หลังเลิกงานเมคินกับทิวาก็มาทานอาหารที่ร้านประจำอย่างเคย วันนี้บอสหนุ่มเป็นคนโทรสั่งอาหาร เขาเลือกต้มยำปลาแม่น้ำ ยำถั่วพู ปีกไก่น้ำแดง และห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน“ไม่อร่อยเหรอ”ปกติแล้วทิวาจะชอบอาหารรสจัดแบบนี้ ทุกครั้งชายหนุ่มจะทานไปด้วยยิ้มไปด้วย แต่วันนี้นอกจากจะทานน้อยกว่าทุกวันแล้วรอยยิ้มก็แทบไม่มีให้เห็น“อร่อยครับ”“แต่ท่าทางของนายไม่ใช่แบบนั้นนะ เป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าเครียดเรื่องงาน”“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมแค่ปวดท้องนิดหน่อย”“ไปหาหมอไหม”ปกติเป็นคนขาวอยู่แล้วแต่ตอนนี้หน้าชายหนุ่มซีดจนน่าตกใจ“ไม่ต้องหรอกครับ ปวดท้องแค่นิดหน่อยเอง เดี๋ยวขากลับแวะตรงร้านขายหน้าหน้าคอนโดหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าจะซื้อยาสักหน่อย”“ได้สิ แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องรีบออกนะ อย่าฝืน”“ครับพี่”ทิวาทานต่ออีกนิดเพราะเห็นว่าอีกคนทานไปยังไม่เยอะ ถ้าหยุดตอนนี้ก็รู้ว่าเมคินนั้นคงยังไม่อิ่ม แต่ยิ่งทานก็ยิ่งปวดท้อง สุดท้ายก็เลยต้องวางช้อนกับส้อมลง“พี่คิน ไม่ต้องรีบนะครับ ผมไม่เป็นอะไรมาก”“เห็นหน้าเป็นแบบนี้ใครจะกินลง” เมคินมาได้ตำหนิหรือไม่พอใจแต่เขาห่วงอีกคนจนทานอะไรไม่ลงเหมือนกันพอจ่ายเงินค่าอาหารแล้วเขาก็เป็นคนขับ
เป็นวันแรกที่เมคินขับรถกลับมาทำงานคนเดียว ตั้งแต่ทิวามาทำงานด้วย ความรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง คงเพราะที่ผ่านมามีชายหนุ่มอีกคนอยู่ด้วยแทบจะตลอดเวลาเขาไปประชุมที่บริษัทลูกค้าสองแห่งจากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันกับฉัตรภพและกลับมานั่งทำงานต่อ ใจจริงอยากไปโรงพยาบาลเพื่อดูว่าทิวาเป็นยังไงบ้าง แต่งานตรงหน้าก็ยังไม่เรียบร้อยตกบ่ายก็ได้รับสายจากทิวา ชายหนุ่มโทรมาบอกว่าผลการส่องกล้องไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่หมอตรวจพบเชื้อเอชไพโลไรในกระเพาะอาหารเลยต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกสองวันเพื่อรับยาฆ่าเชื้อเข้าทางสายน้ำเกลือจากนั้นก็ให้ไปทานยาต่อที่บ้านอีก 5 วัน“เย็นนี้อยากกินอะไร พี่เลิกงานแล้วจะได้ซื้อไปให้”“ไม่ต้องห่วงครับ ผมทานอาหารของโรงพยาบาลได้ พี่คินไม่ต้องมาก็ได้ ผมไม่เป็นอะไรมากสักหน่อย แค่นอนให้ยาเท่านั้นเอง”“งั้นก็ตามใจ เดี๋ยวพี่ส่งพยาบาลพิเศษไปเฝ้าก็ได้”“ครับ” เพราะไม่อยากให้เขาต้องลำบากมาเฝ้าทิวาเลยไม่ปฏิเสธเรื่องพยาบาลพิเศษ“พี่ทำงานต่อนะ อย่าดื้อกับหมอและพยาบาลล่ะ เข้าใจไหม”“ครับ”พอวางสายแล้วคนป่วยก็ส่งไลน์มาย้ำเรื่องอาหารเย็นอีกครั้งTiwa : ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนผมอย่าลืมทานข้าวนะครับ
การนอนโรงพยาบาลของทิวาไม่ได้น่าเบื่อเท่าไหร่ ตอนเช้าเขาทบทวนบทเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวสอบโทอิคพอตกบ่ายเมคินก็ส่งไฟล์งานให้ทำ พอตกเย็นเขาก็มาอยู่เป็นเพื่อน ก่อนจะนอนคุยกันจนพยาบาลมาวัดความดันตอนสี่ทุ่มจึงผิดไฟนอน พอตอนเช้าก็สั่งอาหารของโรงพยาบาลมานั่งทานเป็นเพื่อนคนป่วยก่อนไปทำงานเช้าวันนี้หมออนุญาตให้ทิวากลับบ้านได้แต่ต้องหลังจากยาฆ่าเชื้อขวดสุดท้ายหมด“วันนี้นี้พี่คินมีประชุมนะครับ ผมกลับคนเดียวได้”“ถ้าประชุมเสร็จเร็วจะมารับนะ”“ตามใจครับ แต่ถ้าผมทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้วพี่ยังประชุมไม่เสร็จผมจะนั่งแท็กซี่กลับ ตอนเย็นค่อยเจอกัน”ทิวาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะมารับเพราะรู้ว่าพูดไปก็เหนื่อยเปล่า อย่างสองวันที่ผ่านมานี้เขาก็บอกให้เมคินกลับไปนอนที่ห้องเพราะไม่อยากให้นอนบนโซฟา แต่ก็เหมือนอีกคนไม่สนใจฟังเลยแม้แต่น้อย“อือ พี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าดื้อกับคุณพยาบาลล่ะ”“ผมว่าพี่รีบไปเถอะครับ ถ้าออกสายกว่านี้รถจะติดเอานะครับ” เขาเตือนพร้อมกับส่งกระเป๋าเอกสารให้บอสหนุ่ม ใช้มือดันแผ่นหลังให้เขาเดินออกจากห้องพอบอสกลับไปแล้วทั้งห้องก็กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง เขานอนอยู่บนเตียงกว้าง นั่งฟังบทความภาษาอ
ทิวายิ้มแก้มปริเมื่อได้รับจดหมายจากฝ่ายบุคคลว่าเขาผ่านการทดลองงาน แม้จะลาป่วยไปสองวันแต่นั่นก็เป็นเหตุจำเป็น จากนี้เขาจะได้เป็นพนักงานประจำและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นจากเดิม จังหวะมันลงตัวมากเพราะเขาเองก็เพิ่งได้รับผลสอบโทอิคเมื่อวาน เขายื่นผลสอบไปที่ฝ่ายบุคคลตั้งแต่เช้านั่นก็เท่ากับว่าเงินเดือนของเขาเดือนหน้าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายพันเขาไม่ต้องจ่ายที่พัก ส่วนค่าอาหารบอสก็จะโอนเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ในแต่ละเดือนแทบไม่ได้ใช้เงิน ส่วนเงินที่ติดหนี้เมคินนั้นก็ทยอยจ่ายเดือนละแค่สองพันมันดูเหมือนเขาเอาเปรียบบอสในทุกๆ เรื่อง เคยคุยกับเมคินเรื่องค่าที่พักก็หลายครั้ง และจำได้ดีว่าล่าสุดที่พูดเรื่องนี้เมคินไม่คุยกับเขาอยู่ครึ่งวันทิวาไม่ชอบบรรยากาศที่แสนอึดอัดแบบนั้น เพราะนอกจากเพื่อนที่ทำงานแล้วเขาก็ไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ไหนให้คุยด้วยทุกวันเหมือนเมคิน“ดีใจด้วยนะทิวา” วีณาเข้ามาแสดงความยินดีด้วย“ผมต้องขอบคุณพี่วีณาที่ช่วยแนะนำและช่วยเหลือผมมาตลอด”“พี่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเพราะทิวาตั้งใจทำงาน และใส่ใจงานบอสก็เลยให้ผ่านโปร”“ยังไงก็ต้องขอบคุณอยู่ดี เวลาสามเดือนที่ผ่านผมมาเรียนรู้จากพี่ได้ม
เมคินมองออกไปนอกระเบียงห้องนอน ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดมิด แต่ถ้ามองต่ำลงมาก็จะเห็นแสงไฟระยิบระยับเต็มไปหมด รถลายังคงแล่นอยู่ตามท้องถนน เขามองดูแสงไฟจากรถและตึกรามบ้านช่องอย่างเพลินตาไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นภาพกรุงเทพยามราตรีเช่นนี้ แต่เพราะคำพูดของทิวาทำให้เขารู้สึกดี ภาพที่ชินตาก็กลายเป็นสิ่งสวยงามน่ามองเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกับทิวานั้นมีความสัมพันธ์แบบไหนเขาเป็นเจ้านายทิวาเป็นลูกน้อง แต่พอกลับมาที่คอนโดเขาก็เหมือนพี่ชาย ทุกอย่างมันยังดูคลุมเครือ แต่เท่าที่ได้ฟังความคิดของทิวาก็ไม่ได้ต่อต้านความรักของเพศเดียวกัน ถ้าจะต้องระบุสถานะให้ชัดเจนคงต้องให้เวลาอีกสักหน่อยอีกไม่ถึงเดือนก็จะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ เมคินวางแผนจะชวนทิวาไปเที่ยว หวังให้บรรยากาศในการพักผ่อนช่วยให้เขากับชายหนุ่มได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะเป็นคนพูดไม่เก่งทุกอย่างเลยต้องแสดงออกให้มากกว่าเดิม เมคินหวังว่าอีกคนจะเข้าใจใส่ในสิ่งที่เขาพยายามจะแสดงออกด้วยภาษากายเขาตื่นนอนเช้าเหมือนกับทุกวัน เพียงแต่วันนี้ไม่ได้ออกไปวิ่ง เพราะคิดว่าจะไปโรงพยาบาลกับทิวาด้วย“พี่คินไม่ไปวิ่งเหรอครับ” ทิวาออกมาจากห้องตามเวลาปกติ แต่ทุกครั้งเมคินจะอ
“ผู้หญิงคนเมื่อวานเป็นน้องรหัส เขามาชวนไปงานปาร์ตี้สละโสด เขาชวนนายไปงานแต่งงานเขาด้วย”อยู่ๆ เมคินก็พูดขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้า เพราะคิดว่าอีกคนคงอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม เขาสังเกตว่าเช้านี้ทิวาเอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมสบตาแถมยังนั่งเขี่ยไข่ดาวในจานเล่นจนมันเละไปหมด และพอพูดจบก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีรอยยิ้มที่มุมปาก“พี่บอกทำไม ผมยังไม่ได้ถามสักหน่อย”“ก็แค่อยากบอก เผื่อว่าคนบางคนแถวนี้จะเข้าใจผิด”“ใครจะเข้าใจผิดกัน” ทิวาปฏิเสธพร้อมหลบสายตาอีกคน“ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว คราวหน้าถ้าอยากรู้ก็ถาม ถ้าอยากให้กลับเร็วก็โทรตาม ไม่ใช่นอนรอแบบนั้น”“ถ้าโทรตามพี่จะรีบกลับเหรอ เกินว่าพี่ทำธุระอยู่หรือพี่กำลังสนุกกับเพื่อนแล้วผมโทรตาม พอกลับถึงห้องพี่จะไม่โกรธเอาเหรอ”“มันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าพี่กลับเร็วได้ก็จะรีบกลับ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็จะบอก”“แล้วจะโกรธไหมครับ”“ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองโทรดู”“พูดแบบนี้ใครจะกล้าโทรตาม” ทิวาทำหน้าเบื่อโลกก่อนจะยกจานไปเก็บ แต่ถ้าครั้งหน้าเมคินออกไปกับเพื่อนอีกเขาคิดว่าจะลองโทรตามดู ชายหนุ่มก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำตามที่พูดไหมตารางงานของเมคินตลอดทั้งสัปดาห์เพราะช่วงใกล้เทศกาลป
“บอสครับของขวัญพร้อมแล้ว จะออกเดินทางกี่โมงครับ”ทิวาถือกล่องของขวัญที่คุณวีณาไปซื้อมาตอนบ่ายเข้ามาในห้องของเจ้านายในเวลาเกือบหกโมงเย็นเมคินลุกขึ้นสวมสูทสีน้ำเงินเข้าทับเชิ้ตสีขาว พร้อมสำหรับไปร่วมงาน“ไปสิ”“จะไปชุดนี้เหรอครับ” ทิวามองชุดที่เจ้านายสวมอยู่แล้วมันเคร่งขรึมเกินกว่าจะไปร่วมงานมงคล“อือ ทำไม”“เปลี่ยนไทหน่อยไหมครับ” เมคินก้มมองเนกไทสีกรมท่าสลับกับมองทิวาที่กำลังเปิดตู้เอกสารเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง“ผมว่าสีนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มหยิบเนกไทสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง“เปลี่ยนให้หน่อยสิ”“บอสก็เปลี่ยนเองสิครับ”“ถ้าไม่เปลี่ยนให้ก็ไปกันเลย” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง“ก็ได้ครับ”เมคินยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมาทิวาดึงเนกไทเส้นเดิมออก