ตอนที่ 60NC18+ จุบจิบภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่มีคนร่างนอนกอดกันอยู่บนเตียง แม้ว่าจะมีท่าทีแปลกๆ ใส่กันไปทั้งวัน ทว่าพออยู่ด้วยกันเหมือนร่างกายมันเคยชินกับการขาดอีกฝ่ายไม่ได้ นอนไปสักพักจนได้ยินเสียงฟาลิดาหายใจอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอเข้านิทราไปแล้ว คนตัวโตกว่าที่เริ่มสางเมา พยายามข่มจิตใจสงบใจให้หลับตามอีกคน ทว่าข่มตาอย่างไรมันก็ไม่หลับ ฟาลิดาจะรู้หรือไม่ว่าเขาโหยหาร่างกายของเธอมากแค่ไหน มันปวดหนึบทุกคืนที่เธอไปเที่ยวเกาะนั่น เขาเลยต้องลำบากมือตัวเองในการปลดปล่อยมันไปหลายต่อหลายรอบ ตอนนี้เขาก็ยังปวดหนึบบริการกลางลำอยู่ อยากจะปลุกให้เธอช่วยปลดปล่อยแทบจะบ้าตาย แต่มันติดตรงที่ว่าหลับไปแล้ว ร่างกายของเขาจึงทำได้เพียงแค่พลิกตัวเข้าหาอีกร่าง เห็นแค่แผ่นหลังของอีกฝ่าย เพราะเธอนอนตะแคงหันหลังให้ ชลากรขยับตัวเข้าหา จนกลายเป็นแบบชิดติดกัน เขาเริ่มเบียดตัวเสียดสีไปมาบริเวรส่วนล่างเข้าหาก้นงอน ให้ตายเถอะ.... ทำไมเขาเหมือนไอ้คนโรคจิตเข้าไปทุกที "อ่าส์" เพียงแค่แก่นกายได้สัมผัสความอวบอิ่มของสะโพกมน เขาก็ร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าสักชิ้น แต่กลับรู้สึกถึงความชื้น
ตอนที่ 61เริ่มหึงหวงวันเวลาผ่านไปจนกระทั่งเข้าเดือนที่ 6 ของการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงระหว่างฟาลิดากับชลากรงานที่บริษัทเจ หยาง กรุ๊ป เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น ชลากรจึงมีโอกาสแวะเวียนกลับไปช่วยดูธุรกิจของครอบครัวบ้างแล้วส่วนฟาลิดานั้นก็ยังคงใช้ชีวิตและปรับตัวกับการทำงานในบริษัทไทย เคลิ่ง อยู่เรื่อยๆ และดูท่าว่าจะดีขึ้น ในส่วนของการทำงานและเพื่อนร่วมงาน ทว่าในส่วนของความคลุมเครือภายในครอบครัวของเธอมันยังคาราคาซังอยู่แบบเดิมชลากรได้กลับบ้านบ้างเป็นบางครั้ง แต่ในขณะเดียวกันคนจากบ้านมาไกลอย่างเธอกลับไม่กล้ากลับไปสู้หน้าใครป่านนี้ชาวบ้านคงรู้กันไปทั่ว ว่าลูกสาวเฮียฮั่วร้านขายน้ำเต้าหู้มันหนีตามผู้ชาย"วันนี้เย็นนี้เฮียกลับบ้านนะ เธอจะกลับด้วยไหม?"คำถามนี้จากปากชลากร เขาไม่ได้ถามครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทว่ามันนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่ก็ยังได้คำตอบเช่นเคย คือ"ไม่ค่ะ ช่วงนี้แฟนท์งานยุ่ง" เป็นแบบนี้ทุกทีได้"ก็ได้ แต่งานแต่งไอ้ฉีเดือนหน้า เธอจะไม่กลับจริงๆ หรอ?"เฮียฉีกับผิงจะแต่งงานกันเดือนหน้าแล้ว แต่เพื่อสนิทอย่างเธอกลับลังเลไม่ใช่ไม่อยากไป ไม่ใช่ไม่อยากกลับแต่เข้าใจไหมว่าเธอเป็นผู้หญิ
ตอนที่ 62เดือดชลากรกลับมาที่กรุงเทพฯ ภายในวันต่อมา ทันทีที่เขากลับมาจากชลบุรี เพราะช่วงนี้ต้องไปดูเรือนหอให้น้องชายตามที่ได้รับมอบหมายจากทางบ้านเอาไว้ช่วงนี้เขาไปไหนไกลๆ ได้ไม่ติดที่สักครั้งในใจมันร้อนรุ่มอยากรีบกลับมาเฝ้าอีกคนใจจะขาด ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องมือที่สามมาให้ระแวง เขายิ่งต้องอยู่ใกล้ฟาลิดาวันนี้เห็นในข้อความเธอบอกว่าขอไปกินหมูกระทะกับเพื่อนหลังเลิกงาน คงกลับไม่เกินสองทุ่มเขาก็กระวนกระวาย เพราะนานครั้งที่ยอมปล่อยแม้จะรู้ว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานย่อมมีแต่โอกาสที่ดีเข้ามาเขาควรคิดเช่นนั้น ปล่อยฟาลิดาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เธอควรได้บ้าง แต่แล้วทำไมกัน... ใจของเขามันกลับคิดสวนทางกับสมอง"เลิกงานแล้วรีบกลับไหมคะ?" ฟ้าลดาเปิดประตูโผล่หน้ามาในห้องทำงานเขาของเขา เพราะตั้งแต่วันนั้นที่ร้านเหล้า ความสัมพันธ์ของเขากัยเธอก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน"คุณมีอะไร?""เปล่าค่ะ แค่อยากจะชวนไปกินหมูกระทะ แถวๆ ออฟฟิศนี่เองค่ะ เพิ่งเปิดใหม่""หยางล่ะ?""หยางไปฮ่องกง เฮียลืมไปแล้วเหรอคะ?"เขาทำท่าครุ่นคิด "ก็ได้ รอผมเก็บเอกสารก่อนนะ"สุดท้ายแล้วก็ไม่ปฏิเสธ คิดว่
ตอนที่ 63คนนั่งทานหมูกระทะอึ้งกันทั้วโต๊ะ ในสถานการณ์ตอนนี้ จู่ๆ ก็ดันมีชายปริศนาเข้ามากระชากแขนสาวสวยรุ่นน้องคนสนิทไม่เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้น แต่ยังเหมารวมฟ้าลดาด้วยคน เธอเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าชลากรรู้จักกับน้องสาวของเธอ แล้วก็อาจจะถึงขั้นที่ว่ารู้จักกันดีอีกด้วย"เฮีย... ปล่อยนะ!" ฟาลิดาตกใจตนตัวสั่น ทั้งอายใครต่อใครในร้าน ที่จ้องมา แล้วก็ทั้งอายคนรอบตัวที่เธอรู้จักดีชลากรเกิดบ้าอะไรขึ้นมาเธอเองยังไม่รู้ คำถามมากมายในหัว มันผุดขึ้นมามากมาย ในหนึ่งในนั้นคืออยากรู้ว่าเขามาที่นี่พร้อมกับพี่สาวของเธอได้อย่างไร"ใจเย็นๆ นะครับ ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด" เมทัสลุกขึ้นยืน ห้ามปรามผู้ชายแปลกหน้าที่จู่โจมเข้ามาจากความเป็นไปได้ที่เขาใช้ความคิดในการประเมินสถานการณ์ คาดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนสนิทของฟาลิดาเพราะดูจากสีหน้าแววตาของเขาแล้ว ราวกับว่ามาจับชู้ที่สู่รักแฟนตัวตัวเอง"คุณน่ะ... รู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้มีแฟนอยู่แล้ว" ชลากรดึงมือคนรักให้เข้ามาใกล้ตัวเอง อีกมือก็จับไหล่เล็กเอาไว้แน่น แสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน"เฮียจะพูดทำไม!?" เธอปราม เพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ คนในร้านก็เริ่มมอง"เด
ตอนที่ 64ทำไมต้องเป็นเธอหลายวันต่อมา...ระหว่างคนสองคนยังคงตึงๆ ใส่กันอยู่ไม่เลิกรา ตื่นเช้ามาต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ซานแวะรับส่งแฟนท์เช้าเย็นไม่เคยขาด ทว่าความอึมครึมภายในห้องโดยสารก็ยังคงเป็นเช่นเดิมทุกวันต่างคนต่างไม่คุย ถึงจะคุยก็ไม่กี่ประโยคเป็นแบบนี้บ่อยเข้า จนเริ่มมีเรื่องให้ต้องคิด"เย็นนี้ไม่ต้องมารับนะคะ จะกลับเอง" แฟนท์เตรียมกระเป๋าพร้อมก้าวลงจากรถแต่คนมือไวคว้าแขนเธอมาได้ก่อน"จะไปไหน ทำไมต้องกลับเอง?" จะบอกว่าไม่หึงก็คงยาก เพราะต่างฝ่ายต่างมีเรื่องให้สงสัย เธอยังคิดว่าเขาเปลี่ยนไป ส่วนเขาเองก็เช่นกันภายหลังจากงานแต่งฉี ซานอาจจะต้องพูดกับแฟนท์จริงจัง เรื่องย้ายที่ทำงาน"แฟนท์จะไปซื้อของกับเพื่อนที่ทำงานค่ะ""ใครบ้าง?""หลายคนค่ะ""ดีๆ"แฟนท์เริ่มมองหน้าอีกคนอย่างไม่สบอารมณ์ "ฟู่วว เฮียอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม เมื่อไหร่จะเลิกเป็นแบบนี้กันสักที ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น!"เธอไม่อยากจะขึ้นเสียงใส่ มันดูก้าวร้าว แต่ก็อดไม่ได้หากเป็นแบบนี้นานเข้า มันอาจจะเกินแก้ไขเธอไม่ชอบเลยที่เขาเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนไม่ใช่ เฮียซานที่แฟนท์รู้จัก นิ่ง และ สุขุมมากกว่านี้เอาเฮียซ
ตอนที่ 65เห็นกับตาห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งวันนี้ชลากรมีนัดรับชุดสูท โดยมีพี่สาวของแฟนตนเองหิ้วสอนห้อยตามมาด้วยฟ้าลดาอ้างว่าเธอมีของจำเป็นต้องซื้อ เขาจึงไม่ได้อะไรกับเธอมากความ ก็ดีเหมือนกันที่มีเธอมาด้วย เพราะเขาต้องการใครสักคนที่จะมาช่วยเลือกของขวัญสำหรับน้องสะใภ้ขนมผิงเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารัก ไม่ต่างกันกับแฟนท์ อีกทั้งสอง 2 คนยังเป็นเพื่อนสนิทกัน เขากำลังคิดอยู่ว่าน้องสะใภ้จะของแบบไหน ระหว่างพวกสร้อยคอ หรือจะเป็นกำไลข้อมือ หรือต่างหูเล็กๆ ดีซึ่งตอนนี้ฟ้าลดาคือคนทำหน้าที่ไกด์ไลน์ให้เขาได้"ฟ้าว่าอันนี้ก็ดูน่ารักดีนะคะ ไม่ใหญ่เทอะทะด้วย เหมาะกับผิงมากกว่า"เธอหยิบสร้อยชูขึ้นมาให้เขาดู เป็นสร้อยเพชรรูปดอกเดซี่น่ารัก เพชรเม็ดเล็กแต่น้ำดีเลยทีเดียว"แต่ถ้าเป็นต่างหูล่ะ?" ชลากรคิดว่าถ้าหากเป็นสร้อยคอหรือแหวน น้องชายเขาอาจจะจองพื้นที่ตรงนั้นเอาไว้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคอกับนิ้วของผิงคงต้องมีของเหล่านี้จากน้องชายเขาจึงไม่อยากซื้อซ้ำ หากเป็นต่างหูเล็กๆ คงเหมาะกว่า"งั้นขอดูอันนี้หน่อยค่ะ" ฟ้าลดาชี้นิ้วไปที่ถาดต่างหูเพชรหลายรูปแบบพนักงานจึงยกขึ้นมาให้ดูเธอหยิบอันที่เหมาะสมกับค
ตอนที่ 66ปัญหาสะสม5 วันต่อมา...อ่อกกก!เสียงโครกครากยังคงดังต่อเนื่องอยู่ในห้องน้ำ เป็นเวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมงได้แล้วที่แฟนท์ยังขลุกตัวอยู่ในนั้น ส่วนชลากรออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วเธอรู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปภายในร่างกายของตัวเอง จึงรีบโทรไปแจ้งหัวหน้าแผนกจอลาป่วยกระทันหันในตอนที่ชลากรออกจากห้องไปไม่นาน เขาคงคิดว่าเธอก็จะออกไปทำงานเช่นกัน แต่เปล่าเลย... เธอออกไปร้านขายยามาต่างหากซึ่งสิ่งที่เธอไปได้มาจากร้านขายยานั้นอยู่ในมือที่สั่นเทาของเธอเอง หลังจากอาเจียนไปสองรอบแต่อาการยังไม่ดีขึ้น สิ่งที่สันนิษฐานเอาไว้เบื้องต้นทำให้เธอนอนไม่หลับแทบทั้งคืนในขณะที่ตอนนี้สิ่งๆ นั้น มันได้มาอยู่ในกำมือแล้ว เธอตัดสินใจค่อยๆ คลายมือออก ใจหนึ่งอยากมองให้ชัดๆ เต็มสองตา อีกใจหนึ่งกลับต่อต้านไม่พร้อมรับรู้แต่ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้ว จึงพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วมองให้ชัดเต็มตา"2 ขีด...!"อุทานขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ นี่เธอกำลังจะกลายเป็นแม่คน สิ่งมีชีวิตเล็กๆ กำลังจะเกิดขึ้นในท้องของเธอแต่เพื่อป้องกันความผิดพลาด เธอจึงหยิบเอาที่ตรวจครรภ์อีก 3 แท่งขึ้นมาตรวจเพื่อความแม่นยำ หากขึ้น 2 ขี
ตอนที่ 67ปัญหาเพิ่มมาติดๆปึกก!!เสียงกล่องลังกระดาษถูกทิ้งลงกองตรงหน้าเท้าของคนที่นั่งดูทีวีอยู่ ใบหน้าคมดันแว่นสายตาหันหน้าไปดูกล่องใบนั้น เขาจึงเดาได้ไม่อยากว่าต่อจากนี้เธอจะพูดอย่างไร"เฮียต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ!"เมื่อเช้าเธอเดินทางไปทำงานปกติ โดยที่เขาไม่ได้ไปส่งอย่างเช่นทุกวัน พอเข้าไปในบริษัทแล้ว โต๊ะทำงานที่เคยคุ้น คอมพิวเตอร์ที่เคยใช้ มันกลับถูกถอดปลั๊กออกเพื่อให้รู้ว่าต่อไปนี้จะไม่ถูกใช้งาน'เอ้าน้องแฟนท์มาเก็บของเหรอคะ? นึกว่ามาทำงานแต่งตัวซะดีเชียว''นี่ยัยแฟนท์ จะออกทำไมไม่บอกกันก่อนล่วงหน้า นี่พวกพี่ก็ใจหายกันหมด''แฟนท์... แฟนท์หรอคะ ลาออก?''เอ้า ก็ใช่น่ะสิ ยังไงเนี่ย? ก็ที่เธอลาป่วยไป 2 วันไง แล้วเมื่อวานแฟนเธอก็เป็นคนมาที่นี่เอง บอกว่าเธอไม่สบายหนัก คงไม่กลับมาทำงานที่นี่แล้ว''นี่... อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะ เธอท้องหรือเปล่าเนี่ย? จะกลับต่างจังหวัดไปเตรียมคลอดรึเปล่า บอกพี่ได้นะ พี่ไม่บอกใครหรอก''ใช่ๆ ถ้าเป็นอย่างที่พี่วาดว่า คนท้องในบริษัทเยอะแยะ เธอลองทำไปก่อนไหม ใกล้วันค่อยลาคลอด'และอีกมากมายของการตั้งสันนิษฐานของเพื่อนร่วมงาน ตอนแรกเธอยังแอบตกใจที่พวกเขาเดาถูก
ตอนที่ 783 สัปดาห์ก่อนหน้านี้การเจรจาเรื่องสู่ขอฟาลิดาเป็นไปอย่างราบรื่น เสี่ยชัชชาติสิ้นลายความอีโก้ต่อพ่อของเธออย่างสิ้นเชิงรวมทั้งคู่กรณีด้วย อาจจะเป็นเพราะอำนาจมืดจากฝั่งเมียทั้งสองบ้าน เพราะพวกท่านล้วนหนักแน่นในเรื่องนี้ทั้งสองครอบครัวตกลงกันเรื่องฤกษ์งามยามดีกันไว้แล้ว เดิมทีคุณนายบ้านเจียรกิติอยากจะให้แต่สิ้นเดือนนี้เลย ทว่าฝ่ายเจ้าสาวอย่างเธอนั้นกลับปฏิเสธไปก่อน ด้วยเหตุเพราะมันเร็วเกินไป แม้จะรู้สปีริทของท่านนั้นสามารถเนรมิตวานให้เกิดขึ้นได้จริงเพียงข้ามคืนฟอดดด~"นั่งคิดอะไรอยู่ หืมม?"ร่างเล็กตัวแทบจมลงไปในอ้อมกอดของคนเพิ่งเดินออกมา"อื้ออ แน่นไปแล้วค่ะ" หายใจแทบไม่ออก นับวันชลากรยิ่งทำตัวติดเธอเข้าไปทุกที ทุกวันนี้แทบจะไม่ไปเดินตลาดดูกิจการตัวเองแล้ว เพราะเอาเวลาส่วนมากมาดูแลเมียแทน"ก็คิดถึงเมียนี่นา""กล้าพูด ก็อยู่ด้วยกันตลอด" เช้า สาย บ่าย เย็นก็เจอแต่หน้าเขาเดิมทีในเมื่อเธอเอ่ยปากบอกขอเลื่อนวานแต่งจนกว่าลูกจะคลอด ทางเฮียฮั่วก็ขอให้ฝ่ายนั้นหมั้นหมายลูกสาวตัวเองเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็เพื่อความสะบายใจกันสองฝ่าย แต่ประเด็นหักมันอยู่ที่ ในเมื่อยังไม่ได้แต่งกันวันนี้ ฟาล
ตอนที่ 77อนุญาต"ผมเรียนคุณน้าตรงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเลยนะครับ""!?" นางเกสรแอบใจสั่นกับสิ่งที่ชายร่างสูงกำลังจะพูดต่อจากนี้ชลากรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งเล็ก ก่อนจะหันมาจ้องนัยน์คนที่มีอายุมากกว่าเขา"ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าแฟนท์ได้บอกกับคุณน้ารึยังครับ เรื่องที่เธอท้อง""อะไรนะ!!!!???" คราวนี้ในฐานะคนเป็นแม่ที่มีลูกสาวทั้งสองคน เมื่อได้ฟังเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อนในชีวิต กับบุคคลที่นั่งอยู่ต่อหน้าคือคนเดียวที่ลูกสาวคนเล็กเคยหนีไปอยู่กับเขา พอกลับมาบ้านได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็มาป่าวประกาศว่าท้องจะให้คนเป็นแม่แบบเธอทำอย่างไร"ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษ คุณน้าและสามีคุณน้าด้วยนะครับ ทั้งเรื่องที่ลูกสาวคุณน้าหนีไปอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ และยังจะเป็นเรื่องที่เธอท้อง ผมไม่มีคำแก้ตัวอะไร เพราะมันคือเรื่องจริง ...ผมรักน้องครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมจริงจัง และอยากคบหาน้อง ไม่เคยคิดไม่ดีกับน้อง ไม่เคยทิ้งขว้าง ไม่เคยไม่ให้เกียรติ ส่วนเรื่องความบาดหมางของเฮียฮั่วและป๊าของผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กและก็ไร้สาระมากเลยครับ และผมตะให้มันเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องแน่นอน ที่มาถึงบ้านคุณน้าวันนี้
ตอนที่ 76"จะกลับบ้านใช่ไหม? เดี๋ยวไปส่ง"ใบหน้าคมพยายามปรับอารมณ์ลงให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะมาหาฟาลิดาที่นี่อยู่แล้ว เพราะม๊าของเขาบอกว่าว่าเธอกำลังเปลี่ยนชุด แต่แล้วพอมาถึงกลับผิดพลาดเล็กน้อย เมื่อเจอถ่านไฟเก่าของเธออยู่ด้วยนาทีแรกที่ได้เห็นหน้ามัน แทบอยากจะกระโดดสองขาให้มันลอยติดผนังห้อง เพื่อนน้องชายก็ช่างเถอะเขาไม่สน ในเมื่อมันกำลังมาแตะต้องตัวเมียเขาอยู่ซึ่งไอ้อรรถ มันก็รู้ดีว่าเขากับฟาลิดากำลังคบหากันอยู่"แหม เฮียก็... ทำเป็นอารมณ์ร้อน ของขึ้นไปได้ ผมกับแฟนท์ก็แค่ทักกันตามประสา" อัครเดชทำท่าทางไหวไหล่ เหมือนกับเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว หรืออันที่จริงจะเรียกได้ว่าเขาไม่แคร์กับความสัมพันธ์ระหว่างเฮียซานกับแฟนท์เลยสักนิดก็แค่คนเคยเอ็นดู แต่ตอนนี้เอ็นของอรรถมันมีเจ้าของแล้ว ซึ่งไม่ใช่ฟาลิดาแน่นอนพี่ชายเพื่อนรักจะหวงก้างอะไรนักหนา นึกขึ้นได้ว่าเฮียซานชักเริ่มหวงก้างจนเสียทรง เสียมาดความเนี๊ยบ สุขุม ที่ตัวเขาสร้างมา พอนึกแบบนี้แล้วก็อดขำออกมาไม่ได้แต่แล้วเสียงหัวเราะขบขันของอรรถจำเป็นต้องหยุดะงักลง เมื่อชลากรชี้นิ้วคาดโทษ แม้แต่ฟาลิดาเองที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังต้องหวาดกลัว"
ตอนที่ 75ถ่านไฟเก่าในช่วงใกล้ถึงยามเย็น ตะวันใกล้คล้อยลงเข้ามาทุกที ช่วงนี้เป็นเวลาคู่บ่าวสาวเริ่มเตรียมตัวเข้าหอในไม่ช้าฟาลิดาปราบปลื้มใจแทนเพื่อน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ขนมผิงกับเฮียฉีเข้าเรือนหอตามประเพณีอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เรื่อราวความรักและบททดสอบมากมายระหว่างคู่นี้กว่าจะผ่านพ้นมาได้ ค่อนข้างจะใช้เวลาและความเข้าอกเข้าใจกันมามากพอสมควรเธอเองก็เป็นหนึ่งในตัวละครเรื่องนี้ ย่อมรู้ดีว่ากว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้พวกเขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง สิ่งที่พวกเขาทำมันได้ดีคือการให้อภัยกัน และต้องเข้าใจกัน ปล่อยวางเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่มือบางวางทับทาบหน้าท้องนูนเล็กของตนเอง ท้องแรก หากไม่สังเกตดีๆ คงจะคิดกันไปว่าเธอแค่อวบขึ้น ซึ่งคนในงานแต่งวันนี้คงจะคิดกันแบบนั้น แม้กระทั่งเจ้าสาวในงาน ยังทักเลยว่าเธออวบขึ้นอันที่จริงเรื่องท้อง... เธอไม่ได้อยากจะปิดบังใคร ในเมื่อพ่อของลูกก็ยืนหัวโด่อยู่ในงานด้วยแท้ๆ เพียงแต่มันยังไม่ใช่จังหวะนี้ปัญหาระหว่างเธอกับเขามันยังไม่ถูกเคลียร์ ลึกๆ ในใจเเม้จะบอกเขาไปแล้วว่าต้องการห่างกันสักพัก ทว่าเอาความจริงเลย คือก็รอให้เขามาง้ออยู่ทุกวันอย่า
ตอนที่ 74งานแต่งน้องชายเมื่อได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาอยู่บ้านอย่างที่คาดหวังมาโดยตลอด คุณนายเพลงพิณพอทราบเรื่องราวที่ผ่านมาของลูกชายคนโตบ้างแล้ว นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดไม่ตกมาสักพักใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องบาดหมาง ที่กำลังทำให้ลูกชายเธอต้องยอมปริปากสารภาพความทุกข์ใจที่มันสะสมอยู่มานานพอสมควรโดยเฉพาะเรื่องที่ฟาลิดากำลังตั้งครรภ์เธอจึงหาทางออกอย่างที่คิดว่าสมควรทำแต่ยังไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้แน่นอนคุณนายคนเดียวของตระกูลเจียรกิติอยู่ในชุดไทยสีชมพูอ่อน งดงามตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเผ้าถูกยกขึ้นตีโป่งให้เข้ากับใบหน้ารูปไข่ เครื่องประดับราคาแพงที่ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะได้หยิบมาใส่อวดแขกในงาน แต่แล้วฟ้าก็ดนบรรดานมาให้ตามโอกาสเหมาะสมงานแต่งงานของลูกชายคนเล็กของเจียรกิติ วันนี้แขกเหรื่อในงานเฉพาะคนที่รู้จักเสี่ยชัชชาติก็ปาไปแล้วเกือบทั้งจังหวัด ยังไม่รวมกับสมาคมคุณหญิงคุณนายฝ่ายเธออีกส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวกับฝั่งเจ้าสาวก็มีมากพอสมควร งานแต่งคราวนี้ก็เลยเนื่องแน่นยิ่งกว่างานประจำจังหวัดขณะที่กำลังยืนนิ้มปลื้มปิติในงานวันนี้ ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทสีเดียวกันกับเธอเดินมาดมั่นมาทางนี้"ม๊าครับ งานจะเริ่มแ
ตอนที่ 73ผ่านมา 2 วันแล้วกับการตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้าน ฟาลิดาเอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนไม่ออกไปไหน ไม่อยากออกไปฟังคำแขวะจากปากของป๊าตัวเองที่เอาแต่เย้ยหยันลูกสาวที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแม้แต่เรื่องมันนานมากแล้ว เฮียฮั่วก็ยังไม่เคยลืม หรือคิดจะทิ้งมันไปจากสมองคนตัวเล็กเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปทางหน้าต่าง หลังจากที่ชลากรเป็นคนขับรถมาส่งเธอถึงที่ ได้เข้ามาในบ้านทักทายป๊าม๊าของเธออยู่สองสามประโยคก็กลับไปป่านนี้เขาคงยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเรื่องงานแต่งของฉีกับผิงอยู่เช่นกัน'จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอ?''แฟนท์คิดดีแล้ว''เฮียทำอะไรให้เธอต้องขุ่นข้องหมองใจ พูดกันมาตอนนี้เลยก็ได้ ขอร้องเถอะ โตๆ กันแล้ว แล้วนี่ท้องไส้นับวันยิ่งโตขึ้น อย่าคิดอะไรเด็กๆ แบบนี้ได้ไหม?''คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ... ใช่ไง! ก็เป็นเด็กแบบนี้มาตั้งนานแล้วไง เพิ่งจะรู้?''โถ่เว้ย!' เขาทุบพวงมาลัยเสียงดัง'ป๊าเฮียก็พูดถูก แฟนท์ว่าเราไม่เหมาะกันหรอก หรือเราควรเลิก?''ไม่เลิก! ให้ตายยังไงก็ไม่เลิก เธอกลับไปคิดดีๆ ก็แล้วกันนะ ลูกน่ะ จะอยู่ได้ยังไงถ้าพ่อแม่ต้องแยกทางกัน คิดให้ดี อย่าเอาแต่ใจตัวเอง'คำก็เด็ก... คำก็เอาแต่ใจ งี
ตอนที่ 72"เฮียไม่คิดเลยนะ ว่าเธอจะเป็นเอาหนักขนาดนี้? ช่วยน่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันหน่อยได้ไหม? ทำไมต้องเอาแต่ใจตัวเองด้วย?"คำพูดของเขาดังก้องเข้าโสตประสาทการรับรู้ของเธอได้อย่างชัดเจน คนฟังอย่างเธอสลดใจอยู่ไม่ใช่น้อย ในหัวมันมีคำถามเต็มไปหมดอย่างแรกคือทุกวันนี้เธอไม่น่ารักเหมือนวันแรกที่เจอกันตรงไหนน้ำตาเจ้ากรรมมันเริ่มทำงาน ไล่ขึ้นมาจากทรวงอกจนถึงเบ้าตา หลั่งเอาน้ำสีใสเค็มๆ คลอเคลียอยู่รอวันไปปลดปล่อยอาบสองแก้มนวลใจเจ้ากรรมก็ดันเจ็บปวดกับคำพูดเขาขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่รู้ว่าเพราะฮอร์โมนปรับเปลี่ยนจากการตั้งครรภ์ หรือเพราะความงี่เง่าเจ้าบทบาทอย่างที่เขากล่าวหาหากจะเอาง่ายๆ ถ้าเขาอยากจะพูดคำว่าเบื่อก็ควรบอกกันตามตรงหรือถ้ามันยากนักที่จะต้องพูดคำๆ นั้นออกมา เธอนี่แหละที่จะพูดออกมาเอง"แฟนท์จะกลับบ้านพรุ่งนี้ ไปช่วยเตรียมงานแต่งผิง" ระหว่างนี้เขาก็คิดเอาเองละกันว่าที่ผ่านมาเรื่องของเรา มันควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้เธอยังไม่อยากจะใช้คำว่าเลิก เพราะยังมีอีกหนึ่งชีวิตในท้องแต่ถ้าชีวิตคู่มันยังไปต่อด้วยกันยาก สามวันดีสี่วันไข้อยู่แบบนี้ บอกตามตรงเลยว่าเธอมองไม่เห็นอนาคตร่างบางเดินไปรื้อ
ตอนที่ 71ชลากรรีบบึ่งรถกลับมาที่คอนโดฯ หลังจากเคลียร์งานตัวเองเสร็จสับ ฟ้าลดาส่งข้อความมาให้เขารีบกลับโดยด่วน เหตุเพราะน้องสาวตัวเองไม่ต้อนรับการมาเยี่ยมเยือนของเธอจากที่คิดเอาไว้ว่าอยากให้สองพี่น้องได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน เพื่อปรับความเข้าใจ กลับกลายเป็นว่าเขากำลังหาเรื่องใส่ตัวเเท้ๆร่างสูงเข้ามาถึงภายในห้องกวาดสายตามองก็เห็นอย่างที่อีกคนส่งข้อความมารายงานคนท้องแรกเริ่มนั่งทำตาขลึงใส่พี่สาวตัวเองที่นั่งอีกมุมห้อง ขณะที่ฟ้าลดาเองหอบงานตัวเองขึ้นมาทำไปพลางๆ"เอ้า ...เฮียซาน มาพอดีเลย" เป็นฟ้าลดาที่ผละหน้าออกจากเอกสารในมือ แล้วหันมาสนใจคนมาใหม่ ส่วนอีกคนที่ยังนั่งแยกเขี้ยวใส่พี่สาว แม้ว่าจะเห็นแล้วว่าเขามาถึง ทว่าก็ยังไม่ให้ความสนใจ"จะเย็นแล้ว ทานไรกันยัง?" เขาถาม พลางหันหน้าไปเอาคำตอบจากฟาลิดาคนนั่งหน้าบูดปรับเปลี่ยนอารมณ์เล็กน้อย แต่ยังคงความตึงใส่อยู่ก็แค่ไม่พอใจที่เขาชวนพี่สาวเธอมาที่นี่ ทั้งๆ ที่ควรจะถามความสมัครใจกันก่อน ว่าอยากต้อนรับแขกหรือไม่"ยังเลยค่ะ นี่กะว่ารอเฮียกลับมา แล้วจะชวนออกไปกินข้าวข้างนอกกัน เห็นว่าแถวนี้มีร้านอาหารยุโรป อร่อยๆ เลยอยากลอง"ร่างอรชรลุกขึ้นยืน
ตอนที่ 70เฝ้าน้องชลากรจำเป็นต้องพาลูกเมียกลับไปที่คอนโดฯ ก่อน ภายหลังจากพาไปหาหมอ เขามีงานด่วนที่ต้องแก้ไข ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของตัวเองแล้วแท้ๆ อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าคนท้องจะอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะประเมินจากที่ตัวเองเห็นแล้วว่าเมื่อเช้าฟาลิดายังอาเจียนและเวียนหัวไม่หยุด อาการของคนแพ้ท้องก็คงประมาณนี้ ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียวเขาจึงตัดสินใจยกหูต่อสายไปยังพี่สาวคนเดียวของฟาลิดา เขาเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้พี่สาวเธอฟัง ระหว่างขับรถออกไปยังบริษัท โชคดีที่ฟ้าลดาเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย จึงไหว้วานเธอให้ไปที่คอนโดฯ ของตนอีกนัยยะสำคัญอย่างหนึ่ง ก็เพื่อหวังว่าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน จะปรับความเข้าใจกันบ้าง ไม่มากก็น้อยอย่างไรเสียเลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมฟาลิดาถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่สาวตัวเอง แต่คิดว่าหากมีฟ้าลดามาคอยช่วยเหลือระหว่างที่อีกคนอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ นั่นอาจจะเป็นโอกาสที่ดีทำให้สองคนนั้นสนิทกันมากขึ้นกระทั่งเขาขับรถมาถึงที่ทำงาน และขลุกอยู่หน้าคอมฯ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนของเขาที่ส่งมาให้ดูทางเมลล์ก็อกๆๆ"เชิญ!"เมื่อเจ้าของห้องอนุญา