เมื่อเจสันเห็นว่าขาของเขากลายเป็นเถ้าถ่านที่ลอยอยู่ในอากาศแล้ว เขาก็ตกใจมากจนร้องไห้ออกมาดัง ๆ เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า ชาร์ลีเป็นมังกรที่ส่งมาจากสวรรค์จริง ๆ และเขาก็ไม่ได้เป็นแค่แมลงต่อหน้าชาร์ลีด้วยซ้ำหลังจากนั้นชาร์ลีก็พูดด้วยท่าทีเฉยเมย “นับตั้งแต่ที่แกมองมาที่ภรรยาฉัน แกมีทางเดียวเท่านั้น! คือตายซะ!”ทันทีที่ได้ยินสิ่งนี้ เจสันก็กลัวมากจนสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ตาย?เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เจสันก็ทรุดลงอย่างหมดท่าพร้อมร้องไห้อย่างขมขื่น และขอร้องว่า “นายเวด ฉันเสียขาไปแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นคนพิการไปแล้ว! ได้โปรดปล่อยฉันออกไปเถอะนะ”ชาร์ลียิ้มเยาะก่อนที่เขาจะพูดว่า “แกไม่อยากไปกับพ่อของนายเหรอ? อย่าลืมสิว่า เขาตายก็เพราะแกนะ!”“ไม่ ฉันไม่อยากไป! ฉันไม่อยากตาย!” เจสันโบกมือของเขา ขณะที่เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งตาย?เขายังหนุ่มอยู่เลย! เขาจะกล้าเผชิญหน้ากับความตายได้อย่างไร?เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปชาร์ลีมองเขาด้วยสีหน้าสบาย ๆ ก่อนที่เขาจะหัวเราะเยาะ และพูดว่า “แกคิดว่า แกมีชีวิตอยู่แล้วมันจะดีมากกว่าตายงั้นเหรอ?”เจสันพยักหน้าอย
มีบางอย่างที่เขาอยากจะพูด แต่เขาไม่กล้าพูด‘แกมันก็แค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลวิลสัน ขยะชื่อดังไม่ใช่หรือไง?’เมื่อชาร์ลีเห็นว่าเจสันไม่กล้าพูดเขาก็ยิ้มก่อนจะพูดว่า “แกคงคิดว่าฉันเป็นแค่เศษขยะเหม็น ๆ ใช่ไหมล่ะ?”เจสันไม่กล้าตอบชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ให้ฉันได้บอกความจริงกับแกแล้วกันนะ ฉันเป็นนายน้อยของตระกูลเวดในอีสต์คลิฟฟ์ และฉันก็เป็นประธานของเอ็มแกรนด์กรุ๊ปอีกด้วย แกคิดว่าตระกูลของแกมีอำนาจมากกว่าของฉันหรือเปล่าล่ะ?”เจสันรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากในเวลานี้ตระกูลเวด?ตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดในประเทศไม่ใช่หรือ?ทำไม…ทำไมนายน้อยของตระกูลเวดในอีสต์คลิฟฟ์ถึงมาเป็นลูกเขยของตระกูลวิลสันในโอลรัสฮิลล์?เจสันไม่เข้าใจข้อเท็จจริงนี้เลย เขาจึงพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจ… ฉันไม่เข้าใจเลย ถ้านายเป็นนายน้อยของตระกูลเวดจริง ๆ แล้วทำไมนายถึงเต็มใจอยู่ในฐานะลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลวิลสันล่ะ? ทำไมนายต้องยอมให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ และเยาะเย้ยด้วย? นายสามารถทำให้ตระกูลวิลสันคุกเข่าต่อหน้านายได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว ทุกคนในโอลรัสฮิลล์จะยอมคำนับต่อหน้านายด้วยซ้ำ…”ชาร
ในตอนนี้เอเลนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่เธอจะตบหน้าอกของเธอแล้วพูดว่า “โชคดีเหลือเกิน! วันนี้ช่างโชคดีจริง ๆ ! วันนี้ฉันเกือบถูกจัสตินทำร้ายแล้ว…”แคลร์มองไปที่เธอก่อนที่เธอจะพูดอย่างหมดหนทางว่า “แม่คะ นี่แม่จะมีสติก่อนจะทำกับอะไรก็ตามในอนาคตได้ไหม? แม่อย่าเป็นพวกโลภมากแล้วก็ไม่ฉลาดได้ไหม? หนูไม่รู้ว่าเราจะทำอะไรได้บ้างก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะชาร์ลี วันนี้เราทั้งคู่คงต้องตายไปแล้ว!”เอเลนรู้ว่าเธอคิดผิด แต่เธอพูดด้วยท่าทีไม่เต็มใจว่า “แล้วยังไงล่ะ? แม่ก็ตกเป็นเหยื่อในเรื่องนี้เหมือนกันนะ! แล้วที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะชาร์ลี! ทุกอย่างเริ่มต้นจากชาร์ลี! ถ้าเขาไม่ยั่วโมโหเจสันตั้งแต่แรก เราก็คงไม่เจออันตรายแบบนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของชาร์ลีนั่นแหละ!”ตอนนี้แคลร์โกรธมาก และเธอก็ตะโกนว่า “แม่นี่ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ !”หลังจากนั้นแคลร์ก็ผลักประตูให้เปิดออก และเธอก็ลงจากรถก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปในบ้านทันทีเมื่อเอเลนเห็นแคลร์วิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความรีบร้อน เธอก็รีบเปิดประตูรถวิ่งตามลูกสาวไปชาร์ลีเองก็รีบตามไปโดยไม่พูดอะไรหลังจากเข้าไปในบ้าน ชาร์ลีก็รู้ว่าพ่อตาของเขาไม่อยู่บ้าน ดั
หลังจากนั้นแคลร์ก็พูดกับชาร์ลีว่า “ที่รัก ไปเก็บกระเป๋าเถอะ!”ชาร์ลีพยักหน้าขณะที่เขาพูดว่า “ได้ครับ”แคลร์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพูดกับเอเลนว่า “หนูจะโทรหาพ่อ และบอกเขาว่าวันนี้หนูจะย้ายออก หนูจะไม่อยู่กับพ่อแม่แล้ว ไม่ว่าแม่จะทำอะไรผิดในอนาคต หนูจะไม่ตำหนิแม่ หรือดุด่าอะไรแม่อีก!”เอเลนตื่นตระหนกทันทีในชีวิตนี้ ความหวังเดียวของเธอก็คือแคลร์ไม่อย่างนั้น หากเธอต้องพึ่งพาจาค็อบ เธอคงจะไม่มีโอกาสได้พลิกชีวิตแน่คราวนี้ดูเหมือนแคลร์จะมีท่าทีมุ่งมั่นมาก ถ้าเธอโทรหาจาค็อบจริง ๆ ก็คงแก้ตัวอะไรไม่ได้อีกแล้วเอเลนจึงรีบเข้าไปกอดขาของแคลร์พร้อมโอดครวญและพูดว่า “แคลร์ได้โปรดอย่าทิ้งแม่ไป! แคลร์ อย่าทิ้งแม่ไปเลยนะ แม่รู้ว่าแม่เป็นฝ่ายผิด แม่รู้ว่าแม่ผิดเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแม่มันใจแคบ และโลภมาก! แม่สัญญาว่าแม่จะเปลี่ยนตัวเอง โอเคไหมลูก? ให้โอกาสแม่ของลูกกลับใจเถอะนะ!”แคลร์จ้องมองแม่ด้วยสีหน้าว่างเปล่า “แม่ ถ้าแม่รู้ว่าแม่ทำผิดจริง ๆ แม่ควรขอโทษชาร์ลีสำหรับทุกสิ่งที่แม่พูด แล้วแม่ก็ควรขอบคุณชาร์ลีที่ช่วยชีวิตเราในวันนี้ด้วย!”เอเลนตอบโดยไม่รู้ตัว “ทำไมแม่ต้องขอบคุณไอ้ขยะนี่ด้วยล่
เนื่องจากเอเลนยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองแล้ว และรับประกันว่าเธอเองจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก แคลร์ก็ใจอ่อนและเธอเองก็ตัดสินใจที่จะไม่ติดใจเอาความกับเรื่องนี้อีกต่อไปเมื่อทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง แคลร์ก็ได้บอกกับชาร์ลีไปว่า “ชาร์ลี แม่ก็เป็นแบบี้เสมอแหละอย่าได้ถือสาตำหนิแม่มากเกินไปเลยนะคะ ถ้าแม่รู้ถึงความผิดพลาดของตัวเอง และเต็มใจที่จะกลับตัวกลับใจ เราก็ควรให้โอกาสแม่เป็นครั้งที่สองนะคะ”ชาร์ลีจะพูดอะไรได้บ้าง? สุดท้ายแล้ว เธอผู้นี้ก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของแคลร์ และเป็นแม่ยายของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยิ้มและพูดไปว่า “ผมเข้าใจคุณนะแคลร์ คุณไม่ต้องห่วงผมหรอก คุณตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเองเลย ผมเป็นสามีของคุณ และเขาก็เป็นแม่ยายของผม ดังนั้น ผมจะไปกล่าวโทษเรื่องที่เขาทำได้ยังไงล่ะ”แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะกอดชาร์ลีเบา ๆ และพูดไปว่า “ที่รักคะ ฉันรู้สึกขอบคุณคุณจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณแม่กับฉันก็คงไม่สามารถออกมาจากที่นั่นได้… ”ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “โอเค ไม่ต้องพูดถึงแล้วนะ คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมอีกด้วย!”“อื้ม… ” แคลร์พยักหน้าก่อนที่เธอจะพูดไปว่า “เราควรเลื่อนการย้ายออกไปก่อน คุ
ในขณะเดียวกัน เคนเน็ธซึ่งถูกชาร์ลีทำลายความเป็นชายไปแล้ว กำลังรอโทรศัพท์ของจัสตินอยู่ที่บ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาเห็นคู่พ่อลูกเดินขึ้นลงบริเวณทางเข้าคลินิกซีรีนเวิลด์ของแอนโธนี ดูเหมือนว่าทั้งคู่กำลังพยายามจุดไฟเผาคลินิกซีรีนเวิลด์ด้วยน้ำมันเบนซิน ตอนนั้นเองที่เคนเน็ธคิดได้ว่าเขาสามารถใช้คนโง่พวกนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเองได้เดิมทีเขาคิดว่า เขาสามารถหลอกสองพ่อลูกให้กำจัดแอนโธนีไปก่อนได้ หลังจากนั้น เขาก็จะสลับเปลี่ยนยาจริงของแอนโธนีกับยาปลอมที่เขาเตรียมไว้แล้วทันทีที่เขาได้สัมผัสกับยาจริงของแอนโธนี เขาจะสามารถฟื้นฟูความเป็นชายให้กลับมาปึ๋งปั๋งอย่างในอดีตได้อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจัสตินจะบอกว่าวันนี้จะโทรหาเขา แต่ก็ไม่ได้โทรหาเขาเลย สิ่งนี้ทำให้เคนเน็ธ กังวลเล็กน้อยเขาไม่รู้จักชื่อของจัสติน เขาทำได้เพียงกดหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้เท่านั้น ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้งก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ นั้นเพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ให้บริการนั้นเองยิ่งเขาไม่สามารถติดต่อจัสตินได้มากเท่าไหร่ เคนเน็ธก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้นคุณท่านวิลสัน คริสโตเฟอร์ ฮันนาห์ ลูกสาวของพวกเขา เวนดี้ และลูกชาย แฮโรลด์ ทุ
เมื่อเคนเน็ธ คิดถึงความจริงที่ว่า การหายตัวไปของพ่อและลูกชายของตระกูลแกรนท์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับชาร์ลี เคนเน็ธก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นกังวลถ้าชาร์ลีทำให้สองพ่อลูกหายไปจากโลกนี้ได้จริง ๆ เขาก็กลัวว่าชาร์ลีจะกำจัดเขาไปด้วยอีกคน...ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากสองพ่อลูกได้หายตัวไปแล้ว เขาก็จะไม่ได้ยาวิเศษของแอนโธนีน่ะสิท้ายที่สุดแล้ว คนตายไปแล้วก็ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ในเวลานี้ เขาก็ไม่ควรทำอะไรที่เป็นการยั่วยุแอนโธนีอีกด้วยในขณะที่ทุกคนนิ่งเงียบ คุณท่านวิลสันก็มองไปที่เคนเน็ธด้วยท่าทางที่ประจบประแจง ในขณะที่เธอพูดด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมไปว่า “คุณวิลสัน เราควรไปที่โรงพยาบาลใหญ่ในอีสต์คลิฟฟ์แทนดีไหม? บางทีคุณอาจจะสามารถหาวิธีในรักษาอาการของคุณได้ก็ได้นะั”เคนเน็ธเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายในการช่วยชีวิตตระกูลวิลสัน ในเวลานี้ คุณท่านวิลสันรู้สึกกังวลมากกว่าเขาเสียอีก หากเคนเน็ธไม่สามารถฟื้นฟูความเป็นชายได้ ตระกูลวิลสันจะพลาดเงินอีกเจ็ดร้อยล้านบาทที่เขาสัญญาไว้แล้วว่าจะลงทุนในวิลสันกรุ๊ป“ใช่ คุณวิลสัน ถึงดร.ซิมมอนส์จะเป็นผู้ที่มีหน้ามีตาและมีชื่อเสียง แต่เขาก็มักจะปรากฏตัวอยู่รอบ ๆ ขยะอย่า
วันนี้เวนดี้แต่งตัวสวยมาก เธอสวมชุดรัดรูปสีดำที่มีมูลค่ากว่าล้านบาท ชุดนี้เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าและหุ่นที่สวยงามของเธอ และในคืนนี้เธอก็แต่งหน้าหนาเป็นพิเศษแม้ว่าเธอจะไม่สวยเท่าแคลร์ หรือจัสมิน แต่เธอก็สามารถทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่ตื่นเต้นได้อย่างง่ายดาย หลังจากแต่งหน้าและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เปิดเผยบางส่วนแล้วเมื่อเธอได้ยินว่า เธอกำลังจะได้พบกับนายท่านของตระกูลวีเวอร์ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกันแม้ว่าตระกูลวีเวอร์จะไม่ใช่หนึ่งในตระกูลชั้นนำในโอลรัสฮิลล์ แต่ก็ยังเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งและมีอำนาจกว่ามาก เมื่อเทียบกับตระกูลวิลสันตอนนี้ตระกูลวิลสันยังคงต้องดิ้นรนเป็นอย่างมาก เวนดี้ก็หวังว่าเธอจะได้รู้จักคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากขึ้น หากเธอโชคดีพอ เธออาจจะมีโอกาสได้นำบางสิ่งบางอย่างมาแก้ไขและพัฒนาธุรกิจของตระกูลวิลสันได้เคนเน็ธและเวนดี้กำลังรออยู่ในห้องส่วนตัว สักครู่หนึ่งต่อมา จู่ ๆ ก็มีคนผลักประตูให้เปิดออกในตอนนั้นเอง ชายวัยกลางคนในชุดสูทอาร์มานี่ เดินเข้ามาในห้อง ชายคนนี้หวีผมไปด้านข้าง เขาดูร้ายกาจมาก เขายังใส่นาฬิกา Patek Phillipe ที่ข้อมืออีกด้วยชายคนหนึ่งที่ดูอ่อนกว่