ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องชดใช้สำหรับการทำร้ายผู้อื่นครับ”"ใช่ค่ะ!" จัสมินพยักหน้าขณะที่เธอกล่าวว่า “คนเหล่านี้ควรรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาเอง!”ขณะที่พวกเขาพูด จัสมินได้ขับรถของเธอเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลมัวร์แล้วในเวลานี้ ซีค เกรแฮม อัลเบิร์ต เลียมและดอริสต่างก็รออยู่ที่ลานบ้านของตระกูลมัวร์มานานแล้ว ทันทีที่ชาร์ลีก้าวลงจากรถ พวกเขาก็รุมล้อมทั้งสองคนอย่างรวดเร็วเมื่อจัสมินหยุดรถ เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “ปรมาจารย์เวด กรุณานั่งลงและรอให้ฉันเปิดประตูรถให้คุณเองนะคะ”ชาร์ลีรีบตอบ “คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมขนาดนั้นหรอกครับ ผมลงไปเองได้”จัสมินตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่! ไม่! ปรมาจารย์เวด วันนี้คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติที่สุดของเรา! ฉันต้องให้ความสุภาพแก่คุณมากที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณปู่ท่านคงจะต้องดุฉันแน่เลยค่ะ!”ขณะที่เธอพูด จัสมินผลักประตูรถให้เปิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอวิ่งไปที่ฝั่งข้างคนขับและเปิดประตูรถให้ชาร์ลีชาร์ลีได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาก้าวลงจากรถเขารู้สึกว่าจัสมินอาจจะเวอร์มากเกินไป แต่จัสมินรู้สึกว่ามารยาทและการกระทำเหล่านี้ล้วนจำเป็นทั้งสิ้น
เสียงคำรามอันดังของฌอนดึงดูดสายตาอยากรู้อยากเห็นมากมายจากแขกที่เดินผ่านเขาไปบนชั้นสอง ทุกคนต่างสงสัยว่าทำไมนายน้อยของตระกูลเวบบ์ถึงโกรธกริ้วได้ขนาดนี้ฌอนจ้องที่พวกเขาด้วยความรำคาญและตะโกนว่า “พวกคุณมองอะไรกันอยู่? ออกไปซะ!”บรรดาแขกที่ตื่นตระหนกรีบหันกน้าหลบสายตาไป ฌอนมีใบหน้ามืดมน เขาจึงเรียกเคนเข้ามาหาเขาเคนวิ่งเข้ามาหาเขาราวกับลูกสุนัขที่ซื่อสัตย์และถามอย่างตื่นเต้น “ครับผม คุณชายเวบบ์ คุณต้องการอะไรเหรอครับ?”ฌอนชี้ไปที่ชาร์ลีที่ยืนอยู่ข้างจัสมินที่ลาน และพึมพำอย่างไม่พอใจ “ไปตรวจสอบตัวตนของชายหนุ่มคนนั้นมา ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร!”เคนมองตามไปทางที่ฌอนชี้ไปอย่างสงสัยและตกใจเมื่อเห็นคนๆ นั้น จนตาของเขาเบิกกว้าง!นั่นใช่ชาร์ลี เวดหรือเปล่า?!เขาจำผู้ชายคนนั้นได้แม้ว่าเขาจะกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วก็ตาม!ชาร์ลีเป็นเหตุผลว่าทำไมดอน อัลเบิร์ตถึงสลักหน้าผากของมาร์คัสลูกชายสุดที่รักของเขาว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช'! ถ้าไม่ใช่เพราะทำให้ชาร์ลีขุ่นเคือง อัลเบิร์ตจะไม่มีวันทำร้ายลูกชายของเขาแบบนั้น!ดังนั้นอัลเบิร์ตจึงเป็นเพียงเพชฌฆาต ส่วนชาร์ลีเป็นตัวบงการหลักของเรื่องนี้!เหตุการณ์ก
จัสมินเอาใจใส่และอ่อนโยนต่อชาร์ลีมาก แต่กลับเย็นชาต่อเขา นี่เป็นการดูถูกเหยียดหยามสุด ๆ !ฌอนกัดฟันด้วยความโมโหและสั่งเคนอย่างเย็นชา “ฉันจะมอบหมายงานให้คุณเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณทำได้ดี ก็รอรับรางวัลดี ๆ แต่อย่ามาหาฉันถ้าคุณทำงานพลาด!”เคนลุกขึ้นและโพล่งออกมา “ได้เลยครับ นายน้อยเวบบ์ พูดคำสั่งของคุณมาได้เลย ผมจะทำให้ดีที่สุด!"ฌอนจ้องชาร์ลีอย่างน่ากลัวที่ลานแล้วพูดว่า “ไปคิดหาวิธีทำให้ชาร์ลีอับอายต่อหน้าจัสมิน! สอนบทเรียนให้เขา ฉันอยากให้เขาอับอายขายหน้าต่อหน้าจัสมิน! ดีที่สุดถ้าคุณสามารถทำให้เขาออกจากที่นี้เหมือนสุนัขที่พ่ายแพ้ได้!”เคนยิ้มอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินความต้องการของฌอน มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแก้แค้นของเขา! เขาโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น “โอเค นายน้อยเวบบ์! ผมจะลงไปหาเขาเดี๋ยวนี้!”เขาได้ทำการสืบเกี่ยวกับชาร์ลีที่สามารถหลอกวีไอพีบางคนในโอลรัส ฮิลล์ด้วยกลเม็ดศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยซึ่งทำให้เขาได้รับตำแหน่งปรมาจารย์เวด ดอน อัลเบิร์ต ตระกูลไวท์ ตระกูลควินตันและแม้แต่ตระกูลมัวร์มองว่าชาร์ลีเป็นผู้มีเกียรติที่สุดและเขาก็เป็นคนที่เคนไม่อาจมีปัญหาได้แม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม เพียงเพราะเขา
การเยาะเย้ยของเคนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและน่าตกใจการเยาะเย้ยไม่เพียงมุ่งเป้าไปที่ชาร์ลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนที่ให้ความเคารพชาร์ลีด้วยอัลเบิร์ตเกือบจะลุกเป็นไฟเมื่อเคนโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยการดูถูกที่ไร้สติของเขา เขาจ้องไปที่เคนและตะโกนอย่างเย็นชา “เคน ลอยด์ คุณมีความปรารถนาที่จะตายหรือ? คุณต้องการให้ฉันแกะสลักคำบนหน้าผากของคุณเหมือนที่ฉันทำกับลูกชายของคุณไหม?!”ชาร์ลีตระหนักถึงสาเหตุของการเยาะเย้ยโดยตรงจากเคนที่ดูโกรธเคืองผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของมาร์คัส ลอยด์มาร์คัส เด็กไฮโซที่มีวลีติดปากว่า 'ไอ้ขี้แพ้น่าสมเพช' ชายหนุ่มที่มายั่วยุเขาที่ชองป์ เอลิส รีสอร์ทซึ่งส่งผลให้เกิดจุดจบที่น่าอนาถ อัลเบิร์ตได้สลักคำว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช' บนหน้าผากของเขาตามที่เขากำกับเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอพ่อของชายหนุ่มที่งานเลี้ยงของตระกูลมัวร์ แถมยังถูกดูหมิ่นเพียงคนเดียวอีกด้วยเคนเปลี่ยนสายตาแสดงความเกลียดชังกับอัลเบิร์ตและกล่าวว่า “อัลเบิร์ต โรดส์ อย่ามาอวดดีหรือเจ้ากี้เจ้าการนักสิ! คิดว่าฉันกลัวคุณจริง ๆ เหรอ?!”จากนั้น เขาก็ชี้ไปที่ชาร์ลีและพูดอย่างกวนประสาทว่า “ฉันไม่เข้าใจ ทำไม
เคนพูดด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งผยองว่า “คุณเวบบ์พาผมเข้ามา! บอกตามตรง ตอนนี้ผมเป็นคนของตระกูลเวบบ์ เท่าที่ผมกังวล ไม่มีใครที่นี่มีอำนาจและอิทธิพลที่จะต่อต้านตระกูลเวบบ์ใช่ไหม? ตระกูลเวบบ์นั้นมีอิทธิพลมากกว่าพวกคุณทุกคนรวมกัน! ถ้าคุณกล้าแตะต้องผม คุณคงอยากจะมีปัญหากับตระกูลเวบบ์อย่างแท้จริง!”เคนดูอวดดีและมีชัยมาก เขารู้ว่าการเอ่ยถึงตระกูลเวบบ์จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาเลยเมื่อเขาเหลือบมองไปรอบ ๆ ตัวราวกับไก่ยักษ์ เขาก็เห็นเงาสีดำแวบผ่านตัวเขาทันทีและก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ใบหน้าของเขาก็ถูกตบอย่างแรง!เขารู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าเริ่มมืดและเต็มไปด้วยดวงดาวหลังจากถูกตบ เขาก็สะดุดถอยหลังจากกำลังอันยิ่งใหญ่ หลังจากพยายามสงบสติอารมณ์และยืนนิ่ง เขาก็ลืมตาขึ้น และเห็นว่าคนที่ตบหน้าเขานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชาร์ลีชาร์ลียิ้มกว้างบนใบหน้าของเขาและพูดอย่างราบเรียบว่า “ผมคงไม่ติดอะไรถ้าคุณไม่พูดถึงตระกูลเวบบ์ แต่เนื่องจากคุณพูดออกมา งั้นผมคงต้องโชว์ให้พวกเขาดูก็แล้วกัน!”“ไอ้สารเลว! แกตบฉัน! ไอ้ชาติชั่ว!”เคนไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะโดนตบหน้าเมื่อเขาพูดถึงตระกูลเวบบ์ แม้ว่าชาร์ลีจะตบหน้าเขา แต่ก็เหมือนกั
ฌอนโกรธจัดมากเมื่อได้ยินชาร์ลีดูถูกตระกูลของเขา เขาจึงหันหลังและรีบลงบันไดไปเผชิญหน้ากับชาร์ลีในขณะเดียวกัน จัสมินจ้องไปที่เคนและใบหน้าที่บวมของเขาด้วยความรังเกียจและเรียกบอดี้การ์ดของเธอเธอชี้ไปที่เคนเมื่อบอดี้การ์ดเธอมาถึงและสั่งว่า “ไล่ผู้ชายคนนี้ออกไป! หักขาเขาได้เลยถ้าเขากล้าเข้ามาอีก!”"รับทราบครับคุณผู้หญิง!"บอดี้การ์ดเดินไปข้างหน้า คว้าตัวเคนและกำลังจะลากเขาออกจากลานเมื่อมีเสียงเย็นเยียบดังขึ้นมาจากบ้าน"กล้าดียังไง! ปล่อยเขาเดี่ยวนี้!"ฌอนเดินลงบันไดช้า ๆ พร้อมท่าทีที่มือไขว้หลัง ความไม่แยแสและความโกรธปรากฏบนใบหน้าของเขาในขั้นต้น เขาต้องการให้เคนก่อเหตุและทำให้ชาร์ลีอับอายเพื่อทำให้เขาดูแย่ต่อหน้าจัสมินอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าชาร์ลีจะหยิ่งผยองได้ถึงขนาดนี้ เขาตบหน้าเคนสองครั้งโดยไม่ไว้หน้าตระกูลเวบบ์เลย!แต่นี่ก็ไม่ใช่ความอัปยศที่สุด!สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ชาร์ลีทำคือการเรียกตระกูลเวบบ์ว่าขยะ!นี่เกินกว่าจะทนแล้ว!บอดี้การ์ดไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกเพราะฌอนกำลังเดินลงมา และสั่งให้หยุด พวกเขารู้ว่าฌอนและพ่อของเขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของครอบครัวขณะที่พวกเขาอาศ
ฌอนหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม “จัสมิน อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ ผู้ชายคนนี้ดูถูกตระกูลเวบบ์และตบสุนัขรับใช้ของเรา ต่อให้นายท่านมัวร์ออกมาพูด เราก็จะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ !”จากนั้นเขาชี้ไปที่เคนและตะโกนบอกชาร์ลีว่า “ฉันจะให้อภัยนายชั่วคราวถ้านายคุกเข่าลงต่อหน้าสุนัขรับใช้ของฉัน และขอโทษ แล้วคุกเข่าต่อหน้าฉันและขอโทษอีกครั้ง!”เคนเหมือนลอยอยู่เหนือดวงจันทร์เมื่อเขาได้ยิน ถ้าเขามีหางเขาคงกระดิกไปแล้ว!เขารู้สึกขอบคุณที่ฌอนสู้เพื่อเขาหลังจากที่เขาถูกตบถึงสองครั้ง! ขณะเอามือปิดแก้มที่บวม เขาก็เดินไปหาชาร์ลีและพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “คุณได้ยินเขาแล้วใช่ไหม? คุกเข่าลงต่อหน้าฉันเดี๋ยวนี้!!”ชาร์ลีสูดหายใจอย่างดูถูก จากนั้นในเสี้ยววินาที เขาก็เหยียดแขนออก คว้าคอของเคนแล้วยกเขาขึ้น!ฌอนมองที่เกิดเหตุด้วยดวงตาเบิกกว้าง!เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าชาร์ลีจะยกชายน้ำหนัก 150 ปอนด์ด้วยแขนข้างเดียวได้ เท้าของเขาห้อยลอยจากพื้น!เคนรู้สึกได้เพียงความรู้สึกของแรงบีบคอของเขาขณะที่ขาของเขากำลังแกว่งเตะไปมาในอากาศ อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาดิ้นรนมากเท่าไร เขาก็ยิ่งหายใจไม่ออก!ชาร์ลีจ้องที่เคนและพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าค
การเยาะเย้ยและเสียงหัวเราะทำให้หน้าฌอนกลายเป็นสีแดง เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วของเขาแทบจะโผล่ออกมาแล้ว!เขาจ้องชาร์ลีและพูดว่า “อย่าพูดว่าฉันไม่เคยให้โอกาสนายกลับใจ นายทำสิ่งนี้เพื่อตัวเอง! ครอบครัวของฉันจะไม่ปล่อยนายไป นายจะไม่มีวันได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้!”ก่อนที่ชาร์ลีจะพูดอะไร จัสมินก็ตะโกนว่า “ฌอน เวบบ์ นายกล้ามากสินะ!”ฌอนพึมพำอย่างเย็นชา “ทำไมล่ะ! นายคิดว่าฉันจะปล่อยให้ครอบครัวของฉันถูกดูหมิ่นในเมืองที่ซอมซ่ออย่างโอลรัส ฮิลล์อย่างนั้นเหรอ? ให้ฉันบอกอะไรกับนายหน่อยนะ! ทุกคนในโอลรัส ฮิลล์ จะต้องคำนับต่อตระกูลเวบบ์ผู้ยิ่งใหญ่!”ใบหน้าของจัสมินมืดลงด้วยความตกใจและเธอถามว่า “ฌอน ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ช่วยออกไปด้วย!”"อะไรนะ? อยากไล่ผมออกงั้นเหรอ!” ฌอนมองไปที่จัสมินด้วยใบหน้าที่ตกใจและดูถูกเหยียดหยาม “คุณอยากไล่ผมออกเพราะไอ้ขี้แพ้คนนี้เนี่ยนะ!”จัสมินพูดหนักแน่น “ใช่! ฉันจะพูดอีกครั้ง ช่วยออกไปซะ!”ในเวลานี้ รูเบนลูกพี่ลูกน้องของจัสมิน ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และรีบพูดกับพวกเขา “เฮ้ คุณเวบบ์ จัสมิน ใจเย็น ๆ ทะเลาะกันเรื่องอะไร?”ฌอนโพล่งอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นรูเบน “รูเบน
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล