ชาร์ล็อตนั่งลงที่ข้างเตียง ถือขวดยาขี้ผึ้งในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างหนึ่งถือสำลีก้าน เธอจ้องมองไปที่บริเวณที่เธอกำลังจะทายาให้แซคคารีอย่างแน่วแน่ หัวใจของเธอเต้นแรงร้าวกับเสียงของสายฝนที่ตกกระทบกระจกหน้าต่างถี่ ๆ และมือของเธอก็สั่นอย่างแรงราวกับกำลังร่อนแป้ง"เธอจะช่วยฉันทายารึเปล่า?" เสียงอันไพเราะและเย่อหยิ่งของแซคคารีดังขึ้นในทันที"เอ่อ... ทำ... ทำสิ..." ชาร์ล็อตตาเบิกกว้างและยิ้มแห้ง ๆ ออกมา เธอพยายามทำให้มือที่สั่นเทาของเธอนิ่งลง จากนั้นจึงจุ่มสำลีก้านลงไปในขวดยา แล้วยื่นไปทางแซคคารีทีละนิ้ว ๆ"เธอจะทายาแบบนี้เหรอ?" เสียงนุ่มทุ้มที่ฟังเหมือนกับเสียงของเครื่องดนตรีดังขึ้นมาจากทิศทางเดิมอีกครั้งชาร์ล็อตอึ้งไป "ใช่... ฉันก็ทำตามที่หมอสจ๊วตบอก"คิ้วที่สมบูรณ์แบบของแซคคารีย่นเล็กน้อย "แล้วเธอจะทายาให้ฉันผ่านเสื้อผ้าหรือไง?"'อะไรนะ!?' จู่ ๆ ชาร์ล็อตก็นึกขึ้นได้ว่าอย่างน้อยเธอก็ควรถอดเสื้อผ้าออกเพื่อที่จะได้ทายาให้กับเขาได้... นี่เป็นเรื่องปกติ!อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดว่าตัวเองจะต้องถอดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่ายกายของแซคคารีออก ชาร์ล็อตก็หายใจลำบากขึ้นราวกับจะสามารถเป็นลมได้ใน
'ทำไมมีแต่คนอารมณ์ดีมากมายอยู่รายล้อมผู้ชายที่เย็นชาและเฉยเมยอย่างเขานะ!?'ดร.สจ๊วตพูดต่ออย่างเคร่งขรึม "นอกจากนี้ คุณควรจำไว้ว่าต้องทายาให้นายท่านรองวันละครั้งตลอดหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ และหลังจากสัปดาห์นั้น คุณควรทามันทุกสามวันจนกว่านายท่านรองจะหายดี"ชาร์ล็อตผู้ได้รับความเดือดร้อนเกือบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดเนื่องจากคำกล่าวนั้น"นายหญิง สิ่งที่ผมบอกคุณมันสำคัญมากนะครับ คุณได้จดบันทึกไว้ไหมครับ?"ชาร์ล็อตตอบพร้อมแก้มแดง ๆ ของเธอ "ฉันรู้! ฉันรู้! ไปได้แล้วค่ะ!"ดร.สจ๊วตพยักหน้าแล้วเดินจากไปอย่างมั่นใจชาร์ล็อตถอดหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอได้ยินเสียงที่ชัดเจนและอ่อนโยนมาจากบันไดที่ด้านนอก"คุณหมอสจ๊วต เขาเป็นยังไงบ้าง""อ่า! คุณลาร์สัน คุณนี่เอง! นายท่านรองถูกทุบตีมาอย่างรุนแรง แต่คุณคอนน์... เฮ่ คุณซิมมอนส์และผมได้ทายารักษาให้กับเขาแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่เป็นอะไร" น้ำเสียงของดร.สจ๊วตฟังดูน่านับถือมากเสียงใสและนุ่มทุ้มกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า "รับทราบ"เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และไม่กี่วินาทีต่อมา ชาร์ล็อตก็เห็นลอร์เลนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเมื่อเห็นชาร์ล็อต
"อ๊ะ..." ลอร์เรนอุทานออกมาอย่างแผ่วเบา ในเวลาเดียวกัน เธอตกใจและผลักลิ้นชักของโต๊ะข้างเตียงปิดลิ้นชักนี้เต็มไปด้วยสิ่งของที่สำคัญมากสำหรับชาร์ล็อต ดังนั้นเธอจึงมั่นใจมากว่าลอร์เรนกำลังขโมยของของเธอ ชาร์ล็อตจึงก้าวเข้าไปข้างหน้าในทันที"เธอจะเอาอะไรจากลิ้นชักของฉัน? แบมือของเธอออกแล้วยกมันขึ้นไว้เหนือหัว ฉันต้องการค้นตัวของเธอ!""ได้สิ เชิญตามสบายเลย" ลอร์เรนยิ้มอย่างมีเลศนัยและยกมือขึ้นตามคำสั่งของชาร์ล็อตชาร์ล็อตโน้มตัวและสอดมือเข้าไปในกระเป๋าของลอร์เรน แต่เห็นลอร์เรนหยิบแก้วบนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาและในทันใดนั้นเธอก็ขวางมันลงไปกระแทกกับพื้นเพล้ง!แก้วแตกออกเป็นเสี่ยง ๆเสียงพึมพำในใจของชาร์ล็อตปรากฏขึ้นเธอไม่ชอบดื่มน้ำ ดังนั้นเพื่อให้เธอดื่มน้ำมากขึ้น โครอลไลน์จึงมอบแก้วนี้ให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ดื่มน้ำโดยใช้แก้วนี้มาโดยตลอดแก้วใบนี้แสดงถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างเธอกับโครอลไลน์แต่ทว่าลอร์เรนได้ทำลายมันอย่างไม่มีเหตุผล!ชาร์ล็อตสูญเสียการควบคุมในทันที เธอคว้ากระโปรงของลอร์เรนและจ้องไปที่เธอด้วยความโกรธ "ลอร์เรน ลาร์สัน เธอเป็นอะไรของเธ
ในตอนแรก ลอร์เรนแกล้งทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ที่โต๊ะข้างเตียง เพื่อทำให้ชาร์ล็อตสงสัยและเข้ามาค้นตัวของเธอ จากนั้นเธอก็สร้างสถานการณ์ทีละขั้นให้เหมือนกับว่าชาร์ล็อตทำร้ายเธอด้วยเศษแก้วนั่นและดูเธอในตอนนี้!ลอร์เรนนอนขดตัวอยู่ที่พื้น ทำตัวเหมือนเป็นเหยื่อ ขณะที่ชาร์ลอตกำลังถือเศษแก้วที่แย่งมาจากมือของเธอ และตัวของเธอก็โน้มไปข้างหน้าอยู่เหนือร่างของลอร์เรน แล้วสถานการณ์ทั้งหมดในตอนนี้จะไม่ทำให้ดูเหมือนว่าเธอกำลังทำร้ายลอร์เรนได้อย่างไร?ไม่มีทางที่เธอจะเดินออกจากความยุ่งเหยิงนี้ได้โดยที่ยังดูเหมือนนางฟ้า!"เหอะ!" ชาร์ล็อตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "ลอร์เรน ฉันคิดว่าเธอจะแตกต่างจากทิฟฟานี่ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอก็เป็นพวกสารเลวที่ไร้ยางอายเหมือนกัน""คาร์ลี่ เธอกำลังพูดเรื่องอะไร... อ่ะ! อย่าเข้ามาใกล้นะ! ได้โปรดอย่าทำร้ายใบหน้าของฉัน!" เมื่อเห็นว่าชาร์ล็อตจะเดินเข้ามาใกล้ ลอร์เรนก็ตื่นตกใจและเอามือทั้งสองปิดหน้าของเธอ "แซคคารี รีบช่วยฉันเร็ว..."ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค แซคคารีก็อุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นหัวใจของชาร์ล็อตเหมือนถูกทิ่มแทงด้วยของมีคมเมื่อได้เห็นฉากนี้ ความเจ็บปวดรวดร้าวฉายผ่านดวงต
'พระเจ้า! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายหญิงคอนเนอร์เย็นชาและใจแข็งกว่านายท่านรองในบางแง่มุมกันนะ?’ ลูคัสอยากจะร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่ไหล ชาร์ล็อตปฏิเสธที่จะอยู่ในห้องของเธออีกต่อไป เธอโยนแก้วลงบนพื้น หันกลับมา แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น เห็นได้ชัดว่าลอร์เรนมีไอคิวและอีคิวสูงเป็นพิเศษ เธอตีบทแตกกระจุย ชาร์ล็อตวิเคราะห์จากทุกมุมแต่ไม่สามารถหาวิธีที่จะเปิดเผยเธอได้ ที่จริงแล้ว ถ้าไม่ใช่จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ชาร์ล็อตคงจะรู้สึกว่าลอร์เรนไม่ใช่คนเลวเลย ลอร์เรนเป็นงูพิษที่ร้ายกว่าทิฟฟานี่เสียอีก "นายหญิงคอนเนอร์ คุณรู้สึกดีขึ้นไหมครับ หากคุณเป็นแบบนั้น ผมอยากจะให้คำแนะนำแบบเดียวกันกับคุณ ตรงไปตรงมามากขึ้นกับนายท่านรอง…” "พอได้แล้ว!" ชาร์ล็อตตัดบทลูคัส “นายไม่ใช่คนขับรถส่วนตัวของเขาเหรอ? ลอร์เรนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาอาจจะพาเธอไปโรงพยาบาล ทำไมนายไม่ไปขับรถล่ะ?” “เพราะว่า…” ลูคัสลังเล “เพราะนายท่านรองเร็วมาก ผมตามเขาไม่ทันครับ” ชาร์ล็อตตกตะลึง "ฮะ? ทำไมเขาถึงรีบร้อนขนาดนั้น?” “คุณลอร์เรนมีเลือดออกเยอะ นายท่านรองตกใจมาก เขาวิ่งเร็วกว่ากระต่ายซะอีกตอนที่อุ้มเธอ เขาขึ้นรถก่อนที่ผมจะต
“พูดจบแล้วรึยัง?” "ยัง!" ชาร์ล็อตรู้ว่า ถ้าเธอเงยหน้าขึ้นและมองดูสายตาที่เย็นชาและสง่างามของแซคคารี เธอจะกลัวจนสมองตื้อและไม่กล้าที่จะตะโกนใส่เขาอีกต่อไป ดังนั้น เธอจึงก้มศีรษะลงอย่างดื้อรั้น “แฮะ แฮะ… มันตลกมากที่ได้ยินนายเรียกลอร์เรนว่า 'ลอรี่' ตอนนี้เธอไม่ใช่ป้าของนายหรอกเหรอ? ใครจะใช้ชื่อเล่นน่ารัก ๆ แบบนี้กับป้าของพวกเขากันล่ะ คุณคอนเนอร์? ฉันเดาว่านายเป็นคนเดียวนะ” “มีอะไรอีกไหม?” แซคคารีถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ชาร์ล็อตส่ายหัว เธอได้พูดทุกอย่างที่จำเป็นต้องพูด เธอจะยอมรับทุกอย่างที่แซคคารีมีไว้เพื่อล้างแค้นให้ลอร์เลน “เอาล่ะ ไปโรงพยาบาลกับฉันเดี๋ยวนี้” แซคคารีตอบอย่างแน่วแน่ด้วยเสียงแม่เหล็ก ชาร์ล็อตขมวดคิ้วสวยของเธอ “ทำไมฉันต้องไปโรงพยาบาล?” “เพื่อขอโทษป้าของฉัน” แซคคารีตอบ เขาดูสง่างามราวกับพระราชา ชาร์ล็อตรู้สึกราวกับว่ามีระเบิดปรมาณูระเบิดอยู่ในหัวของเธอ “ฉันไม่ไป!” เธอเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงความกลัวของเธอ สายตาที่ชัดเจนของเธอไม่ยอมแพ้ “ฉันบอกนายแล้วว่าฉันไม่เคยทำร้ายเธอ ฉันจะไม่ขอโทษเธอ หัวใจของนายเจ็บแทนเธอรึไง? นายจะลงโทษฉันเพื่อเธอได
ณ โรงพยาบาล... ลอร์เรนนอนอยู่บนเตียง ครึ่งบนของร่างกายเธอพันด้วยผ้าพันแผล เมื่อชาร์ล็อตตามแซคคารีเข้ามา ลอร์เรนก็เหลือบมองเธออย่างเฉยเมย มุมปากของเธอโค้งเป็นเยาะเย้ย “ดูจากสีหน้าของคาร์ลี่ เธอคงลากเท้ามาที่นี่สินะ คุณต้องพยายามอย่างมากที่จะบังคับให้เธอมา” ใบหน้าที่แกะสลักอย่างสมบูรณ์แบบของแซคคารีไม่มีอาการแสดงอารมณ์ใด ๆ “ฉันไม่สนใจกระบวนการอะไรเกี่ยวกับผลลัพธ์เท่านั้น แต่เธอมาที่นี่เพื่อขอโทษเธอแล้ว” เขาหันไปทางชาร์ล็อต “เธอสัญญากับฉันระหว่างทางมาที่นี่ใช่ไหม? ถึงเวลาทำตามสัญญาได้แล้ว” แซคคารีพูด น้ำเสียงของเขาไม่เย็นชาอีกต่อไป ชาร์ล็อตกัดริมฝีปากของเธออย่างขุ่นเคือง แม้จะฝืนใจอย่างหนัก แต่เธอก็มองไปที่ลอร์เรนและโพล่งออกมาอย่างไม่เต็มใจ “ขอโทษ!” “เหอะ” การเยาะเย้ยของลอร์เรนแรงยิ่งขึ้น “ฉันดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความจริงใจในคำขอโทษของพี่เลยนะ ฟังดูเหมือนฉันเป็นหนี้พี่บางอย่างมากกว่า ฉันขอโทษนะพี่คาร์ลี่ แต่ฉันทนไม่ได้ที่จะยอมรับคำขอโทษนั้น” "เธอ…" ชาร์ล็อตซึ่งเต็มไปด้วยความแค้น ระเบิดอารมณ์เมื่อได้ยินความคิดเห็นของลอร์เรน จากนั้นเธอก็ยิ้ม “เหอะ! โอ้ ลอร์เรน เธอช่า
“ห่วงเรื่องของตัวเองเถอะ” ลอร์เรนยืนนิ่งอยู่กับที่ขณะยืนอยู่ต่อหน้าแซคคารี เธอยื่นมือออกไปพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเขา เธอรู้สึกราวกับว่ามีถังน้ำเย็นจัดวางบนหัวของเธอ ดวงตาที่สวยงามและสดใสของเธอกลับว่างเปล่าราวกับว่าพวกเขาสูญเสียโฟกัสไป “เรื่องของฉันไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอ” เสียงเย็นชาของแซคคารีพูดกับเธออีกครั้ง ร่างที่สง่างามของลอร์เรนสั่นเทา จากนั้น มุมริมฝีปากของเธอก็โค้งเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่น “แซคคารี ฉันรู้มาตลอดว่าคุณใจร้าย แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะใจร้ายกับฉันจริง ๆ ” คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวบางของแซคคารีได้รับการพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเด็ดขาด “ทำไมต้องเปลืองแรงพยายามกับคนที่เธอไม่สนใจด้วย” คำพูดเหล่านั้นเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดที่ลอร์เรน คำว่า "เปลืองแรงพยายามกับคนที่เธอไม่สนใจ" เป็นเหมือนน้ำแข็งที่เจาะหัวใจของเธอ 'แซคคารี! ครั้งหนึ่งเขาเคยตามใจฉันอย่างไม่สิ้นสุดและห่วงใยฉันอย่างมาก ตอนนี้เขาเชื่อว่าการแสดงความเมตตาทุกครั้งของฉันเป็นการเปลืองแรงงั้นเหรอ!' ดวงตาของลอร์เรนเต็มไปด้วยน้ำตา "ฉันเข้าใจ คุณตามใจพี่คาร์ลี่มาก เธอหยิ่งและตะโกนใส่คุณ แต่คุณไม่โกร
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา