แชนซ์ขอให้เซียนคอมพิวเตอร์เล่นฟุตเทจที่บันทึกไว้ “รถที่เคยลักพาตัวคุณนีสันออกจากที่จอดรถและมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่จอดรถของสนามเด็กเล่นใกล้เคียงในย่านชานเมือง เนื่องจากสนามเด็กเล่นเพิ่งเปิดให้บริการประชาชนทั่วไป ในบริเวณที่จอดรถยังไม่มีกล้องวงจรปิด จึงติดปัญหาเล็กน้อย “เมื่อเราไปถึงที่นั่นก็ไม่มีใครอยู่ในรถแล้ว เราสงสัยว่าผู้ลักพาตัวออกไปด้วยรถคันอื่น จากการตรวจสอบรถทุกคันเมื่อคืนนี้เรายืนยันได้ว่าเป็นรถซานตาน่าสีดํา”เชสเตอร์กล่าวว่า “จากที่ฉันได้ยินมา ซานตาน่าแล่นเข้าไปยังป่าในเชนีย์ฮิลล์ก่อนที่จะหายไป”“หยุดพล่ามแล้วไปที่นั่นกันก่อนเถอะ” ร็อดนีย์พูดอย่างใจร้อน “ผ่านไปคืนหนึ่งแล้ว อาจเกิดเหตุอะไรต่าง ๆมากมายได้ทั้งนั้น”คําพูดเหล่านั้นทําให้ใบหน้าของทุกคนอึมครึมฌอนขึ้นรถ เขาเร่งความเร็วฝ่ายวดยานบนท้องถนนมุ่งหน้าไปยังชานเมือง ระหว่างทางไปที่นั่น เขาถามขึ้นว่า "นายรู้หรือยังว่าใครทํา?"“เรายังไม่เห็นใบหน้าของผู้ลักพาตัวจึงไม่แน่ใจ อาจจะคู่แข่งทางธุรกิจของนายก็เป็นได้” เชสเตอร์กล่าวเพิ่มเติมอย่างลังเลว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนเริ่มไม่ชอบหน้านายขึ้นเรื่อย ๆ พอเห็นนายมีความส
ทันทีที่ซาร่าพูดจบ เธอก็หลับตาลงราวกับว่าเธอตายแล้ว"ซาร่า!" ฌอนตกใจร้องเสียงดัง เขาอังมือที่จมูกเธอและสังเกตว่าเธอยังคงหายใจเบา ๆ อยู่“เชสเตอร์ มาช่วยเธอเดี๋ยวนี้เลย!” ฌอนคํารามใส่เชสเตอร์อย่างว้าวุ่นในทางกลับกันร็อดนีย์โกรธมากจนดวงตาแดงก่ำ “เชสเตอร์นายต้องช่วยเธอให้ได้ ได้โปรด”"ฉันช่วยน่า”เชสเตอร์ขอให้ฌอนวางซาร่าลงบนพื้นทันที โชคดีเมื่อเช้าเขานําชุดปฐมพยาบาลติดมาด้วยหลังจากเขาใช้เวลากว่าสิบนาทีในการช่วยเหลือซาร่า ในสภาพหมดสติเธอก็ยังครวญคราง ทั้งที่เธอยังคงหมดสติ “ฉันพยายามเต็มที่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องส่งเธอไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้น เธอจะมีอาการสมองกระทบกระเทือน” เชสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม“เอาล่ะ ฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”ฌอนอุ้มซาร่าอย่างรวดเร็ววิ่งไปที่รถของเขา หลังจากพบรถแล้วเขาก็แล่นฉิวไปโรงพยาบาลเร็วดั่งกับฟ้าผ่าหลังเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน ซาร่าก็รอดชีวิตในที่สุด ฌอนพิงบนเก้าอี้ มือของเขาเต็มไปด้วยเลือด ความรู้สึกเบื่อหน่ายเหน็ดเหนื่อยของเขานั้นเกินบรรยาย“คุณชายใหญ่ฮิลล์ ผู้ลักพาตัวกําลังถูกขังอยู่ที่ห้องใต้ดินของไลโอน่
“ลุกขึ้น” ฌอนกําหมัดแน่น"ไม่" ร็อดนีย์กัดฟันจ้องมองอย่างอ้อนวอน “ฌอน ตอนนี้หมอช่วยชีวิตเธอไว้ได้ แต่หลังจากนี้ถ้าเธอไม่เหลืออะไรให้หวัง? พรุ่งนี้ มะรืนนี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? นี่หากเธอไม่ให้กำลังใจนายกลับไปโรงพยาบาลจิตเวช นายคงพับฐานไปแล้ว ต่อมาเธอก็ยังเอาจริงเอาจังทางด้านจิตวิทยาเพื่อนาย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเมื่อสามปีก่อนนายคงเป็นบ้าไปแล้ว ทําไมนายไม่เห็นใจเธอบ้างเลย? โธ่เว้ย นายต้องเอาแต่โหดร้ายด้วยเหรอ?”ขมับฌอนกระตุกเร็วรัว เขาหมุนตัวเดินดุ่มออกจากวอร์ดไปทันทีร็อดนีย์คว้าขาของเขา “ฌอนฉันขอร้องล่ะ ถ้านายไม่ตกลงฉันจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้ต่อไป”“ร็อดนีย์ในฐานะเพื่อนฉัน นายไม่ควรมาขู่ฉันแบบนี้”ฌอนสลัดหลุดพ้นจากมือเขาและรีบก้าวยาว ๆ ให้พ้นไปจากตรงนั้น“ร็อดนีย์ ลุกขึ้น” เชสเตอร์ถอนหายใจ “ฉันเข้าใจว่านายอยากให้ซาร่ามีความสุข แต่นายไม่สามารถสร้างความสุขให้เธอบนความเจ็บปวดของใครเลยสักคน ฌอนรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับซาร่าและชีวิตของเธอ เขาก็เครียดมากอยู่แล้ว”จากนั้นเชสเตอร์ก็เดินออกไปฌอนจุดบุหรี่ที่โถงทางเดิน เอ่ยขึ้นว่า "บางครั้ง ฉันคิดว่าคงดีกว่าถ้าซาร่าไม่ช่วยฉันเมื่อสามปีก่อน"
ฌอนยังมองดูรูปนั้นต่อไป ร่างสูงตระหง่านของเขาดูเหมือนปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งเขางงเต็มทีเขาแทบไม่เชื่อเลยว่าแคทเธอรีนเป็นคนที่จัดหาชายคนนี้มาลักพาตัวซาร่า"นายยังเชื่อใจเธออยู่อีกเหรอ ห้ะ?"ร็อดนี่ย์คว้ารูปถ่ายและแกว่งมันไปมาข้างหน้าเขา “ดูสิ พวกเขาเหมือนกัน นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? นี่คือกับดักของแคทเธอรีน นายติดกับดัก!”“เธอจัดหาใครบางคนเพื่อมาลักพาตัวซาร่าไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นเธอล่อนายไปที่โฮบาร์ตเพื่อที่เธอจะส่งชายคนนั้นไปลักพาตัวซาร่า ถ้าฉันไม่ได้ใส่ใจขวนขวายรีบรุดไปถึงที่นั่นได้ทันการ ซาร่าอาจถูกฆ่าตายไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้โหดร้ายเหลือเกิน!”ฌอนยังคงนิ่งเฉย เขาจ้องไปที่เชสเตอร์เท่านั้น "นายคิดว่าไง?"แววของเชสเตอร์เต็มไปด้วยความสับสนไม่แน่ใจ “ฉันคิดว่า... สิ่งที่ร็อดนีย์พูดนั้นก็สมเหตุสมผลแคทเธอรีนมีแรงจูงใจ ยิ่งกว่านั้นเธอรู้จักผู้ลักพาตัว ก่อนหน้านี้ฉันเตือนนายแล้วว่าเธออาจมีวาระซ่อนเร้นเธอถึงได้ตัดสินใจมาคบกับนายอีกครั้ง”“มาถึงขนาดนี้แล้วหากนายยังไม่ยอมเชื่ออีก แสดงว่านายกําลังหลอกตัวเอง ฉันเดาว่านายไม่สามารถพาตัวเองไปจัดการขั้นรุนแรงกับแคทเธอรีน ฉันจะแก้แค้นแทนซาร่าเอง ฉั
“ยอมรับเถอะ” ร็อดนีย์เย้ยหยัน “แคทเธอรีน โจนส์ ตอนนี้ฉันให้สองทางเลือกแก่เธอ จะเข้าคุกหรือปล่อยให้ลูกน้องของฉันสนุกกับเธอ จากนั้นฉันถึงจะยกโทษให้”แคทเธอรีนหัวเราะหึหึ “คนอย่างแกน่ะ พอถูกตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดกตระกูลสโนว์ไปแล้ว แกก็ไร้ความหมาย ฉันแน่ใจว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่มืออาชีพจากสโนว์ คอร์ปอเรชั่น ถ้าพวกแกกล้ารวมตัวกันเป็นหมาหมู่รุมเล่นงานฉันก็เอาเลย ฉันจะคอยดูว่าพวกแกจะเก่งสักแค่ไหนเชียว”ร็อดนีย์โกรธแทบบ้า สีหน้าท่าทางของเขาเปลี่ยนไปมาก ขณะนั้นเองฌอนก็พุ่งมาเขาเหยียบเบรกเสียงดังหยุดอยู่หน้ารถคนพวกนั้นแล้วออกจากรถทันทีเขายังคงสวมเสื้อตัวเดียวกับตอนที่เขาเร่งรีบจากไปตั้งแต่ไก่โห่ในตอนเช้า อย่างไรก็ตามใบหน้าหล่อเหลาสุดสำอางของเขาเหี้ยมโหดดุดัน แตกต่างจากท่าทางผู้ชายดีแสนอ่อนโยนเมื่อวานนี้อย่างสิ้นเชิงเมื่อเห็นฌอน ร็อดนีย์ก็ตะคอก “ฌอน นายมาได้เวลาพอดี เธอยอมรับแล้วว่าเธอทำ ตอนนี้นายว่ามาเลยผู้หญิงโหดร้ายคนนี้ต้องถูกลงโทษตามนั้น”แคทเธอรีนอึ้งจนไม่รู้จะพูดยังไง “ฉันไปยอมรับว่าลักพาตัวซาร่าตอนไหนเรอะ?”“เธอยอมรับว่าผู้ลักพาตัวทำงานให้เธอ ถ้าเธอไม่ได้ออกคำสั่ง เขาจะลักพาตัวซาร่
ฌอนยังคงนิ่งเงียบ แต่เขาเห็นด้วยกับร็อดนีย์อย่างชัดเจนขณะที่แคทเธอรีนมองดูแววตาของฌอนริบหรี่ลงไปทีละเล็กทีละน้อย หัวใจของเธอก็เอ่อล้นไปด้วยการถากถาง เธอเยาะเย้ยตัวเองที่เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหลังจากตกระกำลำบากมากมายนับไม่ถ้วน เธอยังไม่เข็ดอีกหรือที่ผู้ชายคนนี้โกหกปลิ้นปล้อน?เมื่อเขาต้องการเธอ เขาก็พูดได้ทุกอย่าง“ฌอนคะฉันขอถามคุณแค่ข้อเดียว ฉันทำอะไรได้บ้างคะเพื่อที่คุณจะได้ปล่อยโลแกนไป?” แคทเธอรีนถามด้วยเสียงต่ำ"ปล่อยเขาไปน่ะเหรอ?" ร็อดนีย์มีปฏิกิริยาราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลก “เธอฝันไปหรือเปล่า? เขาทําร้ายซาร่า คนอย่างเขาควรถูกทรมานจนตาย ยังไงก็ตามทําไมคุณถึงกังวลนักกับคนที่ทำงานให้คุณ? เป็นไปได้ไหมว่าคุณมีความสัมพันธ์กับเขา?”"ระวังปากคุณด้วยค่ะ"ทันทีที่แคทเธอรีนเตือนร็อดนีย์อย่างรุนแรง เธอสัมผัสได้ถึงความโกรธในแววตาที่เยือกเย็นของฌอนเธอนึกสาปแช่งร็อดนีย์ในใจลึก ๆ เธอหวังถึงขนาดให้เขาไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุลหรือไม่ได้คบหากับผู้หญิงที่เขารัก“ผมปล่อยเขาไปก็ได้” ฌอนเอ่ยแต่ละคําอย่างไม่แยแส “เมื่อเขาตาย ผมจะเทขี้เถ้าของเขาลงในชักโครก”“ฌอนคะ โลแกนกับ
ร็อดนีย์เคยทําลายชื่อเสียงของครอบครัวสโนว์มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวเขา แต่ครั้งนี้ถ้าหากเขากระทำการผิดกฏหมายต่อแคทเธอรีน ก็อาจทําให้ผู้คนพร้อมใจกันคว่ำบาตรตระกูลสโนว์ในการเลือกตั้งปีหน้า“ถ้าคุณคิดจะจับกุมฉัน คุณควรมีหลักฐานก่อน” แคทเธอรีนกล่าวอย่างไม่ไยดี แล้วเธอก็หันกำลังจะไป“เดี๋ยวก่อนจะไปได้ไง ขอผมหรือยัง” ฌอนเดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าแข็งกร้าว "ผมบอกให้คุณออกไปได้แล้วเหรอ?"ดวงตาของร็อดนีย์สว่างวาบ “ฌอน จับตัวเธอส่งไปยังไลโอน่าเพื่อทรมานเธอเลย”“คุณคิดจะจับตัวฉันเรอะ หา?”แคทเธอรีนมองเข้าไปในดวงตาของฌอน ด้วยแววตาน่ากลัวที่ไม่เคยพบเจอเขารู้สึกตึงเครียดขึ้นมาฉับพลัน ทันใดนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเขารู้ว่าถ้าเขาทําอย่างนั้นแล้ว ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาจะทวีความรุนแรงขึ้น แต่ตอนนี้เธอได้ทําในสิ่งชั่วช้าสามานย์ขนาดนี้จะให้เขาแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรือ?“ฌอน ทําไมนายลังเลอยู่ได้?” ร็อดนีย์แผดเสียงลั่น “นายลืมไปหรือเปล่าว่าซาร่าเกือบตาย? นายลืมความหดหู่บนใบหน้าเธอตอนที่อยากฆ่าตัวตายแล้วหรือ?”แคทเธอรีนงงงัน ซาร่าพยายามฆ่าตัวตาย แม่เจ้าครั้งน
ที่ลานจอดรถหลังจากลิฟต์ขึ้นไปแล้ว ฌอนก็ต่อยกระจกหน้าต่างรถของเขาอย่างแรงเลือดจากกําปั้นของเขาไหลหยดลงพื้น แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาแดงก่ำและเขาก็ท่วมท้นไปด้วยความเศร้าโศกแคทเธอรีน... เล็งปืนมาที่เขาจริง ๆ ด้วยมีอะไรที่เจ็บปวดไปยิ่งกว่าการได้รู้ว่าหญิงสาวสุดที่รักของเขามีความคิดที่จะยิงเขา?เฮอะ!ทั้งที่เธอรักกับเขา? เธอโหดร้ายขนาดนี้ได้ยังไง?“ฌอน ตอนนี้นายยังไม่เข้าใจนิสัยของแคทเธอรีนชัดเจนอีกเหรอ? เธอเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว เธอเปลี่ยนไปมากจนเราแทบไม่รู้จักเธอเลยในตอนนี้ คนเราใครจะพกปืนติดตัวไว้ตลอด?”ร็อดนีย์กล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “เธอกำลังปกปิดนายตั้งหลายอย่าง เธออาจไม่จริงใจในความสัมพันธ์นี้กับนายก็ได้ เธอไม่รักนายด้วยซ้ำ ที่เธอกลับมาคบกับนายก็เพราะเธอต้องการแก้แค้นซาร่าเท่านั้นแหละ นายมองไม่ออกเหรอ?”"หุบปากซะ!" ฌอนถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ“ฉันแค่พูดความจริง ตื่นมาลืมตาดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้านายซะบ้าง ดูว่าใครคือคนที่รักนายอย่างแท้จริง” ทันทีที่ร็อดนีย์พูดจบประโยค เขาก็เปิดประตูรถด้วยความโกรธ “ฉันยังไม่จบเรื่องนี้นะ แม้วันนี้เธอจะหนีไปได้ แต่พรุ่
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก