“คนดีครับ นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษในชีวิตของพวกเรา เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กของเรานะครับ” ฌอนประคองเธอขึ้นและช่วยเธอใส่แผ่นซับในระหว่างวิธีการทั้งหมด แคทเธอรีนอยากจะทุบหัวตัวเองและฆ่าตัวตายเมื่อเธอกลับมาที่เตียง ใบหน้าของเธอก็แดงราวกับผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะเธอเริ่มจะรำคาญหูรำคาญตาและอยากจะกินให้หมด แต่ฌอนก็รีบลุกขึ้นทันทีที่เธอคว้ามีดปอกผลไม้ “นั่งลง ผมทำเอง”สรุปแล้ว ฌอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยตลอดทั้งบ่ายและเย็น แคทเธอรีนไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องอะไรเลย สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้ทำคือ นอน เอนหลัง และหลับผลจากการนอนมากเกินไป ทำให้เธอตื่นตั้งแต่ 06:00 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเธอลืมตา เธอเห็นว่าฌอนนอนหลับอยู่บนหมอนใบเดียวกับเธอ เธอไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เขาขึ้นมานอนเบียดอยู่กับเธอเมื่อคืนความโกรธของเธอระเบิดออกมาเมื่อเธอนึกถึงภาพที่เชลลีจับมือของเขาเมื่อวานนี้ถึงอย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่หมดจดของผู้ชายคนนี้ยามเขากำลังหลับสนิทนั้น น่ามองยิ่งกว่ายามเขาตื่นขึ้นมาเสียอีกขนตาของเขาดกหนาราวกับปีกของผีเสื้อ ผิวของเขาเรียบเนียนไม่มีรูขุมขน ทั้งจมูกและริมฝีปากของเขาสวยงาม หน้าตาของเขาดูราว
“เอาล่ะฌอน ใจเย็น ๆ ก่อน หมอไลล์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ที่สุดในประเทศแล้ว” เชสเตอร์พูดขึ้น“ฉันจะทำใจเย็นอยู่ได้ยังไง? ฉันจำไมได้ด้วยซ้ำว่าภรรยาของฉันตั้งครรภ์ เป็นไปได้ไหมที่พรุ่งนี้ฉันอาจจะจำภรรยาของฉันไม่ได้?” ใบหน้าของฌอนแสดงความโมโหออกมาริมฝีปากของหมอไลล์ขยับ ทว่าจนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาถึงอย่างนั้น ฌอนก็พอจะเดาได้ว่าเขาคิดถูกเขาลุกขึ้นนั่งด้วยความโกรธและทำลายข้าวของที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง“ฌอน ใจเย็น ๆ” เชสเตอร์และหมอไลล์เข้ามาพยายามห้ามเขาเอาไว้ ทว่าฌอนก็ผลักเขาออกแคทเธอรีนกัดริมฝีปากของเธอพลางก้าวไปข้างหน้า “ฌอน ฮิลล์ คุณกำลังพยายามทำให้ลูกทั้งสองคนที่อยู่ในห้องของฉันกลัวอยู่หรือเปล่าคะ?”ฌอนนิ่งไปพร้อมมองหน้าท้องของเธอ ทั้งกำมือด้วยความเจ็บปวด “ผมป่วย บางทีในอนาคตผมอาจจะจำลูก ๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมายืนอยู่ตรงหน้าผมก็ตาม”“เรื่องแบบนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้น ฉันได้ข่าวของญาเซียที่ต่างประเทศแล้ว ตราบใดที่เราหาเธอเจอ ฉันมีวิธีให้เธอรักษานาย” เชสเตอร์ตบไหล่ของฌอนเบา ๆ “เท่าที่ฉันรู้มา ไม่มีโรคที่ญาเซียรักษาไม่ได้”ดวงตาของฌอนหม่นลง นี่อาจจะเป็นความหวัง
“วันนี้แกมาที่คฤหาสน์ได้หรือเปล่า? องุ่นที่บ้านสุกแล้ว ฉันเลยจะเอาไปให้แล้วไปหาแกด้วย ดูเหมือนว่าแกจะไม่มาหาผู้หญิงแก่ ๆ อย่างฉัน ถ้าฉันไม่ไปหาแกก่อน”“องุ่นมีประโยชน์ ถ้าผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ทานองุ่นมาก ๆ ในอนาคตลูกอาจจะตาโตก็ได้” ฌอนรำพึงรำพันอย่างครุ่นคิด“อะไร… แกพูดว่าอะไรนะ?” คุณผู้หญิงฮิลล์พูดตะกุกตะกักด้วยความตกใจ “เป็นอะไรที่ฟังดูเหมือน ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคนน่ะครับ” มุมปากของฌอนเหยียดขึ้น น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความยินดีเท่าที่รู้สึก ขณะที่เขาพูดต่อ “เด็ก ๆ เป็นฝาแฝดครับ”“ฌอน ฮิลล์ ทำไมแกถึงไม่แจ้งข่าวสำคัญแบบนี้ให้เร็วกว่านี้?” เสียงของคุณผู้หญิงฮิลล์เกือบทำให้เขาหูหนวกฝาแฝด! โอ้พระเจ้า!ตระกูลฮิลล์ไม่เคยมีฝาแฝดมาก่อนคุณท่านฮิลล์ที่สวมแว่นสายตายาวอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ก็ลุกขึ้นและหูผึ่งขึ้นมา“ทำไมผมต้องบอกคุณยายด้วยล่ะครับ? ผมคิดว่าคุณยายไม่ชอบแคทเธอรีนซะอีก” ฌอนนั่งไขว่ห้าง “ถ้าผมบอกคุณยายเร็วกว่านี้ คุณยายก็จะทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก”“...”คุณผู้หญิงรู้สึกเจ็บหัวใจที่ถูกต่อว่าอย่างนั้น “ฉัน... นั่นก็ผ่านมาแล้ว ถ้าเธอตั้งครรภ์ลูกแฝด แน่นอนว่าฉันจะดูแลเธอเป็นอ
เขาปฏิเสธที่จะแยกห้องนอน เขาทนไม่ได้แม้เพียงวันเดียวก็ตามตอนแรกแคทเธอรีนอยากจะแก้ต่างให้ตัวเอง ทว่าหัวใจของเธอสั่นน้อย ๆ เพราะคำพูดของคุณผู้หญิงฮิลล์ เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “หนูเต็มใจที่จะย้ายไปที่คฤหาสน์ค่ะ คุณยายเป็นคนมีประสบการณ์ แล้วยังให้กำเนิดลูกมาแล้วหลายคน หนูเลยคิดว่าคุณยายพูดถูกค่ะ”“ถูกแล้ว” คุณผู้หญิงฮิลล์มองเธออย่างเห็นด้วยเป็นครั้งแรกที่ท่านรู้สึกค่อนข้างพอใจกับแคทเธอรีนดวงตาของฌอนหรี่ลงจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธออยากหลบเลี่ยงเขา และไม่อยากนอนกับเขา“ผมไม่ยอม”“แกปฏิเสธไปก็ไม่มีประโยชน์” คุณท่านฮิลล์สั่ง “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ฝาแฝดคู่แรกของตระกูลฮิลล์จะต้องเกิดมาอย่างแข็งแรง”ณอน “...”โธ่เว้ย เขาไม่น่าบอกท่านทั้งสองเรื่องการตั้งครรภ์เลย!เมื่อผู้อาวุโสทั้งสองกลับไป เขาก็จ้องมองแคทเธอรีนอย่างทุกข์ใจ “คุณตั้งใจทำแบบนั้น”“ใช่ค่ะ” แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นพลางพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “ฌอน ฮิลล์ ความจำของคุณไม่ดีนะคะ แต่ฉันจะไม่ลืมว่าลูกได้รับการกระทบกระเทือนได้ยังไง บางทีตอนนี้ฉันคงจะปลอดภัยกว่าถ้าไปอยู่ที่คฤหาสน์ อย่างน้อย
วาเลรี่เกลียดแคทเธอรีน ทั้งหมดเป็นความผิดของแคทเธอรีน ที่ฌอนย้ายเธอออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งก็ทำให้เธอตกต่ำกลายเป็นคนไม่มีอำนาจเธอขบฟันด้วยความเกลียดชังทุกครั้งที่เธอคิดถึงแคทเธอรีน โจนส์“คุณน้าคะ ทำไมฉันจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้? ฉันเป็นภรรยาของฌอนนะคะ” แคทเธอรีนเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับระบายยิ้ม“ว๊าย อย่ามาเรียกฉันว่า ‘น้า’ นะ เธอมันไม่คู่ควร เธอทำให้ฉันรู้สึกจะอ้วก” วาเลรี่เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา“นั่นสิ เธอมันก็แค่ลูกสาวนอกสมรส พวกเราไม่ได้ยอมรับเธอเลยนะ” ควีนนี่เองก็ดูถูกเธอเหมือนกัน“อย่ามาทำให้ฉันอารมณ์เสียเลยค่ะ” แคทเธอรีนพูดอย่างนุ่มนวล ฟังดูไม่เหมือนเป็นการข่มขู่เลยวาเลรี่หัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น “แล้วจะเป็นยังถ้าฉันทำให้เธออารมณ์เสีย? จะเป็นยังไงถ้าฉันตบเธอ?”เธอยกมือขึ้นขณะที่เธอพูด ทว่าควีนนี่รีบคว้ามือของเธอเอาไว้ “คุณแม่คะ คุณยายค่ะ...”วาเลรี่หยุดพลางหันไปมอง เท่าที่เห็นมีเพียงคุณผู้หญิงฮิลล์เดินมาเท่านั้น เธอยังอยู่ค่อนข้างไกล วาเลรี่จึงไม่ได้มีท่าทีสนใจ ถึงอย่างนั้นวาเลรี่ก็ยังไม่เชื่อ “คุณยายมาแล้วยังไง? ท่านก็
ควีนนี่เองก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาเหมือนกัน “คุณยายคะ ยกโทษให้คุณแม่เถอะนะคะ ท่านไม่ได้หมายความตาม...”“คุณตาของแกกับฉันอายุปูนนี้แล้วนะ เราแค่อยากใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เราทนความคิดชั่วร้ายแบบนี้ไม่ได้หรอก ควีนนี่ ถ้าแกรักแม่ของแกนัก งั้นจากนี้ไปแกก็ไม่ต้องกลับมาอีก”คุณผู้หญิงฮิลล์รู้สึกผิดหวังมากเธอกวักมือและให้แม่บ้าน ‘ส่ง’ พวกเธอออกไป“คุณยายคะ หนูขอโทษ...” แคทเธอรีนแสดงสีหน้าเสียใจ“อย่าขอโทษไปเลย ฉันเห็นได้ชัดเจนว่าวาเลรี่เป็นคนที่รังแกเธอ ก็จริงที่ฉันไม่ได้โปรดปรานเธอมากนัก แต่ฉันยังแยกแยะระหว่างถูกและผิดได้อยู่”คุณผู้หญิงฮิลล์เป็นคนตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก แคทเธอรีนไม่ได้รู้สึกโกรธ ในทางตรงกับข้าม ท่าทีของคุณผู้หญิงฮิลล์ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก“จากนี้ไปถ้ามีใครรังแกเธอ ขอแค่บอกฉันเท่านั้น ยังไงเธอก็ยังเป็นภรรยาของฌอน ในอนาคต เธอจะต้องดูแลคฤหาสน์หลังนี้ ดังนั้นเธอเดินสำรวจดูคฤหาสน์หลังนี้ได้เมื่อเธอมีเวลา และทำความคุ้นเคยกับมันซะนะ”แคทเธอรีนนิ่งไปคุณผู้หญิงฮิลล์ยอมรับเธอแล้วหรือ?แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าฌอนกับเธอจะเดินไปยังจุดสิ้นสุดด้วยกันได้ ด้วยสิ่
“ไปฟ้องเลยครับ ป่านนี้คุณยายคงปิดโทรศัพท์เข้านอนไปแล้ว” ฌอนโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน และมือซ้ายของเขาก็ลูบหน้าท้องของเธอ “ไหนขอผมดูหน่อยซิ ว่าวันนี้เจ้าตัวเล็กทั้งสองคนของเราโตขึ้นบ้างไหม”“ตอนนี้เด็ก ๆ อายุแค่เดือนกว่า ๆ เองนะคะ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ” แคทเธอรีนผลักมือของเขาออกดื้อ ๆ “ออกไปค่ะ ฉันอยากนอนแล้ว”“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลยนะ” ฌอนจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ “ใครอยากเป็นแม่ทูนหัวของเด็ก ๆ ครับ? ถ้าเป็นเฟรยา ลินช์ ผมไม่ยอม เพราะเธอ IQ ไม่ดี ถ้าเป็นแชริตี้ นีสัน ผมยิ่งไม่ยอมเข้าไปกันใหญ่...”“ฌอน ฮิลล์ คุณมาหาฉันดึก ๆ ดื่น ๆ เพื่อมาชวนฉันเถียงเหรอคะ?” แคทเธอรีนเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาและหยิบหมอนมาตีเขา “ลูกเป็นของฉันค่ะ ฉันตัดสินใจเองว่าจะให้ใครเป็นแม่ทูนหัวของพวกเด็ก ๆ ถ้าคุณไม่เลิกจู้จี้ ฉันจะไม่คลอดพวกแกออกมา”“คุณพูดอะไรของคุณ?” ใบหน้าของฌอนเคร่งขรึมขึ้นทันที “แคทเธอรีน โจนส์ คิดก่อนพูด อย่าคิดว่าลูกจะไม่เข้าใจที่คุณพูดเพราะตอนนี้พวกแกยังเล็กอยู่ คุณคิดถึงความรู้สึกของพวกลูก ๆ บ้างไหม?”แคทเธอรีนกำลังตั้งครรภ์ อารมณ์ของเธอจึงแปรปรวนได้ง่าย แค่ถูกดุเพียงเล็กน้อยเท่าน
“เฟรยา ลินช์ เธอเองเหรอ!”เมื่อกระจกเลื่อนลง ใบหน้าร้ายกาจของลินดา เชลบี้ ก็ปรากฏขึ้น เธอดูมีความสุขมากที่ได้เจอเฟรยาทว่าเฟรยาแทบจะกระอักเลือดโธ่เอ้ย! เธอเพิ่งกลับมาที่เมลเบิร์นได้ไม่กี่วัน แต่ก็ต้องมาบังเอิญเจอคนที่น่ารำคาญที่สุด“เฟรยา เธอกลับมาที่เมลเบิร์นทำไมเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเธอได้แฟนใหม่ที่แคนเบอร์รา เธอทำแบบนี้กับแพทริคได้ยังไง?” ลินดาขมวดคิ้วทันทีพลางพูดขึ้น“ไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอหูหนวกหรือไง? เธอไม่ได้ยินฉันตอนที่พูดว่าเธอเกือบจะชนรถของฉันหรือไง?” น้ำเสียงของเฟรยาหมดความอดทนดวงตาของลินดาแดงก่ำด้วยความรู้สึกเสียใจ “ฉันขอโทษ… ฉัน...”“ฉันขอโทษแทนเธอด้วย...”ทันใดนั้นเอง ประตูฝั่งผู้โดยสารก็ถูกเปิดออก แล้วแพทริคก็ก้าวลงมาจากรถ ท่าทางเย็นชาและใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาในตอนนี้กำลังค้อมศีรษะลงน้อย ๆ ขณะที่ใบหน้าที่มีเสน่ห์และริมฝีปากของเขาก็ซีดราวกับกระดาษ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นมองเพียงแวบเดียวเฟรยาก็บอกได้แล้วว่าเขาไม่สบายหัวใจของเธอบีบรัด ทว่าเธอก็รีบข่มความเป็นห่วงในหัวใจของเธอเอาไว้พวกเขาเลิกกันไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะมาเป็นห่วงถ้าเขาไม่สบายนอกจากนี้
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก