แอนโธนีตกใจมากเขาพูดอะไรไม่ออกอีกเลยในเวลานี้ ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน...เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่ายาวิเศษที่เขาคิดว่าตัวเองซื้อมาจากปรมาจารย์นั้นเป็นของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา...ยิ่งไปกว่านั้น ชาร์ลียังบอกว่า นี่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น?หากผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปมีประสิทธิภาพที่สูงเช่นนี้อยู่แล้ว แล้วผลของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะไม่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้อีกหรือ?ชายวัยกลางคนจากตระกูลมัวร์ก็ตกตะลึงในเวลานี้และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกปีติในใจ!เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจัสมินมารู้จักพระเจ้าอย่างเขาได้อย่างไร!หากตระกูลมัวร์สามารถให้ชายหนุ่มคนนี้อยู่เคียงข้างพวกเขา พวกเขาก็จะมีสุขภาพที่ดีและเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอนนั้นเป็นเพราะว่า ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีอำนาจหรือร่ำรวยแค่ไหนแต่ทุกคนก็ล้วนกลัวความตายมากที่สุด!ไม่ว่าใครจะมีเงินหรือมีอำนาจมากแค่ไหน พวกเขามีความสุขกับชีวิตได้ก็ต่อเมื่อมีสุขภาพที่แข็งแรง!หากใครได้รู้จักกับใครบางคนเช่นปรมาจารย์หนุ่มผู้นี้ผู้ซึ่งสามารถผลิตยาวิเศษอย่างที่เขาปรารถนาได้อย่างง่ายดาย การยืดชีวิตของพวกเขาจะไม่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป!ยิ่ง
ในความคิดของแอนโธนีเขาเทียบกับชาร์ลีไม่ได้เลย แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่อีกห้าสิบปีก็ตามทักษะทางการแพทย์ของชายคนนี้ไม่อาจหยั่งรู้ได้ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อยิ่งไปกว่านั้นคือความจริงที่ว่าเขาสามารถผลิตยาวิเศษที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ เขาทำให้รู้สึกเหมือนพระเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่!ในตอนนี้ใบหน้าของไซล่าแดงระเรื่อและเธอไม่รู้จะพูดอะไรอีก ในความเป็นจริงเธอไม่เชื่อในทักษะของชาร์ลีในตอนแรก แต่ตอนนี้เธอเชื่อมั่นที่สุดแล้ว!หลังจากนั้นชาร์ลีก็พูดกับแอนโธนีอย่างเฉยเมยว่า “ดร.ซิมมอนส์ ถึงแม้ว่ายาที่คุณซื้อมานั้นจะได้ผลจริงสำหรับการบาดเจ็บภายในของคุณ แต่ก็ยังขาดส่วนผสมบางอย่าง ดังนั้นผลของยาเม็ดนี้ มีผลเพียงประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์สำหรับอาการของคุณ ให้เวลาผมสักพัก ผมจะได้ผลิตยาที่เสร็จสมบูรณ์แบบให้กับคุณ ผมเชื่อว่าอาการบาดเจ็บภายในของคุณจะหายเป็นปกติหลังจากทานยานี้”“ขอบคุณคุณเวดมาก! ขอบคุณมากจริง ๆ !”แอนโธนีรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง เขาน้ำตาไหลขณะที่เขาคุกเข่าลงต่อหน้าชาร์ลีไซล่าคุกเข่าลงข้าง ๆ ปู่ของเธออย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะพูดว่า “คุณเวด ขอบคุณสำหรับความกรุณานี้ค่ะ”แอนโธนีพูดต่อว่า “คุณเวด ผมรู้
แอนโธนีไม่ได้คาดหวังให้ชาร์ลีพูดเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับเขาและหลานสาวในเวลานี้ เขารู้สึกขอบคุณและถ่อมตัวมากขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “นายท่านมัวร์ คุณเวดถ่อมตัวเกินไป ในความเป็นจริงคุณเวดเป็นคนที่ช่วยคุณให้พ้นจากวิกฤตินี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เราคงไม่สามารถทำให้คุณฟื้นขึ้นมาได้จริง ๆ หรอกครับ”นายท่านมัวร์พยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดอย่างสุภาพว่า “ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณมาเป็นเวลานานแล้ว อย่าได้ดูถูกตัวเองเลย คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว ผมขอขอบคุณในความกรุณาและความพยายามของคุณในการมาที่นี่เพื่อช่วยผมนะ ในอนาคตก็ไม่ต้องเกรงใจที่จะไปมาหาสู่กันหากคุณต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลมัวร์”หลังจากนั้นนายท่านมัวร์มองไปที่ชาร์ลีก่อนที่เขาจะพูดว่า “คุณเวด ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ในอนาคตหากมีอะไรที่ตระกูลมัวร์สามารถทำให้คุณได้อย่าได้เกรงใจที่จะถามฉันเลย ฉันเป็นหนี้ชีวิตคุณแล้ว”ชาร์ลียิ้มก่อนที่เขาจะตอบว่า “นายท่านมัวร์ คุณช่างสุภาพและมีน้ำใจมากครับ”หลังจากที่เขาพูดเสร็จ ชาร์ลีก็รู้ว่ามันรบกวนเวลาเขามามากแล้ว ดังนั้นชาร์ลีจึงรีบพูดว่า “นายท่านมัวร์ คุณเพิ่งหายจากอาการป่วยหนักและผมไม่แนะนำให้คุณใช้พลังงานมากหรือทำงา
ชาร์ลีมองดูเวลาบนนาฬิกาและรู้สึกว่ามันยังพอมีเวลาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าก่อนที่จะพูดตอบไปว่า “เอาสิ คุณเลือกสถานที่ได้เลย!”จัสมินมีความสุขมากในเวลานี้และเธอรีบตอบไปว่า "ฉันพอรู้จักบาร์ดี ๆ อยู่ที่นึงค่ะ!"หลังจากนั้นจัสมินก็รีบเหยียบคันเร่งขณะที่เธอขับรถมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง…จัสมินขับรถพาเขาไปที่บาร์ชื่อ ซันนี่จัสมินหยุดรถที่หน้าทางเข้าบาร์ก่อนที่เธอจะส่งกุญแจรถไปให้เด็กหนุ่มที่ทำงานเป็นคนรับจอดรถ หลังจากนั้นเธอก็พาชาร์ลีเข้าไปในบาร์อย่างรวดเร็วทันทีที่พนักงานเสิร์ฟเห็นเธอ เขาก็ทักทายเธอด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ คุณมัวร์! วันนี้คุณอยากนั่งที่เดิมไหมครับ?”จัสมินพยักหน้าและอีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “ตามผมมาได้เลยครับ”มีฟลอร์เต้นรำอยู่ที่ชั้นหนึ่งของบาร์และบรรยากาศก็ค่อนข้างคึกคักเพราะมีดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ด้วย ในตอนนี้บริกรได้นำทั้งสองคนไปที่ชั้นสอง ชั้นสองค่อนข้างว่างและมีที่นั่งไม่มากนักในชั้นนี้ ทุกคนที่นั่งอยู่บนชั้นสองสามารถมองลงมาเห็นด้านล่างได้เลยโดยที่ไม่มีสิ่งรบกวนมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นมันสะดวกมากกว่าสำหรับพว
จัสมินยิ้มหลังจากฟังคำแนะนำพิเศษของชาร์ลี หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ได้สิคะ เรามาทำกันเถอะ! เนื่องจากนี่เป็นไวน์แก้วแรก ฉันจะเริ่มก่อนนะ!”หลังจากนั้นจัสมินก็กระแอมในลำคอก่อนที่เธอจะยิ้มหวานและพูดว่า “ไวน์แก้วแรกนี้ ต้องขอบคุณคุณที่ช่วยคุณปู่ของฉันในวันนี้! ฉันขอขอบคุณคุณที่ช่วยฉันในวันนี้นะคะ!”ชาร์ลีพยักหน้าและยิ้ม “โอเค เรามาดื่มไวน์แดงแก้วนี้กัน!”หลังจากที่เขาพูดจบชาร์ลีก็ยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนที่เขาจะชนเบา ๆ กับแก้วไวน์ในมือของจัสมิน หลังจากนั้นเขาก็ดื่มไวน์แดงทั้งแก้วในครั้งเดียวในตอนนี้เอง จัสมินก็ดื่มไวน์แดงหมดทั้งแก้วทันที หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาและถามว่า “คุณเวด ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ ว่าทำไมเราถึงควรดื่มไวน์แดงแก้วที่สองนี้?”“ได้สิ” ชาร์ลียิ้ม “ไวน์แดงแก้วที่สองนี้เป็นการเฉลิมฉลองโชคชะตาและพรหมลิขิต! ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายในโลกใบนี้ แต่ก็เป็นเพราะโชคชะตาของเราที่ทำให้เราทั้งคู่ได้พบและได้รู้จักกัน! ดังนั้นเราควรจะเฉลิมฉลองให้กับโชคชะตานี้!”“ได้เลยค่ะ!” จัสมินตอบและเธอยิ้มพร้อมตะโกนออกมาว่า “ดื่มเพื่อโชคชะตาของเรา!”ทันทีหลังจากนั้นจัสมินก็เติมไวน์แดงเพิ่มอีกแก้ว ก่อนที
ในเวลานี้ชาร์ลีรีบถามด้วยความอยากรู้ว่า “คุณหมายถึงอะไร?”จัสมินตอบด้วยท่าทีจริงจัง “คุณเวด คุณดูเหมือนเป็นคนเรียบง่ายและสบาย ๆ แต่จริง ๆ แล้วคุณเก่งและมีความสามารถมาก ถึงแม้ว่าคุณจะมีความสามารถมากแต่คุณก็ไม่อวดเลย หลังจากทำความรู้จักคุณมากขึ้น ฉันรู้สึกดีว่าคุณไม่พยายามอวดทักษะหรือความสามารถของคุณ แต่ถ้าใครมาแตะขีดจำกัดของคุณ หรือท้าทายคุณแล้ว คุณจะไม่ลังเลที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีความสามารถอะไร ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการที่คุณใช้ในการตอบโต้การโจมตีหรือป้องกันตัวเองมักจะไม่สามารถคาดเดาได้ และค่อนข้างแตกต่างจากที่คนธรรมดาเขาจะทำกัน”หลังจากนั้น จัสมินก็พูดต่อว่า “ที่สำคัญที่สุดคือ ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลวิลสัน ในเมื่อคุณมีศักยภาพและมีความสามารถมากขนาดนี้ ตระกูลวิลสันเป็นเพียงแค่ตระกูลธรรมดา อาจจะเป็นอันดับสองหรือเป็นอันดับสามก็ตามแต่ แต่ฉันคิดว่าคุณทำได้ดีกว่านี้ เพราะคุณมีศักยภาพมากมายในตัว คุณไม่รู้สึกแบบนั้นเหรอคะ?”ชาร์ลีไม่ตอบคำถามของเธอ แต่เขายิงคำถาม ไปถามเธอแทน “แล้วคุณคิดว่าผมเหมาะสม ที่จะอยู่ที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่ในตระกูลวิลสัน?”จั
ชาร์ลีหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้หลังจากได้ยินคำพูดของจัสมิน “ดูเหมือนว่าคุณไม่อยากจะทำตามกฎของตระกูลมัวร์เลยนะ”จัสมินพยักหน้าก่อนที่เธอจะตอบไปว่า “ฉันไม่อยากถูกผูกมัดกับกฎของตระกูลมัวร์ แต่ฉันก็ไม่มีทางออกอื่นนอกต้องจากทำตามกฎ”“ทำไมล่ะ?” ชาร์ลีถามด้วยท่าทางจริงจัง “ผมคิดว่าปู่ของคุณอาจเปลี่ยนใจหลังจากผ่านอาการป่วยขั้นวิกฤติที่เป็นประสบการณ์เฉียดตายนี้มาก็ได้นะ แล้วคุณก็คือเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับการช่วยชีวิตให้มีชีวิตอยู่ และทำให้เขามีชีวิตที่มีสุขภาพดีได้อีกตั้งสองสามปี ถ้าเขารู้สึกขอบคุณ คุณจริง ๆ คุณสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อขออิสรภาพในเรื่องความรักและตัดสินใจเลือกผู้ชายที่คุณอยากแต่งงานด้วยตัวเองได้ ผมเชื่อว่าเขาจะให้อิสระกับคุณในการเลือกสามีของคุณเองอย่างแน่นอน”จัสมินยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “นั่นเป็นไปไม่ได้เลย ถึงคุณปู่จะรักฉันจริง ๆ แต่ก็รู้สึกแย่กับฉันด้วย เขาคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”“ทำไมล่ะ?” ชาร์ลีถามด้วยสีหน้างงงวย “คุณปู่ของคุณเป็นหัวหน้าตระกูลมัวร์ไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นคนที่ควบคุมตระกูลมัวร์ทั้งหมดและทุกสิ่งที่เขาตัดสินใจจะถือเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เขาต้องก
ใครจะไปรู้ว่าคุณท่านวิลสันเป็นเพียงผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่โลภมากและไร้ยางอายในตัวเอง!ในตอนนั้นเขายินดีที่จะคุกเข่าต่อหน้าใครก็ได้ ถ้าคนคนนั้นเสนอที่จะให้เงินสิบล้านบาทแก่เขาไม่มีใครสามารถต้านทานแรงดึงดูดของเงินได้หรอก เมื่อพวกเขาขัดสนผู้ที่สามารถถือว่าเงินเป็นเหมือนสิ่งสกปรกได้จริง ๆ คือผู้ที่มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายเงินร้อยสองร้อยล้านสำหรับชาร์ลีตอนนี้คืออะไรเหรอ? ในตอนนี้ เขามีเงินในบัญชีธนาคารหลายแสนล้านบาทและบริษัทเอ็มแกรนด์กรุ๊ปทำกำไรให้เขาได้เป็นแสนล้านบาทในทุกปี เขาไม่รู้ว่าจะใช้เงินไปกับอะไรแล้วดังนั้นอะไรคือประเด็นที่เขาจะต้องยอมรับเงินสองร้อยล้านบาทจากพวกเขาล่ะ? ชาร์ลีค่อนข้างจะไม่อยากจะรับเงินเท่าไหร่แต่อยากให้พวกเขาคำนับเคารพและปฏิบัติดีต่อเขาในฐานะผู้มีพระคุณของพวกเขาแทน เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงความเคารพนับถือต่อตนมากขึ้นในอนาคตนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆแต่เขาจะบอกจัสมินได้อย่างไรว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่?ตอนนี้จัสมินรู้สึกว่าเขาเป็นนักบุญที่ทำกับเงินเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งสกปรกหากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะปล่อยให้เธอได้คิดแบบน
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล