แชร์

บทที่ 389

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
กล่าวจบ เฉียวลี่ซือก็หยิบโทรศัพท์ออกมายิ้มแย้ม

เสิ่นหยินอู้เองก็เอาหน้าเข้าไปใกล้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน

“ดี ฉันจะได้ช่วยเธอดูด้วยว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมกับเธอไหม”

แต่สุดท้ายเฉียวลี่ซือหารูปอยู่นาน ก็ไม่เจอ

“แปลก ฉันเพิ่งแอบถ่ายไปเมื่อคราวก่อนเองนี่ ถึงแม้จะอยู่ไกลเห็นไม่ค่อยชัด แต่ว่าออร่านั้นสุดจริง หยินอู้ ออร่าที่ออกมาจากตัวเขานะ ฉันรับรองได้เลยว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน”

เสิ่นหยินอู้รออยู่นาน เฉียวลี่ซือก็ยังหารูปไม่เจอ

“อ๊ากๆๆ รูปฉันล่ะ?? รูปเทพบุตรที่ฉันได้มาอย่างยากลำบาก หายไปไหนแล้วล่ะ?”

เมื่อเห็นท่าทีจะเป็นบ้าของเธอแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงจับมือเธอไว้ “ช่างมันเถอะ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร รอให้เธอจีบเขาติดแล้ว ถึงตอนนั้นจะถ่ายแค่ไหนก็ถ่าย”

ได้ยินดังนั้น เฉียวลี่ซือก็ทำหน้าเศร้าโศกเสียใจ

“ไม่รู้ว่าจะจีบเขาติดเมื่อไหร่ รูปใบนั้นฉันแอบถ่ายจากที่มืดด้วยซ้ำไป เธออย่าคิดนะว่าถึงผู้ชายคนนั้นจะมานั่งดื่มเหล้า แต่เขาระมัดระวังตัวมาก ให้ตายเถอะ ต้องเป็นเพราะตอนที่ฉันถ่ายตอนนั้น แล้วเขาหันมาพอดี ฉันก็เลยลืมกดถ่ายแน่เลย”

เมื่อนึกได้ว่าตนพลาดโอกาสสำคัญไป เฉียวลี่ซือก็รู้สึกเสียดายมาก

“อีก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 390

    ได้ยินดังนั้น เสิ่นซือเหนียนก็เงยหน้าขึ้น“น้าเฉียว?”เฉียวลี่ซือที่เดิมยังคล้องแขนเสิ่นหยินอู้อยู่ปล่อยมือออก ถูกเสิ่นซือเหนียนเงยหน้ามองแบบนี้ ทำให้เธอใจละลายในบัดดล แล้วเปลี่ยนเป็นคุณน้าที่ไม่อาจต้านทานได้ทันที“แหะๆๆ มาให้น้าเฉียวจุ๊บหน่อยเร็ว”เสิ่นหยินอู้ “…”พลบค่ำ ตอนที่เสิ่นหยินอู้กำลังทำอาหารอยู่นั้น เฉียวลี่ซือก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกมา เดิมคิดจะเข้าไปช่วยเหลือเสิ่นหยินอู้แต่ตอนที่เดินผ่านห้องรับแขก เธอเหลือบมองเข้าไปข้างในเธอเหลือบไปมองเห็นเสิ่นซือเหนียนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากาน้ำชาพลันชะงักงันไปชั่วขณะท้องฟ้าใกล้จะมืดสนิทแล้ว นอกหน้าต่างเป็นแสงตอนพระอาทิตย์สอดส่องเข้ามากระทบบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเสิ่นซือเหนียนเด็กชายคนหนึ่งนั่งทบทวนบทเรียนอยู่ตรงนั้นอย่างตั้งใจ บนใบหน้าเด็กน้อยนั้นแฝงด้วยกลิ่นอายความเป็นผู้ใหญ่เฉียวลี่ซือยืนมองเสิ่นซือเหนียนอย่างไม่อยากเชื่ออยู่ตรงนั้น แล้วเผยสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมาเป็นเพราะเธอไม่เจอผู้ชายที่ร้านเหล้าคนนั้นนานเกินไป ก็เลยตาฝาดงั้นเหรอ?เธอเห็นเหนียนเหนียนเป็นผู้ชายคนนั้นหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เฉียวลี่ซือก็ใช้มือขยี้ตาตัวเอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 391

    “ตายแล้ว”คำสองคำถูกตอบให้กับเฉียวลี่ซือโดยไม่ทันตั้งตัวเฉียวลี่ซือยังไม่ทันถามจบเลยด้วยซ้ำเธอยืนงงอยู่กับที่ แล้วมองเสิ่นหยินอู้อย่างตะลึงงัน“อะไรนะ?”เสิ่นหยินอู้เงยหน้ามองเธอด้วยแววตาเรียบเฉย แล้วพูดว่า “เป็นอะไร?”“ตะ…ตายแล้ว??”เฉียวลี่ซือไม่คิดเลยว่าจะเป็นคำตอบนี้ หลังจากที่ถามซ้ำไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว เธอก็รู้สึกขายหน้าและรู้สึกผิดมากทำไมเธอถึงได้ยินว่าคนอื่นตายแล้วยังจะถามซ้ำอีกเนี่ย?แม่เจ้าเฉียวลี่ซือรู้สึกผิดมาก ตนถามเรื่องโม่ไป๋ยังดีกว่าอีกเธอก็ว่าแหละ ทำไมเสิ่นหยินอู้ถึงไม่พูดเรื่องที่ผ่านมาแล้วเลย และตอนที่เธอถามโจวชวงชวง โจวชวงชวงก็ทำหน้าพูดยากลำบากใจทุกครั้ง สุดท้ายก็ถอนหายใจพูดกับเธอว่า “เรื่องนี้มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บใจ อย่าถามเลยดีกว่า”ในที่สุดตอนนี้เฉียวลี่ซือก็เข้าใจแล้วว่าทำไมโจวชวงชวงถึงบอกว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เสิ่นหยินอู้เจ็บใจและเข้าใจแล้วว่า ทำไมเสิ่นหยินอู้ถึงได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ ตามลำพัง“ขอ…ขอโทษนะ!!”หลังจากที่รู้สึกตัวแล้ว เฉียวลี่ซือก็รีบโค้งตัวขอโทษเสิ่นหยินอู้“หยินอู้ ขอโทษนะ…ฉันไม่รู้จริงๆ ถ้าฉันรู้แบบนั้น ฉันก็คงไม่ถามแล้ว”เฉ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 392

    _ในห้องสูทของโรงแรมผ้าม่านบังแสงถูกคนเปิดออก ทำให้ห้องสว่างในทันตาแสงที่แยงตาสอดส่องไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเดิมคนที่นอนเป็นร่างศพ ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบสักที คนคนนั้นขมวดคิ้วแล้วลืมตาขึ้น“ตื่นแล้วเหรอ?”เสียงผู้ชายดังมาจากบนโซฟาฉินเย่ที่เพิ่งตื่นจากที่นอนใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงของใคร…จี้ชิงเป่ยด้วยแสงที่แยงตา ทำให้เขาหลับตาลงอีกครั้งเพราะแสบตา และนอนต่อไปไม่ขยับตัวแต่จี้ชิงเป่ยรู้แล้วว่าเขาตื่นแล้ว เมื่อเห็นเขาไม่ยอมสนใจตน จึงได้พูดขึ้นเองว่า “นายคิดจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน?”คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่สนใจเขาดูเหมือนจี้ชิงเป่ยจะรู้แล้วว่าเขาไม่มีทางตอบตนแน่นอน จึงพูดต่อจนจบ แล้วต่ออีกประโยค โดยไม่รอให้เขาตอบเลย“หมอบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าร่างกายของนายห้ามดื่มเหล้าแล้ว?”คนบนเตียงยังคงไม่ตอบนิสัยของจี้ชิงเป่ยเป็นคนใจเย็นมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เขาเองก็อดหัวเราะเยาะออกมาไม่ได้“หรือว่าคิดจะทำให้ตัวเองตาย แล้วปล่อยให้พ่อแม่นายส่งนายไปก่อนล่ะ?”หลังจากพูดจบ จี้ชิงเป่ยก็ไม่พูดอะไรใดๆ อีก เพียงแค่นั่งรออยู่ตรงนั้นผ่าน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 393

    แต่ถึงเธอจะพูดแบบนั้น ฉินเย่ก็ไม่อธิบายอย่างอ่อนโยนให้กับเธอเหมือนแต่ก่อนอีก แต่เพียงแค่ยืนอยู่กับที่ แล้วมองเธอด้วยสายตานิ่งเงียบจนกระทั่งสายตานั้นจ้องเจียงฉูฉู่จนไม่เป็นตัวเองเจียงฉูฉู่ทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ฉันล้อเล่นน่ะ คุณจะไม่อยากรับสายฉันได้ยังไง? จริงสิ ชิงเป่ยล่ะ? เมื่อคืนตอนฉันโทรหาคุณ เขาบอกว่าคุณดื่มหนัก คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ปวดหัวไหม?”จากนั้นเธอพูดไปมากมาย แต่ฉินเย่ก็ตอบแค่ว่า “ไม่เป็นไร”หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสวมเสื้อเจียงฉูฉู่ยืนอยู่กับที่ มองดูแผ่นหลังอันเย็นชาของเขา ก็รู้สึกเจ็บปวดใจถึงขีดสุดตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน ฉินเย่กับเสิ่นหยินอู้หย่าร้างกันไป เสิ่นหยินอู้เองก็ออกจากประเทศไปทันที ทั้งโลกก็หายไปตั้งแต่นั้นมาเจียงฉูฉู่ตะลึงใจที่เธอจะทำตามสัญญา ในขณะเดียวกันก็คาดหวังให้ฉินเย่สู่ขอเธอให้เร็วหลังจากหย่าร้างแต่ไม่รอให้เธอได้ดีใจ ฉินเย่ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาไปหาเธอ แล้วบอกเธอว่า “ขอโทษนะ ผมคงทำตามสัญญาไม่ได้แล้ว”จากนั้นเจียงฉูฉู่ก็ยืนงงอยู่กับที่ผ่านไปนานพอควร เธอถึงจะฝืนยิ้มออกมา“ทำไมล่ะ? เพราะเรื่องลักพาตัวเหรอ? จนถึงตอนน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 394

    ขอแค่เธอยอมรอต่อไป บวกกับเรื่องที่เธอเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขา ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องซาบซึ้งในตัวเธอแน่นอนหลายปีมานี้ แม้แต่พ่อฉินแม่ฉินยังใจอ่อนกับเธอเลย ตอนแรกพวกท่านไม่ยอมและไม่อยากยอมรับเธอ แสดงต่อเธอด้วยท่าทีเพียงแค่เป็นผู้มีพระคุณเท่านั้น ชื่อเรียกสนิทสนมอย่างอื่น เธอไม่ได้รับมันเลยแต่พอเวลานานเข้า เธอไม่สามารถทำให้ฉินเย่ใจอ่อนได้ แต่กลับทำให้พ่อแม่ของฉินเย่ใจอ่อนได้เหมือนอย่างงานประมูลครั้งนี้ มีของที่แม่ฉินอยากได้อยู่ด้วย ดังนั้นเธอจึงหาบัตรเชิญมาได้สองใบ ให้พวกเขาสองคนไปด้วยกันเจียงฉูฉู่รู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่แม่ฉินสร้างให้กับเธอและฉินเย่เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงฉูฉู่ก็เดินไปเคาะประตูห้องนอน แต่ไม่กล้าเดินเข้าไป เพียงแค่ยืนพูดอยู่หน้าประตูว่า “เย่คะ งานประมูลคืนนี้ คุณจะไปไหม?”ฉินเย่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์อยู่ พอได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปชั่วขณะเขาไม่อยากไปจริงๆ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีของที่แม่ฉินอยากได้ แม้ฉินเย่จะไม่อยากไปแค่ไหน สุดท้ายก็ตัดสินใจขอทำตัวเป็นลูกที่ดีของแม่“รู้แล้ว”เขาตอบกลับมานิ่งๆเมื่อได้ยินว่าเขายอมไปด้วย เจียงฉูฉู่ที่ยืนอยู่หน้าป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 395

    เจียงฉูฉู่ไม่คิดว่าฉินเย่จะอยากส่งตนกลับไปสีเลือดบริเวณริมฝีปากของเธอจางหายไป แล้วส่ายหน้าโดยสัญชาตญาณ“ไม่ ฉันไม่กลับ นานๆ ทีฉันจะมีโอกาสมาออกงานกับคุณ เย่คะ…ฉันไม่ได้ออกงานกับคุณนานมากแล้วนะ คุณอย่าไล่ฉันเลยนะ?”เธอน้ำตาคลอเบ้าในทันใด แล้วมองฉินเย่ด้วยสีหน้าน่าสงสารฉินเย่มองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“ฉันรู้ว่าเรื่องที่ฉันเคยช่วยชีวิตคุณไว้มันทำให้คุณรู้สึกกดดัน แต่ตอนนี้คุณช่วยลืมเรื่องนั้นไป แล้วคิดซะว่าฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่กำลังตามจีบคุณอยู่ได้ไหม?”เธอได้ใช้วาทศิลป์ตอนพูดประโยคนี้ภายนอกเธอดูเหมือนบอกให้ฉินเย่ลืมเรื่องที่ตนเป็นผู้มีพระคุณ แต่ความจริงแล้วกลับกำลังย้ำเตือนเขาว่าตนเป็นผู้มีพระคุณของเขาเธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ไพ่ใบนี้เช่นกันแต่ตอนนี้ เธอไม่มีอะไรแล้ว เธอเหลือแค่ไพ่ใบนี้ใบเดียวเท่านั้นหากแม้แต่ไพ่ใบนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ล่ะก็ ถ้างั้นเธอก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้วแต่ที่โชคดีคือ สำหรับเรื่องนี้แล้ว ฉินเย่ก็ยังคงรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณเธอมาก เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชาอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะขยับแขน“ไม่มีครั้งหน้าอีก”ได้ยินดังนั้น เจียงฉูฉู่ก็คล้องแขนเขาเอาไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 396

