ชาร์ลีมีสีหน้าสงบขณะเผชิญหน้ากับคำสารภาพที่กะทันหันของลอรีน เขาตอบเพียงว่า “เราก็แค่เจอพวกสวะไม่กี่คน ผมก็เลยตัดสินใจสั่งสอนคนพวกนั้น ไม่ต้องใส่ใจหรอก"ลอรีนตอบอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็อยากจะขอบคุณจริง ๆ นะ!”หลังจากนั้นลอรีนก็นั่งลงข้าง ๆ ชาร์ลีและยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วขณะที่เธอกอดเขาไว้ในอ้อมแขนทั้งคู่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นมาก และชาร์ลีสัมผัสได้ทันทีว่า ผิวเนียนนุ่มของลอรีนกำลังถูกับเขาร่างกายของชาร์ลีกระชับขึ้นทันที และรีบพูดว่า “ลอรีนอย่าทำแบบนี้ ผมไม่อยากให้แคลร์เห็นเราทำตัวแบบนี้กัน”ลอรีนหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เธอจะถามว่า “นั่นหมายความว่าฉันสามารถกอดคุณ และทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ ถ้าแคลร์มองไม่เห็นเรางั้นเหรอคะ?”“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง…” ชาร์ลีตอบอย่างช่วยไม่ได้ลอรีนกอดเขาแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดเสียงแข็งว่า “ฉันอยากกอดคุณ และมันจะดีที่สุดถ้าแคลร์เห็นเราทำแบบนี้ตอนนี้ หลังจากนั้นคุณสองคนก็ฟ้องหย่ากันได้ คุณจะได้อยู่กับฉันแทนในที่สุด!”ในเวลานี้ชาร์ลีมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดว่า “คุณพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไง? คุณเป็นเพื่อน
ชาร์ลีพูดไม่ออก ลอรีนหมายถึงอะไร? เธอเต็มใจที่จะเป็นอนุภรรยาเพียงเพราะเขางั้นเหรอ?แต่ถึงอย่างนั้น เขาจะเห็นด้วยกับคำขอแบบนี้ได้อย่างไร?ประการแรก ความรู้สึกของเขาที่มีต่อแคลร์เป็นเรื่องจริง และเขาจริงใจต่อเธอมาก แม้ว่าในตอนแรกแคลร์จะไม่พอใจกับการจัดเตรียมจากปู่ของเธอ แต่ในที่สุดเธอก็ยอมแต่งงานกับชาร์ลีแม้ว่าทั้งตระกูลของเธอจะหัวเราะ และเยาะเย้ยเธอในการตัดสินใจของเธอก็ตาม แน่นอนว่าแคลร์ไม่เคยดูถูกเขานอกจากนี้ เมื่อคุณป้าที่ดูแลเขาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าล้มป่วย แคลร์เป็นคนที่ให้เขายืมเงินเพื่อที่เขาจะได้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล ชาร์ลีจะไม่มีวันลืมความเมตตาของแคลร์ดังนั้นเขาจะตกลงที่จะให้ลอรีนมาเป็นคนรักของเขาได้อย่างไรกัน?ในเวลานี้แคลร์ที่หลับก็ขยับตัวเล็กน้อยชาร์ลีสะดุ้ง และรีบผลักลอรีนออกจากอ้อมแขนลอรีนมองไปที่แคลร์ และเมื่อเธอเห็นว่าแคลร์ยังไม่ตื่นเต็มที่ เธอก็เคลื่อนใบหน้าไปข้างหน้าทันที และจูบชาร์ลีเบา ๆ ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับริมฝีปากของเขาอย่างอ่อนโยนเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ชาร์ลีจะรู้สึกตัวอีกครั้งลอรีนก็หน้าแดงขณะที่เธอค่อย ๆ ว่ายหนีจากเขาชาร์ลีไม่สามารถพูดอะไรเกี่
ในขณะที่ชาร์ลี ภรรยาของเขา และลอรีนกำลังแช่น้ำในสระน้ำพุร้อน มาร์คัสผู้ซึ่งมีคำที่สลักติดอยู่บนหน้าผากของเขา 'ไอ้สถุนน่าสมเพช' และแฟนสาวของเขาที่ตอนนี้ก็จมูกเบี้ยวบู้บี้ ก็ได้นั่งรถตู้ซอมซ่อกลับไปยังเมืองมาร์คัสซึ่งนั่งอยู่ในรถตู้ยังคงปิดหน้าผากที่เปื้อนเลือด เพราะกลัวว่าคนขับรถตู้จะเห็นคำที่สลักอยู่บนหน้าผากของเขาทั้งสองคนได้เรียกรถตู้ระหว่างทางออกจากช็องซาลีเซ สปา รีสอร์ต พวกเขาได้เจรจากับคนขับรถตู้ และตกลงกันว่า คนขับรถตู้จะส่งทั้งสองคนกลับบ้านในราคาสองพันบาท ตอนนี้มาร์คัสต้องการกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอีก!อย่างไรก็ตาม คนขับรถตู้ก็สามารถมองเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากหน้าผากของมาร์คัสจากกระจกมองหลังหลังจากสังเกตเขาเป็นเวลานานเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจ “ไอ้หนู บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”มาร์คัสตอบอย่างโกรธ ๆ ว่า “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! ขับรถต่อไปดี ๆ เถอะ หยุดถามเรื่องไร้สาระกับฉันได้แล้ว!”คนขับรถรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย และพูดว่า “นายคิดว่าฉันเป็นห่วงนายจริง ๆ หรือไง?! ฉันแค่ถามนายเพราะดูเหมือนว่าหน้าผากของนายจะมีเลือดไหลออกมาเรื่อย ๆ ! ฉันไม่อยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ ตอนนี้คุณกำลังดูถูกเจ้าพนักงาน! นั่นหมายความว่านายกำลังต่อต้านกฎหมาย! อย่ามาว่าก็แล้วกันที่เราที่จะดำเนินการกับคุณ!”ทันทีที่เขาพูดจบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หยิบสเปรย์พริกไทยออกมา และเล็งตรงไปที่ใบหน้าของมาร์คัสก่อนจะฉีดลงบนใบหน้าของคนหลังมาร์คัสรู้สึกได้ถึงความปวดแสบปวดร้อนในดวงตาของเขาในเวลานี้ เขาจึงเอื้อมมือไปขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว โดยลืมไปว่าทันทีที่เขาเอามือออก คำสองคำที่เปื้อนเลือดที่สลักอยู่บนหน้าผากของเขาก็จะถูกเปิดเผยทันที“โอ้พระเจ้า…” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งอุทานออกมาดัง ๆ “ดูเขาสิ! เขามีคำสลักไว้ที่หน้าผากด้วย!”“รอยสักแบบนั้นคืออะไร? สุดเหวี่ยงมากจริง ๆ !”“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงชอบเรียกคนอื่นว่าสถุน เพราะเขามีคำว่า "ไอ้สถุนน่าสมเพช" สลักอยู่บนหน้าผากนี่เอง! "เมื่อมาร์คัสได้ยินดังนั้นเขาก็รีบยกมือขึ้นพยายามที่จะปิดหน้าผาก แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ ดวงตาของเขาทั้งบวม และเจ็บปวดมากจนเขาไม่ทันสังเกตว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาหาเขาหลังจากนั้น มาร์คัสก็ถูกลากออกจากรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กดเขาลงกับพื้นเจ้าห
แฮโรลด์ค่อย ๆ สูญเสียอารมณ์ของเขานี่มันอะไรกัน?เขาแค่เห็นมาร์คัสถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแจมือที่ข้างถนน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจเข้ามาทักเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คิดว่าผู้ชายคนนี้จะสาปแช่งเขา และถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาแทน นี่มันน่าขยะแขยงสุด ๆ !แฮโรลด์พูดอย่างโกรธ ๆ “คุณลอยด์ คุณทำเกินไป! ฉันเพิ่งถามคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ด้วยความกังวลเนื่องจากเราเป็นเพื่อนกัน แล้วคุณจะมาทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไร!”มาร์คัสตะโกนทันที “แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดว่าผู้ชายที่น่าสมเพชอย่างแกมีค่าพอที่จะมาเป็นเพื่อนฉันได้จริงเหรอ?! แกไม่มีอะไรมากไปกว่าความน่าสมเพชในสายตาของฉัน! แกกำลังพยายามที่จะประจบประแจงฉันเพื่อที่แกจะได้ใกล้ชิดกับฉันมากขึ้นงั้นเหรอ? ไปตายซะ!”“ฉัน…” แฮโรลด์รู้สึกผิดอย่างร้ายแรงอย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะต่อต้านมาร์คัสเลย ท้ายที่สุดแฮโรลด์รู้ดีว่าตระกูลลอยด์มีอำนาจและแข็งแกร่งกว่านับไม่ถ้วนเมื่อเทียบกับตระกูลวิลสันซึ่งใกล้จะล้มละลายแล้ว แฮโรลด์รู้ดีว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่จบลงด้วยดีหากเขาทำให้มาร์คัสขุ่นเคืองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำลายออ
ทันใดนั้น แคลร์ก็ถามว่า “นี่เธอไม่ต้องกลับไปทำงานเหรอไง?”ลอรีนแลบลิ้นออกมาก่อนที่เธอจะพูดว่า “งานของฉันต้องอยู่ข้างนอกซะส่วนใหญ่น่ะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่เคยพบกับประธานของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปมาก่อนเลยนับตั้งแต่เริ่มทำงานที่นั่น เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางควบคุมฉันได้เลย และฉันยังเป็นหัวหน้า ดังนั้นฉันคิดว่า มันเป็นเรื่องปกติที่ฉันจะอู้งานบ้างเป็นครั้งคราว”หลังจากนั้นลอรีนก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ในเมื่อเธอสองคนมีอะไรที่ต้องทำกัน งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกเธอกลับบ้านก่อนนะ”เมื่อมาถึงที่จอดรถ ชาร์ลีก็รู้ว่าดอน อัลเบิร์ตยืนอยู่ข้างรถของลอรีน ยิ่งไปกว่านั้นที่รถของลอรีน ที่เคยมีรอยขีดข่วนเมื่อวานนี้ก็ได้รับการซ่อมแซมแล้วเช่นกันเมื่ออัลเบิร์ตเห็นพวกเขาเดินไปที่รถ เขาก็ทักทายชาร์ลีอย่างเคารพทันที "คุณเวด พักผ่อนเป็นยังไงบ้างครับ?”"ไม่แย่" ชาร์ลีมองไปที่ด้านหลังของรถสักครู่ และเมื่อเขารู้ว่ามันดูดีเหมือนใหม่เขาก็รู้ว่า อัลเบิร์ตได้เอารถไปซ่อมแล้ว “คุณทำได้ดีมาก”อัลเบิร์ตรีบพูดว่า “คุณเวด ผมบังเอิญรู้จักกับคนที่ทำงานที่ร้านซ่อมรถยนต์ใกล้ ๆ ผมก็เลยขอให้พวกเขามาพร้อมกับเครื่องมือซ่อมรถ คุณกำลังจะกลับบ้าน
ทั้งสองสาวแคลร์และลอรีนได้ทำข้อตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในคฤหาสน์ธอมป์สันเฟิร์สในอนาคตสาว ๆ ทั้งสองมีความสุขมากในเวลานี้ แต่ชาร์ลีกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อยแคลร์เป็นคนที่ไร้เดียงสามาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลอรีนพยายามใกล้ชิดกับสามีเธอมาตลอด!แคลร์ยังเชิญลอรีนให้ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของพวกเขา ภรรยาของเขาไม่ฉลาดเอาซะเลย! เธอพาหมาป่าเข้าไปในรังของพวกเขาเอง!อย่างไรก็ตาม ชาร์ลีไม่สามารถปฏิเสธเรื่องแบบนี้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้มีเหตุผลที่ชัดเจนที่จะปฏิเสธดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ซ่อนความรู้สึกไว้ในขณะนี้ในทางกลับกัน ลอรีนนั้นมีความสุขมากถ้าเธอสามารถย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์กับพวกเขาได้จริง ๆ เธอก็สามารถใช้เวลากับชาร์ลีได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน! ความเป็นไปได้ที่เธอจะได้ใช้เวลากับชาร์ลีนั้นมากกว่ามาก!หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้าน หลังจากร่ำลา ลอรีน, แคลร์และชาร์ลีก็ลงจากรถพร้อมที่จะก้าวเข้าบ้านทันใดนั้น ชายชราคนหนึ่งเห็นทั้งสองคนลงจากรถเขาก็รีบเดินไปพบทั้งสองชาร์ลีสามารถบอกได้ทันทีว่า นั่นคือแอนโธนีแคลร์ตื่นเต้นมากเมื่อได้เห
เช้าวันรุ่งขึ้นแอนโธนี มารับชาร์ลีไปงานมหกรรมการแพทย์แผนจีนชาร์ลีไม่ได้คาดหวังว่า งานมหกรรมการแพทย์แผนจีนจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและศูนย์จัดแสดงสินค้าโอลรัสฮิลล์ ซึ่งเป็นของตระกูลแกรนท์ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่ เจสันนั้นช่างอวดดีต่อหน้าเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เจสันและจัสตินพ่อของเขาได้กลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว ไม่มีร่องรอยของพวกเขาในโลกนี้อีกต่อไปซึ่งสอดคล้องกับประโยคที่ว่า "ตอนนี้เธอหายไป ไม่รู้อยู่แห่งหนใด ดอกพีชจะบานสะพรั่งตามสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน”ทันทีที่ชาร์ลีก้าวเข้ามาในศูนย์การประชุมและศูนย์จัดแสดงสินค้า เขามองไปรอบ ๆ อาคาร และเห็นป้ายผู้สูญหายของเจสันและจัสตินบนผนังตระกูลแกรนท์ได้เพิ่มรางวัลเงินสดเป็นสามร้อยล้านบาทแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวของพ่อและลูกชายเลยไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ถูกกำหนดให้ไร้ผลเมื่อชาร์ลี และแอนโธนีเดินเข้าไปในห้องโถง พวกเขาก็เห็นเกรแฮมและออโรร่าทันทีตระกูลควินตันทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร และอุปกรณ์ยาทุกชนิด ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ออกร้านในมหกรรมการแพทย์แผนจีน และต้องมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานวันนี้ทันท