จวนขนาดใหญ่หลังหนึ่งในเมืองหลวง หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งเจ้าของจวนแห่งนี้ก็คือนายท่านอู๋เจียงสง ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน อดีตผู้นำตระกูลที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เคยมีโอกาสได้เป็นวาณิชหลวง ส่งผ้าไหมและเครื่องประดับที่หายากถวายให้กับเชื้อพระวงศ์ ทำให้ตระกูลอู๋มีชื่อเสียงเหนือกว่าร้านค้าอื่น ๆ จ
“ท่านพ่อ!!!” ลู่เวินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว เขาไม่คิดว่าบิดาจะเชื่อคนง่ายเช่นนี้ไม่คิดจะตรวจสอบให้ดี ก็ตัดสินว่าเขาเป็นคนผิดเสียแล้วลู่เวินทำเพียงคุกเข่าคำนับบิดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของบิดาไป เมื่อมาถึงเรือนพักของตนด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ทำให้ฟางซินผู้เป็นภรรยาถามขึ้นด้วยความห่วงใย
เมื่อเหลาอาหารจิ้นหย่งเหอถูกไฟไหม้จนไม่เหลือซาก ร้านอาหารตระกูลสวีจึงมีลูกค้าเพิ่มขึ้นไปโดยปริยาย จนลู่เวินต้องปรับปรุงพื้นที่ด้านข้างของร้านอาหาร ให้มีหลังคายื่นออกมาและนำชุดโต๊ะเก้าอี้จากลู่ชิง ออกไปวางเพิ่มอีกสามโต๊ะ รวมถึงซุ้มศาลาที่วางอยู่ก็ใช้สำหรับรับรองลูกค้าไปพลาง ๆตอนนี้ทุกคนกำลังช่วยกันท
“อื้อ! น้องเล็ก พอกัดเข้าไปแล้วเนื้อมันนุ่มมากไม่แข็งเลย”“ตอนกำลังเคี้ยวยังรู้สึกถึงกลิ่นเครื่องหมักที่หอมอยู่ตลอดเวลา”“กินเปล่า ๆ ยังอร่อยขนาดนี้ถ้าทำเป็นเจ้าน้ำตกคอหมูย่างคงจะยิ่งอร่อยเป็นแน่”“ร้านเราอาหารอร่อยแบบนี้ ลูกค้าคงเสียใจถ้าพวกเราเลิกขายอาหารสินะ”พอได้ชิมเนื้อคอหมูย่างนุ่ม ๆ หอม ๆ ทุ
“ข้าเองก็คิดเหมือนท่านว่าพวกเขาคงถูกจับตัวไปแล้ว ถึงได้เงียบหายไม่ส่งข่าวอะไรกลับไปที่แคว้น ท่านแม่ทัพเองก็รอข่าวเพื่อเตรียมกองทัพแต่ก็ไร้วี่แวว”“พวกเหยียนซุ่นต้องโดนทรมาน เพื่อจะเค้นเอาความลับอย่างแน่นอน อยู่ที่ว่าทั้งสามคนจะอดทนได้นานแค่ไหนเท่านั้น”“เอาล่ะพวกเรารีบทานให้เสร็จจะได้ไปหาที่พัก จากน
เจียวมิ่งหลังจากที่ส่งจดหมายออกไปแล้ว เขาก็ไม่สามารถนอนพักผ่อนต่อไปได้ จึงแต่งตัวและตามก้งเยว่กลับไปที่ร้านอาหารแทน พวกเขาสี่คนแยกกันไปประจำคนละมุมของร้านอาหาร คอยสอดส่องดูผู้คนที่แต่งตัวแปลก ๆ และท่าทางมีพิรุธอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งอาหารที่ขายในวันนี้หมดลงในช่วงปลายยามเว่ย พวกเขาช่วยครอบครัวสวีปิดร้
สายลับสามคนฟังแม่ทัพใหญ่แคว้นฉู่ พูดคุยกับบุตรชายที่ไม่ไต่สวนพวกเขาต่ออีกแล้ว การยกทัพไปจัดการแคว้นศัตรู โดยมีผู้นำกองทัพอย่างแม่ทัพใหญ่ ฉายาแม่ทัพไร้พ่ายอย่างเซียวชินอ๋อง บุคคลที่บรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว จะมีใครกล้าต่อกรไหนจะซื่อจื่อผู้เป็นบุตรชายเอง ยังบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงกองทัพแคว้นตงหน
เซียวหนิงหลงกลับมาถึงจวนพร้อมบิดา ก่อนจะเข้าไปหารือวางแผนการเดินทัพ เขาสั่งให้ตันเจียงส่งจดหมายถึงเจียวมิ่งว่าต้องปกป้องคนที่นั่นให้ดี กองทัพแคว้นฉู่กว่าจะเดินทางไปถึงชายแดน คงใช้เวลาถึงสามเดือนกำลังพลทหารที่ไปในครั้งนี้ มีจำนวนสองแสนห้าหมื่นนายที่เหลืออีกห้าหมื่นนาย บิดาได้มอบหน้าที่คอยเฝ้าระวังเมื
“กระหม่อมเข้าใจชิงเอ๋อร์เป็นอย่างดี และไม่มีวันที่จะทำให้ชิงเอ๋อร์ต้องเสียใจ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามชิงเอ๋อร์อยากทำสิ่งใดกระหม่อมย่อมสนับสนุน คอยปกป้องนางให้พ้นภัยจากคนชั่ว รัชทายาทอย่าได้ทรงกังวลเรื่องนี้ หากเมื่อไหร่ชิงเอ๋อร์ต้องการไปเยือนตงเฉียน กระหม่อมจะเป็นคนพาไปด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ดี เปิ่นไท่
“แล้วเสี่ยวชิงเป็นอย่างไรบ้าง ทำสัญญาการค้ากับสี่แคว้น แค่วันเดียวก็ได้รับเงินแสนตำลึงแล้ว ยังไม่นับเงินส่วนต่างที่จะได้รับหลังกิจการในแต่ละแคว้นเปิดทำการอีก ต่อไปนี้ใคร ๆ ก็คงจะคิดหนักหากคิดจะจัดการตระกูลสวี” “ตอนนี้ชิงเอ๋อร์กำลังทำคู่มือสำหรับการเปิดกิจการสาขา และพ่อครัวที่ต้องเดินทางไปสอนการทำอา
เมื่อคนกลุ่มใหญ่จากสามแคว้นออกจากท้องพระโรงแล้ว ได้เสด็จตรงไปยังประตูวังหลวง เพื่อรอให้ข้ารับใช้ไปเก็บสัมภาระ ยังตำหนักรับรองที่ได้พำนักก่อนหน้านี้ รวมถึงรัชทายาทและพระชายาที่ต้องตามเสด็จกลับแคว้น แม้ภายในใจจะรู้สึกโกรธเคือง และไม่เห็นด้วยกับพระบิดาเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกได้มากนัก ยามนี้ยังอยู่ต่างแ
“เฮอะ มีฮ่องเต้คนใดบ้างที่ไม่มีสนม อย่างน้อยพวกนางก็ช่วยให้เรามีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็ยังดี ขุนนางจะดีจะชั่วใช่ว่า จะมองออกได้ง่าย ๆ ท่านคงคิดว่าตนเองเก่งมาก ที่สามารถมองคนออกว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีเชียวรึ” ฮ่องเต้จากซีหนานตรัสประชดประชันอย่างน่าหมั่นไส้ “ฮ่องเต้ซีหนานท่านไม่อยากเป็นฮ่องเต้ ที่เ
“จริงรึ! นี่คงเป็นลิขิตสวรรค์ ที่ได้ส่งเด็กสาวคนนี้มาเกิดบนแผ่นดินแคว้นฉู่ แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ แต่กลับช่วยผู้คนได้มากมายนัก ไว้แนะนำให้เจิ้นได้รู้จักนางบ้าง เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันสักครั้ง” “เสด็จพ่อทรงพักผ่อนสักนิดเถิด เย็นนี้จะได้ชิมอาหารสูตรของคุณหนูสวี แล้วจะทรงเข้าพระทัยว่าเหตุใด ล
เพราะเดินทางก่อนทำให้ฮ่องเต้ตงเพ่ยจวิน เสด็จมาถึงเมืองหลวงแคว้นฉู่เป็นพระองค์แรก โดยมีรัชทายาทมารอรับเสด็จพระบิดาที่หน้าประตูวังหลวง พร้อมด้วยฮ่องเต้เซียวถิงเฟิง ชินอ๋องและขุนนางอีกหลายคนที่มารอต้อนรับด้วยเช่นกัน “ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ” “รัชทายาทเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นี่มีปัญหาอันใดหรือไ
“จือเค่อเจ้าไปสังหารฮ่องเต้ส่วนข้ากับลี่จ้งจะหาของมีค่า เผื่อฝ่าบาทจะนำมาด้วยระหว่างทางหลบหนี ยังต้องใช้เงินอีกมาก”“อืม ทำเงียบ ๆ เล่าอย่าได้ส่งเสียงดังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเราสามคนคงหนีไม่พ้นเข้าใจไหม”“เชื่อมือพวกข้าสองคนเถิดน่างานนี้ไม่มีพลาดแน่นอน เจ้ารอส่วนแบ่งก็พอแล้วรีบลงมือกันเถิด”จือเค่อ
ส่วนองครักษ์เหยียนกลับคิดถึงเรื่องยาพิษมากกว่า “อย่าว่าแต่เรื่องพลังยุทธ์เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนึกถึงยาพิษที่ฮองเฮาได้รับแล้วยังขนลุกได้ทุกครั้ง ยาพิษอันใดกันทำให้เจ็บปวดทรมานอยากตายก็ตายไม่ได้ แต่อยู่โดยมีพิษนี้อยู่ในร่างกายต้องทุกข์ทรมานยามตะวับลับขอบฟ้า น่ากลัวมากจริง ๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้รัชท
ตลอดระยะเวลาที่ตัวประกันที่เป็นเชื้อพระวงศ์ และต้องพำนักอยู่ที่แคว้นฉู่มาพักใหญ่ แม้จะถูกจำกัดบริเวณที่ไปได้ แต่มิได้ทำให้ทุกคนซึมเซาหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะกิจการของตระกูลสวีดึงดูดความสนใจของทุกคน ยิ่งร้านน้ำหอมที่ได้เข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง จนต้องเสียตำลึงเงินไปพอสมควร จะซื้อขวดเล็ก ๆ ได้อย่า