เมื่อแมกโนเลียได้ยินคำพูดของลิเลียน น้ำตาก็รินไหลอาบแก้มทันที เมื่อเดรโกเห็นคู่หมั้นของเขาโดนตำหนิและได้รับความอับอาย เขาก็ไม่อาจทนนิ่งได้อีกต่อไป เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า "แม่ครับ! ผมกับแมกโนเลียจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันหลังแต่งงาน เราไม่สนใจเรื่องอื่นใดตราบใดที่เราสองคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องใส่ใจกับอะไรมากเกินไปหรอกครับ ตอนนี้ก็สายแล้ว เรามาเริ่มทำพิธีแต่งงานกันเลยดีไหมครับ?”“ไม่มีทาง!” ลิเลียนมองแมกโนเลียด้วยความรู้สึกขยะแขยง ก่อนจะพูดอย่างเหยียดหยันว่า "ฉันยับยั้งความโกรธที่กำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ นับตั้งแต่ฉันได้แต่งงานกับพ่อของแก ฉันก็ไม่เคยรู้สึกคับข้องใจอย่างนี้มาก่อนในชีวิต เห็นได้ชัดว่าครอบครัวเธอจะได้ประโยชน์และสามารถไต่ระดับทางสังคมได้ หลังจากแต่งงานกับแก แล้วทำไมเราจึงดูเหมือนเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์จากการแต่งงานครั้งนี้แทนล่ะ? พ่อกับแม่มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงก็มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่เช่นกัน แล้วไหนล่ะครอบครัวของเธอ? ไม่เห็นมีใครสักคนนอกจากเจ้าสาว! เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังดูถูกเหยียดหยามเราอยู่!”แมกโน
ลิเลียนไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของลูกชายและแมกโนเลียมาโดยตลอดแต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่เธอตกลงจัดงานแต่งงานในวันนี้ ก็เพราะต้องการล้างมือให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะทำให้แมกโนเลียและครอบครัวต้องอับอายขายหน้าในวันนี้ เธอต้องการทำให้ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถเชิดหน้าชูตาท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงในวันนี้ได้ ก็เพราะพ่อแม่ของแมกโนเลียเป็นต้นเหตุ แค่ข้อกล่าวหานี้เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้เธอดูมีความสูงส่งทางคุณธรรม และไม่อนุญาตให้แมกโนเลียแต่งงานเข้ามาเป็นคนในครอบครัวของเธอในวันนี้ได้แล้ว ซึ่งนี่ยังเป็นตัวแทนของสิ่งที่พ่อแม่ที่ชาญฉลาดมักจะทำในชีวิตประจำวันอีกด้วยพ่อแม่ที่ชาญฉลาดจะไม่ยื่นคำขาดกับลูกเมื่อไรก็ตามที่พวกเขามีเรื่องขัดแย้งกับลูก ๆ ถ้าพวกเขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะปฏิเสธการตัดสินใจของลูก ๆ อย่างไม่มีข้อสงสัย ฉะนั้นถ้าลูก ๆ ไม่สามารถข้ามผ่านในเรื่องนี้ หรือไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคในอนาคตได้ พวกเขาก็จะต้องตำหนิหรือเกลียดพ่อแม่อย่างแน่นอนแต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอเลือกใช้วิธีอื่น ผลที่ตามมาย่อมจะดีกว่านี้อย่างแน่นอนนี่เป็นเพราะตอนนี้เธอดูมีความสูงส่ง
แป้งสาลีของเขามีช่องทางการขายที่ค่อนข้างใหญ่อยู่สองช่องทาง ช่องทางที่หนึ่งคือ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ อย่างเช่นคาร์ฟูร์และวอลมาร์ท ส่วนอีกหนึ่งช่องทางคือ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลาง อย่างเช่นซูเปอร์มาร์เก็ตของตระกูลมอร์นิ่งสตาร์อุตสาหกรรมโรงโม่แป้งมีการใช้เทคโนโลยีค่อนข้างน้อย และมีการแข่งขันที่รุนแรงมีธัญพืชและน้ำมันอยู่หลายแบรนด์ในออสเกีย อย่างเช่นเบอร์ทอลลี่และอดอลฟัส ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจึงขายดีด้วยเช่นกันนอกจากนี้ยังมีแป้งสาลีแบรนด์ท้องถิ่นอีกอย่างน้อยสองสามยี่ห้อในเมืองต่าง ๆดังนั้นแบรนด์เล็ก ๆ อย่างแบรนด์ของเขาจึงสร้างยอดขายในท้องถิ่นได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยอดขายของเขาต้องพึ่งช่องทางการขายเป็นอย่างมากถ้าช่องทางการขายนั้นทำให้เขาโชว์สินค้าได้มากขึ้นและซื้อสินค้าของเขามากขึ้น เขาก็จะทำเงินได้มากขึ้นแต่ถ้าช่องทางการขายนั้นไม่ได้ให้ตำแหน่งในการโชว์สินค้าหรือไม่ได้ซื้อสินค้าใด ๆ เขาก็จะขายแป้งสาลีไม่ได้นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ธัญพืชและน้ำมันในท้องถิ่นหลายแห่ง จึงต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลมอร์นิ่งสตาร์ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีหนท
ลิเลียนรู้สึกสับสนและไม่รู้จะทำอย่างไรดีในเวลานี้สินสอดมูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์นั้นเป็นอะไรที่ยั่วยวนใจเสียจริง ๆ แต่ประเด็นสำคัญก็คือ… เธอต้องขอร้องให้ลูกชายแต่งงานกับหญิงตั้งครรภ์นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนมักเรียกกันว่าการรับเป็นพ่อให้ลูกคนอื่นหรอกหรือ?ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่ในวัยหนุ่มสาวแล้ว แต่ก็ยังพอเข้าใจคำศัพท์พวกนี้อยู่บ้างแต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้รับการเสนอค่าสินสอดสามสิบล้านดอลลาร์จากคุณมอร์นิ่งสตาร์ และเขายังเสนออะไร ๆ อีกตั้งหลายอย่างในการจุนเจือครอบครัว ลิเลียนก็มีความหวังอยู่เต็มอกและเริ่มตั้งตารอถึงสิ่งนั้นเธอคิดว่าตราบใดที่เขาเต็มใจให้เงินเป็นจำนวนมากกับครอบครัวของเธอ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่โตอะไรถ้าลูกชายของเธอต้องรับเป็นพ่อให้ลูกของคนอื่นแต่ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ เธอไม่รู้จะชี้แจงให้ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงเข้าใจได้อย่างไร ถ้าผู้หญิงคนนั้นตั้งท้องลูกที่สืบเชื้อสายมาจากชาวออสเกีย เธออาจแค่บอกญาติ ๆ และเพื่อนฝูงว่า คนทั้งคู่พลาดพลั้งจนทำให้ตั้งครรภ์ขึ้นมา แล้วต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกันหลังจากเด็กคลอดออกมาแล้ว เธอก็แค่ปฏิบัติต่อเด็กคนนั้นเหมือ
"ส่วนเรื่องทรัพยากรแป้งสาลีในซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น ก็ต้องจัดสรรให้กับครอบครัวของฉันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าพวกเขายอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดวันแต่งงานให้ยุ่งยาก เพราะไหน ๆ ฉันก็จัดงานแต่งงานนี้ขึ้นมาแล้ว แถมยังไม่มีชื่อคู่บ่าวสาวติดอยู่ตรงซุ้มแต่งงานด้วย เธอก็แค่บอกให้คุณมอร์นิ่งสตาร์ส่งตัวลูกสาวของเขามาที่นี่ เราจะได้จัดการเรื่องแต่งงานในวันนี้เลย"หลังเธอพูดจบ ลิเลียนก็ยิ้มแล้วพูดต่อว่า "แมดเดอลีน ลูกสาวของเขาตั้งครรภ์แล้ว ฉะนั้นจึงไม่ควรหน่วงเหนี่ยวในเรื่องนี้ออกไปอีก ทำได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นอกจากนี้นะ แมดเดอลีน ถ้าเธอช่วยฉันในเรื่องนี้ฉันก็จะมอบรางวัลให้เธอเป็นเงินสองล้านดอลลาร์ด้วย!”เหตุผลสำคัญที่ทำให้แมดเดอลีนกระตือรือร้นที่จะเป็นธุระในเรื่องนี้ ก็เนื่องจากมาจากคุณมอร์นิ่งสตาร์ได้สัญญากับเธอว่า ถ้าเธอหาใครมารับเป็นพ่อของเด็กในท้องลูกสาวของเขาได้ เขาก็จะมอบเงินห้าล้านดอลลาร์ให้เป็นรางวัลกับเธอด้วยไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คุณมอร์นิ่งสตาร์มีลูกสาวเพียงคนเดียว จึงไม่อยากให้ลูกสาวต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะต้องใช้จ่ายเงินเพื่อจัดการกับเรื่องนี้เพิ่มข
คุณมอร์นิ่งสตาร์รู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นเขาเป็นห่วงแต่ว่าลูกสาวจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วจะส่งผลกระทบต่อความสุขของเธอได้ในอนาคตตอนนี้มีผู้ชายดี ๆ มาให้เขาเลือกเป็นลูกเขยอยู่ตรงหน้าแล้ว แล้วที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ เขาไม่อิดออดในการทำพิธีแต่งงานแบบเร่งด่วน และสามารถเตรียมงานได้อย่างรวดเร็วด้วย ผู้ชายแบบนี้ช่างหาได้ยากจริง ๆดังนั้นเขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปในทันทีว่า "ไม่มีปัญหา! บอกครอบครัวสก็อตสันนะว่า ฉันให้ค่าสินสอดห้าสิบล้านดอลลาร์ จะไม่ได้เงินน้อยกว่านั้นแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะรีบพาลูกสาวไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย เราจะจัดพิธีแต่งงานทางฝั่งเจ้าบ่าวก่อน แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาร่วมงานแต่งงานที่ทางฝ่ายฉันจัดขึ้น เมื่อเสร็จพิธีแต่งงานทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ถือว่างานแต่งงานนั้นเสร็จสมบูรณ์"แมดเดอลีนพูดอย่างตื่นเต้น "คุณมอร์นิ่งสตาร์ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ! ที่สามารถตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย และจัดการเรื่องอิดหนาระอาใจนั้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงทำเงินได้อย่างมหาศาล! โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันคิดว่าไม่มีใครโอลรัส
ลิเลียนโบกมือปฏิเสธ "ถ้าเขากล้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ฉันกับพ่อของเขาก็จะตัดขาดจากเขา! นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคัดค้านในเรื่องอะไร!”หลังพูดจบ ลิเลียนก็เดินเข้าไปหาเดรโกและแมกโนเลีย เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและอึมครึม "เดรโก ฉันขอบอกแกนะว่า ถ้าแมกโนเลียไม่สามารถหาเงินสามสิบล้านดอลลาร์มาเป็นค่าสินสอดล่ะก็ ฉันก็ไม่มีอารมณ์จะคิดถึงเรื่องการแต่งงานหรอกนะ!”“สามสิบล้านดอลลาร์?!” เดรโกและแมกโนเลียตะโกนออกมาด้วยความตกใจ!เดรโกไม่สามารถระงับความโกรธเอาไว้ได้ เขาจึงโพล่งออกมาว่า "แม่ตกระกำลำบากจนถึงกับเสียสติไปแล้วหรือไง? แม่เพิ่งพูดถึงเงินสิบล้านดอลลาร์ไปเมื่อกี้นี้ แล้วมาเปลี่ยนเป็นสามสิบล้านภายในพริบตา แล้วครอบครัวของแมกโนเลียจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนได้ล่ะ?! แม้แต่ครอบครัวเราก็ยังหาไม่ได้เลย!”ลิเลียนจับแขนเสื้อของเดรโก้แล้วพูดว่า "ตามฉันมา ฉันมีอะไรจะบอกแก" จากนั้นก็หันไปหาสามีแล้วตะโกนขึ้นสุดเสียง "ไอ้แก่เติร์ก สก็อตสัน! รีบมานี่เลย!”คุณสก็อตสันรีบเดินไปหาภรรยาทันที สามคนพ่อแม่ลูกเข้าไปยืนอยู่ในมุมที่ไม่มีใครอยู่แถวนั้น แล้วเริ่มพูดคุยกัน เดรโกที่กำลังเดือดปุด ๆ เริ่มถามว่า "แ
หลังจากได้ยินการคำนวณตัวเลขแล้ว คุณสก็อตสันก็ตัดสินใจได้ทันที เขาหันไปหาลูกชายแล้วพูดว่า "เดรโก ถ้าแกไม่เลือกภรรยาคนนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนะ เพราะนอกจากพวกเขาจะไม่เรียกร้องค่าสินสอดแล้ว ยังเสนอค่าสินสอดตั้งหลายสิบล้านดอลลาร์ให้เราอีก นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”เดรโกตอบอย่างเย็นชา "ใช่ครับ มันยอดเยี่ยมมากจริง ๆ เพราะดูเหมือนพ่อจะไม่รังเกียจที่จะมีหลานชายที่เป็นลูกครึ่งเลย"เติร์กพูดอย่างไม่อายว่า "ถ้าได้เงินห้าสิบล้านดอลลาร์แล้ว ฉันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น! หลายชายเป็นลูกครึ่งแล้วจะทำไมล่ะ? เมื่อได้เงินห้าสิบล้านดอลลาร์แล้ว ฉันก็ไม่สนใจหรอกถ้าหลายชายกลายเป็นลูกครึ่งน่ะ!”เดรโกส่งเสียงตะคอกกลับไป "หยุดพ่นน้ำลายกันได้แล้ว ผมไม่ยอมแต่งงานด้วยหรอก"เติร์กถอนหลายใจ สีหน้าเขาดูเคร่งขรึมและน้ำเสียงก็ฟังดูหนักแน่น "ลูกพ่อ… แกมันอ่อนประสบการณ์จริง ๆ แกยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลย แกยังไม่เคยลิ้มรสความเจ็บปวดจากการไม่มีเงิน ตอนที่แกยังเด็กอยู่น่ะ ฉันน่าจะให้แกลองทนทุกข์ทรมาณสักสองสามวันดูบ้าง จะได้ช่วยให้แกแข็งแกร่งขึ้น แกรู้ไหมว่าเงินทองนั้นมีค่าขนาดไหน และกว่าจะได้มันมาน่ะ ไม่ใช่ง่
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล