โจอี้นอนอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง เขาจ้องไปที่คนขับแท็กซี่ที่เดินเข้ามา ด้วยความกลัว การแสดงออกที่เย่อหยิ่งของเขา ในตอนที่เขาข่มขู่คนขับได้ลดน้อยหายไปแล้วเขาทำหน้าสิ้นหวังและอ้อนวอนว่า “เจ้านาย ฉันเพิ่งล้มละลาย ฉันถังแตกและมีหนี้สินมากมาย! แล้วฉันก็โดนทำร้ายมาด้วย! ได้โปรดเถอะ ฉันไม่มีเงินจะจ่ายคุณจริง ๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป!”คนขับตะโกนอย่างโกรธจัด “แกคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่มีหนี้หรือไง?! แกคิดว่าฉันจะมาขับแท็กซี่ไหม ถ้าฉันรวย? แกคิดว่าสี่สิบห้าดอลลาร์เป็นเงินที่ง่าย ๆ เหรอ? ค่าเงินนั่นมันกินอิ่มท้องได้ถึงสองวันเลยไอ้เวร! เร็วเข้า จ่ายเงินฉันมา!”โจอี้คร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง “เจ้านาย ฉันไม่มีเงินหรือสิ่งของมีค่าในตัวฉันจริง ๆ ได้โปรดเมตตาปล่อยฉันไปเถอะ!”“โอ๊ย เลิกทำตัวน่ารำคาญสักที! ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก ถ้าแกไม่จ่าย!”โจอี้พยายามคุกเข่าก้มกราบและร้องไห้ “เจ้านาย ฉันไม่มีเงินจริง ๆ ต่อให้คุณจะต้องการฆ่าฉันในตอนนี้ก็ตาม! ได้โปรดเถอะ ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ! ฉันก้มกราบคุณยังไม่พออีกเหรอ? โปรดเห็นฉันเป็นลูกชายของคุณ ที่ก้มกราบคุณในช่วงคริสต์มาสเถอะนะ! มันก็เหมือนกับที่ฉันก้มกราบพ่อของฉันเวลาได
เมื่อโจอี้มาถึงบ้านแฟนสาว เขาก็เคาะประตูแต่ไม่มีใครมาเปิดประตูเขาไม่รู้ว่าเจนิซ แฟนสาวของเขาอยู่ในห้องของเธอในตอนนี้ กำลังทำแบบอย่างที่ใกล้ชิดกับลูกค้าคนหนึ่งของเธอ คนที่ซื้อบุหรี่ปลอมจากเธอเขาพยายามโทรหาเจนิส แต่เธอไม่รับสาย เขาคิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว เขาจึงไปที่แจกันดอกไม้ข้างประตูและพบกุญแจเขาพบความลับเรื่องที่ซ่อนกุญแจโดยบังเอิญ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเห็นแม่ของเจนิซซ่อนกุญแจไว้ใต้แจกัน เขาสันนิษฐานว่าผู้สูงอายุมักจะหลงลืม ดังนั้นเธอจึงวางกุญแจสำรองไว้ที่นั่นเผื่อไว้ต้องขอบคุณเธอ เพราะมันทำให้โจอี้เข้าบ้านได้สะดวกหลังจากหยิบกุญแจแล้ว โจอี้ก็ปลดล็อคประตูและเข้าไปในพื้นที่หน้าบ้านได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้าใกล้บ้านก็พบว่าประตูบ้านปิด แต่ไม่ได้ล็อค เขาจึงผลักประตูให้เปิดก่อนจะเดินเข้าไปขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่นก็มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากห้องนอน ซึ่งเป็นเสียงครางเบา ๆ ของเจนิซเขาขมวดคิ้วพร้อมเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ห้องนั้น ยิ่งเขาได้เข้าใกล้มากเท่าไร มันก็ยิ่งฟังได้ชัดเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะมีเสียงของผู้ชายอยู่ข้าง ๆ เจนิซด้วย พวกเขากำลังทำจังหวะครวญครางอย่างบ้าคลั่งมีเรื่องดังกล่
โจอี้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เขาจ้องเขม็งไปยังชายและหญิงที่อยู่บนเตียง สายตาของเขาคุกรุ่นไปด้วยโทสะและความโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดทั้งสองคนกล้าดีอย่างไรถึงได้พลอดรักกันต่อหน้าเขา! ทั้งคู่ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ? พวกเขาไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเขาบ้างเลยหรือไง?!วันนี้โจอี้เอ่อล้นไปด้วยพลังงานแง่ลบซึ่งมากเสียจนคาดหวังที่จะได้รับการปลอบประโลมใจจากเจนิสในช่วงเวลาที่เขาใกล้จะพังทลายลงทุกทีอย่างไรก็ตาม ก่อนที่โจอี้จะมาถึงบ้านของเจนิซ เขาถูกคนขับรถแท็กซี่ทำร้ายทั้งทางร่างกายและทางวาจา ถึงขนาดที่เขาต้องคุกเข่าและก้มหัวคำนับคนขับแท็กซี่นั่นเหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้ผลักไสเขาไปจนถึงจุดที่ใกล้จะพังทลายลงทุกทีโดยไม่คาดฝัน ระเบิดลูกใหญ่กว่ากำลังรอคอยเขาอยู่ โจอี้ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขารักจะทรยศหักหลังเขาได้เขาเสียสติแทบบ้าแล้วในวินาทีนี้ตอนนี้ โจอี้ไม่ได้นึกถึงหนี้สินที่บีบรัดเขาอยู่หรือความอับอายขายหน้าและการถูกทำร้ายที่เขาต้องทนทรมานใจในวันนี้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขาคิดก็คือจะให้ชายหญิงไร้ยางอายคู่นี้ชดใช้เขาอย่างไรดีต่างหาก!ดังนั้น เขาจึงคลานไปยังห้องครัว คว้ามีดที่คมที่สุดเท่า
ห้านาทีต่อมา โจอี้ก็หยิบโทรศัพท์และกดเบอร์โทร 911 “สวัสดีครับ ผมอยากจะมอบตัว”ผู้ที่อยู่ปลายสายอีกฝั่งรีบถาม “เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณถึงอยากจะมอบตัว?”โจอี้ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ผมเพิ่งฆ่าคนตาย...”“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ? พวกเขาเสียชีวิตแล้วหรือยัง?”“ตายแล้วครับ!” โจอี้เหลือบมองไปยังเจนิซอีกครั้ง และแจ้งที่อยู่ของเจนิซอย่างช้า ๆสิบนาทีต่อมา รถตำรวจสองคันและรถพยาบาลหนึ่งคันก็มาถึงบ้านของเจนิซเกือบจะพร้อมกันตำรวจรีบรุดเข้าไปในบ้านพร้อมกับหมอ ตำรวจจับกุมตัวโจอี้และใส่กุญแจมือเขา ก่อนจะอนุญาตให้หมอเข้าไปตรวจดูเหยื่อทั้งสองรายได้หมอใช้เวลาไม่นานก็ประกาศว่าเหยื่อทั้งสองได้เสียชีวิตแล้วตำรวจรีบพาโจอี้เข้าไปนั่งในรถตำรวจและจับกุมเขาอย่างเป็นทางการขณะกำลังนั่งในรถตำรวจ โจอี้สงบเยือกเย็นและไม่แยแสใด ๆ เขารู้ดีอยู่แล้วว่า อย่างไรเสีย ชีวิตของเขาก็ต้องจบลงแบบนี้ มันไม่สำคัญเลยว่าเขาจะอยู่หรือตาย ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา แต่หัวใจของเขายังคงเจ็บปวดเขาทุกข์ทรมานมาแล้วตลอดชีวิตและได้มอบความรักให้ใครหลายคน แต่กลับไม่มีใครเลยที่ตอบรักเขาอย่างจริงใจครั้งหน
จนถึงขณะนี้ ชาร์ลีเพิ่งจะรู้ว่าข่าวนี้เกี่ยวข้องกับโจอี้กลุ่มแช็ตในหมู่เพื่อน ๆ เด็กกำพร้ามีข้อความมากมายราวกับบ้าคลั่งในวันนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาที่เพิ่งจัดงานรวมตัวกันไปเมื่อวานนี้ และวันนี้ก็มีเพื่อนเด็กกำพร้าสองคนต้องเสียชีวิตไปการตายของแม็กซ์ได้รับการคาดหวังไว้อยู่แล้วจึงไม่น่าแปลกใจ พวกเขารู้ดีว่าธาตุแท้ของแม็กซ์นั้นเป็นอย่างไร จึงไม่มีใครเสียอกเสียใจในการจากไปของเขานักข่าวของโจอี้เหมือนเป็นคลื่นยักษ์สึนามิสำหรับพวกเขาเลยทีเดียว ไม่มีใครคาดคิดว่าคนอย่างโจอี้ ผู้ที่ชอบฉกฉวยประโยชน์จากผู้อื่น จะกลายเป็นฆาตกรไปได้เขาฆ่าแฟนสาวของตัวเองและชู้รักของหล่อน!สเตฟานีส่งรูปที่เต็มไปด้วยน้ำตาเข้ามาในกลุ่มแช็ตและบอกว่า “ ทำไม… ทำไมโจอี้ต้องทำอย่างนี้ด้วย? ถึงแฟนของเขาจะนอกใจ เขาก็ไม่ควรทำเรื่องน่ากลัวแบบนี้เลย!”ใครคนหนึ่งตอบกลับมาว่า “เฮ่อ… ถึงโจอี้จะไม่ใช่คนที่น่าชอบสักเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็น่าสงสารเหมือนกันนะ เขารักแฟนของเขามาก ๆ และนี่คือวิธีที่เธอตอบแทนเขา” “โจอี้ฆ่าคนตายถึงสองศพเลยนะ เขาจะถูกประหารไหม?” “ในข่าวบอกว่า เขายอมมอบตัวเองเลยนะ ฉันคิดว่า เขาน่าจะได้ร
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ไม่มีเวลาปลอบใจอลิซในตอนนี้ แทนที่จะรู้สึกโศกเศร้าเสียใจที่เธอกำลังจะแตกสลายไปกับความสิ้นหวัง เขากลับเกลียดเธอมาก ๆ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอและพี่ชายไร้ประโยชน์ของเธอแล้วล่ะก็ ตระกูลเว็บบ์ก็คงไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์รุนแรงที่กระทบความน่าเชื่อถือของตระกูลเช่นนี้เขาไม่สนใจเลยสักนิดเรื่องการตายของเนลสัน แต่วิดีโอที่เขาถ่ายไว้ก่อนตายได้ฉุดตระกูลเว็บบ์ทั้งตระกูลลงหลุมไปกับเขาด้วย! เป็นไปได้ว่าตระกูลเว็บบ์จะสูญเสียมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่มี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขาก็จะไม่ใช่ตระกูลชั้นนำของเขตใต้อีกต่อไปยิ่งไปกว่านั้น มันเลวร้ายมากที่ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แน่นอนเลยว่าคงไม่มีใครในประเทศที่จะลืมเรื่องนี้ไปได้อีกสักพัก ดังนั้น ตระกูลเว็บบ์จะตกเป็นเป้าของการโจมตีอันเลวร้ายไปอีกนานแสนนานผลลัพธ์ของสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลกระทบอันรุนแรงและแผ่ขยายเป็นวงกว้างต่ออาณาจักรธุรกิจต่าง ๆ ของตระกูล บางที ทรัพย์สินของตระกูลก็อาจจะร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ในอนาคตเป็นไปได้ด้วยว่า พวกเขาจะถูกลดชั้นลงกลายเป็นตระกูลชั้นสองในพีระมิดสังคมส่วนที่เศร้าที่สุดก็คือมือของโดนัลด์ถู
หลายเดือนที่ผ่านมา แต่ละวันที่ผ่านไปรู้สึกเหมือนหนึ่งปีสำหรับฮันนาห์เธอคือสะใภ้คนโตแห่งตระกูลวิลสันและไม่เคยรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานใด ๆ มาก่อนแม้เพียงสักครั้งในชีวิต ที่จริงแล้ว ในช่วงรุ่งโรจน์ของตระกูลวิลสัน เธอได้ใช้ชิวิตอย่างหรูหราสุขสบายเธอไม่ได้บอกว่าชีวิตของเธอมีแต่ความหรูหราอลังการราวกับเชื้อพระวงศ์ แต่เธอก็ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายมาก่อนในช่วงอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น เหมืองถ่านหินจึงเป็นนรกสำหรับเธอจริง ๆ เมื่อถูกลดชั้นต้องมาขุดถ่านหินที่นี่ตลอดวัน ตลอดคืน อย่างไรก็ตาม ฮันนาห์ก็ยังได้ใช้ชีวิตที่จัดว่าสบายที่สุดในกลุ่มคนที่ถูกส่งตัวมาที่เหมืองถ่านหินในช่วงเวลาเดียวกันพวกผู้ชายต้องทำงานสิบห้าหรือสิบหกชั่วโมงต่อวันพวกเขาไม่มีอาหารเพียงพอหรือเสื้อผ้าอบอุ่นสำหรับสวมใส่และพวกเขาก็ซูบผอมราวกับโครงกระดูกหลังจากถูกทรมานมาแล้วทั้งวันและคืน ลินดาจอมโกงค่อนข้างน่าเวทนา เนื่องจากเธอหน้าตาน่าเกลียดและผู้คุมก็ไม่ชอบรูปร่างลักษณะของเธอสักเท่าไหร่ งานประจำในแต่ละวันของเธอจึงไม่ต่างอะไรจากงานของพวกผู้ชายเลยฮันนาห์โชคดีกว่าคนเหล่านี้เล็กน้อยเพราะในฐานะที่เธอเป็นคุณผู้หญิงที่มีฐานะ เธอจึงถูกพ
นับตั้งแต่วันแรกที่ลินดาและครอบครัวถูกบังคับส่งตัวมายังนรกเดินดินแห่งนี้ พวกเขาก็ถูกใช้ให้ทำงานที่ใช้แรงอย่างหนัก แต่ฮันนาห์ล่ะ? หล่อนได้กลายเป็นเมียเก็บของผู้คุมอย่างง่ายดาย เพียงเพราะหล่อนใช้เวลาบำรุงบำเรอตัวเองมากกว่าเธอ!ลินดาจดจ้องไปที่ฮันนาห์อย่างเหยียดหยามและสบถ “ผู้หญิงบางคนก็เลวทรามหน้าด้านเสียจนยอมนอนกับผู้คุมแลกกับสวัสดิการพื้น ๆ ผู้หญิงพวกนี้ช่างหน้าด้านเหลือเกิน!”ฮันนาห์รู้ดีว่าลินดาพูดกระทบเธอ สีหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความโมโหและพูดเสียงดัง “ลินดา ระวังปากของแกหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้แกอดข้าววันพรุ่งนี้แน่!”ลินดาลุกพรวดขึ้นและแผดเสียงลั่น “หุบปาก! ทำไมแกถึงหลงตัวเองนักนะ ฮันนาห์ แกก็แค่นอนกับผู้คุมโสโครกเท่านั้นแหละ! นี่แกคิดเหรอว่าฉันไม่กล้าแตะต้องแก เพียงเพราะแกเป็นเมียเก็บของมัน พอมันเบื่อ มันก็จะทิ้งแกแน่ แล้วแกก็จะมีจุดจบแบบฉันนี่แหละ”“ลินดา แกนี่ร่าเริงและสุขสบายดีจังนะตอนนี้! เชื่อไหมว่า เพียงแค่ฉันกระซิบผู้คุม เขาก็จะเพิ่มชั่วโมงงานให้แกจากสิบหกชั่วโมงเป็นยี่สิบชั่วโมงนับตั้งแต่พรุ่งนี้เลย! ฉันจะปล่อยให้แกเหนื่อยจนขาดใจตาย!”“ฮันนาห์ วิลสัน นี่แกยังมีความรู