?”“ไม่ต้องกังวล ฌอนแค่ไม่ต้องการให้แม่ของหลานอยู่กับเวสลีย์”ถึงแม้เลียมพูดอย่างนั้น แต่หัวใจของเขาก็สั่นอยู่เหมือนกันฌอนไม่ใช่คนปกติ เขาป่วยทางจิต ใครจะรู้ว่าเขาจะมีอาการขึ้นมาเมื่อไหร่? ใช่ว่าในอดีตเขาไม่เคยทําร้ายแคทเธอรีน ได้แต่หวังว่าครั้งนี้เขาคงจะสงบลงได้“ผลที่ตามมาของเรื่องนี้รุนแรงมาก ลุงต้องรีบกลับไปที่ตระกูลฮิลล์” เลียมถอนหายใจ การกระทําของฌอนทําลายชื่อเสียงของตระกูลฮิลล์โดยสิ้นเชิง ในอนาคตครอบครัวตระกูลฮิลล์จะถูกดูหมิ่นเหยียดหยามทุกที่ที่พวกเขาไป............กลับมาที่ห้องสวีทของโรงแรม เวสลีย์กดหมายเลขอย่างรวดเร็ว “ส่งพรรคพวกมาให้ผม
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก