ในช่วงบ่ายสิ่งที่เฟรยาพูดในสัมมนาได้ถูกบิ๊กวีผลักดันให้ค่อย ๆเผยแพร่ออกสื่อ และด้วยเหตุนั้น ข่าวเก่าจากเมื่อสามปีที่แล้วก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง[ฉันจำผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว เมื่อสามปีก่อน มีคนพูดว่าเธอยั่วยวนโทมัส นีสัน แล้วเธอก็ถูกทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ ยังมีคนปาไข่ใส่เธอตอนที่เธอเดินผ่าน][เธอน่าทึ่งมาก ตอนนี้เธอเป็นนักเคมีเครื่องสำอางชั้นแนวหน้าระดับโลก ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดไปความจริง บางทีอาจจะเพราะว่าเธอสวย][ความจริงฉันอยากจะพูดเรื่องนี้เมื่อสามปีก่อน โทมัส นีสันนิสัยไม่ดีจริง ๆ แต่ไม่มีใครเชื่อฉัน][ฉันมีญาติห่าง ๆ ทำงานอยู่ในนีสัน คอร์ปอเรชั่น และมักจะถูกโทมัส นีสัน ฉวยโอกาส สุดท้ายเธอก็ลาออกเพราะเธอทนไม่ไหวอีกแล้ว][โทมัส นีสัน โด่งดังเรื่องทำเรื่องชั่ว ๆ ในเมืองอยู่แล้ว ฉันเคยมีเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่เขาชอบ แต่เธอปฏิเสธเขา สุดท้ายแล้วเขาก็บังคับให้เธอกระโดดตึก ครอบครัวของเธอฟ้องร้องเขา แต่ก็ไม่เป็นผล คนที่หนุนหลังเขาอยู่มีอิทธิพลมากเกินไป][ทุกคนรู้ว่าน้องสาวของเขาคือ ซาร่า นีสัน เขาได้ใจถึงขนาดนี้ก็เป็นเพราะเขาเป็นพี่เขยของฌอน ฮิลล์ เ
ใบหน้าที่สวยงามของซาร่ามีความเกลียดชังปรากฏขึ้นจนรู้สึกได้ “หุบปากของพี่ไปเลยนะ นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากนะ เพราะฉันกำลังจะแต่งงานกับฌอนในไม่ช้านี้ อย่าสร้างปัญหาให้ฉันได้ไหม?”โทมัสตกใจที่จู่ ๆ ก็โดนต่อว่า “แต่เธอไม่เห็นเหรอว่ายัยเฟรยาพูดอะไรกับนักข่าว...” “ฌอนให้คนไปจัดการระงับรื่องนี้แล้ว ถ้าพี่ยังมีความแค้นอยู่อีก ค่อยไปจัดการหลังจากที่ฉันแต่งงานแล้ว”ซาร่าพูดเน้นทีละคำ “พี่ได้ยินที่ฉันพูดไหม? ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ฉันจะไม่ช่วยพี่แล้วนะ”“... ก็ได้”โทมัสวางสายไปอย่างไม่พอใจ ทว่าในหัวใจของเขา ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรผิดพลาดเลยเขาหันกลับมาแล้วโทรศัพท์ “ไปหามาว่ายัยแพศยาเฟรยา ลินช์ อยู่ที่ไหน”...ในร้านอาหารตะวันตกที่หรูหรา พนักงานเสิร์ฟเดินนำเฟรยาและหยุดอยู่ที่ทางเข้าของห้องส่วนตัว “นี่เป็นห้องที่ท่านประธานแฮทช์จองเอาไว้”“ขอบคุณนะคะ” เฟรยาผลักประตูเข้าไปร็อดนีย์นั่งอยู่หน้าฉากกั้นลวดลายโบราณ เขาสวมเสื้อเชิ้ตผ้าซาตินสีน้ำตาลโดยปลดกระดุมสองเม็ดบนออก แขนเสื้อของเขาถูกพับขึ้น ดวงตาคมที่อยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ทำให้เขามีออร่าที่ชั่วร้าย ทว่าโรแมนติก“นั่งลง”เขาชี้ที่
ร็อดนีย์มองไปที่สเต็กซึ่งยังมีน้ำมันร้อน ๆ อยู่แล้วรู้สึกตกใจมากจนเขารีบกระโดดไปที่เก้าอี้อีกตัว “เฟรยา ลินช์ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจถ้าเธอยังโยนมาอีกชิ้น”“เอาเลย อย่างมากฉันก็ถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับ ฉันจ่ายได้อยู่แล้ว” เฟรยาโยนทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะใส่เขาร็อดนีย์หลบไม่ทันจึงทำได้เพียงคว้ามือเฟรยามาจับไว้มือของเฟรยาถูกรั้งเอาไว้ เป็นเช่นนั้นเธอจึงหันหน้าไปกัดหูของเขาอย่างแรง“โอ้ย!” ร็อดนีย์ร้องขึ้นเสียงดังหลังจากที่ถูกกัดแล้วจับตัวเธอเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว จึงทำให้เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่นุ่มมือเมื่อเขารู้ตัวว่ากำลังจับอะไรอยู่ เขาก็ถูกเฟรยาเตะผ่าหมากอย่างแรงเสียแล้วดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด จู่ ๆ เขาก็เข้าใจความเจ็บปวดของฌอนเมื่อวันก่อน ๆ ขึ้นมา ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเข้าโรงพยาบาลไปตรวจร่างกายมันเจ็บเจียนตายจริง ๆ“สารเลว!” เฟรยาจ้องเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ยังไงของนายก็ไม่ได้ใช้การอยู่ดี กำจัดให้สิ้นซากไปซะก็ดี”“ของฉันไม่ได้ใช้การอย่างนั้นเหรอ?” ร็อดนีย์ขดตัวด้วยความเจ็บปวดและแทบจะหายใจไม่ออก“ไม่ใช่เหรอ? นายมอบกายถวายชีวิตให้กับซาร่า นีสัน แต่ยัยนั่นกำลังก็จะแต่งงานก
“ก่อนหน้านี้เธอก็ดูมีความสุขมากนี่ที่ได้จูบกับส้วมสาธารณะ” ร็อดนีย์ขยิบตา “เธอยังถอดเสื้อฉันออกและเทไวน์ใส่ฉันด้วยซ้ำ ฉันรู้ว่าเธอชอบเล่นเกมที่ตื่นเต้นแบบนี้”ด้วยคำพูดของเขา ผู้จัดการร้านอาหารและประธานแฮทช์ต่างก็ชำเลืองมองเฟรยาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอดูสวยมาก ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะทะลึ่งและมีอารมณ์พลุ่งพล่านจากภายใน“คนปากพล่อย!” ใบหน้าของเฟรยาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธร็อดนีย์รู้สึกใจเย็นมากขึ้นเมื่อเขาเห็นเธอเป็นแบบนั้น จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายอย่างมีเลศนัย “ช่างเถอะ ฉันจะไม่พูดอะไรมากหรอก ยังไงก็ตาม สภาพของฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็พิสูจน์ทุกอย่างได้แล้ว”“คุณมันเพี้ยนไปแล้ว!” เฟรยาตะคอกใส่เขาแล้วออกไป“นี่ แล้วเรื่องสูตรล่ะ ว่ายังไง?” ร็อดนีย์ตะโกนไล่หลังเธออย่างไม่อาย“ฝันไปเถอะ!” เฟรยาเดินจากไป แล้วประธานแฮทช์ก็เดินตามไปทันทีทันทีที่พวกเขาลับตาไป ร็อดนีย์ก็จามออกมาทันที เขาเริ่มตัวสั่นขณะที่เขาตะโกนเรียกผู้ช่วยของเขาซึ่งอยู่ข้างนอก “เฮอร์เบิร์ต ถอดเสื้อโค้ทนายออกแล้วส่งมาให้ฉัน”ให้ตายสิ เขาจะแข็งตายอยู่แล้วเขายังไม่ได้ทานอะไรเลยเฮอร์เบิร์ตถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกให้ร็
หลังจากที่แคทเธอรีนวางสาย เธอก็พูดกับลูก ๆ ทั้งสองคน “คุณตาของลูกอาการไม่ดี แม่เลยต้องไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย ลูกสองคนอยู่ที่บ้านแล้วเป็นเด็กดีตกลงไหม? อีกสักพักคุณแม่ทูนหัวของลูกก็คงจะกลับมา”“คุณแม่ครับ เราขอไปเยี่ยมคุณตาด้วยได้ไหมครับ?” ลูคัสถามพลางขมวดคิ้ว“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานะลูก ยิ่งไปกว่านั้นคุณตาอ่อนแอเกินไปที่จะคุยกับลูกได้ ลูกค่อยไปเยี่ยมคุณตาทีหลังนะ”หลังจากที่ปลอบลูกรักทั้งสองคนของเธอแล้ว แคทเธอรีนก็รีบไปที่โรงพยาบาลอย่างช่วยไม่ได้ระหว่างทางเธอโทรหาเฟรยา ขอให้เธอกลับบ้านเร็วหน่อย...หลังจากที่แคทเธอรีนออกไปแล้ว ซูซี่ก็ลากเก้าอี้มาเพื่อเธอจะได้ปีนตู้เก็บของแล้วหยิบขนมออกมา “ฮี่ฮี่ หนูรู้ว่าคุณแม่ซ่อนขนมไว้ที่นี่ คุณแม่คิดว่าเราไม่รู้”ซูซี่โยนห่อมันฝรั่งทอดให้ลูคัส “พี่อยากทานไหม?”“พี่ไม่ทานอาหารขยะ มันจะทำให้น้องโง่นะ” ลูคัสมองน้องโดยไม่พูดอะไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าอาหารแบบนี้อร่อย เพราะคุณแม่ไม่ได้ชอบทาน ซูซี่ต้องชอบทานตามฌอนแน่ ๆหลังจากคิดไตร่ตรองดูแล้ว ลูคัสจึงเปิดแล็ปท็อปแล้วพิมพ์คำว่า ‘ฌอน ฮิลล์’ ลงไปหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ใบหน้าผู้ชายที่หล่อ
ในเวลาไม่นาน ผู้ชายหลายคนนั่นก็ทุบทำลายข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน หลังจากที่พวกเขาทำลายข้าวของทุกอย่างเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ออกไปอย่างสะใจหลังจากที่พวกเขาจากไปได้ห้านาที กระเป๋าเดินทางก็ถูกรูดซิปเปิดออกจากข้างในลูคัสคลานออกมาด้วยใบหน้าซีดเผือดและดวงตาที่แดงก่ำ เวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็อุ้มซูซี่ออกมาอย่างทุลักทุเล ศีรษะของเด็กหญิงเต็มไปด้วยเลือด“พี่ชายจ๋า หนูเจ็บจัง...” ซูซี่มองพี่ชายด้วยดวงตาที่พร่าเลือนทั้งถือถุงขนมอยู่ในมือ“ไม่ต้องกลัวนะซูซี่ พี่จะพาน้องไปส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” ลูคัสรู้สึกเป็นห่วงมากจนน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าเรียบนิ่งของเขาขณะที่ลูคัสวิ่งพร้อมกับให้ซูซี่ขี่หลังเขา เขาก็ใช้โทรศัพท์กดหมายเลข 000 จากนั้นเขาก็โทรหาแคทเธอรีน “คุณแม่ครับ ซูซี่ได้รับบาดเจ็บ”“อะไรนะลูก?!” แคทเธอรีนที่เพิ่งมาถึงโรงพยาบาลรู้สึกโมโหมากเมื่อเธอได้ยินคำพูดของลูคัส “แล้วน้องทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้ยังไง? เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”“คุณแม่ครับ ผมค่อยคุยกับคุณแม่ทีหลังนะครับ ซูซี่หมดสติไป ผมโทรเรียกรถพยาบาลแล้ว และตอนนี้ผมกำลังส่งน้องไปโรงพยาบาล” ลูคัสสะอึกสะอื้นแคทเธอรีนรู้ว่าลูคัสวางตัวดีมา
ลูคัลพับแขนเสื้อพลางพูดขึ้น “คุณแม่ครับ เลือดของผม...”“ไม่ได้ หนูยังเด็กเกินไปที่จะบริจาคเลือด” คุณหมอพูดแทรกขึ้น “ผู้ป่วยต้องการเลือด 500 มิลลิลิตร ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะรับไม่ไหวถ้าบริจาคเลือดมากขนาดนี้ เด็กต้องหมดสติแน่นอน คุณพ่อของเด็กอยู่ที่ไหนครับ?”“พ่อเหรอคะ?” แคทเธอรีนกำมือแน่น ถ้าฌอนรู้เรื่องนี้ เขาจะต้องแย่งซูซี่ไปจากเธอเป็นแน่เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ลูคัสจึงดึงมือของแคทเธอรีน “คุณแม่ครับ เราไปหาอาเลียมกันเถอะครับ ผมเคยได้ยินคุณอาพูดมาก่อนว่าคุณอามีเลือดกรุ๊ปเดียวกับซูซี่และผม”หลังจากที่อึ้งไปครู่หนึ่ง แคทเธอรีนก็รีบโทรหาเลียมทันทีเลียมรีบมาที่นี่ภายในสิบนาที“เกิดอะไรขึ้นกับซูซี่? พอผมรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับหลาน ผมก็ขับรถฝ่าไฟแดงแปดแยกมาที่นี่เลยนะ”“ขอบคุณนะคะเลียม” แคทเธอรีนรู้สึกขอบคุณเขามาก "ซูซี่ยังทำการรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉิน หลานของคุณต้องการเลือด 500 มิลลิลิตร”“ผมมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับหลาน รีบเจาะเลือดผมไปเลย” เลียมพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา“รอสักครู่นะคะ เราต้องตรวจกรุ๊ปเลือดของคุณก่อน”พยาบาลรีบพาเขาลงไปข้างล่าง หลังจากที่ได้รับการยืนย
“เอาล่ะครับ ปิดคดี” เมื่อตำรวจจะกลับ เฟรยาจึงพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ “ดูก็รู้ว่าไม่ใช่การลักขโมย มีคนจ้างพวกมันให้มาแก้แค้นเรา”“พอได้แล้วเฟรยา ตำรวจก็ทำตามหน้าที่ที่เขาควรจะทำแล้ว”แคทเธอรีนปรามเธอเอาไว้และปล่อยให้ตำรวจออกไป“ฉันมั่นใจว่า โทมัส นีสันเป็นคนติดสินบนพวกเขา” เฟรยาพูดขึ้นด้วยความโกรธแคทเธอรีนพูดเยาะเย้ย “แน่นอน การฝึกฝนทำให้เกิดความชำนาญ ยิ่งโทมัสทำเรื่องเลวร้ายมากเท่าไร เขาก็ยิ่งชำนาญมากขึ้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ฌอนคอยตามเช็ดตามล้างเรื่องวุ่นวายที่เขาก่อขึ้น ตอนนี้เขาจัดการเรื่องพวกนั้นได้ด้วยตัวเองจนเขาไม่ต้องรับผลของการกระทำที่ตามมาด้วยซ้ำ”“แล้วเราจะไม่แก้แค้นให้ซูซี่เหรอ?” เฟรยาถามขึ้นอย่างไม่พอใจ“เราต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป แต่… ฉันคงจะอยู่อย่างมีความสุขไม่ได้จนกว่าฉันจะให้พวกมันชดใช้อย่างสาสม”แคทเธอรีนส่งลูคัสให้เฟรยา “ฉันจะออกไปข้างนอก”“คุณแม่จะไปไหนครับ?” ลูคัสถามด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่จะไปซื้ออาหารเช้าครับ ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ระหว่างนี้ลูกดูแลน้องสาวให้ดีนะครับ” แคทเธอรีนออกจากโรงพยาบาลเมื่อทำให้ลูคัสวางใจได้แล้ว...08:00 น.ที่วิลล่าริมท
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก