บนโต๊ะมีกับข้าวหลายอย่าง แม่บุษกับไข่มุกเป็นคนช่วยกันทำ ระหว่างรับประทานอาหาร ทุกคนสอบถามสารทุกข์สุกดิบของมรกต พูดคุยกันด้วยเรื่องทั่วไป ไม่มีใครพูดถึงเหตุการณ์ในคืนก่อนแต่งงานคืนนั้นเลย
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเสร็จ พ่อวัตกับแม่แก้วก็พากันกลับบ้าน พ่อกวีกับแม่บุษกลับเข้าบ้าน ภริดา มรกต กับไข่มุกช่วยกันเก็บโต๊ะเก็บเตา
ขณะที่สาว ๆ เก็บของเสร็จพอดี ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากบ้านของภริดา
“กูมันโง่ ! โง่เป็นควาย ! ถูกเขาหลอกมาตั้งนานเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอก !”
“ไอ้กร...มึงเงียบ ๆ หน่อยสิวะ เฮ้ย ๆ แล้วนั้นมึงจะไปไหน” ธันวาวิ่งตามเพื่อนซึ่งเดินโซซัดโซเซไปทางบ้านอีกหลังที่อยู่ข้างกัน
“ไอ้กร ! มึงเมามาก ไปนอนได้แล้ว” อชิระเองก็วิ่งตามเพื่อนไปเช่นกัน เขาจับต้นแขนเพื่อนไว้ แต่ภากรก็สะบัดสุดแรง แล้วเดินผ่านประตูเล็กเข้าในบริเวณบ้านของพ่อตา
ภากรดื่มเหล
“คุณคะ...ใจเย็น ๆ นะคะ” แม่บุษราเตือนสติคนที่ตะคอกถามเสียงดังจนลูกทั้งสองสะดุ้งตกใจ “มุกรักพี่กรค่ะ มุกเลยยอมไปนอนกับพี่กร แต่คืนนั้นพี่กรไม่ได้ทำอะไรมุกเลยนะคะ พี่กรไม่ผิดเลย มุกผิดเอง” “น้องมุก ! พอแล้ว พ่ออยากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของคนต้นเรื่อง ว่าไง...กต ทำไมถึงกล้าทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ทำไมถึงกล้าให้น้องทำแบบนี้ ถ้าไม่สงสารกร ลูกก็ควรสงสารน้องบ้าง นี่น้องสาวของลูกนะ น้องแท้ ๆ น้องยังเด็ก การคิดการไตร่ตรองของน้องยังอ่อนด้อยนัก ด้อยกว่ากตที่เป็นพี่สาว และอายุมากกว่าน้องตั้งหลายปี แต่กตก็เลือกที่จะทำแบบนี้ เพื่อตัวเอง ใช้น้องเป็นเครื่องมือ เพื่อให้ตัวเองสมหวัง แต่น้องต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักตัวเอง” ในฐานะคนเป็นพ่อ พ่อกวีรู้สึกผิดหวังกับลูกสาวคนโต และนึกโทษตัวเองที่สอนลูกไม่ดีพอ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันร้ายแรง และยุ่งเหยิงไปหมด มองไปในอนาคตก็เห็นแต่ความวุ่นวาย คนผิดคือมรกต คนเจ็บคื
ไข่มุกหันไปมองพี่ดา พยักหน้ารับฟังสิ่งที่พี่ดาบอกสอน “แล้วเย็นนี้ จะกลับบ้านไหน” “มุกจะกลับไปรอพี่กรที่บ้านก่อนค่ะ มุกอยากคุยกับพี่กร” ภริดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นห่วงว่าน้องชายจะทำให้ไข่มุกเสียใจ จริง ๆ ก็เป็นห่วงทั้งสองคนนั่นแหละ คนหนึ่งคือน้องชายแท้ ๆ อีกคนก็น้องสะใภ้ที่เธอรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวจริง ๆ “เวลาคุยกับเจ้ากร มุกต้องใจเย็น ๆ นะ เพราะรายนั้นมันกวนตีน พี่รู้นิสัยมันดี เพราะพี่กับมันตีกันบ่อย” ไข่มุกยิ้มขำ “พี่ดาตัวเล็กนิดเดียว เวลาตีกับพี่กรเคยชนะไหมคะ” “รู้จักพี่น้อยไปซะแล้ว พี่นี่หญิงแกร่งแห่งบ้านเลยนะ” ภริดาหัวเราะขำ ก่อนเอ่ยต่อว่า “แต่ที่จริงที่ชนะแทบทุกครั้ง ก็เพราะเจ้ากรมันยอมพี่เองแหละ” ภริดาหันไปยิ้มให้น้องสะใภ้ แล้วหันกลับมามองถนนตรงหน้าต่อ “เห็นมันปาก
“แก้ผ้ายั่วพี่สิ เอาตัวเข้าแลกเหมือนที่เธอเคยทำไง แหกขาให้พี่เอา ขย่มให้พี่แตก แล้วก็ครางดัง ๆ ทำให้พี่พอใจ เผื่อบางที พี่จะใจอ่อนยอมยกโทษให้เธอสักเสี้ยวหนึ่ง” นอกจากคำพูดคำจาจะเชือดเฉือนแล้ว สายตาของเขายังมองเธออย่างดูถูกดูแคลน ทว่าคนผิดกลับยอมทำตามที่เขาพูด เพียงเพราะอยากให้เขายกโทษให้ แม้สักเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี ไข่มุกสูดน้ำมูก ยกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอถอยออกมาก้าวหนึ่ง มือบางสั่นเล็กน้อยในตอนที่ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมดทุกชิ้น ภากรจ้องคนใจกล้าที่กำลังถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเขา ปกติแล้วเธอเหนียมอาย ถ้าเขาไม่เริ่มก่อน เธอไม่กล้าแม้จะแตะต้องเนื้อตัวเขาด้วยซ้ำ “มุกต้องทำยังไงต่อคะ” ไข่มุกถามเสียงเจือสะอื้น “นั่งลงสิ ดูดให้พี่แตก แล้วก็ใช้นิ้วกับตรงนั้นของเธอด้วย” ไข่มุกพยักหน้า แล้วนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูง เธอปลดผ้าขนหนูออกจากเอวสอบ พอผ้าขนหนูหลุดลงไปกอ
โชคดีที่วันนี้เธอกลับมานอนบ้าน จริง ๆ ก็โชคไม่ดีเท่าไรหรอก เพราะเธอแค่อยากหนีไอ้เด็กบ้ากามที่ไปดักรอเธอที่คอนโดต่างหาก เธอจึงหนีกลับมานอนบ้าน ถือว่าเป็นโชคดีของไข่มุก แต่เป็นโชคไม่ดีเท่าไรของเธอแล้วกัน ที่เอาตัวไปพัวพันกับเด็กจนเด็กมันติดใจและตามติด เมื่อคืนเธอโทรถามข่าวคราวของน้องชายและน้องสะใภ้กับแม่แก้ว แม่บอกว่า เมื่อคืนนี้น้องมุกมารอคุยกับน้องชายของเธอในห้อง พอเธอมาถึงบ้านในตอนเช้า น้องชายก็ออกไปทำงานแล้ว และพอถามหาน้องมุก แม่แก้วบอกว่ายังไม่เห็นลงมา ด้วยความเป็นห่วง เธอจึงเข้ามาดู “พี่ดา...มุกปวดหัวจังเลยค่ะ” เสียงแหบแห้งของไข่มุกยิ่งทำให้คนได้ยินสงสารจับใจ และยิ่งโกรธน้องชายมากขึ้นไปอีกร้อยเท่าพันเท่า เธอรู้ดีว่าการถูกคนรักกระทำรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจนั้น มันเจ็บปวดแค่ไหน เพราะเธอเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว และกว่าจะผ่านมาได้ กว่าจะเข้มแข็งยืนหยัดเป็นภริดาได้อย่างทุกวันนี้ มันไม่ง่ายเลย
ไข่มุกโชคดีที่ผู้คนรอบกายน่ารักและคอยให้ความช่วยเหลือเธอตลอด อย่างเมื่อวานเธอขาดเรียนไป วันนี้พอมาถึงมหาวิทยาลัย พลอยขวัญกับช่อใบบัวก็ช่วยติวเข้มในหัวข้อที่คิดว่าอาจารย์จะนำมาออกข้อสอบย่อย เพื่อน ๆ เข้าใจว่าที่เธอหยุดไปเมื่อวานเพราะไม่สบาย วันนี้ไข่มุกเลยเหมือนเจ้าหญิงที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากเพื่อน ไม่ว่าจะซื้อข้าวซื้อน้ำ หรือทำอะไร พลอยขวัญกับช่อใบบัวก็คอยบริการตลอด ทั้งยังชวนคุยเรื่องสนุก ๆ แถมด้วยการตกลงกันว่า หากสอบปลายภาคเสร็จแล้วจะไปกินข้าวฟังเพลงร้านพี่ดาเป็นการฉลอง ซึ่งไข่มุกรับปากว่าจะไปกับเพื่อน ๆ แน่นอน “มุก...วันนี้พลอยไปส่งนะ” พลอยขวัญอาสาไปส่งเพื่อน เพราะเป็นห่วงไข่มุกที่เพิ่งฟื้นไข้ กลัวว่าเพื่อนจะไปเป็นลมเป็นแล้งบนรถสาธารณะ “ขอบใจนะพลอย แต่บ้านเราไปคนละทางกันเลย พลอยต้องขับรถตั้งไกลนะ ไม่เอาดีกว่า มุกกลับเองได้” “ให้พลอยไปส่งเถอะมุก บัวก็จะนั่งรถไปด้วย พวกเราต
เพื่อนจะคอยซัพพอร์ตกันในวันที่เพื่อนต้องการ กอดกันให้แน่นในวันที่ใครสักคนอ่อนแอ จับมือและหัวเราะไปด้วยกันในวันที่มีความสุข เพื่อนนั้นหาง่าย แต่เพื่อนที่พร้อมจะยินดีกับเราในวันที่เราสุข เสียใจไปกับเราในวันที่เราทุกข์ เพื่อนที่ยอมรับและเข้าใจในความเป็นเรา และพร้อมจะซัพพอร์ตเราตลอดไปนั้นหายาก ถ้าหาเพื่อนแบบนี้เจอแล้วก็ควรรักษาไว้ให้ดี หลังจากกินขนมและดื่มเครื่องดื่มจนเกลี้ยงโต๊ะแล้ว สามสาวก็กลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง ก่อนที่พลอยขวัญจะถอยรถออกจากช่องจอด ไข่มุกจึงตัดสินใจบอกเพื่อนไปว่า “มุกกำลังจะเลิกกับพี่กร พรุ่งนี้มุกจะโสดแล้วนะ” เพราะวันนี้เธอจะเก็บข้าวของย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิม จะรักตัวเองให้มากขึ้น จะดูแลตัวเองให้ดี ช่อใบบัวและพลอยขวัญมองหน้ากันด้วยความตกใจ แต่ในความตกใจนั้น ไม่มากเท่ากับความห่วงใยที่มีให้เพื่อน ช่อใบบัวขยับตัวไปแทรกกลางเบาะหน้า เอื้อมมือไปดึงมือของ
ด้วยเพราะเหตุการณ์ทั้งหมด พี่กตและเธอมีส่วนทำให้มันบานปลายมาถึงจุดนี้ คุณพ่อคุณแม่จึงยอมยกโทษให้พี่กร และขอให้เลิกแล้วต่อกันไป นับจากนี้เราสองครอบครัวก็ยังเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเหมือนเดิม แต่เธอกับพี่กรสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยากันแล้ว และห้ามไม่ให้พี่กรเข้ามาในบริเวณบ้านของเธอ ไม่อย่างนั้นคุณพ่อจะไม่รับรองความปลอดภัย และจะไม่เห็นกับใครหน้าไหนทั้งนั้น เสียงแจ้งเตือนวิดีโอคอลทำให้ไข่มุกที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงหยิบโทรศัพท์มาดู พอเห็นว่าพี่ดาคอลมา หญิงสาวจึงกดรับ “น้องมุกจ๋า สอบเสร็จหรือยัง จะมากินเลี้ยงที่ร้านพี่วันไหนจ๊ะ พี่จะได้สำรองโต๊ะมุมที่ดีที่สุดในร้านไว้ให้” ไข่มุกยิ้มหวานให้คนวิดีโอคอลมาหา ในวันที่เธอกลับมาอยู่บ้านวันแรก พี่ดาโทรมาหาเธอในช่วงดึก พี่ดาโทรมาเพื่อจะบอกว่า พี่ดาไม่ได้ผิดสัญญาที่บอกเอาไว้ว่าจะไม่บอกเรื่องที่พี่กรเอาแต่ใจกับเธอ เพราะวันนั้นพี่ดาพูดว่า
“นี่นายขู่พี่เหรอ” “ไม่ได้ขู่ แต่เอาจริง” “เราควรจบกันได้แล้ว ต่างคนต่างได้ วิน ๆ กันไป นายยังเด็ก เพิ่งสิบแปดปีเอง ไปหาแฟนเด็กที่อายุไล่เลี่ยกัน คนที่ยังโสดยังซิงดีกว่าไหม จะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับพี่นักหนาเนี่ย” “ผมอายุสิบเก้าแล้ว อีกหกเดือนก็ยี่สิบปีเต็ม และผมไม่ชอบเด็ก ขี้เกียจสอนงาน ผมเลือกพี่ดาแล้ว ยังไงพี่ก็หนีผมไม่พ้นหรอก” เวทิศยิ้มอย่างผู้ชนะ ภริดาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “อยากไปก็ไป คืนนี้พี่จะอยู่รอจนร้านปิด” เวทิศยิ้มกว้าง เขาก้มหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ “วันนี้ผมขับรถมา กลับรถผมนะครับ” “อือ...ปล่อยได้แล้ว และก็กรุณาออกไปทำงานด้วย ถ้าไม่ขึ้นร้องก็ไม่ได้ตังค์นะ” “รู้แล้วครับ เมียใครเนี่ย โหดจัง” “นี่ ! อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม พี่ไม่ชอบ” “พูดว่า...”
ไข่มุกจิกกำบ่ากว้างไว้แน่น เธอแยกแย้มตัวเองออกจนสุดเพื่อรองรับเขา เมื่อส่วนหัวสอดใส่เข้ามาในร่องรักอุ่นอ้าว ไข่มุกห่อปากครางเสียว เธอมองสบตาคู่คมที่ชะโงกอยู่เหนือกายเธอ ไข่มุกรับรู้ถึงแก่นกายใหญ่โตที่ขับเคลื่อนสอดแทรกเข้ามาในตัวเธอช้า ๆ “พี่กรขา…” ไข่มุกบิดสายร่างกายใต้ร่างสูง เสียวซ่านทรมานต้องการให้เขาเติมเต็มเธอสุดทางเสียที “เข้ามาทั้งหมดเลยสิคะ มุกอยากได้พี่กร” พอน้องบอกอยากได้เขา ภากรก็ตอบสนองความต้องการของน้องทันที เขาเกร็งสะโพกแล้วขยับบั้นเอวสอดใส่ลำกายแกร่งสลักลึกแน่นกลางร่องรักสุดทาง “อ๊าย !” ไข่มุกหวีดร้องเสียงหลง กรีดเล็บไปบนบ่ากว้างและแผ่นหนังแน่นตึงของสามีเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ซ่านเสียว ภากรขบกรามแน่นด้วยความเสียวไม่น้อยไปกว่าเมีย เธอคับแน่น อุ่นอ้าว ทั้งนุ่มลื่น และยังตอดรัดเขาหนุบหนับไปทั้งลำกาย เมื่อต่างคนต่างต้องการกันและกัน เมื่อ
“พี่กรอาบน้ำก่อนดีไหมคะ” ไข่มุกบอกพลางถอยหลังหนีคนที่จ้องเธอเขม็ง หลังจากที่เขาปิดล็อกประตูห้องนอนแน่นหนาแล้ว “ดีครับ” ภากรบอกพลางถอดเสื้อผ้าออกจากตัว เขาสามารถทำตัวเองให้เปลือยล่อนจ้อนได้ในเวลาเพียงชั่วกะพริบตาสองที ไข่มุกกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ลงคอ หญิงสาวถอยหลังไปหนึ่งก้าว “พะ…พี่กรอาบก่อนเลยนะคะ มุกจะรออาบทีหลัง” เห็นความแข็งขึงพร้อมพรักของเขาแล้วเธอก็ใจสั่น นอกจะทั้งใหญ่ทั้งยาวแล้ว มันยังตั้งตรงและผงกหัวหงึก ๆ สู้สายตาเธอด้วย ภากรส่ายหน้า เขาเดินเข้าหาน้องด้วยความมุ่งมั่น ไข่มุกถอยหลังหนีไปได้สามก้าวก็ถูกคนเปลือยรวบตัวไปกอดได้เต็มวงแขน “อาบพร้อมกัน จะได้เสร็จพร้อมกัน” ภากรบอกพลางลงมือปลดเปลื้องชุดให้น้อง ครู่เดียวไข่มุกก็เปลือยเปล่าเท่าเทียมกับเขา ร่างบางถูกอุ้มขึ้นแนบอกกว้าง ภากรพาน้องเข้าไปในห้องน้ำ วางเธอลงใต้ฝักบัว แล้วเ
คนที่เป็นต้นเหตุพาน้องไปกินข้าวไกลจนต้องกลับบ้านดึกยิ้มรับ นาทีนี้ใครจะว่าอะไรเขาไม่สน ขอแค่ได้น้องกลับไปอยู่ด้วยกัน เขายอมทุกอย่าง “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวนแต่เช้า” พ่อวัตออกรับหน้าแทนลูกชาย เพราะกลัวว่าลูกจะลงไปชักดิ้นชักงอ ถ้าฝ่ายนี้ไม่พอใจและไม่ยกลูกสาวให้ “ไม่เป็นไรครับ คนกันเองทั้งนั้น สมัยหนุ่ม ๆ พวกเราก็ใจร้อนแบบนี้เหมือนกันแหละ” พ่อวัตพยักหน้ารับยิ้ม ๆ โล่งใจไปเปลาะหนึ่งที่พ่อกวีเข้าใจลูกชายของท่าน ผู้หลักผู้ใหญ่พูดคุยกันอยู่ครู่ใหญ่ น้องมุกจึงลงมานั่งลงข้างแม่บุษรา เพราะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แม้ลูกชายกับลูกสาวของทั้งสองบ้านจะเลิกรากันไป แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็ยังพูดคุยกันตามปกติ ในระยะหลัง ๆ ที่ภากรกับไข่มุกกลับมาพูดคุยกัน อีกทั้งภากรยังคอยรับส่งน้องไปมหาวิทยาลัย รวมถึงทั้งสองคนยังเทียวไปเทียวมาบ้านของอีกฝ่ายเป็นประจำ พ่อกับแ
“พี่กร…” ไข่มุกเรียกเสียงขาดห้วง ความใหญ่โตและร้อนผ่าวที่บดขยี้กลางกลีบเนื้อกำลังจะทำให้เธอแตกซ่าน สองกายกอดรัดกันแนบแน่น ต่างคนต่างขยับบดเบียดเข้าหากัน เร่าร้อน หวามไหว เสียดเสียว ซาบซ่าน ในตอนที่พุ่งทะยานไปถึงปลายทางซ่านเสียว ต่างคนต่างผวากอดกันเต็มอ้อมแขน แล้วปลดปล่อยสายน้ำแห่งความสุขสมออกมารินรดกันและกัน ไข่มุกนั่งอิงแอบอยู่บนตักแกร่ง เธอเงยหน้ารับจูบหวามหวานครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับคนจูบไม่รู้จักอิ่มจักพอ “พี่กรขา เรากลับบ้านกันเถอะ” ไข่มุกกลัวว่าถ้าดึกมากไป พ่อกับแม่จะเป็นห่วง แม้เธอจะโทรบอกพวกท่านแล้วว่าพี่กรพามากินข้าว และจะกลับถึงบ้านดึกสักหน่อย แต่เธอก็ไม่อยากให้ดึกมากไป ภากรหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่ ตัดใจจากเรือนกายหอมกรุ่น อุ้มน้องลงจากตัก วางเธอลงบนเบาะข้างกันตามเดิม เขาเช็ดทำความสะอาดและจัดการชุดของเธอให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยที่สุด แล้วจึงหันมาจัดการตัวเอง
จริง ๆ แล้ว ไข่มุกก็แค่อยากจะจูบขอบคุณเขาอย่างอ่อนหวานอ่อนโยน อยากทำอะไรที่มันหวานละมุนละไม แต่คนขาดของมานานกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ไข่มุกนั่งคร่อมตักคนตัวโต หัวเข่าสองข้างกดอยู่ข้างสะโพกแกร่ง และเพราะเธอยังสวมชุดนักศึกษาอยู่ กระโปรงทรงสอบสั้นเหนือเข่าจึงร่นขึ้นไปกองอยู่แถว ๆ บั้นท้ายอวบอัด เนื้อตัวด้านหน้าและอกอวบอิ่มทาบทับบนเรือนกายกำยำ ภากรจูบอย่างเรียกร้อง จูบอย่างโหยหา ดูดดื่มกับปากหวาน ๆ ที่เขาไม่ได้ลิ้มรสมานานหลายเดือน และพอได้จูบก็หยุดไม่ได้ ยิ่งเรือนกายเย้ายวนแนบสนิทกันขนาดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะลูบไล้ไปตามนิวเนื้อเนียนนุ่ม แต่พอเขาลูบตรงต้นขาขาวและกำลังจะวกไปหาต้นขาด้านใน คนที่คร่อมทับเขาอยู่ก็รีบจับข้อมือเขาไว้แน่น ไข่มุกถอนจูบ และหอบหายใจแรง เธอจ้องตาเขาในระยะประชิด “พี่กร…ไม่ได้นะคะ” “มุกจ๋า…พี่จะขาดใจตายอยู่แล้ว ถ้ายังไม่เคยได้กิน ยังไม่รู้รส พี่ก
ไข่มุกหันไปมองคนขับรถของเธอ “พี่กรจอดทำไมคะ” “อยากอยู่กับมุกนาน ๆ ถ้าพากลับบ้านตอนนี้อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องห่างกันแล้ว” “บ้านอยู่ติดกัน ตื่นเช้ามาก็เห็นหน้ากัน ไม่ได้ห่างกันสักหน่อย” ภากรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วขยับตัวเล็กน้อยหันไปหาน้อง โน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้เธอด้วย “กวนนะเรา” ภากรว่าพลางจับมือนุ่มข้างหนึ่งมากุมไว้ ความมืดที่โอบล้อมรอบกายทำให้ทั้งคู่มองเห็นกันเพียงเลือนราง ทว่าไออุ่นจากมือใหญ่ที่เกาะกุมมือนุ่มไว้ ทำให้ไข่มุกอบอุ่นไปทั้งใจ “กวนแล้วรักไหมคะ” ไข่มุกขยับตัวหันไปหาคนที่ขยับเข้ามาใกล้เธอ “รักครับ” คำบอกรักตรง ๆ สั้น ๆ ทำให้คนฟังยิ้มหวาน “พี่ยังไม่ได้ให้ของขวัญวันเกิดน้องมุกเลย” “แค่พี่กรตามใจมุก พามุกมากินของอร่อย ๆ ไกลถึงนี่ก็ถือว่าเป็นข
ตอนเย็นจึงเป็นช่วงเวลาของเธอกับคุณแฟน…ใช่แล้วล่ะ เธอตกลงเป็นแฟนกับพี่กรแล้ว ขยับสถานะขึ้นมาอีกขั้น และดูเหมือนว่าพี่กรอยากจะเป็นมากกว่าแฟนแล้ว เพียงแต่เธอยังไม่พร้อมกลับไปใช้ชีวิตกับเขาเหมือนเดิม เธอจึงขอเวลาเขาอีกนิด “ครับผม คุณมุกอยากกินอยากได้อะไร อยากไปไหน เชิญบัญชามาได้เลยครับ” คนที่มารอรับน้องที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่บ่ายสามบอกน้ำเสียงแข็งขัน “เอ…วันนี้กินอะไรดีน้า !” ไข่มุกเอียงคอเล็กน้อย ใช้นิ้วชี้เคาะข้างแก้ม ทำท่าครุ่นคิดจริงจัง ราวกับว่านี่คือปฏิบัติการที่สำคัญขั้นสุดยอด ภากรขับรถออกจากมหาวิทยาลัย เพราะเธอยังไม่บอกว่าอยากกินอะไร เขาจึงขับรถไปเรื่อย ๆ “คิดออกหรือยังครับ” “ยังเลยค่ะ แล้วพี่กรล่ะคะ อยากกินอะไร” “อะไรก็ได้ครับ น้องมุกกินอะไร พี่ก็กินได้หมด” “งั้นถ้ามุกบอกว่า มุกอยากกินซีฟู้ดริมทะเลที่มีชายหาดสวย ๆ ล่ะคะ”
ภากรสูดลมหายใจ แล้วระบายออกยืดยาว สะกดกลั้นอารมณ์เปลี่ยวที่กำลังลุกโชน เขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น จูบหมอนข้างหนัก ๆ ไปสองที “มุกจ๋า…เมื่อไรจะใจอ่อนสักที พี่จะขาดใจตายอยู่แล้วนะ” ภากรรำพึงรำพันกับหมอนข้าง คร่ำครวญโหยหวน พยายามสะกดจิตสะกดใจให้อยู่กับร่องกับรอย แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ทำในสิ่งที่น้องห้ามไม่ได้ คนห่างเมียได้แต่นึกขอโทษของโพยน้องในใจ น้องมุก…พี่ขอโทษ พี่อดใจไม่ไหวจริงๆครับ ภากรไปทำงานต่างจังหวัดหนึ่งสัปดาห์ ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน ต้องอยู่ห่างจากน้อง เขามีโอกาสได้โทรหาน้องเฉพาะช่วงหลังเลิกงาน เพราะงานมีปัญหา เขาจึงยุ่งทั้งวัน แล้วกว่าจะเลิกงานก็ดึกเต็มที บางครั้งเขาไม่ได้โทรหาเธอ เพราะเกรงว่าน้องจะนอนแล้ว กลัวว่าจะรบกวนเธอ แต่ทุกครั้งที่เขาเลิกงานดึกและไม่ได้โทรหาเธอ น้องมุกจะเป็นฝ่ายโทรหาเขาเอง มันทำให้คนที่ไปทำงานไกล ยิ้มได้และมีกำลังใจ มีแรงสู้กับงาน ยิ่งพอน้องบอกว่าตรงที่โดนน้ำร
“ถ้าเป็นห่วงพี่ คราวหลังก็มาด้วยสิ มาให้พี่กอดนอน พี่จะได้อุ่น” ภากรที่พูดทีเล่นทีจริงแต่ถ้าได้จริงๆก็ดี ไข่มุกทำปากยื่นใส่โทรศัพท์ คนอย่างเขาน่ะหรือจะนอนอย่างเดียว มองตาก็รู้แล้วว่าเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเธอแน่นอน “เพิ่งตามจีบกันไม่กี่เดือน กล้าชวนไปนอนด้วยแล้วเหรอคะ มุกจะฟ้องคุณพ่อ” พอน้องบอกว่าจะฟ้องคุณพ่อ ภากรก็ยิ้มแหย “พี่พูดเล่นน่า นอนได้แล้วนะครับ แล้วก็อย่าลืมกอดหมอนพี่ด้วย เพราะพี่ก็จะกอดหมอนน้องมุกนอนเหมือนกัน” ภากรว่าพลางยื่นมือไปหยิบหมอนข้างใบโตที่มีรูปไข่มุกเต็มตัวพิมพ์อยู่บนหมอน ไหน ๆ ก็สั่งทำหมอนพิมพ์หน้าตัวเองให้น้องแล้ว เขาก็เลยถือโอกาสสั่งทำหมอนข้างพิมพ์รูปน้องแบบเต็มตัวมาด้วย เอาไว้กอดแก้หนาว กอดให้อุ่นใจ “พี่กร ! เรื่องอะไรมาเอารูปมุกไปสกรีนบนหมอนข้างแบบนั้นคะ” “ก็พี่อยากนอนกอดมุก ไม่ได้กอดตัวจริง กอดหมอนข้างก