เมื่อชาร์ลีเห็นว่าแคลร์ดื้อรั้นแค่ไหน เขาพยักหน้าขณะที่พูดว่า “งั้นก็ได้ครับภรรยาของผม ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของคุณนะ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน”“ค่ะ ไปได้แล้ว!” แคลร์จึงถามอย่างรวดเร็วว่า “คุณไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อน คุณเตรียมของขวัญให้เขาหรือยังคะ?”ชาร์ลีฮัมเสียงก่อนจะพูดว่า “ครับ ผมเตรียมของขวัญให้เขาแล้ว”แคลร์รีบถาม “คุณเตรียมของขวัญอะไรให้เขาคะ? เช็คให้ดีนะคะว่าของขวัญไม่เล็กหรือถูกเกินไป ไม่อย่างนั้นคนรับอาจจะรู้สึกไม่พอใจก็ได้นะคะ!”ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ผมได้เตรียมบางอย่างที่ผมทำเองให้เขาแล้ว ไม่ใช่ของขวัญทั่ว ๆ ไป แต่มีค่ามากกว่านั้นแน่นอน ท้ายที่สุดเพื่อนของผมเขาไม่สนใจเรื่องเงินมากนัก ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าเขาจะรักของขวัญของผมอย่างแน่นอน”“เยี่ยมมาก!” แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอยิ้มและพูดว่า “ถ้าเป็นแบบนั้น คุณก็ควรจะออกไปได้แล้วนะคะ!”"โอเคครับ"ในเวลานี้ ชาร์ลีลุกขึ้นก่อนจะสวมเสื้อโค้ตธรรมดา หลังจากนั้นเขาก็บอกลาแคลร์ พ่อตาและแม่ยายก่อนออกจากบ้านทันทีทันทีที่ชาร์ลีก้าวออกจากบ้าน เอเลนวางโทรศัพท์มือถือลงก่อนที่เธอมองแคลร์ด้วยสีหน้าจริงจัง “แคลร์ ทำไมทุกวันนี้ลู
ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณที่มารับผมวันนี้นะครับ”จัสมินรีบตอบ “นี่เป็นความรับผิดชอบของฉันค่ะ อย่างไรก็ตาม เป็นเกียรติของตระกูลมัวร์มากที่คุณมางานเลี้ยงวันเกิดคุณปู่ของฉันได้ในวันนี้”ขณะที่เธอพูด จัสมินก็วิ่งเหยาะ ๆ ไปข้างหน้าสองก้าว ขณะที่เธอเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยและผายมือให้ชาร์ลีขณะที่เธอหน้าแดง และพูดว่า “ปรมาจารย์เวด เชิญขึ้นรถได้เลยค่ะ”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะขึ้นรถอย่างเฉยเมยหากใครก็ตามได้เห็นจัสมิน หญิงสาวผู้มีชื่อเสียงของตระกูลมัวร์ ที่เปิดประตูรถให้กับชายหนุ่มเป็นการส่วนตัว พวกเขาคงจะตกใจอ้าปากค้างจนกรามจะถึงพื้นอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมาจากแง่มุมไหน ชาร์ลีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่จะคู่ควรกับการกระทำของจัสมินในการเปิดประตูรถให้เขาในแง่ของตัวตนของเขา เขาเป็นนายน้อยของตระกูลเวด และตระกูลเวดนั้นมีอิทธิพลมากกว่าเมื่อเทียบกับตระกูลมัวร์ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาเป็นปรมาจารย์เวด แม้แต่คุณปู่ของจัสมินก็ให้ความเคารพและสุภาพกับเขามาก ดังนั้น ชาร์ลีจึงรู้สึกว่าการที่จัสมินเปิดประตูรถให้เขาเป็นเรื่องปกติธรรมดาชาร์ลีไม่รู้ว่าแคลร์
ในรถจัสมินขับรถขณะที่เธอพูดกับชาร์ลี “ปรมาจารย์เวด คุณปู่ของฉันพูดถึงคุณมาสองสามวันแล้ว เขากลัวว่าคุณจะไม่มีเวลามาร่วมงานวันเกิดของเขา ฉันเชื่อว่าเขาจะมีความสุขมากที่ได้พบคุณ!”ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อผมได้สัญญากับคุณไปแล้วว่าผมจะมาร่วมงานวันเกิด ทำไมผมถึงต้องผิดสัญญาที่มีกับคุณด้วยล่ะ?”“อื้มมม!” จัสมินพยักหน้าอย่างมีความสุขก่อนจะพูดว่า “ฉันคิดว่าคนที่ปู่ของฉันต้องการพบมากที่สุดในวันนี้คือคุณนะคะ”ขณะที่เธอพูด จัสมินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะที่เธอพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน เขาได้พูดถึงคุณอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาไปพบคุณหมออัจฉริยะ ดร.ซิมมอนส์ เมื่อไม่กี่วันก่อน เขายังบอกฉันอย่างลับ ๆ ว่าความปรารถนาสูงสุดของเขาคือการได้พบคุณที่งานเลี้ยงวันเกิดของเขาในวันนี้”ชาร์ลีชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆเขารู้เหตุผลว่าทำไมนายท่านมัวร์ถึงต้องการพบเขาเป็นอย่างมากเขาคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและรูปลักษณ์ของแอนโธนีและเขาต้องค้นพบผลมหัศจรรย์ของยาอายุวัฒนะ ดังนั้นนายท่านมัวร์คงต้องหวังว่าชาร์ลีจะมอบยาตัวหนึ่งให้เขา!อั
ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องชดใช้สำหรับการทำร้ายผู้อื่นครับ”"ใช่ค่ะ!" จัสมินพยักหน้าขณะที่เธอกล่าวว่า “คนเหล่านี้ควรรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาเอง!”ขณะที่พวกเขาพูด จัสมินได้ขับรถของเธอเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลมัวร์แล้วในเวลานี้ ซีค เกรแฮม อัลเบิร์ต เลียมและดอริสต่างก็รออยู่ที่ลานบ้านของตระกูลมัวร์มานานแล้ว ทันทีที่ชาร์ลีก้าวลงจากรถ พวกเขาก็รุมล้อมทั้งสองคนอย่างรวดเร็วเมื่อจัสมินหยุดรถ เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “ปรมาจารย์เวด กรุณานั่งลงและรอให้ฉันเปิดประตูรถให้คุณเองนะคะ”ชาร์ลีรีบตอบ “คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมขนาดนั้นหรอกครับ ผมลงไปเองได้”จัสมินตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่! ไม่! ปรมาจารย์เวด วันนี้คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติที่สุดของเรา! ฉันต้องให้ความสุภาพแก่คุณมากที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณปู่ท่านคงจะต้องดุฉันแน่เลยค่ะ!”ขณะที่เธอพูด จัสมินผลักประตูรถให้เปิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอวิ่งไปที่ฝั่งข้างคนขับและเปิดประตูรถให้ชาร์ลีชาร์ลีได้แต่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาก้าวลงจากรถเขารู้สึกว่าจัสมินอาจจะเวอร์มากเกินไป แต่จัสมินรู้สึกว่ามารยาทและการกระทำเหล่านี้ล้วนจำเป็นทั้งสิ้น
เสียงคำรามอันดังของฌอนดึงดูดสายตาอยากรู้อยากเห็นมากมายจากแขกที่เดินผ่านเขาไปบนชั้นสอง ทุกคนต่างสงสัยว่าทำไมนายน้อยของตระกูลเวบบ์ถึงโกรธกริ้วได้ขนาดนี้ฌอนจ้องที่พวกเขาด้วยความรำคาญและตะโกนว่า “พวกคุณมองอะไรกันอยู่? ออกไปซะ!”บรรดาแขกที่ตื่นตระหนกรีบหันกน้าหลบสายตาไป ฌอนมีใบหน้ามืดมน เขาจึงเรียกเคนเข้ามาหาเขาเคนวิ่งเข้ามาหาเขาราวกับลูกสุนัขที่ซื่อสัตย์และถามอย่างตื่นเต้น “ครับผม คุณชายเวบบ์ คุณต้องการอะไรเหรอครับ?”ฌอนชี้ไปที่ชาร์ลีที่ยืนอยู่ข้างจัสมินที่ลาน และพึมพำอย่างไม่พอใจ “ไปตรวจสอบตัวตนของชายหนุ่มคนนั้นมา ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร!”เคนมองตามไปทางที่ฌอนชี้ไปอย่างสงสัยและตกใจเมื่อเห็นคนๆ นั้น จนตาของเขาเบิกกว้าง!นั่นใช่ชาร์ลี เวดหรือเปล่า?!เขาจำผู้ชายคนนั้นได้แม้ว่าเขาจะกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วก็ตาม!ชาร์ลีเป็นเหตุผลว่าทำไมดอน อัลเบิร์ตถึงสลักหน้าผากของมาร์คัสลูกชายสุดที่รักของเขาว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช'! ถ้าไม่ใช่เพราะทำให้ชาร์ลีขุ่นเคือง อัลเบิร์ตจะไม่มีวันทำร้ายลูกชายของเขาแบบนั้น!ดังนั้นอัลเบิร์ตจึงเป็นเพียงเพชฌฆาต ส่วนชาร์ลีเป็นตัวบงการหลักของเรื่องนี้!เหตุการณ์ก
จัสมินเอาใจใส่และอ่อนโยนต่อชาร์ลีมาก แต่กลับเย็นชาต่อเขา นี่เป็นการดูถูกเหยียดหยามสุด ๆ !ฌอนกัดฟันด้วยความโมโหและสั่งเคนอย่างเย็นชา “ฉันจะมอบหมายงานให้คุณเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณทำได้ดี ก็รอรับรางวัลดี ๆ แต่อย่ามาหาฉันถ้าคุณทำงานพลาด!”เคนลุกขึ้นและโพล่งออกมา “ได้เลยครับ นายน้อยเวบบ์ พูดคำสั่งของคุณมาได้เลย ผมจะทำให้ดีที่สุด!"ฌอนจ้องชาร์ลีอย่างน่ากลัวที่ลานแล้วพูดว่า “ไปคิดหาวิธีทำให้ชาร์ลีอับอายต่อหน้าจัสมิน! สอนบทเรียนให้เขา ฉันอยากให้เขาอับอายขายหน้าต่อหน้าจัสมิน! ดีที่สุดถ้าคุณสามารถทำให้เขาออกจากที่นี้เหมือนสุนัขที่พ่ายแพ้ได้!”เคนยิ้มอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินความต้องการของฌอน มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแก้แค้นของเขา! เขาโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น “โอเค นายน้อยเวบบ์! ผมจะลงไปหาเขาเดี๋ยวนี้!”เขาได้ทำการสืบเกี่ยวกับชาร์ลีที่สามารถหลอกวีไอพีบางคนในโอลรัส ฮิลล์ด้วยกลเม็ดศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยซึ่งทำให้เขาได้รับตำแหน่งปรมาจารย์เวด ดอน อัลเบิร์ต ตระกูลไวท์ ตระกูลควินตันและแม้แต่ตระกูลมัวร์มองว่าชาร์ลีเป็นผู้มีเกียรติที่สุดและเขาก็เป็นคนที่เคนไม่อาจมีปัญหาได้แม้แต่น้อยอย่างไรก็ตาม เพียงเพราะเขา
การเยาะเย้ยของเคนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและน่าตกใจการเยาะเย้ยไม่เพียงมุ่งเป้าไปที่ชาร์ลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนที่ให้ความเคารพชาร์ลีด้วยอัลเบิร์ตเกือบจะลุกเป็นไฟเมื่อเคนโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยการดูถูกที่ไร้สติของเขา เขาจ้องไปที่เคนและตะโกนอย่างเย็นชา “เคน ลอยด์ คุณมีความปรารถนาที่จะตายหรือ? คุณต้องการให้ฉันแกะสลักคำบนหน้าผากของคุณเหมือนที่ฉันทำกับลูกชายของคุณไหม?!”ชาร์ลีตระหนักถึงสาเหตุของการเยาะเย้ยโดยตรงจากเคนที่ดูโกรธเคืองผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของมาร์คัส ลอยด์มาร์คัส เด็กไฮโซที่มีวลีติดปากว่า 'ไอ้ขี้แพ้น่าสมเพช' ชายหนุ่มที่มายั่วยุเขาที่ชองป์ เอลิส รีสอร์ทซึ่งส่งผลให้เกิดจุดจบที่น่าอนาถ อัลเบิร์ตได้สลักคำว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช' บนหน้าผากของเขาตามที่เขากำกับเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอพ่อของชายหนุ่มที่งานเลี้ยงของตระกูลมัวร์ แถมยังถูกดูหมิ่นเพียงคนเดียวอีกด้วยเคนเปลี่ยนสายตาแสดงความเกลียดชังกับอัลเบิร์ตและกล่าวว่า “อัลเบิร์ต โรดส์ อย่ามาอวดดีหรือเจ้ากี้เจ้าการนักสิ! คิดว่าฉันกลัวคุณจริง ๆ เหรอ?!”จากนั้น เขาก็ชี้ไปที่ชาร์ลีและพูดอย่างกวนประสาทว่า “ฉันไม่เข้าใจ ทำไม
เคนพูดด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งผยองว่า “คุณเวบบ์พาผมเข้ามา! บอกตามตรง ตอนนี้ผมเป็นคนของตระกูลเวบบ์ เท่าที่ผมกังวล ไม่มีใครที่นี่มีอำนาจและอิทธิพลที่จะต่อต้านตระกูลเวบบ์ใช่ไหม? ตระกูลเวบบ์นั้นมีอิทธิพลมากกว่าพวกคุณทุกคนรวมกัน! ถ้าคุณกล้าแตะต้องผม คุณคงอยากจะมีปัญหากับตระกูลเวบบ์อย่างแท้จริง!”เคนดูอวดดีและมีชัยมาก เขารู้ว่าการเอ่ยถึงตระกูลเวบบ์จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาเลยเมื่อเขาเหลือบมองไปรอบ ๆ ตัวราวกับไก่ยักษ์ เขาก็เห็นเงาสีดำแวบผ่านตัวเขาทันทีและก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ใบหน้าของเขาก็ถูกตบอย่างแรง!เขารู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าเริ่มมืดและเต็มไปด้วยดวงดาวหลังจากถูกตบ เขาก็สะดุดถอยหลังจากกำลังอันยิ่งใหญ่ หลังจากพยายามสงบสติอารมณ์และยืนนิ่ง เขาก็ลืมตาขึ้น และเห็นว่าคนที่ตบหน้าเขานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชาร์ลีชาร์ลียิ้มกว้างบนใบหน้าของเขาและพูดอย่างราบเรียบว่า “ผมคงไม่ติดอะไรถ้าคุณไม่พูดถึงตระกูลเวบบ์ แต่เนื่องจากคุณพูดออกมา งั้นผมคงต้องโชว์ให้พวกเขาดูก็แล้วกัน!”“ไอ้สารเลว! แกตบฉัน! ไอ้ชาติชั่ว!”เคนไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะโดนตบหน้าเมื่อเขาพูดถึงตระกูลเวบบ์ แม้ว่าชาร์ลีจะตบหน้าเขา แต่ก็เหมือนกั