ชาร์ลีมองดูเวลาบนนาฬิกาและรู้สึกว่ามันยังพอมีเวลาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าก่อนที่จะพูดตอบไปว่า “เอาสิ คุณเลือกสถานที่ได้เลย!”จัสมินมีความสุขมากในเวลานี้และเธอรีบตอบไปว่า "ฉันพอรู้จักบาร์ดี ๆ อยู่ที่นึงค่ะ!"หลังจากนั้นจัสมินก็รีบเหยียบคันเร่งขณะที่เธอขับรถมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง…จัสมินขับรถพาเขาไปที่บาร์ชื่อ ซันนี่จัสมินหยุดรถที่หน้าทางเข้าบาร์ก่อนที่เธอจะส่งกุญแจรถไปให้เด็กหนุ่มที่ทำงานเป็นคนรับจอดรถ หลังจากนั้นเธอก็พาชาร์ลีเข้าไปในบาร์อย่างรวดเร็วทันทีที่พนักงานเสิร์ฟเห็นเธอ เขาก็ทักทายเธอด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณมัวร์! วันนี้คุณอยากนั่งที่เดิมไหมครับ?”จัสมินพยักหน้าและอีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “ตามผมมาได้เลยครับ”มีฟลอร์เต้นรำอยู่ที่ชั้นหนึ่งของบาร์และบรรยากาศก็ค่อนข้างคึกคักเพราะมีดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ด้วย ในตอนนี้บริกรได้นำทั้งสองคนไปที่ชั้นสอง ชั้นสองค่อนข้างว่างและมีที่นั่งไม่มากนักในชั้นนี้ ทุกคนที่นั่งอยู่บนชั้นสองสามารถมองลงมาเห็นด้านล่างได้เลยโดยที่ไม่มีสิ่งรบกวนมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นมันสะดวกมากกว่าสำหรับพว
จัสมินยิ้มหลังจากฟังคำแนะนำพิเศษของชาร์ลี หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ได้สิคะ เรามาทำกันเถอะ! เนื่องจากนี่เป็นไวน์แก้วแรก ฉันจะเริ่มก่อนนะ!”หลังจากนั้นจัสมินก็กระแอมในลำคอก่อนที่เธอจะยิ้มหวานและพูดว่า “ไวน์แก้วแรกนี้ ต้องขอบคุณคุณที่ช่วยคุณปู่ของฉันในวันนี้! ฉันขอขอบคุณคุณที่ช่วยฉันในวันนี้นะคะ!”ชาร์ลีพยักหน้าและยิ้ม “โอเค เรามาดื่มไวน์แดงแก้วนี้กัน!”หลังจากที่เขาพูดจบชาร์ลีก็ยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนที่เขาจะชนเบา ๆ กับแก้วไวน์ในมือของจัสมิน หลังจากนั้นเขาก็ดื่มไวน์แดงทั้งแก้วในครั้งเดียวในตอนนี้เอง จัสมินก็ดื่มไวน์แดงหมดทั้งแก้วทันที หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาและถามว่า “คุณเวด ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ ว่าทำไมเราถึงควรดื่มไวน์แดงแก้วที่สองนี้?”“ได้สิ” ชาร์ลียิ้ม “ไวน์แดงแก้วที่สองนี้เป็นการเฉลิมฉลองโชคชะตาและพรหมลิขิต! ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายในโลกใบนี้ แต่ก็เป็นเพราะโชคชะตาของเราที่ทำให้เราทั้งคู่ได้พบและได้รู้จักกัน! ดังนั้นเราควรจะเฉลิมฉลองให้กับโชคชะตานี้!”“ได้เลยค่ะ!” จัสมินตอบและเธอยิ้มพร้อมตะโกนออกมาว่า “ดื่มเพื่อโชคชะตาของเรา!”ทันทีหลังจากนั้นจัสมินก็เติมไวน์แดงเพิ่มอีกแก้ว ก่อนที
ในเวลานี้ชาร์ลีรีบถามด้วยความอยากรู้ว่า “คุณหมายถึงอะไร?”จัสมินตอบด้วยท่าทีจริงจัง “คุณเวด คุณดูเหมือนเป็นคนเรียบง่ายและสบาย ๆ แต่จริง ๆ แล้วคุณเก่งและมีความสามารถมาก ถึงแม้ว่าคุณจะมีความสามารถมากแต่คุณก็ไม่อวดเลย หลังจากทำความรู้จักคุณมากขึ้น ฉันรู้สึกดีว่าคุณไม่พยายามอวดทักษะหรือความสามารถของคุณ แต่ถ้าใครมาแตะขีดจำกัดของคุณ หรือท้าทายคุณแล้ว คุณจะไม่ลังเลที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีความสามารถอะไร ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการที่คุณใช้ในการตอบโต้การโจมตีหรือป้องกันตัวเองมักจะไม่สามารถคาดเดาได้ และค่อนข้างแตกต่างจากที่คนธรรมดาเขาจะทำกัน”หลังจากนั้น จัสมินก็พูดต่อว่า “ที่สำคัญที่สุดคือ ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลวิลสัน ในเมื่อคุณมีศักยภาพและมีความสามารถมากขนาดนี้ ตระกูลวิลสันเป็นเพียงแค่ตระกูลธรรมดา อาจจะเป็นอันดับสองหรือเป็นอันดับสามก็ตามแต่ แต่ฉันคิดว่าคุณทำได้ดีกว่านี้ เพราะคุณมีศักยภาพมากมายในตัว คุณไม่รู้สึกแบบนั้นเหรอคะ?”ชาร์ลีไม่ตอบคำถามของเธอ แต่เขายิงคำถาม ไปถามเธอแทน “แล้วคุณคิดว่าผมเหมาะสม ที่จะอยู่ที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่ในตระกูลวิลสัน?”จั
ชาร์ลีหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้หลังจากได้ยินคำพูดของจัสมิน “ดูเหมือนว่าคุณไม่อยากจะทำตามกฎของตระกูลมัวร์เลยนะ”จัสมินพยักหน้าก่อนที่เธอจะตอบไปว่า “ฉันไม่อยากถูกผูกมัดกับกฎของตระกูลมัวร์ แต่ฉันก็ไม่มีทางออกอื่นนอกต้องจากทำตามกฎ”“ทำไมล่ะ?” ชาร์ลีถามด้วยท่าทางจริงจัง “ผมคิดว่าปู่ของคุณอาจเปลี่ยนใจหลังจากผ่านอาการป่วยขั้นวิกฤติที่เป็นประสบการณ์เฉียดตายนี้มาก็ได้นะ แล้วคุณก็คือเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับการช่วยชีวิตให้มีชีวิตอยู่ และทำให้เขามีชีวิตที่มีสุขภาพดีได้อีกตั้งสองสามปี ถ้าเขารู้สึกขอบคุณ คุณจริง ๆ คุณสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อขออิสรภาพในเรื่องความรักและตัดสินใจเลือกผู้ชายที่คุณอยากแต่งงานด้วยตัวเองได้ ผมเชื่อว่าเขาจะให้อิสระกับคุณในการเลือกสามีของคุณเองอย่างแน่นอน”จัสมินยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “นั่นเป็นไปไม่ได้เลย ถึงคุณปู่จะรักฉันจริง ๆ แต่ก็รู้สึกแย่กับฉันด้วย เขาคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”“ทำไมล่ะ?” ชาร์ลีถามด้วยสีหน้างงงวย “คุณปู่ของคุณเป็นหัวหน้าตระกูลมัวร์ไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นคนที่ควบคุมตระกูลมัวร์ทั้งหมดและทุกสิ่งที่เขาตัดสินใจจะถือเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เขาต้องก
ใครจะไปรู้ว่าคุณท่านวิลสันเป็นเพียงผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่โลภมากและไร้ยางอายในตัวเอง!ในตอนนั้นเขายินดีที่จะคุกเข่าต่อหน้าใครก็ได้ ถ้าคนคนนั้นเสนอที่จะให้เงินสิบล้านบาทแก่เขาไม่มีใครสามารถต้านทานแรงดึงดูดของเงินได้หรอก เมื่อพวกเขาขัดสนผู้ที่สามารถถือว่าเงินเป็นเหมือนสิ่งสกปรกได้จริง ๆ คือผู้ที่มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายเงินร้อยสองร้อยล้านสำหรับชาร์ลีตอนนี้คืออะไรเหรอ? ในตอนนี้ เขามีเงินในบัญชีธนาคารหลายแสนล้านบาทและบริษัทเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทำกำไรให้เขาได้เป็นแสนล้านบาทในทุกปี เขาไม่รู้ว่าจะใช้เงินไปกับอะไรแล้วดังนั้นอะไรคือประเด็นที่เขาจะต้องยอมรับเงินสองร้อยล้านบาทจากพวกเขาล่ะ? ชาร์ลีค่อนข้างจะไม่อยากจะรับเงินเท่าไหร่แต่อยากให้พวกเขาคำนับเคารพและปฏิบัติดีต่อเขาในฐานะผู้มีพระคุณของพวกเขาแทน เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงความเคารพนับถือต่อตนมากขึ้นในอนาคตนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆแต่เขาจะบอกจัสมินได้อย่างไรว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?ตอนนี้จัสมินรู้สึกว่าเขาเป็นนักบุญที่ทำกับเงินเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งสกปรกหากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะปล่อยให้เธอได้คิดแบบน
จัสมินกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลมัวร์หลังจากส่งชาร์ลีกลับบ้านในคืนนั้นนายท่านมัวร์ไม่ได้ฟังคำสั่งของชาร์ลีที่บอกให้นอนพักบนเตียงเลย ตอนนี้เขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาคุยกับลุงของจัสมินที่กำลังรายงานสถานการณ์ของตระกูลมัวร์ทั้งหมดให้นายท่านมัวร์ฟังทันทีที่เขาเห็นจัสมินกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลมัวร์ นายท่านมัวร์โบกมือทักก่อนจะพูดว่า “จัสมิน! ฉันรอให้เธอกลับบ้านอยู่พอดี!”“คุณปู่!” จัสมินตอบด้วยความเคารพก่อนที่เธอจะถามว่า “คุณปู่รอหนูทำไมเหรอคะ?”ในเวลานี้นายท่านมัวร์ตอบว่า “วันนี้เธอเป็นคนเชิญคุณเวดมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ? เธอช่วยเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยว่าเธอพบเขาได้อย่างไร?”“ได้ค่ะ คุณปู่!”จัสมินรีบอธิบายทันที “คุณเวดและหนูพบกันโดยบังเอิญที่ร้านวินเทจดีลักซ์ ตอนนั้นคุณเวดอยู่กับพ่อตา…”“พ่อตา?” นายท่านมัวร์ถามขณะที่เขาขมวดคิ้วทันที “คุณเวดแต่งงานแล้วรึ?”"ใช่ค่ะ" จัสมินพยักหน้ารับทันที“ช่างน่าเสียดาย! น่าเสียดายจริง ๆ !” นายท่านมัวร์ตอบในขณะที่เขาส่ายหัวและถอนหายใจ “นี่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริง ๆ !”ในตอนนี้เอง รูเบนรีบพูดต่อว่า “คุณปู่ไม่ต้องกังวลไปครับ! ผมเคยได้ยินข่าวเกี
จัสมินรีบตอบกลับไปว่า “คุณปู่อยากให้หนูทำอะไรเหรอคะ?!”ทันใดนั้น นายท่านมัวร์ก็พูดขึ้นว่า “ฉันต้องการให้เธอทำให้คุณเวดเป็นลูกเขยของตระกูลมัวร์ให้ได้!”“อะไรนะคะ?” ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นรวมถึงจัสมินทำได้เพียงมองนายท่านมัวร์ด้วยความตกใจในเวลานี้ จัสมินรู้สึกว่าในใจเต้นจนแทบระเบิดอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพูดด้วยความรอบคอบ “คุณปู่คะ คุณเวด… แต่งงานแล้วนะคะ”“แล้วยังไง?” ชายชราตอบอย่างแน่วแน่ “ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะแต่งงานแล้ว เขามีเมียมาแล้วกี่คน หรือมีเมียน้อยอีกหลายคน หรือแม้แต่จะมีลูกแล้วหลายคน ยังไงเราก็ต้องจับเขาให้ได้! ฉันอยากมีหลานเขยแบบเขา หากเขาเป็นลูกเขยของตระกูลมัวร์ ธุรกิจของตระกูลมัวร์จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เราจะสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจและชื่อเสียงได้ ในที่สุดตระกูลมัวร์ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศนี้!”จัสมินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็มีความคาดหวังอย่างแรงกล้าในใจ หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่นายท่านมัวร์ ก่อนที่เธอจะตอบไปว่า “ได้ค่ะคุณปู่ หนูเข้าใจแล้ว”นายท่านมัวร์หัวเราะก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ดี! ดี! ดี! ถ้าเธอ
แคลร์รู้สึกสับสนมาหลังจากได้ยินแม่ของเธอชักชวนให้เธอกลับไปทำงานให้กับวิลสันกรุ๊ปอีกครั้ง เธอจึงถามออกไปว่า “คุณแม่คะ คุณย่าให้ความสุขแบบไหนกับคุณแม่งั้นเหรอคะ? ทำไมคุณแม่ถึงคอยบังคับให้หนูกลับไปทำงานที่วิลสันกรุ๊ปอยู่เรื่อยเลย?”ในเวลานี้ เอเลนวิตกกังวลเป็นห่วงลูกสาวเธออย่างมาก เธอตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าแกทำงานให้วิลสันกรุ๊ป แกจะได้รับเงินเดือนประจำปีที่แน่นอน มันดีกว่าไปการเริ่มต้นธุรกิจเองไม่ใช่เหรอ? แกจะทำยังไงถ้าแกต้องสูญเสียเงินทั้งหมดไปเพราะแกเลือกที่จะเริ่มต้นธุรกิจของแกเอง? แล้วพ่อของแกกับแม่จะทำยังไง?”แคลร์ตอบอย่างแน่วแน่ว่า “แม่เลิกบังคับหนูเถอะค่ะ! หนูจะไม่กลับไปทำงานให้วิลสันกรุ๊ปอีกแล้ว ถึงหนูจะต้องเป็นขอทานขออาหารข้างถนน แต่หนูก็ไม่มีวันกลับไปทำงานให้วิลสันกรุ๊ปอีกตลอดชีวิต! หนูอาจจะต้องเป็นขอทานขออาหารจากคนอื่น แต่หนูจะไม่มีวันสูญเสียความภาคภูมิใจหรือศักดิ์ศรีของตัวเองเด็ดขาด!”เอเลนจ้องไปที่แคลร์ ก่อนที่เธอจะพูดว่า “ที่แกทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษาความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของตัวเองแค่นั้นเหรอ?”หลังจากที่เอเลนพูดจบเธอก็เริ่มร้องไห้และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เสียใจว