ตอนที่ 25ในห้องประชุมชั้นสูงสุดของตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เสียงคลิกปากกาและพลิกเอกสารดังสลับกับเสียงพรีเซนต์จากฝ่ายต่างๆ ที่พยายามอธิบายแผนงาน คณิณนั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาพร้อมเนกไทสีเข้ม ยังคงรักษาท่าทางสุขุมและมาดผู้นำที่ทุกคนในห้องต่างให้ความนับถือ แม้ว่าความเหนื่อยล้าจะค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเขาหน้าจอโปรเจกเตอร์แสดงกราฟและตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ผลัดกันนำเสนอข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหา“ผลการประเมินของโครงการล่าสุดยังต่ำกว่าเป้า 15% เราจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายในส่วนของโครงการนี้ เพื่อให้ผลกำไรกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้” เสียงหัวหน้าฝ่ายบัญชีกล่าว พร้อมฉายตัวเลขที่ถูกเน้นด้วยสีแดงบนจอคณิณพยักหน้ารับพลางขีดเขียนบนสมุดโน้ตเล่มเล็กที่วางอยู่ตรงหน้า เสียงปลายปากกาสัมผัสกับกระดาษดังแผ่วเบาในความเงียบของห้อง เขาเงยหน้าขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ก็หนักแน่น“ผมเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในบางโครงการ แต่ถ้าหากฝ่ายการตลาดสามารถปรับกลยุทธ์สื่อออนไลน์ เพื่อดึงดูดลู
ตอนที่ 26ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินเข้าบ้าน เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง พร้อมกับไฟทั้งบ้านดับลงทันที ทั้งบริเวณถูกปกคลุมด้วยความมืดสนิท“ไฟดับเหรอคะ...” แบบฝันพูดเบา ๆ พลางชะงักเท้าหันมองเขาด้วยแววตาตกใจคณิณเงยหน้ามองบ้านที่ไร้แสงสว่าง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น”สายฝนยังคงตกหนัก ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่คณิณก็ก้าวนำไปยังประตูบ้าน เขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านมืดสนิท ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ“รออยู่นี่ เดี๋ยวฉันจะไปดูเบรกเกอร์” ด้วยความที่แม่บ้านจะมาทำหน้าที่ถึงจัดเตรียมอาหารมื้อเย็นเท่านั้น ทำให้เวลานี้ไม่มีใครอยู่ในบ้านนอกจากเขาและเธอแบบฝันพยักหน้า แม้เธอจะรู้สึกตกใจและกลัว แต่ก็พยายามไม่แสดงออก ทำเพียงยื่นรอเขาหน้าประตูทางเข้าบ้านเท่านั้นคณิณเดินเข้ามาในตัวบ้านที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากมือถือส่องนำทาง เขาเดินตรงไปยังกล่องเบรกเกอร์ไฟฟ้าที่ติดอยู่ใกล้ทางเดิน เสียงฝนยังคงตกพรำ ๆ ด้านนอก คณิณส่องไฟดูคัตเอาต์อย่างละเอียด ก่อนจะลองสับเบรกเกอร์ขึ้นลงสองสามครั้งเพื่อรีเซต แต่ไฟในบ้านยังคงมืดสนิทเหมือนเดิมเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรไปยังศูนย์บริการการไฟฟ้าตามเบอร์ที่บันทึกไว้ น
ตอนที่ 27หลังจากคณิณกินข้าวต้มจนหมดชาม แบบฝันจึงหยิบถาดกลับไปที่ห้องครัว ขณะที่คณิณลุกขึ้นเดินตามเธอไปด้วย“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเก็บเองได้” เธอหันมาบอกเขาเสียงเบา แต่คณิณไม่ฟัง แย่งถาดในมือเธอ“อย่างน้อยก็ให้ฉันช่วยบ้าง เธออุตส่าห์ทำให้แล้ว” คณิณพูดพร้อมก้าวเข้าไปในครัวที่มีเพียงแสงเทียนวางไว้ริมเคาน์เตอร์แบบฝันแอบยิ้มกับตัวเองเล็กน้อย เธอไม่ได้เถียงอะไรอีกฝ่าย ยอมให้เขาช่วยจัดการล้างชามและแก้วในอ่างล้างข้างเคาน์เตอร์ เธอหยิบผ้าเช็ดจานมายืนอยู่ข้างๆ คอยเช็ดให้แห้ง“ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นคุณล้างจาน” แบบฝันพูดขึ้นเบาๆ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่ในน้ำเสียง ทั้งที่เคยเป็นคนบอกกับเธอเองแท้ๆ ว่างานบ้านไม่ใช่หน้าที่ที่เธอต้องทำเพราะมีแม่บ้านคอยดูแล แต่เขาคนนี้กลับมายืนล้างจานต่อหน้าเธอเสียเอง“ฉันก็ไม่ใช่คนพิเศษอะไรนี่” คณิณตอบเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยความผ่อนคลาย เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอเล็กน้อย “แค่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำแบบนี้”แบบฝันรู้สึกว่าเขาดูต่างจากปกติ ปกติคณิณในสายตาเธอมักจะมีมาดนิ่งและท่าทางที่ดูห่างเหิน แต่ตอนนี้เขากลับดู...ง่ายๆ และสบายใจที่จะอยู่ด้วยหลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อย คณิณเดินไปหยิบเที
ตอนที่ 28ไม่นานไฟในบ้านก็กลับมาใช้ได้ปกติ เธอรีบเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่แยกจากห้องนอน คณิณบอกเธอว่าจะให้เธอเริ่มทำงานวันพรุ่งนี้ เธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าไปทำงานในบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียง จึงรีบขึ้นมาเตรียมชุดสำหรับใส่ไปทำงานวันแรก เธอเปิดดูชุดเรียงรายในตู้เสื้อผ้าของเธอ ที่มีทั้งแบบสีสันสดใสบ้าง เรียบง่ายบ้าง แล้วก็ทางการบ้าง“ฉันควรใส่อะไรไปดีนะ” เธอพึมพำเบา ๆ พลางหยิบชุดนั้นชุดนี้ออกมาลองทาบกับตัวคณิณเดินเข้ามาในห้องนอนเห็นอีกคนอยู่ในห้องแต่งตัวเลยเคาะประตูเบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน“กำลังทำอะไรอยู่”แบบฝันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปตอบ “กำลังเตรียมชุดใส่ไปทำงานพรุ่งนี้ค่ะ ฝันไม่แน่ใจว่าควรใส่อะไรดี คุณ-พี่ควินท์พอจะแนะนำได้ไหมคะ”คณิณเดินเข้ามาใกล้แล้วมองดูชุดที่แขวนอยู่ในตู้ เธอเห็นเขาทำหน้าคิดหนักก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่จริงจัง“ถ้าทำงานในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวของฉัน การแต่งกายสำคัญมาก”“อะไรนะคะ พี่ควินท์ให้ฝันทำงานเป็นผู้ช่วยของพี่เหรอคะ” เธอตกใจเพราะเธอคิดว่าเขาคงให้เธอทำงานธุรการทั่วไป ไม่คิดว่าจะให้เธอทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขา“ใช่ เธอเป็นภรรยาของฉัน
ตอนที่ 29แบบฝันนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเล็ก ๆ ในมุมหนึ่งหน้าห้องผู้บริหาร โต๊ะไม้สีเข้มถูกจัดอย่างเรียบร้อยพร้อมอุปกรณ์สำนักงานพื้นฐาน เกลวรินอยู่ข้าง ๆ คอยอธิบายหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบ“หน้าที่หลักของคุณคือช่วยจัดตารางงานให้คุณคณิณ และเตรียมเอกสารที่จำเป็นต่อการประชุม ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ คุณถามฉันได้เสมอเลยนะคะ” เกลวรินพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ก่อนจะยื่นแฟ้มเอกสารให้“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ อย่างที่คุณคณิณบอก คุณเกลวรินดูใจดีแล้วก็สอนงานเธออย่างใจเย็นมากเมื่อเกลวรินเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง แบบฝันสูดลมหายใจลึก ๆ เธอเปิดแฟ้มเอกสารตรงหน้า ค่อย ๆ อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทเพื่อทำความเข้าใจ แต่ถึงแม้เธอจะตั้งใจจดจ่อกับงานตรงหน้าสักแค่ไหน เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงสายตาของพนักงานที่เดินผ่านไปมาและหันมามองเธอเป็นระยะรายชื่อโครงการที่อยู่ในแฟ้มเอกสารทำให้เธอรู้สึกหนักใจเล็กน้อย แต่เธอก็เริ่มต้นด้วยการจัดลำดับความสำคัญ เอกสารที่เกลวรินส่งมาเกี่ยวข้องกับการประชุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่ามหาศาล“คุณแบบฝันคะ คุณลองช่วยตรวจสอบเอกสารสัญญาฉบับนี้
ตอนที่ 30เสียงประตูห้องทำงานดังขึ้น คณิณเงยหน้าจากเอกสารในมือ เห็นชินกรเพื่อนสนิทของเขายืนอยู่ตรงประตูพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น“มาได้ยังไง” คณิณถามขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้“แวะมาหาคุณเพื่อนไง กูมีประชุมแถวนี้เลยแวะมาทักทายสักหน่อย” ชินกรเดินเข้ามาพร้อมท่าทีสบาย ๆแต่ทันทีที่เขาหันไปเห็นแบบฝันซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาจัดเอกสารอยู่ที่โต๊ะ ชินกรก็หันมาหาคณิณพร้อมเลิกคิ้วสูง“นั่น... แบบฝันใช่ไหม” ชินกรยิ้มกว้าง “นี่มึงพาภรรยาคนสวยมาทำงานด้วยเหรอ แหม หวานออกหน้าออกตาเกินไปแล้ว”แบบฝันเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย คณิณถอนหายใจเบาๆ“อย่าแซวให้มากนัก เธอแค่มาช่วยงาน” ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งปนเอ็ดคนผมยาวประบ่า“ช่วยงานหรือมาช่วยสร้างสีสันในที่ทำงานล่ะ” ชินกรยังไม่วายแซวต่อ“พอได้แล้ว เดี๋ยวพาไปคุยข้างใน” คณิณพูดตัดบท พลางหันมาบอกแบบฝัน “ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ เรียกเกลวรินได้เลยนะ”“ค่ะ” แบบฝันตอบเสียงเบา ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อเมื่อคณิณและชินกรเข้าไปในห้องทำงาน คณิณหันมามองเพื่อนสนิทที่ยังยิ้มอย่างสนุกสนาน“มึงไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นต่อหน้าเธอ” คณิณพูดเสียงเรียบ แต่แฝงควา
ตอนที่ 31ในห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัทที่เต็มไปด้วยผนังกระจกโปร่งใส สามารถมองเห็นวิวของเมืองหลวงในมุมสูง แบบฝันเดินตามเกลวรินเข้ามาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นผสมกับความกังวล เธอกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องประชุม โต๊ะไม้ยาวกลางห้องรายล้อมด้วยเก้าอี้หนังสีดำหรูหรา ฝั่งหนึ่งของโต๊ะเต็มไปด้วยผู้บริหารระดับสูง แต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดสูทที่ดูสง่างามและเปี่ยมอำนาจคณิณนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ สายตาของเขาจับจ้องไปยังเอกสารในแฟ้มตรงหน้า เมื่อแบบฝันเดินเข้ามา สายตาคมคู่นั้นก็เงยขึ้นมองเธอชั่วครู่ ก่อนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอกให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ว่างถัดจากเกลวริน“นั่งตรงนี้นะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกฉันได้เลย” เกลวรินกระซิบเบา ๆ แบบฝันพยักหน้า ขณะที่เก็บกระเป๋าโน้ตบุ๊กของตัวเองไว้ข้างเก้าอี้ เธอนั่งตัวตรงพยายามสงบสติอารมณ์ในขณะที่ผู้ร่วมประชุมทยอยเปิดแฟ้มและเตรียมเอกสารเมื่อทุกคนพร้อม คณิณเคาะปากกาบนโต๊ะเบา ๆ เพื่อดึงความสนใจของผู้ร่วมประชุม“เรามาเริ่มประชุมกันเลยครับ วันนี้มีหลายประเด็นที่ต้องหารือ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนในโครงการใหม่” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง ก่อนส่งสัญญาณให้หัวหน้าฝ่ายการ
ตอนที่ 32เมื่อถึงเวลาเลิกงานคณิณเดินออกจากห้องทำงานมาด้วยสีหน้าที่ดูจะผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นแบบฝันกำลังเก็บของบนโต๊ะเธอ“เลิกงานแล้ว ไปทานข้าวข้างนอกกัน” เขาพูดขึ้นเรียบ ๆ พร้อมกับลอบมองแววตาที่ฉายแววประหลาดใจของเธอ“เอ่อ... ไปที่ไหนเหรอคะ” แบบฝันถามเสียงเบา พลางเงยหน้าขึ้นสบตาเขา“ร้านที่ฉันชอบ เธอจะได้ลองบ้าง” คณิณตอบสั้นๆ แต่เจือความอ่อนโยนในแววตาและน้ำเสียงเมื่อมาถึงลานจอดรถ เขาเปิดประตูรถให้เธอเหมือนเคย แม้แบบฝันจะบอกว่าไม่ต้องทำ แต่เขาก็ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของเขาเสียงเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ ในระหว่างที่รถขับผ่านแสงไฟริมถนนยามค่ำคืน แบบฝันลอบมองเสี้ยวหน้าของคณิณที่อยู่ใต้แสงสลัว ความนิ่งขรึมของเขาสร้างความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างน่าประหลาด“พี่ควินท์ชอบร้านนี้เพราะอะไรเหรอคะ” เธอถามเพื่อทำลายความเงียบ“บรรยายดี... วัตถุดิบคุณภาพดี แล้วก็ไม่วุ่นวาย” เขาตอบพลางหันมาจ้องตาเธอเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปสนใจกับถนนตรงหน้าร้านที่คณิณเลือกเป็นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก บรรยากาศสบาย ๆ แต่แฝงไปด้วยความคลาสสิค ด้วยแสงไฟนวลตาและโต๊ะไม้ขัดมัน วางแจกันดอกไม้สดไว้บนโต๊ะทุกตัว กลิ่นหอมจาง ๆ ของอาหารโชยมาแต
ตอนที่ 52ตลอดทั้งวันคณิณไม่ได้กลับไปไหน เขาคอยช่วยยกของและจัดอาหารให้กับเด็กและทุกคน รวมถึงยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมหลาย ๆ อย่างด้วยท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากฟ้าใสกลายเป็นม่วงเข้ม เหล่าดาวระยิบระยับเรียงรายเหนือลานกิจกรรม เสียงหัวเราะและการพูดคุยค่อย ๆ เบาลง เมื่อเด็ก ๆ เริ่มทยอยกลับหลังเสร็จกิจกรรมตลอดวันแบบฝันเดินเข้าไปหาคณิณที่ยังนั่งอยู่ใต้แสงไฟสนามเล็ก ๆ เขากำลังคุยเล่นกับเด็ก ๆ ที่ยังไม่กลับบ้าน“น้ำค่ะ” เธอยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้“ขอบคุณครับ” เขายิ้มดีใจที่เธอยังใส่ใจเขาอยู่“คุณกลับได้แล้วนะคะ มืดกว่านี้จะขับรถกลับลำบาก”“พี่ฝัน นี่ก็ค่ำแล้ว ให้คุณเขาพักกับพวกเราดีกว่าไหมคะ” น้อยหน่ารีบพูด“นั่นสิพี่ แถวนี้ขับรถยากจะตาย กลับตอนนี้มีแต่อันตราย” มาวินเสริมพลางมองหน้าขอความเห็นใจกับเธอแบบฝันมองบรรยากาศโดยรอบก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืด แล้วทางเข้าหมู่บ้านก็ทางโค้งค่อนข้างเยอะ ระยะทางหลายสิบกิโลเมตรกว่าจะเข้าสู่ถนนใหญ่ที่ไฟเริ่มเยอะ“แล้วจะให้เขาพักที่ไหน ห้องพักเต็มหมดแล้ว” เธอว่า“พักกับพี่ฝันไงคะ เดี๋ยวน้อยหน่าย้ายไปนอนกับเจนเอง มีนัดปาร์ตี้บอร์ดเกมกันน่ะค่ะ”“ถ้าเธอไม่สะดวก ฉันไปหาโรงแรม
ตอนที่ 51ณ ห้องประชุมขนาดกลางของคณะ โต๊ะยาวถูกดันต่อกันเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่กลางห้อง รอบ ๆ มีแบบฝันและรุ่นน้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์สื่อการสอน และเกมที่จะใช้ในค่าย พวกเขาตกลงกันว่าจะไปจัดค่ายสอนภาษาอังกฤษให้เด็กนักเรียนด้อยโอกาส ทุกคนขะมักเขม้นกับงานในมือ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ“การ์ดคำศัพท์เราเตรียมกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบบฝันถามขณะเดินตรวจสอบความเรียบร้อย“ใช่ครับ วินกับเพื่อนช่วยกันเช็กดูเรียบร้อยแล้ว” เสียงมาวินดังขึ้นจากอีกฝั่ง เขาชูถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุการ์ดคำศัพท์ไว้หลายชุด“ได้แยกคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ไหม”“แยกแล้วครับ แถมใส่ซองกันน้ำ เผื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีด้วย”“โอเค ดีมากเลย”นอกจากจะเตรียมพวกการ์ดคำศัพท์และรูปภาพประกอบแล้ว พวกเขายังช่วยกันเตรียมเกมภาษาอังกฤษอย่างบิงโกคำศัพท์ และเกมจับคู่กับภาพด้วย“เราไปออกค่ายตั้ง 2 วัน พี่ได้บอกแฟนหรือยังคะ” น้อยหน่ารุ่นน้องกระซิบถาม“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” เธอแก้มแดงแล้วทำเป็นเสียงเข้มใส่“คนจีบก็ได้ค่ะ” คนอายุน้อยกว่าทำหน้าล้อเลียน “แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นเขาตั้งหลายวันแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาถอดใจไปแล้วนะ”“ก็เร
ตอนที่ 50คณิณยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ตำแหน่งเดิมที่เขามักจะมารอเธอ เขามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่า พยายามหาจังหวะให้ตัวเองกล้าที่จะเดินเข้าไปหาแบบฝันที่เพิ่งเดินออกจากห้องเรียนพร้อมเพื่อน ๆเมื่อสายตาของเธอสบกับเขา ความแปลกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่เธอพยายามรักษาสีหน้าสงบไว้ เธอบอกลาเพื่อนและเดินตรงมาหาเขา“มาที่นี่ทำไมคะ”คณิณยิ้มเล็กน้อย ยื่นถุงกระดาษที่ใส่กล่องเบนโตะไว้ในมือ“ฉันทำข้าวกล่องมาให้เธอ”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาฉงนปนประหลาดใจ“คุณทำเองเหรอคะ”“ใช่” คณิณตอบเสียงเบา พยายามปั้นยิ้มให้ดูมั่นใจ แต่แล้วแบบฝันก็สังเกตเห็นปลาสเตอร์สีเนื้อที่พันรอบนิ้วชี้ข้างซ้ายของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความกังวล“นิ้วคุณไปโดนอะไรมาคะ” เธอถามพลางเอื้อมมือมาจับมือเขาดูเบา ๆ เพื่อดูให้ชัด ๆแม้จะรู้สึกดีใจที่อีกคนเป็นห่วง แต่เขาก็รีบชักมือกลับอย่างเขิน ๆ“ไม่มีอะไรหรอก แค่อุบัติเหตุตอนทำอาหารนิดหน่อย”“อุบัติเหตุนิดหน่อย?” แบบฝันขมวดคิ้วจ้องมองเขาไม่วางตา“ฉันไม่ชินกับอุปกรณ์ในครัวน่ะ เลยมีผิดพลาดบ้าง” คณิณหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบสายตา “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีเลือดตกลงไปในอาหารแน่นอน”แบบฝันมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธ
ตอนที่ 49หลังจากที่เขาไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนกบ้างไม่นกบ้าง เพราะบางช่วงที่เขาไปเธอไม่มีเรียนในช่วงนั้น เขาจึงตัดสินใจแอบขอตารางเรียนของเธอจากรุ่นน้องกลุ่มเดียวกับเธอ เพราะถ้าต้องขอจากเธอโดยตรง เธอน่าจะไม่ให้แน่นอนวันนี้แบบฝันมีเรียนช่วงเช้า เขาเลยว่าจะทำข้าวกล่องไปฝากเธอช่วงพักกลางวัน เลยกะว่าจะแค่แวะเอาข้าวกล่องไปฝากแล้วรีบกลับ เพราะตอนบ่ายเขามีประชุม แม้จะได้เห็นหน้าเธอแค่ไม่กี่นาทีก็น่าจะพอเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวเฉาของเขาได้คณิณยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องครัว เขาสวมผ้ากันชนเปื้อนสีเข้มที่เพิ่งแกะจากห่อ เพราะปกติเขาไม่เคยทำอาหารทานเอง เลยเพิ่งจะไปซื้อผ้ากันเปื้อนสด ๆ ร้อน ๆ มาไว้ที่คอนโด เขาเปิดตำราอาหารที่เพิ่งลงทุนเดินเข้าร้านหนังสือในรอบหลายปีวางบนเคาน์เตอร์ทำอาหาร พร้อมเปิดไอแพดดูคลิปประกอบ แต่ถึงจะมีตัวช่วยมากมายแต่เขาก็ยังดูเงอะงะในทุกขั้นตอน“เริ่มจากหุงข้าว... ง่าย ๆ” เขาพึมพำให้กำลังใจตัวเองเขาตวงข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อหุงข้าวแล้วเดินไปล้างข้าว แต่เผลอเปิดน้ำแรงเกินไปจนข้าวกระเด็นออกจากหม้อไปกว่าครึ่ง“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เขาพึมพำพลางกวาดข้าวที่หกกลับมาใส่ในหม้ออย่างทุ
ตอนที่ 48วันต่อมา คณิณกลับมายังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้มาตัวเปล่า เขานำดอกไม้ช่อโตพร้อมจดหมายที่เขาเขียนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดทั้งคืน ตรงมายังคณะที่แบบฝันเรียนเขานั่งรอเธอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบเช่นเคย ดวงตาคมเข้มจ้องไปยังอาคารเรียน รอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าของนักศึกษาทยอยออกจากคลาสเริ่มเบาบางลง เขาก็เห็นร่างเล็กของแบบฝันเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนคณิณรีบลุกขึ้นทันที ก้าวตรงไปหาเธอด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อแบบฝันเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขา ดวงตาของเธอก็ฉายแววตกใจชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา“คุณมาทำอะไรที่นี่อีกคะ” เสียงของเธอเรียบเฉย ราวกับไม่อยากให้ใครบริเวณนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ“ฉันมาหาเธอ มาง้อเธอไง” คณิณพูดตรงไปตรงมา เพราะจากประสบการณ์สอนให้เขาต้องกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของตัวเอง เขายื่นช่อดอกไม้ช่อโตให้เธอ แต่เธอกลับไม่ยื่นมือออกมารับ“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้ว” แบบฝันตอบ น้ำเสียงชัดเจนเช่นกันเมื่อคนตรงหน้าดูจะใจแข็งกับเขา เขาจึงหันไปสบตากับนักศึกษาสาวที่เดินออกมาพร้อมกับแบบฝัน ที่กำลังยืนมองดูพวกเขาจากด้
ตอนที่ 47แบบฝันพาคณิณมาหยุดที่ม้านั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ จุดที่ค่อนข้างเงียบสงบของมหาวิทยาลัย ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมพัดอ่อน ๆ เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาทางเขา“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ” น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ แฝงไปด้วยความระมัดระวังคณิณยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอราวกับพยายามกลั่นกรองคำพูดที่อัดแน่นภายในใจ“แบบฝัน...” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฉันแค่อยากขอโทษเธอ ขอโทษที่รู้ตัวช้า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเพิ่งรู้ว่าใครคือคนที่ฉันรัก”แบบฝันชะงัก เธอกะพริบตา พยายามจับความหมายในคำพูดนั้น“คุณหมายความว่าอย่างไง” เธอถาม น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจคณิณก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างของเขากำแน่นอยู่ข้างตัว ราวกับพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “ฉันหมายความว่า... ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกดีกับฉัน ที่จริงแล้วฉันก็รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน แต่ฉันมันขี้ขลาด ไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองให้เธอรู้ เพราะฉันยังลังเล สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อแพรวา”แบบฝันนิ่งไป ใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อย แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า“ฉันมันโง่ที่เพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตด้วยใน
ตอนที่ 46เสียงเครื่องยนต์ดับลงเมื่อคณิณจอดรถหน้ารถอาหารที่แบบฝันเคยทำงาน ความทรงจำของเขาย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่เขาเคยมาที่นี่เพื่อมารับเธอไปหาพ่อกับแม่ครั้งแรก รวมถึงพาเธอไปทำธุระเกี่ยวกับงานแต่ง เธอเคยยืนรอเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน รอยยิ้มที่ติดอยู่ในหัวใจของเขาจนเต็มประดาคณิณก้าวลงจากรถ ฝีเท้าหนักแน่นแต่เร่งรีบ ด้วยความหวังในใจที่อยากจะเจอเธอ ผลักดันให้เขาเปิดประตูร้านเข้าไปอย่างไม่ลังเลเสียงกระดิ่งเหนือประตูดังเบา ๆ เมื่อเขาเดินเข้ามา กลิ่นหอมของอาหารยังคงอบอวลเหมือนเดิม โต๊ะหลายโต๊ะมีลูกค้านั่งอยู่ แต่ไม่มีวี่แววพนักงานที่คุ้นเคย ดวงตาคมของคณิณกวาดมองไปรอบ ๆ ราวกับหวังว่าแบบฝันจะปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ใดที่หนึ่งเมื่อไม่พบเธอ คณิณสูดหายใจลึกแล้วตรงเข้าไปที่แคชเชียร์ซึ่งมีรุ่นพี่ของแบบฝันยืนอยู่ เธอคือเจ้าของร้านและหัวหน้างานของแบบฝัน“สวัสดีครับ”เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองและจดจำเขาได้ในทันที “อ้าว คุณคณิณ สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”“ครับ พอดีผม... มาหาแบบฝัน เธอได้มาทำงานที่นี่ไหมครับ” คำถามนั้นออกจากปากของเขาอย่างรีบเร่ง ความหวังในใจยังคงมีเจ้าของร้านชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม
ตอนที่ 45หลังจากหย่ากับคุณคณิณ แบบฝันตัดสินใจกลับไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่เคยดรอปเรียนไว้ โดยใช้เงินที่เขาเคยให้เธอในตอนเป็นภรรยาจอมปลอม บวกกับเงินเก็บจากการทำงานมาจ่ายค่าเทอม เธอเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะจบการศึกษาแล้ว นอกจากนี้เธอก็ออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เขาเคยเช่าให้เธอพักอาศัย เธอเปลี่ยนมาพักห้องพักใกล้มหาวิทยาลัยแทนเหตุการณ์การตัดสินใจสำคัญในวันนั้นกินเวลากว่าครึ่งปีแล้ว เธอไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย เพราะเธอรู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักแสนสวยอย่างแพรวา และเธอเองก็ไม่มีธุระจำไปอะไรที่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว เธอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่มีวันติดต่อเธอก็ตามหลังจบคลาสเรียนขณะแบบฝันกำลังจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับ ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกจากด้านหลัง“พี่แบบฝัน!”เธอหันไปตามเสียงและพบว่าเป็นมาวิน รุ่นน้องที่เรียนร่วมคลาสกับเธอ ยิ้มกว้างพลางวิ่งเข้ามาหา แม้จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เขาเรียกเธอเสียงดังกลางที่สาธารณะ แต่แบบฝันก็พยายามยิ้มตอบ“ว่าไง มาวิน” เธอถาม น้ำเสียงนุ่มนวลมาวินเป็นเด็กหนุ่มสดใสและร่าเริง เขาเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในชั้นและม
ตอนที่ 44เสียงดนตรีจากบาร์ดังก้องอยู่ในอากาศเมื่อแพรวาผลักประตูเข้ามา ดวงตาของเธอกวาดมองหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เห็นร่างสูงคุ้นตานั่งตรงมุมบาร์ในสุด เธอก็รีบเดินตรงไปหาทันทีโดยไม่สนใจสายตาจากใครอื่น“พี่ควินท์...” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ทั้งจากความตื่นเต้นและความดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้งคณิณเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และความเหนื่อยล้าทำให้ดูอ่อนแรงกว่าปกติ วาริชและชินกรหันมามองเธอเช่นกัน แต่ไม่ได้พูดอะไร“แพรวา...” เขาเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ“แพรรีบมาหาพี่หลังจากที่พี่ชินบอก...” แพรวานั่งลงข้างเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาประกายวูบไหว “แพรได้ยินว่าพี่ควินท์หย่ากับเธอแล้ว แพรเลยอยากจะคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไร?” คณิณเหลือบมองแก้วในมือ ก่อนจะวางมันลงช้า ๆแพรวาสูดลมหายใจลึก พยายามเก็บความตื่นเต้นในใจ “แพรแค่อยากจะบอกว่า... แพรยังรักพี่ควินท์อยู่และแพรก็เชื่อว่าความรู้สึกของพี่ที่เคยมีให้แพรมันยังไม่หายไปไหน แพรอยากให้เราลองกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหมคะ”คำพูดของเธอทำให้วาริชและชินกรหันมามองคณิณอย่างรอคอย แต่คณิณกลับนิ่งเงียบ ดวงตาจับจ้องไปยังโต๊ะตรงหน้าเหมือนกำลัง