โจอี้นอนอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง เขาจ้องไปที่คนขับแท็กซี่ที่เดินเข้ามา ด้วยความกลัว การแสดงออกที่เย่อหยิ่งของเขา ในตอนที่เขาข่มขู่คนขับได้ลดน้อยหายไปแล้วเขาทำหน้าสิ้นหวังและอ้อนวอนว่า “เจ้านาย ฉันเพิ่งล้มละลาย ฉันถังแตกและมีหนี้สินมากมาย! แล้วฉันก็โดนทำร้ายมาด้วย! ได้โปรดเถอะ ฉันไม่มีเงินจะจ่ายคุณจริง ๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป!”คนขับตะโกนอย่างโกรธจัด “แกคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่มีหนี้หรือไง?! แกคิดว่าฉันจะมาขับแท็กซี่ไหม ถ้าฉันรวย? แกคิดว่าสี่สิบห้าดอลลาร์เป็นเงินที่ง่าย ๆ เหรอ? ค่าเงินนั่นมันกินอิ่มท้องได้ถึงสองวันเลยไอ้เวร! เร็วเข้า จ่ายเงินฉันมา!”โจอี้คร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง “เจ้านาย ฉันไม่มีเงินหรือสิ่งของมีค่าในตัวฉันจริง ๆ ได้โปรดเมตตาปล่อยฉันไปเถอะ!”“โอ๊ย เลิกทำตัวน่ารำคาญสักที! ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก ถ้าแกไม่จ่าย!”โจอี้พยายามคุกเข่าก้มกราบและร้องไห้ “เจ้านาย ฉันไม่มีเงินจริง ๆ ต่อให้คุณจะต้องการฆ่าฉันในตอนนี้ก็ตาม! ได้โปรดเถอะ ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ! ฉันก้มกราบคุณยังไม่พออีกเหรอ? โปรดเห็นฉันเป็นลูกชายของคุณ ที่ก้มกราบคุณในช่วงคริสต์มาสเถอะนะ! มันก็เหมือนกับที่ฉันก้มกราบพ่อของฉันเวลาได
เมื่อโจอี้มาถึงบ้านแฟนสาว เขาก็เคาะประตูแต่ไม่มีใครมาเปิดประตูเขาไม่รู้ว่าเจนิซ แฟนสาวของเขาอยู่ในห้องของเธอในตอนนี้ กำลังทำแบบอย่างที่ใกล้ชิดกับลูกค้าคนหนึ่งของเธอ คนที่ซื้อบุหรี่ปลอมจากเธอเขาพยายามโทรหาเจนิส แต่เธอไม่รับสาย เขาคิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว เขาจึงไปที่แจกันดอกไม้ข้างประตูและพบกุญแจเขาพบความลับเรื่องที่ซ่อนกุญแจโดยบังเอิญ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเห็นแม่ของเจนิซซ่อนกุญแจไว้ใต้แจกัน เขาสันนิษฐานว่าผู้สูงอายุมักจะหลงลืม ดังนั้นเธอจึงวางกุญแจสำรองไว้ที่นั่นเผื่อไว้ต้องขอบคุณเธอ เพราะมันทำให้โจอี้เข้าบ้านได้สะดวกหลังจากหยิบกุญแจแล้ว โจอี้ก็ปลดล็อคประตูและเข้าไปในพื้นที่หน้าบ้านได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้าใกล้บ้านก็พบว่าประตูบ้านปิด แต่ไม่ได้ล็อค เขาจึงผลักประตูให้เปิดก่อนจะเดินเข้าไปขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่นก็มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากห้องนอน ซึ่งเป็นเสียงครางเบา ๆ ของเจนิซเขาขมวดคิ้วพร้อมเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ห้องนั้น ยิ่งเขาได้เข้าใกล้มากเท่าไร มันก็ยิ่งฟังได้ชัดเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะมีเสียงของผู้ชายอยู่ข้าง ๆ เจนิซด้วย พวกเขากำลังทำจังหวะครวญครางอย่างบ้าคลั่งมีเรื่องดังกล่
โจอี้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่บนเตียง สายตาของเขาคุกรุ่นไปด้วยโทสะและความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดทั้งสองคนกล้าดีอย่างไรถึงได้พลอดรักกันต่อหน้าเขา! ทั้งคู่ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ? พวกเขาไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเขาบ้างเลยหรือไง?!วันนี้โจอี้เอ่อล้นไปด้วยพลังงานแง่ลบซึ่งมากเสียจนคาดหวังที่จะได้รับการปลอบประโลมใจจากเจนิสในช่วงเวลาที่เขาใกล้จะพังทลายลงทุกทีอย่างไรก็ตาม ก่อนที่โจอี้จะมาถึงบ้านของเจนิซ เขาถูกคนขับรถแท็กซี่ทำร้ายทั้งทางร่างกายและทางวาจา ถึงขนาดที่เขาต้องคุกเข่าและก้มหัวคำนับคนขับแท็กซี่นั่นเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้ผลักไสเขาไปจนถึงจุดที่ใกล้จะพังทลายลงทุกทีโดยไม่คาดฝัน ระเบิดลูกใหญ่กว่ากำลังรอคอยเขาอยู่ โจอี้ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขารักจะทรยศหักหลังเขาได้เขาเสียสติแทบบ้าแล้วในวินาทีนี้ตอนนี้ โจอี้ไม่ได้นึกถึงหนี้สินที่บีบรัดเขาอยู่หรือความอับอายขายหน้าและการถูกทำร้ายที่เขาต้องทนทรมานใจในวันนี้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขาคิดก็คือจะให้ชายหญิงไร้ยางอายคู่นี้ชดใช้เขาอย่างไรดีต่างหาก!ดังนั้น เขาจึงคลานไปยังห้องครัว คว้ามีดที่คมที่สุดเท่า
ห้านาทีต่อมา โจอี้ก็หยิบโทรศัพท์และกดเบอร์โทร 911 “สวัสดีครับ ผมอยากจะมอบตัว”ผู้ที่อยู่ปลายสายอีกฝั่งรีบถาม “เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณถึงอยากจะมอบตัว?”โจอี้ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ผมเพิ่งฆ่าคนตาย...”“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ? พวกเขาเสียชีวิตแล้วหรือยัง?”“ตายแล้วครับ!” โจอี้เหลือบมองไปยังเจนิซอีกครั้ง และแจ้งที่อยู่ของเจนิซอย่างช้า ๆสิบนาทีต่อมา รถตำรวจสองคันและรถพยาบาลหนึ่งคันก็มาถึงบ้านของเจนิซเกือบจะพร้อมกันตำรวจรีบรุดเข้าไปในบ้านพร้อมกับหมอ ตำรวจจับกุมตัวโจอี้และใส่กุญแจมือเขา ก่อนจะอนุญาตให้หมอเข้าไปตรวจดูเหยื่อทั้งสองรายได้หมอใช้เวลาไม่นานก็ประกาศว่าเหยื่อทั้งสองได้เสียชีวิตแล้วตำรวจรีบพาโจอี้เข้าไปนั่งในรถตำรวจและจับกุมเขาอย่างเป็นทางการขณะกำลังนั่งในรถตำรวจ โจอี้สงบเยือกเย็นและไม่แยแสใด ๆ เขารู้ดีอยู่แล้วว่า อย่างไรเสีย ชีวิตของเขาก็ต้องจบลงแบบนี้ มันไม่สำคัญเลยว่าเขาจะอยู่หรือตาย ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา แต่หัวใจของเขายังคงเจ็บปวดเขาทุกข์ทรมานมาแล้วตลอดชีวิตและได้มอบความรักให้ใครหลายคน แต่กลับไม่มีใครเลยที่ตอบรักเขาอย่างจริงใจครั้งหน
จนถึงขณะนี้ ชาร์ลีเพิ่งจะรู้ว่าข่าวนี้เกี่ยวข้องกับโจอี้กลุ่มแช็ตในหมู่เพื่อน ๆ เด็กกำพร้ามีข้อความมากมายราวกับบ้าคลั่งในวันนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาที่เพิ่งจัดงานรวมตัวกันไปเมื่อวานนี้ และวันนี้ก็มีเพื่อนเด็กกำพร้าสองคนต้องเสียชีวิตไปการตายของแม็กซ์ได้รับการคาดหวังไว้อยู่แล้วจึงไม่น่าแปลกใจ พวกเขารู้ดีว่าธาตุแท้ของแม็กซ์นั้นเป็นอย่างไร จึงไม่มีใครเสียอกเสียใจในการจากไปของเขานักข่าวของโจอี้เหมือนเป็นคลื่นยักษ์สึนามิสำหรับพวกเขาเลยทีเดียว ไม่มีใครคาดคิดว่าคนอย่างโจอี้ ผู้ที่ชอบฉกฉวยประโยชน์จากผู้อื่น จะกลายเป็นฆาตกรไปได้เขาฆ่าแฟนสาวของตัวเองและชู้รักของหล่อน!สเตฟานีส่งรูปที่เต็มไปด้วยน้ำตาเข้ามาในกลุ่มแช็ตและบอกว่า “ ทำไม… ทำไมโจอี้ต้องทำอย่างนี้ด้วย? ถึงแฟนของเขาจะนอกใจ เขาก็ไม่ควรทำเรื่องน่ากลัวแบบนี้เลย!”ใครคนหนึ่งตอบกลับมาว่า “เฮ่อ… ถึงโจอี้จะไม่ใช่คนที่น่าชอบสักเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็น่าสงสารเหมือนกันนะ เขารักแฟนของเขามาก ๆ และนี่คือวิธีที่เธอตอบแทนเขา” “โจอี้ฆ่าคนตายถึงสองศพเลยนะ เขาจะถูกประหารไหม?” “ในข่าวบอกว่า เขายอมมอบตัวเองเลยนะ ฉันคิดว่า เขาน่าจะได้ร
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ไม่มีเวลาปลอบใจอลิซในตอนนี้ แทนที่จะรู้สึกโศกเศร้าเสียใจที่เธอกำลังจะแตกสลายไปกับความสิ้นหวัง เขากลับเกลียดเธอมาก ๆ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอและพี่ชายไร้ประโยชน์ของเธอแล้วล่ะก็ ตระกูลเว็บบ์ก็คงไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์รุนแรงที่กระทบความน่าเชื่อถือของตระกูลเช่นนี้เขาไม่สนใจเลยสักนิดเรื่องการตายของเนลสัน แต่วิดีโอที่เขาถ่ายไว้ก่อนตายได้ฉุดตระกูลเว็บบ์ทั้งตระกูลลงหลุมไปกับเขาด้วย! เป็นไปได้ว่าตระกูลเว็บบ์จะสูญเสียมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่มี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาก็จะไม่ใช่ตระกูลชั้นนำของเขตใต้อีกต่อไปยิ่งไปกว่านั้น มันเลวร้ายมากที่ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แน่นอนเลยว่าคงไม่มีใครในประเทศที่จะลืมเรื่องนี้ไปได้อีกสักพัก ดังนั้น ตระกูลเว็บบ์จะตกเป็นเป้าของการโจมตีอันเลวร้ายไปอีกนานแสนนานผลลัพธ์ของสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลกระทบอันรุนแรงและแผ่ขยายเป็นวงกว้างต่ออาณาจักรธุรกิจต่าง ๆ ของตระกูล บางที ทรัพย์สินของตระกูลก็อาจจะร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ในอนาคตเป็นไปได้ด้วยว่า พวกเขาจะถูกลดชั้นลงกลายเป็นตระกูลชั้นสองในพีระมิดสังคมส่วนที่เศร้าที่สุดก็คือมือของโดนัลด์ถู
หลายเดือนที่ผ่านมา แต่ละวันที่ผ่านไปรู้สึกเหมือนหนึ่งปีสำหรับฮันนาห์เธอคือสะใภ้คนโตแห่งตระกูลวิลสันและไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานใด ๆ มาก่อนแม้เพียงสักครั้งในชีวิต ที่จริงแล้ว ในช่วงรุ่งโรจน์ของตระกูลวิลสัน เธอได้ใช้ชิวิตอย่างหรูหราสุขสบายเธอไม่ได้บอกว่าชีวิตของเธอมีแต่ความหรูหราอลังการราวกับเชื้อพระวงศ์ แต่เธอก็ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายมาก่อนในช่วงอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น เหมืองถ่านหินจึงเป็นนรกสำหรับเธอจริง ๆ เมื่อถูกลดชั้นต้องมาขุดถ่านหินที่นี่ตลอดวัน ตลอดคืน อย่างไรก็ตาม ฮันนาห์ก็ยังได้ใช้ชีวิตที่จัดว่าสบายที่สุดในกลุ่มคนที่ถูกส่งตัวมาที่เหมืองถ่านหินในช่วงเวลาเดียวกันพวกผู้ชายต้องทำงานสิบห้าหรือสิบหกชั่วโมงต่อวันพวกเขาไม่มีอาหารเพียงพอหรือเสื้อผ้าอบอุ่นสำหรับสวมใส่และพวกเขาก็ซูบผอมราวกับโครงกระดูกหลังจากถูกทรมานมาแล้วทั้งวันและคืน ลินดาจอมโกงค่อนข้างน่าเวทนา เนื่องจากเธอหน้าตาน่าเกลียดและผู้คุมก็ไม่ชอบรูปร่างลักษณะของเธอสักเท่าไหร่ งานประจำในแต่ละวันของเธอจึงไม่ต่างอะไรจากงานของพวกผู้ชายเลยฮันนาห์โชคดีกว่าคนเหล่านี้เล็กน้อยเพราะในฐานะที่เธอเป็นคุณผู้หญิงที่มีฐานะ เธอจึงถูกพ
นับตั้งแต่วันแรกที่ลินดาและครอบครัวถูกบังคับส่งตัวมายังนรกเดินดินแห่งนี้ พวกเขาก็ถูกใช้ให้ทำงานที่ใช้แรงอย่างหนัก แต่ฮันนาห์ล่ะ? หล่อนได้กลายเป็นเมียเก็บของผู้คุมอย่างง่ายดาย เพียงเพราะหล่อนใช้เวลาบำรุงบำเรอตัวเองมากกว่าเธอ!ลินดาจดจ้องไปที่ฮันนาห์อย่างเหยียดหยามและสบถ “ผู้หญิงบางคนก็เลวทรามหน้าด้านเสียจนยอมนอนกับผู้คุมแลกกับสวัสดิการพื้น ๆ ผู้หญิงพวกนี้ช่างหน้าด้านเหลือเกิน!”ฮันนาห์รู้ดีว่าลินดาพูดกระทบเธอ สีหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโมโหและพูดเสียงดัง “ลินดา ระวังปากของแกหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้แกอดข้าววันพรุ่งนี้แน่!”ลินดาลุกพรวดขึ้นและแผดเสียงลั่น “หุบปาก! ทำไมแกถึงหลงตัวเองนักนะ ฮันนาห์ แกก็แค่นอนกับผู้คุมโสโครกเท่านั้นแหละ! นี่แกคิดเหรอว่าฉันไม่กล้าแตะต้องแก เพียงเพราะแกเป็นเมียเก็บของมัน พอมันเบื่อ มันก็จะทิ้งแกแน่ แล้วแกก็จะมีจุดจบแบบฉันนี่แหละ”“ลินดา แกนี่ร่าเริงและสุขสบายดีจังนะตอนนี้! เชื่อไหมว่า เพียงแค่ฉันกระซิบผู้คุม เขาก็จะเพิ่มชั่วโมงงานให้แกจากสิบหกชั่วโมงเป็นยี่สิบชั่วโมงนับตั้งแต่พรุ่งนี้เลย! ฉันจะปล่อยให้แกเหนื่อยจนขาดใจตาย!”“ฮันนาห์ วิลสัน นี่แกยังมีความรู
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล