Share

บทที่ 292

Author: ลั่วหูโยว
โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาสั่น ฉินเย่ได้สติ รีบยืนขึ้นและถอยหลังไป

เสิ่นหยินอู้ที่กำลังอยู่ในห้วงความฝันขมวดคิ้วเบาๆ ทำท่าเหมือนจะตื่น

ฉินเย่รีบออกจากห้องนอนก่อนที่เธอจะตื่น

เขามองโทรศัพท์ มันเป็นข้อความขยะ เขาล็อคหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความรำคาญและวางลงบนโต๊ะข้างๆ

ยังมีกลิ่นอายของเสิ่นหยินอู้หลงเหลือบนริมฝีปากของเขา ฉินเย่พิงโซฟาและหลับตาลง เขาแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆ

เขารู้สึกเหมือน ถูกสะกด

สิ่งที่เขาต้องการ...... บางที จี้ชิงเป่ยอาจจะพูดถูก

คิดถึงเรื่องนี้ แววตาฉินเย่ก็หม่นลงเล็กน้อย

-

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ตื่น เธอได้ยินว่าฉินเย่กลับมาตอนกลางคืน แต่เมื่อถาม ก็ได้ยินว่าเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ เธอหัวเราะในใจทันที

ต้องหลบเธอขนาดนี้เลยเหรอ? จำเป็นไหมเนี่ย???

กลับมาดึกก็แล้ว แล้วยังออกไปแต่เช้า?

เขาอยากหย่าหรือไม่อยากหย่ากันแน่?

หลังจากทานอาหารเช้า เสิ่นหยินอู้บอกคุณแม่ฉินว่า "แม่คะ วันนี้แม่ไปโรงพยาบาลคนเดียวนะ หนูอยากเข้าไปที่บริษัทซักหน่อย"

คุณแม่ฉินพยักหน้าทันทีที่ได้ยิน

"หนูไปเลย รีบไปเร็วๆ ถ้าหนูไม่ไป ฉินเย่จะยิ่งต่อต้าน เขาอยู่ที่บริษัททั้งวัน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 293

    ฉินเย่เม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไรอีกถึงจะหลบหน้าเธอจริงๆ แล้วมันยังไง?“คุณต้องการอะไรกันแน่? ก่อนหน้านี้เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่ารอคุณย่าผ่าตัดเสร็จแล้วเราจะหย่ากัน พอคุณย่าผ่าตัดเสร็จแล้ว คุณก็บอกว่ารอให้คุณย่าพักฟื้นให้หายดีก่อน จนตอนนี้คุณย่าเกือบจะหายดีแล้ว คุณก็ยังไม่ยอมหย่ากับฉัน”
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาคิดอะไรอยู่
ถ้าจะพูดถึงก่อนหน้านี้ ที่เขาคิดว่าระหว่างเธอกับเจียงหนิงชวนและโม่ไป๋มีอะไรบางอย่าง ทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขาถูกทิ่มแทงแล้วรู้สึกโกรธ ก็พอเข้าใจได้แล้วตอนนี้ล่ะ มันคืออะไร?
คำถามของเธอเข้าไปในโสตประสาทของฉินเย่ ราวกับใบมีดนับไม่ถ้วน ตกลงบนตัวเขา ใบมีดคมกริบ กรีดผิวหนังของเขาจนเลือดออก
ความโกรธพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา เสียงก็เย็นชาลงอีก และเริ่มพูดโดยไม่คิด"คุณย่าเพิ่งผ่าตัดได้ไม่นานเอง? คุณจะรีบอะไรขนาดนั้น คุณเคยบอกผมเองว่าคุณย่าเหมือนย่าแท้ๆของคุณ นี่เหรอคือวิธีที่คุณดูแลท่าน? คุณไม่สนใจเลยหรอว่าข่าวการหย่าของเราจะทำให้ท่านรู้แล้วอาการกำเริบขึ้นมาอีก? เสิ่นหยินอู้ คุณมีหัวใจบ้างไหม?"
ถ้าเป็นเมื่อก่อน คำพูดของเขาอาจจะข่มขู่เธอได้แต่ตอนนี้ เป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 294

    ฉินเย่พูดออกมาจริงๆ ว่าไม่อยากหย่ากับเธอเขารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่?ถ้าเขาไม่หย่ากับเธอ แล้วเขาจะแต่งงานกับเจียงฉูฉู่ได้ยังไง?
ก่อนหน้านี้เขาพูดมาตลอด ว่าตำแหน่งข้างกายเขา ต้องเก็บไว้ให้เจียงฉูฉู่ไม่ใช่หรอ?
เสิ่นหยินอู้ถือโทรศัพท์นั่งเหม่ออยู่ในออฟฟิศของเขา จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงห้ามจากหน้าประตู"คุณเจียง ผมบอกแล้วว่าประธานฉินไม่อยู่ที่บริษัท ถึงคุณจะไปหาเขาที่ออฟฟิศก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้ในออฟฟิศไม่มีใครอยู่เลย""ผู้ช่วยหลี่ ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน แต่ยังไงฉันกับเย่ก็เป็นเพื่อนกัน คุณโกหกว่าฉันเขาไม่อยู่ แบบนี้ไม่ดีเลยนะ?""ผมจะโกหกคุณทำไม? มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหกคุณ ประธานฉินออกไปข้างนอกจริงๆ""เขาออกไปหรือไม่ได้ออกไป คุณให้ฉันไปดูสักแปปก็ไม่ได้เหรอ? ถ้าไปแล้วไม่เจอ ฉันจะไปทันที"ระหว่างการโต้เถียงกัน ทั้งคู่ก็เดินมาถึงหน้าประตูออฟฟิศแล้ว ผู้ช่วยหลี่ไม่อยากให้เจียงฉูฉู่ขึ้นมา แต่ถ้าเจียงฉูฉู่จะขึ้นมา เขาก็ไม่กล้าใช้กำลังห้ามเธอ
เขารู้ว่ายังไงเจียงฉูฉู่ยังสำคัญในสายตาของฉินเย่ดังนั้น เขาทำได้แค่ห้ามเธอไว้ตลอดทาง แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายเธอก็ยังขึ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 295

    “ถ้าฉันจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้เราเคยตกลงกันไว้แล้วว่าถ้าคุณนายฉินผ่าตัดเสร็จ พวกเธอจะจะหย่ากันใช่ไหม?” ฉูฉู่มองไปที่เสิ่นหยินอู้ด้วยสายตาที่ดูถูก ราวกับว่ากำลังมองดูบุคคลที่น่าสะอิดสะเอียน น้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “แต่คุณนายฉินผ่าตัดเสร็จไปนานแล้ว ทำไมเธอยังไม่หย่าล่ะ? เสิ่นหยินอู้ คงไม่ใช่ว่าเธอโลภกับตำแหน่งของคุณผู้หญิงฉิน ก็เลยคิดที่จะละเมิดข้อตกลงของเราและไม่คิดที่จะหย่าสินะ?" ลงกับฉินเย่ไม่ได้ ก็มาพูดจาประชดประชันเธอ ถ้าเจียงฉูฉู่ไม่เคยช่วยเธอไว้ เสิ่นหยินอู้คงจะด่าทอเธอไปแล้ว เธอกลอกตาอยู่ในใจ และพูดอย่างไม่สนใจใยดีว่า "จะว่าไป ปัญหานี้ฉันก็อยากจะถามคุณหนูเจียงด้วยว่าจะให้ฉินเย่หย่ากับฉันเมื่อไร?" เมื่อได้ยิน สีหน้าของเจียงฉูฉู่ก็เปลี่ยนไป “พูดอะไรของเธอ? ให้ฉินเย่หย่ากับเธอ?” "ไม่งั้นล่ะ?" เสิ่นหยินอู้เลิกคิ้ว "ฉันมาหาเขาก็เพื่อเรื่องนี้ แต่เขากลับหลบหน้าฉัน คุณหนูเจียง ความสัมพันธ์ของคุณกับฉินเย่นั้นดีมากไม่ใช่หรอ ช่วยฉันโน้มน้าวเขาหน่อยแล้วกัน" เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เจียงฉูฉู่ก็เข้าใจว่าตัวเองถูกเธอเย้ยหยันอยู่สีหน้าของเธอจึงบึ้งตึงในทันที เดิมทีเธอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 296

    ได้ยินดังนั้น เจียงฉูฉู่ก็โกรธจัด กัดฟันกล่าว “อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างหน่อยเลย เธอรู้ทั้งรู้ว่ามันไม่เหมือนกัน”“ชีวิตคนเหมือนกัน ไม่เหมือนกันตรงไหน?”“ชีวิตคนอะไร นี่เพิ่งนานแค่ไหนเอง? ก็แค่ตัวอ่อนเท่านั้นแหละ!”“อ้อ คุณหนูเจียงไม่เคยเป็นตัวอ่อนมาก่อนเลยเหรอ?”“…”ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถต่อบทสนทนานี้ไปได้อีกเจียงฉูฉู่ตระหนักบางอย่างขึ้นได้ แล้วหรี่ตามองเสิ่นหยินอู้“ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะไม่ชอบฉันเอามากนะ? เกิดอะไรขึ้น เราไม่ใช่ศัตรูกันไม่ใช่เหรอ?”“คุณหนูเจียงเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้มองว่าคุณเป็นศัตรูเลย”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักเล็กน้อย แล้วถามว่า “แต่เราก็ไม่ใช่เพื่อนกัน ไม่ใช่เหรอคะ?”เรื่องนี้เจียงฉูฉู่ไม่ปฏิเสธเธอไม่เคยมองเสิ่นหยินอู้เป็นเพื่อนมาก่อน แม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่เคยถึงแม้จะรู้ว่าเสิ่นหยินอู้เป็นเพื่อนของฉินเย่ แต่เธอก้ไม่สามารถมองเสิ่นหยินอู้เป็นเพื่อนได้ เพื่อนวัยเด็กของฉินเย่คนนี้รับมือยากมาก และเป็นการมีอยู่ที่เธอคิดมากๆ ที่สุดเมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ เสิ่นหยินอู้จึงหัวเราะออกมา “ดูท่าแล้วคุณหนูเจียงเองก็คิดเหมือนกันสินะ”เจียงฉูฉู่ไม่ป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 297

    ออกจากบริษัทฉิน เสิ่นหยินอู้เพิ่งมาถึงข้างล่างตึก ก็ได้รับสายจากโม่ไป๋“ทำไมวันนี้ถึงแวะมาที่บริษัทล่ะ?”คำพูดนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ชะงัก “นายรู้ได้ยังไง…”พูดไปครึ่งประโยค เสิ่นหยินอู้ก็เหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ แล้วมองไปทางที่จอดรถก่อนหน้านี้เป็นไปตามคาด เธอเห็นรถคันคุ้นตาหนึ่งจอดอยู่ตรงนั้น“นายมาที่นี่ได้ยังไง?”“บังเอิญน่ะ” โม่ไป๋ที่อยู่ปลายสายหัวเราะออกมา “สัญญาที่คุยกันคราวก่อนน่ะ แวะมาจัดการให้เสร็จ”เมื่อพูดถึงคราวก่อน เสิ่นหยินอู้ไม่มีข้อสงสัยใดๆอีกอย่างแม้ว่าโม่ไป๋จะไม่พูดถึงคราวก่อน เธอก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยเช่นกัน เพราะช่วงนี้เธอไม่ได้เข้าบริษัทเลย โม่ไป๋ไม่มีทางมารอเธอที่นี่แน่คงไม่ได้มาทุกวันหรอกมั้ง?ไหนๆ ก็พบกันแล้ว เสิ่นหยินอู้จึงก้าวเท้าเตรียมจะเดินไปหาแต่ใครจะคิดว่าเธอเพิ่งก้าวเท้าออกไป ก้ได้ยินโม่ไป๋พูดขึ้นว่า “เธออย่าขยับ เดี๋ยวฉันให้คนขับรถขับไปตรงนั้น”“ไม่ต้อง แค่ไม่กี่ก้าวเอง เดินไปก็ได้”ไม่คิดว่าโม่ไป๋จะตอบว่า “เธออยากหย่าไม่ใช่เหรอ?”ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้พลันหยุดฝีเท้า “เกี่ยวอะไรกันด้วย?”“เกี่ยวสิ”เสิ่นหยินอู้ “…”คิดไม่ตกจริงๆ ว่าโม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 298

    หลังจากที่โม่ไป๋ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา “เธอไม่เกรงใจจริงๆ ด้วย”“แหง่สิ ตอนนี้ฉันกินเก่งมาก กลับคำตอนนี้ยังทันนะ”โม่ไป๋คิดๆ แล้วกล่าวว่า “จ่ายไหวน่ะ”จริงๆ เขาอยากพูดว่า เลี้ยงไหวน่ะ แต่ทว่าพูดแบบนี้ในเวลานี้ดูจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ และอาจทำให้เธอตกใจวิ่งหนีไปก็ได้มั้ง?ต้องค่อยเป็นค่อยไประหว่างทางไปร้านอาหาร โม่ไป๋ถามเธอเรื่องฉินเย่หลังจากที่ได้ทราบว่าตอนนี้ฉินเย่กำลังหลบหน้าเธอ ไม่ยอมหย่า ดวงตาที่อยู่ข้างหลังแว่นตาของโม่ไป๋พลันตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน ก็กลับมาเป็นปกติ แล้วยกมุมปากขึ้นวิธีการของฉินเย่อยู่เหนือความคาดหมายของตนจริงๆเขาหันไปมองเสิ่นหยินอู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง แล้วถามเบาๆ ว่า “ถ้างั้นตอนนี้เธอคิดยังไง?”“อะไร?”“ถ้าเขายังยืนยันว่าจะไม่หย่า เธอจะเป็นคุณผู้หญิงฉินต่อไปไหม?”เป็นคุณผู้หญิงฉินต่อไป?ไม่อยู่แล้วเสิ่นหยินอู้ตอบในใจ เธอไม่ได้ชั่วขนาดนั้นสักหน่อย ไม่ว่าตอนนี้ฉินเย่จะคิดยังไงถึงได้ไม่อยากหย่ากับเธอกะทันหันแต่ตราบใดที่เจียงฉูฉู่ยังเป็นผู้มีพระคุณของเขาอยู่หนึ่งวัน เขาก็จะไม่มีทางตัดขาดกับเจียงฉูฉู่แน่นอนในเรื่อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 299

    “เป็นไปไม่ได้หรอก”ถ้าหากเขารู้แล้วมา เสิ่นหยินอู้อาจจะเชื่อแต่ถ้าจะบอกว่าเขารีบมาล่ะก็ เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นนั้นมีน้อยมาก“ดูท่าแล้วความคิดของเราจะต่างกัน ถ้างั้นก็ตามนี้ ถ้าเขามา ฉันช่วยเธอ”พูดมาขนาดนี้แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก ทำได้เพียงถามว่า “แล้วนายจะช่วยฉันยังไง?”โม่ไป๋ยิ้ม แต่ไม่พูดเสิ่นหยินอู้ “…”ทำตัวลึกลับทำไมร้านอาหารที่พวกเขาจองไว้ไกลพอสมควร ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึง ตอนลงรถ โม่ไป๋ยังคงเปิดประตูให้เธอเหมือนเดิมเสิ่นหยินอู้กล่าว “ไม่ต้องแล้วมั้ง ฉันเปิดเองได้น่ะ”“แสดงละคร ต้องแสดงให้สมจริง”“…”เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงลงรถตามเขา แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารก่อนมา โม่ไป๋ได้จองที่นั่งไว้ก่อนแล้ว ที่นั่งอยู่ที่ชั้นสอง เป็นที่นั่งเดี่ยวที่เข้าใกล้บานหน้าต่างใสตั้งแต่นั่งลง จนกระทั่งสั่งอาหารเสร็จ ใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณแปดนาทีเสิ่นหยินอู้ยังคงคิดถึงคำพูดของโม่ไป๋ ดังนั้นจิตใจก็เลยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเธออยากหันกลับไปหลายครั้ง ดูว่าฉินเย่จะมาเหมือนที่โม่ไป๋พูดไหม แต่ทุกครั้งที่เธอคิดจะหันกลับไป ก็จะบังคับ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 300

    เมื่อคิดเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ปฏิเสธอีกต่อไป เธอผ่อนคลายลงราวกับยอมจำนนโม่ไป๋เองก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายของเธอไม่สิ จะบอกว่าเธอผ่อนคลาย สู้บอกว่าเธอเหมือนท่อนไม้ที่ลอยอยู่บนคลื่นทะเลอยู่เนิ่นนานดีกว่า เธอที่ฝ่าลมฝนอันหนักหน่วงมา ไม่อยากต่อต้านใดๆ อีกแล้ว เพียงแค่อยากปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยไปตามยถากรรมเมื่อเห็นเธอแบบนี้แล้ว โม่ไป๋ทั้งหมดหนทางและเจ็บปวดใจถึงแม้จะเป็นท่อนไม้ แต่ก็ต้องการให้คนตักและดูแลอย่างระมัดระวังเหมือนกันระหว่างนั้น มือของโม่ไป๋ที่กอดเธอไว้ค่อยๆ บีบแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจากนั้น เขาเงยหน้าขึ้น ยกมุมปากมองไปที่ฉินเย่ที่อยู่ข้างนอก กำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาด้วยสีหน้าบูดบึ้งรอยยิ้มนั้น แฝงด้วยชัยชนะอยู่เล็กน้อยรู้จักกันมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่โม่ไป๋ใช้รอยยิ้มแบบนี้กับฉินเย่ตุบ!ฉินเย่ก้าวเท้าเดินเข้ามา แล้วต่อยเข้าที่คางของโม่ไป๋ราวกับหมัดเหล็กพร้อมกระชากเสิ่นหยินอู้ให้มาอยู่ข้างหลังตนทว่าหมัดเดียวไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธในใจของเขาได้หลังจากที่เขากระชากเสิ่นหยินอู้มาข้างหลังแล้ว ก็กระชากคอเสื้อของโม่ไป๋พร้อมต่อยลงไปอีกหมัด เส้นเลือดบนหน้าผาก

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status