Share

บทที่10

Author: Danilo Clementoni
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56

แนสซิริย์ยา – อาหารเย็น

พันเอกฮัดสันและเอลิซาต่างกำลังดื่มแชมเปญหมดแก้วที่สาม และบรรยากาศระหว่างทั้งสองได้กลายเป็นทางการน้อยลงอย่างชัดเจน  

“ ฉันต้องพูดเลย แจ็ก แมสกูฟ นี่เหมือนอาหารจากสวรรค์ แต่ฉันกินไม่หมด เยอะมาก”  

“ ใช่ มันยอดเยี่ยมจริงๆ เราควรฝากคำชมไปให้เชฟนะ”  

“ บางทีฉันควรแต่งงานกับเขา เขาจะได้ทำให้ฉันกินได้” เอลิซากล่าวโดยหัวเราะเกินจริงไปเล็กน้อย แอลกอฮอล์กำลังเริ่มออกฤทธิ์แล้ว  

“ ไม่ได้ เขาต้องเข้าแถวรอ ผมก่อน” เขาเสี่ยงกล่าวตลกโดยหวังว่าจะไม่เป็นการไม่เหมาะสมเกินไป เอลิซาแกล้งทำเป็นไม่สังเกตและเล็มปลาสเตอร์เจียนของตนต่อไป  

“ คุณยังไม่แต่งงานจริงเหรอคะ”  

“ ยัง ผมยังไม่เคยมีเวลาสำหรับเรื่องนั้น”  

“ นั่นเป็นข้อแก้ตัวเก่าๆ” เอลิซากล่าวโดยมองเขาแบบเขี้ยวลากดิน  

“ เอ่อ ที่จริงผมเกือบแล้วครั้งหนึ่ง แต่ชีวิตทหารไม่ไปด้วยกันกับการแต่งงานเท่าไร คุณล่ะ” เขากล่าวเพิ่มเติมโดยเปลี่ยนเรื่องไปจากเรื่องที่ยังคงทำให้ตนรู้สึกเจ็บ “คุณเคยแต่งงานไหม”  

“ พูดเล่นหรือเปล่าคะ และใครจะทนผู้หญิงที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปรอบโลกขุดใต้ดินเหมือนตัวตุ่นและเพลิดเพลินกับการทำลายหลุมฝังศพอายุเป็นพันๆ ปี”  

“ เข้าใจล่ะ” แจ็กกล่าวโดยยิ้มอย่างขมขื่น “เห็นได้ชัดว่าคุณไม่ได้เกิดมาเพื่อแต่งงาน” แจ็กยกแก้วขึ้นเสนอให้ดื่มให้แก่ความเศร้า “แก่เราสองคน”  

บริกรมาถึงพร้อมด้วย ซามูน 13

อบใหม่จากเตาอีกสองสามชิ้นซึ่งเป็นการดีที่ขัดจังหวะความเศร้านั้นพอดี  

แจ็กรู้สึกขอบคุณการขัดจังหวะนี้และพยายามขจัดความทรงจำเป็นระลอกที่ได้เข้ามาในใจอย่างกะทันหันให้ออกไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องที่ล่วงเลยไปแล้ว ตอนนี้แจ็กมีสาวงามนั่งอยู่ด้วย และแจ็กต้องสนใจเธอซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป  

 

ดนตรีเบาๆ ในฉากหลังนั้นดังกำลังดี เอลิซาดูสวยมากในแสงเทียนสามเล่มที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะ ผมมีประกายทองและทองแดง และแสงแดดทำให้ผิวเรียบนั้นเป็นสีน้ำตาลสวย ดวงตาคมเป็นสีเขียวเข้มที่สุด เอลิซากำลังพยายามใช้ริมฝีปากอ่อนนุ่มงับชิ้นปลาสเตอร์เจียนออกจากก้างที่ถืออยู่ระหว่างนิ้วมือ แสนจะเซ็กซี่  

 

เอลิซาจะไม่ยอมปล่อยให้จังหวะความอ่อนแอของพันเอกฮัดสันผ่านไปอย่างแน่นอน เอลิซาวางก้างบนขอบจานของตนและดูดน้ำจากนิ้วหัวแม่มือและนิ้วมือด้วยอาการเหมือนเฉยเมย เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วจ้องมองแจ็กอย่างจริงจังจนแจ็กกลัวว่าหัวใจของตนจะหลุดออกมาจากอกไปกองอยู่บนจาน  

 

เมื่อตระหนักว่าตนไม่ได้ควบคุมสถานการณ์อีกต่อไป พันเอกฮัดสันก็พยายามรวบรวมสมาธิ เขาแก่เกินกว่าจะประพฤติเหมือนเด็กนักเรียนที่เป็นไข้ใจ แต่มีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเอลิซาที่เขารู้สึกว่าน่าดึงดูดใจอย่างต้านทานไม่ไหว  

 

เขาหายใจลึกแล้วใช้มือเช็ดหน้าและพยายามกล่าวว่า “คุณคิดว่าเราจะกินชิ้นสุดท้ายนี้หมดไหม”  

เอลิซายิ้ม ค่อยๆ หยิบปลาสเตอร์เจียนอันโอชะชิ้นสุดท้ายและนำขึ้นมาที่ปากโดยนั่งโน้มตัวไปด้านหน้า ในท่านั้นคอของชุดถ่วงลงเล็กน้อย เผยให้เห็นทรวงอกเต่งตึง แจ็กซึ่งเขินอย่างเห็นได้ชัดเพียงแต่กัดคำเล็กๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงตอนที่เอลิซาใช้นิ้วมือของเธอสัมผัสกับริมฝีปากของเขา เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้น เอลิซากำลังเล่นกับเขาเหมือนแมวแหย่หนู และแจ็กไม่สามารถป้องกันตัวเองได้  

 

แล้วด้วยอาการเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสา เอลิซากลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นและส่งสัญญาณเรียกบริกรผอมสูงผู้เข้ามาหาในทันที  

“ ฉันคิดว่าถึงเวลาของชากระวานบ้างแล้ว คุณว่าไงคะแจ็ก”  

แจ็กผู้เพิ่งฟื้นตัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าพูดตะกุกตะกักคล้ายๆ ว่า “เอ่อ ครับ ตกลง...” แจ็กดึงเสื้อคลุมให้ตึงแล้วพยายามใช้น้ำเสียงสบายขึ้นกล่าวว่า “ผมเชื่อว่ามันดีมากสำหรับการย่อย”  

แจ็กตระหนักว่าได้กล่าวบางสิ่งบางอย่างน่าขันออกไป แต่ในเวลานั้นแจ็กคิดอะไรไม่ออก  

“ ทั้งหมดนี้น่ารื่นรมย์ใจมากค่ะแจ็ก เป็นค่ำคืนที่น่ารัก แต่เราต้องไม่ลืมเหตุผลที่เรามาพบกันคืนนี้ มีบางอย่างที่ฉันต้องให้คุณดู จำได้ไหมคะ”  

ในจังหวะนั้นพันเอกฮัดสันกำลังคิดถึงอะไรก็ตามที่ไม่ใช่งาน  

 

อย่างไรก็ตาม เอลิซาพูดถูก มีสิ่งที่กำลังเสี่ยงอยู่ที่สำคัญกว่าการเกี้ยวพาราสีโง่ๆ แต่ความจริงคือ สำหรับเขาแล้วการเกี้ยวพาราสีไม่ได้ดูเป็นอะไรโง่ๆ เลย  

“ แน่นอน” เขาตอบโดยพยายามนำสีหน้าทรงอำนาจกลับมา “ผมอดใจรอดูสิ่งที่คุณค้นพบไม่ไหว”  

 

ณ จุดนี้ ชายอ้วนในรถยนต์ใกล้เคียงผู้กำลังฟังทุกสิ่งทุกอย่างตะโกนขึ้นว่า “แพศยา ! ผู้หญิงเหมือนกันหมด ตอนแรกทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังจะพาเราไปดวงจันทร์แล้วกลับทิ้งเราลงมาเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น”  

“ ฉันคิดว่าสิบดอลลาร์ของนายจะมาอยู่ก้นกระเป๋าของฉันในไม่ช้า” ชายคนผอมกว่ากล่าวแล้วหัวเราะอย่างจริงจังตามหลังความเห็นของตน  

“ ว่ากันตามจริง ฉันไม่สนแม้แต่นิดเดียวว่าใครจะได้ขึ้นเตียงกับอาจารย์นั่น อย่าลืมว่าเราอยู่ตรงนี้แค่เพื่อหาว่าอาจารย์เขารู้อะไร” ในขณะที่เขาพยายามหาท่านั่งให้สบายขึ้นเนื่องจากหลังกำลังปวด เขาก็เพิ่มเติมว่า “เราน่าจะหาวิธีใส่กล้องเข้าไปในไอ้ภัตตาคารนั่นนะเนี่ย”  

“ ใช่ ใต้โต๊ะยิ่งดี แบบนั้นเราคงได้มองดูขาอ่อนของเธอเต็มๆ”  

“ ไอ้บ้า ไอ้โง่ที่ไหนเลือกนายมาทำภารกิจนี้เนี่ย”  

“ เจ้านายไงเพื่อน และฉันขอแนะนำว่านายไม่ควรดูถูกท่าน ท่านรู้เรื่องอุปกรณ์ดักฟัง และท่านอาจดักฟังรถคันนี้แล้วด้วยซ้ำ”  

ชายร่างใหญ่เสียวสะดุ้ง ชั่วขณะหนึ่งเขานึกว่าหัวใจของตนได้หยุดเต้นไปแล้ว เขากำลังพยายามสร้างอาชีพการงาน และการดูถูกเจ้านายโดยตรงของตนไม่ใช่วิธีก้าวหน้าแน่ๆ  

“ หยุดคุยไร้สาระ” เขากล่าวโดยพยายามให้ฟังดูจริงจังและเป็นมืออาชีพ “แค่คิดเรื่องทำงานนี้ต่อและกลับไปฐานพร้อมกับอะไรเป็นรูปธรรมกันเถอะ” ขณะที่เขากำลังพูดเช่นนี้ เขาก็เหม่อมองไปที่จุดจุดหนึ่งในความมืดยามค่ำคืนซึ่งเป็นจุดที่มีขอบเขตไม่ชัดเจนเมื่อมองผ่านกระจกหน้ารถที่เป็นไอน้ำเล็กน้อย  

 

 

เอลิซานำคอมพิวเตอร์สุดรักออกจากกระเป๋ามาวางบนโต๊ะแล้วเริ่มเลื่อนดูรูปถ่ายต่างๆ พันเอกฮัดสันผู้เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาพยายามมุ่งความสนใจไปที่บางสิ่งบางอย่าง แต่มุมไม่เอื้ออำนวย เมื่อพบสิ่งที่หาอยู่แล้วเอลิซาก็ลุกขึ้นและขยับไปยังที่นั่งติดกับเขา  

“ ทีนี้” เอลิซาเริ่มต้น “ทำตัวให้สบายค่ะ เรื่องมันยาว ฉันจะพยายามสรุปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”  

เอลิซาเลื่อนดูจอของคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วแล้วพบรูปถ่ายของจารึกที่สลักไว้ด้วยภาพวาดและอักษรรูปลิ่ม  

“ นี่เป็นรูปถ่ายของหนึ่งในจารึกที่พบในหลุมฝังศพของพระเจ้า

บอลดวินที่ 2 แห่งเยรูซาเลม ” เอลิซากล่าวต่อไป “คาดกันว่าเขาเป็นคนแรกที่เปิดถ้ำแห่งแม็กเพล่าซึ่งรู้จักกันในชื่อถ้ำแห่งพระบิดรด้วย เมื่อปี พ.ศ. 1662 ซึ่งเป็นที่ที่เชื่อว่าฝังอับราฮัมและลูกชายคือ

ไอแซ็กกับเจคอบไว้ หลุมฝังศพใต้ตินพวกนี้พบใต้สิ่งที่ทุกวันนี้เรียกว่ามอสค์หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอับราฮัมในเมืองฮีบรอนบนเวสต์แบงก์ ” ณ จุดนี้ เอลิซาแสดงรูปของมัสยิดให้เขาดู  

“ ข้างในหลุมฝังศพพวกนี้ นอกจากสิ่งอื่นจำนวนมากแล้ว พระเจ้า

บอลดวินพบชุดจารึกที่คงเป็นของอับราฮัม เชื่อกันว่าเป็นบันทึกบางอย่างของเขาด้วยซ้ำซึ่งเขาบันทึกเหตุการณ์สำคัญๆ ที่สุดบางเหตุการณ์ในชีวิตไว้”  

“ บันทึกการเดินทาง” แจ็กเสนอแนะโดยหวังสร้างความประทับใจในเชิงบวก  

“ ในแง่หนึ่งก็ใช่ค่ะ บางคนในระยะประวัติศาสตร์ช่วงนั้นจดอะไรเยอะในขณะที่กำลังเดินทาง”  

เอลิซาเลื่อนไปยังรูปถ่ายอีกรูปหนึ่งและอธิบายต่อไป “ผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดด้านภาษาและเครื่องหมายแสดงออกต่างๆ ของ  

เวลานั้นพยายามแปลสิ่งที่ได้บันทึกไว้บนจารึกนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าความคิดเห็นแบ่งแยกกันในหลายแง่ แต่ทุกคนเห็นด้วยว่านี่”

เอลิซากล่าวต่อไปพร้อมกับขยายรายละเอียดบนรูปถ่าย “ตีความได้ว่าเป็น “พาหนะ” หรือ “ภาชนะของเทพเจ้า” แล้วมีคำว่า “ฝัง” “ความลับ” “การปกป้องคุ้มครอง” ซึ่งค่อนข้างชัดเจนด้วย”  

แจ็กเริ่มรู้สึกงงเล็กน้อย แต่พยักหน้าไปเรื่อยๆ เพื่อโน้มน้าวเอลิซาว่าตนเข้าใจอย่างที่สุดแล้ว เอลิซามองดูเขาปราดหนึ่งแล้วกล่าวต่อไป “สัญลักษณ์นี้ ในทางตรงกันข้าม” เอลิซากล่าวพร้อมกับปรับจอให้ภาพชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ตามความเห็นบางคน คงเป็นตัวแทนถึงหลุมฝังศพและหลุมฝังศพของพระเจ้า ในขณะที่ส่วนนี้อาจพรรณนาถึงพระเจ้าองค์หนึ่งที่เตือนหรือแม้แต่ขู่คนที่ล้อมรอบตัวอยู่”  

พันเอกฮัดสันตามไม่ทันสิ่งที่เอลิซากล่าวอยู่อีกต่อไปซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะแอลกอฮอล์ ส่วนหนึ่งเพราะน้ำหอมที่ทำให้เคลิบเคลิ้มที่ฟุ้งออกมาจากตัวเอลิซา และส่วนหนึ่งอาจเพราะกำลังถูกดวงตาของเอลิซาสะกด ถึงอย่างนั้นเขาก็พยักหน้าต่อไปเสมือนทุกอย่างชัดเจน  

“ พูดง่ายๆ” เอลิซากล่าวโดยได้สังเกตเห็นว่าแจ็กเกิดความงงงวยมากขึ้นกว่าเดิม “ผู้เชี่ยวชาญได้ตีความเนื้อหาของจารึกนี้ว่าเป็นการแสดงเหตุการณ์ที่ยืนยันว่าได้เกิดขึ้นในระหว่างเวลาของ

อับราฮัมซึ่งพระเจ้าที่กล่าวอ้างกันหรือเทพเจ้าหลายองค์ตามที่กล่าวกว้างๆ คงได้ซ่อนหรือฝังมันไว้ใกล้หนึ่งในหลุมศพของตน มันเป็นบางอย่างที่มีค่ามาก อย่างน้อยก็สำหรับพวกเทพเจ้า”  

“ นั่นดูเหมือนการด่วนสรุปไปหน่อย” แจ็กเริ่มโดยพยายามกล่าวอะไรบ้างในเรื่องนี้ “การกล่าวว่าบางอย่างที่มีค่าถูกฝังไว้ใกล้หลุมฝังศพของเทพเจ้า มันไม่ใช่ว่าเขาให้พิกัด จีพีเอสมา มันอาจหมายถึงแทบจะอะไรก็ได้ที่ไหนก็ได้ ”  

“ คุณพูดถูก แต่สิ่งที่จารึกทั้งหมดโดยเฉพาะที่มีอายุแสนนานมาแล้วต้องไปผ่านกระบวนการตีความและอรรถาธิบายจํากัดแวดวงเฉพาะในบริบท นั่นล่ะทำไมถึงต้องมีผู้เชี่ยวชาญ และฉันก็เผอิญเป็นหนึ่งในนั้นด้วย” ขณะที่เอลิซากล่าวเช่นนี้ก็แกล้งทำท่าเป็นนางแบบที่กำลังตั้งท่าต่อหน้ากล้องปาปารัสซีไปด้วย  

“ ตกลง ตกลง ผมรู้ว่าคุณฉลาดขนาดไหน แต่ตอนนี้พยายามทำให้นี่ชัดเจนสำหรับเราผู้เป็นแค่มนุษย์หน่อย”  

“ ได้แน่นอนค่ะ” เอลิซากล่าวต่อไปทันทีที่ได้ตั้งสติใหม่ “เมื่อได้วิเคราะห์และเปรียบเทียบสิ่งที่ค้นพบทางประวัติศาสตร์ทุกประเภทซึ่งรวมถึงข้อเท็จจริง ตำนาน ข่าวลือและอื่นๆ แล้ว ความเห็นพ้องต้องกันของกลุ่มคนฉลาดที่สุดในโลกคือ มีองค์ประกอบแห่งความจริงอยู่ในการบูรณะนี้ จากพื้นฐานนี้ได้ทำให้นักโบราณคดีจากทั่วโลกพากันค้นหาวัตถุลึกลับนี้”  

“ แต่เอลแซดเกี่ยวกับทั้งหมดนี้ตรงไหน” การทำงานของสมองของพันเอกฮัดสันเริ่มกลับสู่ปรกติ “เขาบอกผมว่า การวิจัยนี้มุ่งเป้ากู้สิ่งประดิษฐ์ต่างดาวในจินตนาการ”  

“ และนั่นอาจเป็นจริงเลยล่ะค่ะ” เอลิซาตอบ “ปัจจุบันเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า “เทพเจ้า” เหล่านี้ซึ่งท่องเที่ยวรอบโลกในยุคโบราณนั้นไม่ใช่อะไรนอกเหนือไปจากสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์จากดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของเรา เนื่องจากความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ จึงเป็นไปได้ทีเดียวว่าพวกเขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเทพที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้”  

“ ผมเข้าใจ” แจ็กขัดจังหวะ “ถ้าผมปรากฏตัวตรงหน้าเผ่าใจกลางป่าแอมะซอนในเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบอาปาเช่และเริ่มปล่อยขีปนาวุธ แม้แต่ผมก็อาจถูกเข้าใจผิดเป็นพระเจ้าที่กำลังโกรธได้”  

“ นี่เป็นผลที่พวกนั้นคงมีต่อประชาชนในเวลานั้นแท้ๆ เลยล่ะค่ะ มีบางคนที่เชื่อด้วยซ้ำว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาเข้าไปในโฮโมอีเร็กตัสหรือมนุษย์ที่ยืนตรง จึงเปลี่ยนสภาพพวกเขาในเวลาเพียงไม่กี่หมื่นปีไปเป็นพวกที่เราเรียกว่าโฮโมเซเปียนส์เซเปียนส์หรือมนุษย์ในปัจจุบัน ”  

เอลิซามองอย่างระมัดระวังไปที่พันเอกฮัดสันผู้ที่สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และตัดสินใจต่อยใต้เข็มขัดเข้าไป “ว่าตามจริง ในฐานะคนรับผิดชอบภารกิจนี้ ฉันนึกว่าคุณจะได้รับข้อมูลดีกว่านี้”  

“ ผมนึกอย่างนั้นเหมือนกัน” แจ็กโพล่ง “เห็นได้ชัดว่าพวกที่อยู่ในอำนาจปฏิบัติตามปรัชญา “นิ่งเสียตำลึงทอง”” ความโกรธกำลังเริ่มเข้ามาแทนที่ความซาบซึ้งอย่างมากมายก่อนหน้านี้  

 

เมื่อรู้สึกเช่นนี้ เอลิซาจึงวางคอมพิวเตอร์บนโต๊ะและนำใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของพันเอกฮัดสันเสียจนเขากลั้นหายใจไปชั่วครู่ด้วยความคิดว่าเอลิซาต้องการจุมพิตเขา “ทีนี้ส่วนที่ดีที่สุด” เอลิซากล่าว  

เอลิซากลับไปยังที่นั่งด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแล้วแสดงรูปถ่ายอีกรูปหนึ่งให้เขาดู "ในขณะที่ทุกคนพากันทุ่มเทให้กับการค้นหา “หลุมฝังศพของเทพเจ้า” อันเลื่องชื่อนี้โดยไปขุดคุ้ยพ ี ระมิดอียิปต์หรือหลุมฝังศพที่เป็นตัวแทนอันยอดเยี่ยมของเทพเจ้า ฉันกลับตีความสิ่งที่สลักอยู่บนจารึกต่างออกไปซึ่งฉันเชื่อว่าเป็นการตีความที่ถูกต้อง ดูนี่สิคะ” เอลิซากล่าวพร้อมกับแสดงภาพที่มีข้อความตามการตีความของตัวเธอเองให้เขาดูอย่างอิ่มเอมใจ  

 

เพื่อนสนิททั้งสองคนที่ฟังการสนทนาของผู้รับประทานอาหารเย็นคงยอมเสียอะไรก็ได้เพื่อให้สามารถเห็นรูปถ่ายที่กำลังแสดงให้พันเอกฮัดสันดู  

“ ให้ตายเถอะ!” คนร่างใหญ่กว่าร้อง “เราต้องเอาอุปกรณ์เคลื่อนที่นั่นมาให้ได้”  

“ หวังกันเถอะว่าอย่างน้อยคนหนึ่งจะอ่านออกเสียง” เพื่อนที่ผอมกว่าตอบ  

“ หวังกันเถอะว่า “อาหารเย็นโรแมนติก” นี่จะจบในไม่ช้า ฉันเซ็งที่ต้องนั่งอยู่ข้างนอกในความมืด และยิ่งไปกว่านั้น ฉันหิวมาก”  

“ หิวมากหรือ นายหมายความว่ายังไง นายเพิ่งกินแซนด์วิชส่วนของฉันไป”  

“ ไม่ทั้งหมดนี่เพื่อน มีเหลืออันหนึ่ง และฉันตั้งใจจะรีบกินให้หมด ” เขาหันตัวเพื่อนำแซนด์วิชออกจากถุงบนเบาะหลังอย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม ขณะที่หันไป เข่าของเขาก็กระแทกปุ่มเปิดปิดบนระบบบันทึกเสียงซึ่งส่งเสียงบี๊ปเบาๆ ออกมา และดับไป  

“ เจ้าคนงี่เง่างุ่มง่าม! นายพยายามดึงดูดความสนใจอยู่หรือไง” ชายร่างผอมรีบเปิดสวิตช์เครื่องมืออีกครั้ง “ตอนนี้ฉันจะต้องเริ่มเดินระบบใหม่ และนั่นก็จะใช้เวลาอย่างน้อยนาทีหนึ่ง ภาวนาเถอะว่าเขาไม่พูดอะไรสำคัญ ไม่อย่างนั้นคราวนี้ฉันจะเตะโด่งก้นอ้วนของนายไปอ่าวเปอร์เซียเลย!”  

“ ขอโทษ” ชายร่างอ้วนกล่าวเบาๆ “ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ใครบางคนต้องลดอาหารแล้ว”  

 

“ พระเจ้าฝังภาชนะพร้อมสิ่งของภายในอันมีค่าไว้ทางใต้ของวิหารโดยสั่งให้คนอยู่ห่างไว้จนกว่าพวกเขาจะกลับมา ด้วยความกลัวว่ามิเช่นนั้น จะเกิดภัยพิบัติน่ากลัวขึ้นกับทุกชาติ สี่ผู้คุ้มครองผู้ช่วงโชติประจำอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องสถานที่”  

 

“ ฉันแปลว่าอย่างนี้” เอลิซากล่าวอย่างภูมิใจ “ในความเห็นของฉัน ชื่อที่ถูกต้องของมันไม่ใช่ “หลุมฝังศพ” แต่เป็น “วิหาร” และ ซิกกูแรตแห่งเมืองอูร์ ที่ที่ฉันทำการวิจัยก็ไม่ใช่อะไรนอกจากวิหารที่ตั้งตระหง่านเพื่อพระเจ้า มี ซิกกูแรต มากมายแน่ๆ ใน พื้นที่นี้ แต่ไม่มีอันไหนใกล้กับบ้านที่เป็นของคนที่สันนิษฐานว่าเป็นคนที่สลักจารึกขนาดนี้ : อับราฮัมเจ้าเก่านั่นเอง”  

“ น่าสนใจมาก” พันเอกฮัดสันกำลังพินิจพิเคราะห์ข้อความ “สถานที่ที่ทุกคนได้ระบุว่าเป็น “บ้านของอับราฮัม” อยู่ห่างจากวิหารแค่ไม่กี่ร้อยเมตร”  

“ นอกจากนั้น” เอลิซากล่าวต่อไป “ถ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้เป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆ จินตนาการสิคะว่า “ภาชนะ” นี้อาจน่าสนใจสำหรับ ทหารขนาดไหน อาจน่าสนใจมากกว่า “สิ่งของภายในอันมีค่า” ด้วยซ้ำ ”  

แจ็กครุ่นคิดชั่วครู่แล้วตอบว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่ส่วนของเอลแซดสนใจทั้งหมดนี้ ภาชนะที่ฝังอยู่อาจเป็นมากกว่าภาชนะ เอิร์ทเทนแวร์ธรรมดา ”  

“ เก่งค่ะ และทีนี้ สำหรับเวลาแห่งความจริง ” เอลิซาร้องเหมือนกำลังแสดง “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีคะ ตอนนี้ฉันขอนำเสนอสิ่งที่ฉันพบเช้านี้”  

เอลิซาสัมผัสจอ และรูปถ่ายใหม่ปรากฏขึ้นบนอุปกรณ์ “แต่มันเป็นสัญลักษณ์เดียวกับที่อยู่บนจารึกนี่นา” แจ็กอุทาน  

“ ใช่แล้วค่ะ แต่ฉันเพิ่งถ่ายรูปนี้วันนี้” เอลิซาตอบโดยรู้สึกพอใจในตนเอง “เห็นได้ว่าอัมบราฮัมใช้สัญลักษณ์ที่แทน “เทพเจ้า” เหมือนกับที่ชาวซูเมเรียนได้ใช้ไปแล้ว: ดาวที่มีดาวเคราะห์สิบสองดวงล้อมรอบ และมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ฉันพบสลักอยู่บนฝาของ “ภาชนะ” ที่เรากำลังอยู่ในขั้นขุด”  

“ อาจไม่มีความหมายอะไร” แจ็กตั้งข้อสังเกต “อาจเป็นแค่ความบังเอิญ สัญลักษณ์นั้นอาจมีความหมายหลายร้อยอย่างก็ได้”  

“ คุณคิดอย่างนั้นเหรอคะ แล้วอันนี้ล่ะ คุณคิดว่าคืออะไร” เอลิซาถามโดยแสดงรูปถ่ายสุดท้ายให้ดู “เราได้นี่จากด้านนอกของภาชนะโดยใช้อุปกรณ์เอกซ์เรย์พกพา”  

แจ็กทำได้แต่จ้องมองด้วยความทึ่ง ดวงตาเบิ่งกว้าง  

Related chapters

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่11

    ยานธีออส – การวิเคราะห์ข้อมูล เพทรียังคง จมอยู่กับการวิเคราะห์หัวตรวจเมื่อแอซากิสกลับมายังสะพานเดินเรือ “เขาบอกว่าจะติดต่อกลับมา” แอซากิสกล่าว   “ ซึ่งหมายความว่าเขาจะพูดคุยเรื่องนี้ในกลุ่มพวกเขาเอง” เพทรีตั้งข้อสังเกตอย่างขมขื่น   “ ประมาณเหมือนกับที่เราคาดหวังไว้ใช่ไหมล่ะ ” แอซากิสตอบพร้อมกับตบหลังเพื่อนเบาๆ “งั้นทีนี้นายบอกอะไรฉันเกี่ยวกับโลหะก้อนใหญ่นี่ได้บ้าง”   “ นอกจากความจริงว่าแทบไม่มีส่วนไหนของลำตัวที่สียังไม่ถลอก ฉันยืนยันกับนายได้ว่ายังไม่มีการส่งข้อความจากเพื่อนสามแฉกของเรา หัวตรวจดูเหมือนออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาเทหวัตถุในอวกาศเพียงอย่างเดียว ตัวท่องอวกาศโดดเดี่ยวประเภทหนึ่งซึ่งบันทึกข้อมูลและส่งข้อมูลกลับฐานเป็นระยะ” เพทรีชี้ให้ดูรายละเอียดบางประการของสายอากาศในภาพสามมิติที่โฉบอยู่ในห้อง   “ เราอาจบินผ่านเร็วเกินกว่าที่มันจะบันทึกว่ามีเราอยู่” แอซากิสลองเดา   “ ไม่ใช่แค่นั้นเพื่อนยาก เครื่องมือบนตัวมันตั้งโปรแกรมมาให้วิเคราะห์วัตถุที่ระยะทางหลายแสนกิโลเมตร เราผ่านมาใกล้เสียจนถ้าเราไม่ได้อยู่ในสุญญากาศ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่12

    แนสซิริย์ยา – หลังอาหารเย็น ระบบบันทึกถูกกระตุ้นการทำงานอีกครั้งพร้อมด้วยเสียงบี๊ปเบาๆ สามารถได้ยินเสียงของอาจารย์สาวอีกครั้งหนึ่งจากลำโพงขนาดเล็กด้านในเครื่อง “ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องไปกันแล้วค่ะแจ็ก ฉันต้องตื่นแต่เช้าไปขุดต่อ ”   “ ตกลง ” พันเอกฮัดสันตอบ “ ผมจะไปขอบคุณหัวหน้าพ่อครัวแล้วเราจะไปกัน ”   “ ให้ตายเถอะ!” ผู้ฟังคนที่ผอมกว่าร้อง “เพราะนาย เราเลยพลาดส่วนสำคัญที่สุดไปแล้ว”   “ โธ่ ไม่เอาน่า ฉันไม่ได้ตั้งใจ” คนอ้วนกล่าวป้องกันตัวเอง “เราอาจพูดได้ทุกเมื่อว่าระบบทำงานผิดปรกติ และเราบันทึกการสนทนาทั้งหมดไม่ได้”   “ ฉันลงเอยต้องปกปิดให้นายตลอด” อีกฝ่ายกล่าวอ้าง   “ นายจะขอบใจฉัน ฉันมีแผนให้เราได้อุปกรณ์เคลื่อนที่นั่นเรียบร้อยแล้ว” เขาใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ขยี้จมูกแล้วกล่าวว่า “เราจะเข้าไปในห้องเธอคืนนี้และคัดลอกข้อมูลทั้งหลายโดยที่เธอไม่สังเกตด้วยซ้ำ”   “ และเราจะทำยังไงถ้าอาจารย์เขาตื่น ร้องเพลงกล่อมเหรอ”   “ อย่ากังวลไปเลยเพื่อน ฉันมีกลซ่อนอยู่ในแขนเสื้อสองสามอย่าง” เขาตอบพร้อมหรี่ตา  

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่13

    ยานธีออส – ผู้เฒ่า ขณะนี้เพทรีได้ง่วนอยู่กับระบบการสื่อสารรองมาหลายชั่วโมงแล้ว   “ เป็นยังไงบ้างเพื่อน” แอซากิสถามโดยพูดใส่เครื่องสื่อสารพกพาโดยตรง แอซากิสทราบว่าถ้ามีใครที่สามารถทำงานนี้ได้ในเวลาสั้น คนนั้นก็คือเพทรี   “ นอกเหนือจากความจริงว่าฉันหนาวจนจะแข็ง มือขวาของฉันไม่รู้สึกอีกแล้วและฉันน่าจะได้นอนหลับเต็มอิ่มแล้ว นอกนั้นก็ดีนะ”   แอซากิสยิ้ม ทั้งที่บ่นเช่นนี้ แต่เพทรียังคงสามารถคิดบวกและมีประสิทธิภาพเป็นบ้า   “ ฉันแค่ต้องเดินสายไฟใหม่สักสองวงจร” เพทรีกล่าวเพิ่มเติม “แล้วนายจะเห็นเพื่อนเดินดินตัวเป็นๆ ได้”   “ เห็นหรือ” แอซากิสนึกว่าการสามารถได้ยินจะเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง แต่การเห็นได้ด้วยดูเหมือนน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า “นายคิดว่าเราจะจับสัญญาณบางอย่างได้จริงๆ หรือ”   “ ในขณะที่ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันตัดสินใจทำการดัดแปรระบบสองสามอย่าง ถ้าพวกเขาส่ง ผ่านสัญญาณภาพด้วย เราจะดูบนจอในห้องควบคุมได้โดยตรง ”   ฉันจะพูดอะไรได้ เขาเป็นอัจฉริยะ แอซากิสคิดพร้อมกับเดินไปยังมอดูลโอนย้ายภายในที่ใกล้ที่สุด “นายทำงานดีมากเสมอ เพื่อ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่14

    แนสซิริย์ยา – การตื่นขึ้นมาใหม่ เสียงดังๆ เหมือนที่เกิดจากระเบิด กำลังกึกก้องไปทั่วศีรษะของ เอลิซา เอลิซาตระหนักว่าตนยังคงหลับอยู่และพยายามตะเกียกตะกายออกจากหลุมลึกสุดหยั่งถึงที่เชื่อว่าตนได้ตกลงไป เธอพยายามสั่นตัวปลุกตนเอง แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เอลิซารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดที่กดล้อม แล้วก็มีเสียงดังๆ อีก เอลิซาจัดการลืมตาข้างหนึ่งขึ้นได้ด้วยความพยายามเหนือมนุษย์ แสงสว่างแสบตาก่อให้เกิดความปวดขึ้นในสมอง ประหนึ่งว่าใครบางคนได้แทงเข็มแหลมตรงเข้าไปในลูกตา เสียงหนึ่งดูเหมือนกำลังเรียกเอลิซาจากที่ไกลออกไป   “ ด็อกเตอร์ฮันเทอร์ ได้ยินผมไหม อาจารย์เป็นอะไรไหมครับ” ฮีแชมซึ่งเป็นผู้ช่วยของเอลิซากำลังเคาะประตูและตะโกนเรียกสุดเสียง   “ คะ” เอลิซาส่งเสียงฮืดเบาๆ “ใครคะ เกิดอะไรขึ้น” เอลิซาวางมือบนเตียงและพยายามดันตนเองขึ้น แต่แล้วก็ล้มเลิกทันที เอลิซารู้สึกประหนึ่งว่าภูเขาทั้งลูกได้ตกลงมาทับตน   “ ด็อกเตอร์ฮันเทอร์ ฮีแชมครับ ผมเรียกอาจารย์อยู่นานแล้ว อาจารย์เป็นอะไรหรือเปล่า”   “ เดี๋ยวฉันจะบอกนะ” เสียงที่ออกมาจากเ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่15

    ยานธีออส – ภาพของโลก “ เรียบร้อยแล้วแซ็ก” เสียงของเพทรีที่ออกมาจากเครื่องสื่อสารพกพานำแอซากิสกลับสู่ความเป็นจริง แอซากิสได้รับบทเรียนประวัติศาสตร์อันมีคุณค่าแล้ว ตอนนี้แอซากิสทราบว่าบรรพบุรุษของตนได้วิวัฒนาการอย่างไรและใช้เส้นทางใดพาตนเองมาสู่ความรู้และเทคโนโลยีในระดับปัจจุบัน   “ ฉันกำลังมา” แอซากิสตอบใส่เครื่องสื่อสาร เขาอยากเห็นว่าเพื่อนได้จัดการกระตุ้นการทำงานของระบบแล้วจริงหรือไม่ ทั้งสองอาจจะรับการส่งสัญญาณของมนุษย์โลกได้ ความคิดนี้ทำให้แอซากิสตื่นเต้นมาก แอซากิสถอนตนเองออกจาก เอ็น ^ คอม และเคลื่อนตัวไปยังมอดูลโอนย้ายที่ใกล้ที่สุด   หลังจากนั้นไม่นาน ประตูของมอดูลก็เปิดเข้าสู่ห้องควบคุม เพทรีรออยู่ที่นั่นแล้ว   “ ตามสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงผู้ชายที่น่าสงสารที่ใช้เวลาสองสามชั่วโมงที่แล้วทำงานตัวเป็นเกลียว ไม่เหมือนบางคนที่นั่งนอนสบายและงีบ” เพทรีตั้งข้อสังเกตด้วยอารมณ์ขันตามปรกติ   “ งีบเหรอ เปล่า เปล่า ฉันหลับเต็มอิ่มเลย” แอซากิสตอบเพื่อตอบสนองต่อการยั่วยุเล็กๆ น้อยๆ “มีข่าวอะไรบ้างไหม”   “ ฉันรอนายมาเริ่มสแกนความถี่นี่ล่ะ แบบ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่16

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การ ขุดค้น ทีมของเอลิซาพร้อมมาพักหนึ่งแล้ว พวกเขากำลังรอให้เอลิซามาเริ่มต้นงานวันนี้     แคมป์ฐานประกอบขึ้นด้วยกระโจมประมาณโหลหนึ่งซึ่งคนงานใช้เป็นที่พักอาศัยและนอนหลับในเวลากลางคืน กระโจมสีอ่อนกว่าที่อยู่ตรงรอบนอกของการตั้งแคมป์ทำหน้าที่เป็นโรงอาหาร คนสองคนยุ่งอยู่กับการเตรียมและแจกจ่ายอาหาร กระโจมตรงกลางที่สุดซึ่งใหญ่ที่สุดใช้เป็นห้องปฏิบัติการ สถานีงานของด็อกเตอร์ฮันเทอร์ซึ่งเรียกว่าสปาร์ทานอยู่ข้างในนั้น ประกอบขึ้นด้วยโต๊ะแคมป์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เป็นโต๊ะทำงาน ที่นั่งผ้าใบสีทรายซึ่งใช้เป็นเก้าอี้เท้าแขน และเก้าอี้พับสองตัวสำหรับอาคันตุกะ บนโต๊ะทำงานมีโคมไฟตั้งโต๊ะสีแดงขนาดจิ๋ว ที่เสียบปากกาเป็นถ้วยสีน้ำตาล และเครื่องรางนำโชคของเอลิซา: ตุ๊กตาไม้แกะสลัก เอลิซาพบตุ๊กตานี้ในระหว่างการขุดค้นครั้งแรกและปกป้องหวงแหนมานับแต่นั้น ทางซ้ายของโต๊ะทำงานเป็นตู้วอลนัตใบเล็กที่เอลิซาเก็บวัสดุเอกสารอ้างอิงที่มีค่าที่สุดไว้ ในกองที่ค่อนข้างไม่เป็นระเบียบตรงด้านตรงกันข้ามกับทางเข้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่ใช้เพื่อการวิจัย สายเ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่17

    ยานธีออส - การค้นพบอัน น่ากลัว เพทรียังคงพยายามกระตุ้นการทำงานของสมองใหญ่อีกครั้งตอนที่มอดูลโอนย้ายได้นำส่งตนมาถึงห้องควบคุม   “ เฮ้ยอะไรวะ ฉันเพิ่งผล็อยหลับเอง!” เพทรีกล่าวแก่เพื่อน “ต้องน่าสนใจนะ ไม่งั้นฉันจะหักคอนาย”   “ น่าสนใจเหรอ นายตัดสินเองเถอะ” แอซากิสจัดแจงให้ระบบบันทึกเล่นสัญญาณล่าสุดที่จับได้อีกครั้ง     เครื่องบินสีเทาเงินลำยาวปรากฏบนจอยักษ์ในห้องควบคุมอีกครั้ง มีแผ่นท้องฟ้าครามระหว่างเมฆสีเทาอยู่ในฉากหลัง   “ ดูเหมือนเครื่องบินประเภทหนึ่ง” เพทรีกล่าวโดยสังเกตวัตถุอย่างระมัดระวัง   “ ใช่ แต่ดูมันตอนนี้สิ”   แล้วกรอบภาพลดต่ำลงเสมือนกำลังถ่ายจากเครื่องบินเอง ขณะนี้ภาพกำลังกะพริบ และเป็นการยากที่จะดูออกว่าพื้นดินอยู่ตรงไหนโดยแทบมองไม่เห็นผ่านเมฆที่อยู่ข้างบน     โดยปราศจากการเตือน แสงจ้าชนิดที่ทำให้ตาพร่าจากการระเบิดรุนแรงก็ปรากฏขึ้นจากจุดขนาดจิ๋วห่างจากพื้นดินสองสามร้อยเมตร ควันสีเทาหนาแน่นเป็นลำใหญ่พวยพุ่งขึ้นหาเมฆที่ลอยอยู่อย่างรวดเร็วในขณะที่ลูกบอลสีขาวขยายตัวออกทุกทิศทุกทางด

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่18

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – โลงหิน พันเอกฮัดสันเพิ่งจบการสนทนากับนายพลแคมป์เบลล์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของตนที่เอลแซดซึ่งได้ยืนยันในที่สุดว่าใบอนุญาตสำหรับการขุดค้นจะขยายเวลาออกไปอีกสิบห้าวัน เขาดำเนินการตัดสายเข้ารหัสที่ใช้เพื่อการสื่อสารในเชิงกลแล้วล้มตัวไปด้านหลังโดยทิ้งน้ำหนักทั้งตัวใส่พนักเก้าอี้หนังที่กำลังนั่งอยู่ เก้าอี้ที่น่าสงสารส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ แต่เคราะห์ดีที่เก้าอี้ยังไม่พร้อมสำหรับกระบวนการรีไซเคิลนักและเงียบไป     แจ็กยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อและโทรหาหมายเลขของด็อกเตอร์ฮันเทอร์ เขารอชั่วครู่แล้วเสียงพูดว่า “สวัสดีค่ะที่รัก” อันอ่อนหวานและเพี้ยนเล็กน้อยก็ดังออกมาจากหูฟังที่ยังวางตำแหน่งไม่ถูกต้องในหูข้างขวา แจ็กปรับเสียใหม่โดยไม่หุบรอยยิ้มพอใจ ตอบด้วยน้ำเสียงหวานพอกันว่า “สวัสดีครับที่รัก”   “ เรามีอารมณ์อ่อนไหวมากเกินไปใช่ไหมเนี่ย ฉันคาดว่าคราวนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้คุณใช่ไหม” แล้วกล่าวเพิ่มเติมโดยแกล้งทำเป็นโกรธว่า “คุณใจร้ายกับฉันมากคราวที่แล้ว น่าเกลียดจัง”   แจ็กรักเอลิซาเวลาทำเช่นนี้   

Latest chapter

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่30

    ยานธีออส – วิวรณ์ ต่อเมื่อเสียงพูดของแอซากิสเข้ามาแทนที่ดนตรี มนุษย์โลกทั้งสองจึงตระหนักว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงใด “เตรียมพร้อม ผมจะมารับคุณในอีกสิบนาที”   “ ค่ะ ได้ เราจะอยู่ตรงนี้แหละ” เอลิซากล่าวอย่างค่อนข้างเขินพร้อมกับพยายามเก็บเสื้อผ้าซึ่งกระจัดกระจายทั่วห้องกลับมา “เกิดอะไรขึ้น” เอลิซาถามโดยไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มยิงฟันอย่างพอใจไว้ได้   “ ยอดเยี่ยมไปเลย” แจ็กตอบโดยยังคงนอนอย่างมีความสุขและพอใจในตนเอง   “ รีบแต่งตัวเร็วเข้า พวกนั้นจะมารับเราในไม่ช้า”   “ ผมอยากอยู่ตรงนี้กับคุณไปตลอดชีวิต”   “ ฉันก็เหมือนกันที่รัก แต่เรามาพยายามไม่ให้พวกนั้นเห็นเราในสภาพนี้กันเถอะ พวกนั้นจะคิดยังไง ไม่ว่ายังไงฉันรอไม่ไหวที่จะหาความจริงว่าพวกนั้นต้องบอกอะไรเราที่สำคัญนัก ฉันตื่นเต้นมากๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น”     ดังที่สัญญาไว้ สิบนาทีต่อมา แอซากิสก็ปรากฏตัวที่ประตูห้อง เขากล่าวเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอเมริกันเด่นชัด “สวัสดีพวก! พร้อมไหม”   “ สวัสดีแอซากิส” เอลิซาตอบโดยผงะไปเล็กน้อย “คุณเรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างน

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่29

    ยานธีออส – อาคันตุกะบนยาน ใช้เวลาไม่ถึงนาที แพล็ตฟอร์มก็นำทั้งสามไปถึงทางเข้ากระสวย เอลิซาเข้าไปก่อน เธอรอให้สายตาปรับเข้ากับแสงความเข้มต่ำที่ให้ความสว่างแก่ภายในและมองรอบตัวด้วยความสนใจ “ฉันคาดหวังไว้ต่างจากนี้มาก” เอลิซาตั้งข้อสังเกตอย่างผิดหวังเล็กน้อย   “ หนังแฟนตาซีพวกนั้นที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ค่อนข้างปรับความคิดคุณ อาจมากเกินไปหน่อย” แจ็กตั้งข้อสังเกตอย่างสั้นๆ แต่ได้ใจความ     สะพานเดินเรือของโมเดลการเทียบท่าก็ไม่หรูหราจริงๆ มีโต๊ะควบคุมกลางอย่างง่ายพร้อมด้วยปุ่มที่เรียงกันแบบสุ่มๆ และหน้าปัดที่มีขนาดและสีต่างๆ มากมาย และแสงสว่างเล็กๆ หลายดวง ด้านหลังโต๊ะควบคุมเป็นที่นั่งสีน้ำเงินเข้มสองตัวที่คล้ายกับที่ใช้สำหรับผู้ป่วยทันตกรรมและจอขนาดใหญ่ที่กินเนื้อที่เกือบทั้งผนัง ตรงด้านหลังมีเก้าอี้คล้ายกันอีกหกตัวพิงอยู่กับผนังเปลือยเปล่าสีเทาอ่อนดูเศร้าสร้อย   “ คุณบอกได้เลยว่ามันขาดเสน่ห์ผู้หญิง” เอลิซากล่าวอย่างกะทันหัน “ผู้ชายทุกคนเหมือนกันไม่ว่ามนุษย์หรือจากที่ไหนๆ ในจักรวาล ผู้ชายไม่มีความรู้สึกรับรู้เรื่องสไตล์ อย่างน้อยคุณอ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่28

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การกู้คืน บนจอที่ติดตั้งไว้บนเครื่องควบคุมโดรนระยะไกล ชาวเบดูอินผู้เสแสร้งทั้งสองมองเห็นเต็มตาว่าเอลิซา พันเอกฮัดสันและมนุษย์ต่างดาวทั้งสองออกมาจากกระโจมที่เพิ่งเข้าไปและมุ่งหน้าไปในทิศทางของพีระมิดเสมือนและกระสวยที่อยู่ติดกันด้วยกัน   “ พวกนั้นกำลังเคลื่อนไหว” ชายร่างใหญ่กล่าว “ฉันสงสัยว่าพวกนั้นตั้งใจจะทำอะไร”   “ เราหวังเถอะว่าพวกนั้นจะเอาไอ้สมบัตินี้ออกมาในไม่ช้า ฉันจะสุกอยู่แล้วในชุดอุปกรณ์ทั้งหลายนี่”   “ แค่คิดดู ในไม่ช้านายจะนอนในร่มใต้ต้นปาล์มน่ารักบนเกาะของนาย ทั้งหมดนี่จะเป็นความจำเลือนราง”   “ หวังว่าอย่างนั้นเถอะ”   “ ฉันคิดว่าพวกนั้นไม่มีอาวุธ” ชายร่างผอมกล่าวโดยพยายามหาว่ามนุษย์ต่างดาวกำลังสวมอะไร “ที่แน่ๆ พวกนั้นตัวค่อนข้างใหญ่”   “ อย่ากังวลไปเลย ปืน อาก้า ของฉันไม่กลัวกล้ามไม่กี่กล้ามหรอก ตรวจดูอูฐซิ เราไปไม่ได้ไกลถ้าไม่มีพวกมัน ”   “ เอ่อ ที่จริงพวกมันไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลนัก พวกมันแค่จำเป็นต้องพาเราไปที่รถออฟโรดที่ซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังแล้วเราปล่อยพวกมันไปได้”  

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่27

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การติดต่อ “ หกสิบวินาทีถึงเวลาลงจอด” เพทรีกล่าวโดยไม่แสดงอารมณ์ “ความเร็วขาลงคงที่ เรากำลังจะชะลอเพื่อเข้าสู่ระบบเทียบท่าขั้นสุดท้าย”   “ กระตุ้นการทำงานเซนเซอร์ระยะใกล้แล้ว” แอซากิสตอบ “พื้นที่ลงจอดขึ้นจอ... ตอนนี้”   ภาพของพื้นดิน ที่เต็มไปด้วยทรายซึ่งยังคงอยู่ไกลปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสอง   “ พวกนั้นคืออะไร” เพทรีผู้ได้สังเกตเห็นหมู่โครงสร้างขนาดเล็กๆ ใกล้ระบบเทียบท่าถาม   “ คงเป็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์”   “ งั้นพวกนั้นก็กำลังคาดหวังว่าเราจะมาสิ” แอซากิสผู้กังวลกล่าว “ทันทีที่เราเข้าไปอยู่ภายในพิสัย พวกนั้นจะปล่อยทั้งคลังแสงใส่เรา นายจะเห็น”     “ ผู้พัน” เสียงของผู้นำฝูงบินดังก้องออกมาจากลำโพงวิทยุ “เรดาร์กำลังบ่งว่ามีวัตถุที่ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว มันกำลังลดระดับในแนวดิ่งเหนือศีรษะของเราพอดี”   “ มาแล้ว” แจ็กกล่าวกับเอลิซาผู้กำลังยึดแขนของเขาไว้   “ ผู้นำ” แจ็กสั่งใส่ไมโครโฟน “ให้เครื่องบินต่อสู้อยู่ในรูปแบบป้องกัน คอยดูไว้อย่าให้คลาดสายตา”   “ รั

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่26

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – สี่ผู้คุ้มครองผู้ช่วงโชติ ทหารทั้งสองผู้ได้รั้งอยู่ข้างหลังเพื่อช่วยเหลือผู้ช่วยของเอลิซาตะลึงกับภาพที่เห็นเพื่อนของตนและพลเมืองสองคนกลับมาโดยที่นายพลแคมป์เบลล์อยู่ในกุญแจมือ ภายใต้ความอารักขาของจ่าของตน   “ ผู้พัน เกิดอะไรขึ้นครับ” ผู้ที่อายุน้อยกว่าในคนทั้งสองถาม   “ เราพบความจริงในที่สุดว่าใครเป็นหนอน”   “ นายพลเหรอ” ทหารถามด้วยความกลัว   “ ใช่ เขาเองล่ะ” พันเอกฮัดสันตอบ “ฉันอยากบอกให้คนพวกนั้นรู้ว่าใครสั่งให้วางยา และปล่อยเขาไว้กับคนพวกนั้น”   “ พวกนั้นจะรู้วิธีแก้แค้นแน่ๆ” ชายหนุ่มกล่าวแล้วยิ้มยิงฟัน “บางคนยังไม่หายเลย”   อย่างไรก็ตาม หลังจากความตกใจกลัวอย่างกะทันหันและฤทธิ์ของกาแฟถ้วยที่สอง เอลิซาก็กระปรี้กระเปร่าเช่นเคย   “ แจ็ก เรานำมันกลับเข้าที่เถอะ ใกล้จุดขุดค้น” เอลิซากล่าวพร้อมกับพยักเพยิดไปที่ทรงกลม “ฉันจำเป็นจะต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน”   “ ตกลง” พันเอกฮัดสันกล่าว “เอานายพลไปไว้ในกระโจมนั้นและเฝ้าไว้อย่างใกล้ชิด” เขาเรียกทหารหนุ่ม “ถ้าผู้สมคบคิดของเขายังคงอยู่ในละแวกนี้ ฉั

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่25

    ยานธีออส – การเตรียมการสุดท้าย การวิเคราะห์ดาวเคราะห์โดยละเอียดเสร็จสิ้นแล้วในขณะนี้ เพทรีได้พิจารณาข้อมูลทั้งหลายที่เก็บรวบรวมมาในระหว่างการโคจรอยู่อย่างอดทน ตัวเลขและรูปที่แสดงอย่างไม่รู้จบกำลังเลื่อนผ่านจอยักษ์ในห้องควบคุมด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง แอซากิสกำลังนั่งอยู่ข้างๆ โดยเล่นกับวัตถุแปลกประหลาดหลากสีอย่างเงียบๆ เขาไม่มีความประสงค์จะรบกวนสมาธิของเพื่อนและรอรายงานสถานะอย่างอดทน     เพทรีศึกษาชุดรูปที่ไหลอยู่ตรงหน้าตนต่อไปอีกพักหนึ่งแล้วหายใจเข้าลึก ขยี้ตา และกล่าวว่า "เอ่อ เพื่อน นั่นเป็นข้อมูลทั้งหมดที่ฉันสามารถประมวลผลได้ "   แอซากิสมองดูรายงานที่เพทรีได้แสดงขึ้นบนจอ “บอกฉันมาทุกอย่าง นายได้ความสนใจของฉันเต็มที่”   “ ได้ ฉันต้องบอกนายว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราอยู่ที่นี่ อุณหภูมิเฉลี่ยของลูกบอลสีน้ำเงินลูกนี้ดูเหมือนเพิ่มขึ้นกว่า 3° เซนติเกรดแล้ว ขนาดของน้ำแข็งขั้วโลกลดลงกว่า 40% แล้ว โดยมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นตาม”   “ โอเค งั้นมันหมายความว่าอะไร” แอซากิสถามอย่างงงๆ   “ เอ่อ การเปลี่ยนแป

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่24

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การ เปิดโปง ผู้ที่ปลอมตัวเป็นชาวเบดูอินสองคนกำลังนั่งอยู่บนหินโผล่ก้อนเตี้ยๆ ที่ยื่นพ้นทรายแห้งแล้งขึ้นมา เมื่อแสงไฟหน้ารถสองดวงฝ่าความมืดเข้ามา   “ มีใครกำลังมา” คนสูงกว่าพูดด้วยเสียงห้าว   เกือบในเวลาเดียวกัน ทำนองเพลงที่มีความสุขก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ด้านในกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา เขารีบตอบว่า “หัวหน้า ผมดีใจที่เป็นท่านครับ ใครบางคนกำลังตรงมาที่ที่เราซ่อนอยู่”   “ ฉันเอง เอ็งไอ้ปัญญาอ่อน!” เสียงที่ปลายสายอีกฝั่งหนึ่งตะโกนใส่ “ใครอีกล่ะจะขับรถเล่นในทะเลทรายในเวลากลางคืนแบบนี้ เอ็งอยู่ไหน”   “ เอ่อ ขอโทษครับหัวหน้า เรากังวลนิดหน่อย ท่านก็ทราบว่ามันเป็นยังไง”   ชายรูปร่างเพรียวหยิบไฟฉายไฟฟ้าจากหนึ่งในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่วางพักอยู่บนพื้นดินและเริ่มส่งสัญญาณไปหายานพาหนะที่ใกล้เข้ามา   “ ฉันเห็นเอ็งแล้ว ฉันกำลังมา” หัวหน้ากล่าวแล้ววางสาย   ในเวลาไม่ถึงนาที รถจี๊ปทหารคันใหญ่ก็ถลาเข้ามาในบริเวณแคมป์ชั่วคราวของคนทั้งสองโดยทิ้งฝุ่นสีเทากลุ่มใหม่ไว้ตามทาง ผู้ชายศีรษะล้านเลี่ยนร่างใหญ่กระโดด

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่23

    ยานธีออส – โคจรรอบโลก “ หนีห่าวมา ? ” เพทรีกล่าวกับเพื่อนร่วมเดินทางผ่านเครื่องสื่อสารพกพา   “ อะไรนะ” แอซากิสตอบ   “ หนีห่าวมา ?” เพทรีกล่าวซ้ำ   “ เพทรี นายได้ยินฉันไหม ต้องมีการรบกวนบางอย่างในระบบการสื่อสารแน่ๆ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่นายกำลังพูด”   “ การรบกวนอะไร” เพทรีผู้กำลังสนุกตอบ “ฉันแค่กำลังถามว่านายสบายดีหรือเปล่าเป็นภาษาจีนกลาง”   “ งั้น เซลล์ประสาทสี่ตัวนั้นที่ระเหเร่ร่อนรอบบริเวณรกร้างว่างเปล่าในหัวกลวงของนายจัดการเรียนรู้อะไรใหม่ได้แล้วสิ”   “ เป็นภาษาที่ซับซ้อนจริงๆ ถึงอย่างนั้นถ้าจำเป็นฉันคิดว่าฉันจะสนทนาอะไรได้บ้าง”   “ ฉันหวังว่าอย่างนั้นอย่างจริงใจ” แอซากิสกล่าว   “ และเราหวังกันเถอะว่าที่ไหนก็ตามที่เราลงจอด เขาพูดหนึ่งในสองภาษานี้” เพทรีเพิ่มเติม “ไม่อย่างนั้นเราจะพยายามพวกนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์”   “ นายเหนื่อยเหรอ เพทรีผู้น่าสงสาร เราจะทำยังไงดี ฉันเรียกเพื่อนผู้หญิงคนนั้นของนายให้มานวดผ่อนคลายสบายๆ ดีไหม ”   “ ถ้ามีใครสักคนที่นี่ที่มี “เพื่อนผู้หญิง” สองสามคน ก็นายนั่นแ

  • กลับสู่ผืนโลก   บทที่22

    เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – ความประหลาดใจในยามวิกาล คาราวานขบวนเล็กที่ประกอบด้วยอูฐสามตัวและคนสองคนที่แต่งกายรุ่มร่ามเป็นชาวเบดูอินกำลังเคลื่อนที่ห่างจากแคมป์ของ ด็อกเตอร์ฮันเทอร์อย่างอืดอาดโดยมีแสงสะท้อนอ่อนโยนของดวงจันทร์ที่ลอยสูงในท้องฟ้าในขณะนี้เป็นตัวช่วย   “ ไอ้นั่นไม่ได้แผ่รังสีร้ายๆ ที่ทำให้ไส้ของเราแห้งเหี่ยวใช่ไหม” ชายร่างใหญ่กว่ากล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ลูกกลมที่ติดอยู่กับอูฐของเพื่อน   “ นายคิดว่ายังไง นายเห็นอาจารย์เขาตอนกำลังวัดขนาดไม่ใช่ เหรอ” อีกคนหนึ่งตอบ “ถ้าอาจารย์เขาตรวจพบอะไรผิดปรกติ เขาคงไม่ทิ้งมันไว้ตรงนั้นถัดจากเตียงแน่นอน”   “ แล้วถ้ามันกำลังปล่อยรังสีประเภทหนึ่งที่เราไม่รู้จักล่ะ”   “ ฉันไม่รู้ว่ามันจะทำความเสียหายอะไรได้ ไส้ของนายพังอยู่แล้วด้วยของน่ารังเกียจทั้งหลายนั่นที่นายสวาปามลงไปทุกวัน ดังนั้น อย่ากังวล นายจะไม่ตายด้วยการเจ็บป่วยจากรังสีแน่นอน จะเป็นคอเลสเทอรอลสูงที่ฆ่านาย หวังว่าฉันอยู่ตรงนั้นนะ จะได้หัวเราะเวลาเกิดขึ้นจริง”   “ นายเป็นเพื่อนที่ดี” อีกคนหนึ่งบ่น   ทั้งสองค่อนข้างไกล

DMCA.com Protection Status