ทันทีที่มีคนพูดถึงชื่ออันยิ่งใหญ่ของเคอร์ติส ชายวัยกลางคนทุกคนจากตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอำนาจในอีสต์คลิฟฟ์ก็ได้แต่ถอนหายใจนี่เป็นเพราะ… สำหรับตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจเหล่านี้แล้ว ไม่มีความมั่งคั่งใดจะสำคัญไปกว่าลูกชายหลานชายที่เก่งและมีอำนาจซึ่งสามารถนำพาครอบครัวไปสู่จุดสูงสุดได้!การประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมก็เหมือนกับสนามรบ บางครั้งการไถลออกนอกทางเพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่การทำลายล้างทั้งกองทัพได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจะต้องเผชิญกับความพินาศไปชั่วนิรันดร์ ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจจำนวนมาก ถึงต้องเผชิญกับความขึ้น ๆ ลง ๆ ในเกมการแข่งกัน มีอยู่หลายตระกูลที่ถึงกับเลือกที่จะล่าถอยออกจากสนามต่อสู้ทางประวัติศาสตร์นี้หากตระกูลต้องการความเจริญรุ่งเรือง เงินหรือทรัพย์สินที่พวกเขามีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือลูกหลานของพวกเขาสามารถผลิตทายาทที่เก่งและมีความสามารถรุ่นต่อไปได้หรือเปล่าการที่ตระกูลเวดมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั้น คือสิ่งที่แยกไม่ออกจากรากฐานอันมั่นคงที่เคอร์ติสได้วางเอาไว้ให้กับตระกูลเวดเมื่อยี่สิบปีที่แล้วดังนั้นทุก ๆ
โรแกน… ลูกชายคนที่สามก็รีบยอมรับความผิดพลาดของเขาเช่นกัน“พี่ใหญ่ ผมก็รู้สึกแบบเดียวกับพี่รอง! ผมอยากจะขอโทษพี่! ถ้าพี่มีคำชี้แนะอะไรในอนาคตก็สั่งผมมาได้เลย! ผมจะเชื่อฟังคำสั่งของพี่โดยไม่ลังเลไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม!”ยูลมีสีหน้าที่ดูตกตะลึงและอยู่ในอารมณ์ซึมเศร้าอันที่จริงเขาไม่ได้คาดคิดว่าน้องรองและน้องเล็กจะยอมล้มเลิกการต่อต้านอย่างรวดเร็วขนาดนี้เดิมทีเขาคิดว่าน้องชายสองคนนั้นจะต่อต้านเข้าอย่างดื้อรั้นต่อไป เขาไม่เคยคาดหวังว่าตัวตนของชาร์ลีและเคอร์ติส… พ่อของเขาจะช่วยทำให้คนพวกนั้นรู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้ดังนั้นชัยชนะโดยสมบูรณ์จึงเกิดขึ้นเกือบจะในทันที ตอนนี้เขาไม่ทันได้คิดว่าจะจัดการกับน้องชายสองคนนั้นอย่างไร เพราะพวกเขายอมรับความผิดพลาดของตนเองอย่างจริงใจในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อคุณเต็มใจยอมรับความผิดพลาด อย่างน้อยคุณก็ควรทำอะไรบางอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าคุณสำนึกผิดจริง ๆ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนนอก แต่ก็อยากจะเสนอแนะอะไรที่นี่หน่อย ทำไมพวกคุณไม่ลองฟังข้อเสนอแนะของผม แล้วดูว่าข้อเสนอแนะนี้จะเป็นไปได้หรือเปล่า?ยูลรีบพูดว่า “พูดออกมาได้เลยชาร์ลี!”ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “
จู่ ๆ ในเวลานี้เอเดรียนก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาทันทีคำพูดของชาร์ลีทำให้เขาเข้าใจได้ว่า เขายังคงช่วยให้พี่ชายคนโตรู้สึกเป็นศัตรูกับเขาน้อยลงมันไม่สำคัญหรอกว่า บุคคลนั้นจะมีพนักงาน หรือแผนกที่อยู่ในความดูแลภายในบริษัทมากมายขนาดไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง ซึ่งเป็นสิทธิ์สำหรับบุคคลนั้นเอาไว้แสดงความคิดเห็นภายในบริษัทด้วยสิทธิ์ในการออกเสียงจะมีความสอดคล้องกับจำนวนหุ้น ซึ่งเปรียบได้กับจำนวนปืนที่ประชาชนใช้ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในบริษัทนั่นเองถ้าเขาสละสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงทั้งหมดในตอนนี้ ก็เท่ากับเขาได้สละอาวุธ และไม่มีทางที่เขาจะลุกขึ้นมาต่อต้านอะไรในอนาคตได้อย่างแน่นอนพูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากอยู่ในความควบคุมของใครเลยแต่ในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะหลีกเลี่ยงได้จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้น่ะเหรอ?ไม่มีทางที่เขาจะไม่เห็นด้วย! เพราะท้ายที่สุดแล้ว พี่ชายคนโตของเขาก็กลับมามีสุขภาพดี แถมยังมีนายน้อยแห่งตระกูลเวดมาคอยช่วยเหลืออีก ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชาร์ลีเลยตอนนี้พวกเขายังคงสมรู้ร่วมคิดกันอย่างเปิดเผยต่อหน้าเขา เพื่อให
ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเขาทั้งสี่คนก็ต้องใช้ชีวิตแบบขันทีต่อไปอย่างนั้นเหรอ?!แล้วเมื่อไหร่พวกเขาถึงไม่ต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ดูน่าสังเวชอย่างนี้ได้เสียทีล่ะ?!แต่ด้วยความที่ชาร์ลีพูดออกไปแล้ว จึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งอะไรไม่เช่นนั้นชาร์ลีจะไม่มีความสุข แล้วพวกเขาก็จะไม่สามารถฟื้นคืนสมรรถภาพในชีวิตนี้ได้ แล้วชีวิตของพวกเขาจะไม่จบสิ้นลงหรอกเหรอ?ดังนั้นเอเดรียนจึงทำได้เพียงพูดอย่างอ่อนน้อมว่า “วางใจได้เลยครับคุณเวด พวกเราทุกคนจะทำตัวให้ดีอย่างแน่นอน!”ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “ลุกขึ้นเถอะ ถ้าคนจากฝ่ายกฎหมายเข้ามาเห็นเข้า พวกเขาจะต้องรู้สึกว่านี่เป็นอะไรที่แปลกมากแน่ ๆ”ในที่สุดพวกเขาทั้งสี่คนก็ยืนขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของเขาหลังจากนั้นชาร์ลีก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ก่อนที่ผมจะเปิดเผยตัวตนต่อหน้าสาธารณชน คุณทั้งสี่คนไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้กับคนอื่นแม้แต่คำเดียว ไม่งั้นผมจะไม่ให้อภัยพวกคุณแน่!”เอเดรียนรู้ว่าเขาไม่สามารถยั่วยุชาร์ลีได้ ชาร์ลีไม่เพียงเป็นนายน้อยของตระกูลเวดเท่านั้น แต่เขายังมีพี่ชายคนโตของเขาคอยสนับสนุนเขาด้วย สิ่งสำคัญมากกว่านั้นก็คื
ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่เขาได้ยินว่า พวกเขาทุกคนต้องไปที่ห้องรับแขกกันแล้วนักข่าวส่วนใหญ่กำลังรออยู่ที่ห้องรับแขกในตอนนี้ ที่พวกเขามาที่นี่กันก็เพราะได้ข่าวว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกันที่นี่ นอกจากนี้ยูลยังใช้ประโยชน์จากสื่อในการเผยแพร่ข่าวว่า พี่ชายคนโตของเขาป่วยหนัก นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมากันแต่เช้าพวกเขาต้องการมาทำข่าวใหญ่ที่จะมีการเปลี่ยนตัวประธานบริษัทโกลดิ้งกรุ๊ป ซึ่งเอเดรียนเตรียมจะใช้ประโยชน์จากความสนใจของนักข่าวและสื่อมวลชน เพื่อเพิ่มความนิยมและชื่อเสียงให้กับตัวเขาเองเดิมทีเอเดรียนวางแผนให้พวกเขารายงานเกี่ยวกับชัยชนะครั้งใหญ่ของเขา ในระหว่างที่มีการประชุมของคณะกรรมการบริหาร สื่อมวลชนสามารถประกาศข่าวว่าได้มีการเปลี่ยนตัวประธานบริษัทโกลดิ้งกรุ๊ปใหม่แล้ว และเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานบริษัทโกลดิ้งกรุ๊ปคนต่อไปแต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำขึ้นมานั้น ก็เพียงเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่ชายคนโตของเขาในท้ายที่สุดเขานึกภาพออกเลยว่า นักข่าวและสื่อมวลชนต่าง ๆ จะตัดพ้อกันขนาดไหน เมื่อพี่ชายคนโตของเขาที่ทุกคนต่างคิดว่ากำลังจะตาย กลับมาปรากฏตั
เมื่อชาร์ลีนั่งลงในห้องรับแขก ทั่วทั้งห้องรับแขกก็แน่นขนัดไปหมดแล้วในเวลานี้สื่อมวลชนส่วนใหญ่ได้ส่งนักข่าวทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ โดยได้ตั้งกล้องไว้ที่นี่หลายตัว ในขณะที่รอให้โกลดิ้งกรุ๊ปประกาศข่าวสำคัญในตอนนี้ประชาชนไม่รู้เรื่องที่ยูลหายจากอาการป่วยเลยทุกคนคิดว่ายูลกำลังจะตาย และอาจไม่สามารถมาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารในวันนี้ได้แต่พวกเขาทุกคนต่างก็หวังว่ายูลจะสามารถมาปรากฏตัวที่นี่ได้ด้วยความที่พวกเขาเป็นสื่อมวลชน พวกเขาจึงอยากจะได้ประเด็นข่าวและพาดหัวข่าวสำคัญ ๆ ที่สามารถกระตุ้นและดึงดูดความสนใจของสาธารณชนได้ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าจะสามารถจับภาพของยูล ผู้ผ่านช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขามาแล้ว และสามารถเพิ่มข้อความเร้าใจลงไปในบทความของพวกเขาได้ นี่คงจะได้พาดหัวข่าวเด็ด ๆ อย่างแน่นอนบางคนถึงกับคิดพาดหัวข่าวเอาไว้แล้วด้วยซ้ำไปตัวอย่างเช่น ‘จุดสิ้นสุดแห่งยุค’ หรือ ‘คนเก่งได้แก่ชราและวางมือแล้ว ประธานบริษัทคนใหม่ของโกลดิ้งกรุ๊ปจะพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่?’ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้แต่รอให้ยูลซึ่งใคร ๆ คิดว่ากำลังป่วยหนัก เดินอ่อนแรงเข้ามาให้ห้องรับแขกแห่งนี้ หรือแม้กระทั่งนั่ง
เมื่อนักข่าวคนอื่น ๆ ได้ยินดังนี้ ทุกคนต่างก็หันไปมองยูลอย่างจริงจังอีกครั้งเมื่อพวกเขาเพ่งมองอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็เห็นว่าคนคนนี้คือยูลจริง ๆ เขามีลักษณะใบหน้าและการแสดงอารมณ์แบบเดียวกับที่เคยมีมาเสมอดังนั้นทุกคนจึงต่างมั่นใจว่า ชายที่ดูเหมือนมีอายุแค่สี่สิบปีนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยูล!ทั่วทั้งห้องรับแขกที่ใช้จัดงานแถลงข่าวจึงมีเสียงอึกทึกเกิดขึ้น!ไม่มีใครรู้ว่า ทำไมยูลซึ่งว่ากันว่ากำลังป่วยหนัก ในเช้านี้ถึงดูมีกำลังวังชาและเปล่งปลั่งสดใสอยู่ในตอนนี้ได้!ดังนั้นช่างภาพและตากล้องทุกคนในห้องแถลงข่าวจึงล็อกกล้องไว้ที่ยูลคนเดียว แล้วกดชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง!ในเวลานี้มีสื่อออนไลน์ได้ทำการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวทางอินเทอร์เน็ตพร้อมกันด้วย โดยใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในงานแถลงข่าวนั้นเมื่อชาวเน็ตส่วนใหญ่ได้เห็นใบหน้าที่มีเลือดฝาดของยูล หุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งที่อยู่ภายใต้บริษัทโกลดิ้งกรุ๊ป ที่มีราคาตกลงจนถึงขีดสุดแล้ว จู่ ๆ ก็คลายตัวลงทันที! คำว่าลดลงจนถึงขีดสุดแล้วก็หมายถึงสถานการณ์ที่ราคาหุ้นได้ลดลงไปแล้ว 10% และไม่อนุญาตให้ราคาหุ้นลดลงกว่านี้ได้อีก ส่งผลให้มีคำสั่งขายจำนวนมากเพื่อปิ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสีหน้าที่มีเลือดฝาดของยูลแล้ว เขาก็ดูไม่เหมือนคนป่วยที่ใกล้จะตายเลย มียารักษาที่แสนมหัศจรรย์แบบนี้อยู่จริง ๆ เหรอ?ในเวลานี้ยูลพูดต่อไปว่า “เรื่องที่สองที่ผมอยากพูดถึงก็คือ ถ้าทุกคนไม่เชื่อว่าผมได้หายดีแล้ว ผมก็จะไปที่โรงพยาบาลแฟร์วิวหลังจากจบการแถลงข่าวนี้ทันที ผมจะเข้ารับการตรวจซีทีสแกนทั้งร่างหาย และจะแจ้งผลการตรวจร่างกายให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปได้ทราบทั่วกัน”ทันทีที่ยูลพูดออกมาดังนี้ ก็ไม่มีใครสงสัยอีกเลยว่าเขาหายจากอาการป่วยจริงหรือเปล่าเนื่องจากถ้าเขาทำซีทีสแกนทั้งร่างกาย พวกเขาก็จะสามารถค้นพบเนื้องอกชนิดต่าง ๆ ได้ในร่างกายของเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งขนาดเล็กที่สุดในระยะเริ่มแรก ก็สามารถค้นพบได้โดยง่ายเช่นกันถ้ายูลยังไม่หายดี เขาคงไม่กล้ายอมรับการตรวจสุขภาพแบบนี้อย่างแน่นอนในเวลานี้ทุกคนต่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่ายังมีการรักษาอันแสนมหัศจรรย์ ที่สามารถรักษาโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย อย่างเช่นโรคมะเร็งตับอ่อนได้ พวกเขาอดที่จะนึกถึงคนอัจฉริยะอย่างสตีฟ จ็อบส์ไม่ได้ ซึ่งเขาได้เสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีนี้เองทั