ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับเมคินที่เดินมากับแก้วน้ำในมือ ความรู้สึกของทิวาเต็มตื้นที่เปิดห้องมาแล้วมีเขารออยู่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกบ้างแต่พอเห็นหน้าเมคินเขาก็คลายกังวล เพราะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะจัดการเรื่องราวทุกอย่างได้“เหนื่อยเลยล่ะสิ”“ไม่หรอกครับ พี่คินสั่งข้าวมาแล้วเหรอ”“พี่กลัวนายหิว กินเลยไหม เดี๋ยวจะได้อาบน้ำ โฆษณาจะเริ่มยิงแอดตอนสามทุ่มพร้อม”“วันนี้แล้วเหรอครับ ผมนึกว่ายังตัดต่อไม่เสร็จเสียอีก” ท่าทางตื่นเต้นและกระตือรือร้นของเลขาส่งผลให้คนมองก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย“ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้ ยังเหลือเวลาเหลืออีกเยอะ”“ก็ผมตื่นเต้นนี่ครับ พี่คินไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอ”“ไม่เท่าไหร่”“เหรอครับ” สีหน้าตื่นเต้นสลดลงจนเห็นได้ชัดใครว่าเมคินไม่ตื่นเต้นล่ะ เขาตื่นเต้นกว่าใครทั้งหมด แต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ ก่อนหน้านี้พยายามขอดูก่อนแต่พี่สาวก็ไม่ยอม เลยต่องรอดูพร้อมกับคนอื่น“น้อยใจเหรอ”“เปล่าครับ”“สายตาของนายมันไม่โกหก พี่แค่ล้อเล่นนะครับ อย่างอนเลย อันที่จริงพี่ทั้งตื่นเต้นและกังวลเลย”“กลัวออกมาไม่ดีเหรอครับ”“ไม่ใช่เรื่องนั้น ที่พี่กังวลก็เพราะกลัวว่าจากนี
หลังจากโฆษณาออกอากาศไปได้เพียงสามวันยอดเข้าชมและยอดแชร์ก็มากขึ้น สินค้าขายดีจนต้องเพิ่มการผลิต ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ เช้านี้เมคินเพิ่งได้รับแจ้งว่าทางจีนสนใจสั่งเครื่องดื่มนี้เพิ่มและอยากให้ทิวาไปถ่ายโฆษณาคู่กับเน็ตไอดอลชาวจีนเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากขึ้น เรื่องนี้เจ้าตัวยังไม่รู้เพราะทางนั้นติดต่อผ่านทางเมลดาเมคินเริ่มกังวลเขาไม่ชอบให้คนของเขาเป็นที่จับตามอง จะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ถูกเพราะเขาอยากเก็บเลขาหน้าหวานนี้ไว้อยู่กับเขาเพียงคนเดียว“คินคิดว่ายังไง จะบอกเรื่องนี้กับเจ้าตัวไหม”“เอาจริงๆ นะพี่ ผมไม่อยากให้ทิวไปถ่ายเลย แต่ก็ไม่อยากปิดโอกาส”“หวงใช่ไหม”“ครับ พี่ก็รู้กว่าผมจะหาคนที่ถูกใจทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิตส่วนตัวได้มันยากแค่ไหน”“พี่เห็นใจนะ แต่ก็อยากให้คินบอกน้องไปตามตรงนั่นแหละ แล้วให้ทิวตัดสินใจเอง”“ผมกลัวน้องใจแตก”“คิดมากไปหรือเปล่า ทิวเป็นเด็กดีนะ”“ไม่รู้สิครับ ยิ่งได้เจอคนเยอะ ก็ยิ่งกลัวว่าเขาจะทิ้งผมไป"“น้องชายพี่กลายเป็นคนไม่มั่นใจตัวเองไปตั้งแต่ตอนไหน”“ผมรักของผม หวงของผม”“พี่รู้ และก็เชื่อว่าทิวาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ถ้าต้องไปถ่ายที่นั่นจริงๆ พ
“พี่คินครับ”“ครับ” เมคินสวมกอดคนที่กำลังยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า เกยคางลงบนไหล่อย่างออดอ้อน“ผมจัดเตรียมชุดให้พี่แค่เจ็ดวันนะครับ ถ้าเกินกว่านั้นก็ส่งให้ทางโรงแรมจัดการ”“แค่เจ็ดวันเองเหรอ”“ตั้งเจ็ดวันต่างหาก ผมให้เวลาพี่เจ็ดวัน งานทุกอย่างต้องเรียบร้อย”“โอ๊ะ ทำไมวันนี้เลขาของพี่โหดจัง”“ผมซีเรียสนะครับ”“ถ้าครบเจ็ดวันพี่ไม่กลับมาทิวจะตามพี่ไหม”“ไม่ครับ”“อ้าว นึกว่าจะไปตาม”“การไปเวียดนามกับการหาบอสคนใหม่พี่ว่าอันไหนง่ายกว่า”“คิดดีแล้วเหรอครับ จะมีบอสที่ไหนหล่อและเร้าใจแบบพี่”“หลงตัวเอง”“ก็มันจริง”“ผมไม่คุยด้วยแล้ว”ทิวาจัดเลือกชุดสำหรับทำงานที่เวียดนามใส่กระเป๋าเดินทางใบกลาง ระหว่างจัดก็หันมาบอกคนที่เอาแต่นั่งมองเป็นระยะว่าเอาอะไรไว้ตรงไหนบ้าง“อยากได้สบู่กับแชมพูด้วย”“จะเอาไปทำไมครับที่โรงแรมก็มีให้”“แต่ที่โรงแรมไม่ใช่กลิ่นของทิวนี่ นะครับเตรียมให้หน่อย”“ผมไม่มีขวดเล็กเลย ถ้าพี่อยากได้ก็ต้องลงไปซื้อขวดแบ่งนะครับ”“ไม่ได้กลิ่นทิวพี่คงนอนไม่หลับ” เขายังไม่วายเรื่องมาก“บอสทำเหมือนตัวเองอายุห้าขวบเลยนะครับ”เขานึกถึงเด็กเล็กๆ ที่บางคนติดกลิ่นผ้าอ้อม ติดผ้าห่มหรือบางคนก็ติดตุ๊
เช้าวันที่สองของการตื่นนอนมาแล้วไม่มีบอสอยู่ด้วย ชายหนุ่มทำแซนด์วิชแยกเป็นสามส่วน มื้อเช้าส่วนหนึ่ง ที่เหลืออีกสองส่วนแบ่งใส่ตู้หนึ่งส่วน อีกส่วนใส่กล่องสำหรับทานในรถเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องไปโรงงานที่อยุธยาอีกหรือเปล่าออกจากห้องพร้อมกับทิ้งโน้ตให้แม่บ้านเอาโรตีสายไหมที่ซื้อมาเมื่อวานกลับไปด้วยทิวามาถึงบริษัทเช้ากว่าทุกวัน เขานั่งเซ็นเอกสารบางส่วนที่ตัวเองพอจะทำได้ จากนั้นรวบรวมแฟ้มอีกจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปให้คุณเมฆาเป็นคนเซ็น“พี่วีณาครับ เดี๋ยวผมจะไปบ้านท่านประธาน ถ้าพี่มีอะไรใช้ผมก็โทรตามได้เลยนะครับ“แล้วทิวาจะไปโรงงานอีกไหม”“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เดี๋ยวผมก็คงกลับเข้ามาที่นี่ก่อน”“เหนื่อยหน่อยนะคะ บอสก็ไม่อยู่”“แค่วันเดียวผมยังแย่ ไม่รู้ว่าบอสทำแบบนี้ได้ยังไงตั้งหลายปี”ทิวาหัวเราะก่อนจะรีบหอบแฟ้มทั้งหมดเพื่อไปยังบ้านของท่านประธานให้ทันเวลาที่นัดไว้“สวัสดีครับท่าน”“ท่านอีกแล้ว บอกให้เรียกพ่อไง สอนไม่จำเลยเด็กคนนี้ แล้วนั่นหอบอะไรมาเยอะแยะ”“ผมเอามาให้เซ็นครับ”“ทำไมไม่เซ็นเอง”“บางอย่างผมไม่กล้าเซ็นครับ รับผิดชอบไม่ไหว”“กล้าๆ หน่อยสิ คินเขาไว้ใจให้เราดูและนะ”“ผมยังไม่เก่
เมคินไม่สบายใจกับเรื่องที่ได้ยินมาเท่าไหร่ วันนี่เขาจัดการปัญหาที่นี่เรียบร้อยแล้วเลยเตรียมตัวกลับ แต่ไม่ได้บอกกับเลขาเพราะถ้าบอกทิวาก็ต้องลำบากมารับ ชายหนุ่มจึงบอกแค่ว่าจะโทรหาหลังสี่ทุ่มระหว่างนี้ให้ทิวาได้พักผ่อนถึงสนามบินเวลาเกือบสี่ทุ่ม พอนั่งอยู่บนแท็กซี่ก็รับโทรหาทิวาทันที“นอนหรือยัง”“เผลอหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ เพิ่งตื่นครับ พี่คินกินข้าวหรือยัง”“เรียบร้อยตั้งแต่เย็นแล้ว ตอนนี้พี่กำลังกลับ”“จากเวียดนามเหรอครับ ไฟลท์ไหน ถึงกี่โมงเดี๋ยวผมไปรับ” เสียงที่ฟังดูทั้งตื่นเต้นและดีใจของเลขาทำเอาคนเป็นบอสหัวใจพองโตรู้สึกดีที่อีกคนก็คิดถึงเขาไม่ต่างกัน“อยู่บนแท็กซี่แล้ว เพิ่งออกจากสนามบิน”“พี่คิน พูดจริงใช่ไหม”“จริงสิ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึง”ประตูห้องเปิดออกกว้าง เลขาที่รออยู่แล้วก็เด้งตัวขึ้นจากโซฟาวิ่งไปหาบอสอย่างรวดเร็ว“พี่คิน” เขาโผเข้ากอดจนคนที่ตัวโตกว่าถึงกับเซเล็กน้อยเพราะแรงปะทะเมคินกอดตอบพร้อมลูบหัวทุยเบาๆ ห่างกันไม่กี่วันไม่คิดเลยว่าเขาจะคิดถึงคนในอ้อมกอดมากถึงเพียงนี้“คิดถึงจัง ขอดูหน้าหน่อยได้ไหม” เขาดันตัวคนที่ผอมกว่าออก สองมือประคองใบหน้า ดึงเข้าใกล้แนบหน้าผากชิด จ
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสาม แต่เช้านี้ทิวาก็ตื่นนอนได้ตามปกติ ร่างกายของเขาไม่ได้ปวดเมื่อยหรือหมดแรงเหมือนทุกครั้ง ไม่รู้เพราะปรับตัวได้แล้วหรือเพราะก่อนเมคินให้ดื่มโกโก้และทานยาแก้ปวด แต่จะสนใจทำไมในเมื่อมันทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ“พี่คินจะเข้าบริษัทหรือไปโรงงานครับ”“พี่ว่าจะไปที่นั่นเลย ทิวไปบริษัทนะ พี่ยังไม่ได้บอกใครว่ากลับมาแล้ว พี่คุยกับธีแล้ว นัดเจอกันที่นั่นเลย”“ไม่เหนื่อยเหรอครับ เพิ่งกลับมาเอง ให้ผมขับรถให้ไหม”“แล้วคิดว่าพี่เหนื่อยไหมล่ะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์“โอเค ผมรู้พี่คินเก่ง”“รีบกินเถอะ เย็นนี้ค่อยกลับมาคุยกันนะ”บอสและเลขาลงจากลิฟต์มาพร้อมกัน เมคินขับรถตัวเองออกไปขณะที่ทิวาก็ขับรถของบริษัทตามออกมา แต่แยกกันคนละทางที่หน้าคอนโดบอสบอกให้เขาทำตัวตามปกติ เหมือนทุกวัน ส่วนเรื่องที่สงสัยเขาบอกว่าจะจัดการเองชายหนุ่มมาถึงอยุธยาตามเวลาที่นัดกับธีทัชไว้ ทั้งสองกล่าวทักทายกันตามประสาคนที่เคยดื่มด้วยกันเที่ยวด้วยกัน“เลขาของพี่คินเก่งมากเลยนะครับ”“ทิวาน่ะเหรอ”“ใช่ครับ ผมดูแล้วคงเป็นจริงอย่างที่ทิวาบอก ไม่รู้นะครับว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้”“พี่เองก็ไม่เคยสังเกตมาก่อน
หลังประชุมบอร์ดก็ได้ข้อสรุปว่าควรซื้อเครื่องจักรมือสองจากบริษัทของคุณธวัช เพราะความเหมาะสมด้านราคา ประหยัดเวลาในการขนส่งแม้จะเสียเวลารื้อถอนและติดตั้งแต่มันก็ใช้เวลาน้อยกว่าสั่งมาจากโรงงานที่จีนคุณธวัชเองก็เป็นนักธุรกิจที่หลายคนรู้จักและเป็นคนซื่อตรงในการทำธุรกิจ ส่วนโรงงานที่ปิดตัวไปเพราะคุณธวัชเปลี่ยนมาทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางโรงงานนั้นเลยต้องปิดตัวลงหลังจากเปิดได้ไม่ถึงปีเรื่องของผู้จัดการโรงงานที่ชื่อมนัส เมคินยังไม่ได้บอกใคร แต่เขาก็ให้ฉัตรภพร่างสัญญาไว้แล้ว รอแค่ไปคุยกับมนัสที่โรงงานพรุ่งนี้“บอสคิดว่ามันจะจบลงด้วยดีไหม” ฉัตรภพไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายถึงขั้นต้องแจ้งความเพราะสงสารคนที่ทำงานมานาน“ไม่แน่ใจเลย”“ผมไม่คิดเลยว่าคุณมนัสจะทำอย่างนั้น ท่านประธานบอกว่าเขาทำงานที่นั่นมาสิบปีแล้ว”“นานเหมือนกันนะ เท่าที่ดูทุกอย่างเริ่มผิดปกติก็ปีที่แล้ว เขาคงจำเป็นต้องใช้เงิน”“ถึงจะจำเป็นแค่ไหนก็ไม่ควรทำแบบนี้ สิ่งที่เขาทำเรียกว่าโกงนะบอส แล้วเขาก็ทำงานมานานน่าจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง ถึงผมจะสงสารเขาแต่ทุกอย่างก็คงต้องทำให้ถูกต้อง แล้วบอสจะไปคุยกับเขาอีกครั้งตอนไหน”“พรุ่งนี้ ทุกอย่า
ภายในห้องผู้ป่วยดูแคบไปถนัดตา เพราะความเป็นห่วงลูกชาย คุณจีรญาและให้สามีพามาตั้งแต่เช้าทั้งๆ ที่เมื่อคืนเมคินก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องมาเธอเองก็รับปากเป็นดิบดี และพอเห็นกับตาว่าลูกชายไม่ได้เป็นอะไรมากก็โล่งใจแต่กลับกลายมาเป็นกังวลอาการของเลขามากกว่า“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ” ทิวารู้สึกเกรงใจที่ท่านทั้งสองเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไรได้ยังไงดูสิ เย็บไปตั้งหลายเข็ม”“แม่ครับ ผมก็มีแผลนะ ดูสิ” เมคินยื่นแขนให้แม่ตัวเองดู“แผลเราน่ะนิดเดียว ไม่กี่วันก็หาย แต่แผลน้องสิ ดีนะไม่โดนหน้า ถ้างั้นแม่เอาเราตายแน่”“ผมไม่ใช่คนทำนะครับแม่”“คินไม่ได้ทำแต่ที่ทิวเป็นแบบนี้ก็เพราะคนของคินใช่เหรอ”“คนของผมที่ไหนแม่ คุณมนัสน่ะ มาทำงานก่อนผมอีก เขาเป็นคนของพ่อ”“อ้าว จู่ๆ มาโยนเผือกร้อนให้กันอย่างนี้ได้ยัง” คุณเมฆาที่นั่งเงียบอยู่โวยวายขึ้นทั้งห้องพากันหัวเราะ รวมถึงทิวาที่แม้จะเจ็บอยู่แต่ก็รู้สึกดีที่บรรยากาศในห้องไม่ได้เคร่งเครียดมากจนเกินไป“เดี๋ยวคินกับทิวไปพักที่บ้านนะ แม่ให้คนจัดห้องไว้แล้ว”“ที่บ้านเราน่ะเหรอครับ”“ก็ใช่สิ เจ็บกันทั้งสองคนแบบนี้ใครจะดูแลล่ะ”เมคินหันมามองหน้าเลขาที่หน้าเหวออยู่บนเตียง“เอาไงทิ
“พี่คิน เราจะเป็นไข้เลือดออกกันไหมครับ เราไม่มียากันยุง”“เดี๋ยวพี่โทรไปขอทางรีสอร์ตให้ อย่าเพิ่งออกไปนะเดี๋ยวโดนยุงกัดตัวลายขึ้นมาผิวสวยจะเสียหมด”รอไม่นานพนักงานของรีสอร์ตก็เอายากันยุงกับไฟแช็กมาให้ เมคินรับมาพร้อมกับมอบเงินให้เล็กน้อยค่าเสียเวลาเขาเดินออกไปจุดยากันยุงไว้หลายจุดเพราะกลัวว่ายุงจะมากัดผิวสวยๆ ของคุณเลขา“รอสักพักค่อยออกไปนะครับ พี่ขอล้างมือก่อน”“ครับ” เสียงทิวาขานรับขณะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพอเมคินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสองก็หอบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งมีเตียงอาบแดดอยู่ด้านริม“พี่คินว่าเราจะเห็นดาวตกไหม”“ก็น่าจะเห็นอยู่นะ” เมคินไม่ได้สนใจฝนดาวตก แต่เพราะอีกคนอยากเห็นก็เลยต้องออกมานอนตากน้ำค้างอย่างนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวก็จริง แต่ทุกดวงยังคงประดับอยู่บนท้องฟ้า“ทิวครับ ง่วงหรือเปล่า”“นิดหน่อยครับ”“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”“ยังไหวครับพี่ แต่ถ้าผมเผลอหลับพี่คินอย่าทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียวนะ”“ใครจะทิ้งได้ลงล่ะครับ” เมคินหันมาบอกคนรักที่อยู่เตียงใกล้ๆ กันตาคู่สวยของเลขาคู่ใจยังคงจ้องไปบนท้องฟ้า ส่วนส
ตลอดสองเดือนที่คุณจางหยวนเข้ามาในชีวิตของทิวา เมคินต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะรู้สึกเห็นใจที่เขากับลูกเพิ่งจะได้เจอกัน แต่พอเวลาผ่านไปเขาเองก็เริ่มทนความรู้สึกนี้ไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณจางหยวน“สวัสดีครับคุณเมคิน ไม่คิดเลยว่าบริษัทผมจะมีโอกาสต้อนรับคุณ”“สวัสดีครับคุณจาง ผมมาหาทิวาครับ”“อ้อ มาหาลูกชายผมนั้นเอง เดี๋ยวผมเรียกให้นะ”“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเองได้ ผมแค่แวะมาทักทายและจะมาบอกว่าต่อนี้ไปผมจะไม่ให้ทิวามาทำงานกับคุณอีกแล้ว”“ทำไมละครับ เขาเป็นลูกผมอีกหน่อยเข้าต้องมาทำงานแทนผม”“แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ คุณยังแข็งแรงอยู่เลยแล้วอีกอย่างคุณก็รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”“ใช่ผมรู้และก็ไม่ได้กีดกันสักหน่อย”“ไม่ได้กีดกันครับ แต่ช่วงนี้คุณแทบจะไม่ปล่อยให้เข้าไปทำงานกันผมเลย ผมแค่มาทวงเลขาคืน”“ตายจริง ผมคงลืมไปว่าเขาเป็นเลขาของคุณด้วย คิดแต่ว่าเป็นคนรักกัน”“ทิวเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”“ผมชอบที่คุณพูดตรงๆ กับผมนะ เอาล่ะ ตอนนี้ทิวาก็เรียนรู้งานมากแล้ว ที่ผมยอมให้เขากลับไปก็เพราะว่างานที่นี่มันค่อนข้างลงตัวแล้ว เขาแค่อาจต้องเข้ามาประชุมบ้างก็เท่านั้น
หลังจากที่ผลตรวจดีเอ็นเอคุณจางหยวนก็ดีใจมาก เขาอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า ครอบครัวที่คิดว่าเสียไปแล้วเมื่อยี่สิยกว่าปีก่อน แล้ววันนี้ได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างพร้อมหน้า พ่อ แม่ ชายวันห้าสิบกว่าก็ออกอาการดีใจเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้ของเล่นเลยทีเดียวเขาพูดจาหว่านล้อมจนคุณลักษิกายอมขึ้นมากรุงเทพ แม้เธอจะยังจำเรื่องในอดีตได้แต่ก็ยอมเดินทางมาเพราะอยากจะเจอกับทิวาอีกครั้งครั้ง ตอนนี้นอกจากรูปถ่ายใบนั้นแล้วคุณจางหยวนยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ และยังมีรูปถ่ายอีกหลายรูปที่ลูกชายและลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้ทางอีเมล ลักษิกาเลยเริ่มเปิดใจยอมรับเขาทีละนิด เพราะทุกรูปที่เขามีนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกันจริงๆวันนี้ทิวาเลยนัดทั้งสองคนให้มาที่บ้านของเมคิน เพราะทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของเขา“พอครับ แม่ครบ นี่คุณจางหยวนกับคุณลักษิกาครับ” เขาเรียกคุณเมฆาและคุณจีรญาว่าพ่อและแม่อย่างเต็มปากในขณะที่เรียกพ่อแม่แท้ๆ ว่าคุณ ทำให้เมฆารู้ในทันทีว่าทิวายังไม่เปิดใจยอมรับทั้งสองมากนัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจางหยวนคุณลักษิกา” เมฆากล่าวทักทาย“ยินดีท
เมคินเลขาคู่ใจกลับมาทำงานกันตามปกติ ส่วนคุณจางหยวนนั้นยังขออยู่ที่เชียงใหม่ต่อ ทิวาโล่งใจที่เขาไม่กลับมาด้วยเพราะตัวเองยังคงสับสนกับทุกเรื่อง“บอสครับบ่ายนี้มีประชุมกับฝ่ายวางแผนกลยุทธ์นะครับ แล้วตอนเย็นก็ต้องมีงานเลี้ยงรุ่นนะครับ” ทิวาเดินถือกาแฟมาให้กับเจ้านายพร้อมบอกตารางการทำงานของบ่ายวันนี้อย่างเคย“ลืมไปสนิทเลย ทิวเปลี่ยนใจไปกับพี่ไหม” เมคินรั้งให้คนรักมานั่งบนตัก กดจมูกไปยังแก้มเนียนชายหนุ่มมักจะฉวยโอกาสอย่างนี้ทุกครั้งที่ทิวาเอากาแฟเข้ามาให้“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ไปด้วยพี่จะได้สนุกเต็มที่”“ไม่กลัวพี่ไปเจอคนอื่นเหรอ”“คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าพี่มีเจ้าของแล้ว ผมอยากจะรู้จังว่าใครมันจะกล้าเข้ามาหาพี่”“ไม่แน่นะทิว คนเราบางทีก็อยากท้าทาย”“ก็จริงนะครับ แต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก”“แสดงว่าเชื่อใจพี่”“แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่จะไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำลายความเชื่อใจของผม”“ใครจะทำอย่างนั้น”“ผมต้องออกไปแล้วหายเข้ามานานเดี๋ยวคุณวีณาสงสัย”“คนรักกันจะอยู่ด้วยกันนานหน่อยไม่น่ามีปัญหานะ ทิวย้ายเข้ามานั่งทำงานในห้องดีไหม”“อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่เห็นหน้าผมทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว
ทิวากลับมายังคอนโดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาจากปากของชายคนที่มาอ้างตัวว่าเป็นพ่อ แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ชายคนนั้นเอามาให้ดูแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจ ผู้หญิงในรูปถ่ายหน้าตาเหมือนเขาราวกับเป็นฝาแฝดถ้าเขาใสวิกผมยาวก็คงแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน“อย่าเพิ่งคิดมาเลยทิว รอผล DNA ก่อนดีกว่า”“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลูกเขาจริงๆ”“ถ้าให้ตอบในมุมมองของพี่นะ มันก็ดีที่เรารู้ว่าพ่อเราเป็นใคร และเท่าที่ฟังคุณจางหยวนก็ไม่ได้ทิ้งทิวไป แต่มันเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น คนที่จะให้คำตอบได้ก็คือแม่ของทิว ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็คงจะเห็นทิวผ่านตามสื่อบ้างแล้ว”“พี่หมายความว่าแม่ผมอาจตายไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงของทิวาสั่นเครือ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่มาได้โดยไม่มีพ่อและแม่ แต่พอมาได้ยินเรื่องราววันนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเจอผู้ให้กำเนิด อยากรู้ว่าท่านอยู่สุขสบายดีไหม“พี่ขอโทษ” พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าไปตั้งข้อสงสัยแบบนั้นเลยจริงๆ“ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงเห็นผม ขนาดแม่ครูที่ไม่ค่อยมีเวลาดูทีวียังเคยเห็นเลย”“จริงสิ เราลองถามแม่ครูดูไหมบางทีอาจมีเบาะแส”“อย่าเลยครับพี่คิน เอาเรื่องคุ
ในแต่ละวันเมคินและทิวาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทุกอย่างกำลังเป็นได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก ยิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งสองก็ยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้นชีวิตที่กำลังลงตัวของทิวากำลังจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ๆ ชายชาวจีนคนหนึ่งก็บอกว่าอยากเจอเขา โดยชายคนนั้นติดต่อผ่านทางบริษัทโฆษณาของเมลดาทิวาไม่เคยมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น และก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยากเจอตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายยินดีที่จะบินมาที่เมืองไทย ชายหนุ่มก็เลยตอบตกลงที่จะให้เขาเข้ามาพบวันนี้ชายคนนั้นเดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อขอพอกับทิวา โดยนัดกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งเมคินและทิวามาถึงโรงแรมตรงเวลานัดพอดี แต่เขาคนนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับ คุณทิวา ผมชื่อจางหยวน” เขากล่าวทักทายด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว“สวัสดีครับผมทิวา คุณคงรู้อยู่แล้วและนี่เมคินคนรักของผมครับ” ทิวาแนะนำตัวเองและคนรักให้กับชายแปลกหน้าด้วยสถานะที่ทั้งสองไม่เคยปิดบัง“ครับ เชิญนั่งก่อน ผมสั่งอาหารแล้ว เราทานไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”“ผมว่าคุยรีบคุยธุระของคุณดีกว่าครับ เราสองคนยังไม่หิว”“ผมอยากคุยกับคุณตามลำพังมากกว่า”“เสียใจครับ ผมคงให้คุ
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เมคินและทิวาก็สามารถจับมือกันก้าวผ่านมาได้ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเขาและเลขายังมีคนพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาก้าวก่ายทิวาเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นเพราะที่บริษัทให้ทิวาถ่ายโฆษณาสินค้าอีกหลายตัว แต่เขาก็ยังคงทำตัวปกติ มีสินค้าหลายประเภทติดต่อเข้ามาให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทิวาก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองถนัดและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินวันนี้ทุกคนนัดรวมตัวกันที่บ้านโอภาสธนรัตน์เพราะเป็นวันเกิดของเมคิน คุณจีรญาจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้กับลูกชายนอกจากคนในครอบครัวแล้ว ฉัตรภพและองศาก็มาร่วมงานด้วย เมคินสั่งทุกคนไม่ให้นำของขวัญมา ถ้าหากใครจะอยากจะมอบของขวัญให้ชายหนุ่มขอเป็นเงินสดเพราะตั้งใจว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอันเป็นบ้านอีกหลังของทิวาเลขาคู่ใจของเขาเจ้าของวันเกิดดูจะมีความสุขมากกว่าใครเพราะรอบตัวรายล้อมไปด้วยคนรัก ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านจนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกคนรอ ทิวาถือเค้กออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทุกคนร่วมกันร้องเพลงอย่างพร้อมเพรียงพอเสียงเพลง Happy
คุณราเมศและลูกสาวออกมาขอโทษเมคินสำหรับเรื่องที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พร้อมกับยอมรับว่าที่ทำไปเพราะหวังอยากให้ทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องลูกในท้องของรมิดานั้น หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกของใครแม้เจ้าตัวจะออกมายอมรับและขอโทษแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าสิ่งที่สองพ่อลูกพูดออกไปนั้นเพราะถูกทางเมคินกดดันให้พูดกระแสตีกลับมาที่เมคินอีกครั้ง เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนไปกดดันให้เธอออกมาขอโทษ เรื่องราวเลยไปกันใหญ่ บางคนถึงขั้นบอกจะแบนสินค้าทุกชนิดจากบริษัทเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ หุ้นของบริษัทดิ่งลงจนบอร์ดบริหารยื่นคำขาดให้เมคินจัดการเรื่องนี้ให้จบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังเลิกงานวันนี้เมคินและทิวาเลยมาที่บ้านใหญ่เพื่อปรึกษากับทุกคนเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นสีหน้าของทุกคนในห้องทำงานในบ้านโอภาสธนรัตน์ดูเคร่งเครียดกว่าทุกครั้งคุณเมฆาดูวิตกกังวลมากกว่าคนอื่นเพราะบริษัทนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อตั้งจึงไม่อยากให้ตำแหน่งรองประธานตกไม่อยู่ในมือคนอื่น อีกอย่างที่ผ่านมาเมคินก็ทำงานได้เป็นอย่างดี“คนเราก็แปลกเรื่องจริงกลับไม่เชื่อกัน” คุณจีรญาเห็นใจลูกชา
การกลับมาทำงานหลังการหยุดยาวช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายที่สุด ทิวาไม่เคยรู้สึกขี้เกียจอย่างนี้มาก่อนเลยสักครั้ง“พี่คิน ลางานต่อเลยได้ไหม”“เอาสิ พี่ลาด้วย”“ไม่คิดจะห้ามเลยเหรอครับ”“จะห้ามทำไมล่ะ ว่าแต่เป็นอะไรพี่ไม่เคยเห็นทิวเป็นแบบนี้มาก่อน”“ไม่รู้สิครับ ความรู้สึกมันไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ มันเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง”“นี่เชื่อเรื่องโชคลางด้วยเหรอ”“เชื่อสิครับ”“คงไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีปัญหาเรื่องงานเราก็ช่วยกันแก้ได้เหมือนทุกครั้ง”“นั่นสิครับ มีพี่อยู่ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”แม้ปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ทิวาก็ยังไม่ค่อยสบายใจตลอดช่วงเช้างานทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ทิวาเลยรู้สึกดีขึ้น บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ แต่เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเลขาอย่างเขาเพราะมันเกิดขึ้นกับบอสภาพข่าวในโซเชียลที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือข่าวว่าลูกสาวคนเดียวของคุณราเมศเข้าโรงพยาบาลกะทันหันโดยมีอาการตกเลือด แต่หมอช่วยไว้ได้ทัน เด็กในท้องเลยไม่ได้รับอันตรายทางนั้นยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอตั้งครรภ์กับนักธุรกิจรายหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธ แถมยังบังคับให้เธอไปเอาเด็กออก พอเธอไม่ทำตามก็เลยให้แอบ