กินเวลาไปชั่วโมงเศษกว่าพายุสวาทจะจบลง เนิ่นนานจนไอรินที่เป็นฝ่ายออนท็อปเหนื่อยอ่อนและหลับไปทันที ทั้ง ๆ ที่ตัวยังเปื้อนไปด้วยน้ำกามของเจ้านายหนุ่ม พลชประคองร่างบอบบางออกจากตัก ไอรินที่หลับไปแล้วลืมตาตื่น เอ่ยกับพลชด้วยน้ำเสียงงัวเงียแกมออดอ้อนว่า“อื้มมม บอสขา รินขอพักแป๊บนึงนะคะ ไว้ค่อยทำต่อน้า”“ไอริน ผมไม่ได้จะ..”“รินขอพักแป๊บเดียวนะคะ แป๊บเดียวเอง งืม ๆ”ชายหนุ่มส่ายหัวแล้วหลุดหัวเราะออกมา เขาปล่อยให้ไอรินนอนพักอย่างที่เธอต้องการ ทั้งยังใจดีช่วยเช็ดคราบอะไรต่อมิอะไรออกให้ และจัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่เข้าทาง“จะมีเจ้านายที่ไหนใจดีได้เท่าผมอีก ไอริน”จัดการเลขาเสร็จก็หันมาจัดการตัวเอง พลชส่ายหน้าตอนที่เห็นคราบเปื้อนวงกว้างบนกางเกง ทั้งของตัวเองและของไอรินปะปนกันจนแยกแทบไม่ออกเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ พลชก็กดเครื่องมือสื่อสารข้างรถเพื่อพูดคุยกับลูกน้องอีกสองคน“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน”“บางนาครับ บอสจะให้ผมกลับเพนท์เฮ้าส์เลยไหมครับ”“ไม่ล่ะ” พลชปฏิเสธทันที วันนี้เขาไม่อยากกลับเพนท์เฮ้าส์ แต่อยากไปที่ ๆ หนึ่งมากกว่า “ไปพัทยา”“ครับ!?” วิลล์ทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พัทยา
ไอรินตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน และก็เหมือนเคย ข้างกายของเธอไม่มีใครอยู่ด้วยเหมือนทุกครั้ง ที่นอนข้าง ๆ เย็นชืดจนชิน เมื่อคืนหลังจากที่ทุกอย่างจบลง บอสคงกลับไปนอนที่บ้านพักของตัวเองไอรินลุกขึ้นยืน พยุงร่างที่อ่อนแรงไปที่กระจกบานใหญ่ เธอเปิดม่านสีเข้มออกกว้าง ภาพตรงหน้าคือทะเลสีฟ้าครามที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตาทะเล ไม่ได้มาทะเลนานแล้วเหมือนกันเมื่อคืนไอรินเอาแต่นอนอุตุ พอรู้สึกตัวก็จูงมือบอสเข้าห้องแล้วทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันทั้งคืน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แค่ไม่ใช่ที่เพนท์เฮ้าส์ แต่ก็คงไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่ออดหญิงสาวละสายตาจากทะเลตรงหน้า เธอเดินไปที่ประตู ส่องตาแมวเพื่อดูว่าใครที่มาหา“คุณไมค์”ไอรินรีบเปิดประตูเมื่อเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคย ไม่รู้เลยว่าไมค์เองก็ยังอยู่ที่นี่ ในมือของอีกฝ่ายถือถุงกระดาษโลโก้แบรนด์ดังแล้วยื่นมันมาให้เธอ“อะไรเหรอคะ”“เสื้อผ้าของคุณครับ”“เสื้อผ้า โอ๊ะ!”ไอรินรีบเบี่ยงตัวหลบหลังประตูทันที เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียว ไม่เหมาะที่จะเปิดประตูรับใครด้วยซ้ำ“ขอโทษค่ะที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย”“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็
แม็กซ์เวล เป็นตระกูลเก่าแก่ ที่สืบเชื้อสายมาจากขุนนางชั้นสูงของอิตาลีเมื่อร้อยกว่าปีก่อน หลังจากราชวงศ์สิ้นสุดลง แม็กซ์เวลยังคงโลดแล่นอยู่ในเกมการเมืองเรื่อยมา จนกระทั่งรุ่นของฟิลิปโป แม็กซ์เวล พ่อแท้ ๆ ของพลชที่ไม่สนเรื่องการเมืองเหมือนบรรพบุรุษ เขาผันตัวมาเป็นพ่อค้า โดยไม่สนคนที่นินทาว่าเป็นขุนนางตกยาก จนต้องมาค้าขายแลกเงินถึงจะเป็นความจริงก็เถอะแม็กซ์เวลเริ่มตกต่ำตั้งแต่ราชวงศ์สิ้นสุดลง ถึงจะยังมีอำนาจ แต่เงินทองกลับไม่ได้มากเท่าแต่ก่อน นั่นเป็นเพราะลูกหลานแม็กซ์เวลค่อนข้างไม่เอาไหน ทั้งขี้เกียจและใช้เงินมือเติบ นิสัยแบบนี้ส่งต่อผ่านพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น จนทำให้ในรุ่นของฟิลิปโปแทบไม่มีทรัพย์สมบัติหลงเหลืออยู่เลย นอกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ในกรุงโรม และชื่อเสียงของตระกูล ที่ใครต่อใครต่างก็รู้ดีว่าเคยเรืองอำนาจมากแค่ไหนในอดีตที่จริงแล้ว.. ฟิลิปโปไม่ใช่แม็กซ์เวลสายตรง เขาเป็นลูกภรรยาน้อยที่ไม่ค่อยมีใครยอมรับ โชคดีที่แม่ของฟิลิปโปเป็นคนขยัน เด็กชายเรียนรู้จากแม่มามาก เลือดขี้เกียจและไม่เอาอ่าวจากพ่อจึงเจือจางจนแทบไม่เหลือการผันตัวมาเป็นพ่อค้าทำให้ถูกเหล่าบรรดาพี่สาวพี่ชายที่เป็นลูกจากเ
“ภาพวาดนี้..”“อย่าบอกนะว่าภาพนี้รินก็รู้จัก”“ค่ะ รินจำได้ว่าภาพนี้เป็นภาพแรกของศิลปินท่านนี้เลย แรร์มากเลยนะคะ ไม่คิดว่าคุณแด๊ดจะเป็นคนเก็บเอาไว้”“มันอยู่กับแด๊ดเอง ภาพนี้แด๊ดได้มาตั้งแต่สมัยยังอยู่ที่อิตาลี ตอนที่แด๊ดซื้อจำได้ว่าราคาไม่กี่ยูโรเอง”“ตอนนี้ราคาหลายแสนยูโรแล้วนะคะ”“ผิด เป็นล้านแล้วต่างหาก มีคนเสนอราคาให้แด๊ดราคาหนึ่งล้านห้าแสนยูโร แต่แด๊ดไม่ขาย”“เป็นริน รินก็ไม่ขายค่ะ”เสียงพูดคุยของสองคนที่ต่างวัย ต่างเพศ ต่างเชื้อชาติดังขึ้นต่อเนื่องมาหลายนาทีแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะไม่จบลงในเร็ว ๆ นี้ ไอรินที่คลั่งไคล้ทุกอย่างที่เป็นอิตาลี ทั้งอาหาร ประเทศ ประวัติศาสตร์ รวมถึงศิลปะในแบบของชาวโรมัน มาเจอกับชายชาวอิตาเลียนที่ภูมิใจนำเสนอประเทศของตัวเองอย่างฟิลิปโป รู้จักกันไม่ถึงห้านาที แต่กลับสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานานไอรินพูดภาษาอิตาลีได้คล่องเหมือนเป็นเจ้าของภาษา ยิ่งน่าตกใจเมื่อรู้ว่าไอรินเรียนภาษาอิตาลีเป็นวิชาโทเท่านั้น ส่วนพวกประวัติศาสตร์เธอหาอ่านเอาเอง ไม่ได้เรียนมาโดยตรงแต่ความรู้กลับเต็มแน่น ไม่ว่าฟิลิปโปพูดอะไรไอรินก็ตอบได้ฉะฉานทุกเรื่อง“แด๊ดถูกใจเลขาของดีนมาก”พิมพ
พลชนิยามสถานการณ์ในตอนนี้ได้แค่คำเดียวว่า.. เละชายหนุ่มวางร่างเลขาที่เมามายลงบนเบาะหนัง ไอรินบ่นงึมงัมเล็กน้อย ขดตัวเป็นก้อนกลม ๆ แล้วหลับไปแต่กว่าจะหลับก็เล่นเอาวุ่นวายกันทั้งบ้าน“ดีน ไม่นอนค้างที่นี่จริงเหรอ” ฟิลิปโปถามย้ำอีกครั้ง ก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อลูกชายหันมาสบตาคนที่รู้ตัวว่าทำผิดไม่กล้ามองตาลูกด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเขารินไวน์ให้ไอรินไม่หยุด เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้“ไม่ครับแด๊ด” พลชตอบเรียบ ๆ เขาไม่ได้โกรธแด๊ด แต่ก็เคืองเล็กน้อยที่ไม่มีใครฟังเขาพูดซักคนสุดท้ายเป็นยังไง ไอรินเมาจนหมดสภาพ แถมเวลาเมาไอรินยังนิสัยเปลี่ยนจากเวลาปกติเป็นคนละคน เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเธอเอาแต่เดินไปทั่ว ชี้ตรงนั้นทีตรงนี้ทีแล้วพร่ำพรรณนาว่าชอบแค่ไหน บางครั้งก็เดินไปกอดรูปปั้นไว้แน่นเหมือนเป็นหมอนข้าง จับออกจากตรงนี้ก็เดินไปตรงโน้นแทน พอเหนื่อยมาก ๆ เข้าก็หลับมันทั้งแบบนั้นถ้าไอรินรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างตอนเมา เธอคงไม่กล้ากลับเหยียบมาที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง“งั้นก็รีบกลับเถอะลูก จะสามทุ่มแล้ว เดี๋ยวจะดึกกว่านี้” พิมพ์ดาวช่วยพูดให้บรรยากาศมันดีขึ้น “วิลล์ ขับรถดี ๆ นะ”“ครับ”“ดีน ไว้มาห
ในเวลาเกือบเที่ยงคืน ผู้คนบางส่วนกำลังหลับฝันหวาน บางส่วนกำลังทำงาน หรือบางส่วนอาจจะกำลังทำกิจวัตรประจำวัน ทุกชีวิตบนโลกดำเนินไปไม่มีหยุดพัก พลชเองก็เช่นกันCEO ของ PDM group จัดอยู่ในประเภทสุดท้าย เพราะการได้เอาเปรียบไอริน ถือเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปแล้ว วันไหนที่ไม่ได้ทำก็เหมือนว่าวันนั้นลืมกินข้าว ถึงจะทนได้แต่ก็หิวอยู่ดี“ดะ เดี๋ยวสิคะ อ๊ะ บอส!”ไอรินอุทานเสียงหลง รีบคว้าต้นคอแข็งแกร่งเอาไว้เป็นหลักหยึด จู่ ๆ บอสก็อุ้มเธอจนตัวลอย แล้ววางเธอลงบนโต๊ะตัวยาวที่กินพื้นที่ของระเบียงไปไม่น้อยพลชมักจะใช้พื้นที่ตรงนี้สำหรับนั่งดื่ม หรือไม่ก็ทำงานเวลาที่เบื่อห้องแอร์ เขาสั่งทำโต๊ะไม้สักที่มีขนาดใหญ่พิเศษพอ ๆ กับในห้องทำงาน ทั้งใหญ่ แข็งแรง และสะอาดสะอ้าน เหมาะสำหรับทำกิจกรรมสำคัญอย่างเช่นตอนนี้..“บอสคะ”ชุดนอนพริ้วบางที่ไอรินชอบใส่เพราะสบาย กลับกลายเป็นข้อได้เปรียบสำหรับพลช พริบตาเดียวเลขาคนสวยก็กลับไปอยู่ในชุดวันเกิด ลมที่พัดประทะกับผิวกายเย็นจัด จนคนที่เปลือยเปล่าต้องยกแขนขึ้นกอดอกเอาไว้ ขาเรียวเบียดชิดกันเพื่อปกปิดของสงวน หัวใจเต้นแรงดังตึกตักเหมือนมีคนมาตีกลองอยู่ด้านในถึงจะเคยคิด
“วิวสวยหรือเปล่าไอริน”เสียงทุ้มกระซิบถาม เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อถูกงับติ่งหูหยอกเย้า พลชเบียดท่อนล่างเข้าหาสะโพกมน ถูไถท่อนกายที่เปียกฉ่ำไปกับแก้มก้นนุ่ม บางครั้งส่วนหัวอวบใหญ่ก็ทำท่าเหมือนจะแทรกเข้าไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำ ปล่อยให้ไอรินรอคอยด้วยความร้อนใจคนขี้แกล้งไอรินหันกลับไปมองคนขี้แกล้งด้วยน้ำตาที่คลอเต็มเบ้าตา ร่างกายเธอร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว แต่พลชกลับเอาแต่บอกให้เธอดูวิวอยู่ได้เวลานี้ใครจะสนใจวิวกัน“บอสขา ได้โปรด”“มองวิวสิไอริน ผมซื้อที่นี่เพราะวิวเลยนะ”“ไม่! บอสขา เข้ามาเถอะนะคะ” ไอรินร้องขอเสียงพร่า แอ่นก้นขึ้นเสียดสีลำร้อนด้วยความต้องการที่ล้นปรี่ “ได้โปรด เข้ามาในตัวรินซะที รินต้องการบอส”“วิวไม่สวยเหรอไอริน” พลชถามอีกครั้ง ถามทั้ง ๆ ที่เอวสอบบดเบียดเข้าหาสะโพกอิ่ม เขายิ้ม ซอยเอวเบา ๆ ให้ส่วนปลายทิ่มแทงก้นเด้ง ๆเป็นรอยยิ้มที่ไอรินรู้สึกว่าน่าหมั่นไส้เหลือเกิน มีความสุขมากไหมที่ได้แกล้งเธอ อย่าให้ถึงตาเธอบ้างก็แล้วกัน“บอส อย่าแกล้งรินสิคะ”“ยังไม่ได้หยิบถุงยางเลย”“ช่างมันเถอะค่ะ!” เสียงหวานแข็งขึ้นอย่างหมดความอดทน “บอสไม่ใส่มาตั้งกี่ครั้งแล้ว บอสแค่จะแกล้งริน
“เป็นยังไงบ้างคะนุ งานเสร็จแล้วโล่งเลยใช่ไหมคะ” ไอรินถามอินทีเรียหนุ่มเชิงหยอกเย้า แสดงถึงความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไปอีกขั้น แต่สำหรับทั้งคู่มันไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อนแต่คนอื่นไม่ได้คิดแบบนั้นคนอื่นที่ว่า หมายถึงพลชแค่คนเดียว..“คุณนุกุล”เสียงเรียกเข้ม ๆ ของซีอีโอหนุ่มทำเอานุกุลสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าพลชมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่เขาจะไม่ถูกกินหัวใช่ไหมตั้งแต่วันนั้นนุกุลก็เลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับพลชเวลาที่ไอรินอยู่ด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่นุกุลรู้สึกได้ว่าทุกครั้งที่เขาพูดคุยกับไอริน เขามักจะถูกพลชมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเสมอ ทั้ง ๆ ที่เวลาไม่มีไอรินอยู่ด้วยทุกอย่างก็ปกติดี คน ๆ นี้ทำงานด้วยง่ายกว่าสเกลงานขนาดกลางที่นุกุลเคยเจอมาด้วยซ้ำ เพราะพลชทั้งเก่ง ทั้งฉลาด และเป็นมืออาชีพมากแต่ก็อย่างที่เห็น เวลาที่เห็นเขาคุยกับไอรินทีไร พลชก็จะเปลี่ยนไปทันที นุกุลไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าตัวแปรที่สำคัญคือไอริน ความสัมพันธ์ของสองคนนี้อาจจะมีอะไรที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่เขาไม่ได้มีหน้าที่ต้องเข้าไปสืบค้นหรือวุ่นวาย แค่เอาตัวเองให้รอดก็พอ..“คะ ครับ คุณพลช มีอะไรให้ผมเพิ่มเติมอีกไห
ช่วงเวลายาวนานที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อยเดินทางมาถึงเดือนสุดท้าย ไอรินไม่สามารถขยับตัวได้คล่องเพราะหน้าท้องที่นูนใหญ่ ใหญ่จนบางครั้งหลายคนที่เห็นยังอดถามไม่ได้ว่าลูกแฝดหรือเปล่า คนเป็นแม่ได้แต่หัวเราะแล้วตอบไปว่าเพราะพ่อเขาบำรุงดี ลูกชายถึงได้ตัวโตจ้ำม้ำไอรินหายแพ้ท้องหลังจากเข้าเดือนที่สี่ เธอยังคงไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขาของท่านประธานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เลขาทั่วไป ไอรินคือคุณนายแม็กซ์เวล และกำลังอุ้มท้องทายาทคนแรกของแม็กซ์เวลอยู่ นอกจากต้องให้ความเคารพแล้ว ยังต้องคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ไอรินและคุณชายน้อยด้วยใคร ๆ ก็บอกว่าลูกชายในท้องของไอรินอภิชาตบุตร เพราะยังไม่ทันคลอดก็นำเรื่องราวดี ๆ มาให้ครอบครัว ไม่ว่าพลชจะหยิบจับอะไรก็สร้างเม็ดเงินและความรุ่งเรืองมาให้ PDM group เสมอ ตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์พลชก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นในวงการธุรกิจ เขากลายเป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีทรัพย์สินมากกว่าหมื่นล้านในวัยเพียงสามสิบต้น ๆในสายตาของคนนอกพลชยิ่งใหญ่ และมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าใคร ทว่าในสายตาข
งานแต่งของ พลช ดีน แม็กซ์เวล แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ลำพังแค่กลุ่มนักธุรกิจ นักข่าว หรือคนที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็แทบล้นสถานที่จัดงานแล้ว จะไม่เชิญใครก็ไม่ได้ การทำธุรกิจยังไงก็อาศัยคอนเนคชั่นเป็นหลัก ถึงตอนนี้พลชจะมีอำนาจมากมายล้นฟ้า แต่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการคีพคอนเนคชั่นไว้จึงสำคัญไอรินที่เป็นเลขาเข้าใจตรงนี้ดี เธอไม่บ่นสักคำที่ต้องเชิญแขกเป็นพัน ๆ คน เพราะตกลงกับสามีไว้แล้วว่าพิธีสาบานตนกับสวมแหวนในโบสถ์ จะมีแค่คนสนิทเท่านั้นส่วนงานเลี้ยงจะจัดใหญ่แค่ไหน จะมีแขกกี่พันคนไอรินไม่สน เพราะเธอได้รับสิทธิพิเศษของคนที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ต้องออกไปเดินรับแขกให้เมื่อย แค่อยู่ร่วมงานไม่เกินชั่วโมงก็กลับห้องพักได้ ที่เหลือคนเป็นสามีจะจัดการเอง“ริน”ไอรินหันไปมองตามเสียงเรียก คุณครูไอยราที่วันนี้อยู่ในชุดแสนสวย เดินเข้ามาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า“แม่”“เวียนหัวหรือเปล่า หนุ่มน้อยของยายดื้อไหมวันนี้”“ไม่เลย วันนี้รินไม่รู้สึกอะไรเลย”หนุ่มน้อยของตระกูลแม็กซ์เวลตอนนี้มีอายุได้สามเดือนครึ่งแล้ว หลังกลับจากอิตาลีพลชก็รีบพาไอรินไปฝากครรภ์กับเพื่อนสนิทอย่างหมอวายุ พวกเขาต
“ไอริน!!”“อื้อ ทำไมต้องตะโกน” คนที่เซซบอกสามีบ่นอุบจู่ ๆ ตอนที่ลุกขึ้นไอรินก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนเสียหลักล้ม โชคดีที่สามีตัวใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่เกิดเรื่องน่าอายขึ้น ไม่อย่างนั้นคนปากร้ายที่รอเหยียบย่ำคงพูดอะไรให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกไอรินฟังออกทั้งหมด สิ่งที่คนพวกนั้นพูดเธอฟังออกทุกคำ แต่ที่ไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่ได้ใส่ใจ จิตใจของเธอล่องลอยไปหาเจลาโตรสบลูเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานที่เห็นเมื่อเช้า แค่คิดก็น้ำลายสอ อยากกิน อยากออกไปจากที่นี่เต็มทน“คุณไหวหรือเปล่า”“ไหวค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไร”ไอรินดันตัวออกจากอ้อมแขนของสามี ตอนนี้ทุกคนในห้องรับแขกมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พวกเขาทำท่าทางเหมือนเห็นตัวประหลาดที่น่ารังเกียจ ไม่มีความเกรงใจกันสักนิดไม่ยักรู้ว่าตระกูลผู้ดีเขาสั่งสอนลูกหลานกันแบบนี้“ผู้หญิงชั้นต่ำก็เป็นแบบนี้ ชอบเรียกร้องความสนใจ”“โรเบิร์ต”“ผมไม่ได้ทำอะไรใครนี่ครับคุณแม่ แค่พูดความจริง หล่อนฟังเรารู้เรื่องที่ไหน” โรเบิร์ตยักไหล่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ไม่ได้แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ก็แค่คำพูด ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็ฟังไม่ออกฟังไม่ออก ก็แปลว่าเข
“ที่รัก ตื่นได้แล้วครับ”“อื้อ”“ตื่นได้แล้ว เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้วนะ”“ง่วงจัง” ไอรินปรือตาขึ้นมองใบหน้าสามี “ดีนคะ รินอยากนอนต่อจังค่ะ”“ไว้ถึงที่พักแล้วค่อยนอนต่อนะ ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน”พลชพูดพลางปรับเก้าอี้ให้ภรรยา ไอรินแม้ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่น เสียงประกาศของพนักงานดังไปทั่วทั้งห้องโดยสารว่าอีกยี่สิบนาทีเครื่องจะลงจอดที่ท่าอากาศยานฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลีความง่วงงุนทำให้ไอรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าที่ควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์โซนที่ต่าง ร่างกายที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือเพราะเธอแค่ขี้เกียจกันแน่เพราะช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไอรินก็เอาแต่นอนเป็นแมวขี้เซา แม้แต่ตอนที่นั่งทำงานเธอยังหลับได้ ลำบากให้สามีต้องอุ้มเข้าไปนอนในห้องเป็นประจำเพราะกลัวว่าภรรยาจะปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอรินทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกขอบคุณ แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์นอกจากจะไม่ได้ช่วยงานพลชอย่างเต็มที่แล้ว เธอยังเป็นตัวถ่วงให้เขาต้องเป็นกังวลอีก“คุณไม่ยอมตื่นมาทานข้าวเลย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจภรรยาว่าคาดเข็มขัดดีหรือไม่เรียบร้อยแล้ว “คุณนอนตลอดสิบกว่าชั่วโมงได้ยังไง ไม่เพลียเหรอ”“ไม่เลยค่ะ รินสา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว แต่ทั้งสองคนบนเตียงก็ยังคงตระกองกอดกันไม่ปล่อย ทั้งไอรินและพลชตื่นพร้อมกันตั้งแต่ชั่วโมงก่อน แต่แทนที่พวกเขาจะเร่งรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานเหมือนปกติ ในวันนี้ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันนอนเอ้อระเหยอย่างสบายอารมณ์เหมือนคนว่างงานเพราะวันนี้ท่านประธานกับเลขาส่วนตัว ใช้สิทธิ์ลางานช่วงเช้าเพื่อไปทำธุระสำคัญ“ที่รัก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย”“อื้อ รินง่วงมากเลยค่ะ อยากนอนต่อจัง” คนง่วงปรือตาขึ้นน้อย ๆ มองหน้าคนรักอย่างออดอ้อนไอรินน่ารักจนพลชอดใจไม่ไหว เขามอบจูบแสนหวานให้เธอแม้ว่าริมฝีปากอิ่มจะบวมเจ่ออยู่แล้วก็ตาม“อื้อ อย่าค่ะ”คนถูกจูบรีบดันชายหนุ่มออกก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด เพราะเผลอหน่อยเดียวเสื้อยืดตัวโคร่งก็ถูกถลกขึ้นสูงแล้ว ทรวงอกอิ่มที่ไร้บราห่อหุ้มถูกบีบเคล้นเบา ๆ ไอรินรีบตะครุบมือปลาหมึกเอาไว้ก่อนที่ตัวเองจะใจอ่อน“ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวสาย”“รู้ตัวแล้วเหรอว่ากำลังจะสาย” พลชยอมละมือออกแต่โดยดี “ไปอาบน้ำกันที่รัก”“ไม่เอานะคะ อ๊ะ!”แขนเรียวรีบยกขึ้นคล้องต้นคอแกร่งเมื่อถูกช้อนตัวขึ้น สะโพกมนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนที่ดุนดันอย่างก้าวร้าว ดวงตาคู่ส
“เหมือนว่าการที่เรารักกันมันจะไม่ง่ายเลยนะคะ” “ไอริน อย่าพูดแบบนี้”พลชส่ายอย่างตื่นตระหนก เขากลัว กลัวว่าประโยคต่อมาของไอรินจะทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย“ทำไมคะ รินคิดว่า..”“ไม่นะริน! ไม่พูดคำนั้นออกมานะที่รัก”พลช ดีน แม็กซ์เวล ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น ใช้สองแขนกอดรัดร่างเพรียวบางของแฟนสาวเอาไว้แน่น ซบใบหน้ากับหน้าท้องราบเรียบด้วยความหวาดกลัวสุดหัวใจเขากลัว กลัวว่าไอรินจะบอกเลิกเขากลัวว่าไอรินหายไปอีกครั้งเขากลัว“อึก”“คุณ..”ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตา ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปีร่ำไห้เพียงเพราะกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป ไม่เหลือคราบนักธุรกิจดังที่มีแค่คนเกรงใจในอำนาจ ตอนนี้พลชไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจากไอริน“อย่าทิ้งผมไปนะริน ได้โปรด”“ดีนคะ”“ให้ผมทำยังไงก็ได้ อึก ผมทำได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เลิกกันนะริน ไม่เลิกกันได้ไหม ฮึก”ไอรินอ้าปากค้าง ก่อนที่มือบางฟาดผลัวะเข้าที่ไหล่กว้างเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังร้องไห้หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวทั้งน้ำตาทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บตัว ทั้งงุนงง พลชเหมือนลูกหมาตัวโต ๆ ที่เจ้าของไม่พาไปเดินเล่น“เลิกอะไรคะ!” ไอรินถามเสียงเขียว ฟาดมือกับไหล่หนาอีกที “ตบปา
“ในที่สุดลูกชายซื่อบื้อของมัมก็พาหนูรินกลับมาจนได้”หลังจากกอดหอมไอรินจนหนำใจ พิมพ์ดาวก็หันไปค่อนแคะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถ้าไม่ตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล ป่านนี้คนซื่อบื้อก็ยังคงซื่อบื้อต่อไปพลชไม่ได้โกรธแม่แต่ก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน แค่คิดว่าต้องเสียไอรินไปอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายก็บีบรัดอย่างรุนแรง เหมือนว่ามันกำลังจะแตกสลาย“อื้ออ ดีนคะ!” ไอรินตีแขนแกร่งที่จู่ ๆ ก็เข้ามาโอบรัดรอบเอว “ทำอะไรคะ คุณมัมกับคุณแด๊ดมองอยู่นะ”“อยากกอด ผมกลัวว่ารินจะหายไป”“รินจะหายไปได้ยังไงล่ะคะ”“คงฝังใจน่ะสิ” พิมพ์ดาวเอ่ยเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจของลูกชาย “อย่างงี้ล่ะน้า คนมันเคยพลาดมาก่อน คงกลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมอีก”“อะไรเหรอคะคุณมัม”“ดีนกำลังกลัวว่าจะเสียรินไปอีกน่ะลูก”ไอรินทั้งเข้าใจ และเห็นใจคนรัก เธอไม่รู้หรอกว่าสามเดือนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่จากสภาพทรุดโทรมที่ได้เห็น และที่วิลล์กับไมค์เล่าให้ฟังว่าพลชถึงขั้นหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกันไม่มีใครมีความสุขกับการจากลาในครั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่พลชจะจำฝังใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอก็ยังหลงเหลือบาดแผลเล็ก ๆ
ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ใช้เวลาแค่สิบวัน โรงเรียนที่ถูกปรับปรุงก็เสร็จสมบูรณ์ หลังจากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าไม่มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขแล้ว เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังก้องไปทั่วดอยเล็ก ๆ แห่งนี้“ในที่สุดโรงเรียนก็เสร็จแล้ว!”“หลังจากนี้เด็ก ๆ จะได้มีอาคารเรียนดี ๆ ไม่ต้องกลัวว่าหลังคาจะรั่วตอนฝนตกอีก”“ห้องน้ำก็มิดชิดขึ้น โรงอาหารก็ใหญ่โต เด็ก ๆ โชคดีกันมากนะรู้ไหม สมัยพี่เรียนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องตั้งใจเรียนนะ อย่าให้พวกพี่เสียแรงเปล่าล่ะ”เด็ก ๆ ต่างพากันพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ดวงตาสุกสกาวไร้เดียงสามองโรงเรียนที่เกือบจะจำภาพเดิมไม่ได้ด้วยความตื่นเต้นยินดี นอกจากอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่จนแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังมีอาคารอีกหนึ่งหลังที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ทั้งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า เด็ก ๆ ตื่นเต้นจนอยากเข้าไปเรียนเสียเดี๋ยวนี้ในอาคารนั้นมีทั้งห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ แถมยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์อีกห้าเครื่องตั้งไว้ให้เด็ก ๆ ได้ลองใช้ รวมถึงมีทีวีขนาดยักษ์ ที่ครูไอยราบอกว่าจะมีครูสอนพวกเด็ก ๆ จากในนั้นได้ยินว่าเป็นการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม เด็ก ๆ ไม่เข้าใจสิ่งนี้ ผู
“อยู่บ้านดี ๆ นะริน ส่วนดีน เราน่ะอย่ารั้นจะไปช่วยชาวบ้านนัก เจ็บแบบนี้ยิ่งไปช่วยชาวบ้านเขาจะยิ่งเป็นกังวลจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันพอดี”นักธุรกิจหนุ่มนั่งคอตก เถียงคุณครูไอยราไม่ออกเพราะตัวเองทำผิดจริง ๆเขาพักรักษาตัวมาได้สองวันแล้ว จุดที่ช้ำเริ่มเป็นสีม่วงเข้ม แต่เพราะยาจากไอยราทำให้รอยช้ำไม่น่ากลัวเท่าที่คิด ส่วนแผลที่แขนก็สมานกันดี พลชจึงแอบหนีไอรินไปที่โรงเรียน หวังจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้างแต่พอชาวบ้านเจอหน้าเขา ทุกคนก็พากันเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก จนครูไอยราต้องมาไล่ให้ว่าที่ลูกเขยกลับบ้านตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าพลชคือใคร และเพราะรู้ ทุกคนถึงได้หวั่นเกรงแบบนี้ สำหรับชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่แมลงศัตรูพืช แต่เป็นนายทุนอย่างพลชต่างหาก ขึ้นชื่อว่านายทุน.. ผลประโยชน์ย่อมมาก่อนทุกอย่างเสมอ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดี จากหนุ่มลูกครึ่งแสนดีที่ชาวบ้านรักใคร่ จะกลายเป็นคนหน้าเลือดกว้านซื้อที่ดิน จนคนหาเช้ากินค่ำไม่มีที่ซุกหัวนอนวันไหน“วันนี้ชาวบ้านมองผมแปลก ๆ” พลชฟ้องคนรัก ระหว่างที่เปิดเสื้อขึ้นเพื่อให้ไอรินประคบสมุนไพรไอรินที่รู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แฟนหนุ่มยัง