ท่าทางของแลร์รี่เต็มไปด้วยความหยาบคาย “ถ้าประธานโจนส์ไม่ไว้วางใจความสามารถของผม คุณจะไล่ผมออกก็ได้”เขาจับจ้องไปที่แคทเธอรีนเมื่อเขาพูดจบ เขาไม่เชื่อว่าเธอจะกล้าทำแบบนั้น เพราะไม่อย่างนั้นคณะกรรมการบริหารของบริษัทจะต้องไม่เอาเธอไว้แน่“จะทำแบบนั้นได้ยังไงคะ? ผู้จัดการแชปลินช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทตั้งมากมาย แน่นอนค่ะว่าฉันเชื่อใจคุณ” แคทเธอรีนยิ้มออกมาทันที “การประชุมนี้จะถูกส่งให้คุณเพื่อสรุปค่ะ”หลังจากที่เธอพูดจบแล้วจึงเดินจากไปแลร์รี่มองเธออย่างดูถูกเหยียดหยาม เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน? เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนเธอทว่า หลังจากที่แคทเธอรีนเพิ่งออกไป จู่ ๆ ภรรยาของเขาก็บุกเข้ามาตบหน้าเขา“แลร์รี่ แชปลิน ไอ้สารเลว! แกกล้าดียังไงถึงแอบไปมีเมียน้อย?”“ถ้าตอนนั้นฉันไม่แต่งงานกับแก แกจะได้เข้ามาในฮัดสันไหม ห๊ะ?”“ตอนนี้แกมาทำท่าวางอำนาจบาตรใหญ่ แกคิดว่าฉันแก่มากแล้วไม่เร้าใจใช่ไหม? ฉันจะเอาเลือดหัวแกออก”“...”...ข่าวเรื่องความโกลาหลที่เกิดขึ้นในห้องประชุมแพร่กระจายไปทั่วทั้งบริษัทอย่างรวดเร็วเคซี่หัวเราะออกมาตอนที่กำลังรายงานกับแคทเธอรีน “คุณไม่เห็นว่าหน้าของผู้จัดก
“ไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่เธออยากจะทำมัน มีอีกเรื่องหนึ่ง รีเบคก้า โจนส์ที่ตอนนี้อยู่ในคุก ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะ ว่าเธอได้รับการดูแลอย่างดี”ดวงตาของฌอนฉายแววเย็นชาออกมาความเจ็บปวดทุกข์ทรมานทั้งหมด ที่รีเบคก้าเคยทำไว้กับแคทเธอรีน มันจะต้องย้อนกลับไปสนองเธอในคุก...วันต่อมา ข่าวคาวของผู้จัดการของฮัดสันแพร่กระจายไปทั่วสาขาแลร์รี่ แชปลินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชื่อเสียงของเขาถูกทำลายจนย่อยยับหมดแล้วภาพที่เขากำลังกกกอดกับเมียน้อยในที่สาธารณะแพร่กระจายไปทั่ว อีกทั้งวีดิโอที่เขาตบตีภรรยาก็ถูกส่งต่อ ๆ ไปด้วยเช่นกันความเห็นนับหมื่นในโลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์เขาในทุก ๆ วันในห้องทำงานของประธานบริษัท ผู้จัดการแชปลินโวยวายด้วยความเดือดดาล และชี้หน้าของแคทเธอรีน “แกเป็นคนทำเรื่องนี้ใช่ไหม? แกเป็นคนปล่อยภาพวีดิโอในห้องประชุมใช่ไหม?”“ดิฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่” แคทเธอรีนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอมีท่าทางเสียใจ “ผู้จัดการแชปลิน ดิฉันคิดไม่ถึงเลย ว่าคุณจะเป็นผู้ชายแบบนั้น คุณทำให้เราผิดหวังมากไม่พอ นี่คุณยังทำลายชื่อเสียงบริษัทของเราอีกด้วย” “กล้าดียังไงมาพูดแบบนั้น นังเพศยา?!
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ รองผู้จัดการวูล์ฟได้ทำการจัดระบบในฮัดสันอย่างรวดเร็ว เขาไล่ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่สนับสนุนแคทเธอรีนออกส่วนรีเบคก้านั้น ก็ถูกไล่ออกเช่นกันทว่าเธอก็ไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่บริษัทแต่อย่างใดตอนที่เธออยู่ในสถานกักกัน พวกนักโทษทุบตีเธอ และสาดน้ำเย็นใส่เธอทุกวัน ด้วยเหตุนี้ ผิวของเธอจึงได้รับความบอบช้ำทั่วทั้งร่างกายหลังจากที่รีเบคก้าต้องทนทุกข์ทรมานอยู่เจ็ดถึงแปดวัน เจฟฟี่ก็สามารถวิ่งเต้นช่วยเธอออกมาจากสถานกักกันได้ โดยใช้เงินไปกว่าสิบล้านดอลล่าร์เธอถูกอุ้มออกมาเมื่อเห็นถึงใบหน้าบวมเบ่งของเธอ แซลลี่กอดเธอพลางร้องไห้ออกมาด้วยความขมขื่น“คนดีของแม่ เกิดอะไรขึ้นกับลูก? ใครทำกับลูกแบบนี้? แม่จะไม่ปล่อยให้คนที่ทำลอยนวลไป”“คุณพ่อ คุณแม่ ต้องช่วยแก้แค้นแทนหนู หนูเจ็บปวดมากจริง ๆ … ฮึก ฮึก”ใบหน้าของรีเบคก้าเจ็บระบมมากจนเธอไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นได้ด้วยซ้ำใบหน้าบวมเป่งของรีเบคก้าทำให้สตีเฟ่นรู้สึกรังเกียจ ผู้หญิงคนนี้ห่างไกลจากความเป็นหน้าเป็นตามากขึ้นไปทุกที“อย่างกังวลไปเลยลูกคนดี พ่อของลูกจะต้องลากตัวคนที่ทำร้ายลูกมาลงโทษอย่างสาสม”เจฟฟี่รู้สึกโกรธมาก เมื
“ไม่ยากหรอกที่จะแย่งอำนาจกลับคืนมา” สตีเฟ่นพูดขึ้นทันทีการตอบกลับนั้น ทำให้เจฟฟี่และครอบครัวของเขาหันกลับมามองด้วยความสนใจ“สตีเฟ่นรีบบอกเราเร็วเข้า เราเป็นครอบครัวเดียวกับนะคะ” รีเบคก้าเร่งเร้า “ตอนที่แคทเธอรีนสละตำแหน่ง ฉันจะแต่งงานกับคุณ”สตีเฟ่นหรี่ตาลง “วิลลี่ ฮิลล์ กำลังจะมาที่เมลเบิร์นเพื่อตรวจดูบริษัท ตราบใดที่คุณทำให้เขาพอใจได้ ผู้บริหารระดับสูงและพวกกรรมการจะเข้าข้างคุณ”ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดเป็นประกายเจฟฟี่ตัวสั่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ตระกูลฮิลล์เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมลเบิร์น ถึงวิลลี่จะไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลฮิลล์ แต่เขาจะทำให้สถานภาพของเราเพิ่มมากขึ้น ถ้าเราตีสนิทพวกฮิลล์เอาไว้ ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะแคทเธอรีนอีกแล้ว”“ฟังดูเข้าท่านี่ครับ” สตีเฟ่นพยักหน้ารับ “เพราะผู้ช่วยของวิลลี่สนิทกับครอบครัวของผม ระหว่างที่ผมดูแลเขา ผมจะแนะนำพวกคุณให้เขารู้จัก จะว่าไป พวกคุณต้องเตรียมของขวัญเพื่อต้อนรับตระกูลฮิลล์ วิลลี่ดูเหมือนจะชอบหยกนะครับ”“ขอบคุณนะสตีเฟ่น ฉันเสียใจที่ไม่เจอคุณให้เร็วกว่านี้ คุณเป็นที่พึ่งให้ฉันได้จริง ๆ” รีเบคก้าจ้องมองเ
ฌอนยังคงนิ่งเงียบ เขาเลิกคิ้วขึ้นขณะที่กำลังมองไปยังแคทเธอรีน เขาสงสัยว่าเธอจะแนะนำเขากับผู้ชายคนนี้อย่างไร“แฟนดิฉันเองค่ะ” แคทเธอรีนตอบไม่อ้อมค้อม“ดิฉันทราบเจตนาของคุณปู่คุณดีนะคะ คุณชายออร์ไวน์ แต่ดิฉันรักคนอื่นไปแล้ว ช่วยบอกผู้อำนวยการด้วยนะคะ ว่าดิฉันไม่ว่าง ดิฉันแทบไม่มีเวลาอยู่กับคุณชายอย่างคุณ”คุณชายเออร์ไวน์ยังไม่ยอมแพ้ เขาพูดขึ้น “คุณเป็นคนฉลาด คุณคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนดีกว่า ถ้าคุณแต่งงานเข้าตระกูลของผู้อำนวยการบริษัท น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับเราทั้งคู่มากกว่านะครับ ในความคิดของผม ผมคิดว่าแฟนของคุณไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา เขาไม่คู่ควรกับคุณเลยแม้แต่น้อย”ใบหน้าของฌอนเคร่งขรึม ขณะที่ริมฝีปากของเอลกระตุกขึ้นอย่างแรง เอลมองไปที่คุณชายเออร์ไวน์ราวกับว่าเขาเป็นคนไม่ปกติ“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่ดิฉันรักเขาค่ะ ดิฉันตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น และเขาเป็นคนที่คู่ควรกับความรักของดิฉัน ตอนนี้ช่วยกลับไปสักที” แคทเธอรีนไล่ส่งเขาด้วยท่าทางรำคาญ“คุณไม่รู้หรอกว่าจริง ๆ แล้วอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับคุณ” คุณชายเออร์ไวน์มองไปยังแคทเธอรีน ก่อนที่เขาจะกลับไปแคทเธอรีนถอนหายใจ เธอหัน
“ฉันไม่สนใจ คุณต้องไปจองที่นั่งตรงนั้นให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธ และไม่สนใจคุณ” แคทเธอรีนทำใบหน้าบูดบึ้งท่าทางไม่มีเหตุผลที่เธอแสดงออกมาทำให้ฌอนพูดไม่ออกจากนั้น เขาจึงเดินไปตรงนั้นแล้วนั่งลงอย่างไม่พอใจสิบนาทีต่อมา แคทเธอรีนก็ถือถังใส่อาหารชุดครอบครัว ซึ่งรวมถึงมันฝรั่งทอด เบอร์เกอร์ไก่รสเผ็ด และไอศกรีม“ลองชิมเบอร์เกอร์ไก่อันนี้ดูสิคะ อร่อยดีนะคะ” แคทเธอรีนแนะนำให้เขาอย่างกระตือรือร้น“ผมจะเอาอะไรให้ดู” ฌอนหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วเปิดข่าวเชิงลบเกี่ยวกับเคเอฟซีจากนั้นส่งให้เธอดูหลังจากชำเลืองมองเนื้อหาภาพที่มีรูปไก่มีปีกสองสามคู่ และมีขามากกว่าสิบขา แคทเธอรีนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกขยะแขยง “ฌอน อย่าทำลายบรรยากาศได้ไหมคะ?”“อาหารพวกนี้มีแต่ส่วนผสมที่ไม่ดีต่อร่างกาย หลังจากวันนี้ไป คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหารแบบนี้อีก คุณไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ” ฌอนไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อยแคทเธอรีนไม่ได้สนใจเขา เธอก้มลงแทะปีกไก่ เมื่อทานไปได้สองชิ้น เธอรู้สึกว่ารสชาติไม่อร่อย เธอจึงยัดมันเข้าไปในปากของฌอนแทนจู่ ๆ ในปากของฌอนก็เต็มไปด้วยอาหาร ฌอนส่งสายตาดุมองเธอแคทเธอรีนทำเหมือนตัวเองไม่ได้ท
ลมหายใจของฌอนสะดุด เขาเลิกคิ้วขึ้น “นี่คุณกำลังพยายามทำให้ผมลืมด้วยวิธีนี้เหรอ หื้ม? คุณรู้ไหมว่าคืนนี้เป็นครั้งแรกของผมที่เข้าไปทานอาหารในเคเอฟซีน่ะ?”แคทเธอรีนรู้สึกว่าเขากำลังอ่อยเธอ บางที ผู้หญิงก็มักจะอ่อนไหวง่าย เมื่อเธอรู้สึกว่าฌอนทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอ เธอก็อยากจะเติมความหวานราวกับน้ำผึ้งให้กับเขา“แล้วนี่ล่ะคะ? ทำให้คุณพอใจได้หรือเปล่า?” หญิงสาวกัดริมฝีปากอมชมพูของเธอ แล้วเธอจึงโอบรอบคอของเขาเอาไว้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ พลางจูบเขาอีกครั้งคราวนี้ฌอนประคองศีรษะของเธอเอาไว้แล้วจุมพิตเธอให้นานขึ้น เมื่อเธอเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก เขาจึงผละออกจากเธอ...ในห้องส่วนตัวอันหรูหราสตีเฟ่นและเจเน็ตพยายามสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มที่นั่งอยู่กึ่งกลางโซฟาชายคนนั้นคือ วิลลี่ ที่มาจากแคนเบอร์ร่าตระกูลฮิลล์เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมลเบิร์น แม้แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลฮิลล์ยังได้รับความนับถือเป็นอย่างมากในประเทศนี้“คุณชายฮิลล์ ผมขอแนะนำแฟนของผม รีเบคก้า”สตีเฟ่นมาพร้อมกับรีเบคก้า “คุณพ่อของเธอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของฮัดสันครับ เธอนำของขวัญมามอบให้แก่คุณในคืนนี้ด้วย”คืนนี
หลังจากที่ผู้คนออกไปกันหมดแล้ว เจเน็ตก็พูดกับสตีเฟ่นด้วยความโกรธ “นี่พี่เสียสติไปแล้วหรือเปล่า? ทำไมพี่ไม่แนะนำฉันกับวิลลี่? ฉันจะทำประโยชน์ให้กับครอบครัวของเราได้แน่นอนถ้าฉันได้เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลฮิลล์”“วิลลี่ไม่สนใจเธอหรอก” สตีเฟ่นตอบอย่างเย็นชาขณะที่จุดบุหรี่ขึ้นสูบเจเน็ตรู้สึกไม่พอใจ “พี่หมายความว่ายังไง? ในสายตาของพี่ ฉันดูดีสู้รีเบคก้าไม่ได้หรือไง? อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เติบโตที่บ้านนอกคอกนานะ”“พี่ทำแบบนี้เพื่อเธอนะ วิลลี่มีนิสัยไม่ดีที่ชอบนอนกับแฟนหรือภรรยาของคนอื่น”เจเน็ตรู้สึกตกใจสตีเฟ่นพูดเสริม “เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่ ถ้ามีทางลัดสู่ความสำเร็จที่ดีกว่า พี่จะแนะนำให้เธอก่อนแน่นอน แต่วิลลี่เป็นพวกวิตถาร แม้จะเป็นผู้หญิงเขาก็ฆ่าได้”“จริงเหรอพี่?” เจเน็ตสะดุ้งสุดตัว“จริงซะยิ่งกว่าจริง ถ้าไม่ใช่ญาติของเราทำงานเป็นผู้ช่วยของเขา พี่คงไม่รู้เรื่องนี้” สตีเฟ่นยืนขึ้นช้า ๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเธอถึงคิดว่าพี่ถึงได้เสนอโอกาสดี ๆ แบบนี้ให้รีเบคก้าล่ะ? เธอไม่ใช่คนดีเหมือนกัน”“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป วิลลี่จะขอบคุณพี่ที่ให้โอกาสเขาได้ใกล้ชิดกับรีเบคก้า ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูล
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก