แคทเธอรีนถามขึ้นด้วยความสงสัย “แล้วภรรยาเก่าของบอริสมีลูกไหม?”“พอเธอถามถึงลูกของผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา ทำให้ฉันรู้สึกประสาทเสีย” เฟรยาพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด “สองสามวันก่อนฉันไปงานสังสรรค์มา แล้วโทมัส นีสัน ก็มีท่าทางสนใจฉัน แล้วตั้งแต่นั้นมา เขาก็คอยตามตอแยฉันไม่เลิกเลย เขาโคตรน่ารำคาญ”“โทมัส นีสัน เหรอ?” แคทเธอรีนขมวดคิ้ว “ชื่อนี้ฟังดูคุ้น ๆ”เมื่อคิดออก แคทเธอรีนก็ผุดลุกขึ้นในทันที “ฉันจำได้แล้ว ตอนที่ฉันอยู่ที่เมลเบิร์น คนที่ชื่อ ฮิวจ์ จิวเวลอยากฆ่าฉัน แต่โชคดีที่เวสลีย์มาช่วยฉันเอาไว้ ต่อมาฉันรู้มาจากตำรวจว่า โทมัส นีสันจากตระกูลนีสันในแคนเบอร์ราชอบลิลี่ จิวเวล น้องสาวของฮิวจ์ จิวเวล โทมัสใช้เล่ห์เลี่ยมหลอกล่อเธอ และทำให้ลิลี่กระโดดตึกในที่สุด ตระกูลจิวเวลจึงทำการฟ้องโทมัส แต่ฌอนว่าความให้คดีของเขาจนชนะในที่สุด” “ตายแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นคนสารเลวแบบนั้น”เฟรยาอึ้งไป “ทำไมเขาถึงเลือกจะมาตามตอแยฉันล่ะ? ทำไมฉันต้องโชคร้ายแบบนี้ด้วย!”“เขาไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนใช่ไหม?” แคทเธอรีนรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา“เขารู้ ฉันไม่รู้ว่าเขารู้ที่อยู่ของฉันได้ยังไง แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเขา
เป็นเพราะแคทเธอรีนห้ามสามีของเธอไม่ได้จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามันตลก “ไม่เป็นไร งั้น ฉันลองคิดถึงความช่วยเหลือของคุณเมื่อวาน คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าคุณรู้จักคนที่ชื่อเชลลี แลงลีย์ หรือเปล่า?”“...”“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักเธอนะ” แคทเธอรีนกำโทรศัพท์ของเธอไว้แน่น “เมื่อวานที่คุณกำลังพูดกับฉัน ตอนนั้นคุณพูดว่าพวกเขากำลังหลอกและนอกใจใครบางคนอยู่ใช่ไหม? ฉันคิดว่าคุณสงสารฉันอยู่”“ตราบใดที่คุณกล้าหาญ คุณไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณหรอก” แชริตี้ตอบด้วยเสียงต่ำแคทเธอรีนยิ้มอย่างเศร้าใจ “ก็ได้ ฉันจะไม่บังคับคุณ เอ่อ มีอีกเรื่องหนึ่ง คุณมีพี่ชายชื่อ โทมัส นีสันใช่ไหม? คุณช่วยบอกให้เขาเลิกไปตามตอแยเฟรยาเพื่อนของฉันสักทีได้ไหม? บอกเขาว่าฉันจะไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ แน่ ถ้าเขาทำอะไรเธอ” “โทมัส นีสัน...” น้ำเสียงของแชริตี้เต็มไปด้วยความร้อนรน “ได้ ฉันจะเตือนเขาให้ แต่ฉันก็ขอเตือนคุณเอาไว้เหมือนกันนะ คุณโจนส์ คุณสั่งให้เชลลีอยู่ห่างจากฌอนเท่าที่จะทำได้ดีกว่านะ”หัวใจของแคทเธอรีนเต้นผิดจังหวะ “เมื่อคืนนี้ฉันไล่เธอออกจากบ้านไปแล้ว”“ฉันกลัวว่าใครบางคนจะไม่ยอมรับ...”ตอนนั้นเองแชริตี้ที่แช
ถึงอย่างไร เวสลีย์ก็ก้มศีรษะของเขาและสบตากับแคทเธอรีน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก “เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”“ผมเห็นคุณตอนที่ผมเลิกงานเมื่อกี้นี้ ผมเลยอดไม่ได้ที่จะตามคุณมาที่นี่” เวสลีย์ตอบเศร้า ๆ “คุณเป็นยังไงบ้างครับ? ผมสังเกตว่าตอนนี้คุณดูไม่ค่อยมีความสุข...”“ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” แคทเธอรีนปฏิเสธอย่างชัดเจน“นั่นสิครับ ตอนนี้คุณก็ได้อยู่กับผู้ชายที่คุณรัก คุณควรจะมีความสุข” เวสลีย์หัวเราะด้วยท่าทางขัดแย้งกับตัวเอง“ขอโทษนะคะ เวสลีย์...” แคทเธอรีนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นหัวใจ“แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมมาที่นี่ตอนนี้เพื่อพูดว่าไม่เป็นไร” รอยยิ้มเศร้า ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ เขาหยิบไอศกรีมจากที่เสิร์ฟและส่งให้เธอ“พอดีมีเรื่องต้องจัดการน่ะค่ะ ลาก่อนนะคะ” แคทเธอรีนหาข้ออ้างที่น่าขายหน้า เพราะเธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา“ไม่อยากนั่งกับผมสักหน่อยเหรอครับ? แคทเธอรีน อย่าใจร้ายกับผมนักเลย” ใบหน้าของเวสลีย์แฝงไปด้วยความอ้อนวอนแกมขอร้องแคทเธอรีนจึงไม่อาจบังคับให้ตัวเองใจร้ายกับเขาได้หลังจากที่ทั้งคู่นั่งลง เธอก็ได้ฟังเวสลีย์พูดถึงชีวิตของเขาและปัญ
“...”แคทเธอรีนมองเวสลีย์ด้วยความไม่เข้าใจซาร่า วันเดอร์แลนด์แน่นอนว่าเธอเคยได้ยินเรื่องสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในแคนเบอร์รา ที่มีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดจากทั่วโลก แค่ปราสาทหนึ่งหลังก็ใช้เงินสร้างกว่า 3 แสนล้านดอลล่าร์ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่รู้ว่าฌอนสร้างสวนสนุกให้แฟนเก่าของเขาความสงสารผุดขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ “และเพื่อเป็นการรำลึกถึงเธอ ชื่อฌอนนาราห์เป็นการเล่นคำชื่อของพวกเขา เคธี่ ชาวเน็ตต่างอิจฉาคุณ แต่คุณรู้ไหมว่าพวกชนชั้นสูงจำนวนมากในแคนเบอร์รา จริง ๆ แล้วพวกเขาเยาะเย้ยคุณน่ะ?”“หยุดนะ” เธอส่ายหน้า ไม่อยากจะฟังอีกแล้ว“มีอีกเรื่องที่คุณยังไม่รู้”ทันใดนั้นเอง เขาก็คว้าแขนของเธอเอาไว้ “คุณรู้ไหมว่าทำไมฮิวจ์ จิวเวล ถึงอยากฆ่าคุณ?”“...”ริมฝีปากของหญิงสาวสั่นระริกเขาไม่ยอมให้เธอเลี่ยงคำถาม “ครอบครัวของฮิวจ์ต้องพังย่อยยับเพราะฌอนว่าความให้คดีของโทมัน นีสัน ที่เขาทำแบบนี้เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ชายของซาร่า ไม่ใช่เรื่องสำคัญกับเขาที่โทมัสเป็นคนเลวซึ่งทำเรื่องชั่ว ๆ มาเยอะแยะมากมายในชีวิต เขาฉีกจรรยาบรรณวิชาชีพของนักกฎหมายเพื่อเธอ”แคทเธอรีนนิ่งเงียบไป ถึงเธอพอจะเดาค
ป้าจัสมินสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ฌอนทุบทำลายข้าวของทุกอย่างในห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นเหมือนคนบ้า ทั้งยังมีเลือดไหลออกมาจากมือของเขาอีกด้วยป้าจัสมินรีบโทรหาแคทเธอรีนทันที ทว่าเธอไม่รับสายเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นดูราวกับจะควบคุมตัวเองไม่ได้เข้าไปทุกที เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องโทรหาเชลลีเธอไม่รู้ว่าเธอจะรับมือกับอาการป่วยของคุณชายคนโตยังไง เธอจำพยาบาลที่ดูแลเขาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เป็นอย่างดี...หลังจากออกมาจากเคเอฟซีแคทเธอรีนก็เดินไปตามถนนโดยลำพังอย่างเหม่อลอย เธอลืมแม้กระทั่งรถของตัวเองด้วยซ้ำเธอเดินอยู่นาน เมื่อเธอรู้สึกตัว เธอก็สังเกตว่าเธออยู่ที่ทางเข้าของซาร่า วันเดอร์แลนด์ดอกไม้ไฟที่สวยงามได้ถูกจุดขึ้นเหนือปราสาทเธอมองดูด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า เมื่อคู่รักเดินผ่านเธอไป“ดอกไม้ไฟสวยมากเลยนะ”“ใช่ คุณรู้ไหมว่าทำไมมันถึงถูกจุดแสดงขึ้นเวลานี้ทุกสัปดาห์?”“ตอนนี้กี่โมงแล้ว? ขอฉันดูหน่อย 08:31 น. วันศุกร์ 831... 8 ตัวอักษร 3 คำ 1 ความหมาย… หมายถึงฉันรักคุณเหรอ?”“ฮ่า ๆ คนเก่ง ฉันได้ยินมาว่าเศรษฐีคนหนึ่งสร้างสวนสนุกแห่งนี้ขึ้นมาให้แฟนของเขาเมื่อหลายปี
แคทเธอรีนเห็นว่าฌอนกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงใหญ่ ทว่า มีเชลลีกำลังนอนอยู่ข้าง ๆ เขา มือของพวกเขาทั้งสองคนจับกันไว้แน่นเชลลีดีดตัวขึ้นจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวาย สีหน้ากระวนกระวายใจผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอเมื่อเธอเห็นผู้หญิงคนนั้น “คุณผู้หญิง โปรดอย่าเข้าใจผิดไป...”แคทเธอรีนถลาเข้าไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นทันที “ฉันสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอตั้งแต่วันแรก ฉันจ้างให้เธอมาเป็นพยาบาล และงานนี้ไม่รวมไปถึงการมาหลับนอนกับเขาบนเตียงของเรา”“ฉันไม่ได้ทำ” เชลลีพูดอย่างจนปัญญา “เธอไม่ได้ทำอย่างนั้นเหรอ?” แคทเธอรีนโกรธมากจนคุมตัวเองไม่ได้ “เมื่อวานฉันสั่งให้เธอออกไป เธอคิดว่าเธอเป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้จริง ๆ เหรอ? พ่อแม่เธอไม่ได้สอนมารยาทเธอมาเหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันน่าไม่อาย?”“เสียงดัง”ทันใดนั้นเอง ผู้ชายคนนั้นก็พลิกตัวกลับมาแล้วยันกายลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทางอ่อนเพลีย โดยความบังเอิญที่ใบหน้าของเชลลีมีน้ำตาอาบแก้ม ทั้งมีรอยมืออยู่บนแก้มของเธอ ในทางกลับกัน ใบหน้าของแคทเธอรีนเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนตบหน้าผู้หญิงอีกคน“แคทเธอรีน คุณทำอะไรของคุณ?”
ชั่ว... ชั่ว...คำพูดที่แฝงด้วยความเกลียดชังดังก้องอยู่ในสมองของฌอน เขารีบยกมือขึ้นปิดหูเพื่อไม่ให้ได้ยินคำพูดเหล่านั้นเขาไม่อยากได้ยินผู้หญิงที่เขารักเรียกเขาด้วยชื่อแบบนั้นเขารู้ว่าเขาป่วย ทว่าตอนนี้แม้แต่แคทเธอรีนก็ยังเกลียดเขาเมื่อเหตุการณ์สับสนวุ่นวายเกิดขึ้น ป้าจัสมินก็เดินเข้ามาคว้าแขนของเขาเอาไว้ “คุณชายคนโตคะ คุณชายทำกับคุณผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้นะคะ เธอพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะเธอหึงเมื่อคุณอยู่ใกล้ชิดกับเชลลีเท่านั้น...”ทว่าในตอนนี้ฌอนไม่ต่างอะไรจากคนเสียสติ เขาไม่เพียงแค่ไม่ฟังเธอเท่านั้น แต่ยังผลักป้าจัสมินอย่างแรงจนทำให้ศีรษะของเธอกระแทกพื้นและสลบไปเชลลีรีบตีหัวเขา เขาเงียบเสียงลงและหมดสติไปในที่สุดห้องนั่งเล่นตกอยู่ในความเงียบทันที เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของแคทเธอรีนที่ดังมาจากห้องใต้ดิน มุมปากของเชลลีเหยียดเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา ในขณะที่แววตาของเธอเผยให้เห็นความเกลียดชังอันแรงกล้า‘แคทเธอรีน โจนส์ ฉันพนันได้เลยว่าเธอต้องไม่เคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้’...ในห้องใต้ดินแคทเธอรีนกรีดร้องออกมาจนกระทั่งเสียงของเธอแหบแห้ง ทว่าก็ย
“หลังจากนั้นอาการของคุณชายคนโตก็กำเริบขึ้น คุณผู้หญิงเลยบอกว่าเธอจะออกไปค่ะ เขาเลยขังเธอเอาไว้ในห้องใต้ดิน และพลั้งมือทำร้ายป้าจัสมินโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันโทรเรียกรถฉุกเฉินมากลางดึกเพื่อส่งตัวป้าจัสมินไปรักษาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีก” เชลลีพูดขึ้นรอยมือบนแก้มของเธอยังคงแดงและบวมอยู่ ร็อดนีย์โกรธจัดเมื่อได้ยินเช่นนั้น “แคทเธอรีนเป็นบ้าไปแล้ว ฉันจะไปสั่งสอนเธอ...”“ใจเย็น” เชสเตอร์คว้าแขนของเพื่อนเอาไว้“ดูสิ่งที่เธอทำกับฌอนสิ เธอรู้ทั้งรู้ว่าเขาควบคุมสติของตัวเองไม่ได้ แต่เธอก็ยังจงใจยั่วโมโหเขา ฉันคิดว่าเธอพยายามทำให้เขาเสียสติ เพื่อเธอจะได้ฮุบสมบัติของเขาไปได้”เชลลีพูดขึ้นเบา ๆ “ฉันแอบปลดล็อคประตูเมื่อเช้านี้เพื่อปล่อยเธอออกมา ฉันคิดว่า… เป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะขังคนเอาไว้แบบนั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาการของคุณชายคนโตกำเริบขึ้นมาและทำร้ายคนอื่นอีก?”เชสเตอร์ชมเธอ “คุณทำถูกแล้ว ฌอนทำผิดที่ขังเธอเอาไว้แบบนั้น”“แต่ฉันเกรงว่าคุณชายคนโตจะโกรธที่ฉันทำแบบนั้น...” สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล“เราจะเป็นคนบอกเขาเองว่าเราเป็นคนปล่อยเธอไป” เชสเตอร์ตอบ“ขอบคุณนะคะ”ห
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก