"มึงไปไหนมา รู้ไหมว่าตอนนี้ กูเป็นขี้ปากชาวบ้านถึงไหนต่อไหนแล้ว!!"เพี๊ยะ!!"เฮ๊ย!" ชนกันต์เห็นแบบนั้นเขาก็รีบถอดหมวกกันน็อคออก แล้วรีบทิ้งมอเตอร์ไซค์กระโดดเข้าไปช่วยเธอ ..จนรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คู่ใจล้มไม่เป็นท่า "ใจเย็นก่อนสิครับ" ชายหนุ่มเข้าไปบังเธอที่ยืนกอดอกให้แม่ตีแบบไม่หลบ"นายกลับไปซะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับผลักร่างของเขาออก"เดี๋ยวนะ ไอ้นี่มันหน้าคุ้นๆ นะแม่" พี่ชายซึ่งยืนสะใจอยู่ ก็ได้สังเกตผู้ชายที่น้องสาวออกไปด้วย"เอ่อใช่" แม่ก็เลยได้สังเกตหน้าผู้ชายบ้าง"ฉันบอกให้นายกลับไปไง ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!" หญิงสาวยังคงไล่และผลักเขาให้ไปที่มอเตอร์ไซค์"มึงจะรีบไล่ผัวมึงไปไหนวะ" คนที่พูดก็คือพี่ชาย"เขาไม่ใช่ผัวฉันสักหน่อย พี่อย่ามาปากหมานะ" น้อยครั้งนักที่เธอจะกล้าขึ้นเสียงกับพี่ชายแบบนี้"อ้าวอีนี่เดี๋ยวกูก็ก้านคอหรอก.. ว่าแต่ผมจำได้แล้วแม่" พอคิดได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครพี่ชายก็รีบหันไปพูดกับผู้เป็นแม่"แม่ก็จำได้" ที่ทุกคนจำเขาไม่ได้ในทันที เพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้าน นอกจากคนที่ไปยืมเงินพ่อของเขา เท่านั้นที่พอจะผ่านตาอยู่บ้าง"ลูกชายของเสี่ยชนะนี่" แม่กับพี่ชายพูดขึ้นพร้อมกัน
วันต่อมา.."วันนั้นฉันก็บอกแม่ของแกไปแล้วนี่ แต่ทำไม.." ทอรุ้งเป็นอีกคนที่ได้ยินข่าวนี้ แล้วก็รีบมาหาแพรไหมที่บ้าน พอเห็นสภาพของเพื่อนที่ถูกแม่ตี มันทำให้เธอตำหนิตัวเอง ที่เป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นมา"ช่างมันเถอะ ถึงคราวตายแล้วมั้ง" แพรไหมพูดออกมาเหมือนกับคนที่ปลงตกแล้ว"แกอย่าพูดแบบนี้อีกนะไหม แล้วนี่ชนกันต์มันว่ายังไงบ้าง""ไม่ต้องไปพูดถึงเขาได้ไหม" ..แค่ดึงเขาเข้ามาข้องเกี่ยวกับครอบครัวของเธอก็รู้สึกเกรงใจจะแย่อยู่แล้ว"ฉันไม่พูดถึงก็ได้ แกพักผ่อนนะ" ทอรุ้งออกมาจากบ้านของแพรไหมก็ตรงไปที่บ้านชนกันต์ เพราะยังไงเธอก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง จะทิ้งแพรไหมไว้แบบนี้คงไม่ได้"คุณกันต์ไม่อยู่ครับ" คนที่พูดก็คือบอดี้การ์ดของพ่อชนกันต์"แล้วเขาไปไหนคะ""เห็นบอกว่าไปช่วยงานศพบ้านเพื่อนครับ""รู้ไหมคะว่าที่ไหน""ไม่รู้หรอกครับ""ค่ะ" หญิงสาวออกมาก็เลยกดโทรศัพท์ไปหา ที่เธอไม่โทรก่อนหน้านั้นก็เพราะอยากจะคุยกันแบบเห็นหน้า[งานศพ]"ใครโทรมา ทำไมมึงถึงไม่รับ""ไม่มีอะไรหรอก" แค่เขาเห็นว่าเป็นใครที่โทรมา ก็รู้แล้วว่าโทรมาเพราะเรื่องอะไรชนกันต์เป็นอีกคนที่หวงความอิสระมาก เพราะเพื่อนทั้งสี่คนก็ยังไม่มีใครมีค
ขบวนขันหมากจากไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพราะตั้งหลักไม่ถูก วันนั้นยังเดินเรื่องเพื่อที่จะไปทำงานต่างประเทศอยู่เลย แต่มาวันนี้ ต้องกลายเป็นเจ้าสาวที่เขาไม่สนใจ แถมเจ้าบ่าวก็เป็นคนที่อยู่สูงเกินที่จะเอื้อม "หนู""คะ" แพรไหมสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเสี่ยชนะชัย ยิ่งมาอยู่ร่วมบ้านแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เธอประหม่า"หนูไม่ต้องตกใจหรอก เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป" เสี่ยชนะชัยหมายถึงว่า ตอนนี้เธอเป็นลูกสะใภ้ ยังไงเสี่ยก็คงไม่ทำรุ่มร่ามเหมือนแต่ก่อน"ค่ะ""เอาของขึ้นไปบนห้องเลย""บนห้องเหรอคะ""ก็ห้องไอ้กันต์มันไง เดี๋ยวให้แม่บ้านพาขึ้นไป" ว่าแล้วชนะชัยก็เรียกแม่บ้านให้พาเธอขึ้นไปแพรไหมเดินตามแม่บ้านขึ้นไปที่ชั้นบนก๊อก ก๊อก "คุณกันต์คะ""ครับ" ได้ยินเป็นเสียงป้าแม่บ้านชนกันต์ก็เลยเดินมาเปิดประตูให้ พอเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่กับป้า สีหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยนไป"กระเป๋าของคุณไหมค่ะ""เอาไปไว้เรือนหลังเล็ก"แม่บ้านทำหน้าสงสัย ทำไมถึงไม่ให้เจ้าสาวอยู่ในห้องด้วย"เดี๋ยวผมจะไปค้างที่นั่น ให้ใครไปทำความสะอาดด้วย""ได้ค่ะ" แม่บ้านก็เลยคิดว่าเขาคงต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะบ้านหลังใหญ่อยู่
พอได้ยินว่าเขาไปตั้งแคมป์กับพวกเพื่อนๆ เธอจะทำอะไรได้ ก็ในเมื่อตัวเองเป็นคนบอกเองว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาแพรไหมช่วยแม่บ้านทำความสะอาดบ้านจนเสร็จ เธอก็ออกมาหาอะไรทาน พอทานข้าวเสร็จก็เลยแวะไปเล่นกับทอรุ้ง เพราะคิดถึงฟ้าใสด้วยแหละ"คิดถึงน้ามั๊ยคะคนเก่ง" มาถึงก็ไม่ค่อยได้พูดคุยเอาแต่หยอกหลาน และฟ้าใสก็กำลังน่ารัก ชอบอ้อน"ทานข้าวด้วยกันก่อนนะไหม""กินมาแล้ว""ฉันนึกว่าแกจะมากินข้าวเช้าด้วยกัน""ไม่หรอก เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะกลับบ้านไปนอนแล้ว คืนนี้จะไปทำงานที่คาราโอเกะอีก""แกยังทำงานอยู่เหรอ""ไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาใช้"ทอรุ้งได้แต่จ้องมองหน้าเพื่อน ค่าสินสอด 5 ล้านบาท แถมแต่งกับลูกชายเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ไม่สิจะเรียกว่าประจำจังหวัดเลยก็ได้ "ฉันขอโทษแกด้วยนะ ที่เป็นคนทำให้แก..""จะขอโทษฉันทำไม แกรู้ไหมว่าแกช่วยปลดปล่อยฉันได้มากเลยแหละ""ช่วยปลดปล่อยยังไง""ฉันไปล่ะ.." พูดไปก็เท่ากับสาวไส้ตัวเองออกมา แพรไหมก็เลยเลือกที่จะไม่พูด ..ที่บอกว่าปลดปล่อย เพราะเธอไม่ต้องทนแม่กับพี่ชายอีกแล้ว แค่ทนอยู่กับคนที่เขาไม่สนใจ ถือว่ามันยังเล็กน้อยมากเย็นวันเดียวกันนั้น..แพรใหมขับรถ
เช้าวันต่อมา.."เมื่อคืนเห็นไอ้เจ้ากันต์มันกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ""คะ?" แพรไหมที่เพิ่งจะเดินลงมาจากบ้าน ถึงกับตกใจเสียงถามนั้น "เออค่ะ""แล้วตอนนี้มันไปไหนแล้วล่ะ มีเรื่องจะคุยกับมันก็ไม่ได้คุยสักที"เธอจะรู้ไหมว่าเขาไปไหน ยังไม่ได้คุยกันสักคำ"แล้วหนูเป็นยังไงบ้างมาอยู่ที่นี่" เห็นว่าเธอไม่ตอบก็เลยถามเรื่องอื่นไป"ก็..ดีค่ะ" ขณะที่กำลังพูดคุยกับเสี่ยชนะชัยอยู่นั้น ชนกันต์ก็ได้ขับรถเข้ามา"มาแล้วเหรอ พ่อมีเรื่อง..""ไปเก็บกระเป๋า" ชนกันต์ไม่ได้พูดกับพ่อ เขามองมาที่เธอแล้วก็สั่ง"เก็บกระเป๋าไปไหน""จะถามทำไม บอกให้เก็บกระเป๋าก็เก็บ""ถ้าแกว่างแล้วค่อยคุยกับพ่อแล้วกัน" เสี่ยชนะชัยไม่เคยยอมใคร แต่กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน..ก็เป็นแบบที่เห็นนี่แหละแพรไหมกลับเข้าไปในห้องนอน และเก็บของทุกอย่างที่เป็นของเธอ เพราะคิดว่าเขาคงจะพากลับไปส่งที่บ้านแน่"มาขึ้นรถคันนี้" ทีแรกเธอกำลังจะเดินไปเอามอเตอร์ไซค์ของตัวเองออกมา แต่เขาเข้าไปหาแล้วคว้าเอากระเป๋าจากมือเธอมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาเองแพรไหมก้าวขึ้นซ้อนท้ายพร้อมกับรับหมวกกันน็อคจากเขามาสวมใส่"ส่งกระเป๋ามาฉันถือเองก็ได้" หญิงสาวพูดขึ้นเพราะเห็นแล้วม
ใบหน้าคมค่อยๆ ขยับต่ำลงไป หญิงสาวรีบรั้งตัวเขาไว้ไม่ให้ทำเหมือนคืนนั้นชายหนุ่มที่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากพอประมาณ ไม่ฟังที่เธอห้าม เขายังดื้อรั้นขยับต่ำลงไปจนถึงเนินน้องสาว ที่ตอนนี้เขาได้จัดการกับสิ่งกีดขวางเรียบร้อยแล้วริมฝีปากหนาแนบจูบลง แต่วันนี้เขาก็ไม่ได้ทำนานแค่อยากจะชื่นใจ เพียงไม่นานชนกันต์ก็ขยับขึ้นมา พร้อมกับสอดใส่แก่นกายเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย"อือ" นิ้วเรียวเกาะลำแขนแกร่งไว้แน่น เพราะเธอไม่อยากจะส่งเสียงออกมาเหมือนตอนที่อยู่บ้านของเขา ถ้าวันนี้เธอส่งเสียงรับรองว่าเต็นท์ข้างๆ คงไม่ได้นอนแน่ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจว่าเธอจะใช้เสียงหรือไม่ พอแก่นกายเข้าไปได้ที่ชายหนุ่มก็เริ่มขยับ"อื้อ..อืออ" ความใหญ่โตของเขามันทำให้ร่องที่เสียดสีในวันนั้นเริ่มแสดงอาการเจ็บแสบอีกครั้ง แต่แปลกวันนี้เธอเหมือนมีอารมณ์คล้อยตามเขามาก สะโพกงามเริ่มเด้งรับการกระแทก จนคนร่างหนาสัมผัสได้ว่าเธอต้องการมัน"วันนี้คงเปลี่ยนท่าไม่ได้ เพราะเต๊นท์มันเล็ก" เสียงที่เขากระซิบออกมา มันทำให้เธอขนลุกซู่ แต่ไม่ต้องบอกได้ไหม ใครเขาอยากจะรู้ล่ะว่าอยากทำท่าไหนชนกันต์ไม่เข้าใจตัวเอง แต่ก่อนไม่เคยสนใจเธอคนนี้เลย หน้
วันนี้ทานข้าวเสร็จ ชนกันต์ปล่อยให้เพื่อนดื่มกันต่อ ส่วนเขาแอบแฉลบเข้ามาในเต็นท์เข้ามาถึงยังไม่ได้นอนลงเลย ก็เริ่มถอดกางเกงของเธอออกก่อน"นาย!"เขาไม่ได้ตอบ ทำแค่ถอดกางเกงของเธอ รู้แบบนี้ยังไม่ให้ใส่กางเกงขายาวก็ดี เพราะเธอเลือกใส่กางเกงยีนส์"เพื่อนของนายยังนั่งอยู่ข้างนอกกันอยู่เลย" เธอไม่เคยห้ามถ้าเขาต้องการ แต่เธอคงกลั้นเสียงไว้ไม่ได้แน่ เพราะไม่เคยกลั้นได้สักทีแต่ดูเหมือนว่าชนกันต์จะไม่สนใจ พอถอดกางเกงของเธอออกจนหมดแล้ว..ใบหน้าหล่อคมก็ได้ซุกลงไป"อื้อ!" หญิงสาวขยับสะโพกออกห่าง เพราะรู้ดีว่าเขาต้องใช้ลิ้นแน่ ..แล้วมันก็ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามอง "ทำเลยไม่ได้หรือไง" ถ้ามัวแต่ไม่กล้าพูดเดี๋ยวเขาไม่รู้ หญิงสาวก็เลยพูดออกมาตรงๆ เพราะถ้าเขาจะเอาก็ทำเลยแล้วกัน ไม่ต้องมีลีลาอะไรมาก เพราะกลัวว่าจะกลั้นเสียงไว้ไม่อยู่"หือ?" ชายหนุ่มถามกลับด้วยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ"ก็เพื่อนของนายอยู่ข้างนอกเดี๋ยวพวกเขาก็ได้ยินเสียง""เธอก็อย่าครางดังสิ""มันห้ามได้หรือไง""ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ""!!" ยังจะชมตัวเองอีก "อื้ออ" ขณะที่เธอกำลังจ้องเขม็ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปตวัดลิ้นลากยา
ใกล้เที่ยงวันเดียวกันนั้น.. พอทุกคนตั้งแคมป์ไว้เสร็จแล้ว ก็มีกิจกรรมปีนเขาต่อ เพราะได้วางโปรแกรมไว้เรียบร้อยแล้ว"ส่งมือมา" ชนกันต์เห็นว่าเธอเดินขึ้นเนินเขาแบบไม่ค่อยมีแรง ก็เลยยื่นมือไปให้เธอเกาะ"เราจะเดินอีกไกลไหม""ขึ้นไปถึงยอดภู""ยอดภูเลยเหรอ? แล้วเราจะไปทำไม" จะอยู่แคมป์คนเดียวเขาก็ไม่ให้อยู่ ทีแรกคิดว่าตัวเองจะไหวก็เลยยอมตามพวกเขามา แต่พอเดินมายังไม่ถึงครึ่งทางเลยด้วยซ้ำแรงก็เริ่มถดถอย "พักก่อนได้ไหม""ถ้าเดินแบบไม่หยุดอีกชั่วโมงหนึ่งก็ถึงแล้ว" เขาตอบเธอในขณะที่เดินอยู่ข้างๆ กัน"กูว่าให้คุณแพรพักก่อนดีกว่า ผู้หญิงแรงไม่ค่อยมีเหมือนผู้ชายหรอก" มนตรีเห็นแล้วว่าแพรไหมคงจะหมดแรง"แต่กูว่ามึงอย่าออกความคิดเห็นดีกว่าไอ้มนตรี คดีเก่ามึงยังไม่เคลียร์เลย""ขอบใจนะที่มึงเตือนกู" ว่าแล้วเอกกับมนตรีก็เลยรีบเดินตามโตโน่และจรัลไป"มาขึ้น" ทันใดนั้นชนกันต์ก็นั่งยองๆ ลงกับพื้นเอกและมนตรีที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปก่อน ต่างก็หยุดแล้วหันกลับมามอง"นายทำอะไร" ก็รู้แหละถ้านั่งลงแบบนี้คงให้เธอขึ้นหลัง แต่เขาเนี่ยนะจะให้เธอขึ้น"พูดมากบอกให้ขึ้นก็ขึ้นมาสิ..เห็นไหมเดินไม่ทันเพื่อนแล้ว"แพรไหมย่อตัวลงโอ
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 2 ]"เราไม่ได้ไปเยี่ยมคุณป้าร้านเย็นตาโฟนานเลยนะ""หือ??" ดินซึ่งกำลังเคลิ้มใกล้จะหลับ เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และฟ้าใสก็นอนหลับไปแล้วด้วย วันนี้ฟ้าใสอ้อนอยากจะนอนกับพ่อและแม่ ทอรุ้งก็เลยให้ลูกสาวนอนกลาง"ตกใจอะไร เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก" ทอรุ้งตบสะโพกฟ้าใสเบาๆ เพื่อกล่อมให้นอนต่อเช้าวันต่อมา.."ฝากฟ้าใสด้วยนะครับแม่""ได้จ้า..แล้วนี่จะไปไหนกันทำไมรุ้งถึงไปด้วยล่ะ" เดือนถามลูกเขย เพราะวันนี้เขาให้ทอรุ้งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปพร้อมกัน"มีธุระครับ เลยจะพาไปด้วย""รุ้งก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าดินจะพาไปไหน เดี๋ยวตอนเย็นแม่กลับมานะจ๊ะฟ้าใส" หญิงสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวเบาๆนั่งรถมาด้วยกันทั้งสองก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปที่ไหน พอมาถึงบริษัท ทอรุ้งทำได้แค่เดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน"นั่งรออยู่นี่ เดี๋ยวเราประชุมเสร็จจะพาออกไปข้างนอก" ชายหนุ่มพาเธอไปนั่งลงที่โซฟารับแขก แล้วก็เดินกลับมาหยิบเอกสารเพื่อที่จะเข้าห้องประชุม"ทำเป็นลับลมคมในไปได้" หญิงสาวได้แต่พูดพึมพำเพราะตอนนี้เขาออกจากห้องไปแล้วสองชั่วโมงผ่านไป.."ตอนบ่ายผมถึงจะเข้ามานะ" ประตูห้องทำงานถูกเ
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 1 ]หลายวันต่อมา..ชนกันต์เพิ่งจะพาภรรยากลับมาถึงบ้านมาถึงได้เพียงไม่นาน ก็มีคนมาตามบอกว่าแม่ของแพรไหมมาขอพบ แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอไปพบแม่แค่คนเดียวแน่"ไหม.. แม่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" ใบหน้าของแม่แสดงอาการออกมาให้เห็นชัดมากว่าเป็นกังวล"แม่มีอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอ""ไหมช่วยแม่หน่อยนะลูก" หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือไปกุมมือของลูกสาวไว้ เพื่อสื่อให้รู้ว่านางต้องการความช่วยเหลือจริงๆ "ตอนนี้พี่มีเรื่อง.."หึ..แพรไหมยกยิ้มมุมปากแบบรู้ทัน เป็นแบบที่เธอคิดไว้จริงๆ เห็นแค่แววตาของแม่ก็รู้แล้วว่าเรื่องที่แม่มาคงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น "แล้วไงคะแม่ แม่พูดเหมือนกับว่าลูกชายของแม่ไม่เคยมีเรื่องกับใครอย่างนั้นแหละ""ไหม""พี่ธงโตแล้วนะแม่ ปล่อยให้เขาแก้ไขปัญหาที่ก่อขึ้นมาด้วยตัวเองบ้างเถอะ มีเรื่องทีไรแม่ต้องให้ฉันเป็นคนตามแก้ไขให้ทุกครั้ง แทนที่แม่จะเป็นห่วงฉันที่เป็นลูกสาว แต่แม่กลับเป็นห่วง.." หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลแล้ว เพราะเธออายสามีที่เอาแต่ยืนมองอยู่ ถึงแม้จะรู้ว่าเขามองด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ยังอายอยู่ดี"แม่ขอร้องหนูเป็นครั้งสุดท้ายนะลูก ต่อจากนี้ไปแม่จะไ
"เซอร์ไพรส์""????""ทำไมเห็นพวกกูแล้วมึงดูไม่ดีใจเลยวะ"ชนกันต์ยังไม่ได้พูดอะไรกับกลุ่มเพื่อนก็รีบหันไปรูดซิปปิดเต็นท์ไว้ก่อนโชคดีก่อนออกมาเขาได้เอาผ้าห่มคลุมร่างของเธอไว้แล้ว เพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า"พวกมึงตามกูมาถูกได้ยังไงวะ" ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่เพื่อนทั้งสี่"มึงคิดว่าจะแอบมาเที่ยวคนเดียวได้หรือไง ทำไมถึงมาไม่ชวนพวกกูเลยวะ""กูมาคนเดียวที่ไหน มากับแพรต่างหาก""มึงพูดเหมือนกับว่าพวกกูไม่เคยมากับน้องแพรอย่างนั้นแหละ""เออกูยอมแพ้พวกมึงก็ได้ หาที่กางเต็นท์เองแล้วกัน""จะหาทำไมให้ยาก ก็กางมันข้างๆ นี่แหละ" ว่าแล้วพวกเพื่อนๆ ทั้งสี่คนก็ลงมือจัดการกับข้าวของที่เพิ่งจะขนลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์พอมีเสียงกุกกักอยู่ด้านนอก คนที่นอนหลับก็ได้ตื่นขึ้นมา ..แพรไหมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วก็ออกมาจากเต็นท์"พวกคุณมาได้ยังไงคะ" หญิงสาวแปลกใจที่ออกมาแล้วเห็นเพื่อนทั้งสี่คนของเขาครบก๊วนเลย"ตามกลิ่นมันมาครับ""จริงเหรอคะ??" ดวงตางามตวัดมองไปที่ผู้เป็นสามี"ไม่ใช่กลิ่นแบบนั้นครับ" ทั้งสี่ถึงกับขำที่เธอเชื่อเรื่องกลิ่น"มึงก็พูดให้เคลียร์หน่อยสิวะ" มนตรีเอ่ยขึ้นแล้วก็ถือโอกาสอธิบ
พอทานข้าวเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นอยู่ที่หน้าเต็นท์ต่ออีกนานพอสมควร เพราะเขาอยากให้เธอดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืน"หนาวแล้วเข้าไปข้างในกันดีกว่า" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตัก โดยมือหนาโอบกอดร่างของเธอไว้"จะหนาวได้ยังไงนายกอดแน่นขนาดนี้""อึดอัดเหรอ" ได้ยินเธอบอกว่าเขากอดแน่นชายหนุ่มก็รีบปล่อยมือออก แต่เธอกลับคว้าแขนของเขาให้กลับมากอดไว้เหมือนเดิม"ยังไม่ได้บอกว่าอึดอัดสักหน่อย" แพรใหมแนบใบหน้าลงไปแผ่นอกกว้างของผู้เป็นสามี"เข้าไปอ้อนในเต็นท์ต่อดีกว่า" ไอ้นั่นมันแข็งไม่รู้จะแข็งยังไงแล้ว แต่ติดที่อยากให้เธอชมวิวนานๆ หน่อย"นายง่วงแล้วเหรอ""ไม่ได้ง่วงแต่..." สายตามองต่ำลงไปดูความแข็งแกร่งของตัวเองที่มันดันกางเกงออกมา"กันต์" หญิงสาวตะคอกสามีเสียงแผ่วเบาแบบไม่จริงจังนัก"ทนไม่ไหวแล้วนะ!" ชนกันต์พูดพร้อมกับลุกขึ้นกำลังจะอุ้ม แต่ถูกแพรไหมต่อว่า เพราะทั้งสองไม่ได้อยู่สถานที่ลับตาคนหญิงสาวเดินเข้ามาในเต็นท์ ..เต็นท์อันนี้เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ ถ้าให้นอนจริงๆ คงได้ 5-6 คน และมีที่นอนแบบเป่าลม โดยไม่ต้องนอนกับพื้นเหมือนที่เขามากับพวกเพื่อนๆ"เต็นท์แบบนี้ดีจังเลยนะ""ถ้า
"กลับบ้านเรา" มือหนาเอื้อมไปกุมมือของเธอไว้ "อย่าเสียน้ำตากับอะไรแบบนี้อีก" มืออีกข้างเขายื่นไปซับน้ำตาให้ เพราะเขาได้ยินทุกคำที่เธอคุยกับครอบครัว ที่จริงชนกันต์เกือบจะอดทนฟังต่อไม่ได้ แต่เขาต้องรู้ให้ลึกกว่านี้ เพราะถ้าถามเธอคงไม่บอกความจริงแน่"มันไม่ใช่แบบที่น้องเขยเห็นนะ น้องสาวของพี่มันมารยา"พั๊วะ!! ชนกันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหันกลับมาแล้วกำหมัดแน่ๆ ชกเข้าใบหน้าพี่ชายของเธออย่างแรง "เลว""แม่!!" ธงซึ่งตอนนี้ล้มคว่ำลงไปกองกับพื้น รีบตะเกียดตะกายเข้าไปหาแม่ เพราะกลัวว่าจะถูกซ้ำอีก"ไหมฟังแม่ก่อนสิลูก""แม่มันชกผมนะ! แม่ยังจะไปพูดกับมันอีกเหรอ""เจ็บไหมลูก" พอเห็นเลือดที่มุมปากของลูกชาย จากที่กำลังจะรั้งลูกสาวไว้ นางก็เลยนั่งยองๆลงกับพื้น เพื่อซับเลือดให้กับลูกชายก่อน"เจ็บสิแม่ โอ๊ยย""ไม่ต้องไปมอง" ชนกันต์พูดพร้อมกับจูงมือเธอแล้วเดินออกมาจนถึงมอเตอร์ไซค์ "ขึ้นรถ" กุญแจยังคาอยู่กับรถ พอสตาร์ทเขาก็หันมาบอกให้เธอขึ้นที่จริงเขาเดินตามหลังรถของเธอมาจนถึงบ้านหลังนี้ ถ้าขับรถ..เขาคงไม่เห็นอะไรแบบนี้เพราะพวกนั้นคงจะรู้ตัวก่อน"นายตามฉันไปทำไม" หญิงสาวก้าวลงจากรถเมื่อถึงบ้านของเขา"ถ้าไม
"ยังไม่มีใครพูดอะไรหรอก""ยังไม่มีใครพูด??" เพราะคำตอบของเขามันดูแปลกๆ เธอก็เลยสงสัย"ใช่ยังไม่มีใครกล้าตอบเราเรื่องเงินห้าล้าน""นายถามเรื่องเงินเหรอ""มีอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มคิดว่าหรือเธอไม่อยากจะให้เขาพูดเรื่องเงินสินสอดกับครอบครัวของเธอ"ฉันถามว่า นายถามแม่เรื่องเงินเหรอ""ไม่ได้ถามแม่ แต่ถามพี่ชาย""แล้วเขาว่ายังไง""พี่ชายยังไม่ตอบแม่ก็ออกมาก่อน"หึ.. ขนาดเรื่องเงินค่าตัวของเธอแม่ยังปกป้องพี่ชายเลย "ทีหลังนายไม่ต้องไปตามฉันบ้านหลังนั้นหรอก" ความกตัญญูที่มีให้มันไม่สามารถทำให้แม่รักเธอได้เลยเหรอ"ยังงอนเราเรื่องนั้นอยู่เหรอ" เห็นดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอออกมาเขาก็เริ่มใจไม่ดี"อืม" ถึงแม้ว่าเธอจะคิดมากเรื่องครอบครัว แต่กับเรื่องของเขาเธอก็ยังไม่ลืมใครจะไม่โกรธไม่งอนล่ะเล่นเอาเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงคนอื่นมาพูด ถึงแม้ว่าจะเผลอพูดก็ตามที"หึงเหรอ" เห็นท่าทางของเธอแบบนี้ แอบดีใจที่ตัวเองเผลอพูด จะได้รู้ความในใจของเธอด้วย"ไม่รู้ แต่ไม่อยากได้ยินนายพูดถึงผู้หญิงคนอื่น""ไอ้ดิน! มึงจะมาเอาลูกมึงไหม!!" จะง้อเมียก็ง้อไม่ถนัด เพราะตอนนี้มีดวงตากลมโตใสแป๋วของเด็กน้อย มองจ้องพวกเขาทั้งสองอยู
"แต่คนที่คุณกำลังพูดถึงคือน้องสาวของคุณนะครับ""น้องสาวก็น้องสาวสิ คนที่ได้ดีแล้วลืมบุญคุณแม่กับพี่ชายที่เลี้ยงดูมา""ผมขอถามอีกข้อได้ไหมครับ""สำหรับน้องเขยแล้วจะถามเป็นร้อยข้อก็ได้ พี่คนนี้พร้อมที่จะตอบ""เงินห้าล้านไปไหนครับ""เออ..""ธง.. ไหนบอกว่าจะออกไปซื้อกับข้าวไงลูก""ผมลืมเลยครับแม่..กำลังคุยกับน้องเขยอยู่ครับ" ได้โอกาสที่จะเลี่ยงพูดเรื่องเงินห้าล้านบาทพอดี"อ้าวเหรอ กันต์มาตั้งแต่ตอนไหนลูก""สวัสดีครับคุณแม่""ไหว้พระเถอะจ้า""ถ้างั้นแม่คุยกับน้องเขยต่อเลยนะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อกับข้าวให้" พี่ชายรีบชิ่งหนี เพราะไม่รู้จะตอบเรื่องเงินนั้นยังไงดี"เข้ามาคุยกันข้างในก่อนสิกันต์""ไม่หรอกครับ..ผมแค่มา""มาอะไรเหรอลูก" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นลูกเขยไม่พูดต่อ"มาเยี่ยมคุณแม่ครับ เห็นว่าคุณแม่สบายดีถ้างั้นผมขอลานะครับ" ชายหนุ่มรีบกล่าวลาเพราะเขารู้แล้วว่าถ้าแพรไหมไม่อยู่ที่นี่คงไปหาทอรุ้งชนกันต์ก็เลยขับรถมาที่บ้านทอรุ้งทันที และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะรถแพรไหมจอดอยู่ที่หน้าบ้าน"หยอกหลานอยู่ในห้องโน่น" ทอรุ้งเห็นชนกันต์มาก็รู้แล้วว่าคงมาตามหาเมีย"แล้วพ่อกับแม่ล่ะ" เขาถามหาพ่อกับแม่ของ
"ที่นายพูดมาหมายความว่ายังไง" แพรไหมได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดเลย แต่ที่เขาพูดมามันยังไม่ตรงตัวเท่าไร"แล้วที่เธอพูดหมายความว่ายังไงล่ะ" "ก็หมายความว่านายไม่ได้รักฉันไง""ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่รัก" "นายกำลังจะบอกว่านายรักฉันอยู่เหรอ""เออ..." ชายหนุ่มถึงกับพูดต่อไม่ออกเมื่อเห็นสายตาของเธอที่จ้องมองมา "มองฉันสิ" ยังไงวันนี้เธอต้องถามเขาให้รู้เรื่องว่าคิดยังไงกับเธอกันแน่"จะให้มองอะไร อาบน้ำแปรงฟันหรือยัง ถึงจะให้คนอื่นมอง..ดูขี้ตาสิ""กันต์!""คร้าบ" อุตส่าห์พูดกลบเกลื่อน แต่พอถูกเธอตะคอกกลับเท่านั้นแหละ ถึงกับลืมว่าตัวเองต้องวางมาดไว้ก่อนเดี๋ยวเขาหาว่ากลัวเมีย"จะไม่พูดใช่ไหม ดี! ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูด" หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันหลังให้ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง"ดูไม่ออกหรือไง ทำไมต้องให้พูดด้วย" เขารีบพูดออกมาก่อนที่เธอจะงอนมากไปกว่านี้"ดูอะไร""ก็ดูว่าฉันรักเธอไง ดูไม่ออกหรือไง""ถ้านายไม่พูดฉันจะดูออกได้ไง""ใช่! ฉันรักเธอ""ทำไมต้องเสียงดังด้วย" หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"ผมขอโทษครับ" มือหนายื่นไปเช็ดน้ำตาให้กับเธอ "โกรธขนาดนี้เลยเหรอ" เขาคิดว่าเธอโกรธจ
"นายเอากระเป๋าเงินมาให้ฉันทำไม" หญิงสาวถามพร้อมกับมองกระเป๋าที่เขาเพิ่งจะวางใส่มือให้กับเธอ"อยากได้เงินไม่ใช่เหรอ"จะเถียงก็ไม่ได้ เพราะเขาคงจะเห็นครอบครัวของเธอเห็นแก่เงินมาก ลงทุนแม้กระทั่งแห่ขันหมากไปบ้านเจ้าบ่าวเพื่อต้องการเงินค่าสินสอด"ฉันดูแล้ว ในกระเป๋าคงมีไม่พอที่ฉันต้องการ" ว่าแล้วหญิงสาวก็ส่งกระเป๋าเงินคืนให้เจ้าของ"แพร!" ไอ้หนุ่มตะคอกพร้อมกับคว้าแขนของเธอไว้"ปล่อยนะ" แพรไหมโน้มใบหน้าลงไปกัดแขนของเขาทันที โดยไม่รอว่าเขาจะปล่อยหรือไม่ปล่อยกัดแทบเลือดซิบเขาก็ไม่ร้องออกมาสักคำจนเธอยอมปล่อยเอง"พอหรือยัง ถ้าพอแล้วก็กลับ"หญิงสาวยอมเดินตามแรงที่เขาจูง สายตางามแอบมองมือตรงรอยที่ถูกเธอกัดเขาพาเดินมาจนถึงมอเตอร์ไซค์แล้วก็ปล่อยมือ"ขึ้นรถ""ฉันเอารถมาด้วย""เอามาด้วยก็ทิ้งไว้ที่นี่""ทิ้งไว้ได้ยังไงเดี๋ยวมันก็หาย" มันคือสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมี กว่าจะผ่อนหมดเลือดตาแทบกระเด็น"กุญแจรถอยู่ไหนเอาออกมา"พอได้กุญแจรถ ชนกันต์ก็ขับพาเธอออกมาโดยการทิ้งรถของเขาไว้ที่นั่นแทนกลับมาถึงบ้าน แพรไหมก็รีบเดินขึ้นบ้านไปโดยที่ไม่พูดกับเขาสักคำ ..ชายหนุ่มรีบเดินตาม"กลับมาเหนื่อยแทนที่จะพักผ่อน"