“หยุดพูดเหลวไหลนะ” ร็อดนีย์รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เฟรยาพูด"ฉันแค่พูดความจริงย่ะ" แล้วเฟรยาก็หันกลับมาโบกเรียกรถแท็กซี่"คุณไม่อยากให้ผมไปส่งคุณกลับเหรอ?" ร็อดนีย์โพล่งออกมา“ฉันไม่กล้าหรอก คุณน่ะสูงส่งเหลือเกิน ฉันกลัวว่าคุณจะโยนฉันลงจากสะพาน” เฟรยาขึ้นรถไปทันทีโดยไม่หันหลังกลับร็อดนีย์งุนงงอยู่ตั้งนานที่มันไม่ได้เป็นไปตามที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้เขาคิดว่าเฟรยาคงจะตื๊อเขาอย่างแน่นอน ก็หุ้นของสโนว์คอร์ปอเรชั่น 10 เปอร์เซ็นต์นั้นเย้ายวนใจมากเดี๋ยวก่อนนะ เขาลืมเตือนเธอให้กินยาคุมกําเนิดห้าสิบนาทีต่อมา เฟรยาลงจากรถมาก็เห็นร็อดนีย์ปรากฏตัวหราอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน"คราวนี้คุณต้องการอะไรเหรอ?" อารมณ์ของเฟรยาบูดบึ้งทันทีที่เธอเห็นเจ้างี่เง่านั่น"กินนี่ซะ" ร็อดนีย์ยื่นกล่องยาคุมกําเนิดให้เธอด้วยสายตาคลุมเครือ "ผมไม่ยอมให้คุณอุ้มท้องลูกของผมหรอก"หัวใจของเฟรยาหนาวเยือกทําไมชีวิตของเธอถึงได้โชคร้ายจัง? ทีแรกเธอพบกับแพทริค และคราวนี้ก็ร็อดนีย์“อย่าห่วงเลยน่ะ ฉันกินไปแล้วตอนที่ฉันออกมาจากโรงแรมเมื่อวาน มันคงจะสายเกินไปนะถ้าฉันรอคุณนํามันมาให้ฉัน” เฟรยาสะกดกลั้นความ
… ช่วงกลางคืน ระหว่างงานจัดเลี้ยงทางธุรกิจกําลังดําเนินไปฌอนยืนบนระเบียงเปิดโล่งภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนในมือมีแก้วไวน์ดวงตาที่ลึกลับและเศร้าหมองของเขามองผ่านหน้าต่างดูงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ยอดเยี่ยมตระการตาน่าประทับใจที่อยู่ด้านในถ้าหากเจ้าภาพไม่ใช่หุ้นส่วนกันมายาวนานหลายปีเขาคงไม่มาเขาไม่สนใจงานอีเว้นท์ทำนองนี้เลยแม้แต่น้อยถ้าเขาไม่ได้มีเรื่องหมางใจกับแคทเธอรีนเธอคงได้มางานเลี้ยงนี้ด้วยกันกับเขา อยู่กับเธองานเลี้ยงก็คงไม่น่าเบื่อนักคงเป็นเพราะเขาดื่มจนเมานิดหน่อย แต่ในจิตใจของฌอนก็เต็มไปด้วยความคิดดุเดือดเขาคิดถึงเธอจนเขาอยากจะกระชากเธอเข้ามากอดไว้แน่นในอ้อมแขนของเขาและจูบเธอให้หนำใจทันใดนั้นเองชายกับหญิงคู่หนึ่งก็ออกมา “สามีขาทําไมคุณถึงได้มาขอข้อมูลติดต่อของทางร้านเนบิวลาจากฉันตอนนี้ล่ะคะ?”"เพราะเวสลีย์ ลียงส์จากโกลเด้นคอร์ปอเรชั่นน่ะ" ชายคนนั้นอธิบาย “เขาเห็นว่าชุดที่คุณสวมใส่ในวันงานแต่งงานของเราสวยดี เขาเลยมาขอข้อมูลติดต่อร้านเนบิวลาจากผมน่ะ”“ทําไมผู้ชายอย่างเขาถึงจะไปร้านเนบิวลาล่ะ? เขาจะเอาไปให้แฟนของเขาหรือเปล่า? แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่าเขามีแฟนมาก่อนนี่นา คุณไ
บนหน้าต่างของวิลล่าที่ชั้นสอง ร่างเล็ก ๆ ที่คล่องแคล่วว่องไวของลูคัสปีนขึ้นที่หน้าต่างเหลือบมองออกไป “แม่ครับฌอนอยู่ที่ประตูรั้วอีกแล้ว”หลายคืนมานี้ฌอนมักจะมาหยุดรถของเขาที่ทางเข้าวิลล่าของตระกูลยูล และบางครั้งเขาจะออกไปก็ต่อเมื่อหลังจากที่แคทเธอรีนออกไปทํางานแล้วจนแคทเธอรีนชินกับมัน“ไม่ต้องสนใจเขา ไปนอนได้แล้ว”แคทเธอรีนอุ้มลูคัสลงมาจากเก้าอี้และดึงบานมู่ลี่หน้าต่างลง เกรงว่าดวงตาคมกริบของฌอนจะเห็นลูคัสเข้า“แม่ครับ เขามาที่นี่ตลอดเลย จะเกิดอะไรขึ้นครับถ้าเขารู้ว่าแม่กําลังจะแต่งงานกับลุงเวสลีย์?” ลูคัสพูดอย่างกังวล“เขาไม่รู้หรอกจ้ะ เมื่อถึงเวลาแม่จะให้บริษัทประกาศว่าแม่กําลังเดินทางไปทําธุรกิจและหายไปสองสามวัน” แคทเธอรีนลูบหัวเล็ก ๆ ของเขาเพื่อปลอบโยน “ลูคัส ลูกจะ...ไม่พอใจไหมที่แม่กําลังจะแต่งงาน?”“ไม่ครับ ผมดีใจที่ในที่สุดแม่ก็ได้พบคนที่จะดูแลเอาใจใส่ต่อแม่เป็นอย่างดี” ลูคัสกล่าวอย่างจริงจัง “และลุงเวสลีย์ก็ดีกับผมและซูซี่มาก แน่นอนถ้าหากวันใดเขาปฏิบัติต่อแม่ไม่ดีขึ้นมา ผมจะสั่งสอนบทเรียนให้เขาเองเพื่อแม่ ตอนนี้ผมเก่งศิลปะการต่อสู้มากนะครับ เมื่อผมโตขึ้นผมจะมีพลังมากมาย
“... โอเคครับ" ฌอนยอมแพ้ตอนกลางคืน หลังจากที่พี่เลี้ยงอาบน้ำให้ซูซี่แล้วฌอนก็กอดเธอให้หลับแม้ว่าเขาแทบไม่ได้นอนเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่เขาก็นอนไม่หลับเลยทั้งที่นอนอยู่บนเตียงแต่เขาก็คาดไม่ถึงว่าซูซี่จะกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนอกของเขาเพราะนอนไม่หลับด้วยเหมือนกัน "ลุงคะ..."“หืม? มีอะไรจ้ะ?" ฌอนมองเธออย่างอ่อนโยนหัวใจซูซี่รู้สึกขมขื่นเพราะเธอรู้ว่าเขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอ แต่เธอไม่อาจบอกเขาได้เลยว่าแม่ของเธอกําลังจะแต่งงานกับลุงเวสลีย์ในอีกหนึ่งสัปดาห์ลุงเวสลีย์เป็นคนดีแต่พ่อที่ไม่เอาไหนของเธอก็น่าสมเพชมาก เห็นได้ชัดว่าเธอยังเกลียดเขาอยู่เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่แล้วเธอกลับใจอ่อนลงในสองสามวันที่ผ่านมา เพราะเธอเป็นหนูน้อยผู้แสนดี“ลุงคะอาทิตย์หน้า... พ่อจะพาหนูออกไปเที่ยวเล่นสองสามวันค่ะ” สุดท้ายซูซี่ก็อดใจไม่ไหวที่จะเตือนเขา“ดีเลย เลียมควรจะพาหนูออกไปเที่ยวเล่นบ้าง ลุงจะให้เขาหยุดสักสองวัน” เรื่องนี้ฌอนไม่คิดมากอยู่แล้วซูซี่ปวดใจเลย เธอจึงปล่อยไปอีกคําใบ้ “เพื่อนพ่อกําลังจะแต่งงานค่ะ ดังนั้นพ่อจะพาหนูไปงานแต่งงานด้วย เราไม่ได้ไปเล่นค่ะ” “โอ้ มีขนมหวานให้กินมากมายที่งานแต่
เฮดลีย์พูดไม่ออกและแอบคิดกับตัวเองว่าสาวน้อยซูซี่ช่างรู้วิธีเสี้ยมพ่อกับแม่ของเธอให้มายุ่งวุ่นวายกันจริง ๆถ้าคุณโจนส์ได้รู้ถึงกลอุบายนี้เข้า เธอคงบ้าไปเลย"โอเค ผมจะลองดูนะครับ"เฮดลีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรหาผู้คนในเพิร์ธ แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่าไม่มีบันทึกว่าแคทเธอรีนพักอยู่ในโรงแรมหรือว่าคุณโจนส์มีที่พักส่วนตัวอยู่ที่นั่น?ต่อมาเขาโทรหาสนามบินและพบว่าไม่มีบันทึกเที่ยวบินของคุณโจนส์ที่บินไปเพิร์ธ แต่กลับได้รู้ว่าคุณโจนส์และเฟรยาบินไปเมลเบิร์นเมื่อวานนี้จู่ ๆ หัวของเขาก็รู้สึกมึนเล็กน้อย ทําไมคุณโจนส์ถึงไปเมลเบิร์นในเวลานี้ แต่เธออ้างว่าเดินทางไปทำธุรกิจอยู่ที่เพิร์ธ? เป็นเพราะเธอกําลังกระทำบางอย่างลับ ๆ อยู่ในเมลเบิร์น ซึ่งเหตุผลก็เพื่อปิดบังไม่ให้คุณชายใหญ่ทราบ?ลองคิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้สูงขณะที่เขากําลังคิดอยู่นั้น ฌอนก็โทรมาพอดี "คุณจองตั๋วหรือยัง?"“ไม่ครับ ผม... ผมยังไม่พบว่าคุณโจนส์พักอยู่ที่ไหนในเพิร์ธ เธออาจมีที่พักส่วนตัวอยู่ที่นั่น” เฮดลีย์ตัดสินใจทันที เนื่องจากคุณโจนส์พยายามปิดบังมันดังนั้นเขาจะช่วยเธอ “คุณชายใหญ่ อย่าไปเลยครับ ทางฮัดสันบอกว่าคุณโจนส์จะไ
ฌอนตั้งตัวไม่ติดเมื่อคิดว่าจู่ ๆ แคทเธอรีนกําลังจะแต่งงานกับคนอื่น ในขณะเดียวกันหัวใจของเขาดูเหมือนจะถูกบีบเค้นด้วยพลังที่มองไม่เห็น มันเจ็บมากเหลือทนจนเขาอยากตายกลายเป็นว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อผู้หญิงคนนั้นลึกซึ้งกว่าที่เขาเคยนึกไว้เขาอยากจะฆ่าซะให้หมดทุกคนมากกว่าปล่อยให้เธอแต่งงานกับผู้ชายอื่น ขณะเขาหาทางไปหาเธอ เขายังคงโทรหาแคทเธอรีนแต่ไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย............อีกด้านหนึ่งในฮิลล์คอร์ปอเรชั่นเมื่อเฮดลีย์ได้ยินว่าฌอนกําลังระดมจัดหาเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอย่างเร่งด่วน เขาลังเลอยู่นานก่อนที่จะกดหมายเลขของแคทเธอรีนอย่างไม่สบายใจ"เฮดลีย์ มีอะไรเหรอ?"เฮดลีย์ยิ้มขมขื่นเมื่อเสียงของแคทเธอรีนดังมาตามสาย “คุณโจนส์ ทําไมคุณถึงแอบไปเมลเบิร์นล่ะครับ? เขาตื่นตระหนกและได้จัดเตรียมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อไปดูแลคุณ”“เวร”เฟรยา เพื่อนเจ้าสาวที่อยู่ข้างแคทเธอรีนตกใจมากจนรองเท้าส้นสูงในมือร่วงตกไปที่พื้น“เฮดลีย์ วันนี้ฉันจะแต่งงาน” แคทเธอรีนพูดเสียงเบา"อะไรนะครับ?" เฮดลีย์เด้งจนตัวลอยขึ้นจากเก้าอี้ของเขาด้วยความตกใจ “คุณ... คุณกําลังจะแต่งงานกับใครเหรอครับ? ทําไมไม่เห็
“โอ้ ฉันสงสารเธอจริง ๆ เธอแค่ไปยั่วคนรวยที่สุดในประเทศเข้า” เฟรยาถอนหายใจ “ไม่เพียงแค่สลัดเขาไม่หลุด เขาต้องการแค่เธอและห้ามเธอปฏิเสธเขาอีกด้วย”ความรังเกียจที่อยู่ในใจแวบขึ้นมาในดวงตาของแคทเธอรีนขณะที่เธอได้ฟังเธอเกลียดผู้ชายที่ไม่รู้ว่าจะทะนุถนอมคนอื่นอย่างไรแบบฌอน ฮิลล์ที่สุดถ้าเธอสามารถเริ่มใหม่ทั้งหมดได้อีกครั้ง เธอก็ไม่อยากพบเจอเขาอีกเลยจริง ๆ............11:00 น.ญาติของตระกูลลียงส์มาดูเจ้าสาวทีละคนแคทเธอรีนสวมรองเท้าส้นสูงของเธอแล้วลุกขึ้นยืน แลเห็นซอนย่า ลียงส์, อีธาน โลว์ และเทรซี่ สตีล เดินเข้ามาด้วยกันมานึกดูก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่อีธานกับเธอได้มาเจอกัน ปีนั้นเธอออกจากเมลเบิร์น ส่วนอีธานต้องให้เทรซี่เป็นแฟนเขาเพื่อช่วยตระกูลโลว์ และแล้วพวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกันนับแต่นั้นมา“แคทเธอรีน มันนานมากเลยนะ” อีธานจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากอธิบายหลังจากไม่ได้เจอเธอกว่าสามปี เธอก็สวยขึ้นมากโดยเฉพาะวันนี้ในชุดแต่งงานสีขาวราวหิมะและใบหน้าเล็ก น่าทึ่งที่รังสรรค์ผ่านฝีมือศิลปิน เธอจึงสวยงามดั่งนางฟ้าเมื่อเขายังเด็ก เขาเคยนึกฝันถึงการได้แต่งงานกับเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่เ
ถึงใบหน้าของอีธานหม่นลงกับคําพูดเหล่านั้น ทว่าเขารู้สึกเสียใจเมื่อนึกย้อนอดีต “ในตอนนั้น ผม... ผมถูกรีเบคก้านอกใจว่าแต่ช่วงนี้คุณเห็นรีเบคก้าบ้างไหม?”การแสดงออกของแคทเธอรีนดิ่งลงเมื่อพูดถึงบุคคลนั้น “เมื่อสามปีที่แล้วเธออยู่ที่แคนเบอร์รา หลังจากทําศัลยกรรมพลาสติกเพื่อเปลี่ยนโฉมใบหน้าของเธอในรูปลักษณ์ใหม่เธอก็หายตัวไป ฉันรู้สึกว่าใครบางคนที่มีอิทธิพลมากให้การสนับสนุนเธออยู่เบื้องหลังมาตลอดค่ะ”อีธานแสดงร่องรอยของความไม่สบายใจต่อคําพูดเธอ "ผมหวังว่าเธอจะไม่ปรากฏตัวอีก""อืมใช่" เฟรยารำพึง “ซาร่าคนเดียวก็ทำเราปวดหัวพอแล้ว มันคงจะลําบากหนักถ้ารีเบคก้าโผล่มาด้วย”แคทเธอรีนขมวดคิ้ว เธอคิดเสมอว่ารีเบคก้าฉลาดแกมโกงมากกว่าซาร่า และเธอมีความรู้สึกตะหงิดใจว่ารีเบคก้าจะต้องโผล่มาอีกครั้งอย่างแน่นอน“แคธี่นี่คือข้อมูลติดต่อของผม ในอนาคตเราจะนับถือว่าเป็นเครือญาติกัน” อีธานยื่นนามบัตรให้เธออย่างกระอักกระอ่วน “เมื่อก่อนผมเป็นฝ่ายผิดและทําร้ายคุณมาตลอด ในอนาคตถ้าลุงรังแกคุณหรือถ้าแม่พูดจาไม่ดีใส่คุณ คุณสามารถมาหาผมได้ทุกเมื่อ แม้ว่าผมจะไม่มีสิทธิ์แต่ผมก็จะเป็นพี่อีธานของคุณเสมอ นอกจากนั้นผมจะไ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก