“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ”แคทเธอรีนส่ายหน้า จะมีประโยชน์อะไร? ในเวลานี้ ฌอนคงกำลังไปที่สถานีตำรวจหรือไม่ก็ไปหาซาร่าแล้วเธอก็เดาถูกจริง ๆยี่สิบนาทีต่อมา ฌอนก็ไปปรากฏตัวที่สถานีตำรวจ ซาร่ารออยู่ที่นั่นเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งดวงตาของเธอยังแดงก่ำจากการร้องไห้“ฌอนนิคคะ...” ซาร่าโผเข้าหาอ้อมแขนของเขาทันทีเมื่อเธอเห็นเขาพลางสะอึกสะอื้นออกมา “ฉันขอโทษที่พี่ชายของฉันสร้างปัญหาขึ้นมาอีกแล้ว ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำตัวน่าผิดหวังแบบนั้น”“เป็นเพราะผมคอยหนุนหลังเขาไว้ตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นคนเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช่ไหม?” ใบหน้าหล่อเหลาของฌอนเต็มไปด้วยความโกรธ “เขากล้าแม้กระทั่งบุกเข้าไปในบ้านของคนอื่นทั้งทำร้ายร่างกายและวางยาเธอ เขาคิดว่าเขาใหญ่ในแคนเบอร์รานักหรือไง? งั้นทำไมเขาไม่ถือปืนไปปล้นแบงค์ซะเลยล่ะ?”ซาร่ารีบอธิบายขึ้น “เขาชอบเฟรยา ลินช์ จริง ๆ นะคะ ไม่เป็นไรเลยถ้าเฟรยาจะไม่ชอบเขา แต่เธอดูถูกเหยียดหยามเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะความโกรธของเขา...”“แล้วไง? เขาไม่ผิดอย่างนั้นเหรอ?” ฌอนพูดด้วยความโกรธ“ไม่ใช่แบบนั้น...” ซาร่าคิดไม่ถึงว่าเขาจะอารมณ์เสีย เมื่อได้รู้ว่าเขาโกรธจร
เฟรยาพูดพึมพำ “เธอโกหกหรือเปล่า? เขาไม่ได้ทำจริง ๆ ...”“เขาไม่ได้ทำ ถ้าฉันโกหกนะ ขอให้ฉันกลายเป็นหมูน้อยเลย” แคทเธอรีนสาบานแววตาของเฟรยาหม่นลงไปครู่หนึ่ง จากนั้น ราวกับเธอนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วน้ำตาของเธอก็พรั่งพรูออกมา “เคธี่ ฉันกลัวมาก กลัวมากจริง ๆ เจ้าบ้าโทมัสนั่นพาคนบุกเข้ามาในบ้านฉัน ฉันขัดขืน แต่พวกมันก็ทำร้ายฉัน พวกมันบอกว่าพวกมันจะผลัดกันมีอะไรกับฉัน แล้วพวกมันก็วางยาฉัน ขอบคุณพระเจ้าที่เวสลีย์มา...”“สารเลว หมอนั่นกล้าดียังไง...”ความโกรธภายในหัวใจของแคทเธอรีนลุกโชนเมื่อเธอได้ฟังเธอคิดไม่ถึงเลยว่าแก๊งของโทมัสจะชั่วร้ายได้ถึงขนาดนี้ถ้าเธอไม่บอกเวสลีย์ เฟรยาอาจจะตายไปแล้ว มันเลวร้ายเกินไป“ไม่เป็นไรแล้ว มันจบแล้วนะ” เธอข่มความโกรธเอาไว้เพื่อปลอบเฟรยาเฟรยายังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเธอ ทว่าเพราะเธอถูกวางยา ใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่เธอจะรู้สึกเวียนศีรษะแล้วหมดสติไปเธอเพิ่งห่มผ้าให้เฟรยาเมื่อซาร่าพรวดพราดเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยและคุกเข่าลงต่อหน้าเธออย่างแรง “แคทเธอรีน คุณลินช์ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษคุณแทนพี่ชายของฉันด้วย”หน้าผากของเธอโขกกับพื้นอย่างแรง และใน
แคทเธอรีนไม่เคยอาเจียนออกมามากเท่านี้มาก่อนทั้งน้ำดี น้ำมูก และน้ำตาไหลออกมาหมดเธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอคงดูน่าเกลียดมากทว่า เธอก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้“เธอเป็นอะไร?” ฌอนขมวดคิ้วและมองเธอด้วยความรู้สึกตกใจซาร่ารีบหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาหนึ่งห่อและยื่นกระดาษให้เธอเช่นกันแคทเธอรีนเพียงปัดมือของเธอออกและโน้มตัวหัวเราะออกมาเบา ๆ “ฉันไม่เป็นไร แน่สิ ที่ฉันอาเจียนก็เพราะฉันขยะแขยงเธอ คู่รักผีเน่ากับโลงผุ”ใบหน้าของฌอนเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด “แคทเธอรีน โจนส์ เธอระวังปากของเธอเอาไว้ให้ดีเถอะ”“แล้วฉันพูดอะไรผิดไปล่ะ?” แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คุณมาที่นี่เพื่อขอโทษหรือมาแสดงละครให้ฉันดูกันแน่? ฌอน ฮิลล์ ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้รักฉัน แต่ตามกฎหมายแล้ว ฉันยังเป็นภรรยาของคุณอยู่ คุณช่วยให้เกียรติฉันบ้างไม่ได้เหรอ?”เธอมองซาร่า “ส่วนเธอ เธอร้องห่มร้องไห้และคุกเข่าขอโทษตั้งแต่ตอนที่เธอเข้าประตูมา ฉันขอให้เธอคุกเข่าเหรอ? เธอคิดว่าพวกเราจะมองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเธอคุกเข่าอย่างนั้นเหรอ? การกระทำของโทมัสเป็นอาชญากรรม เขาแทง ข่มขืน และวางยาเพื่อนของฉัน รวมไปถึงการก่ออาชญากรรมต
“เคธี่ ไม่นะ” เฟรยาเงยหน้าขึ้นและมองแคทเธอรีนอย่างวิงวอน “ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้และปล่อยให้ทุกคนรู้...”“เฟรยา หยุดนะ เธอกล้าหาญได้มากกว่านั้นนะ”แคทเธอรีนจ้องมองฌอน “พูดสิ ถ้าคุณทำได้ แล้วทำไมคุณถึงพูดออกมาไม่ได้?”ฌอนปลดเนคไทออกด้วยความหงุดหงิด “แคทเธอรีน โจนส์ ถ้าเธอยังขืนเอาเรื่องกับเรื่องนี้ต่อไป ฉันจะห้ามไม่ให้หมอแองเจโลรักษาอาการป่วยพ่อของเธอ”แคทเธอรีนรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางศีรษะของเธอเธอมองเฟรยา “เขาใช้เรื่องนั้นมาขู่เธอเหรอ?”เฟรยาพูดอย่างขมขื่นใจ “เคธี่ เธอมีพ่อแค่คนเดียว ฉันไม่อยากให้เธอเสียท่านไป”“ใช่ ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณพ่อสำคัญกับฉันมากแค่ไหน เพราะฉันมีท่านแค่เพียงคนเดียว นั่นคือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงใช้ท่านมาขู่ฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า” แคทเธอรีนมองฌอนด้วยสายตาเย็นชา “ครั้งที่แล้ว ก็เพื่อชื่อเสียงของซาร่าที่ฉันประกาศว่าเราหย่ากัน แล้วผู้คนในอินเตอร์เน็ตก็ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ฉันมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วตอนนี้คุณก็กำลังข่มขู่ฉันให้ปล่อยคนสารเลวนั่นไป”ฌอนกัดริมฝีปากบางของเขาเงียบ ๆแคทเธอรีนสูญเสียความอดทนของเธอไปจนหมดสิ้นและวิ่งไปผลักเขา “ฌอน ฮิลล์ ทำไมคุณถึงใจร้ายกับฉั
ฌอนชำเลืองมองแคทเธอรีนที่น้ำตาคลอ แล้วจากนั้นจึงมองไปที่เวสลีย์ซึ่งกำลังปกป้องเธอ ความโกรธจัดผุดขึ้นภายในใจของเขา “มันเป็นเรื่องของฉันที่จะหย่ากับเธอหรือไม่ เพราะเธอมายั่วฉันเองแต่แรก นี่คือผลของการกระทำของเธอเอง”“ใครไปยั่วนาย? นายเป็นคนที่ทุกวิถีทางเพื่อแย่งเธอไปจากฉัน เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน” เวสลีย์โมโห“แล้วไงถ้าเธอเป็นคู่หมั้นของนาย?”ฌอนยิ้มด้วยแววตาที่เย็นชา ซึ่งเขายังไม่รู้สึกสำนึก “เธอยังเต็มใจนอนกับฉัน แม้กระทั่งตอนนี้ เธอก็ยังคอยตามรังควานและเกาะติดฉันไม่ห่าง”แคทเธอรีนทนไม่ไหวอีกต่อไป “ใครรังควานคุณ? ตราบใดที่คุณเต็มใจหย่ากับฉัน ฉันจะไปทันที”“อะไร? เธอคิดว่ายั่วฉันไปก็ไม่มีประโยชน์และตัดสินใจให้นายโลว์ยอนส์เป็นตัวสำรองงั้นเหรอ?”ฌอนบีบคางของเธออย่างโหดร้าย “แคทเธอรีน โจนส์ ฉันจะไม่ยอมให้เด็กในท้องของเธอเรียกคนอื่นว่าพ่อ ถึงเธออยากหย่าก็ตาม เธอก็ต้องคลอดลูกก่อน มันถึงเวลาที่เธอจะหลีกทางให้ซาร่าได้แล้ว”คำพูดของเขาเหมือนกับมีดที่เสียบแทงเข้าไปในหัวใจของแคทเธอรีนซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันเจ็บมากจนหายใจไม่ออก“ในเมื่อคุณรักซาร่ามากนัก ทำไมไม่ให้เธอมีลูกให้คุณล่ะ? ไปมีลูกเป็นขอ
“คุณจะขังฉันเอาไว้เหรอ?”แคทเธอรีนรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะเป็นบ้าฌอนไม่เพียงแต่จะยกลูกที่แคทเธอรีนให้กำเนิดกับซาร่า ทว่าเขายังขังเธอเอาไว้อีกด้วยเขายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? แบบนี้มันผิดกฎหมาย ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”แคทเธอรีนหยิบโทรศัพท์ออกมา ทว่าเขากลับปามันลงพื้น“แคทเธอรีน โจนส์ ฉันเคยให้โอกาสเธอมาก่อน เป็นความผิดของเธอเองที่ไปยุ่งเกี่ยวกับเวสลีย์ โลว์ยอนส์” ฌอนบอกไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกโกรธ บางทีอาจจะเกี่ยวกับเรื่องความเห็นแก่ตัวของผู้ชาย“คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้? คุณเป็นคนที่ไปเป็นชู้กับซาร่า นีสัน ขณะที่คุณยังแต่งงานอยู่ คุณคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าคุณนอนกับเธอแล้ว”“แล้วยังไงถ้าฉันนอนกับเธอแล้ว? ดูซิว่าหน้าตาของเธอน่าเกลียดและดูเหมือนคนบ้ามากแค่ไหน? เธอกล้าไปเทียบกับซาร่าได้ยังไง?”ยิ่งเขาพูดมากเท่าไร คำพูดของเขาก็ยิ่งโหดร้ายและใจร้ายมากขึ้นเท่านั้นแคทเธอรีนรู้สึกตกใจมาก เมื่อเธอสัมผัสใบหน้าที่ไม่เรียบเนียนของเธอ หัวใจของเธอก็ยิ่งเจ็บช้ำมากขึ้นใครกันที่พูดว่าเขาไม่สนใจที่เธอเสียโฉม?ทว่าในตอนนี้เขากลับพูดว่าเธอน่าเกลียดในตอนแรกใบหน้า
แคทเธอรีนถูกขังอยู่ในบ้านสองชั้นหลังนั้นทุกวันโดยที่เธอไปไหนไม่ได้เลย มันน่าเบื่อมาก เธอทำได้เพียงแค่ดูโทรทัศน์ หรือไม่ก็ออกไปสูดอาการบริสุทธิ์ที่ระเบียงบางครั้งเมื่อเธอมองลงไปจากระเบียง เธอก็นึกอยากจะกระโดดลงไปจริง ๆ ทว่าเมื่อคิดถึงลูก ๆ ในท้องแล้ว เธอจึงตัดสินใจสู้เธออดทนอยู่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เฮดลีย์มารับเธอเพื่อพาไปส่งที่โรงพยาบาลและทำการตรวจร่างกาย“ฌอนอยู่ที่ไหนเหรอคะ?” แคทเธอรีนถามขึ้นเฮดลีย์เงียบอึก ๆ อัก ๆแคทเธอรีนหัวเราะขึ้น “ฉันรู้ เขาคงจะอยู่กับซาร่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าซาร่าอีกแล้ว”“คุณผู้หญิงครับ อย่าทำแบบนั้นเลยครับ” แววตาของเฮดลีย์เต็มไปด้วยความเห็นใจ “ผมจะไปโรงพยาบาลกับคุณครับ”แคทเธอรีนกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่างออกไป ทว่าเมื่อเธอเห็นบอดี้การ์ดแปลกหน้าสองคน เธอจึงหยุดระหว่างทางที่ไปยังโรงพยาบาล เฮดลีย์ขับรถขณะที่เธอนั่งอยู่ด้านหลัง เฮดลีย์พูดขึ้น “ทุกวันนี้ ผมเอาใจใส่ซาร่า นีสัน เป็นพิเศษ มีเพียงคุณชายคนโตที่เริ่มเชื่อว่าผมจงรักภักดีกับเขาอยู่”“คงจะยากสำหรับคุณนะคะ” แคทเธอรีนคิดไม่ถึงว่าฌอนจะระแวดระวังเฮดลีย์“อาจจะเป็นเพราะผมเคยพูดเข้าข้างคุณผู้หญิงต่
ซินดี้ชะงักพลางชำเลืองมองแคทเธอรีน “เธอรู้ไหม? ทุกครั้งที่เชสเตอร์พาฉันไปงานสังสรรค์ด้วย ซาร่าอยู่ที่งานกับคุณชายคนโตเสมอ ฉันจะไม่พูดถึงว่าพวกเขาใกล้ชิดกันแค่ไหน แต่เขาค้างคืนที่บ้านของซาร่าทุกคืนหลังจากเลิกงานสังสรรค์”“คุณเทิร์นเนอร์...” เฮดลีย์เตือนขึ้น“คุณยัง ฉันกำลังบอกความจริง คุณก็อยู่ที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ?” ซินดี้กะพริบตาดวงโตพลางบุ้ยปาก “ล่าสุดฉันเห็นแม้กระทั่งรอยจูบบนต้นคอของซาร่าด้วยซ้ำไป ฮ่า ฮ่า”ใบหน้าของแคทเธอรีนชาสนิท “ขนาดนั้นเชียวเหรอ? ดีนี่ เขามันก็แค่ขยะที่ฉันไม่อยากได้แล้ว ฉันคิดว่าเขาเหมาะสมกับคนตีสองหน้าอย่างเธอดี”“ไม่เอาน่า เลิกเสแสร้งเถอะ ฉันรู้ว่าเธอค่อนข้างเสียใจ” ซินดี้หยิบกระจกออกมาและเติมลิปสติกสีแดงบนริมฝีปากของเธอ “เอ่อ อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อหลายวันก่อนซาร่าเชิญฉันไปที่วิลล่าริมทะเล ที่นั่นเป็นที่ดินผืนที่แพงที่สุดในแคนเบอร์รา เธอสามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าทันทีที่เธอเปิดประตูห้องนอนได้เลยนะ”ใบหน้าของแคทเธอรีนหม่นลงในที่สุดแน่นอนสิ เธอจำวิลล่าริมทะเลได้เป็นบ้านที่เธอกับฌอนเคยอาศัยอยู่ ที่ที่เธออยู่กับฌอนเพื่อให้เขาฟื้นฟูร่างกายและทำให้เป็นบ้านของเธอ
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก