“มองพอหรือยัง” ดิฐกรพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้า “ตะลึงในความหล่อหรือไง หืม...”“คงงั้นมั้งคะ” มือที่กำลังติดพลาสเตอร์ชะงักค้าง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดอย่างงุนงง“อกหักจนเพี้ยนไปแล้วเรอะ? หรือว่าอินกับบทหวานใจฉันมากเกินไป...”“ถ้าไม่นับเรื่องปาก พี่ก็น่าจะเป็นแฟนที่ดีได้อยู่นะ”“นั่นชมหรือด่า?”“แล้วแต่จะคิดค่ะ”ดิฐกรค้อนใส่ พลางเหลือบมองโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเตือนไม่หยุดของเธอ“แล้วนั่นจะปล่อยมันดังหนวกหูชาวบ้านอีกนานไหม”พอขาดคำก็มีเสียงเรียกเข้ามาอีกรอบ นิ้วเรียวสวยเตรียมจะกดตัดสายทิ้ง แต่แล้วความคิดหนึ่งก็กลับแว่บเข้ามาในหัว แทนที่จะกดตัดสายจึงกดรับแล้วยื่นโทรศัพท์ไปแนบที่หูของดิฐกรทันที“นี่เธอ...”จะทำบ้าอะไร...คำต่อมาต้องถูกกลืนลงคอกะทันหัน เมื่อปลายสายแทบจะตะโกนสวนเข้ามาจนขี้หูเขาเกือบเต้นระบำ“ดาร์ลิง! ทำไมไม่รับสายผม” ดิฐกรหันไปสบตาแม่ตัวดีอย่างรู้ทัน ที่ส่งสายมาแบบไม่ให้เขาตั้งตัวนี่ จะอะไรได้ถ้าไม่ใช่...ยืมมือฆ่าคน!“จะไปรู้เหรอ!”“อ้าว! นี่ไม่ใช่เบอร์น้องแคทเหรอครับ” มีเสียงขลุกขลักดังมาจากปลายสายเล็กน้อย“ใช่มั้ง”“แล้วแกเป็นใคร”“แล้วแกล่ะเป็นใคร”“เอ๊ะ!”เจ้าของโ
“ฉันรู้จักที่ดีๆ อยู่ที่หนึ่ง ไปกันเถอะ”ไม่รอให้เธอคิดหรือตอบตกลงด้วยซ้ำ พ่อคนใจร้อนก็รีบประคอง ไม่สิ ควรเรียกว่าลากลู่ถูกังกันไปหลุนๆ โดยไม่แคร์พลาสเตอร์ปิดแผลเลยสักนิด... “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”วรพลหายใจฮึดฮัด โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนกดโทรออกเบอร์เดิมอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ โทรไม่รับก็ส่งข้อความรัวๆ แต่ผลก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ไม่รับ ไม่อ่าน แต่ยังดีที่ไม่โดนบล็อก“หายหัวไปไหนวะ รับสายสักทีสิยัยโง่เอ๊ย” ชายหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิด จนทำคนข้างกายถึงกับสะดุ้งตกใจ“ใจเย็นๆ สิคะที่รัก”เจนิสาละสายตาจากแหวนวงงามที่อีกฝ่ายเพิ่งบอกตกลงจะซื้อให้ แต่ทว่ากลับถูกพนักงานในร้านบอกว่าบัตรเครดิตเสริมที่เขาถือกลับรูดไม่ผ่านขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ทั้งที่เขาเพิ่งรูดจ่ายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นไปไม่ถึงชั่วโมงก่อนหน้าแบบสบายๆ วงเงินก็ยังเหลือให้ถลุงอีกเพียบครั้นจะโทรไปถามเจ้าของบัตรหลักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็ดันกดรับแล้วตัดสาย ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน ครั้นพอจะรับขึ้นมาก็กลับไม่ใช่แคทรียา แต่เป็นผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่พูดจากวนประสาทอีกแปลก! เรื่องนี้มันชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้
เอาเถอะ เขาก็กะไว้ว่าจะกินอีกสักหนสองหนก็คงพอแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ไว้ค่อยแยกย้ายไปหาความสุขกับคนใหม่ก็ได้ เพราะถึงยังไงเขาก็มีของตายโง่ๆ อย่างแคทรียาอยู่ในมือทั้งคนนี่นา จะกลัวอะไรพอคิดถึงของตายที่ว่า อารมณ์ของวรพลก็พาลหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ คอยดูนะ หากเจอตัวเมื่อไหร่เขาจะจัดการเล่นงานให้เข็ด โทษฐานที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นและเสียอารมณ์โดยใช่เหตุ“คนเฮงซวย ไอ้ผู้ชายหลายใจ ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย...ไปตายซะ!”ดิฐกรถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นอาการคนกำลังเฮิร์ตที่ดื่มไปด่าไป โชคดีที่เพลงในผับดังมาก คนอื่นๆ เลยไม่ได้ยินเสียงแปดหลอดที่แม่ตัวดีบริภาษแฟนหนุ่มตัวแสบ แต่เขานี่สิ ต้องมานั่งรับเวรรับกรรมหูแฉะแทน คิดผิดหรือคิดถูกวะกู! หาภาระใส่ตัวชัดๆ“พี่ดิว!”“ว่า...”“แคทถามจริงๆ เถอะ ทำไมพวกผู้ชายมันถึงชอบนอกใจแฟนนัก ทำไมต้องหลายใจ รักเดียวใจเดียวไม่เป็นหรือไง”คำถามแรกมาก็แทงใจดำกันเลยทีเดียวนะแม่คุณ“อย่าเหมารวมสิ ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบนั้นสักหน่อย” คนฟังพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย“อืม...ก็จริงของพี่นะ อย่างน้อยพี่ชายแคทก็รักพี่มี่คนเดียวจริงๆ”ดิฐกรสะอึก ได้แต่เข่นเขี้ยวเมื่อได้ยินอีกฝ่ายสรรเสริญเย
“อ๊ะ...”เสียงหวานครางออกมาเบาๆ เมื่อจู่ๆ เรียวปากอุ่นร้อนก็เปิดออกพร้อมกับส่งปลายชิวหาร้อนฉ่าพุ่งชอนไชเข้ามาตามรอยเผยอของกลีบปากเธออย่างรวดเร็วและกวาดต้อนพัวพันกับลิ้นนุ่มๆ ของเธอจนต้องรีบถอยร่นไม่เป็นท่า เมื่อเจอของจริง จูบจริง จูบดุดันจากผู้ชายร้ายๆ ที่เธอแสนจะเหม็นขี้หน้า และตั้งตัวเป็นคู่ปรับกับเขามาตลอดไม่คิดเลยว่าดิฐกรจะจูบแซ่บได้ขนาดนี้ สุดท้ายแคทรียาก็ปล่อยให้อีกฝ่ายได้คุมเกมและจูบเธอได้อย่างหนำใจ ไม่สิ จะว่าแบบนั้นก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเองก็ไม่ยอมให้เขารุกไล่ฝ่ายเดียวจูบมาจูบกลับไม่โกง!สองหนุ่มสาวจุมพิตดูดดื่มลึกซึ้งและทวีความเร่าร้อนมากขึ้นทุกที เมื่อร่างเพรียวบางถูกดึงขึ้นมานั่งเกยบนตักแกร่งโดยไม่สนว่ากระโปรงสั้นของเธอจะร่นขึ้นมาอยู่เหนือขาอ่อนขาวจั๊วะเสือหิวตัวร้ายบดขยี้ริมฝีปากเคล้าคลึงดึงดูดเธอเข้าไปในกับดักเสน่หาของเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ปลายลิ้นช่ำชองรุกไล่ต้อนปล้นลมหายใจหอมหวานไปจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนหญิงสาวหายใจหายคอไม่ทันลมหายใจอุ่นร้อนสอดประสานสัมผัสรินรดที่ใบหน้าของคนทั้งสองจุดประกายปรารถนาของสองหนุ่มสาววัยกลัดมันให้ลุกโชนขึ้น เสียงเพลงอึกทึกรอบด้านปลุกเร้าสัญช
ราวกับโดนน้ำแข็งเย็นเฉียบสาดเข้าที่ใบหน้าโครมใหญ่ จนชาเห่อไปทั้งตัว เมื่อได้ยินจุดประสงค์ของอีกฝ่าย อารมณ์หื่นกระหายก็ดิ่งฮวบลงกว่าครึ่ง“นอกใจ...” ดิฐกรทวนคำด้วยสีหน้าปั้นยาก“ใช่ค่ะ แคทอยากนอกใจไอ้เลวนั่น แคทอยากมีกิ๊กบ้าง...”“กิ๊ก!” คนพูดชี้นิ้วที่ตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ!”“ค่ะ พี่มีประสบการณ์นอกใจมีกิ๊กมาแล้วนี่ ก็น่าจะทำได้นะ”เวรเอ๊ย! ยัยเด็กบ้านี่ กล้าดียังไงวะถึงจะให้เขาเป็นกิ๊กดวงตาคมเข้มมองสบตาที่ทอประกายเจิดจ้าแข่งกับแสงสปอร์ตไลท์ จนเขาอยากจะประเคนมะเหงกให้สักทีสองที โทษฐานที่เจ้าตัวแสบบังอาจยืมมือเขาแก้แค้นแฟนตัวเองอีกแล้วนี่สินะที่บอกว่ายังไม่ยอมเลิกกับไอ้เวรนั่น ที่แท้ความหมายของมันคือแบบนี้ เก็บมันไว้เอาคืนก่อน แล้วเขาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมต้องโดนใช้เป็นเครื่องมือเอาคืนถูกเขี่ยไปเป็นกิ๊กของยัยนี่ด้วย นี่มันยิ่งกว่าหยามหน้ากันชัดๆมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน คบแบบไร้สถานะ หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา พอกินอิ่มแล้วก็ไปทางใครทางมัน เห็นเขาเป็นร้านสะดวกซื้อหรือไงวะ“อุ๊ย!”แคทรียาอุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ ก็โดนดีดลงจากตักของเขาดื้อๆ ดวงตาคมกริบฉายรอยหงุดหงิด ไหนจะอารมณ์ที่คั่งค้างไม่ได้รับการปลด
“ว้าย!” เสียงหวานอุทานลั่น เมื่อจู่ๆ ถูกคีมเหล็กร้อนฉ่ากระชากตัวออกห่างจากผู้ชายหน้าหยก แล้วดึงเข้าหาแผงอกแกร่งของคนที่ไล่เธอไปหากิ๊กเอาเองเมื่อครู่ เธอก็ทำตามเขาบอกโดยไม่ง้อแล้วไง หมอนี่ยังจะมาเร้าหรืออะไรอีก“เฮ้ย! ทำอะไรของมึงวะ” หนุ่มหน้าหยกที่กำลังจะได้งาบเหยื่อสะบัดเสียงถามเอาเรื่อง“แล้วมึงล่ะจะทำอะไร”แคทรียาหน้าเหวอหันไปมองเจ้าของเสียงเย็นเฉียบ ตาขุ่นขวางที่กำลังแผดรังสีอำมะหิตข่มขวัญชาวบ้านกลับไปราวกับเป็นคนละคน“ทำอะไรของพี่เนี่ย” หญิงสาวพยายามสะกิดเผื่อดึงสติ ไหนว่าไม่สนกันไง แล้วจะมาออกตัวเสียแรงทำไมก่อน แบบนี้เธอจะหาได้ไหมกิ๊กน่ะคืนนี้“นี่แฟนคุณเหรอครับ”“อะ...เอ่อ ไม่ใช่...”“ไม่ใช่แฟน แต่กำลังจะเป็นผัว ชัดพอไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง เงยหน้ามองคนพูดอย่างตกตะลึงกร้าวใจมากพ่อคุณเอ๊ย คอซีรีส์ตัวแม่ฟังแล้วแทบละลายกลายเป็นก้อนเหลวๆ เสียตรงนั้นแต่เดี๋ยวนะ เธอตกลงเป็นเมียอีตานี่ตอนไหนวะ หมอนี่เข้าใจผิดหรือเปล่า เธออยากได้กิ๊ก ไม่ใช่ผัวสักหน่อย“อ้าว คนสวยพกผัวมาด้วยก็ไม่บอก เสียเวลาฉิบ” หนุ่มนักเที่ยวบ่นอุบ ก่อนยอมล่าถอยโดยดี“พี่ดิว! พูดบ้าอะไรเนี่ย ว้าย...” คนสวยที่โดนสกัด
ดวงตาคมกล้ามองความอลังการของส้มโอแฝดที่ผลิพุ่งชี้หน้าท้าทายเขาอย่างอุกอาจ จึงไม่รอช้าที่จะก้มลงดูดปลายยอดทั้งสองจนมันแข็งเป็นตุ่มไตสู้ลิ้น“อา...”แคทรียาเผลอครางเสียงสั่น พลางแอ่นกายหยัดขึ้นป้อนนมจากเต้าให้เขาได้ลิ้มลองชิมมันอย่างลืมตัวชายหนุ่มกดยิ้มอย่างพึงพอใจและไม่ขัดศรัทธาเจ้าของสวนส้มโอแฝด มือที่ว่างอยู่ค่อยๆ เลื่อนลงไปด้านล่างและตลบชายกระโปรงสั้นอวดเรียวขาขาวสวยให้ขึ้นมาอยู่ที่เอวค่อดกิ่วเพื่อทักทายเนินกุหลาบดอกตูมของเธอบ้างปลายนิ้วเรียวเกี่ยวชั้นในแบบลูกไม้ตัวจิ๋วให้เสียดสีกับติ่งเกสรสาวจนสะโพกสวยหยัดเกร็งขึ้นกะทันหันด้วยความตกใจระคนตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หัวใจเต้นโครมคราม “พะ...พี่ดิว...” เสียงหวานครางเรียกชื่อเขาเบาหวิว เมื่อรับรู้ถึงการรุกรานขั้นต่อไป“เสียวเหรอ”“อ๊ายยย”ยังไม่ทันได้ตอบ ใบหน้าสวยก็แหงนเชิดขึ้นเพราะความเสียวซ่านจากมือเขาที่กดเสียดสีหนักขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำผึ้งหวานเริ่มหลั่งออกมาจากแรงกระตุ้นเร้าที่ถี่รัว พร้อมกับที่ชายหนุ่มเริ่มส่งปลายนิ้วแหวกเข้าไปภายในกายสาวเพื่อเชยชมความงามของเธอ“ร้อนไวดีนี่ แฉะง่ายเสียด้วย แบบนี้สนุกแน่”แคทรียารู้สึกหูอื้อ
คิดเพลินๆ จู่ๆ กิ๊กหนุ่มของเธอก็ถอนริมฝีปากออกจากธารน้ำหวาน และขยับกายขึ้นมาให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน พร้อมกับกดจูบที่ริมฝีปากอิ่มป้อนรสรักจากกายสาวของเธอให้ชิม พร้อมกับหอมแก้มทั้งสองข้างเป็นรางวัล“ชอบไหม”ใบหน้าสวยแดงซ่านกับคำถามชวนให้เขินปนสยิวนั่น ก่อนที่จะกลั้นใจพยักหน้าตอบอายๆ ในยามที่ต้องสบสายตาฉ่ำวาวด้วยแรงปรารถนาที่ฟ้องชัดในดวงตาคู่นั้น“ก็ดีค่ะ เสียวดี” เธอเป็นคนปากกับใจตรงกัน ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไปตามตรง จนบางครั้งก็ขวานผ่าซากไปบ้างดิฐกรกดจูบหนักๆ เป็นรางวัลให้ ตอนนี้เขากำลังอึดอัดบริเวณใจกลางกายแกร่งที่แข็งจนแทบระเบิดอยู่แล้ว แต่ต้องอดใจเตรียมเธอให้พร้อมใช้งานก่อน“เอาอีกไหม” เธอไม่ได้ไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไรจากตน เมื่อกี้แค่ออเดิร์ฟ แต่ต่อจากนี้สิของจริง และจากที่แอบเช็กของไป คาดว่าของที่เธอต้องรับมือนั่นขนาดมันไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่มาตอนนี้คนอย่างแคทรียาหรือจะยอมถอยง่ายๆ“กลัวที่ไหน”“ปากดี...” ชายหนุ่มว่าพลางหอมแก้มคนปากดีไปสองที และจุ๊บที่ปากช่างพูดอย่างติดใจมือหนาปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงแบรนด์หรูแล้วรีบสลัดออกจากกายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับประคองมือนุ่มให้สัมผ
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ
ไม่มีข่าวคราว ไม่กลับบ้าน ไม่ไปที่ร้าน โทรไปก็ปิดเครื่อง กระทั่งข้อความที่เขาส่งไปหานับร้อยนับพันก็ไม่ยอมเปิดอ่านตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะ เป็นตายร้ายดีอย่างไร “แล้วลูกล่ะ”“เข้านอนไปแล้วค่ะ พี่คิมเล่านิทานกล่อมก็พลอยหลับไปด้วย”“งั้นเหรอ” น้ำเสียงอ่อนล้าจนน่าใจหาย ทำให้มิรันดามองอดีตคนรักอย่างเห็นใจ“พี่ดิวก็กินข้าวกินปลาแล้วนอนพักเสียบ้างเถอะค่ะ”“อืม พี่ไม่หิว นอนไม่หลับด้วย เป็นห่วง...”“ห่วงตัวเองก่อนดีไหมคะ ดูหน้าเข้าซูบตอบเหมือนซอมบี้แล้วเนี่ย”คนหน้าเหมือนซอมบี้ลูบหน้าตัวเอง“ไม่เป็นไร พี่ยังไหว”มิรันดาได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า“มี่ถามจริงๆ เถอะค่ะ ที่พี่ดิวกำลังทำอยู่ตอนนี้ เพราะอะไรกันแน่ แล้วถ้าพี่ดิวหาตัวน้องแคทเจอแล้วจะทำยังไงต่อคะ”“พี่...”คนถูกถามนิ่งไปเมื่อเจอคำถามแทงใจดำจนพูดไม่ออก“จริงๆ แล้วพี่แค่ห่วงลูกในท้องน้องแคทเท่านั้นใช่ไหมคะ แล้วถ้าน้องแคทไม่ได้ท้องกับพี่ล่ะ พี่ดิวจะยังตามหาน้องแบบนี้หรือเปล่า ไม่ต้องตอบมี่ก็ได้ แต่พี่ตอบตัวเองแล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่”“มี่...”“ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะไ
ดิฐกรรีบไปที่บ้านมิรันดาตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดฟุ้งซ่านเรื่องของเขากับแคทรียาจนนอนไม่หลับ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องอกแตกตายแน่แต่ทว่า...“น้องแคทไปแล้วค่ะ”ดิฐกรหัวใจกระตุกวูบอย่างแรง“ไป...ไปไหน”“มี่ก็ไม่รู้ค่ะ พอตื่นมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว นี่พี่คิมก็โทรไปถามที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ได้กลับไป ทางนั้นเองก็กำลังร้อนใจเหมือนกัน” มิรันดาตอบด้วยสีหน้าหนักใจ“แล้วที่ร้านเขาล่ะ” ชายหนุ่มหมายถึงร้านเวดดิ้งสตูดิโอ เธออาจจะมีงานด่วนต้องรีบไปที่ร้านแต่เช้าก็ได้“มี่โทรเช็กแล้วค่ะ น้องก็ไม่ได้ไปเหมือนกันค่ะเห็นพนักงานบอกว่าน้องแคทเขาพักร้อน อ้าว นั่นพี่คิมมาพอดี” ดิฐกรหันขวับไปมองคนเพิ่งลงจากรถด้วยสีหน้าตึงเครียดผิดจากที่เคย“เป็นไงบ้างคะพี่คิม หาน้องแคทเจอไหม”“ไม่เจอเลย พี่ลองถามรปภ.ที่หน้าหมู่บ้าน เห็นว่ามีรถแท็กซี่เข้ามาตอนตีสี่ แล้วตอนออกไปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งด้านหลัง พี่คิดว่าน่าจะเป็นน้องแคท ก็เลยจดทะเบียนรถแท็กซี่นั่นให้ตำรวจช่วยตามหาตัวคนขับอยู่”“แล้วบ้านเพื่อนล่ะ เขาอาจจะนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนสักคนก็ได้”“
“งั้นน้องมิวจะช่วยอาแคทซ่อนไม่ให้พ่อดิวหาเจอ ไม่สิ น้องมิวไปซ่อนในห้องกับอาแคทด้วยดีกว่า” ว่าแล้วเด็กน้อยก็วิ่งตื๋อเข้าไปในห้องอีกคนจนทำให้คนเป็นแม่ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่หันไปสบตาสามีเป็นเชิงปรึกษา“เอาไงดีคะพี่คิม”“เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูเอง มี่ดูแลทางนี้แล้วกัน”คีรินบอกพลางเดินตรงไปเปิดประตูบ้านให้แขกไม่ได้รับเชิญ“คุณคิม แคทล่ะ แคทอยู่ที่นี่ใช่ไหม”แทนที่จะถามถึงลูกสาวหรือมิรันดาก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง อีกฝ่ายกลับถามหาน้องสาวของเขาแทนเสียนี่“ทำไมเหรอครับ คุณมีธุระอะไรกับน้องสาวผมงั้นหรือ” ดิฐกรสะอึกอึ้งไปเมื่อเจอคำถามจากอีกฝ่าย“แคทอยู่ด้านในใช่ไหม”“ครับ” คีรินพยักหน้ารับ“งั้นผมขอเข้าไปคุยกับเขาหน่อย”“ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่านะ”ดิฐกรรับรู้ได้ถึงความตึงในน้ำเสียงที่ผิดไปของชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูหัวใจ หรือว่าแคทรียาจะบอกอะไรกับพี่ชายตัวเองไปแล้ว“แคทบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม”“บอกเรื่องอะไรเหรอครับ” คีรินย้อนถามหน้าตาย“ก็เรื่อง...”“ท้อง...” ดิฐกรชะงักกึก“คุณรู้แล้วเหรอ”“ครับ ผมกับมี่รู้แล้ว แล้วน้องแคทบอกคุณหรือเปล่าล่ะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าจะเป็นเจ้าแฟนเก่าที่เลิกไปนั่น”