เอื้อมมือคล้องอีกเส้นไปด้านหลัง ก่อนจะวกกลับมาแล้วเริ่มผูกเป็นปม เมคินยืนนิ่งเขาชอบที่เห็นทิวาอยู่ใกล้แบบนี้ เขาชอบมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เล่ห์เหลี่ยมของคนตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก เขาจำได้ว่าเป็นคนเลือกให้ แต่กลิ่นของมันไม่เหมือนกับตอนแรกที่ซื้อคงเพราะมันผสมกับกลิ่นกายจนทำให้เป็นกลิ่นเฉพาะที่รู้สึกหอมจนไม่อยากให้เข
แม้จะได้นอนไปเพียงสี่ชั่วโมงแต่ทิวากลับตื่นนอนด้วยความสดชื่น เขาออกมาทำอาหารอย่างเคย ไส้กรอก ไข่ดาวเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว ขอแค่เมคินกลับมาจากออกกำลังกายก็ปิ้งขนมปังอีกอย่างก็เรียบร้อยเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ทิวาก็หยิบขนมปังลงเครื่อง“พี่แต่งชุดนี้ไปวิ่งเหรอครับ” ก็ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็คือชุดนอน“เปล่า วันนี้ไม่ได้วิ่ง”“อ้าวแล้ว ไปไหนมาแต่เช้าล่ะครับ”“ไปซื้อน้ำส้ม” เพราะทิวาชอบฝากเขาซื้อน้ำส้มขากลับจากวิ่ง“ขอบคุณครับ แต่ครั้งหน้าถ้าพี่ไม่ออกไปวิ่งก็ไม่ต้องลงไปซื้อก็ได้ ผมเกรงใจ”“ไม่เป็นไร มันไม่ได้ไกลมาก อีกอย่างพี่รู้ว่าแฟนพี่ชอบกิน”“พี่คิน” เขาทำสีหน้าตกใจที่ได้ยินเมคินพูดแบบนั้น“เวลาทิวเขิน น่ารักดีนะ” พอเห็นเขาอายเมคินก็อยากแกล้งยิ่งเห็นเขาหน้าแดงหูแดงก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี“พี่คินห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นได้ยินนะครับ โดยเฉพาะที่ทำงาน”“ทำไม? เป็นแฟนพี่มาน่าอายมากเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนเสียใจหากแต่แววตาพราวระยิบ“ผมแค่ห่วงว่าคนอื่นจะมองพี่ไม่ดี”“ไม่เห็นต้องแคร์ เรื่องแบบนี้พี่ว่ามันเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว”“ครับ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าเวลาอยู่บริษัทพี่ต้องปฏิบัติกับผมยังไง เพราะคนที่เ
“พี่คิน เราจะเป็นไข้เลือดออกกันไหมครับ เราไม่มียากันยุง”“เดี๋ยวพี่โทรไปขอทางรีสอร์ตให้ อย่าเพิ่งออกไปนะเดี๋ยวโดนยุงกัดตัวลายขึ้นมาผิวสวยจะเสียหมด”รอไม่นานพนักงานของรีสอร์ตก็เอายากันยุงกับไฟแช็กมาให้ เมคินรับมาพร้อมกับมอบเงินให้เล็กน้อยค่าเสียเวลาเขาเดินออกไปจุดยากันยุงไว้หลายจุดเพราะกลัวว่ายุงจะมากัดผิวสวยๆ ของคุณเลขา“รอสักพักค่อยออกไปนะครับ พี่ขอล้างมือก่อน”“ครับ” เสียงทิวาขานรับขณะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพอเมคินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสองก็หอบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งมีเตียงอาบแดดอยู่ด้านริม“พี่คินว่าเราจะเห็นดาวตกไหม”“ก็น่าจะเห็นอยู่นะ” เมคินไม่ได้สนใจฝนดาวตก แต่เพราะอีกคนอยากเห็นก็เลยต้องออกมานอนตากน้ำค้างอย่างนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวก็จริง แต่ทุกดวงยังคงประดับอยู่บนท้องฟ้า“ทิวครับ ง่วงหรือเปล่า”“นิดหน่อยครับ”“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”“ยังไหวครับพี่ แต่ถ้าผมเผลอหลับพี่คินอย่าทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียวนะ”“ใครจะทิ้งได้ลงล่ะครับ” เมคินหันมาบอกคนรักที่อยู่เตียงใกล้ๆ กันตาคู่สวยของเลขาคู่ใจยังคงจ้องไปบนท้องฟ้า ส่วนส
ตลอดสองเดือนที่คุณจางหยวนเข้ามาในชีวิตของทิวา เมคินต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะรู้สึกเห็นใจที่เขากับลูกเพิ่งจะได้เจอกัน แต่พอเวลาผ่านไปเขาเองก็เริ่มทนความรู้สึกนี้ไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณจางหยวน“สวัสดีครับคุณเมคิน ไม่คิดเลยว่าบริษัทผมจะมีโอกาสต้อนรับคุณ”“สวัสดีครับคุณจาง ผมมาหาทิวาครับ”“อ้อ มาหาลูกชายผมนั้นเอง เดี๋ยวผมเรียกให้นะ”“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเองได้ ผมแค่แวะมาทักทายและจะมาบอกว่าต่อนี้ไปผมจะไม่ให้ทิวามาทำงานกับคุณอีกแล้ว”“ทำไมละครับ เขาเป็นลูกผมอีกหน่อยเข้าต้องมาทำงานแทนผม”“แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ คุณยังแข็งแรงอยู่เลยแล้วอีกอย่างคุณก็รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”“ใช่ผมรู้และก็ไม่ได้กีดกันสักหน่อย”“ไม่ได้กีดกันครับ แต่ช่วงนี้คุณแทบจะไม่ปล่อยให้เข้าไปทำงานกันผมเลย ผมแค่มาทวงเลขาคืน”“ตายจริง ผมคงลืมไปว่าเขาเป็นเลขาของคุณด้วย คิดแต่ว่าเป็นคนรักกัน”“ทิวเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”“ผมชอบที่คุณพูดตรงๆ กับผมนะ เอาล่ะ ตอนนี้ทิวาก็เรียนรู้งานมากแล้ว ที่ผมยอมให้เขากลับไปก็เพราะว่างานที่นี่มันค่อนข้างลงตัวแล้ว เขาแค่อาจต้องเข้ามาประชุมบ้างก็เท่านั้น
หลังจากที่ผลตรวจดีเอ็นเอคุณจางหยวนก็ดีใจมาก เขาอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า ครอบครัวที่คิดว่าเสียไปแล้วเมื่อยี่สิยกว่าปีก่อน แล้ววันนี้ได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างพร้อมหน้า พ่อ แม่ ชายวันห้าสิบกว่าก็ออกอาการดีใจเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้ของเล่นเลยทีเดียวเขาพูดจาหว่านล้อมจนคุณลักษิกายอมขึ้นมากรุงเทพ แม้เธอจะยังจำเรื่องในอดีตได้แต่ก็ยอมเดินทางมาเพราะอยากจะเจอกับทิวาอีกครั้งครั้ง ตอนนี้นอกจากรูปถ่ายใบนั้นแล้วคุณจางหยวนยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ และยังมีรูปถ่ายอีกหลายรูปที่ลูกชายและลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้ทางอีเมล ลักษิกาเลยเริ่มเปิดใจยอมรับเขาทีละนิด เพราะทุกรูปที่เขามีนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกันจริงๆวันนี้ทิวาเลยนัดทั้งสองคนให้มาที่บ้านของเมคิน เพราะทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของเขา“พอครับ แม่ครบ นี่คุณจางหยวนกับคุณลักษิกาครับ” เขาเรียกคุณเมฆาและคุณจีรญาว่าพ่อและแม่อย่างเต็มปากในขณะที่เรียกพ่อแม่แท้ๆ ว่าคุณ ทำให้เมฆารู้ในทันทีว่าทิวายังไม่เปิดใจยอมรับทั้งสองมากนัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจางหยวนคุณลักษิกา” เมฆากล่าวทักทาย“ยินดีท
เมคินเลขาคู่ใจกลับมาทำงานกันตามปกติ ส่วนคุณจางหยวนนั้นยังขออยู่ที่เชียงใหม่ต่อ ทิวาโล่งใจที่เขาไม่กลับมาด้วยเพราะตัวเองยังคงสับสนกับทุกเรื่อง“บอสครับบ่ายนี้มีประชุมกับฝ่ายวางแผนกลยุทธ์นะครับ แล้วตอนเย็นก็ต้องมีงานเลี้ยงรุ่นนะครับ” ทิวาเดินถือกาแฟมาให้กับเจ้านายพร้อมบอกตารางการทำงานของบ่ายวันนี้อย่างเคย“ลืมไปสนิทเลย ทิวเปลี่ยนใจไปกับพี่ไหม” เมคินรั้งให้คนรักมานั่งบนตัก กดจมูกไปยังแก้มเนียนชายหนุ่มมักจะฉวยโอกาสอย่างนี้ทุกครั้งที่ทิวาเอากาแฟเข้ามาให้“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ไปด้วยพี่จะได้สนุกเต็มที่”“ไม่กลัวพี่ไปเจอคนอื่นเหรอ”“คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าพี่มีเจ้าของแล้ว ผมอยากจะรู้จังว่าใครมันจะกล้าเข้ามาหาพี่”“ไม่แน่นะทิว คนเราบางทีก็อยากท้าทาย”“ก็จริงนะครับ แต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก”“แสดงว่าเชื่อใจพี่”“แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่จะไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำลายความเชื่อใจของผม”“ใครจะทำอย่างนั้น”“ผมต้องออกไปแล้วหายเข้ามานานเดี๋ยวคุณวีณาสงสัย”“คนรักกันจะอยู่ด้วยกันนานหน่อยไม่น่ามีปัญหานะ ทิวย้ายเข้ามานั่งทำงานในห้องดีไหม”“อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่เห็นหน้าผมทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว
ทิวากลับมายังคอนโดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาจากปากของชายคนที่มาอ้างตัวว่าเป็นพ่อ แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ชายคนนั้นเอามาให้ดูแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจ ผู้หญิงในรูปถ่ายหน้าตาเหมือนเขาราวกับเป็นฝาแฝดถ้าเขาใสวิกผมยาวก็คงแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน“อย่าเพิ่งคิดมาเลยทิว รอผล DNA ก่อนดีกว่า”“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลูกเขาจริงๆ”“ถ้าให้ตอบในมุมมองของพี่นะ มันก็ดีที่เรารู้ว่าพ่อเราเป็นใคร และเท่าที่ฟังคุณจางหยวนก็ไม่ได้ทิ้งทิวไป แต่มันเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น คนที่จะให้คำตอบได้ก็คือแม่ของทิว ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็คงจะเห็นทิวผ่านตามสื่อบ้างแล้ว”“พี่หมายความว่าแม่ผมอาจตายไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงของทิวาสั่นเครือ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่มาได้โดยไม่มีพ่อและแม่ แต่พอมาได้ยินเรื่องราววันนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเจอผู้ให้กำเนิด อยากรู้ว่าท่านอยู่สุขสบายดีไหม“พี่ขอโทษ” พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าไปตั้งข้อสงสัยแบบนั้นเลยจริงๆ“ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงเห็นผม ขนาดแม่ครูที่ไม่ค่อยมีเวลาดูทีวียังเคยเห็นเลย”“จริงสิ เราลองถามแม่ครูดูไหมบางทีอาจมีเบาะแส”“อย่าเลยครับพี่คิน เอาเรื่องคุ
ในแต่ละวันเมคินและทิวาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทุกอย่างกำลังเป็นได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก ยิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งสองก็ยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้นชีวิตที่กำลังลงตัวของทิวากำลังจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ๆ ชายชาวจีนคนหนึ่งก็บอกว่าอยากเจอเขา โดยชายคนนั้นติดต่อผ่านทางบริษัทโฆษณาของเมลดาทิวาไม่เคยมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น และก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยากเจอตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายยินดีที่จะบินมาที่เมืองไทย ชายหนุ่มก็เลยตอบตกลงที่จะให้เขาเข้ามาพบวันนี้ชายคนนั้นเดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อขอพอกับทิวา โดยนัดกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งเมคินและทิวามาถึงโรงแรมตรงเวลานัดพอดี แต่เขาคนนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับ คุณทิวา ผมชื่อจางหยวน” เขากล่าวทักทายด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว“สวัสดีครับผมทิวา คุณคงรู้อยู่แล้วและนี่เมคินคนรักของผมครับ” ทิวาแนะนำตัวเองและคนรักให้กับชายแปลกหน้าด้วยสถานะที่ทั้งสองไม่เคยปิดบัง“ครับ เชิญนั่งก่อน ผมสั่งอาหารแล้ว เราทานไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”“ผมว่าคุยรีบคุยธุระของคุณดีกว่าครับ เราสองคนยังไม่หิว”“ผมอยากคุยกับคุณตามลำพังมากกว่า”“เสียใจครับ ผมคงให้คุ
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เมคินและทิวาก็สามารถจับมือกันก้าวผ่านมาได้ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเขาและเลขายังมีคนพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาก้าวก่ายทิวาเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นเพราะที่บริษัทให้ทิวาถ่ายโฆษณาสินค้าอีกหลายตัว แต่เขาก็ยังคงทำตัวปกติ มีสินค้าหลายประเภทติดต่อเข้ามาให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทิวาก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองถนัดและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินวันนี้ทุกคนนัดรวมตัวกันที่บ้านโอภาสธนรัตน์เพราะเป็นวันเกิดของเมคิน คุณจีรญาจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้กับลูกชายนอกจากคนในครอบครัวแล้ว ฉัตรภพและองศาก็มาร่วมงานด้วย เมคินสั่งทุกคนไม่ให้นำของขวัญมา ถ้าหากใครจะอยากจะมอบของขวัญให้ชายหนุ่มขอเป็นเงินสดเพราะตั้งใจว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอันเป็นบ้านอีกหลังของทิวาเลขาคู่ใจของเขาเจ้าของวันเกิดดูจะมีความสุขมากกว่าใครเพราะรอบตัวรายล้อมไปด้วยคนรัก ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านจนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกคนรอ ทิวาถือเค้กออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทุกคนร่วมกันร้องเพลงอย่างพร้อมเพรียงพอเสียงเพลง Happy
คุณราเมศและลูกสาวออกมาขอโทษเมคินสำหรับเรื่องที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พร้อมกับยอมรับว่าที่ทำไปเพราะหวังอยากให้ทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องลูกในท้องของรมิดานั้น หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกของใครแม้เจ้าตัวจะออกมายอมรับและขอโทษแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าสิ่งที่สองพ่อลูกพูดออกไปนั้นเพราะถูกทางเมคินกดดันให้พูดกระแสตีกลับมาที่เมคินอีกครั้ง เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนไปกดดันให้เธอออกมาขอโทษ เรื่องราวเลยไปกันใหญ่ บางคนถึงขั้นบอกจะแบนสินค้าทุกชนิดจากบริษัทเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ หุ้นของบริษัทดิ่งลงจนบอร์ดบริหารยื่นคำขาดให้เมคินจัดการเรื่องนี้ให้จบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังเลิกงานวันนี้เมคินและทิวาเลยมาที่บ้านใหญ่เพื่อปรึกษากับทุกคนเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นสีหน้าของทุกคนในห้องทำงานในบ้านโอภาสธนรัตน์ดูเคร่งเครียดกว่าทุกครั้งคุณเมฆาดูวิตกกังวลมากกว่าคนอื่นเพราะบริษัทนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อตั้งจึงไม่อยากให้ตำแหน่งรองประธานตกไม่อยู่ในมือคนอื่น อีกอย่างที่ผ่านมาเมคินก็ทำงานได้เป็นอย่างดี“คนเราก็แปลกเรื่องจริงกลับไม่เชื่อกัน” คุณจีรญาเห็นใจลูกชา
การกลับมาทำงานหลังการหยุดยาวช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายที่สุด ทิวาไม่เคยรู้สึกขี้เกียจอย่างนี้มาก่อนเลยสักครั้ง“พี่คิน ลางานต่อเลยได้ไหม”“เอาสิ พี่ลาด้วย”“ไม่คิดจะห้ามเลยเหรอครับ”“จะห้ามทำไมล่ะ ว่าแต่เป็นอะไรพี่ไม่เคยเห็นทิวเป็นแบบนี้มาก่อน”“ไม่รู้สิครับ ความรู้สึกมันไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ มันเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง”“นี่เชื่อเรื่องโชคลางด้วยเหรอ”“เชื่อสิครับ”“คงไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีปัญหาเรื่องงานเราก็ช่วยกันแก้ได้เหมือนทุกครั้ง”“นั่นสิครับ มีพี่อยู่ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”แม้ปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ทิวาก็ยังไม่ค่อยสบายใจตลอดช่วงเช้างานทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ทิวาเลยรู้สึกดีขึ้น บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ แต่เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเลขาอย่างเขาเพราะมันเกิดขึ้นกับบอสภาพข่าวในโซเชียลที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือข่าวว่าลูกสาวคนเดียวของคุณราเมศเข้าโรงพยาบาลกะทันหันโดยมีอาการตกเลือด แต่หมอช่วยไว้ได้ทัน เด็กในท้องเลยไม่ได้รับอันตรายทางนั้นยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอตั้งครรภ์กับนักธุรกิจรายหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธ แถมยังบังคับให้เธอไปเอาเด็กออก พอเธอไม่ทำตามก็เลยให้แอบ