Share

บทที่ 6

Author: ACHICHI
last update Last Updated: 2025-03-12 08:50:39

คุณคนโปรดสุดที่ร้าย

ตอนที่ 5

ตัดไฟต้นลม

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ริษาไม่ใช่คนขี้อาย อีกทั้งเป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่วันนี้ความมั่นใจที่มีราวกับจะลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย กว่าค่อนชั่วโมงที่ผ่านมาเธอหมดเวลาไปกับการพูดจาฉอเลาะ ปั้นยิ้มปากแทบเป็นตะคริวกับผู้หลักผู้ใหญ่ ซ้ำร้ายยังมีสายตาของคนบางคนจดจ้องโดยเลี่ยงหลีกไม่ได้นี่ก็อีก

เฮงซวย! เฮงซวยจริง ๆ

หลังพิธีทางการสิ้นสุดแขกส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับออกไปแต่ผู้จัดการของเธอก็ยังไม่มา ริษาจำใจต้องฉายเดี่ยวเดินหน้าเข้าพูดคุยโดยอาศัยตอนที่เป้าหมายสนทนาอยู่กับคนที่เธอเองก็รู้จัก ทว่าก็น่าหงุดหงิดที่ทุกคนต่างพากันดึงภูริให้เข้าร่วมวงแทบจะทุกครั้งไป

แม้เขาจะเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงคนเบื้องหลัง ใครต่อใครต่างก็อยากทำความรู้จัก แต่ในสายตาเธอประธานหนุ่มดูจะอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่าทางของเขาเฉยเมยต่อบรรยากาศรอบตัว ด้านหลังมีลูกน้องคนหนึ่งยืนกุมเป้าในทีท่าสงบ ส่วนเจ้านายก็ดูจะเบื่อหน่ายกับการอยู่ท่ามกลางฝูงชน

กระนั้นภูริคงเป็นปัญหาแค่กับริษาคนเดียว ไม่ว่าดาราสาวจะพยายามวางตัวให้เป็นธรรมชาติเพียงใด ปั้นแต่งคำพูดสวยหรูเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์สักเท่าไร แต่มีคนคนเดิมยืนจ้องทุกวงสนทนาแบบนี้จะเอาอะไรมาเนียน ไม่ว่าจะขยับตัวคุยกับใคร ก็จะได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของอดีตคนรักร่วมวงอยู่ด้วยทุกที

แม้อีกฝ่ายจะไม่เผยอารมณ์ผ่านสีหน้า กระทั่งไม่เอ่ยขัดตอนที่ริษาพูดประโยคซ้ำ ๆ เดิม ๆ กับทุกคนราวกับท่องจำมาเป็นอย่างดี แต่เขาคงฉลาดพอที่จะตีความ เวลาเดินหน้าผ่านไปนานเท่าไร ริษาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดทรมานจนอยากจะอาเจียนให้รู้แล้วรู้รอด

“นี่คุณภู รู้จักกันไว้สิริษา”

“ค่ะ”

เป็นอีกครั้งที่ดาราสาวจำใจต้องตีหน้าเสแสร้งสวนทางกับอารมณ์ที่แท้จริง อดีตคนรักก็ดูจะอ่านอาการเธอออกแต่ก็ยังผงกศีรษะรับพอเป็นพิธีเหมือนที่ทำมาตลอดชั่วโมง

“คุณภูเคยเจอน้องริษามาก่อนไหมคะ?” ศรณีย์ ผู้จัดมากฝีมือตั้งคำถาม

“เจอกันแล้วครับ” เสียงทุ้มน่าฟังของคนตอบช่างระคายหูริษาเหลือเกิน จะไม่เจอได้อย่างไร เธอคุยกับใครก็จะมีเขายืนร่วมวงอยู่ด้วยทุกครั้งไป

“เจอแล้วค่ะ คุณภูรู้จักคนเยอะเลยนะคะ ริษาคุยกับใครทุกคนก็รู้จักคุณภูทั้งนั้น”

คิ้วของคนถูกพาดพิงกระตุกเล็ก ๆ ก่อนมุมปากได้รูปจะเผยยิ้มเย็นชา “ครับ คุณริษาก็รู้จักคนเยอะเหมือนกัน”

ริษานึกอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลเมื่อได้เจอเข้ากับสายตาที่ดูจะรู้เท่าทันไปหมดทุกอย่าง เป็นเธอเองที่ต้องเบือนหน้าหนี ยกแขนขึ้นกอดอกด้วยความหงุดหงิดใจ

“รายนี้นานทีถึงจะตอบรับคำเชิญมาออกงาน ใครก็อยากทำความรู้จักทั้งนั้น นอกจากจะเก่งแล้วยังหล่ออีกด้วย” เสียงบุคคลที่สามยังคงดัง ศรณีย์หันหาริษาราวกับจะขอความเห็นที่เธอไม่ได้อยากจะตอบนัก แต่ก็ทำได้เพียงฉีกยิ้มประจบ

“เห็นด้วยค่ะ คุณภูดูดีมาก” เจ้าของเสียงรื่นหูจงใจประจบประแจงคนหนึ่ง ทว่าก็จิกกัดอีกคนไปพร้อมกัน หากจะมีใครอ่านแววตากระด้างออกคงไม่พ้นร่างสูงตรงหน้า

ภูริไม่ปฏิเสธคำชมเชย ทั้งยังยิ้มรับไม่คิดถ่อมตัว ท่าทางของเขาทำให้ริษานึกหมั่นไส้อยู่ลึก ๆ ไม่ใช่ว่าไม่สามารถยินดีกับความก้าวหน้าของคนอื่น แต่ที่กำลังคันยุบยิบใจอยู่ในขณะนี้เป็นเพราะเขาเป็นแฟนเก่า แฟนเก่าที่เคยทิ้งเธอ

ความสัมพันธ์ที่ไม่ควรโคจรกลับมาเจอกันอีก แต่ต่างฝ่ายต่างต้องวางตัวเป็นปกติประหนึ่งไม่เคยมีอดีตร่วมกันช่างเป็นสถานการณ์พิลึกพิลั่นสิ้นดี

“ต้องขอบคุณคุณภูมากนะคะที่ตอบรับโปรเจกต์ใหม่ของทางเรา ไว้คุณภูว่างวันไหนไปออกรอบกันสักทีดีไหมคะ?”

“ผมจะให้เลขาแจ้งวันว่างอีกทีนะครับ” ภูริยิ้มรับคำเชิญของศรณีย์ แต่ยิ้มของเขากลับให้ความรู้สึกเข้าถึงยาก

ริษาเพิ่งมีโอกาสลอบสังเกตอดีตคนรักในเวอร์ชันที่เธอไม่เคยได้รู้จัก เวลานี้ภูริดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ท่าทางก็เปลี่ยนไปกว่าแต่ก่อนหลายส่วน ชุดสูทที่สวมใส่แค่มองด้วยตาก็รู้ว่าผ่านการตัดเย็บเป็นอย่างดี รองเท้าหนังที่เขาสวมถูกขัดจนเงาวับ เรือนผมซึ่งถูกจัดแต่งมีความเป็นทางการ ทั้งยังนาฬิกาบนข้อมือ ริษาเดาว่าคงไม่ต่ำกว่าเจ็ดหลักเลยทีเดียว

เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเฉพาะภาพลักษณ์ภายนอก แต่รวมถึงการแสดงออกที่ราวกับจะมีกำแพงความเป็นส่วนตัวสูงลิบ แม้จะหาข้อมูลส่วนตัวเขามาแล้ว แต่เจอหน้าอีกทีริษาก็ยังคงประหลาดใจในการเปลี่ยนแปลงแทบไม่เหลือเค้าเดิม

พี่ภูในอดีตหายไปไหน ผู้ชายท่าทางถือดีคนนี้กลืนกินเขาเข้าไปหรืออย่างไร?

“แล้วนักแสดงที่ส่งให้ดูชอบคนไหนมากกว่ากันคะ?”

น่าเบื่อ…

น่าเบื่อจริง ๆ ที่ริษาต้องยืนโง่ ๆ ฟังการสนทนาของคนสองคนโดยที่เธอไม่สามารถมีส่วนร่วม ทว่าในจังหวะที่ตั้งท่าจะขอตัวผละจาก เสียงของภูริก็ทำให้ดาราสาวถึงกับหูผึ่งหันมอง

“คุณริษาก็ดูเข้ากับบทดีนะครับ”

“น้องริษาเหรอคะ?” ผู้จัดมือทองหันหาคนซึ่งถูกอ้างถึงทันที

พร้อมกันภูริก็เอ่ยต่อโดยไม่มีทีท่าติดขัด ทั้งแววตาเรียบเฉยยังคงเดิม “ผมได้อ่านบทคร่าว ๆ คิดว่าน่าจะเหมาะ รู้มาว่าคุณริษาว่ายน้ำเก่งทีเดียว”

“จริงเหรอจ๊ะ?” ศรณีย์แสดงสีหน้าประหลาดใจในเรื่องที่สองหนุ่มสาวดูจะรู้จักกันมากกว่าเพียงผิวเผิน

“ระ… ริษาพอว่ายน้ำได้ค่ะ แต่ไม่ได้เก่งอะไร” เจ้าของเสียงกระท่อนกระแท่นให้การตอบกลับทั้งแววตาสับสนงุนงงไม่แพ้กัน

ริษาไม่คิดว่าภูริจะเสนอชื่อเธอซึ่งหน้า ตลอดชั่วโมงที่ผ่านมาเขาไม่แม้แต่จะเปิดปากคุย ซ้ำยังวางท่าเฉยชาประหนึ่งคนไม่เคยรู้จักเกี่ยวดอง ทว่าตอนนี้กลับหยิบยื่นโอกาสให้เธอ?

แต่แล้วเสียงของศรณีย์ก็ดึงสติกระเจิดกระเจิงของดาราสาวให้กลับคืน “เป็นริษาก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ”

“ครับ น่าสนใจ” คนเสนอพยักหน้ารับ

ท่าทางของภูริผ่อนคลายทั้งสีหน้าและอารมณ์ ทว่ากลับทำให้ริษารู้สึกอึดอัดใกล้ขาดอากาศหายใจเต็มที คำถามมากมายเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่กระแสความคิด ไม่แน่ใจนักว่าเป็นการคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือไม่ แต่อย่างไรก็อดคับข้องใจไม่ได้ ภูริทำแบบนี้มันมีความหมายว่าอย่างไร?

“ดูเหมือนว่าน้องริษาจะได้งานเพิ่มอีกงานแล้วสิเนี่ย” เสียงของศรณีย์ยังคงพูดต่อ และคำพูดดังกล่าวก็เรียกความสนใจของคนฟังได้เป็นอย่างดี

พลันรอยยิ้มยินดีก็ปรากฏบนใบหน้าของคนที่ร้อนทั้งงาน ร้อนทั้งเงิน หากสปอนเซอร์มีการเอ่ยปาก แน่นอนว่าชื่อที่ถูกเสนอจะได้รับการพิจารณาก่อนคนอื่น และมันก็ดูจะเป็นเช่นนั้น…

แม้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่เพราะเป็นโอกาสที่มีคนหยิบยื่นให้ ริษาก็จำใจต้องเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะค้อมศีรษะด้วยความสุภาพเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทเมื่อยังอยู่ในสายตาบุคคลที่สามอย่างศรณีย์

“ขอบคุณคุณภูมากค่ะ”

“ยินดีครับ” ภูริตอบรับในสีหน้าขรึมสงบ

แม้แววตาเรียบเฉยของเขาจะไม่บ่งบอกถึงความคิดอ่าน หากริษาก็รู้สึกแห้งผากไปทั้งลำคอ เป็นเธอเองที่ต้องหันมองไปอีกทาง ทั้งความอึดอัดสับสนแทรกเข้าเกาะกุมจิตใจ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

เรือนร่างผอมบางบนส้นสูงราคาแพงเร่งร้อนเดินเข้าหลบมุมที่ด้านนอกของห้องซึ่งใช้จัดงาน ริษาตั้งใจออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากต้องอดทนกับสถานการณ์ด้านในต่อเนื่องยาวนานนับชั่วโมง รวมถึงต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อพูดคุยธุระส่วนตัวทางโทรศัพท์ด้วยอีกประการ

สายตาระแวดระวังหันมองรอบตัวก่อนจะกรอกเสียงใส่ปลายสายเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

“สวัสดีค่ะพี่แจ้”

(น้องริษาพี่เช็กกระเป๋าที่เธอส่งมาให้เสร็จพอดี)

“เป็นไงบ้างคะ? ได้เท่าไร?”

(ใบนี้ของเธอมันมีรอยเยอะนิดนึง…)

“ไม่น่าจะเยอะนะคะ” ดาราสาวกระซิบเสียงเถียง “ริษาแทบไม่ได้ใช้เลยด้วยซ้ำ”

(แหม คนใช้อาจจะมองไม่เห็นก็ได้นี่จ๊ะ)

ริษากลอกตามองบนกับคำตอบที่ได้ยิน รู้แน่ว่าปลายสายต้องการกดราคา “แล้วพี่แจ้ให้ได้เท่าไรคะ?”

(เห็นว่าเป็นคนกันเอง พี่ให้เธอพิเศษที่แสนเก้าแล้วกัน)

“อะไรนะคะ?” ตากลมเบิกโต ทั้งยังเผลอส่งเสียงดังเมื่อราคาที่ได้นั้นต่างจากที่คุยกันไว้ก่อนเธอจะส่งไปตรวจสภาพ “ทำไมหักเยอะแบบนั้นล่ะคะพี่แจ้!”

(แหม ก็รอยมันเยอะนี่ แถมพักหลังคนก็ปล่อยรุ่นนี้เยอะ พี่เห็นว่าเป็นเธอเลยรับไว้นะเนี่ย)

“แต่…”

(หรือจะวางขายไว้ก่อน แบบนั้นก็จะได้ราคาสูงขึ้น)

“พี่แจ้ก็รู้ว่าริษาร้อนเงิน”

(ก็มีแค่สองอย่างแหละ ถ้าจะขายเลยพี่ก็ให้ได้ราคานี้ แต่ถ้าจะวางไว้ก่อนเธอก็จะได้เยอะกว่า)

ปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ริษารู้ว่าหากใช้วิธีฝากขายก็จะได้ราคาดีกว่า แต่ค่าใช้จ่ายของเธอมันรอได้ที่ไหนกัน

“ขออีกหน่อยไม่ได้เหรอพี่แจ้”

(นี่ก็ให้ราคาดีกว่าคนอื่นแล้วนะเธอ หรือจะลองเอาไปขายเองก่อนไหมล่ะ?)

“พี่แจ้ก็รู้ว่าริษาต้องคีปลุค” เสียงกระท่อนกระแท่นตอบกลับ จะให้เธอเร่ขายของไปทั่วได้อย่างไรในเมื่อทุกวันนี้เธอยังต้องแอ๊บว่ารวยเหมือนเมื่อก่อนตามคำแนะนำจากผู้ใหญ่ในวงการ

ทว่าปลายสายก็ถอนหายใจเสียงดัง ตอบกลับด้วยเสียงอ่อนอกอ่อนใจพอกัน (พี่ให้ได้เท่านี้แหละ)

“ขอริษาอีกนิดสิพี่แจ้~ ริษาก็ขายกับพี่แค่ร้านเดียวเนี่ย” แม้จะพยายามอ้อนเสียงสู้ แต่อีกฝ่ายก็ยังยืนยันในคำเดิม

(ได้เท่านี้จ้ะ แต่ถ้ามีกระเป๋าเข้าใหม่พี่จะส่งให้เธอดูคนแรกเลยเป็นไง?)

“แต่พี่แจ้…”

ริษายังคงพยายามต่อรองราคานานหลายนาที ทว่าคำตอบก็ไม่ต่างไปจากเดิม สุดท้ายคนร้อนเงินจึงทำได้เพียงหลับหูหลับตาพยักหน้าตกลง

“ก็ได้ค่ะพี่แจ้ บัญชีเดิมนะคะ ริษารีบใช้เงินนิดนึงรบกวนด้วยค่ะ”

(เดี๋ยวพี่โอนให้เธอเลยจ้ะ เท่านี้นะ)

“ขอบคุณมากค่ะ”

(จ้า)

ปลายสายวางไปแล้ว ร่างระหงเพรียวบางก็ก้มหน้าก้มตากดเครื่องคิดเลขคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทว่าจังหวะที่หมุนตัวกลับร่างกายก็ปะทะชนเข้ากับใครคนหนึ่งโดยไม่ทันตั้งตัว

“ขอโทษค่ะ…” ท้ายเสียงของดาราสาวขาดหาย มือซึ่งกำลังกดเครื่องคิดเลขคำนวณพลันชะงักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือใคร

ริษาตกใจจนเกือบปล่อยสมาร์ตโฟนร่วงจากมือ หากก็ได้ความมีน้ำใจของคนตรงหน้าฉวยคว้าไว้ได้ทัน ก่อนเขาจะทำการส่งคืน

ภูริมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

โลกทั้งใบคล้ายจะหยุดนิ่งประหนึ่งซีนโรแมนติกในซีรีส์เกาหลีที่พระนางสบตากัน แม้กลิ่นหอมสะอาดของกายสูงกำยำรวมถึงใบหน้าคมคายจะเทียบเคียงได้กับพระเอกซีรีส์ ทว่าดาราสาวกลับรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ที่คอ เธอเครียดจนอยากอาเจียนมากกว่าที่จู่ ๆ อดีตคนรักก็โผล่มายืนตรงนี้

ริษาไม่รู้ว่าเขาได้ยินอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้เขาได้ยินสถานการณ์ส่วนตัวที่ไม่ต้องสาธยายใครก็คงอ่านออกว่ากำลังร้อนเงิน

หลังจากสติกลับมาร่างบางก็ถอยห่างจากความชิดใกล้ รับเอาสมาร์ตโฟนที่จอยังคงค้างอยู่ที่หน้าเครื่องคิดเลขกลับคืน ก่อนจะตั้งท่าผละหนีทันที

“ขอโทษค่ะริษาเดินไม่ระวังเอง ขอตัวก่อนนะคะ”

“เดี๋ยว” แต่แล้วภูริกลับถือวิสาสะรั้งแขนบอบบางไว้

“มีอะไรคะ?” ริษาไม่สามารถตีหน้าเสแสร้งได้อีกต่อไป ความร้อนรนกลัวว่าเขาจะได้ยินเรื่องส่วนตัวส่งผลให้พลั้งเผลอชักสีหน้าทำเสียงแข็ง “รบกวนปล่อยแขนริษาด้วยค่ะ”

“โทษที”

ภูริยอมละสัมผัสก็จริงอยู่ ทว่าเขาไม่คิดขยับถอยเปิดทาง

ริษาเดินซ้ายเขาก็ขยับตาม ขวาก็ยังตาม!

“ขอทางด้วยค่ะ”

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เขาทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยิน

“ต้องขอโทษท่านประธานด้วยนะคะ แต่ริษาไม่สะดวกค่ะ”

เสียงกระด้างจงใจเน้นย้ำคำว่า ท่านประธาน เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างเขาและเธอ เหตุการณ์ที่ด้านในเมื่อชั่วโมงก่อนทำให้ริษาอยากขีดเส้นให้ชัด แม้พยายามจะฝืนทนเพื่องานและเงิน แต่ตอนนี้อีกความรู้สึกดันมีมากกว่า เธอรู้สึกอับอาย…

“เรื่องงานริษาต้องขอบคุณในความเมตตามากจริง ๆ แต่จะให้คุยนอกรอบคิดว่าคงไม่สะดวกค่ะ”

ดาราสาวจงใจเผยให้ได้เห็นถึงความยโสชนิดไม่คิดปิดบัง แต่ภูริก็ราวกับจะไม่แยแสต่อท่าทีที่ว่า เขาดูจะพอใจที่ได้เห็นการแสดงออกตรงไปตรงมาด้วยซ้ำไป

“คุณคงไม่ได้พูดจาแบบนี้กับคนอื่นบ่อย ๆ หรอกใช่ไหม?”

เขาตั้งคำถาม… คำถามที่ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าชา

หากเป็นเมื่อก่อนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าริษาเป็นคนเอาแต่ใจ หยิ่งยโส และกระด้างในบางครั้งกับบางคน ทว่าเมื่อโตขึ้นนิสัยแย่ ๆ เหล่านั้นก็ถูกขจัดออกไปแทบไม่เหลือ แต่อดีตคนรักอาจมีภาพจำของเธอในแง่นั้นอยู่เต็มซีรีบรัมของสมองกระมัง

“ที่นี่ก็คนเยอะดี” ราวกับภูริจะเล่นเกมจิตวิทยา สายตาซึ่งเลื่อนมองโดยรอบนั้นสื่อความหมายโดยนัย

ที่นี่เป็นที่สาธารณะ มีช่างภาพรวมถึงนักข่าวบันเทิงมากมาย ส่งผลให้เจ้าของท่าทางกร้าวแข็งจำต้องยอมอ่อนข้อลง ริษาตัดปัญหาด้วยการตั้งคำถามตามตรง

“ท่านประธานมีอะไรคะ?”

ภูริดูจะพอใจเมื่อได้อย่างใจต้องการ เขาหยิบยื่นบางอย่างส่งต่อให้เธอ “คราวก่อนคุณลืมเอานามบัตรผมไป”

“ไม่เป็นไรค่ะ ริษาคิดว่าไม่จำเป็น” ใบหน้าสวยเมินไม่สนใจ เธอไม่ได้ลืม แต่ไม่คิดจะข้องเกี่ยวกับเขาในภายภาคหน้าต่างหาก

“คุณแน่ใจใช่ไหม?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย สายตาราวกับจะรู้เท่าทันว่าริษานั้นน่าจะมีปัญหาทางการเงิน

ท่าทีของเขาทำให้ดาราสาวรู้สึกหน้าเสีย การพูดสายโทรศัพท์เมื่อครู่จะต้องตกอยู่ในการจับฟังของเขาอย่างแน่นอน จะไม่ให้อายได้อย่างไรในเมื่อคุณหนูริษาที่เคยชอปปิงเดือนละหลายแสนตอนนี้ตกต่ำถึงขั้นต้องเร่ขายของ ทั้งยังวิ่งวุ่นร้องของานจากคนอื่นไปทั่ว

แต่แม้จะอับอายเพียงใด ริษาก็จะไม่ให้เขารู้มากไปกว่านี้

อึดใจเดียวหลังจากผูกโยงเรื่องทั้งหมดในหัว ริมฝีปากอิ่มก็กระตุกยิ้มเย็นชา เธอคิดมาสักพักแล้วว่าการกระทำของอดีตคนรักอาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝง และบางทีเธออาจต้องพูดให้เขาเข้าใจ

“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้วนะคะ ดิฉันไม่ทราบคุณต้องการอะไร แต่ทำแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าไร” เครื่องหน้าสวยเฉี่ยวแสดงออกถึงความรู้สึกตามตรง

“ไม่เหมาะสม?” ทว่านัยน์ตาเข้มก็หรี่มองราวกับไม่เข้าใจ

“คุณพยายามทำอะไรก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

ภูริงงแต่ไม่แสดงออก เขายังคงนิ่งฟัง ด้วยอยากรู้ว่าอดีตคนคุ้นเคยจะพูดอะไร ถึงริษาเองก็หงุดหงิดเกินกว่าจะเก็บอารมณ์

“ที่คุณยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องงานโดยไม่จำเป็น ทั้งยังพยายามยื้อที่จะพูดคุยตั้งสองครั้งสองหน แบบนี้มันจะแปลเป็นอื่นได้อีกรึไงคะ?”

“คุณกำลังจะบอกว่าผมมีแผน?”

ภูริมีทีท่าเปลี่ยนไป อาการคล้ายจะปฏิเสธของเขาทำให้ริษาเริ่มไม่แน่ใจ แต่ถึงอย่างไรเธอก็พูดชัดขนาดนี้ พูดให้ชัดอีกนิดจะเป็นไรไป

“คุณคงไม่ได้อยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างเราหรอกใช่ไหมคะ?”

“…”

“คุณ…”

พลันเสียงของดาราสาวก็ติดขัดทั้งอย่างนั้น เมื่อได้เห็นสีหน้าไร้แววขบขัน หรือกระทั่งว่าเสียเชิงของอีกฝ่าย สายตาของภูรินั้นราวกับว่าเขากำลังโดนปรักปรำ

แต่แม้จะเสี่ยงขายหน้าเพียงใด ริษาก็ดึงดันที่จะพูดต่อ

“ก็ถ้าคุณไม่คิดอะไรแล้วมาวอแวริษาทำไม?”

“ผมคิดว่าคุณน่าจะกำลังเข้าใจผิดไปไกล”

“เข้าใจผิดยังไงไม่ทราบคะ?”

ประธานหนุ่มมีสีหน้าเรียบเฉย เขาให้คำตอบที่ทำเอาคนฟังถึงกับไปไม่เป็น…

“เห็นคุณริษาแนะนำตัวกับผู้ใหญ่หลายคน ผมคิดว่าเราก็คนเคยรู้จัก อาจจะช่วยเหลือในบางเรื่องที่คุณต้องการได้” เขาหรี่ตามอง ก่อนจะเมินไปอีกทาง “แต่เห็นได้ชัดว่ามีคนคิดเข้าข้างตัวเอง”

“ริษาไม่ได้… ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง” แม้อยากฉอดปากเถียงใจจะขาด แต่เสียงเจ้าของข้อสันนิษฐานกลับกระท่อนกระแท่นอย่างน่าขัน

“ถ้าจะพูดให้เคลียร์คือคุณเองก็ได้ประโยชน์ แน่นอนว่าทำธุรกิจผมเองก็ได้ผลประโยชน์ ไม่ทราบว่ามีอะไรที่ทำให้คุณคิดไปในแง่นั้นได้”

สายตาที่อดีตคนรักมองนั้นประหนึ่งจะเปิดเผยให้ได้เห็นถึงความว่างเปล่า ไร้อารมณ์ ไม่มีความนัยน์แอบแฝง

และความเฉยชาที่ว่า ก็เริ่มทำให้ริษารู้สึกขายหน้าในความมั่นใจเกินร้อยเกินล้านของตัวเอง เธอนึกอยากจะเขย่าตัวภูริแรง ๆ ง้างปากให้เขาคายความคิดอ่านในใจออกมาสักที ทว่าก็ทำได้เพียงเชิดหน้าตั้งคำถาม

“จะไม่ให้ริษาคิดแบบนั้นได้ไงคะ? จู่ ๆ คุณก็ให้งาน แถมยังเอาแต่มอง ไหนจะเดินตามนี่ก็อีก”

ภูริพยักหน้าช้า ๆ กับข้อกังขาที่ว่า ก่อนเขาจะให้คำตอบทีละข้อด้วยน้ำเสียงมั่นคงในอารมณ์

“ข้อแรก ผมไม่ได้ให้งานคุณแค่คนเดียว”

“…” ริษาที่กำลังจะตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติมพลันหุบปากลงโดยอัตโนมัติ

“ส่วนที่ต้องมอง เพราะคุณมาโผล่ตรงหน้าผมตลอดเวลาตอนอยู่ด้านใน”

“…” เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย!

“ข้อสาม ผมไม่ได้เดินตาม แต่ผมกำลังจะกลับ และบังเอิญเห็นคุณพอดี”

ก็ราวกับจะมีคนช่วยยืนยันในคำพูด ลูกน้องของเขาซึ่งยืนเยื้องอยู่ทางด้านหลังขยับก้าวเข้าใกล้ เอ่ยย้ำข้อเท็จจริงของเจ้านาย

“รถรออยู่ที่ด้านล่างครับคุณภู”

“อืม” ประธานหนุ่มตอบรับในลำคอ สายตายังไม่ละจากการจดจ้องใบหน้าคู่สนทนาซึ่งเถือกแดงด้วยความอาย

อาการกอดอกตัวแข็งทื่อของดาราสาวบ่งบอกถึงการซ่อนอารมณ์กรุ่นโกรธไม่ต่างจากการกำหมัดหรือกัดฟัน เสียงกระด้างที่ตอบกลับก็ยิ่งบ่งชัดว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในอนาคต รบกวนท่านประธานอย่าให้ความสนใจริษาจะดีกว่าค่ะ”

ภูริเงียบเสียงนานหลายวินาที ก่อนในที่สุดเขาจะพยักหน้ารับเช่นเดียวกัน “ผมก็คิดแบบนั้น”

ริษารู้สึกหัวร้อนกับการตอบสนองด้วยท่าทางเฉยชา แต่ก็ทำได้เพียงกดข่มอารมณ์เดือดดาลไว้ที่ข้างใน ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็กระชับสูทราคาแพง ตั้งท่าผละจากทั้งสีหน้าขรึมสงบยังคงเดิม

“ถ้าทำให้คุณเข้าใจผิด ต้องขอโทษจริง ๆ”

“…”

“ส่วนเรื่องวันนัดหมายทานอาหาร ผมคิดว่าสำหรับคุณคงไม่จำเป็น”

ริษาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ภูริคิดว่าเธอจะต้องงอนง้อเขาหรืออย่างไร ใบหน้าสวยเชิดมองไปทางอื่นอย่างระงับอารมณ์ “เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ริษาก็คิดว่าคงต้องเป็นแบบนั้นค่ะ”

“…”

ภูริไม่ตอบ เขาไม่แม้แต่จะหันมอง

และในที่สุดร่างสูงก็เดินห่างออกไป พร้อมลูกน้องคนเดิมชำเลืองมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่าพอกันกับเจ้านาย

ริษารู้สึกอายจนไม่รู้จะอายอย่างไร…

เธอเสียท่าเผยความคิดตื้นเขินให้ภูริได้เห็นว่าแย่แล้ว แต่นี่ยังมีบุคคลที่สามรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยิ่งทำให้ความอับอายเพิ่มขึ้นเป็นพูนทวี

อากาศรอบตัวไม่ได้ร้อนแม้แต่นิด ทว่าอุณหภูมิกายกลับร้อนรุ่มจนแทบจะระเบิด ทั้งยังรู้สึกใกล้จะเป็นโรคประสาทเต็มทีกับการบังเอิญต้องเข้าพัวพันในวงโคจรของแฟนเก่าที่กว่าจะผ่านพ้นจากความเสียใจได้น้ำตาก็แทบหมดตัว

ภูริเป็นฝ่ายทิ้งเธอ ชีวิตคนที่ดูจะก้าวหน้าในทุกด้านแบบเขา คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลับมารื้อฟื้นความทรงจำ แต่มาทำแบบนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึก!

ทว่าก่อนดาราสาวจะสติแตก เสียงของใครอีกคนก็ดังขึ้นที่ทางด้านหนึ่ง เป็นผู้จัดการสาวสองที่กำลังเร่งรีบเดินเข้าหา

“เจ๊มาทันไหมเนี่ย?”

“ริษาจะกลับแล้วค่ะ ที่เหลือฝากเจ๊ด้วยแล้วกันนะคะ”

“อ้าว! เดี๋ยวสิ!”

เสียงของต้อยติ่งดังไล่หลัง ทว่าริษาไม่มีกะจิตกะใจจะอยู่ต่อ

ร่างเพรียวระหงบนส้นสูงสับเท้าเดินอย่างรวดเร็วชนิดไม่คิดหันมองกลับ นาทีนี้สิ่งเดียวที่ต้องการทำก็คือการกลับไปแช่น้ำอุ่นเปิดเพลงผ่อนคลายอารมณ์สงบจิตใจกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเผชิญ

เธอไม่ชอบเสียหน้า…

ไม่ชอบให้ใครล่วงรู้ความเป็นไปในชีวิต ยิ่งคนที่เคยชิดใกล้ในวันวานอย่างภูริได้เห็นถึงความตกต่ำ คนซึ่งอดีตเคยหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีเหลือเกินอย่างริษาก็ยิ่งอาย…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 7

    EPISODE 6มรสุมหลายวันต่อมาอู่ซ่อมรถเป็นโชคร้ายที่วันนี้รถยุโรปที่ริษาใช้งานมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนเกิดดับสนิทบนทางด่วน กว่ารถลากจะมาถึงก็กินเวลานานนับชั่วโมง แต่เป็นโชคดีที่เธอถ่ายรายการเสร็จตั้งแต่ช่วงสายมิเช่นนั้นเห็นทีคงมีปัญหาวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม“ผมเช็กแล้วสาเหตุเกิดจากหม้อน้ำแห้ง สายหม้อน้

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 8

    EPISODE 7กลืนน้ำลาย วันต่อมา หลังงานแถลงข่าว ที่บอกว่าทุกอย่างอาจผ่านไปได้ด้วยดี เห็นทีคงไม่เป็นดังที่หวัง ตอนนี้ริษารู้สึกราวกับโลกทั้งใบพร้อมที่จะถล่มทับใส่เธอ! ตึก! ตึก! ตึก! “ขอสัมภาษณ์เพิ่มเติมหน่อยค่ะคุณริษา!” “คุณริษาให้สัมภาษ

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 9

    EPISODE 8เงื่อนไขหนึ่งชั่วโมงต่อมา การที่ภูริเติบโตในหน้าที่การงานย่อมส่งผลถึงฐานะความเป็นอยู่ ริษารู้ว่าตอนนี้อดีตคนรักเป็นคนร่ำรวยคนหนึ่งแต่ไม่คิดว่าบ้านของเขาจะใหญ่โตเทียบเท่ากับคฤหาสน์ในอดีตของเธอทว่าที่ต่าง… คงเป็นความงันเงียบประหนึ่งไร้คนอยู่อาศัยที่นี่ว่างเปล่า… ไม่มีแม้แต่เงา

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 10

    เงินสิบห้าล้านสำหรับคนซึ่งปัจจุบันร่ำรวยมั่งมีอย่างภูริคงไม่ทำให้ขนหน้าแข้งร่วงแม้แต่เส้นเดียว แต่คงไม่ใช่เรื่องที่จะบริจาคให้ใครฟรี ๆ ริษาหาเงินด้วยตัวเองยังเหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็น คนที่เคยผ่านความลำบากมาก่อนอย่างเขาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ความเงียบเข้าแทรกนานนับนาที คู่สนทนารอฟังคำตอบอย่

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 11

    ทว่าอย่างน้อย เขาก็ไม่คิดผลักไสเธอออกจากตัว… “คุณต้องการแบบนี้รึเปล่าคะ?” “แบบไหน?” เสียงทุ้มถามทวนคำนัยน์ตาลุ่มลึกหลุบมองขาเรียวเสลาขยับไขว่ห้างอย่างเชื่องช้าราวกับจะจงใจ ความยาวของชุดถกร่นเผยให้ได้เห็นขาอ่อนขาวเนียน ร่างกายของริษานั่งหมิ่นเหม่แนบชิดในระยะไม่ปลอดภัย

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 12

    EPISODE 9เจ้านายคนใหม่ วันต่อมา ออด!“มาแล้วค่ะ!” ริษาในสภาพเมาขี้ตาสาวเท้าอย่างเร่งร้อนตรงดิ่งไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิดใจ อาจเพราะเมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนจึงอิดออดที่จะลุกจากเตียง ทว่าคนซึ่งมาเยือนแต่เช้าตรู่ก็ขยันกดกริ่งซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 13

    “ริษาแต่งแบบนี้เป็นปกติค่ะ” “ปกติ?” คิ้วหนากระตุก สีหน้าประธานหนุ่มดูจะหนักใจ “ถ้าคุณต้องแต่งแบบนี้ทุกเช้า ผมคงไปทำงานสายทุกวัน” “นี่ริษาก็รีบที่สุดแล้วนะคะ” ดาราสาวตั้งท่าแย้ง “จู่ ๆ คุณก็ให้คนไปรับตั้งแต่หกโมงจะเก็บของก็เก็บไม่ทัน หน้ายังไม่ได้แต่งเลยค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ถอดแว่

    Last Updated : 2025-03-13
  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 14

    “ผมเพิ่มอีกสักข้อก็แล้วกัน”“…”“ทำงานกับผม คุณไม่มีสิทธิ์บ่น โอดครวญ หรือเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจ”“…”“ผมไม่ชอบคนไม่รับผิดชอบในหน้าที่ และไม่อยากฟังเสียงคร่ำครวญของใครทั้งนั้น”ริษายังคงนิ่งค้าง ตอนนี้พี่ภูของเธอไม่ใช่คนแล้วกระมัง ปีศาจ! เขามันปีศาจ!ก็ราวกับเขาจะอ่านอาการเธอออก…ใบหน้าหล่อเหลาเอ

    Last Updated : 2025-03-13

Latest chapter

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 153

    ทุกคนอวยพรวันเกิดเสร็จสิ้นแล้ว เว้นก็เพียงคนเดียวที่กำลังย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเด็ก ๆ ใช้ฝ่ามือบอบบางกันลมเพื่อไม่ให้เทียนดับ ริษาไม่ทันได้หันสนใจคนอื่น ทว่าก็ยังไม่มีการตอบรับจากเจ้าของวันเกิดจนเธอต้องเหลียวสายตามอง พบว่าภูริกำลังจดจ้องมาที่เธอ ริษาเขินอายต่อสายตาเปี่ยมด้วยความรู้สึกของเขา

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 152

    “คุณพ่อต้องชอบคุณแม่มากแน่ ๆ เดินตามหาแต่คุณแม่ทู้กวัน…” พรืด! ภูริสำลักน้ำดื่ม… หลังจากแต่งงานกันอย่างรวดเร็วในขวบปีแรกที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาไม่ปฏิเสธว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่คลั่งรักเมียมาก คลั่งรักชนิดที่คนรอบตัวสามารถสัมผัสได้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวจะเอาเรื่

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 151

    SPECIAL 3 หลายชั่วโมงต่อมา “แล้วลื้อรู้จักอ๊ะเปล่า?” “รู้สิคะกงขา จี้รู้ทุกอย่างค่ะ คุณแม่สอนมาหมดแล้วค่ะ” “แล้วลื้อล่ะ?” “ด้าก็รู้ค่ะ ง่ายมากเลย” “แล้วลื้อ?” “ผมก็รู้ครับอากง” “เอ้อ! เด็กสมัยนี้นี่เก่งจร

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 150

    “ยังดีเท่าเมื่อก่อนไหมคะ…” ริษาตั้งคำถามทั้งใบหน้าชื้นเหงื่อ เรียวขาขาวเนียนเกี่ยวสะโพกแกร่งเข้าหาตัว ถึงภูริก็ตอกอัดเอ็นแข็งจัดแรง ๆ ตอบสนองต่อคำถามที่ว่า นาทีนี้ต่างฝ่ายต่างก็บดบี้ขยี้โหนกใส่กันด้วยความกระสันเหลือจะบรรยาย ประธานหนุ่มแสดงสีหน้าซ่านเสียวขีดสุดเมื่อคนเป็นเมียเครื่องติดแล้

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 149

    SPECIAL 2 บนห้องนอนชั้นสองของบ้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นห้องนอนของภูริในวันวาน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้เขาจะไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่เป็นหลัก ทว่าบางครั้งบางทีก็มักจะพาลูกพาเมียแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมพี่ชายอยู่บ่อย ๆ ดวงตาคมทอดสายตามองร่างระหงเพรียวบางของภรรยากำลังค้นหาเสื้อผ้าที่ใช้ส

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 148

    “คุณด้าคะ คุณแม่บอกแล้วไงว่าห้ามโก้งโค้งแบบนี้” เสียงของริษายังคงดัง ร่างบางเดินไปย่อกายนั่งสอนมารยาทสตรีให้ลูกอีกคน และในขณะที่เจ้าของดวงตาคมปลาบเป็นประกายยังคงทอดสายตามองทั้งเมียทั้งลูกผู้เป็นที่รัก เสียงแซวก็ดังขึ้นที่ข้างตัว “อะไรจะหลงเมียขนาดนั้นคะ ตานี่เยิ้มเป็นน้ำเชื่อ

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 147

    SPECIAL 1 หลายปีต่อมา เสียงเด็กหญิงสองคนกำลังวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน สวนดอกไม้หน้าบ้านร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นคนปลูกไว้เมื่อนานหลายสิบปีมาแล้ว ภวิศย่อกายอุ้มเด็กคนหนึ่งขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนที่เด็กหญิงอีกคนจะถูกอุ้มโดยผู้เป็นพ่ออย่างภูริ จีจี้ และ ด

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 146

    EPISODE 57รุ้งกินน้ำภูริซึ่งนิ่งสงบจนอีกคนสามารถจับสังเกตได้รีบเบนสายตามองไปทางอื่น ทว่าริษาก็ขยับตัวมองตาม นัยน์ตากลมฉายให้ได้เห็นถึงความข้องใจ“ทำไมริษารู้สึกแปลก ๆ คะ?”“แปลกยังไงครับ?” เขาถามกลับ ทว่าก็ยังไม่ยอมสบตา“หรือว่าพี่เป็นคนปล่อยข่าวเสียหายของริษาด้วยเหรอคะ?” ดาราสาวทำตาโต ยกมือขึ้นทา

  • คุณคนโปรดสุดที่ร้าย   บทที่ 145

    “เมื่อเช้าใครบอกพี่ว่าจัดกันก่อนออกมา?” ริษายิ่งหน้าแดงไปกันใหญ่ ภูริชอบเอานิสัยบนเตียงของเธอมาล้อเลียนอยู่เรื่อย “ริษาไม่ได้พูดสักหน่อย” “เธอพูดทุกวัน ขอให้พี่ทำก่อนไปทำงาน” “นี่!” ริษาแหวเสียงดัง หากมารดาเธอมาได้ยินเข้าจะทำอย่างไร! “ถ้าพี่ยังพูดอีก คืนนี้ไม่ต้อง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status