ชาร์ลีมีสีหน้าสงบขณะเผชิญหน้ากับคำสารภาพที่กะทันหันของลอรีน เขาตอบเพียงว่า “เราก็แค่เจอพวกสวะไม่กี่คน ผมก็เลยตัดสินใจสั่งสอนคนพวกนั้น ไม่ต้องใส่ใจหรอก"ลอรีนตอบอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็อยากจะขอบคุณจริง ๆ นะ!”หลังจากนั้นลอรีนก็นั่งลงข้าง ๆ ชาร์ลีและยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วขณะที่เธอกอดเขาไว้ในอ้อมแขนทั้งคู่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นมาก และชาร์ลีสัมผัสได้ทันทีว่า ผิวเนียนนุ่มของลอรีนกำลังถูกับเขาร่างกายของชาร์ลีกระชับขึ้นทันที และรีบพูดว่า “ลอรีนอย่าทำแบบนี้ ผมไม่อยากให้แคลร์เห็นเราทำตัวแบบนี้กัน”ลอรีนหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เธอจะถามว่า “นั่นหมายความว่าฉันสามารถกอดคุณ และทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ ถ้าแคลร์มองไม่เห็นเรางั้นเหรอคะ?”“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง…” ชาร์ลีตอบอย่างช่วยไม่ได้ลอรีนกอดเขาแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดเสียงแข็งว่า “ฉันอยากกอดคุณ และมันจะดีที่สุดถ้าแคลร์เห็นเราทำแบบนี้ตอนนี้ หลังจากนั้นคุณสองคนก็ฟ้องหย่ากันได้ คุณจะได้อยู่กับฉันแทนในที่สุด!”ในเวลานี้ชาร์ลีมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดว่า “คุณพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไง? คุณเป็นเพื่อน
ชาร์ลีพูดไม่ออก ลอรีนหมายถึงอะไร? เธอเต็มใจที่จะเป็นอนุภรรยาเพียงเพราะเขางั้นเหรอ?แต่ถึงอย่างนั้น เขาจะเห็นด้วยกับคำขอแบบนี้ได้อย่างไร?ประการแรก ความรู้สึกของเขาที่มีต่อแคลร์เป็นเรื่องจริง และเขาจริงใจต่อเธอมาก แม้ว่าในตอนแรกแคลร์จะไม่พอใจกับการจัดเตรียมจากปู่ของเธอ แต่ในที่สุดเธอก็ยอมแต่งงานกับชาร์ลีแม้ว่าทั้งตระกูลของเธอจะหัวเราะ และเยาะเย้ยเธอในการตัดสินใจของเธอก็ตาม แน่นอนว่าแคลร์ไม่เคยดูถูกเขานอกจากนี้ เมื่อคุณป้าที่ดูแลเขาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าล้มป่วย แคลร์เป็นคนที่ให้เขายืมเงินเพื่อที่เขาจะได้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล ชาร์ลีจะไม่มีวันลืมความเมตตาของแคลร์ดังนั้นเขาจะตกลงที่จะให้ลอรีนมาเป็นคนรักของเขาได้อย่างไรกัน?ในเวลานี้แคลร์ที่หลับก็ขยับตัวเล็กน้อยชาร์ลีสะดุ้ง และรีบผลักลอรีนออกจากอ้อมแขนลอรีนมองไปที่แคลร์ และเมื่อเธอเห็นว่าแคลร์ยังไม่ตื่นเต็มที่ เธอก็เคลื่อนใบหน้าไปข้างหน้าทันที และจูบชาร์ลีเบา ๆ ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนโยนเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ชาร์ลีจะรู้สึกตัวอีกครั้งลอรีนก็หน้าแดงขณะที่เธอค่อย ๆ ว่ายหนีจากเขาชาร์ลีไม่สามารถพูดอะไรเกี่
ในขณะที่ชาร์ลี ภรรยาของเขา และลอรีนกำลังแช่น้ำในสระน้ำพุร้อน มาร์คัสผู้ซึ่งมีคำที่สลักติดอยู่บนหน้าผากของเขา 'ไอ้สถุนน่าสมเพช' และแฟนสาวของเขาที่ตอนนี้ก็จมูกเบี้ยวบู้บี้ ก็ได้นั่งรถตู้ซอมซ่อกลับไปยังเมืองมาร์คัสซึ่งนั่งอยู่ในรถตู้ยังคงปิดหน้าผากที่เปื้อนเลือด เพราะกลัวว่าคนขับรถตู้จะเห็นคำที่สลักอยู่บนหน้าผากของเขาทั้งสองคนได้เรียกรถตู้ระหว่างทางออกจากช็องซาลีเซ สปา รีสอร์ต พวกเขาได้เจรจากับคนขับรถตู้ และตกลงกันว่า คนขับรถตู้จะส่งทั้งสองคนกลับบ้านในราคาสองพันบาท ตอนนี้มาร์คัสต้องการกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอีก!อย่างไรก็ตาม คนขับรถตู้ก็สามารถมองเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากหน้าผากของมาร์คัสจากกระจกมองหลังหลังจากสังเกตเขาเป็นเวลานานเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจ “ไอ้หนู บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”มาร์คัสตอบอย่างโกรธ ๆ ว่า “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! ขับรถต่อไปดี ๆ เถอะ หยุดถามเรื่องไร้สาระกับฉันได้แล้ว!”คนขับรถรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย และพูดว่า “นายคิดว่าฉันเป็นห่วงนายจริง ๆ หรือไง?! ฉันแค่ถามนายเพราะดูเหมือนว่าหน้าผากของนายจะมีเลือดไหลออกมาเรื่อย ๆ ! ฉันไม่อยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ ตอนนี้คุณกำลังดูถูกเจ้าพนักงาน! นั่นหมายความว่านายกำลังต่อต้านกฎหมาย! อย่ามาว่าก็แล้วกันที่เราที่จะดำเนินการกับคุณ!”ทันทีที่เขาพูดจบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หยิบสเปรย์พริกไทยออกมา และเล็งตรงไปที่ใบหน้าของมาร์คัสก่อนจะฉีดลงบนใบหน้าของคนหลังมาร์คัสรู้สึกได้ถึงความปวดแสบปวดร้อนในดวงตาของเขาในเวลานี้ เขาจึงเอื้อมมือไปขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว โดยลืมไปว่าทันทีที่เขาเอามือออก คำสองคำที่เปื้อนเลือดที่สลักอยู่บนหน้าผากของเขาก็จะถูกเปิดเผยทันที“โอ้พระเจ้า…” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งอุทานออกมาดัง ๆ “ดูเขาสิ! เขามีคำสลักไว้ที่หน้าผากด้วย!”“รอยสักแบบนั้นคืออะไร? สุดเหวี่ยงมากจริง ๆ !”“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงชอบเรียกคนอื่นว่าสถุน เพราะเขามีคำว่า "ไอ้สถุนน่าสมเพช" สลักอยู่บนหน้าผากนี่เอง! "เมื่อมาร์คัสได้ยินดังนั้นเขาก็รีบยกมือขึ้นพยายามที่จะปิดหน้าผาก แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ ดวงตาของเขาทั้งบวม และเจ็บปวดมากจนเขาไม่ทันสังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาหาเขาหลังจากนั้น มาร์คัสก็ถูกลากออกจากรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กดเขาลงกับพื้นเจ้าห
แฮโรลด์ค่อย ๆ สูญเสียอารมณ์ของเขานี่มันอะไรกัน?เขาแค่เห็นมาร์คัสถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแจมือที่ข้างถนน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเข้ามาทักเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดว่าผู้ชายคนนี้จะสาปแช่งเขา และถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาแทน นี่มันน่าขยะแขยงสุด ๆ !แฮโรลด์พูดอย่างโกรธ ๆ “คุณลอยด์ คุณทำเกินไป! ฉันเพิ่งถามคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ด้วยความกังวลเนื่องจากเราเป็นเพื่อนกัน แล้วคุณจะมาทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไร!”มาร์คัสตะโกนทันที “แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดว่าผู้ชายที่น่าสมเพชอย่างแกมีค่าพอที่จะมาเป็นเพื่อนฉันได้จริงเหรอ?! แกไม่มีอะไรมากไปกว่าความน่าสมเพชในสายตาของฉัน! แกกำลังพยายามที่จะประจบประแจงฉันเพื่อที่แกจะได้ใกล้ชิดกับฉันมากขึ้นงั้นเหรอ? ไปตายซะ!”“ฉัน…” แฮโรลด์รู้สึกผิดอย่างร้ายแรงอย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะต่อต้านมาร์คัสเลย ท้ายที่สุดแฮโรลด์รู้ดีว่าตระกูลลอยด์มีอำนาจและแข็งแกร่งกว่านับไม่ถ้วนเมื่อเทียบกับตระกูลวิลสันซึ่งใกล้จะล้มละลายแล้ว แฮโรลด์รู้ดีว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่จบลงด้วยดีหากเขาทำให้มาร์คัสขุ่นเคืองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำลายออ
ทันใดนั้น แคลร์ก็ถามว่า “นี่เธอไม่ต้องกลับไปทำงานเหรอไง?”ลอรีนแลบลิ้นออกมาก่อนที่เธอจะพูดว่า “งานของฉันต้องอยู่ข้างนอกซะส่วนใหญ่น่ะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่เคยพบกับประธานของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปมาก่อนเลยนับตั้งแต่เริ่มทำงานที่นั่น เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางควบคุมฉันได้เลย และฉันยังเป็นหัวหน้า ดังนั้นฉันคิดว่า มันเป็นเรื่องปกติที่ฉันจะอู้งานบ้างเป็นครั้งคราว”หลังจากนั้นลอรีนก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ในเมื่อเธอสองคนมีอะไรที่ต้องทำกัน งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกเธอกลับบ้านก่อนนะ”เมื่อมาถึงที่จอดรถ ชาร์ลีก็รู้ว่าดอน อัลเบิร์ตยืนอยู่ข้างรถของลอรีน ยิ่งไปกว่านั้นที่รถของลอรีน ที่เคยมีรอยขีดข่วนเมื่อวานนี้ก็ได้รับการซ่อมแซมแล้วเช่นกันเมื่ออัลเบิร์ตเห็นพวกเขาเดินไปที่รถ เขาก็ทักทายชาร์ลีอย่างเคารพทันที "คุณเวด พักผ่อนเป็นยังไงบ้างครับ?”"ไม่แย่" ชาร์ลีมองไปที่ด้านหลังของรถสักครู่ และเมื่อเขารู้ว่ามันดูดีเหมือนใหม่เขาก็รู้ว่า อัลเบิร์ตได้เอารถไปซ่อมแล้ว “คุณทำได้ดีมาก”อัลเบิร์ตรีบพูดว่า “คุณเวด ผมบังเอิญรู้จักกับคนที่ทำงานที่ร้านซ่อมรถยนต์ใกล้ ๆ ผมก็เลยขอให้พวกเขามาพร้อมกับเครื่องมือซ่อมรถ คุณกำลังจะกลับบ้าน
ทั้งสองสาวแคลร์และลอรีนได้ทำข้อตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในคฤหาสน์ธอมป์สันเฟิร์สในอนาคตสาว ๆ ทั้งสองมีความสุขมากในเวลานี้ แต่ชาร์ลีกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อยแคลร์เป็นคนที่ไร้เดียงสามาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลอรีนพยายามใกล้ชิดกับสามีเธอมาตลอด!แคลร์ยังเชิญลอรีนให้ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของพวกเขา ภรรยาของเขาไม่ฉลาดเอาซะเลย! เธอพาหมาป่าเข้าไปในรังของพวกเขาเอง!อย่างไรก็ตาม ชาร์ลีไม่สามารถปฏิเสธเรื่องแบบนี้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้มีเหตุผลที่ชัดเจนที่จะปฏิเสธดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ซ่อนความรู้สึกไว้ในขณะนี้ในทางกลับกัน ลอรีนนั้นมีความสุขมากถ้าเธอสามารถย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์กับพวกเขาได้จริง ๆ เธอก็สามารถใช้เวลากับชาร์ลีได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน! ความเป็นไปได้ที่เธอจะได้ใช้เวลากับชาร์ลีนั้นมากกว่ามาก!หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้าน หลังจากร่ำลา ลอรีน, แคลร์และชาร์ลีก็ลงจากรถพร้อมที่จะก้าวเข้าบ้านทันใดนั้น ชายชราคนหนึ่งเห็นทั้งสองคนลงจากรถเขาก็รีบเดินไปพบทั้งสองชาร์ลีสามารถบอกได้ทันทีว่า นั่นคือแอนโธนีแคลร์ตื่นเต้นมากเมื่อได้เห
เช้าวันรุ่งขึ้นแอนโธนี มารับชาร์ลีไปงานมหกรรมการแพทย์แผนจีนชาร์ลีไม่ได้คาดหวังว่า งานมหกรรมการแพทย์แผนจีนจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและศูนย์จัดแสดงสินค้าโอลรัสฮิลล์ ซึ่งเป็นของตระกูลแกรนท์ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่ เจสันนั้นช่างอวดดีต่อหน้าเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เจสันและจัสตินพ่อของเขาได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว ไม่มีร่องรอยของพวกเขาในโลกนี้อีกต่อไปซึ่งสอดคล้องกับประโยคที่ว่า "ตอนนี้เธอหายไป ไม่รู้อยู่แห่งหนใด ดอกพีชจะบานสะพรั่งตามสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน”ทันทีที่ชาร์ลีก้าวเข้ามาในศูนย์การประชุมและศูนย์จัดแสดงสินค้า เขามองไปรอบ ๆ อาคาร และเห็นป้ายผู้สูญหายของเจสันและจัสตินบนผนังตระกูลแกรนท์ได้เพิ่มรางวัลเงินสดเป็นสามร้อยล้านบาทแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวของพ่อและลูกชายเลยไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ถูกกำหนดให้ไร้ผลเมื่อชาร์ลี และแอนโธนีเดินเข้าไปในห้องโถง พวกเขาก็เห็นเกรแฮมและออโรร่าทันทีตระกูลควินตันทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร และอุปกรณ์ยาทุกชนิด ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ออกร้านในมหกรรมการแพทย์แผนจีน และต้องมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานวันนี้ทันท
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล