เดิมแคทรียาไม่ได้คิดจะเลือกคบแฟนที่ฐานะทางบ้าน ฐานะทางสังคม หน้าที่การงาน หรือเงินทองอยู่แล้ว แม้หน้าตาอาจจะมีส่วนทำให้พึงใจอยู่บ้าง ซึ่งวรพลก็มีตรงจุดนั้นที่รูปร่างหน้าตาดีเอาใจเก่ง แต่หากเธอคิดจะรักและเลือกแล้ว เปลือกนอกพวกนั้นก็ไร้ประโยชน์ไม่มีเงินแล้วไง ถ้าพอใจเสียอย่าง เธอจะเป็นฝ่ายเปย์ให้เองก็ได้คอนโดเก่าอยากเปลี่ยนเพราะไกลจากที่ทำงานของเขา แต่เงินดาวน์ไม่มี เธอออกให้ก่อนก็ได้ ในเมื่อคิดจะคบจริงจังหวังสร้างอนาคตร่วมกัน จะออกให้เองทั้งหมดก็ยังได้ ถ้าฝ่ายนั้นไม่ขัดเสียก่อนว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้ชายที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต ซ้ำยังบอกว่าจะคืนเงินดาวน์ให้เธอตอนได้โบนัสปลายปี ซึ่งเธอก็เห็นด้วยยังชมว่าเขาคิดดี ไม่ได้หวังเกาะเธอกินหรือว่าอยากได้รถสักคันเพราะข้ออ้างที่ว่าเขาไม่มีรถ ทำให้เวลาเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน เธอก็ต้องไปเป็นฝ่ายไปรับ ทำให้เขาเกรงใจ แต่หากจะให้เธอนั่งรถสาธารณะกับเขาก็กลัวว่าเธอต้องลำบาก เขาก็เลยจะเก็บเงินซื้อรถ เหตุผลฟังดูดี ดูห่วงใยใส่ใจ เธอก็เลยจัดการถอยรถคันใหม่ให้เสียเลยแม้เขาจะใช้มุกเดิมที่ว่าเขาเกรงใจและจะหาเงินมาผ่อนส่งรายเดือนเอง และจะเอาเงินที่เธอ
แคทรียาจ้องมองรองเท้าคู่ใหม่ตาลอย แบบก็ไม่โดนใจ สีก็ไม่ชอบ แถมยี่ห้อก็ไม่ใช่แบรนด์ที่เธอชอบใช้เป็นประจำอีก รสนิยมไม่ผ่านอย่างแรง แต่ทว่ามันกลับนุ่มสวมสบายเท้ากว่าคู่ที่เธอเพิ่งถอดโยนทิ้งถังขยะไปอย่างไม่น่าเชื่อยิ่งคิดถึงตอนที่เธอโดนอุ้มเข้ามาในร้านนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งรู้สึกคันคะเยอในหัวใจพิกล ไหนจะสายตาของพนักงานในร้านที่คอยแอบชำเลืองแลมาที่เธอและดิฐกรอย่างอิจฉาในความสวีตหวาน ยิ่งตอนเลือกรองเท้าให้ สาวๆ ในร้านก็ยิ่งตาร้อนผ่าวๆ‘เอาคู่ไหนดี’แคทรียาเหลือบมองไปทั่วทั้งร้านที่ไม่มีรองเท้าคู่ใดเลยที่เข้าตากรรมการ มีแต่แบบเชยๆ ไม่ก็รองเท้าผ้าใบ จะให้เธอใส่ไปวิ่งมาราธอนอีกหรือไง‘คู่นั้นดีไหม’ หญิงสาวรีบส่ายหน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายชี้ไปที่รองเท้าเปิดส้นคู่หนึ่งที่หน้าตาเชยบรรลัย‘งั้นก็คู่โน้น ท่าทางจะนุ่มดีนะ’แคทรียารีบส่ายหน้าหวืออีกรอบ จะกี่คู่ก็ไม่โดนใจสักคู่ จนสุดท้ายคนช่วยเลือกก็ชักจะเหลืออด จึงหลับหูหลับตาเดินไปหยิบรองเท้าแตะจากชั้นวางมาคู่หนึ่ง แล้ววางลงตรงหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ยังคงนิ่ง ตามองรองเท้าหน้าตาแสนธรรมดาค่อนไปทางเช้ยเชยอย่างปลงๆบางทีรสนิยมก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสอนกันได้
“มองพอหรือยัง” ดิฐกรพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้า “ตะลึงในความหล่อหรือไง หืม...”“คงงั้นมั้งคะ” มือที่กำลังติดพลาสเตอร์ชะงักค้าง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนพูดอย่างงุนงง“อกหักจนเพี้ยนไปแล้วเรอะ? หรือว่าอินกับบทหวานใจฉันมากเกินไป...”“ถ้าไม่นับเรื่องปาก พี่ก็น่าจะเป็นแฟนที่ดีได้อยู่นะ”“นั่นชมหรือด่า?”“แล้วแต่จะคิดค่ะ”ดิฐกรค้อนใส่ พลางเหลือบมองโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเตือนไม่หยุดของเธอ“แล้วนั่นจะปล่อยมันดังหนวกหูชาวบ้านอีกนานไหม”พอขาดคำก็มีเสียงเรียกเข้ามาอีกรอบ นิ้วเรียวสวยเตรียมจะกดตัดสายทิ้ง แต่แล้วความคิดหนึ่งก็กลับแว่บเข้ามาในหัว แทนที่จะกดตัดสายจึงกดรับแล้วยื่นโทรศัพท์ไปแนบที่หูของดิฐกรทันที“นี่เธอ...”จะทำบ้าอะไร...คำต่อมาต้องถูกกลืนลงคอกะทันหัน เมื่อปลายสายแทบจะตะโกนสวนเข้ามาจนขี้หูเขาเกือบเต้นระบำ“ดาร์ลิง! ทำไมไม่รับสายผม” ดิฐกรหันไปสบตาแม่ตัวดีอย่างรู้ทัน ที่ส่งสายมาแบบไม่ให้เขาตั้งตัวนี่ จะอะไรได้ถ้าไม่ใช่...ยืมมือฆ่าคน!“จะไปรู้เหรอ!”“อ้าว! นี่ไม่ใช่เบอร์น้องแคทเหรอครับ” มีเสียงขลุกขลักดังมาจากปลายสายเล็กน้อย“ใช่มั้ง”“แล้วแกเป็นใคร”“แล้วแกล่ะเป็นใคร”“เอ๊ะ!”เจ้าของโ
“ฉันรู้จักที่ดีๆ อยู่ที่หนึ่ง ไปกันเถอะ”ไม่รอให้เธอคิดหรือตอบตกลงด้วยซ้ำ พ่อคนใจร้อนก็รีบประคอง ไม่สิ ควรเรียกว่าลากลู่ถูกังกันไปหลุนๆ โดยไม่แคร์พลาสเตอร์ปิดแผลเลยสักนิด... “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”วรพลหายใจฮึดฮัด โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก่อนกดโทรออกเบอร์เดิมอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ โทรไม่รับก็ส่งข้อความรัวๆ แต่ผลก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ไม่รับ ไม่อ่าน แต่ยังดีที่ไม่โดนบล็อก“หายหัวไปไหนวะ รับสายสักทีสิยัยโง่เอ๊ย” ชายหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิด จนทำคนข้างกายถึงกับสะดุ้งตกใจ“ใจเย็นๆ สิคะที่รัก”เจนิสาละสายตาจากแหวนวงงามที่อีกฝ่ายเพิ่งบอกตกลงจะซื้อให้ แต่ทว่ากลับถูกพนักงานในร้านบอกว่าบัตรเครดิตเสริมที่เขาถือกลับรูดไม่ผ่านขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ทั้งที่เขาเพิ่งรูดจ่ายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นไปไม่ถึงชั่วโมงก่อนหน้าแบบสบายๆ วงเงินก็ยังเหลือให้ถลุงอีกเพียบครั้นจะโทรไปถามเจ้าของบัตรหลักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็ดันกดรับแล้วตัดสาย ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน ครั้นพอจะรับขึ้นมาก็กลับไม่ใช่แคทรียา แต่เป็นผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่พูดจากวนประสาทอีกแปลก! เรื่องนี้มันชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้
เอาเถอะ เขาก็กะไว้ว่าจะกินอีกสักหนสองหนก็คงพอแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ไว้ค่อยแยกย้ายไปหาความสุขกับคนใหม่ก็ได้ เพราะถึงยังไงเขาก็มีของตายโง่ๆ อย่างแคทรียาอยู่ในมือทั้งคนนี่นา จะกลัวอะไรพอคิดถึงของตายที่ว่า อารมณ์ของวรพลก็พาลหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ คอยดูนะ หากเจอตัวเมื่อไหร่เขาจะจัดการเล่นงานให้เข็ด โทษฐานที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นและเสียอารมณ์โดยใช่เหตุ“คนเฮงซวย ไอ้ผู้ชายหลายใจ ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย...ไปตายซะ!”ดิฐกรถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นอาการคนกำลังเฮิร์ตที่ดื่มไปด่าไป โชคดีที่เพลงในผับดังมาก คนอื่นๆ เลยไม่ได้ยินเสียงแปดหลอดที่แม่ตัวดีบริภาษแฟนหนุ่มตัวแสบ แต่เขานี่สิ ต้องมานั่งรับเวรรับกรรมหูแฉะแทน คิดผิดหรือคิดถูกวะกู! หาภาระใส่ตัวชัดๆ“พี่ดิว!”“ว่า...”“แคทถามจริงๆ เถอะ ทำไมพวกผู้ชายมันถึงชอบนอกใจแฟนนัก ทำไมต้องหลายใจ รักเดียวใจเดียวไม่เป็นหรือไง”คำถามแรกมาก็แทงใจดำกันเลยทีเดียวนะแม่คุณ“อย่าเหมารวมสิ ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบนั้นสักหน่อย” คนฟังพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย“อืม...ก็จริงของพี่นะ อย่างน้อยพี่ชายแคทก็รักพี่มี่คนเดียวจริงๆ”ดิฐกรสะอึก ได้แต่เข่นเขี้ยวเมื่อได้ยินอีกฝ่ายสรรเสริญเย
“อ๊ะ...”เสียงหวานครางออกมาเบาๆ เมื่อจู่ๆ เรียวปากอุ่นร้อนก็เปิดออกพร้อมกับส่งปลายชิวหาร้อนฉ่าพุ่งชอนไชเข้ามาตามรอยเผยอของกลีบปากเธออย่างรวดเร็วและกวาดต้อนพัวพันกับลิ้นนุ่มๆ ของเธอจนต้องรีบถอยร่นไม่เป็นท่า เมื่อเจอของจริง จูบจริง จูบดุดันจากผู้ชายร้ายๆ ที่เธอแสนจะเหม็นขี้หน้า และตั้งตัวเป็นคู่ปรับกับเขามาตลอดไม่คิดเลยว่าดิฐกรจะจูบแซ่บได้ขนาดนี้ สุดท้ายแคทรียาก็ปล่อยให้อีกฝ่ายได้คุมเกมและจูบเธอได้อย่างหนำใจ ไม่สิ จะว่าแบบนั้นก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเองก็ไม่ยอมให้เขารุกไล่ฝ่ายเดียวจูบมาจูบกลับไม่โกง!สองหนุ่มสาวจุมพิตดูดดื่มลึกซึ้งและทวีความเร่าร้อนมากขึ้นทุกที เมื่อร่างเพรียวบางถูกดึงขึ้นมานั่งเกยบนตักแกร่งโดยไม่สนว่ากระโปรงสั้นของเธอจะร่นขึ้นมาอยู่เหนือขาอ่อนขาวจั๊วะเสือหิวตัวร้ายบดขยี้ริมฝีปากเคล้าคลึงดึงดูดเธอเข้าไปในกับดักเสน่หาของเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ปลายลิ้นช่ำชองรุกไล่ต้อนปล้นลมหายใจหอมหวานไปจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนหญิงสาวหายใจหายคอไม่ทันลมหายใจอุ่นร้อนสอดประสานสัมผัสรินรดที่ใบหน้าของคนทั้งสองจุดประกายปรารถนาของสองหนุ่มสาววัยกลัดมันให้ลุกโชนขึ้น เสียงเพลงอึกทึกรอบด้านปลุกเร้าสัญช
ราวกับโดนน้ำแข็งเย็นเฉียบสาดเข้าที่ใบหน้าโครมใหญ่ จนชาเห่อไปทั้งตัว เมื่อได้ยินจุดประสงค์ของอีกฝ่าย อารมณ์หื่นกระหายก็ดิ่งฮวบลงกว่าครึ่ง“นอกใจ...” ดิฐกรทวนคำด้วยสีหน้าปั้นยาก“ใช่ค่ะ แคทอยากนอกใจไอ้เลวนั่น แคทอยากมีกิ๊กบ้าง...”“กิ๊ก!” คนพูดชี้นิ้วที่ตัวเอง “ฉันเนี่ยนะ!”“ค่ะ พี่มีประสบการณ์นอกใจมีกิ๊กมาแล้วนี่ ก็น่าจะทำได้นะ”เวรเอ๊ย! ยัยเด็กบ้านี่ กล้าดียังไงวะถึงจะให้เขาเป็นกิ๊กดวงตาคมเข้มมองสบตาที่ทอประกายเจิดจ้าแข่งกับแสงสปอร์ตไลท์ จนเขาอยากจะประเคนมะเหงกให้สักทีสองที โทษฐานที่เจ้าตัวแสบบังอาจยืมมือเขาแก้แค้นแฟนตัวเองอีกแล้วนี่สินะที่บอกว่ายังไม่ยอมเลิกกับไอ้เวรนั่น ที่แท้ความหมายของมันคือแบบนี้ เก็บมันไว้เอาคืนก่อน แล้วเขาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมต้องโดนใช้เป็นเครื่องมือเอาคืนถูกเขี่ยไปเป็นกิ๊กของยัยนี่ด้วย นี่มันยิ่งกว่าหยามหน้ากันชัดๆมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน คบแบบไร้สถานะ หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา พอกินอิ่มแล้วก็ไปทางใครทางมัน เห็นเขาเป็นร้านสะดวกซื้อหรือไงวะ“อุ๊ย!”แคทรียาอุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ ก็โดนดีดลงจากตักของเขาดื้อๆ ดวงตาคมกริบฉายรอยหงุดหงิด ไหนจะอารมณ์ที่คั่งค้างไม่ได้รับการปลด
“ว้าย!” เสียงหวานอุทานลั่น เมื่อจู่ๆ ถูกคีมเหล็กร้อนฉ่ากระชากตัวออกห่างจากผู้ชายหน้าหยก แล้วดึงเข้าหาแผงอกแกร่งของคนที่ไล่เธอไปหากิ๊กเอาเองเมื่อครู่ เธอก็ทำตามเขาบอกโดยไม่ง้อแล้วไง หมอนี่ยังจะมาเร้าหรืออะไรอีก“เฮ้ย! ทำอะไรของมึงวะ” หนุ่มหน้าหยกที่กำลังจะได้งาบเหยื่อสะบัดเสียงถามเอาเรื่อง“แล้วมึงล่ะจะทำอะไร”แคทรียาหน้าเหวอหันไปมองเจ้าของเสียงเย็นเฉียบ ตาขุ่นขวางที่กำลังแผดรังสีอำมะหิตข่มขวัญชาวบ้านกลับไปราวกับเป็นคนละคน“ทำอะไรของพี่เนี่ย” หญิงสาวพยายามสะกิดเผื่อดึงสติ ไหนว่าไม่สนกันไง แล้วจะมาออกตัวเสียแรงทำไมก่อน แบบนี้เธอจะหาได้ไหมกิ๊กน่ะคืนนี้“นี่แฟนคุณเหรอครับ”“อะ...เอ่อ ไม่ใช่...”“ไม่ใช่แฟน แต่กำลังจะเป็นผัว ชัดพอไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง เงยหน้ามองคนพูดอย่างตกตะลึงกร้าวใจมากพ่อคุณเอ๊ย คอซีรีส์ตัวแม่ฟังแล้วแทบละลายกลายเป็นก้อนเหลวๆ เสียตรงนั้นแต่เดี๋ยวนะ เธอตกลงเป็นเมียอีตานี่ตอนไหนวะ หมอนี่เข้าใจผิดหรือเปล่า เธออยากได้กิ๊ก ไม่ใช่ผัวสักหน่อย“อ้าว คนสวยพกผัวมาด้วยก็ไม่บอก เสียเวลาฉิบ” หนุ่มนักเที่ยวบ่นอุบ ก่อนยอมล่าถอยโดยดี“พี่ดิว! พูดบ้าอะไรเนี่ย ว้าย...” คนสวยที่โดนสกัด
“พ่อคะ จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะคะ แคทอธิบายได้”“แล้วที่ลูกกับตาดิวมีอะไรกันแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” มาคำถามแรกก็ยิงเข้าประเด็นทันที สมแล้วที่เป็นพ่อเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ“เอ่อคือ...” สาวมั่นเริ่มอึกอัก รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อมองไปรอบห้องที่ตอนนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ นี่มันยิ่งกว่าโดนตำรวจสอบปากคำเมื่อกี้นี้เสียอีก“คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะถ้าพ่อจับได้ทีหลังว่าโกหก ลูกก็รู้ว่าจะเป็นยังไง” เสียงเรียบนิ่ง ดุในที ทำให้คนเป็นลูกนึกขยาดเธออาจจะมั่นหน้ากับใครทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับบิดาของตัวเอง ความมั่นใจในตัวไม่เคยมีผล ทุกครั้งที่เธอคิดจะโกหก ต่อให้เนียนแค่ไหน เนียนชนิดคนทั้งโลกไม่มีทางจับไต๋ได้ แต่สุดท้ายก็โดนพ่อจับโป๊ะได้ทุกที เรียกว่าแพ้ทางก็ว่าได้หญิงสาวหันไปสบตาผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างหนักใจ เห็นไหม เธอก็เตือนแต่แรกแล้วว่าอย่ามาๆ เขาก็ยังดื้อแพ่งจะมา แล้วไงล่ะเนี่ย หัวจะปวด“ว่าไงตาดิว เธอเป็นลูกผู้ชายคงไม่คิดโกหกผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม” คุณราเมศร์เบนเข็มไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังปฏิเสธไปสิ อย่ายอมรับง่ายๆ นะลูกพี่ อย่า...“ใช่ครับ เราสองคนมีอะไรกันแล้ว”“เห็นไหมคะพ่อ เรื่อ
เวลาต่อมา สองหนุ่มสาวก็มาถึงถ้ำเสือ แคทรียาหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกมาตลอดทาง“ถ้าอยากเปลี่ยนใจ จะกลับตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”ดวงตาคมเข้มตวัดมองสบตาหญิงสาว“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่อยากเปลี่ยนใจ”“อ้าว! ก็แคทไม่ได้โง่นี่นา เห็นพี่นั่งทำหน้าเป็นตูดมาตลอดทางก็รู้แล้วว่าไม่เต็มใจ”“รู้ดีจริงนะ”“เฮ้อ...ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าพี่น่ะหวงความโสดจะตาย พี่ไม่อยากแต่งงานกับแคท เลยหนีการดูตัวทุกครั้ง แล้วแคทเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักกันแบบพี่ด้วย แต่ถ้าขืนเราเข้าไปเจอพ่อตอนนี้แล้วโดนพ่อแคทมัดมือชกบังคับให้เราสองคนแต่งงานกันล่ะ พี่ดิวจะว่ายังไง” หญิงสาวแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง“พี่ก็รู้นี่ว่าพ่อแคทเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ ขืนรู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราแอบแซ่บกันแล้วตั้งหลายครั้ง มีหวัง...ชึ้บ!” หญิงสาวทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองด้วยสีหน้าสยองขั้นสุด“ในเมื่อเธอก็โสดแล้ว พี่เองก็ไม่มีใคร ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”“อย่ามาล้อเล่น หน้าสิ่วหน้าขวานนะคะ นี่แคทซีเรียส นะ พวกเราก็แค่แกล้งๆ คบกันตบตาชาวบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน ถ้าขืนแต่งงานกันก็ผิดวัตถุประสง
“ก็ถ้ารู้ว่าต้องเสียค่าปรับแบบนี้ แคทน่าจะแถมให้อีตาบ้านั่นอีกสักหมัดสองหมัด เจ็บใจนัก”หญิงสาวบ่นอุบ จนคนฟังถึงกับส่ายหน้า ขืนไม่รีบสลบเหมือดคาที่สิ มีหวังเจ้าวรพลนั่นคงเดี้ยง ไม่ก็คงได้จองเมรุไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมอนั่นก็คงเข็ดขยาดไปไม่น้อย เมื่อเจอตอสุดแสบอย่างแคทรียาคนนี้ เห็นตัวผอมๆ เพรียวๆ ใครจะคิดว่าเจ้าหล่อนจะแรงเยอะเอาเรื่องใช่ย่อย เล่นเอาผู้ชายตัวโตกว่าสลบคาที่ไม่พอ แม่ตัวดียังขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมารังควานเธออีกแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วางใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตจากอีกฝ่ายก่อนที่จะยอมแยกย้ายกลับไปแบบมือเปล่า“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว”“เมื่อกี้เธอเห็นสายตาของไอ้หมอนั่นไหม พี่ว่าท่าทางมันไม่น่าไว้ใจนะ ระหว่างนี้เธออย่ากลับไปพักที่คอนโดนั่นจะดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัย”“พี่เป็นห่วงแคทด้วยเหรอคะ”“น้อยๆ หน่อย อย่าหลงตัวเอง...” แคทรียาเบ้ปากใส่“ไม่ให้พักที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน ช่วงนี้แคทไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านนี่นา”“งั้นก็ไปพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่คนใจป้ำ“ไปนอนคอนโดพี่เนี่ยนะ นี่ไม่ได้คิดมิดีมิร้ายหรือมีจุดประสงค์แ
เมื่อขาเรียวสวยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังจนสลบเหมือดกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาไทยมุงทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ดิฐกรถึงกับอึ้ง เสียวทั้งเป้ากางเกงและปลายคางวาบ ชักรู้สึกเห็นใจไอ้หมอนั่นขึ้นมาหน่อยๆ แต่มันก็สมควรโดนแล้ว“อูย...” แคทรียาแอบครางเบาๆ ความโมโหทำให้เธอลืมตัวไปว่าเธอยังไม่หายระบมจากศึกหนักบนเตียงเมื่อคืน“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ดิฐกรรีบเข้าไปประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ สะใจชะมัด เสียดายไม่น่ารีบใจเสาะสลบเหมือดแบบนี้เลย ไม่งั้นแคทจะได้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้อีกสักยกเอาให้เข็ดหลาบ ปากดีนัก”“พอเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะฟื้นตอนไหนแล้ว เธอไปเรียนต่อยมวยมาจากไหนนี่”“ไม่ใช่แค่ต่อยมวยนะคะ เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ หรือว่ายิงปืนแคทก็ได้เหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น”ดิฐกรฟังแม่ตัวยุ่งบรรยายสรรพคุณตัวเองอย่างอึ้งทึ่งเสียว ดวงตาคมกริบเหลือบมองวรพลที่นอนนิ่งหายใจรวยรินอย่างเห็นใจระคนสมเพชเวทนา หมอนี่มันจะรู้ไหมว่ามาแหยมผิดคน“แคทล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าพี่เชื่อด้วย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส พลางคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเขา จนทำเอาดิฐกรถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ ความคิดหน
วรพลมองภาพหน้าจอตาค้าง เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าเมื่อเห็นหลักฐานที่มัดตัวเขาแน่นทั้งคลิปทั้งรูปถ่ายจนดิ้นไม่หลุด แก้ตัวไม่ออก แต่เขาก็ฝืนดังทุรัง“ก็แค่คนหน้าเหมือนหรือเปล่า ถ่ายไกลขนาดนั้น คุณอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ”“หน้าเหมือนหรือหน้าด้านยะ คลิปกับรูปนั่นฉันเห็นเองกับตา ถ่ายเองกับมือ เดินตามดูจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ไม่ได้ตัดต่อด้วย อ้อ! แล้วฉันก็ยังโทรเช็กเองด้วย จำได้ว่าคุณบอกติดประชุมที่บริษัท แต่กลับมาจู๋จี๋กับกิ๊กที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จะเอาหลักฐานอะไรอีกไหม ไงล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ”วรพลถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกจับโป๊ะจนไปไม่เป็น“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ แคทที่รักฟังผมก่อน ผมอธิบายได้นะดาร์ลิง”“จะอธิบายว่าไงล่ะ อธิบายว่าทำไมถึงนอกใจฉันไปมีกิ๊กงี้เหรอ ไงล่ะ พอโดนสวมเขา เห็นแฟนตัวเองนอกใจมีกิ๊กบ้างถึงกับรับไม่ได้เลยหรือไง”“แคท ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”“แล้วมันยังไงล่ะ ที่ผ่านมายังตอแหลไม่พออีกหรือไง จะเลิกตอแหลกี่โมงเนี่ย ฉันขี้เกียจฟังคำแก้ตัวแล้ว เสียเวลาชีวิต นายไม่ได้มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ที่ผ่านมาฉันก็แค่เวทนาเก็บงูเห่ามาเลี้ยง แต่ดันเลี้ยงไม่เชื่อง จากนี้ไปก็ทางใครทางมันแ
“น้อยๆ หน่อย ค่าตัวพี่แรงนะ เธอจะจ่ายไหวเหรอ ไอ้ประเภทจ่ายพันสองพันแล้วคิดจะใช้งานกันเกินคุ้มน่ะ เลิกคิดเลิกฝันได้” เขาเหน็บแนมคนที่เคยควักจ่ายค่าตัวเขาสองพันแล้วชิ่งหนี“แรงน่ะเท่าไหร่คะ แคทมีปัญญาจ่ายแล้วกัน หรือจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดตอนนี้เลยก็ได้”“ปากดีแบบนี้ ระวังต้องจ่ายจนหมดตัว”แคทรียาย่นจมูก มองคนขี้อวดอย่างหมั่นไส้“อย่าเวอร์ค่ะ พี่ก็แค่ของมือสองใช้มาจนเยินแล้วด้วย จะมาโก่งค่าตัวทำไม แถมตอนนี้ก็มีตำหนิเต็มตัวด้วย ใครจะไปอยากได้ ขายเซียงกงจะรับไหมก็ไม่รู้เลย ฮึ”ดิฐกรฟังแล้วอยากดีดปากแม่ตัวดีให้บวมเจ่อ โทษฐานที่บังอาจมาดิสเครดิตว่าเขาเป็นของมือสองใช้แล้วแถมมีตำหนิอีก อย่างนี้ต้องเจอดีเสียแล้ว “ว้าย! พี่ดิวจะทำอะไร เดี๋ยวน้องตก”แคทรียาเอะอะ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นจากเตียงกะทันหัน จนเธอต้องรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“เดี๋ยวก็รู้!”ว่าแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางลงในอ่างจากุซซี่เพื่อเริ่มต้นทำการทดสอบคุณภาพสินค้ากันอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม จนหญิงสาวแทบสำลักความสุขส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปาก กว่าที่การทดสอบสินค้าจะสิ้นสุดก็กินเวลาจนเกือบเที่ยง ดิฐกรถึงอุ้มเธอออกม
ดีเท่าไหร่เขาไม่บีบคอเธอตายคามือโทษฐานที่ย่ำยีร่างกายบุรุษจนลายพร้อยไปทั้งตัว นี่ยังไม่นับใต้ร่มผ้า ยิ่งอยากจะลืม ภาพความป่าเถื่อนต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะยัยแคทเอ๊ยกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ จู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นและจ้องมองมาที่เธอจนเกือบสะดุ้ง“พะ...พี่ดิว เอ่อคือ...เรื่องเมื่อคืน แคท...” จู่ๆ สมองก็ชอร์ตขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ปากมันพูดไม่ออก เลือดก็วิ่งขึ้นใบหน้าจนร้อนผ่าวๆ“เมื่อคืนแคททำไม” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ยิ่งทำให้คนมีชนักถึงกับร้อนๆ หนาวๆ“ก็...”ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่าไหม คนยิ่งเขินๆ อยู่ หญิงสาวนินทาในใจ“ก็เรื่องที่แคททำพี่เจ็บตัวเมื่อคืนไงคะ”“อ๋อ...”“อ๋ออะไรคะ จะด่าอะไรก็ด่ามาเลย อูย...” เพียงขยับก็โดนร่างกายประท้วงจนน้ำตาแทบเล็ด“เจ็บตรงนั้นล่ะสิ” เสียงนุ่มหูแกล้งกระซิบถามให้เขิน“อืม...”“ใช้งานหนักไปหน่อย งั้นก็พักสักวันเถอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้พัก โดนเธอปล้ำทั้งคืน เพลียจะแย่”“ปะ...ปล้ำ...”คนฟังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปตอนที่ถูกยาผีบ้านั่
แคทรียากลับยอมให้หมอนั่นกอด แถมยังกอดตอบ และยื่นมือไปดึงใบหน้าชายคนนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาใครราวกับถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัว ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้วรพลถึงกับช็อกตาตั้ง ตัวแข็งทื่อ หน้าชาเหมือนโดนชกแรงๆ ซ้ำๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกไป ทั้งเย็นชาเหินห่างกับเขา ไหนจะเสียงผู้ชายที่รับโทรศัพท์ในตอนนั้นที่แท้เธอก็นอกใจเขานี่เอง!วรพลบดสันกรามแน่นด้วยความโมโหจนหน้ามืด ขาดสติ เขารีบจ้ำอ้าวจะตรงเข้าไปเอาเรื่องสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดจูบเย้ยฟ้า แต่ทว่ากลับถูกขวางไว้“หลีกไปนะ นั่นแฟนผม ผมจะไปหาแฟน หลีกไปสิ!”“คุณเข้าไม่ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รปภ.หันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนเข้ามาขวางไว้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เกิดการยื้อยุดกัน จนสุดท้ายวรพลก็ถูกผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นจ้ำเบ้าอย่างหมดท่า“แคท!”เมื่อสู้แรงไม่ไหววรพลจึงได้ตะโกนเรียกแฟนสาวเสียงดังลั่นอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าสองหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในตึกคอนโดเสียแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขาชายหนุ่มกัดฟันกรอด กำมือแน่น ในใจร้อนรุ่มประหนึ่งมีกองไฟนรกแผดเผา ยัยบ้านั่นทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ทีกับเขาเป็นแฟนกัน ทำได้แค่จับมือ จะจูบทีก็ห
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด