หลังจากที่ผู้คนออกไปกันหมดแล้ว เจเน็ตก็พูดกับสตีเฟ่นด้วยความโกรธ “นี่พี่เสียสติไปแล้วหรือเปล่า? ทำไมพี่ไม่แนะนำฉันกับวิลลี่? ฉันจะทำประโยชน์ให้กับครอบครัวของเราได้แน่นอนถ้าฉันได้เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลฮิลล์”“วิลลี่ไม่สนใจเธอหรอก” สตีเฟ่นตอบอย่างเย็นชาขณะที่จุดบุหรี่ขึ้นสูบเจเน็ตรู้สึกไม่พอใจ “พี่หมายความว่ายังไง? ในสายตาของพี่ ฉันดูดีสู้รีเบคก้าไม่ได้หรือไง? อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เติบโตที่บ้านนอกคอกนานะ”“พี่ทำแบบนี้เพื่อเธอนะ วิลลี่มีนิสัยไม่ดีที่ชอบนอนกับแฟนหรือภรรยาของคนอื่น”เจเน็ตรู้สึกตกใจสตีเฟ่นพูดเสริม “เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่ ถ้ามีทางลัดสู่ความสำเร็จที่ดีกว่า พี่จะแนะนำให้เธอก่อนแน่นอน แต่วิลลี่เป็นพวกวิตถาร แม้จะเป็นผู้หญิงเขาก็ฆ่าได้”“จริงเหรอพี่?” เจเน็ตสะดุ้งสุดตัว“จริงซะยิ่งกว่าจริง ถ้าไม่ใช่ญาติของเราทำงานเป็นผู้ช่วยของเขา พี่คงไม่รู้เรื่องนี้” สตีเฟ่นยืนขึ้นช้า ๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเธอถึงคิดว่าพี่ถึงได้เสนอโอกาสดี ๆ แบบนี้ให้รีเบคก้าล่ะ? เธอไม่ใช่คนดีเหมือนกัน”“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป วิลลี่จะขอบคุณพี่ที่ให้โอกาสเขาได้ใกล้ชิดกับรีเบคก้า ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูล
“คุณชายฮิลล์คะ ฉันอยากร่วมงานกับคุณในโครงการนี้นะคะ แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งถูกไล่ออกออกจากฮัดสัน” รีเบคก้าพูดอย่างหดหู่พลางฝืนยิ้มด้วยความขมขื่น “คุณพ่อและฉันมีตำแหน่งเป็นเดิมพัน...” “ผมแก้ปัญหาให้คุณได้ทุกอย่าง ตราบใดที่คุณทำหน้าที่ได้ดีตลอดเวลาที่อยู่กับผม” วิลลี่เผยยิ้มออกมา “ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวผม ต่างได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากผม”“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันเองก็จะดูแลคุณเป็นอย่างดีเหมือนกันค่ะ” ด้วยการตัดสินใจเด็ดขาด เธอจูบเขาเพื่อเป็นการสัญญาจากเธอหลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องโหยหวนของรีเบคก้าก็ดังขึ้นภายในห้องอีกครั้งเธอร้องไห้ด้วยความขมขื่น พลางคิดในใจ ‘นังแคทเธอรีน ตอนนี้ฉันเจ็บปวด ทุกข์ทรมานแสนสาหัส ในอนาคต ฉันจะกลับไปคิดบัญชีกับแกทั้งต้นทั้งดอก’...ช่วงเวลาสิ้นปีใกล้เข้ามาทุกทีงานเฉลิมฉลองวันครบรอบของบริษัทฮัดสันถูกจัดขึ้นในโรงแรมเจ็ดดาว ฮัดสันไม่เพียงแต่เชิญคนมีชื่อเสียงหลายคนให้มาร่วมงานฉลองในค่ำคืนนี้เท่านั้น แต่ผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจต่างก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน19:00 น.ในฐานะประธานคนใหม่ แคทเธอรีนเข้าไปในโรงแรมช้า ๆ ด้วยรถเบนท์ลีย์เมื่อประตูรถถูกเปิดออก เธอสวมช
เมื่อสังเกตเห็นแคทเธอรีนก่อนหน้านี้ วิลลี่ก็จ้องมองเธออย่างเคลิบเคลิ้ม เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีผู้หญิงที่หน้าตาสวยขนาดนี้อยู่ในเมลเบิร์น ความสวยของเธอจัดอยู่ในระดับต้น ๆ ต่อให้เธอจะอยู่ที่แคนเบอร์ราก็ตาม“สวัสดีครับคุณโจนส์”วิลลี่ยื่นมือออไปอย่างเป็นมิตร แคทเธอรีนเองยังรู้สึกแปลกใจที่รีเบคก้าหลอกใช้ประโยชน์จากคนตระกูลฮิลล์ได้แคทเธอรีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากยื่นมือออกไปจับมือกับเขาด้วยความไม่เต็มใจ ด้วยรู้ว่าเธอไม่อาจทำให้เขาไม่พอใจได้ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่วิลลี่จับมือของเธอ เขาจะแทะโลมเธอด้วยการใช้นิ้วก้อยไล้กับฝ่ามือของเธอสีหน้าของแคทเธอรีนเปลี่ยนไป เธอพยายามหดมือกลับเพื่อหนีจากการสัมผัสของเขา ทว่าเขาจงใจจับมือของเธอเอาไว้แน่น“คุณโจนส์ คุณคิดจะจับมือผมอีกนานไหม?” วิลลี่ยิ้มออกมาด้วยความสุขุมรีเบคก้าเม้มริมฝีปากของเธอเอาไว้ทันทีพลางอุทานขึ้น “นั่นเธอทำอะไรของเธอน่ะ แคทเธอรีน?”พวกนักข่าวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พรมแดงถ่ายภาพของทั้งสามคนเก็บไว้ทันที เมื่อสองพี่น้องตระกูลโจนส์ทะเลาะกันเพื่อแย่งคนจากตระกูลฮิลล์ เป็นข่าวที่หาได้ยาก“ฉันก็อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเหมือนกัน” ด้ว
20:00 น. งานเฉลิมฉลองครบรอบอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแคทเธอรีนควรจะเป็นจุดเด่นของงาน ทว่าบรรดาแขกเหรื่อกลับให้ความสนใจกับวิลลี่และรีเบคก้าแทน ในสายตานักธุรกิจที่มีอิทธิพลมาก ตระกูลฮิลล์ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังถึงวิลลี่จะไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลฮิลล์ก็ตาม แต่การมาที่เมลเบิร์นของเขานั้นมีอิทธิพลมากพอจนทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้คริสเดินไปหาแคทเธอรีน “เจฟฟี่รู้จักกับกับวิลลี่ได้ยังไงครับ?”“ดิฉันเดาว่ารีเบคก้าคงนอนกับเขา” แคทเธอรีนสันนิฐานตามเหตุผลที่เห็น เธอเห็นการกระทำที่หยาบคายของวิลลี่ต่อหน้าต่อตาของเธอในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่พบกับเขาตรงทางเข้าเมื่อสักครู่นี้คริสมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “คุณปู่คุณย่าของคุณขึ้นชื่อเรื่องของการมีศักดิ์ศรีและซื่อสัตย์ แต่กลับมีลูกหลานที่ไร้ยางอายอย่างเธอ นั่นถือว่าเป็นความอัปยศ”แคทเธอรีนปวดใจ ตอนแรกเธอดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ แต่การปรากฏตัวของวิลลี่ได้รับความสนใจจากพวกคณะกรรมการของบริษัทและผู้บริหารระดับสูงไปจนหมดในตอนนั้นเอง ผู้อำนวยการเออร์ไวน์และผู้อำนวยการเลวี่เดินเข้ามาหาเธอ “แคทเธอรีน คุณควรจะเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นไปพ
ยิ่งคิดแบบนั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกโมโห“ปล่อยฉันนะ!” แคทเธอรีนกัดวิลลี่อย่างแรงวิลลี่ปล่อยมือเพราะความเจ็บปวดแล้วหัวเราะออกมา “แน่นอน เธอเป็นคนอวดเก่ง น่าสนใจดีนะ ฉันชอบอยู่แล้วผู้หญิงอวดเก่งแบบนี้น่ะ” “แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง? ยังไงตระกูลฮิลล์ก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมลเบิร์นนะ ทำไมถึงมีผู้ชายที่น่าขยะแขยงและกักขฬะแบบแก อยู่ในตระกูลของพวกเขาได้?” แคทเธอรีนก่นด่า“ด่าได้ก็ด่าไปเถอะ ยิ่งเธอด่าฉันมากเท่าไร ฉันก็จะยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น” วิลลี่เย้ย “พวกกรรมการบริษัทของเธอทุกคนให้ความเคารพยำเกรงฉัน เจฟฟี่ขอฉันให้ช่วยให้เขาได้ตำแหน่งประธานในวันพรุ่งนี้ ฉันพูดอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอเสียตำแหน่ง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันจะลองคิดดูอีกที ถ้าคืนนี้เธอบริการให้ฉันอย่างถึงใจ”แคทเธอรีนฉุกคิด แล้วแสร้งทำเป็นตระหนกตกใจแล้วพูดขึ้น “เป็นความจริงเหรอคะ?”“ใช่สิ” วิลลี่ยิ้มเยาะ เมื่อได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแค่ผู้หญิงชั้นต่ำ “คุณต้องช่วยฉันนะคะ คุณชายฮิลล์” แคทเธอรีนเบ้หน้าพลางพูดขึ้นอย่างน่าสงสาร “ให้ฉันทำอะไรให้คุณก็ได้”“เยี่ยม เธอรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอ มานี่สิ” วิลลี่อ้าแขนออกแคท
ในวิลล่าฌอนที่กำลังวิดีโอประชุมอยู่ในห้องทำงาน ได้ยินเสียงรถที่ดังขึ้นมาจากข้างล่าง ร่างสูงยืนขึ้น “แผนนี้ใช้ไม่ได้ ไปคิดมาใหม่”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ตัดสัญญาณจากการประชุมแล้วเดินลงบันไดแคทเธอรีนเดินผ่านประตูเข้ามาอย่างไม่ได้สติ เธอลืมแม้กระทั่งเปลี่ยนรองเท้าด้วยซ้ำฌอนหรี่ตาลงมองไปที่ชุดราตรีสีดำของเธอ แขนของเธอปกคลุมไปด้วยหิมะและน่องของเธอโผล่พ้นชุดออกมาครึ่งหนึ่งเขาขมวดคิ้วเข้าหากันพลางรีบถอดเสื้อคลุมออกแล้วคลุมลงบนตัวของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาลดสายตาลงมอง ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นรอยขาด“ทำไมชุดของคุณถึงขาดแบบนี้” ดวงตาสีดำเข้มจับจ้องมาที่เธอเมื่อเธอมองลงไป เธอก็เพิ่งสังเกตเห็น บางทีชุดของเธออาจจะไปเกี่ยวเข้ากับอะไรคม ๆ ตอนที่เธอปีนออกมาจากหน้าต่างห้องน้ำตอนนั้น“ฉันไม่รู้ว่ามันขาดได้ยังไงค่ะ” แคทเธอรีนหลบสายตา ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอไปมีเรื่องกับวิลลี่ฌอนเป็นแค่ทนายความ และเขาไม่สามารถทำอะไรตระกูลฮิลล์ได้“คุณมีนิสัยไม่ดีอย่างหนึ่ง คือชอบหลบตาผมเวลาคุณโกหก” ฌอนกอดเอวเธอแน่น ดวงตาสีเข้มฉายแววความแข็งกร้าวออกมา “คืนนี้คุณไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทมาใช่ไหม
แคทเธอรีนพูดอะไรไม่ออกเธอก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ“ขึ้นไปนอน ไม่ต้องคิดมากแล้ว เพราะคุณได้ถ่ายรูปแบบนั้นของเขาเอาไว้แล้ว ตระกูลฮิลล์เป็นห่วงศักดิ์ศรีของพวกเขามากที่สุด” ฌอนพูดแบบขอไปทีไม่ได้ตั้งใจจะปลอบเธอจริง ๆ จัง ๆ“จริงเหรอคะ?” แคทเธอรีนไม่ค่อยแน่ใจเรื่องนี้ “แต่ฉันไม่คิดว่าวิลลี่จะเป็นคนที่ยอมรับอะไรก็ตามที่ทำให้เขาเสียเปรียบแบบนั้นได้หรอกนะคะ ฉันเองก็ฟาดเขาจนยับเลยค่ะ”“คุณไม่รู้ว่าพวกผู้ชายรักศักดิ์ศรีมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับผู้หญิง คุณไม่ใช่ผู้ชาย คุณเลยไม่เข้าใจ ผมท้าเลยว่าเขาไม่กล้าตามหาคุณหรอก คุณจัดการเรื่องนี้ได้ดีแล้ว” ฌอนยอมรับพลางอธิบายพอเป็นพิธีหาได้ยากที่ฌอนจะเอ่ยชมแคทเธอรีน ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างงงเมื่อได้ยินคำเอ่ยปากชมบางทีฌอนอาจจะพูดถูกก็ได้ เธอคงไม่เข้าใจผู้ชายจริง ๆ“แต่จะว่าไป คุณห้ามไปถอดเสื้อผ้าผู้ชายที่ไหนอีก” หลังจากที่นิ่งไป ฌอนก็เตือนด้วยท่าทางเอาเรื่อง “แน่นอนว่า ยกเว้นผม”แคทเธอรีนพูดไม่ออก“ไปอาบน้ำ เดี๋ยวผมช่วยอาบ” ฌอนไม่สนใจว่าเธอจะพูดไม่ออก มือหนาโอบเอวเธอเอาไว้แล้วอุ้มเธอขึ้นข้างบนทันที“ไม่เอานะคะ” แคทเธอรีนกรีดร้องด้วยความเขินอาย หญิง
ฌอนเหยียบหน้าอกของวิลลี่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม “หลัง ๆ มานี้ แกมีอิทธิพลในเมลเบิร์นมากนักเหรอ? แกกับรสนิยมแปลก ๆ ของแก กล้าดียังไงมาสร้างปัญหาในเมลเบิร์น? แกไม่สนใจชื่อเสียงของแกเอง แต่ตระกูลฮิลล์สนใจ แกทำตัวเหมาะสมกับการเป็นนายของตระกูลฮิลล์แล้วจริง ๆ เหรอ?”“พี่ฌอน ผมผิดไปแล้ว ผมจะไม่ทำอีกแล้ว” วิลลี่อ้อนวอนเขาด้วยความกลัว“ไม่ ฉันคิดว่าแกชักเอาใหญ่เกินไปแล้ว แกกล้าแม้กระทั่งทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักเกือบต้องบุบสลาย” ฌอนถากถางวิลลี่นิ่งอึ้งไป “รีเบคก้าเป็นผู้หญิงของพี่เหรอ?”“ฉันคงไม่ไปสนใจผู้หญิงพรรค์นั้นหรอก” ฌอนค่อย ๆ ลดตัวก้มลง จู่ ๆ แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นเมื่อคิดขึ้นได้ วิลลี่ก็ถามอย่างไม่อยากเชื่อ “พี่กำลังหมายถึง… แคทเธอรีน… เหรอ?”“ยังดีที่แกจำเธอได้ ฉันแค่ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองรังแกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หลังจากที่ฉันจัดการกับแกไปแล้วก็แค่นั้น” ฌอนยืนขึ้นเต็มความสูงวิลลี่รู้วิธีที่ฌอนจะใช้เป็นอย่างดี ร่างของเขาเกร็งด้วยความกลัว เขาคลานขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แล้วคุกเข่าลงบนพื้นพลางก้มหัวอ้อนวอนฌอน “ขอโทษครับ พี่ฌอน! ผมไม่ทราบจริง ๆ มันเป็นความผิดของผมเอง ผมมันต
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก