เจียวมิ่งหลังจากที่ส่งจดหมายออกไปแล้ว เขาก็ไม่สามารถนอนพักผ่อนต่อไปได้ จึงแต่งตัวและตามก้งเยว่กลับไปที่ร้านอาหารแทน พวกเขาสี่คนแยกกันไปประจำคนละมุมของร้านอาหาร คอยสอดส่องดูผู้คนที่แต่งตัวแปลก ๆ และท่าทางมีพิรุธอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งอาหารที่ขายในวันนี้หมดลงในช่วงปลายยามเว่ย พวกเขาช่วยครอบครัวสวีปิดร้
สายลับสามคนฟังแม่ทัพใหญ่แคว้นฉู่ พูดคุยกับบุตรชายที่ไม่ไต่สวนพวกเขาต่ออีกแล้ว การยกทัพไปจัดการแคว้นศัตรู โดยมีผู้นำกองทัพอย่างแม่ทัพใหญ่ ฉายาแม่ทัพไร้พ่ายอย่างเซียวชินอ๋อง บุคคลที่บรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว จะมีใครกล้าต่อกรไหนจะซื่อจื่อผู้เป็นบุตรชายเอง ยังบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงกองทัพแคว้นตงหน
เซียวหนิงหลงกลับมาถึงจวนพร้อมบิดา ก่อนจะเข้าไปหารือวางแผนการเดินทัพ เขาสั่งให้ตันเจียงส่งจดหมายถึงเจียวมิ่งว่าต้องปกป้องคนที่นั่นให้ดี กองทัพแคว้นฉู่กว่าจะเดินทางไปถึงชายแดน คงใช้เวลาถึงสามเดือนกำลังพลทหารที่ไปในครั้งนี้ มีจำนวนสองแสนห้าหมื่นนายที่เหลืออีกห้าหมื่นนาย บิดาได้มอบหน้าที่คอยเฝ้าระวังเมื
“ท่านพ่อเองก็อย่าคิดมากเลยขอรับ ข้าให้ชุนชานส่งคนไปเฝ้าดูที่จวนแต่ละคนเอาไว้แล้ว หากพวกนั้นมีความเคลื่อนไหว ยามที่ท่านกับข้าไม่อยู่คนของเรา จะรีบส่งข่าวถึงเสด็จลุงทันทีขอรับ” เซียวหนิงหลงไม่ยอมปล่อยให้คนชั่วพวกนั้น ฉวยโอกาสลงมือได้ง่ายๆหรอก“อืม เจ้าจัดการได้รอบคอบดีมาก เย็นนี้คงต้องบอกเรื่องการเดิน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับจวนของท่านหญิงเซียว หน่วยลับหนึ่งในสี่คนได้กลับมาแจ้งที่จวนชินอ๋องล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้ที่หน้าจวนท่านอ๋อง พระชายาและเซียวหนิงหลงออกมายืนรอรับท่านหญิง ทันทีที่รถม้ามาถึงชินอ๋องรีบเข้าไปรอรับดวงใจของบ้านทันที คนที่เดินออกมาจากรถม้าเองถึงกับตกใจ เหตุใดทุกคนถึงมาอยู่ตรงนี
ครอบครัวชินอ๋องยังคงทำตัวกันตามปกติเช่นทุกวัน แม้ว่าวันนี้จะมีคนวางแผนร้ายกับท่านหญิงของจวนก็ตาม ซึ่งมันแตกต่างกับจวนตระกูลอู๋เสียเหลือเกิน ที่นั่นมีแต่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของหลานชายนายท่านอู๋พ่อบ้านตระกูลอู๋ที่ได้รับแจ้งจากบ่าวหน้าประตูจวนว่า มีขอทานคนหนึ่งมาบอกให้ไปเก็บคุณชายของจวนตรงข้างถนน ครา
ทางด้านลู่ชิงหลังจากถูกบิดามารดา ตักเตือนด้วยความเป็นห่วง จึงต้องมีก้งเยว่คอยอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา และในคืนวันเดียวกันนั้นเจียวมิ่งกับก้งคุน ออกไปจับตัวคนของแคว้นตงหนาน นำตัวมาขังไว้ในบ้านเช่ารอจนกว่ากองทัพของชินอ๋องมาถึง พวกเขาจะได้นำตัวไปส่งทันที เพราะซื่อจื่อแจ้งมาแล้วว่า จะออกเดินทางอีกสามวันหลัง
“ท่านพี่ข้าเห็นด้วยกับชิงเอ๋อร์ พวกเราไปทำบุญขอพรกันล่วงหน้าย่อมดีกว่า หลังจากนี้พวกเราจะได้เตรียมตัวกันไว้แต่เนิ่น ๆ ถ้าเหตุการณ์ไม่สู้ดีจะได้หลบหลีกได้ทันนะเจ้าคะ” ฟางซินตั้งแต่รู้เรื่องสงครามจิตใจจึงไม่ค่อยสงบเท่าใดนัก นางเห็นด้วยกับบุตรสาวที่จะไปทำบุญ“พวกเราย่อมไม่คัดค้านอยู่แล้วชิงเอ๋อร์ นอกจา
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร