“และมึงมานั่งแดกเหล้าเอาแดกเอาเพื่อ?”“กูก็แค่สับสน…”ผมตอบไอ้กราฟไปเสียงแผ่วเบาอย่างคนที่กำลังสับสนในการกระทำของผมอยู่ในตอนนี้จริงๆ“สับสน?”“สับสนอะไรว่ะ?”ไอ้กราฟทวนคำพูดของผมและมองหน้าผมที่ผมมองหน้ามันอย่างจริงจัง“สับสนกับการกระทำของกู…”ผมตอบไอ้กราฟไป พลางหันไปเทขวดเหล้าใส่แก้วเหล้าของผมและหยิบยกกระดกดื่มอีกครั้ง“การกระทำของมึง?…ที่มึงประชดความรัก…”“จากคนที่เคยเป็นผู้ชายรักเดียวรักใครรักจริง…”“กลับกลายเป็นผู้ชายเพลย์บอยคบใครทีละหลายๆคน…นอนกับผู้หญิงมากมายไม่ซ้ำหน้า…”“และมาวันนี้…มึงกลับมาบอกว่ามึงสับสน..?”ไอ้กราฟเอ่ยยาวเหยียดออกมา ผมบอกแล้วว่ามีมันคนเดียวนี่แหละที่รู้จักผม ดีกว่าใคร และผมกับมันก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรที่จะต้องปกปิดกัน“ใช่….”ผมพยักหน้าตอบไอ้กราฟไป มันก็มองหน้าผมอย่างงงๆแต่มันก็พอจะประติดประต่อเรื่องราวของผมได้บ้าง เพราะมันน่าจะรู้ว่าชีวิตผมที่ผ่านมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง“กูควรจะหยุด….ได้แล้วใช่ไหมว่ะ?”ผมถามไอ้กราฟไปอย่างต้องการคำปรึกษาจากเพื่อนรักผม มันก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจคิดหนัก“การกระทำที่มึงทำอยู่ในตอนนี้…มันก็เป็นความธรรมดาของผู้ชาย…”“ที
สองวันต่อมา….บ้านเช่าA…08:00น.ขวัญเอย กมลวรรณ….พรึบ“น้องเอยคะ”ฉันที่ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากบ้านเช่าเพื่อจะไปมหาลัยก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงทุ้มนุ่มละมุนของผู้ชายที่คุ้นหูฉันเอ่ยเรียกฉันอยู่ตรงด้านหน้าบ้านเช่า“พี่คีรี…”ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพี่คีรีที่เข้ายืนยิ้มแฉ่งให้ฉันอย่างอบอุ่นแบบที่เขายิ้มให้ฉันเป็นประจำ เขามารอรับฉันเหมือนทุกครั้งแต่เขาคงจะลืมช่วงสองวันที่เขาหายไป เขาไม่ได้มารับฉันและไม่โทรมาหาฉันเลยเพราะแฟนเขามาหนิเนอะ…เขาคงจะให้เวลาแฟนเขาที่เขารัก มากกว่าแฟนกำมะลอที่เขาไม่ได้รักอย่างฉัน“น้องเอย^_^”พี่คีรีเรียกฉันเสียงหวานนุ่มพร้อมกับเดินตรงดิ่งเข้ามาหาฉัน “พี่คีรีคะ…”แต่ฉันกลับขยับถอยหลังหนีพี่คีรีอย่างออกนอกหน้าว่าฉันรู้สึกรังเกียจเขาได้อย่างชัดเจน“ครับ..?”พี่คีรีมองการกระทำของฉันและเอ่ยขานรับฉันด้วยใบหน้าที่สงสัย“เอยมีอะไรจะบอกพี่คีรีค่ะ…”ฉันเอ่ยเสียงเข้มพลางเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงและทำใจให้แข็งแกร่งกลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไม่ให้มันไหลออกมาฉันจะไม่ยอมให้เขาสวมเขาฉันอยู่แบบนี้อีกแล้ว ทั้งชีวิตของฉัน ก็มีแค่พี่คีรีเป็นแฟนคนแรกของฉัน และการมีความรักครั้งแรกของฉันก็
“เออ!อีกยี่สิบนาทีถึง!”เสียงหงุดหงิดของผู้ชายดังมาจากทางด้านหลังของฉันทำให้ฉันแอบอมยิ้มขึ้นมาที่เคนโซลงมาได้จังหวะพอดี“นั่นรูมเมทของน้องเอยเหรอคะ?”พี่คีรีเอ่ยถามฉันหลังจากที่เขาหันไปมองยังบุคคลมาใหม่ที่ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเคนโซที่เขากำลังนั่งอยู่ตรงทางเข้าประตูหน้าบ้านเพื่อสวมใส่รองเท้าผ้าใบอยู่อย่างเร่งรีบ“ไม่ใช่ค่ะ…นั่นเคนโซแฟนเอยเอง!”ฉันหันกลับมาเอ่ยเสียงดังฟังชัดบอกพี่คีรี พร้อมกับหันหลังเดินไปหาเคนโซที่เขาใส่รองเท้าเสร็จพอดีและกำลังขมวดคิ้วมองหน้าฉันอยู่อย่างสงสัยพรึบ“ช่วยฉันหน่อย”ฉันเดินมาประชิดตัวของเคนโซ หนุ่มรูมเมทสุดหล่อพร้อมกับจับมือเขาและเอ่ยกระซิบบอกเขาให้ช่วยฉัน เขาก็เลิกคิ้วมองหน้าฉันอย่างขอคำตอบว่าจะให้เขาช่วยอะไรฉัน“มานี่…”พรึบ“พี่เอยครับ!”เคนโซเรียกฉันเสียงหลงทันทีที่ฉันออกแรงลากร่างของเขาให้เดินมาเผชิญหน้ากับพี่คีรี“ไอ้เด็กนี่น่ะหรือ…แฟนน้องเอย?”“ถ้าคุณน้ารู้เรื่องนี้…ท่านไม่มีทางยอม…”พี่คีรีว่าพร้อมกับมองเคนโซด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยามเขามองเคนโซตั้งแต่หัวจรดเท้าเท้าจรดหัว เพราะเคนโซใส่กางเกงยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบคู่เก่า ปกตินายนี่ก็แต่งตัวดีนะแต
“มันไม่ได้แบ่งชนชั้นคนรวยคนจน…คนแต่งตัวดูดีมีราคาหรือเสื้อผ้าตลาดนัด”“แต่มันเกิดขึ้นมาจากความรู้สึก…พี่คีรี…คงไม่เข้าใจหรอกค่ะ…”“ขอตัวก่อนนะคะ..พอดีจะรีบไปเรียน..”“อ้อ…และขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา…”ฉันหยุดเดินและหันกลับไปมองหน้าพี่คีรีพร้อมกับกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้น“โง่!”ฉันเบิกตาโตและใส่น้ำเสียงสะใจตะคอกใส่หน้าพี่คีรีไปพร้อมกับเบะปากใส่เขา พี่คีรีไม่ได้สวนอะไรกลับมา เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่งแววตาดุดันสองมือกำหมัดแน่นอย่างคนที่กำลังยับยั้งความโกรธอยู่ แน่ล่ะเป็นใครใครก็โกรธโดนด่าเต็มๆหน้าแบบนี้ว่าโง่น่ะ พรึบ“พะพี่เอย!”“จะทำอะไรครับ…?”เคนโซเอ่ยถามฉันเสียงเลิ่กลั่กอย่างตกใจที่อยู่ๆฉันก็หยุดเดินและหันไปโน้มคอของเคนโซให้ลงมาหาฉันฉันกระตุกรอยยิ้มให้เคนโซก่อนจะโน้มใบหน้าขึ้นไปหาเขาและจัดการประกบริมฝีปากนุ่มสีชมพูสดของเคนโซทันที“จ๊วฟฟฟฟฟฟ”ฉันดูดดื่มริมฝีปากล่างของเคนโซอย่างอ้อยอิ่งและรุนแรงขึ้น เคนโซก็เริ่มจูบตอบฉันเขายื่นมือมาโอบเอวเล็กคอดของฉันและมอบจุมพิตที่ร้อนแรงและเร้าร้อนอย่างดูดดื่มให้ฉันกลับคืนมา“อื้ออออจ๊วฟฟฟฟฟ”ทั้งฉันและเคนโซต่างครวญครางออกมาอย่างพึงพอใจในรสชาติจูบของก
วันเดียวกันห้างสรรพสินค้าRร้านขายไอศกรีม…13:00น.“แกก็คบกับพี่เคนโซมานานแล้ว…”เสียงหวานใสจากนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มของวิทยาลัยเทคนิคการช่างเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสาวคนสวยที่เป็นถึงดาววิทยาลัยอย่างสงสัย“อื้อ….มีอะไรหรือเปล่า?”มีนาที่เธอกำลังนั่งตักไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่เข้าปากพลางมองหน้าเพื่อนสนิทของเธอไปอย่างสงสัยที่อยู่ดีๆเพื่อนของเธอก็พูดถึง เคนโซแฟนหนุ่มของเธอที่เธอกับเขาคบกันมาได้เกือบจะสองเดือนแล้ว โดยที่เขาเป็นฝ่ายเข้ามาจีบเธอก่อนเธอพึงพอใจในหน้าตาที่หล่อเหลาของเขามาก และไหนจะทั้งคารมดีของเขาทำให้เธอหลงใหลเขาจนยอมตกลงปลงใจคบกับเขาและยอมให้เขาได้ครอบครองร่างกายของเธอ “แต่ฉันไม่เห็นว่าแกจะมีอะไรเลย?”“มีอะไร?…หมายความว่า?”มีนาทวนคำพูดของเพื่อนสาวไปอย่างสงสัย“ก็พี่เคนโซน่ะ…ถึงเขาจะมีหน้าตาที่หล่อ…เข้าขั้นหล่อมาก..”“แต่เขาก็จนๆมาก…เหมือนกัน…”เพื่อนสาวของมีนาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล มีนาเองเธอก็รู้ดีว่าตลอดเวลาที่เธอคบกับเคนโซ เขาไม่เคยให้อะไรเธอเลย ไม่เคยเลี้ยงข้าวเธอ หรือแม้แต่ดูหนัง เธอก็เป็นคนจ่ายทั้งของเธอและของเขา“แล้วไง…พี่เคนโซเขาจนแล้ว?”“นี่แกจะบอกว่าแกรักเ
“ค่ะ….เราชื่อมีนา..”“เราชื่อครามนะ…ยินดีที่ได้รู้จักครับ..มีนา^_^”ครามเด็กต่างวิทยาลัยเอ่ยแนะนำตัวกลับพร้อมกับยิ้มหวานอย่างหว่านเสน่ห์ให้มีนาและทำให้เธอรู้ตัวว่าเขากำลังสนใจเธอ แต่มีนากลับทำแค่ยิ้มอ่อนให้ครามก่อนจะเดินหลีกออกมาจากคราม โดยมีเพื่อนสาวของเธอวิ่งตามหลังเธอมาติดๆ โดยมีสายตาของครามมองสองร่างเล็กที่เดินออกจากร้านไอศกรีมนี้ไปอย่างไม่วางตามีนามุ่งหน้าเดินตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำของห้างที่อยู่ติดกับร้านไอศกรีมที่เธอกับเพื่อนนั่งกินเมื่อกี้นี้ซ่าาาาาาาาา“ดูก็รู้…ว่าเขาจงใจทำไอศกรีมหกใส่แก”น้ำฝนที่ยืนมองเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังก้มหน้าก้มตาใช้น้ำจากอ่างล้างมือล้างไอศกรีมออกไปจากแขนของเธอ“เขาก็ขอโทษแล้ว..”มีนาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้านำ้ฝนพร้อมกับบอกเธอไป เธอไม่ได้นึกโกรธอะไรเขาเสียด้วยซ้ำไป“ฉันรู้…และก็รู้ด้วยว่าเขาน่ะ…สนใจในตัวแก..”“เพราะฉันเห็นเขานั่งมองแกมาสักพักแล้ว”น้ำฝนร่ายยาวออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับยิ้มเขินอายแทนเพื่อนสนิทของเธอที่มีเสน่ห์แรงจนหนุ่มๆมาขายขนมจีบกันอย่างไม่พักและคราวนี้ก็เป็นหนุ่มต่างวิลัยด้วย“นั่งมอง?”มีนาทวนคำพูดอย่างคนใส่ซื่อ แม้ภายในตัวตนของเธอจ
และปีนี้คนที่จะได้รับเลือกขึ้นไปเป็นพิธีกรก็คือมีนา ดาวดวงใหม่ของวิทยาลัยเธอได้ถูกเสนอชื่อจากอาจารย์และเพื่อนๆรุ่นเดียวกับเธอ เพราะเธอเป็นคนที่สวยอ่อนหวานเธอจึงเป็นที่รักและที่เอ็นดูของอาจารย์และเพื่อนๆรุ่นพี่ไปด้วย “ชุดนี้แหละเหมาะแล้ว…”“แต่ฉันไม่มีเงิน!”มีนากระซิบข้างหูน้ำฝน น้ำฝนก็แสยะยิ้ม“แกก็ให้แฟนแกซื้อให้สิ…”“อ้อ…ฉันก็ลืมไปว่าแค่ค่าถุงยางอนามัยพี่เขายังไม่มีปัญญาซื้อเลย…”น้ำฝนพูดออกมาด้วยนำ้เสียงกระแหนะกระแหนดูถูกเคนโซ แฟนของเพื่อนเธอที่เธอรู้สึกไม่ชอบใจที่เขาจนและเอาเปรียบเพื่อนเธอมากไป“ฝน!”มีนาเรียกเพื่อนเธอเสียงเข้มที่เพื่อนเธอว่าแฟนของเธอด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้“ฉันพูดความจริง..”น้ำฝนพูดเสร็จเธอก็ลอยหน้าลอยตาทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้มีนาได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะหันไปมองชุดนั้นอย่างเสียดาย“หึ…มึงอยากกวนส้นตีนกูดีนัก…คราวนี้แหละ…กูจะเอาคืนมึงให้สาสมเลย..ไอ้เคนโซ!!”ครามหนุ่มนักเรียนช่างที่ยืนแอบมองสองสาวแฟนของคู่อริอยู่ในมุมอับของร้านเอ่ยออกมาด้วยความคับแค้นใจดวงตาของเขาสั่นไหวเต็มไปด้วยไฟในตาอย่างคนโกรธจัดและคนที่มีความแค้นสะสมมานานเขาแสยะยิ้มที่เห็นว่าสองสา
เย็นวันเดียวกัน17:00น.เคนโซ คิณภพ….ซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาปื้นนนนนนนนนนนน“ฝนตก!”ผมพึมพำออกมาอย่างหัวเสีย ที่ฝนก็มาตกตอนที่ผมกำลังจะขี่รถกลับบ้าน รอให้ผมถึงบ้านก่อน...ก็ไม่ได้ค่อยตกเห้อ!ปื้นนนนนนนนนเอี๊ยด!ผมกำเบรกรถพร้อมกดไฟเลี้ยวเพื่อจะเลี้ยวรถลงจอดศาลาข้างทางเพื่อจะพามีนาหลบฝน ถ้าผมมาคนเดียว ผมคงจะขี่รถฝ่าสายฝนกลับบ้านไปเลย แต่นี่ผมพามีนามาด้วยและเธอก็ไม่ได้ใส่เสื้อกันฝนป่านนี้เธอคงจะเปียกหมดแล้วพรึบ“แวะหลบฝนก่อนนะ…มีนา…”ผมเอ่ยบอกมีนาไปในขณะที่ผมถอดหมวกกันน็อคออกมาจากศีรษะอย่างลวกๆแล้วมีนาเองก็ลงจากรถผม เมื่อมีนาลงจากรถผมไปแล้วผมก็ลงจากรถและจูงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของผมเข้ามาหลบฝนในศาลาข้างทางด้วย โชคดีที่ตรงนี้มีไฟเลยพอให้แสงสว่างกับเราได้บ้าง“เปียกหรือเปล่าคะ?”ผมเอ่ยถามมีนาไปพลางมองไปที่ชุดยูนิฟอร์มของเธอ ที่ตอนนี้เธอกำลังใช้กระดาษทิชชูเช็ดเสื้อช็อปของเธออยู่ ซึ่งมันก็เปียกนะ แต่เปียกน้อยกว่าของผมน่ะ“นิดหน่อยค่ะ…”“ครับ..”ผมพยักหน้าให้มีนาพร้อมกับยิ้มบางๆให้เธอและเดินลงมานั่งลงที่นั่งในศาลาเพื่อรอฝนให้หยุดตก เม็ดฝนเม็ดใหญ่ต่างพากันลงมากระแทกกับสังกะสีของศาลาทำให้เกิดเส
“อื้ออออออ!”ฉันครวญครางออกมาอย่างน่าอายแต่นาทีนี้ความเสียวซ่านไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอับอายมันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีเวลาร้องครวญครางออกมาแบบนั้น “อื้ออ๊ะๆๆๆ”ฉันครางถี่รัวเมื่อฉันใช้มือแหวกจีสตริงให้พ้นจากร่องสวาทของฉันและจัดการใช้ส่วนหัวของดิลโด้ถูขึ้นลงไปกับร่องสวาทของฉันอย่างแผ่วเบาทำให้ร่างของฉันชักกระตุกถี่รัวไปด้วยความเสียวซ่าน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มซู้ดปากขึ้นลงอย่างสุขสมเมื่อส่วนหัวของดิลโด้ไปแตะโดนปุ่มกระสันของฉันยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกฉันจ่อดิลโด้ไว้กับปุ่มกระสันนานเป็นพิเศษเพราะตรงนี้คือจุดเสียวซ่านและมอบความสุขให้ฉันจนฉันเสร็จไปไม่รู้ต่อกี่น้ำและกี่น้ำแล้ว“อื้ออออ”มือเล็กของฉันลูบคลึงเต้าอวบอิ่มพร้อมกับเขี่ยยอดปทุมถันของตัวเองไปด้วยเพื่อสร้างความเสียวให้ฉันเพิ่มขึ้นไปอีกแจ๊ะๆๆๆๆๆ“อื้อออ”เสียงน้ำมากมายที่ออกมาจากร่องสวาทของฉันกระทบกับดิลโด้ที่ทำจากซิลิโคนทำให้เกิดเสียงดัง ฉันค่อยๆใช้นิ้วมือแหวกร่องสวาทที่อวบอิ่มโหนกนูนของฉันให้อ้าออกจากกันอย่างกว้างๆเพื่อจะทำการสอดใส่ดิลโด้เข้าไปในร่องสวาทของฉัน“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มครางกระเส่าออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่
“อื้อ!ไม่นะ..เราจะให้กิเลสมาครอบงำแบบนี้ไม่ได้…”ฉันพูดเตือนสติตัวเองและหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวลงและหันหลังเดินกลับออกมาจากหน้าห้องนั้นกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“เลิกคิด….”ฉันหลับตาพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาให้ฉันเลิกคิดถึงการร่วมรักของสองคนนั้นได้แล้วพรึบฉันทิ้งตัวลงนอนไปกับที่นอนและข่มใจข่มตาให้หลับและมันก็ได้ผล…ฉันหลับจริงๆ คงจะเป็นเพราะฉันอ่อนเพลียและเหนื่อยล้ากับการร้องไห้มาอย่างหนักก็ได้วันนี้ฉันก็ขาดเรียนไม่ได้ไปมหาลัย….เพิ่งรู้นะว่าการอกหักมันทำให้เราไม่มีจิตใจจะทำอะไรเลย มันห่อเหี่ยวหัวใจยังไงแปลกๆ มันเคยมีเขาแต่อตนนี้ไม่มีแล้ว.....30นาทีต่อมา…ห้องนอนขวัญเอย…..พรึบฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะฉันหลับจริงแต่ในสมองของฉันยังคงเห็นแต่ฉากเลิฟซีนสุดเร้าร้อนของเคนโซและแฟนของเขา จนทำให้จิตใจของฉันไม่สงบสุข กิเลสก่อเกิดขึ้นภายในใจของฉันจนฉันต้องตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่ร้อนรุ่มไปทั้งตัวและตรงจุดเสียวของฉันเต็มไปด้วยความชุ่มแฉะ“อื้ออ”ทำให้ฉันอดใจไม่ไหวที่จะตอบสนองตัวเองด้วยการสัมผัส ฉันยื่นมือทั้งสองข้างไปลูบไล้เต้าอวบอิ่มของฉันผ่านชุดนอนซีทรูสายเดี่ยวผ้าเนื้อบางสีครีมที่ผ้าสามารถมองเห
ผมจะบอกเธอได้ไงล่ะ ว่าผมน่ะใช้ถุงยางหมดแพ็คภายในอาทิตย์เดียว แถมในแพ็คมีหนึ่งโหลนะครับผมจะบอกให้ ผมใช้กับเธอไปแค่สองกล่องนอกนั้นกับคนอื่นทั้งหมด พรึบ “มีไหมครับ?”ผมนี่ถามมีนาทันทีที่เธอเดินออกมาจากร้านขายยาหลังจากที่เธอเข้าไปเกือบราวๆห้านาทีด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบเขาเธอ เพราะขนาดถุงยางของผมที่ใช้เป็นขนาดใหญ่พิเศษซึ่งหาซื้อยากตามท้องตลาดทั่วไป เพราะขนาดเจ้าโลกของผมมีขนาดใหญ่เกินมาตรฐานของชายไทยน่ะครับ ผมโคตรจะภูมิใจในตัวเองตรงนี้มากๆถึงผมจะเรียนโง่เรื่องอื่นห่วยแตก แต่ขอน้องชายใหญ่ไว้ก่อนก็ภูมิใจล่ะ “มีค่ะ^\\^”มีนาเดินเข้ามาใกล้ผมและเอ่ยบอกผมด้วยใบหน้าเขินอาย พรึบ ผมคว้าเอวมีนามาใกล้ชิดร่างผมที่คร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ เธอก็มีสีหน้าที่ตกใจอยู่เล็กน้อยเพราะกลัวคนอื่นจะเห็น แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดรถสัญจรไปมาก็ไม่ค่อยจะมี ผู้คนตรงนี้ก็ไม่มีเลย “งั้นไปกันดีกว่าครับ…” “พี่อยากฟัดมีนาใจจะขาดแล้ว^_^”ผมเอ่ยบอกเธอเสียงกระเส่าพลางมองต่ำไปที่เรือนร่างของมีนา เธอก็ทำหน้างอใส่ผมอย่างเขินอาย “พี่เคนอ่ะ..”ผมปล่อยเอวของมีนา เธอก็เดินไปขึ้นรถของผมโดยท่านั่งข้าง ผมก็สวมใส่หมวกกันน็อคและรีบสตาร์ทรถออก
“คะครับ…”เสียงเรียกของมีนาทำให้ผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์“ฝนหยุดตกแล้วค่ะ”มีนาว่าผมก็มองไปรอบๆจริงด้วย ฝนหยุดตกแล้ว นี่ผมเหม่อมัวแต่คิดถึงแต่พี่เอยไปนานเท่าไหร่กันนะ ถึงไม่รู้เลยว่าฝนมันหยุดตกไปตั้งแต่ตอนไหน“น้องมีนาคะ…”ผมเอ่ยเรียกมีนาในขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นยืน เธอหยุดการกระทำและหันมามองหน้าผม“คะ?”มีนามองหน้าผมพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ผมก็มองหน้าเธอด้วยสีหน้าจริงจัง ผมยื่นมือไปจับมือเธอมากุมไว้“เป็นแฟนพี่…มันลำบาก…”“ใช่ไหมคะ?”“พี่ไม่มีรถยนต์ให้น้องมีนานั่งตากแอร์…มีแต่พาน้องมีนาตากฝนตากลม…”“พี่ไม่มีเงินพาน้องมีนาไปช้อปปิ้งซื้อของแพงๆ”“เป็นแฟนพี่มันลำบาก…มากนะคะ..”ผมบอกเธอไปยาวเหยียดมีนาก็มองหน้าผมนิ่ง อย่างสงสัยผมว่าผมอยากจะพูดอะไรกับเธอกันแน่“พี่เคนมีอะไรก็บอกกับมีนาตรงๆได้ค่ะ..”“พี่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพอ…พี่ไม่รวย…พี่มันจน..”“พี่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับผู้หญิงที่แสนดีแบบมีนาเลย..”“ถ้าเกิดวันหนึ่ง…น้องมีนาเจอคนที่ดีกว่าพี่…”“มีนาไปได้เลยนะคะ…ไม่ต้องสนใจพี่….”“พี่เคนโซพูดแบบนี้…?”“หมายความว่าพี่เคนโซอยากเลิกกับมีนาเหรอคะ?”มีนามองหน้าผมดวงตาสั่นไหวน้ำเสียงของเธอแข็งกร้าว “เปล่าค่
เย็นวันเดียวกัน17:00น.เคนโซ คิณภพ….ซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาปื้นนนนนนนนนนนน“ฝนตก!”ผมพึมพำออกมาอย่างหัวเสีย ที่ฝนก็มาตกตอนที่ผมกำลังจะขี่รถกลับบ้าน รอให้ผมถึงบ้านก่อน...ก็ไม่ได้ค่อยตกเห้อ!ปื้นนนนนนนนนเอี๊ยด!ผมกำเบรกรถพร้อมกดไฟเลี้ยวเพื่อจะเลี้ยวรถลงจอดศาลาข้างทางเพื่อจะพามีนาหลบฝน ถ้าผมมาคนเดียว ผมคงจะขี่รถฝ่าสายฝนกลับบ้านไปเลย แต่นี่ผมพามีนามาด้วยและเธอก็ไม่ได้ใส่เสื้อกันฝนป่านนี้เธอคงจะเปียกหมดแล้วพรึบ“แวะหลบฝนก่อนนะ…มีนา…”ผมเอ่ยบอกมีนาไปในขณะที่ผมถอดหมวกกันน็อคออกมาจากศีรษะอย่างลวกๆแล้วมีนาเองก็ลงจากรถผม เมื่อมีนาลงจากรถผมไปแล้วผมก็ลงจากรถและจูงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของผมเข้ามาหลบฝนในศาลาข้างทางด้วย โชคดีที่ตรงนี้มีไฟเลยพอให้แสงสว่างกับเราได้บ้าง“เปียกหรือเปล่าคะ?”ผมเอ่ยถามมีนาไปพลางมองไปที่ชุดยูนิฟอร์มของเธอ ที่ตอนนี้เธอกำลังใช้กระดาษทิชชูเช็ดเสื้อช็อปของเธออยู่ ซึ่งมันก็เปียกนะ แต่เปียกน้อยกว่าของผมน่ะ“นิดหน่อยค่ะ…”“ครับ..”ผมพยักหน้าให้มีนาพร้อมกับยิ้มบางๆให้เธอและเดินลงมานั่งลงที่นั่งในศาลาเพื่อรอฝนให้หยุดตก เม็ดฝนเม็ดใหญ่ต่างพากันลงมากระแทกกับสังกะสีของศาลาทำให้เกิดเส
และปีนี้คนที่จะได้รับเลือกขึ้นไปเป็นพิธีกรก็คือมีนา ดาวดวงใหม่ของวิทยาลัยเธอได้ถูกเสนอชื่อจากอาจารย์และเพื่อนๆรุ่นเดียวกับเธอ เพราะเธอเป็นคนที่สวยอ่อนหวานเธอจึงเป็นที่รักและที่เอ็นดูของอาจารย์และเพื่อนๆรุ่นพี่ไปด้วย “ชุดนี้แหละเหมาะแล้ว…”“แต่ฉันไม่มีเงิน!”มีนากระซิบข้างหูน้ำฝน น้ำฝนก็แสยะยิ้ม“แกก็ให้แฟนแกซื้อให้สิ…”“อ้อ…ฉันก็ลืมไปว่าแค่ค่าถุงยางอนามัยพี่เขายังไม่มีปัญญาซื้อเลย…”น้ำฝนพูดออกมาด้วยนำ้เสียงกระแหนะกระแหนดูถูกเคนโซ แฟนของเพื่อนเธอที่เธอรู้สึกไม่ชอบใจที่เขาจนและเอาเปรียบเพื่อนเธอมากไป“ฝน!”มีนาเรียกเพื่อนเธอเสียงเข้มที่เพื่อนเธอว่าแฟนของเธอด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนี้“ฉันพูดความจริง..”น้ำฝนพูดเสร็จเธอก็ลอยหน้าลอยตาทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้มีนาได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจก่อนจะหันไปมองชุดนั้นอย่างเสียดาย“หึ…มึงอยากกวนส้นตีนกูดีนัก…คราวนี้แหละ…กูจะเอาคืนมึงให้สาสมเลย..ไอ้เคนโซ!!”ครามหนุ่มนักเรียนช่างที่ยืนแอบมองสองสาวแฟนของคู่อริอยู่ในมุมอับของร้านเอ่ยออกมาด้วยความคับแค้นใจดวงตาของเขาสั่นไหวเต็มไปด้วยไฟในตาอย่างคนโกรธจัดและคนที่มีความแค้นสะสมมานานเขาแสยะยิ้มที่เห็นว่าสองสา
“ค่ะ….เราชื่อมีนา..”“เราชื่อครามนะ…ยินดีที่ได้รู้จักครับ..มีนา^_^”ครามเด็กต่างวิทยาลัยเอ่ยแนะนำตัวกลับพร้อมกับยิ้มหวานอย่างหว่านเสน่ห์ให้มีนาและทำให้เธอรู้ตัวว่าเขากำลังสนใจเธอ แต่มีนากลับทำแค่ยิ้มอ่อนให้ครามก่อนจะเดินหลีกออกมาจากคราม โดยมีเพื่อนสาวของเธอวิ่งตามหลังเธอมาติดๆ โดยมีสายตาของครามมองสองร่างเล็กที่เดินออกจากร้านไอศกรีมนี้ไปอย่างไม่วางตามีนามุ่งหน้าเดินตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำของห้างที่อยู่ติดกับร้านไอศกรีมที่เธอกับเพื่อนนั่งกินเมื่อกี้นี้ซ่าาาาาาาาา“ดูก็รู้…ว่าเขาจงใจทำไอศกรีมหกใส่แก”น้ำฝนที่ยืนมองเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังก้มหน้าก้มตาใช้น้ำจากอ่างล้างมือล้างไอศกรีมออกไปจากแขนของเธอ“เขาก็ขอโทษแล้ว..”มีนาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้านำ้ฝนพร้อมกับบอกเธอไป เธอไม่ได้นึกโกรธอะไรเขาเสียด้วยซ้ำไป“ฉันรู้…และก็รู้ด้วยว่าเขาน่ะ…สนใจในตัวแก..”“เพราะฉันเห็นเขานั่งมองแกมาสักพักแล้ว”น้ำฝนร่ายยาวออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับยิ้มเขินอายแทนเพื่อนสนิทของเธอที่มีเสน่ห์แรงจนหนุ่มๆมาขายขนมจีบกันอย่างไม่พักและคราวนี้ก็เป็นหนุ่มต่างวิลัยด้วย“นั่งมอง?”มีนาทวนคำพูดอย่างคนใส่ซื่อ แม้ภายในตัวตนของเธอจ
วันเดียวกันห้างสรรพสินค้าRร้านขายไอศกรีม…13:00น.“แกก็คบกับพี่เคนโซมานานแล้ว…”เสียงหวานใสจากนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มของวิทยาลัยเทคนิคการช่างเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสาวคนสวยที่เป็นถึงดาววิทยาลัยอย่างสงสัย“อื้อ….มีอะไรหรือเปล่า?”มีนาที่เธอกำลังนั่งตักไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่เข้าปากพลางมองหน้าเพื่อนสนิทของเธอไปอย่างสงสัยที่อยู่ดีๆเพื่อนของเธอก็พูดถึง เคนโซแฟนหนุ่มของเธอที่เธอกับเขาคบกันมาได้เกือบจะสองเดือนแล้ว โดยที่เขาเป็นฝ่ายเข้ามาจีบเธอก่อนเธอพึงพอใจในหน้าตาที่หล่อเหลาของเขามาก และไหนจะทั้งคารมดีของเขาทำให้เธอหลงใหลเขาจนยอมตกลงปลงใจคบกับเขาและยอมให้เขาได้ครอบครองร่างกายของเธอ “แต่ฉันไม่เห็นว่าแกจะมีอะไรเลย?”“มีอะไร?…หมายความว่า?”มีนาทวนคำพูดของเพื่อนสาวไปอย่างสงสัย“ก็พี่เคนโซน่ะ…ถึงเขาจะมีหน้าตาที่หล่อ…เข้าขั้นหล่อมาก..”“แต่เขาก็จนๆมาก…เหมือนกัน…”เพื่อนสาวของมีนาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล มีนาเองเธอก็รู้ดีว่าตลอดเวลาที่เธอคบกับเคนโซ เขาไม่เคยให้อะไรเธอเลย ไม่เคยเลี้ยงข้าวเธอ หรือแม้แต่ดูหนัง เธอก็เป็นคนจ่ายทั้งของเธอและของเขา“แล้วไง…พี่เคนโซเขาจนแล้ว?”“นี่แกจะบอกว่าแกรักเ
“มันไม่ได้แบ่งชนชั้นคนรวยคนจน…คนแต่งตัวดูดีมีราคาหรือเสื้อผ้าตลาดนัด”“แต่มันเกิดขึ้นมาจากความรู้สึก…พี่คีรี…คงไม่เข้าใจหรอกค่ะ…”“ขอตัวก่อนนะคะ..พอดีจะรีบไปเรียน..”“อ้อ…และขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา…”ฉันหยุดเดินและหันกลับไปมองหน้าพี่คีรีพร้อมกับกระตุกรอยยิ้มที่มุมปากขึ้น“โง่!”ฉันเบิกตาโตและใส่น้ำเสียงสะใจตะคอกใส่หน้าพี่คีรีไปพร้อมกับเบะปากใส่เขา พี่คีรีไม่ได้สวนอะไรกลับมา เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่งแววตาดุดันสองมือกำหมัดแน่นอย่างคนที่กำลังยับยั้งความโกรธอยู่ แน่ล่ะเป็นใครใครก็โกรธโดนด่าเต็มๆหน้าแบบนี้ว่าโง่น่ะ พรึบ“พะพี่เอย!”“จะทำอะไรครับ…?”เคนโซเอ่ยถามฉันเสียงเลิ่กลั่กอย่างตกใจที่อยู่ๆฉันก็หยุดเดินและหันไปโน้มคอของเคนโซให้ลงมาหาฉันฉันกระตุกรอยยิ้มให้เคนโซก่อนจะโน้มใบหน้าขึ้นไปหาเขาและจัดการประกบริมฝีปากนุ่มสีชมพูสดของเคนโซทันที“จ๊วฟฟฟฟฟฟ”ฉันดูดดื่มริมฝีปากล่างของเคนโซอย่างอ้อยอิ่งและรุนแรงขึ้น เคนโซก็เริ่มจูบตอบฉันเขายื่นมือมาโอบเอวเล็กคอดของฉันและมอบจุมพิตที่ร้อนแรงและเร้าร้อนอย่างดูดดื่มให้ฉันกลับคืนมา“อื้ออออจ๊วฟฟฟฟฟ”ทั้งฉันและเคนโซต่างครวญครางออกมาอย่างพึงพอใจในรสชาติจูบของก