    “พกร่มมาไหม?” เสิ่นหยินอู้ที่นั่งอยู่กับเด็กทั้งสองคนอยู่แถวหลังถามขึ้นได้ยินดังนั้น ผู้ช่วยเฉินพลันส่ายหน้า“ไม่ได้พกมาครับ ไม่คิดว่าวันนี้ฝนจะตก”เสิ่นหยินอู้ดูไปที่รอบๆ แล้วตัดสินใจ“ข้างหน้าเหมือนจะมีร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงนะ เดี๋ยวช่วยจอดริมถนนให้หน่อยได้ไหม?”ตอนแรกเป็นแค่ฝนปอยๆ แต่พอหลังๆ ก็เริ่มตกหนักขึ้นแทบจะมองไม่เห็นถนนเลย ดังนั้นตอนที่มาถึงสถานที่จัดงาน ก็สายซะแล้วคนในงานน้อยมากผู้ช่วยเฉินหยิบบัตรเชิญออกมา ท่าทีของคนที่อยู่หน้าประตูเปลี่ยนเป็นเคารพนอบน้อมทันที“ขอเชิญทั้งสองมาทางนี้ครับ”การที่เสิ่นหยินอู้มาร่วมงานประมูลเพื่อการกุศลครั้งนี้ ความจริงแล้วมาในนามของโม่ไป๋ ซึ่งแน่นอนว่าโม่ไป๋ต้องนั่งที่นั่งแขกระดับสูงอยู่แล้วดังนั้นพนักงานจึงพาเสิ่นหยินอู้และผู้ช่วยเฉินไปที่โซนแขกวีไอพีแต่เพราะพวกเขามาสาย งานประมูลจึงเริ่มขึ้นแล้ว ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ ก็ต้องเดินตัดหน้าคนอื่น เสิ่นหยินอู้จึงคิดแล้วพูดกับพนักงานว่า “เดี๋ยวเรานั่งข้างหลังก็ได้ค่ะ”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของพนักงานต้อนรับพลันเปลี่ยนไป“ได้ยังไงครับ? ทั้งสองเป็นถึง…”เสิ่นหยินอู้ยิ้มตอบ “ไม่เป็นไรค่ะ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 397

    เสิ่นหยินอู้ไม่ตอบเขาหลังจากผ่านไปสิบกว่าวินาที ผู้ช่วยเฉินก็ยกมือลูบจมูกของตนอย่างเก้อเขินอาจเป็นเพราะพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองมากเกินไป ทำให้เขาพลั้งปากพูดแบบนั้นออกมาลำพังแค่คิดในสิ่งที่ตนพูดออกมาเมื่อกี้นี้ ผู้ช่วยเฉินก็รู้สึกเสียใจมากแล้วแต่โชคดีที่หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เสิ่นหยินอู้ก็ทำลายบรรยากาศนั่นด้วยตนเอง“ผู้ช่วยเฉิน ของประมูลชิ้นถัดไป คุณช่วยเสนอราคาให้ฉันที“ชิ้นถัดไป?” ผู้ช่วยเฉินรีบเปิดหนังสือประมูลดู พบว่าของประมูลชิ้นถัดไปเป็นกำไลน้ำงามชิ้นหนึ่ง“คุณหนูเสิ่นชอบอันนี้เหรอครับ?”ผู้ช่วยเฉินมึนงง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเสิ่นหยินอู้จะชอบเครื่องหยกแต่โชคดีที่โม่ไป๋กำชับไว้ก่อนแล้วว่า หากระหว่างงานเสิ่นหยินอู้ชอบอะไร ก็ให้เขาเสนอราคาให้ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ต้องประมูลไว้ให้ได้ แล้วค่อยคิดบัญชีที่เขาเสิ่นหยินอู้ยิ้มแย้ม ไม่ตอบอะไร“โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว”เมื่อของประมูลชิ้นถัดไปออกมา ผู้ช่วยเฉินก็รีบนั่งตัวตรงทันทีดูเหมือนของที่ต้องประมูลต่อจากนี้ก็คือของชิ้นสุดท้ายที่ว่านั้นเสิ่นหยินอู้มองดูท่าทีจริงจังของ

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status