ยูลหันไปหาเอเดรียนแล้วพูดในขณะที่กัดฟันด้วยความตกตะลึงว่า “เอเดรียน! บอกให้พวกเขาหยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำร้ายชาร์ลีนะ! ฉันยอมรับเงื่อนไขของแกแล้ว!”ในความคิดเห็นของยูลนั้น ชาร์ลีไม่ได้เป็นเพียงลูกเขยในอนาคตของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสายเลือดของเพื่อนรักที่เสียชีวิตไปนานแล้วของเขาด้วย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ทนนั่งดูให้ชาร์ลีต้องตายไปเฉย ๆ เพราะเขาหรอกถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงรู้สึกละอายใจที่ต้องไปพบหน้าพ่อแม่ของชาร์ลี ถ้าเขาต้องไปอยู่ในปรโลกหลังตายไปแล้วในขณะที่ยังถือข้อมือของตัวเองอยู่นั้น เอเดรียนก็กัดฟันอย่างเดือดดาลแล้วก่นด่าว่า “อ้อ ตอนนี้ต้องการประนีประนอมกับเราแล้วเหรอ? สายไปแล้วล่ะ! ไอ้เด็กนั่นทำร้ายฉัน ฉันคงต้องฆ่ามันทิ้งซะ!”จากนั้นเขาก็หันไปหาบอดี้การ์ดแล้วพูดว่า “ฆ่ามันซะ! เดี๋ยวนี้เลย!”สีหน้าบูดบึ้งและแฝงความเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบอดี้การ์ดสองคนนั้น หนึ่งในนั้นเป็นที่รู้จักในนาม ‘จ้าวนักรบ’ ส่วนอีกคนหนึ่งคือ ‘จ้าวดินแดน’ คนพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดเหี้ยมในโลกใต้ดิน ตอนนี้พวกเขาถูกเด็กสารเลวที่รู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวนิด ๆ หน่อย ๆ ทำให้ขายหน้า พวกนั้นรู
เมื่อมาถึงจุดนี้ทุก ๆ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกไม่ใช่แค่เอเดรียนและโรแกนที่เข้าไปสร้างปัญหาที่นั่นเท่านั้น แต่สมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวของยูลก็ล้วนพูดอะไรไม่ออกด้วยความตกตะลึงเช่นกันจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยมป่าเถื่อนในอีสต์คลิฟฟ์ พวกเขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและไม่เคยพ่ายแพ้ใครเลย แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้คนหน้าซีดตัวสั่นกันได้แล้วแต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไร้ประโยชน์ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อสู้กับชาร์ลีโดยปกติแล้วการท้าทายกันไปมาถือเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้กันทางร่างกาย การเตะและต่อยรวมทั้งการหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ป้องกันตัวแต่ชาร์ลีรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วบีบคอคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังสองคนราวกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ไร้ค่า ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าชาร์ลีมีความแข็งแกร่งขนาดไหนกัน!ชาร์ลีไม่ได้สนใจอาการอ้าปากค้างด้วยความตกใจจากคนรอบข้าง เขามองไปที่ชายสองคนที่อยู่ในมืออย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวจะหาว่าฉันจะไม่ให้โอกาสแกได้มีชีวิต คุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วเรียกฉันว่าป๊ะป๋าซะ ถ้าแก
”โอ้” ชาร์ลีพยักหน้ารับรู้แล้วพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “สวัสดีจ้าวดินแดน ยินดีที่ได้รู้จัก ฉายาของแกนี่เท่จัง แต่ฉันเองก็มีฉายาเหมือนกันนะ ผู้คนในเมืองของฉันเป็นคนตั้งให้ ฉันสงสัยจังว่าฉายาของใครจะยอดเยี่ยมกว่ากัน ของฉันหรือของแก?”จ้าวดินแดนถามว่า “ฉายาของนายคืออะไร?”ชาร์ลียิ้มอ่อน ๆ “มังกรที่แท้จริง”สีหน้าของจ้าวดินแดนเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ลีมังกรที่แท้จริง?อะไรกันวะเนี่ย!นี่จะไม่โอ้อวดกันมากไปหน่อยเหรอ?ชาร์ลีไม่สนใจที่จะต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป เขารวบรวมพลังไว้ในมืออีกครั้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดูว่างเปล่า “แกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปถ้าคุกเข่า แต่ถ้าไม่แกก็ต้องตาย แกมีเวลาเลือกสามวินาที”จ้าวดินแดนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงมากเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่คอเพิ่มมากขึ้น เขาตะโกนออกมาด้วยความกลัว “โอเค! ฉันจะทำ! ฉันจะคุกเข่า!”ชาร์ลีจ้องมองสิ่งที่เรียกว่าจ้าวนักรบแล้วถามว่า “แล้วแกล่ะ พี่จ้าวนักรบ? จะคุกเข่าไหม?“คุณเข่าสิ! ฉันจะคุกเข่าด้วย!”จ้าวนักรบก็รู้ตัวว่าการมีชีวิตรอดแบบเดียวกับหมา ก็ยังดีกว่าการตายแบบสิงโต เขาจึงพยักหน้าโดยไม่ลังเลอะไรเลยชาร์ลียิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็
จ้าวนักรบและจ้าวดินแดนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นรีบคลานไปด้านข้าง โดยไม่กล้าที่จะประท้วงอะไรส่วนเอเดรียนและโรแกนต่างตกใจและตื่นตระหนก เมื่อพวกเขาได้ยินชาร์ลีบอกว่าอยากคุยกับพวกเขาพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีปีศาจร้ายอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขาจากที่เขารู้มานั้นยูลมีเพียงผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งก็มีความแข็งแกร่งพอสมควรแต่ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับบอดี้การ์ดสองคนที่เขาพามาในวันนี้ บอดี้การ์ดสองคนนี้สามารถเอาชนะผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านของยูลได้อย่างง่ายดายในเวลาอันรวดเร็วแต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีชายหนุ่มผู้ทรงพลังและเก่งกาจขนาดนี้อยู่ในบ้านของยูล ซึ่งเขามีความแข็งแกร่งดุจเทพซูสเลยทีเดียวในขณะที่ชาร์ลีเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีที่ดูมีอำนาจนั้น พวกเขาก็ก้าวถอยหลังออกไปอย่างหวาดกลัวทันที เอเดรียนถามขึ้นด้วยความกลัวว่า “อะไร… แกต้องการอะไร?”“ผมเหรอ?” ชาร์ลียิ้ม “คุณทำกร่างและอวดดีตั้งแต่เดินเข้าประตูมาแล้ว ตอนนี้ถึงทีผมบ้างแลเวล่ะ ไหนบอกมาซิว่าวันนี้คุณวางแผนจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”“แกหมายความว่ายังไง?!” เอเดรียนร้องคำรามออกมาพร้อมกัดฟันแน่นด้วยความเด
แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีก็แผ่ซ่านอยู่ในตัวจ้าวนักรบอย่างฉับพลันนี่เป็นเพราะเขาได้พกปืนติดตัวมาด้วยถึงแม้ว่าเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ศิลปะการป้องกันตัวจะไม่ชอบใช้ปืนมากนัก แต่ท้ายที่สุดสุดแล้วปืนก็เป็นเครื่องพึ่งพิงที่ช่วยชีวิตได้ การทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับเอเดรียนนั้นไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่เป็นอันตรายมากนัก แต่เขาก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเผื่อเอาไว้ในกรณีที่จำเป็นก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถคว้าปืนออกมาใช้งานได้ เนื่องจากชาร์ลีพยายามรั้งตัวเขาไว้ จนเขาไม่สามารถคิดเรื่องการใช้ปืนได้เลย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนนั้นแล้วตอนนี้ชาร์ลีไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกต่อไปแล้วเขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจมีโอกาสแอบคืบคลานเข้าไปจัดการกับชาร์ลี เมื่อชาร์ลีพุ่งความสนใจไปที่เอเดรียนและโรแกนไม่ว่าคนคนนั้นจะมีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ ลูกกระสุนก็ยังคงเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขา ถ้าเขาสามารถยิงชาร์ลีได้สักนัด ชาร์ลีก็น่าจะสูญเสียพลังในการต่อสู้ทันที จากนั้นเขาก็ยิงซ้ำไปอีกสองนัด ก็จะช่วยให้เขาสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งปรมาจารย์ผู้ทรงพลังในการใช้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันต
ตอนนนี้เอเดรียนตัวสั่นด้วยความกลัว‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?! ฉันจ้างจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนด้วยเงินเดือนก้อนโต แต่ไอ้เจ้าพวกนี้กลับโดนชาร์ลีบีบคอจนหายใจไม่ออก แถมยังต้องนั่งคุกเข่าเรียกชาร์ลีว่าป๊ะป๋า! ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนนี้จ้าวนักรบยังชักปืนออกมาไม่ได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?’คนพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นกับปืน! การที่พวกเขาไม่สามารถถือปืนได้นั้นก็ช่างน่าขันพอ ๆ กับการที่ช่างตัดผมไม่สามารถถือกรรไกรรได้นั่นแหละ!แต่ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อขนาดไหน ความจริงก็คือความจริงเอเดรียนจ้องมองไปที่จ้าวนักรบที่กำลังตื่นตระหนก เขาอ่อนแอราวกับแมวขี้กลัวและไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว เขารู้ว่าวันนี้ช่างเป็นวันสิ้นหวังที่ไม่สามารถพึ่งพาคนพวกนั้นได้‘ถ้าอย่างนั้น การที่ฉันโดนตบหน้าก็คงทำอะไรไม่ได้ด้วยล่ะสิ… ใช่ไหม?’เมื่อคิดได้ดังนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาไม่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับชาร์ลีในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเดือดดาลมาก “โอเค! ไอ้หนู ระวังตัวไว้ให้ดีนะ! ฉันจะจับตามองแก! แล้วแกจะต้องเสียใจ!”จากนั้นเขาก็พูดกับริกลีย์ลูกชายของเขาทันทีว่า “ไปกันเถอะ!”จู่ ๆ ชาร์ลีที่ยืนยิ้มมาตลอดก็ตะโกนออกม
ชาร์ลีมองไปที่เอเดรียนอีกครั้งแล้วถามพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย “จากที่ผมได้ยินมาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนคุณจะชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว แถมคุณยังเยาะเย้ยอายูลที่ไม่มีลูกชายด้วย สรุปแล้วลูกชายของคุณคือสิ่งจรรโลงชีวิตของคุณใช่ไหม?”เอเดรียนตีความตามคำพูดและน้ำเสียงของชาร์ลีแล้ว รู้สึกได้ว่าภัยกำลังมาถึงตัวแล้ว จึงถามอย่างกระวนกระวายใจว่า “อะไร… แกจะทำอะไร? ฉันขอเตือนแกนะ ถ้าแกทำร้ายลูกชายของฉันล่ะก็ ฉันจะฆ่าแก!”ชาร์ลียิ้ม “ไม่ ผมไม่ทำร้ายลูกของคุณหรอก ผมแค่จะทำร้ายหลายชายของคุณเท่านั้นเอง”“หลานชายของฉัน?” เอเดรียนงงยิ่งกว่าเดิม “ฉันยังไม่มีหลายชายเลย… แกหมายความว่ายังไง?”ชาร์ลีถามว่า “ว่าแต่แกรู้จักเคนเน็ธ วิลสัน ประธานอีสต์คลิฟฟ์ โมเดสท์เวย์กรุ๊ปไหมล่ะ?เอเดรียนขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัยว่า “รู้จักสิ ทำไมล่ะ?”ชาร์ลีถามอีกว่า “คุณรู้ไหมว่าเขามีความพิการบางอย่างซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง?”เอเดรียนส่ายหัว “หยุดพูดจาอ้อมค้อมได้แล้ว แกจะบอกอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ เถอะ!”ชาร์ลียิ้ม “เขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พูดง่าย ๆ ก็คือจู๋ของเขาใช้การไม่ได้ แต่เขายังสามารถเจริญพันธุ์ได้ ซ
เอเดรียนและสมัครพรรคพวกต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกงุนงงสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีชาร์ลีได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าให้พวกเขาแยกย้ายออกไปกันได้แล้วและพวกเขาก็อยากจะออกไปจากที่นี่ทันที แต่ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนเพราะรู้สึกว่าชาร์ลียังพูดไม่จบนั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าชาร์ลีหมายถึงอะไรในทางตรงกันข้าม ชาร์ลีก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาคิดออกเช่นกัน ก็เหมือนกับการที่กว่าเคนเน็ธจะคิดออกนั่นแหละ เขาจะต้องให้พวกนั้นเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเองเสียก่อนเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น โดยมองไปรอบ ๆ เหมือนคนเซ่อซ่า ชาร์ลีก็ตวาดด้วยน้ำเสียงอันน่ากลัว “ผมให้เวลาสามวินาทีในการออกไปจากที่นี่ หรือไม่ก็อยู่ที่นี่ไปตลอดเลยก็ได้!”เอเดรียนโบกมือให้กับฝูงชนราวกับได้รับอภัยโทษ แล้วเร่งเร้าขึ้นมาว่า “ไปกันเถอะ!”ทุกคนเริ่มหันหลังกลับแต่จ้าวนักรบกับจ้าวดินแดนยังคงนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพวกเขาอยากออกไปจากที่นี่ใจจะขาด แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับตัวแม้แต่น้อยในช่วงแรก ๆ เขายังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ที่ขาบ้าง จึงทำให้สามารถยืนและเดินกระย่องกระแย่งไปข้างหน้าได้บ้าง แต่เนื่องจากเขาได้นั่งคุก
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล