ชายหนุ่มรู้สึกหวิว ๆ และเวียนหัวจากการถูกกระแทกจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้นลูกค้าที่อยู่รอบ ๆ พวกเขาก็ตกใจกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันแฮโรลด์จ้องมองชายหนุ่มที่ศีรษะชุ่มไปด้วยเลือดอย่างดุร้ายและเย้ยหยัน “ออกไป ไม่งั้นฉันจะหักขาแกซะ!”ชายหนุ่มกุมบาดแผลไว้ที่ศีรษะและคำราม “ได้เลย ไอ้เลวนี่ เดี๋ยวรู้เลย!”จากนั้นเขาก็วิ่งออกจากร้านอาหารแฮโรลด์ยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ไอ้ขี้แพ้เอ๊ย เขาคิดว่าเขาเป็นใคร มาคุกคามฉัน? ฉันชื่อแฮโรลด์ วิลสัน ไอ้เวร!”จากนั้นเขาก็ปัดตัวเองด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆ ขณะที่พูดกับลอรีนว่า “มีจุดบกพร่องที่น่ารำคาญอยู่เสมอทุกที่ที่คุณไป อย่าปล่อยให้เขาทำลายค่ำคืนของเราเลยครับ มาทานต่อกันดีกว่า”อารมณ์เฉลิมฉลองของลอรีนถูกทำลายกายไปหมด หลังจากช่วงเวลาที่วุ่นวายเธอก็พยักหน้าโดยไม่พูดอะไรตลอดมื้อค่ำแฮโรลด์พยายามทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้นด้วยการสนทนาที่ดูน่าสนใจ แต่ลอรีนนั้นดูเหมือนว่าไม่ได้สนุกไปกับเขาเลยในความคิดของเธอแฮโรลด์ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ไร้ความสามารถและบ้าบิ่น เขาจะไม่อยู่ในรายชื่อของเธอแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ในโลกก็ตามในทางกลับ
ขณะที่แฮโรลด์มองดูท่อเหล็กที่กำลังฟาดมาที่เขา เขาตกใจมากและตื่นตระหนกจนตัวเองเกือบจะฉี่ราดทันใดนั้นเขาก็จับมือของลอรีนและผลักเธอออกไปทางผู้ชาย จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่รถของเขาเปิดประตูเข้าไปในรถอย่างรวดเร็วและขับออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวลอรีนกรีดร้องอย่างตกใจขณะที่เธอถูกผลักเข้าหาผู้ชายป่าเถื่อน เธอโกรธมากเมื่อเธอมองไปที่แฮโรลด์ที่หนีไปอย่างกับแมวขี้กลัวไอ้สารเลว! แฮโรลด์ วิลสัน ไอ้ขี้ขลาด เห็นแก่ตัว!หลังจากก่อเหตุแล้ว เขากล้าที่จะผลักผู้หญิงคนหนึ่งไปข้างหน้าเพื่อเป็นโล่ให้เขาในช่วงเวลาวิกฤตและหลบหนีไปคนเดียว!เขาเป็นขยะที่น่าขยะแขยงที่สุดในโลก!ชายหนุ่มก่นด่าดังลั่นเมื่อแฮโรลด์หนี“ไอ้เวรนั่น ไอ้สารเลว! ทิ้งผู้หญิงไว้ที่นี่แล้วหนีไปคนเดียว! ไอ้ขี้แพ้!”จากนั้นเขาก็หันไปหาลอรีนและคำรามอย่างเย็นชา “นี่คนสวย เรียกไอ้เวรนั่นกลับมาซะ ไม่งั้นเธอจะเป็นคนต่อไป!”ลอรีนโพล่งด้วยความตื่นตระหนก “เขากับฉัน เราเป็นแค่คนรู้จักกัน อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของพวกคุณเลย”ชายหนุ่มชี้ไปที่ศีรษะที่มีผ้าพันแผลและคำราม “เวร ฉันเย็บแผลที่หัวไปสิบหกเข็ม! ฉันจะไม่พอ
การเสียดแทงและความเจ็บปวดที่ขาของเธอส่งคลื่นตกใจไปทั่วร่างกายของลอรีน เธอหมดหวังและสิ้นหวังอย่างทึ่สุด น้ำตายังคงไหลอาบแก้มชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะที่เขามองไปที่ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ เขากระแอมในลำคอและตะโกนว่า “พาเธอขึ้นรถ!”เสียงของใครบางคนดังมาจากด้านข้าง “คุณเวสต์บรู๊ค เมื่อไหร่คุณจะให้เราได้ลิ้มรสผู้หญิงสวย ๆ ล่ะ?”ชายหนุ่มพูดอย่างเย็นชา “ฉันทำกับเธอเสร็จเมื่อไหร่พวกนายจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ!”จากนั้นเขาก็ยื่นแขนออกไปเพื่อจะจับเธอเข้าไปในรถ ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องอย่างกะทันหันจากด้านหลังของผู้ชายคนนั้น!“อ๊ากก!”ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องที่ดังและเจ็บปวดก็ดังก้องอย่างรุนแรงชายหนุ่มหันกลับมาด้วยความโกรธและตะโกนว่า “เกิดอะไรขึ้น?”แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเขาก็รู้สึกได้ถึงลมแรงที่พัดมาทางเขา! ก่อนที่เขาจะหลบได้ทันเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เลือดพุ่งต่อหน้าต่อตา ดั้งจมูกหักเสียงดัง "กร๊อบ" และมีเลือดไหลออกมาจากจมูกของเขาในทันทีราวกับว่าใบหน้าของเขาโดนค้อนขนาดใหญ่ทุบ เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดสุด ร่างกายของชายหนุ่มเซไปมาและล้มลงไปข้างหลังเมื่อเขาล้มล
ชาร์ลีเหลือบมองลอรีนอย่างเงียบ ๆ และคิดว่า ‘เธอดูถูกฉันมาตลอด แล้วฉันจะเปิดเผยตัวตนเพื่ออะไร? มันจะมีแต่ทำให้เธอกับฉันมีปัญหามากกว่า’ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บเป็นความลับให้ดีที่สุดนอกจากนั้นเขาก็ช่วยเธอเพื่อประโยชน์ของแคลร์ภรรยาที่รักของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะดูแลเธอเป็นพิเศษอยู่แล้วเมื่อเห็นว่าชายคนนี้ไม่ได้พูดอะไร ลอรีนก็เข้าใจว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน เธอจึงหยุดคำถามที่อยากจะรู้เธอเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกแบบผู้ชายที่ไม่ยอมเกาะผู้ชายในทุกกรณี เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่ไม่สามารถแสดงความขอบคุณได้หลังจากที่เขาช่วยเหลือเธอในขณะที่เธอต้องการถามอีกครั้งด้วย น้ำเสียงแหบแห้งและเย็นเยียบก็ดังก้องอยู่ในหูของเธอ"ถอดกางเกงของคุณออก"ลอรีนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสับสน จู่ ๆ เธอก็รู้สึกอับอายและกระวนกระวายใจเมื่อเห็นชายสวมหน้ากากจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเธอคิดว่าเธอคงหนีเสือปะจระเข้แล้วล่ะ!เมื่อมองไปรอบ ๆ เธออยู่ที่ไหนก็ไม่รู้และผู้ชายคนนี้เชี่ยวชาญและแข็งแกร่งมาก คงไม่มีใครได้ยินเธอแม้ว่าเธอจะตะโกนสุดเสียงก็ตามลอรีนกัดฟันอย่างสิ้นหวังและเตือนอย่างดุร้ายว่า “อย่ามาแตะต้องตัวฉั
เมื่อเธอจับขาของเธอ ลอรีนรู้ว่าชายคนนี้ไม่ได้แอบอ้างใด ๆ ขณะที่เธอเห็นเลือดไหลออกมาระหว่างนิ้วของเธอ แต่จิตใจของเธอกลับต่อต้านเมื่อคิดจะถอดกางเกงต่อหน้าชายแปลกหน้าเมื่อเผชิญกับชีวิตและความตายลอรีนลังเลอยู่พักหนึ่งและในที่สุดก็ยอมจำนนต่อความเป็นจริงเธอไม่อยากตาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลายเป็นคนพิการลอรีนเงยหน้าขึ้นมองชายที่สวมหน้ากาก ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงอย่างน่าอาย หัวใจของเธอเต้นแรง เธอขยับร่างกายอย่างงุ่มง่ามในที่สุดเธอก็พูดเบา ๆ ว่า “โอเค ก็ได้ ขอบคุณค่ะ”ชาร์ลีพยักหน้าเมื่อเธอปฏิบัติตาม เขาย่อตัวลงจับกางเกงของเธอด้วยมือทั้งสองข้างและฉีกอย่างแรงลอรีนก้มหน้าลงและมองไปทางอื่น เธอหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว หัวใจของเธอแทบจะหลุดออกจากซี่โครงเพราะเสียงฉีกอย่าแรงชาร์ลีสงบนิ่งราวกับทะเลสาบ เมื่อเห็นว่ามีบาดแผลถูกแทงที่ขาซ้ายของเธอ เขาจึงใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางชิดเข้าหากันเล็งไปที่จุดฝังเข็มแล้วกดแช่ไว้อย่าแรงกระแสของเรกิถูกส่งจากนิ้วของเขาไปสู่บาดแผลชาร์ลีจดจ่อจ้องไปที่บาดแผลเท่านั้นเขาทำได้รวดเร็วมาก หลังจากกดจุดไปสองสามจุด เลือดในบาดแผลก็ค่อย ๆ หยุดลงตามเทคนิค
ก้อนกรวดนี้เป็นของใคร? มันเป็นของชายสวมหน้ากากหรือไม่? เขาทำก้อนกรวดหล่นโดยบังเอิญหรือไม่?ลอเรนกำก้อนกรวดแน่นราวกับว่าเธอกำลังถือเพชรล้ำค่าถ้าเธอไม่เคยเห็นเขาอีกเลย งั้นหินก้อนนี้จะเป็นสิ่งเดียวที่เขาทิ้งให้กับเธอรถพยาบาลพาลอเรนไปโรงพยาบาล หลังจากการวินิจฉัยหลายครั้งแพทย์รู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริงที่พบว่าอาการบาดเจ็บของเธอไม่ร้ายแรง โดยไม่รู้ว่าชาร์ลีได้ช่วยในการรักษาบาดแผลของเธอมาก่อนเมื่อพิจารณาจากบาดแผลที่ถูกแทงที่ขาของเธอ อาจทำให้เอ็นร้อยหวายแตกหรือแย่กว่านั้นคือทำลายกล้ามเนื้อ และเส้นเลือดได้อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากบาดแผลที่ตื้นแล้ว เส้นเลือด และเส้นเอ็นที่อยู่ภายใน ยังคงสภาพเดิมราวกับว่ามีการเชื่อมต่อกันใหม่ และยังดูกระชับกว่าเดิมหมอบอกว่า “แผลของคุณจะหายดีหลังจากพักผ่อนอีกไม่กี่วัน อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก คุณทำอะไรมากับแผลหรือเปล่า?”ลอเรนกำลังคิดถึงชายสวมหน้ากากลึกลับ แต่เธอบอกว่า “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”หมออุทานว่า “ปาฏิหาริย์!” จากนั้นเขาพูดต่อว่า “อ้อใช่!! ฉันแจ้งตำรวจแล้วพวกเขาจะมาเร็ว ๆ นี้ คุณสามารถบอกพวกเขาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายไ
แฮโรลด์รู้สึกเหมือนถูกตีหัว ในสมองของเขามีแต่ความอิจฉาเขายังแตะมือของลอรีนไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่มีผู้ชายแปลกหน้าโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แถมถอดกางเกงเธออีก แล้วมาสัมผัสร่างกายของเธอที่เปลือยด้วยกล้ามาก!แฮโรลด์ไม่สนใจเลยว่าลอรีนจะผิดหวังแค่ไหนในตัวเขา เขากัดฟันอย่างอิจฉาและคำราม “ผมไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะมาช่วยคุณหรอก! เขาแค่อยากจะฉวยโอกาสและคุกคามคุณเท่านั้นแหละ!”ทันทีที่เสียงของแฮโรลด์ลดลงทุกคนในห้องก็หันมามองที่ลอรีนพูดตามความจริงก็คือพวกเขาทั้งหมดมีความคิดเดียวกันหญิงสาวสวยหุ่นดีเอนกายอยู่โดยไม่สวมกางเกงต่อหน้าชายแปลกหน้า และปล่อยให้เขาแตะต้องเธอเพื่อประโยชน์ในการรักษา มันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ผู้คนจินตนาการไปแบบนั้นลอรีนโกรธมากจนตัวสั่นแรง! เธอผิดหวังอย่างมากในตัวแฮโรลด์!เขาไม่เพียงแต่ทิ้งเธอไว้ที่นั่นแล้วหนีไปคนเดียวในตอนแรก แต่เขายังทำให้เธอเสียชื่อต่อหน้าผู้คนมากมาย! เขานี่มันหน้าด้านและไร้ยางอายจริง ๆ !ลอรีนจ้องแฮโรลด์ด้วยสายตาคมกริบและพูดอย่างเย็นชาว่า “แฮโรลด์คนที่ช่วยฉันไม่ได้ทำอะไรฉันเลย ฉันถอดกางเกงเอง! มันไม่ใช่ธุระของคุณ!"จากนั้นเธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “แต่ค
แคลร์รู้สึกท้อแท้เล็กน้อยหลังจากวางสายชาร์ลีถามด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรเหรอครับ?”แคลร์บอกชาร์ลีสั้น ๆ เกี่ยวกับคำขอของคุณย่าชาร์ลีพยักหน้าและเสนอว่า “ทำไมคุณไม่ขอให้เอ็มแกรนด์กรุ๊ปจ่ายล่วงหน้าให้ 200 ล้านสำหรับโครงการก่อนล่ะครับ?”แคลร์อ้าปากค้างด้วยความตกใจและพูดว่า “ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะคะ?! พวกเขาไม่อยู่ในสถานะที่จะมาช่วยเราได้นะ มันเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา เราจะถูกดูถูกหากเราขอให้พวกเขาจ่ายเงินให้ก่อนที่จะดำเนินโครงการนะคะ”ชาร์ลีตะโกนภายในใจว่า ‘สามีของคุณเป็นเจ้าของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ใครหน้าไหนมันกล้ามาดูถูกคุณด้วยเงินเพียง 200 ล้าน?!’แต่แคลร์ไม่สามารถอ่านใจของเขาได้ เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่หลังจากถอนหายใจเธอพูดว่า ฉันคิดว่าฉันจะไปคุยกับคุณค็อคดีกว่า”"ผมจะไปกับคุณด้วย"“ไม่ คุณไปไม่ได้ค่ะ” แคลร์พูด “ใครจะพาสามีมาประชุม? มันดูไม่เป็นมืออาชีพมากนะคะ”จากนั้นเธอกล่าวเสริมว่า “อยู่บ้านเถอะค่ะ ถ้าคุณเบื่อก็ออกไปข้างนอกนะคะ อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ”ชาร์ลีตัดสินใจที่จะเงียบหลังจากเห็นท่าทีหนักแน่นของเธอเขารู้ว่าภรรยาของเขาเป็นนักธุรกิจอิสระและอุทิศตนมา
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล