Share

บทที่ 73

Author: ลั่วหูโยว
ใช่แล้ว ข้อมูลที่เธอได้รับเปลี่ยนไปจริงๆ นี่แสดงให้เห็นว่าลางสังหรณ์ของเธอนั้นถูกต้อง

เฉินหยินอู้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หยิบข้อมูลกลับมา แล้วก็พับเก็บไป

หลังจากเก็บเสร็จแล้ว เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ และพูดกับฉินเย่ "ที่จริงแล้ว ฉันรู้สึกว่าคุณย่ากลัวการผ่าตัด ช่วงบ่ายเมื่อกี้ คุณไม่ควรบอกคุณย่าว่าจะต้องผ่าตัดล่วงหน้าเลย"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็สะดุ้ง

"งั้นหรอ?"

"อืม"

เขามองเธอ และเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า สิ่งที่เธอพูดในโรงพยายบาลก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องซี้ซั้ว

เธอบอกว่าที่เธอเป็นห่วงคุณย่าของเขานั้นไม่ใช่เพราะตัวเขา

ประโยคนี้ไม่ได้พูดด้วยความโกรธและน้อยใจ

เธอถือคุณย่าของเขาเป็นคุณย่าของเธอจริงๆ

เมื่อคิดเช่นนั่น ฉินเย่ก็เปิดริมฝีปากของเขาออก แล้วพูดว่า "อืม ผมเข้าใจแล้ว ผมจะปลอบคุณย่าทีหลัง"

เนื่องจากปัญหาของคุณย่าถูกหยิบยกขึ้นมา ความสงบสุขระหว่างทั้งสองก็เกิดขึ้นเล็กน้อย

แต่หลังจากหัวข้อเกี่ยวข้องกับคุณย่าจบลง ทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

คนขับที่ขับอยู่ข้างหน้ารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ตอนที่ขึ้นรถมา บรรยากาศตึงเครียดมากขนาดนั้นแท้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 74

    แต่เมื่อมองจากอีกมุมหนึ่ง ฉูฉู่ก็คือคนที่เขาชอบ และเขาก็จริงใจกับเธอมากตอนนี้เสิ่นหยินอู้เข้าใจแล้ว แต่จากมุมมองของเธอเอง เธอก็ยังคงไม่เห็นด้วยแต่ไม่มีวิธีที่จะตกลงกัน ยังไงช่วงนี้ก็คงยังต้องแกล้งทำเป็นปกติไปก่อนเสิ่นหยินอู้ออกมาหลังจากอาบน้ำ แล้วก็เห็นฉินเย่นอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนเขาอาจจะเหนื่อยจึงถอดเสื้อคลุมออกแล้วนอนหลับตาอยู่ตรงนั้นเมื่อได้ยินเสียง เขาก็ลืมตาขึ้นและมองไปทางเสิ่นหยินอู้เสิ่นหยินอู้มองไปที่เขา แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าหยินอู้กำลังจ้องมองเขาอยู่ ดวงตาของพวกเขาจึงสบกันโดยไม่คาดคิด และเธอก็มองออกไปทางอื่นด้วยความประหม่าในทันทีฉินเย่ไม่สนใจ และถามด้วยน้ำเสียงที่สบายๆว่า"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?"จากนั้นเสิ่นหยินอู้ก็ตอบกลับอย่างทื่อๆว่า"อืม"“งั้นผมไปอาบน้ำนะ”หลังจากพูดเช่นนั้น ฉินเย่ก็ลุกขึ้นและเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเขาออกมาอีกครั้ง มันก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมงฉินเย่เช็ดผมที่เปียกชื้นด้วยผ้าแห้งแล้วเดินออกมา ทันใดนั้น เขาก็หยุดและมองไปที่เสิ่นหยินอู้ซึ่งนอนหลับอยู่ข้างเตียงมีหมอนอยู่ข้างหลังเธอและมีหนังสืออยู่ในมือ โคมไฟเปิดอยู่ และเธอก็ฟุบไปอย่างเงียบๆโดย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 75

    "อืม สงบศึก"เสิ่นหยินอู้พยักหน้าเบาๆ "เรากลับมาทำตัวเหมือนแต่ก่อนกันเถอะ โอเคไหม?"เหมือนแต่ก่อน?ฉินเย่ดีใจกับคำพูดของเธอ และเขาก็พูดติดอ่างเล็กน้อย“คะ คุณหมายความว่า...”เสิ่นหยินอู้เหลือบมองเขา จากนั้นลดสายตาลงและพูดอย่างจริงจัง "ฉันคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังระหว่างทางกลับมา อารมณ์ของคุณย่าดูเหมือนจะมั่นคงมากแล้ว และการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหา แต่ท้ายที่สุดแล้ว การผ่าตัดจะดำเนินการในอีกครึ่งเดือนต่อจากนี้ ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องเถียงกันในเวลานี้ ฉันกลัวว่าคุณย่าจะสังเกตเห็นและจะส่งผลต่อเธอ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็รู้สึกเหมือนเขาได้เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา“คุณหมายถึง……”“คุณไม่เข้าใจที่ฉันหมายถึงเหรอ? ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก ดังนั้นเราต้องร่วมมือกัน หลังจากครึ่งเดือนนี้ คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ แล้วแต่ที่คุณต้องการ ไม่มีใคร หรืออะไรสามารถรั้งคุณได้ "เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมันชัดเจนมาก“คุณเป็นคนฉลาดและคุณควรจะเข้าใจสิ่งในที่ฉันพูด”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็กระตุกมุมปากของเขา ใช่ เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?กล่าวอีกนัยห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 76

    หลังจากลุกขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็อาบน้ำตามปกติ และเมื่อเธอเห็นฉินเย่กำลังแต่งตัว เธอก็เข้ามาผูกเน็คไทให้เขาใต้ตาของฉินเย่มีรอยคล้ำอย่างเห็นได้ชัด เมื่อคืนนี้คนข้างๆเขานั้นหลับสบาย แต่ตัวเขาเองกลับนอนไม่หลับทั้งคืนจนกระทั่งฟ้าสว่าง เขาถึงจะรู้สึกง่วงเล็กน้อยหลังจากนอนหลับได้สักพัก เขาก็ได้ยินเสียงลุกของคนข้างๆฉินเย่ยังนอนหลับไม่สนิท ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นเพราะอาการนอนไม่หลับ บวกกับปฏิกิริยาของเธอทำให้เขาไม่มีความสุข และเขาไม่มีที่ที่จะแสดงความไม่พอใจออกมาได้ ฉินเย่จึงแสดงท่าทีที่หยาบคายเล็กน้อยเมื่อเขาผูกเนคไท และยิ่งหมดความอดทนมากขึ้นเขาไม่คิดว่าเธอจะมาผูกเน็คไทให้เขาในเวลานี้"ฉันผูกให้"เธอพูดเบา ๆหลังจากได้ยิน ฉินเย่ก็ลดสายตาลงและจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตาเสิ่นหยินอู้จงใจหลีกเลี่ยงสายตาที่จ้องเขม็งของเขา และพูดเบาๆ "คุณก้มลงหน่อย ไม่งั้นฉันจะผูกไม่ถึง"ฉินเย่เม้มมุมปากของเขา เขาไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขากลับไม่ก้มลงไปเสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่เขาฉินเย่เม้มริมฝีปาก "ในที่สุดก็กล้าสบตาผมแล้วหรอ?"เสิ่นหยินอู้ "..."เกิดอะไรขึ้นกับเขาอีก? เมื่อคืนเรายังค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 77

    ในวันนั้น ฉินเย่สามารถพูดได้เลยว่า มันเป็นการทานอาหารเช้าด้วยใบหน้าที่ขุ่นเคืองมากเนื่องจากเขาหันหลังให้กับพวกคนรับใช้ พวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเขาได้ พวกเขาเห็นเพียงแค่คนสองคนที่พูดคุยกันอย่างใกล้ชิดจากด้านหลัง จึงคิดว่าพวกเขากลับมาคืนดีกันอีกครั้งแล้วเนื่องจากช่วงนี้เสิ่นหยินอู้มีวันลาพักร้อนประจำปี เธอจึงไม่ได้ไปที่บริษัทและไปโรงพยาบาลทุกวันเพื่อติดตามอาการของคุณนายฉินเป็นเวลาหลายวันแล้วที่คุณนายฉินมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเสิ่นหยินอู้นั้นมีอารมณ์ที่สงบมากในช่วงนี้สิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นไปตามที่เธอคิดไว้ ครึ่งเดือนนี้ เวลาสามสี่วันก็ผ่านไปได้อย่างรวดเร็วบางครั้งเมื่อเธออยู่คนเดียวเงียบๆ เธอก็จะลูบท้องของเธอเบาๆทัศนคติของเธอก็เปลี่ยนไปแล้วจริงๆเมื่อเธอรู้ว่าเธอท้องเป็นครั้งแรก เธอยังคงสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับลูกของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกได้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเด็กในท้องของเธอเป็นหนึ่งเดียวและมีหัวใจดวงเดียวกันกับเธอ และเธอก็ทุ่มเทให้กับเด็กในท้อง และก็รู้สึกรักมากขึ้นเรื่อยๆแม้แต่ในกรณีที่ เธอมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 78

    เสิ่นหยินอู้ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอแค่กระตุกมุมปากแล้วพูด "ไม่หละ ขอบคุณ" การปฏิเสธของเธอทำให้ชายคนนั้นตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเจียงฉูฉู่ก็พูดว่า "โจวจ้ง ขอนมร้อนให้เธอสักแก้วก็พอ" ชายที่ชื่อโจวจ้งพยักหน้าตอบ"โอเค ฉันจะไปทำ พวกเธอคุยกันไปเถอะ" ก่อนที่เขาจะเดินออกไป โจวจ้งอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเสิ่นหยินอู้อีกครั้งเจียงฉูฉู่เห็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นในสายตาของเธอทั้งหมด หลังจากที่โจวจ้งเดินออกไป เธอก็ยิ้มให้เสิ่นหยินอู้ และพูดว่า "เธอมาแล้ว งั้นก็นั่งลงเถอะ"เสิ่นหยินอู้เหลือบมองเธอแล้วนั่งลงตรงหน้าของเจียงฉูฉู่เจียงฉูฉู่มองดูชุดที่เธอสวมอยู่ และพูดเบา ๆ ขณะที่มองดูนั้นว่า "โจวจ้งเป็นเพื่อนที่ฉันเจอที่ต่างประเทศ เขาเป็นคนใจกว้าง หลังจากที่เขากลับมาที่จีน เขาก็เปิดร้านกาแฟแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่สูงมากก็ตาม แต่เขาก็ใช้ชีวิตแบบสบายๆ อีกอย่าง เขาจริงจังกับความสัมพันธ์และอ่อนโยนกับแฟนสาวมาก”เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ เจียงฉูฉู่ก็หยุดไปชั่วคราวและเอ่ยปากออกมาอย่างรอบคอบ "ถ้าเธอหย่ากับเย่แล้วเธอไม่มีที่จะไป ก็พิจารณาเขาได้นะ" -จู่ๆเสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นมาแล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 79

    เสิ่นหยินอู้ไม่จำเป็นจะต้องมองในมุมของเธอ ก็รู้ตัวดีว่ารับไม่ได้แต่เธอคือเสิ่นหยินอู้ไม่ใช่เจียงฉูฉู่เธอคิดได้เฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นจากมุมมองของเธอเองเท่านั้น“น่าเสียดาย ฉันไม่ใช่คนดีขนาดนั้น และฉันก็ไม่ใช่คนที่จะอุทิศตนเอง และเด็กก็อยู่ในร่างกายของฉัน ไม่ว่าฉันจะให้เขาเกิดมาหรือจะให้เขาตายก็ตาม ยังไงมันก็คือสิทธิ์ของฉัน ไม่มีใครกำหนดชีวิตหรือความตายของลูกฉันได้ยกเว้นฉัน”"เธอ……"“ถ้าอยากให้ตอบแทนบุญคุณก็ทำได้ ถ้ามีอย่างอื่นให้ช่วยก็บอกให้ทำก็ได้ แต่นี่คือสิ่งเดียวที่ฉันทำให้ไม่ได้”ลูกของเธอก็ถือเป็นครอบครัวของเธอ และเธอเองก็ลังเลที่จะทำแท้ง แล้วเหตุใดคนนอกจึงสามารถมาตัดสินชีวิตหรือความตายของลูกเธอได้?“ถ้าฉันสั่ง เธอจะทำเหรอ?”“ใช่ ตราบใดที่มันไม่ร้ายแรงจนเกินไป”ต้องตอบแทนบุญคุณ แต่หากความต้องการของเธอมากเกินไปก็อย่าคิดเลยว่าฉันจะทำเจียงฉูฉู่ครุ่นคิดอยู่ขณะหนึ่งในความเป็นจริง ก่อนที่เธอจะมา เธอคิดไว้แล้วว่าเสิ่นหยินอู้จะไม่มีวันเห็นด้วยกับเธอได้ง่ายๆฉินเย่คือใคร คือผู้นำของตระกูลฉินไม่ว่าความมั่งคั่ง อุปนิสัย หรือสภาพส่วนตัวของเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็อยู่ในระดับที่สู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 80

    ภาพของเสิ่นหยินอู้ที่กระโดดลงไปในแม่น้ำเมื่อหลายปีก่อนก็กลับมาในหัวอีกครั้งแน่นอนว่า...มันอันตรายมากแต่เมื่อตอนที่เสิ่นหยินอู้กระโดดลงไปกลับไม่มีสีหน้าที่ลังเลเลย ต่างจากตัวเธอเองในช่วงที่ผ่านมาที่ดูตื่นตระหนกและสับสนและไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองอย่างไรทุกๆคืนในความฝัน ความมืดกัดกร่อนประสาทของเธอ และในภาพนั้นมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างตัวเธอกับเสิ่นหยินอู้ต่อหน้าคนอื่น เจียงฉูฉู่เธอได้รับคำชมจากคนอื่นเพราะเธอสละชีวิตเพื่อช่วยฉินเย่แต่จริงๆแล้ว เบื้องหลังเธอก็เป็นเพียงตัวตลกที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับเสิ่นหยินอู้ ยิ่งเธอช่วยอย่างเต็มใจมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ตัวเองดูน่ารังเกียจและไร้ยางอายที่แย่งความดีความชอบไปมากเท่านั้นคนอื่นต่างก็คิดว่าเจียงฉูฉู่เป็นคนบริสุทธิ์และมีคุณธรรมสูงส่ง แต่แท้จริงแล้ว....ไม่อยากคิด ไม่อยากจะคิด..ทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว และตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าเธอคือผู้ช่วยชีวิตของฉินเย่ และฉินเย่เองก็คิดแบบนั้นเช่นนั้นและเสิ่นหยินอู้คือคนเดียวที่รู้ความจริงนั้น แต่ตั้งแต่การเจ็บป่วยร้ายแรงในครั้งนั้น เธอก็ได้สูญเสียความทรงจำนั้นไปแล้วและเธอก็จะไม่สามารถนึกความ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 81

    เสิ่นหยินอู้เงียบเจียงฉูฉู่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอเต้นตึกตัก แต่ภายนอกยังคงแสร้งทําเป็นสงบเยือกเย็น เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะจะหลอกเสิ่นหยินอู้ได้หรือเปล่าเธอไม่ค่อยรู้จักเสิ่นหยินอู้มากนัก แต่ถ้าพูดถึงสิ่งเดียวที่เธอรู้ก็คือ เสิ่นหยินอู้มีจิตใจที่สูงส่งเป็นพิเศษดังนั้นเจียงฉูฉู่จึงทําได้แค่เริ่มต้นจากทิศทางนี้ ไปพนันสักครั้งเห็นเธอไม่พูดไม่จา มือที่อยู่ใต้โต๊ะของเจียงฉูฉู่ก็เหงื่อออก นางฝืนใจพูดว่า "ทําไม คุณไม่รับปากหรือ?"ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็กวาดตามองเธอเบา ๆ "คุณดูเครียด ๆ นะ?""ฉันเครียดตรงไหน ฉันแค่..."เมื่อถูกเสิ่นหยินอู้สําลักเช่นนั้น เจียงฉูฉู่ก็เกือบจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เธอได้แต่รีบเบรกกลางคัน เอ่ยเสียงเนิบว่า "ได้ งั้นคุณค่อย ๆ คิด"ในเวลานี้ เจียงฉูฉู่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเสิ่นหยินอู้จะจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แต่เสิ่นหยินอู้กลับตกอยู่ในภวังค์ของตนเองจริง ๆ แล้วข้อตกลงนี้ จะเซ็นหรือไม่เซ็นสําหรับเธอก็เหมือนกัน เพราะต่อให้ไม่เซ็นข้อตกลงนี้ นอกจากไปต่างประเทศตามข้อแรก และไม่อนุญาตให้กลับประเทศภายใน 5 ปี เรื่องอื่น ๆ ล้

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status