“เจ้าหนุ่มอย่าเอาเรื่องเหลวไหลพวกนี้มาปั่นหัวพวกข้าเลย คิดจะหลบเลี่ยงการจ่ายเงินให้กับทางการสินะ ถ้าไม่ยอมจ่ายก็ปิดกิจการของเจ้าไม่ต้องเปิดแล้ว และรีบเก็บข้าวของทุกอย่างย้ายออกไปโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นคนของข้าจะทุบทำลายที่นี่ทิ้งซะ” แม้เรื่องที่เซียวหนิงหลงพูดไปจะสะกิดในใจ และเกิดความสงสัยขึ้นมาเงียบ ๆ
“ขอบพระทัยท่านอ๋อง ๆ”“อาหลงเจ้าไปจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องได้รับโทษ ไม่ว่าจะโทษหนักหรือเบาไม่มีการล่ะเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น ตรวจค้นให้ละเอียดทุกซอกทุกมุมภายในจวนเจ้าเมือง แล้วค่อยกลับมารายงานผลทีหลัง” ที่ชินอ๋องมอบหน้าที่นี้ให้เซียวหนิงหลง มิใช่แค่คิดว่าเขาอยากลงมือ
นายบ่าวคู่นี้ยังคงทะเลาะถกเถียงกันต่อหน้าเซียวหนิงหลง จนตันเจียงกลับมารายงานตามคำสั่งหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม โดยให้ชุนชานอยู่ควบคุมที่จวนเจ้าเมือง เพื่อป้องกันมิให้คนในจวนหลบหนีออกไปได้ ซึ่งทุกคนจะถูกเชือกผูกข้อมือเชื่อมต่อกันเอาไว้ มีคนขัดขืนบ้างในคราแรกที่ไปถึง แต่เมื่อเห็นท่าทางเอาจริงขององครัก
“ไปได้แล้วอย่าเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองเลย คนเราจะโง่แค่ไหนก็ควรจะมีสามัญสำนึกเสียบ้าง ไปชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำไว้เถิดสวินเย่าหยาง” ตันเจียงเดินเข้ามาลากตัวสวินเย่าหยางออกไป พร้อมกับองครักษ์อีกคนที่พาจั๋วถงจินตามหลังมาอีกทีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ศาลาว่าการได้ชักชวนกันมาดูการลงโทษนี้ แม้พวกเขาจะไม่ถูกก
ในความเป็นจริงนั้นอาเตี๋ยผู้โชคร้ายจากทิศอุดร ถูกหน่วยลับจับสังเกตได้ตั้งแต่วันที่สองหลังจากมาถึงเมืองหลวง เพราะหน่วยลับได้รับคำสั่งให้คอยตรวจตราเมืองหลวง ไม่มีการปล่อยปละละเลยเหล่าขุนนางให้ทำอะไรลับหลังซึ่งอาเตี๋ยถูกจับไปทรมานยังคุกใต้ดิน ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนอกเมืองเนื่องจากทนรับการทรมานไม่ไหว อ
โหยวซวงอี๋กับสาวใช้อย่างอาว่านนั่งรถม้าจากจวนเพียงแค่หนึ่งเค่อ ก็มาหยุดอยู่หน้าร้านผ้าที่ดีที่สุดของเมืองหย่งเฉียว และร้านนี้ก็ได้ต้อนรับคุณหนูผู้นี้บ่อยมาก เมื่อโหยวซวงอี๋มาถึงจึงมีหลงจู๊ของร้านอายุห้าสิบต้น ๆ ออกมารอต้อนรับอยู่ก่อนหน้านี้แล้วด้านบุรุษทั้งสามคนที่หน่วยลับได้ส่งจดหมายลึกลับ ส่งไปบอ
“อ้อ ที่แท้ก็บุตรสาวของอดีตอนุรองแม่ทัพโหยว ที่อุตส่าห์ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งฮูหยินได้ มารดาของเจ้าช่างเก่งกาจมากจริง ๆ คุณหนูโหยว แต่อย่างไรความจริงในอดีตมันก็ไม่อาจลบล้างได้หรอก อีกอย่างที่สาวใช้ของท่านบอกว่าอะไรนะ ท่านเป็นว่าที่ชายาของซื่อจื่อจวนชินอ๋องด้วย ฮ่า ๆ ๆ ขออภัยที่ข้าต้องหัวเราะเสีย
ของบุรุษแล้วคิดจะกลับไปชุบตัวที่เมืองหลวงคงไม่ง่ายนัก หากยังเลือกไม่ได้งั้นก็ให้ทั้งสามคนตัดสินใจว่า จะใช้วิธีการใดเป็นเกณฑ์การตัดสินให้รีบเสนอมาได้” ยูร์เหว่ยวกเข้าเรื่องของโหยวซวงอี๋ต่อทันที“ทำไมข้าต้องเลือกพวกชั้นต่ำมาเป็นสามีด้วย ก็แค่การช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ข้าไม่คิดถือสาหาความกับเร
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร