ตอนที่ 34กินไปแล้วจริงๆฉันมองตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงา ตั้งแต่ต้นคอไปจนถึงไหปลาร้าของฉันมีรอยแดงเต็มไปหมด ฉันค่อยๆ แหวกเสื้อของตัวเองออกช้า ๆ เพื่อดูในจุดที่ต่ำลงไป ซึ่งฉันยังคงเห็นรอยจ้ำแดงไปจนถึงเนินอก ฉันรู้สึกร้อนบนใบหน้าจนหน้าแทบไหม้ฉันสูดหายใจเฮือกใหญ่และนำผ้าพันคอออกมาพันคอเพื่อปกปิดร่องรอยน่าอายพวกนั้น ถึงจะมีแค่คีอาร์คนเดียวก็เถอะที่มองเห็นฉันและก็เป็นคีอาร์ด้วยที่ทิ้งรอยจูบพวกนี้ไว้ แต่คีอาร์ก็ยังไม่ได้กินฉันอย่างที่เขาหวังหรอกนะเนื่องจากว่าฉันมียางอายและความเกรงใจต่อโคลว์มากฉันจึงปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะให้คีอาร์กิน คีอาร์จึงเปลี่ยนใจมาทิ้งรอยจูบไว้บนร่างกายของฉันแทน ฉันรอดตัวไปในครั้งนี้ ซึ่งครั้งหน้าฉันก็จะต้องหนีให้ได้ ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ด้วย!ตอนถูกจับกดอีกครั้งฉันรีบกลับโลกเดิมเลยดีไหม? ไม่สิ นั่นก็เกินไป ถึงฉันจะกลับไปไม่กี่วินาที แต่มันก็ถือว่าเกือบชั่วโมงของโลก MP งั้นฉันซื้อพลังมาใช้เลยดีไหม? ไม่สิ พลังใน Writer Shop ใช้ตอนอยู่ในร่างวิญญาณไม่ได้ งั้นปิดโหมดมองเห็นตัวฉันของคีอาร์? แต่มันคงไม่น่าจะได้ผลเพราะคีอาร์สามารถสัมผัสตัวของฉันได้อยู่ดี หากคีอาร์คิดจะ
ตอนที่ 35ในห้องทำงานขณะนี้ฉันอยู่ในห้องทำงานของคีอาร์และกำลังนั่งอยู่บนตักของคีอาร์ การนั่งตักมันคงจะไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลยหากไม่มีโคนี่ โจนี่ และเจนอสยืนจ้องพวกเราทั้งสองอยู่ด้วย สายตาพวกเขาฉายแววสงสัยอย่างชัดเจน“...ความรักสายฟ้าฟาด?” โคนี่พูดในสิ่งที่ตัวเองเดา ที่เขาคิดแบบนั้นก็เพราะเขาคิดว่าคีอาร์เพิ่งรู้จักฉันเป็นครั้งแรกเมื่อสองวันก่อน หลังจากนั้นก็ลากฉันกลับบ้านแล้วก็ไม่ยอมออกจากบ้านนานเป็นวัน พอจะออกมาทำงานก็ลากฉันออกมาด้วยและเริ่มทำตัวเหมือนกับเด็กขาดของเล่นไม่ได้ เขาลากฉันไปทุกที่จริงๆ โชคดีนะที่ฉันเลือกพลังด้านรักษาไม่อย่างนั้นร่างกายที่เพิ่งผ่านค่ำคืนอันยาวมาของฉันคงจะไม่ไหวหรือไม่ดีกันนะ?พอนึกถึงความยาวนานบนเตียงฉันจึงสรุปว่ามันไม่ดีแล้วกัน พอฉันรักษาตัวเองเสร็จทีไรเขาก็จะออกอาการหิวกระหายขึ้นมาอีกครั้ง ถึงปากจะบอกว่าพยายามทะนุถนอมฉันแล้วก็เถอะแต่ก็ไม่เคยยับยั้งแรงไว้ได้เลยคีอาร์เด็กหื่นเอ๊ย!“ไม่คิดเลยว่านายจะมีนายหญิงเร็วขนาดนี้นะ” โคนี่พูดพลางหัวเราะ“คีอาร์ จะดีเหรอ?” โจนี่ถามขึ้นมา คำถามของเขาสามารถแยกคำถามได้หลายอย่าง เช่น จะเชื่อใจฉันได้งั้นเหรอ? พาฉันมาทำง
ตอนที่ 36เป็นไปไม่ได้!ฉันนั่งมองหน้าคีอาร์ด้วยความรู้สึกขุ่นมัว ฉันได้สั่งให้เขานั่งอยู่นิ่งๆ อยู่ตรงหน้าห้ามขยับไปไหนโดยหวังให้เขารู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปบ้าง แต่เขากลับนั่งจ้องหน้าฉันกลับตาแป๋ว แต่...อันที่จริงมันก็ไม่ได้น่ารักอย่างคำเปรียบเทียบหรอก เขาทำหน้านิ่งใส่ฉันมากกว่า ซึ่งฉันก็ยังมองว่าเขาน่ารักหลังจากที่ฮันนี่มาเห็นฉันและคีอาร์ที่อยู่ในสภาพที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเธอก็ร้องไห้ออกมาและวิ่งหนีไปเหมือนนางเอกในละครหลังข่าว แต่โชคร้ายที่ไม่มีพระเอกวิ่งตามไป คีอาร์เองก็ยังมีหน้าจะทำต่อฉันจึงจัดการตบหัวเรียกสติเขาไปทีหนึ่งฉันทั้งรู้สึกอายและรู้สึกผิดกับฮันนี่ ฉันรู้ว่าเด็กคนนั้นชอบคีอาร์มาตลอดและคงจะเลิกชอบได้ยาก น่าสงสาร แต่ฉันก็ไม่คิดจะมอบคีอาร์ให้หรอกนะ เขารักฉันและฉันก็รักเขา คู่ของพวกฉันก็ถูกต้องตามหลักแล้ว ฮันนี่ที่ไม่เคยได้รับความรักตอบกลับก็ควรจะตัดใจได้แล้วแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะให้ฮันนี่มาเจอเหตุการณ์นี้ ฉันอยากจะค่อยๆ บอกเธอจะดีกว่า หวังว่าฮันนี่จะไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายหรือกลายเป็นตัวร้ายนะ ถึงฉันจะไม่ผูกพันกับฮันนี่นักแต่ก็เคยเฝ้าดูเด็กคนนั้นมาพร้อมกับคีอาร์ฉัน
ตอนที่ 37แย่แล้วระดับสูงมาก!ฉันมั่นใจว่าตัวเองจะไม่มีวันท้องก็เพราะว่าฉันคือสิ่งแปลกปลอมของโลก MP แห่งนี้ถึงฉันจะมีร่างแล้วก็ตามแต่ยังไงจิตวิญญาณของฉันก็มาจากต่างโลก ฉันไม่มีชะตาชีวิตในโลกใบนี้ ไม่มีจิตวิญญาณดวงไหนที่ถูกกำหนดให้มาเกิดกับฉันในช่วงที่ฉันมีความสัมพันธ์กับคีอาร์ฉันเคยกังวลว่าตัวเองอาจจะท้องก็ได้จึงไปหาข้อมูลในบอร์ดนักเขียน ฉันจึงได้รู้ว่าร่างเนื้อของนักเขียนในต่างโลกมีลูกได้ยากมาก แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่พวกเราจะบังเอิญท้องในต่างโลกได้ ขอย้ำเลยว่ามันน้อยมากเลยล่ะ! ส่วนมากนักเขียนที่ต้องการมีลูกในต่างโลกพวกเขาจะซื้อลูกแก้ววิเศษสำหรับขอลูกมาใช้ ลูกแก้วนั้นจะทำให้ร่างกายของพวกเขาสามารถมีลูกได้เหมือนคนปกติทั่วไปแต่สามปีมานี้ฉันไม่เคยซื้ออุปกรณ์แบบนั้นมาใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะท้องได้! ไม่สิ หนึ่งเปอร์เซ็นต์นั่นเป็นไปได้ที่จะติด ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคีอาร์จะสามารถทำให้ฉันท้องได้แม้จะมีโอกาสแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่กว่าจะทำสำเร็จมันก็ต้องใช้เวลาสามปีเลยทีเดียวไม่อยากจะเชื่อเลย แต่มันก็กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว! ฉันท้องได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว
ตอนที่ 38ใจแทบหายฮันนี่ หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีชมพูเดินตรงไปที่ห้องทำงานของคีอาร์อย่างไม่รีบร้อน ขณะเดียวกันเธอก็ลูบเสื้อคลุมสีครีมอย่างชอบใจ เสื้อตัวนี้ควรเป็นของเธอ ทุกอย่างที่เลล่าได้รับมันควรเป็นของเธอ...ฮันนี่ยกยิ้มสดใสและนำบัตรผ่านสำหรับเข้าไปในห้องทำงานของคีอาร์ออกมา มันเป็นบัตรที่โคนี่ให้เธอมาเพราะเห็นว่าเธอเป็นน้องสาว ไม่มีทางที่เธอจะทำอันตรายอะไรได้ และห้องทำงานชั่วคราวของคีอาร์มันไม่ค่อยมีอะไรสำคัญนักเธอจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ง่ายๆเธอมักจะใช้บัตรผ่านนี้เพื่อเข้าไปหาคีอาร์ทุกครั้งที่เขามาใช้ห้องทำงานแห่งนี้ และเพื่อที่จะรู้ว่าคีอาร์มาวันไหนเธอจึงได้ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทสาขาแห่งนี้ฮันนี่ติดตามข่าวทุกอย่างของคีอาร์เธอจึงทราบดีว่าตอนนี้คีอาร์ต้องอยู่ในห้องทำงานอย่างแน่นอน เธอได้เข้าไปในห้องทำงานของคีอาร์โดยไม่ถามเจ้าของห้องอย่างทุกที เพราะทุกครั้งเธอไม่เคยถูกต่อว่าเลยฮันนี่คิดว่าคีอาร์อาจจะคิดบางอย่างกับเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะเข้าออกห้องของเขาได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ?“คีอาร์?” ฮันนี่เอ่ยเรียกคีอาร์เสียงเบา เธอไม่พบเขาบนโต๊ะทำงานจึงเดินไปที่โซฟา เธอพบว่าเขากำลังนอนหลับ
ตอนที่ 39สามีหายคีอาร์นำร่างไร้ชีวิตของเลย์กลับไปฝังในสวนของคฤหาสน์ของเขา เขาไม่คิดจะจัดงานศพใหญ่โตเพราะการที่ต้องจัดงานศพให้เลย์มันทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและไม่ต้องการยอมรับ เขารู้ว่าเลย์ยังไม่ตายและลูกก็ยังอยู่เช่นกันเพราะงั้นเขาจะไม่จัดงานศพเด็ดขาด!ถึงในสายตาคนอื่นเขาจะเหมือนพวกที่ไม่ยอมรับความจริงว่าภรรยาและลูกตายไปแล้วก็ตามหลังจากนั้นคีอาร์ก็สั่งกวาดล้างพวกที่ต่อต้านเขาอย่างไร้ปรานี เขาสังหารพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ร่างในโลกนี้ของเลย์ต้องตาย ด้วยการกระทำของเขาทำให้อีกสามในห้าองค์กรขั้วอำนาจหวาดระแวงคีอาร์ พวกเขาเคยคิดที่จะกำจัดตัวอันตรายอย่างคีอาร์ก่อนที่เขาจะมีอำนาจไปมากกว่านี้แต่คีอาร์ก็จัดการบีบอีกหลายองค์กรให้กลายเป็นพันธมิตรของเขา คีอาร์ทำให้องค์กรกว่าครึ่งประเทศเป็นของตัวเองได้สำเร็จ ในตอนนี้กฎเกณฑ์และทิศทางของประเทศเปลี่ยนไปอย่างมาก คีอาร์คล้ายกับเป็นราชาของประเทศไปแล้วมากกว่าครึ่งแต่ก่อนจะได้ครอบครองทั้งหมดคีอาร์ก็หยุดมือลงซะก่อนเลย์ยังไม่ได้กลับมาที่โลกแห่งนี้เลยนับตั้งแต่วันนั้นเมื่อสามเดือนที่แล้ว คีอาร์กำจัดพวกที่จะกลายเป็นภัยอันตรายของเขาและเลย์สำเร็จแล้ว
ตอนพิเศษคีอาร์ [1]ตั้งแต่จำความได้ผมก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ มีผู้คนคอยรับใช้ ในตอนนั้นผมยังไม่รู้หรือเข้าใจอะไรมากมาย แต่ก็จำได้แม่นว่าชีวิตในตอนนั้นสะดวกสบายมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีคนตามใจทุกอย่าง ชีวิตทุกอย่างของผมมีคนใช้คอยทำทุกอย่างให้ สิ่งที่เรียกว่าครอบครัวผมแทบไม่รู้จักมัน ผมรู้แค่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าแม่กับผมและเรียกผมว่าคีอาร์ผมไม่ได้ชื่อนายน้อยหรือคุณหนูสินะชื่อเต็มของผมก็คือคีอาร์มาร์ลัน ลูกชายของ แอนนา มาร์ลัน และ อดัมมาร์ลัน พวกเราไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันจึงไม่สามารถเรียกกันว่าเป็นครอบครัวเดียวกันได้จนกระทั่งในตอนที่ผมมีอายุสามปี เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้นั่งบนโต๊ะอาหารเดียวกันคนแปลกหน้าได้พูดคุยเรื่องบางอย่างกับพ่อของผม ซึ่งผมไม่เข้าใจมันเลย จนกระทั่งร่างของคนที่กำลังคุยกับพ่อของผมล้มลงไปนอนกับพร้อมกับมีน้ำสีแดงกระจายไปทั่วพื้น แม่ของผมกรีดร้องน่าหนวกหูออกมาด้วยหน้าตาน่าเกลียดในวันนั้นผมได้เห็นการฆ่าคนอย่างเลือดเย็นของผู้เป็นพ่อเป็นครั้งแรกแม่ของผมทำได้เพียงนั่งตัวสั่นด้วยความกลัว ผมในตอนนั้นไม่สามารถเข้าใจได้เลย ผมจึงมองร่างที่เต็มไปด้วยน้ำสีแ
ตอนพิเศษ คีอาร์ [2] เดี๋ยวนี้เลย์ไม่ว่างที่จะอยู่กับผมตลอดเวลา เธอหายไปในตอนกลางวันและกลับมาหาผมในตอนกลางคืน ซึ่งบางครั้งก็ไม่กลับมาเลย ผมสงสัยว่าเลย์หายไปทำอะไรจึงพยายามเอาความจริง แต่เธอก็บอกแค่ว่าไปทำธุระผมจึงได้แต่อดทนและรอคอยให้เลย์บอกความจริงกับผมด้วยตัวเอง แต่เธอก็ยังคงเก็บเงียบผมคิดที่จะเค้นคอถามเลย์ให้ได้ แต่เมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยอ่อนของเธอทุกครั้งที่กลับมาหาผม ผมก็ไม่กล้าที่จะทำรุนแรง"เลย์..." ผมเรียกชื่อของเลย์และพยายามสะกิดให้เลย์รู้สึกตัว แต่เลย์กลับหลับสนิทไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาเลย ในตอนนี้เลย์เหมือนกับเจ้าหญิงนิทราในนิทานที่เลย์เล่าไม่มีผิดผมขึ้นไปนั่งบนตัวเลย์และเริ่มเขย่าไหล่ของเลย์"อืม..." เลย์ครางในลำคอและขยับตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมเบะปากไม่พอใจที่เลย์ไม่ยอมตื่นสักที ผมจึงเปลี่ยนมานั่งกอดอกมองหน้าของเลย์แทน แต่เมื่อมองไปสักพักผมก็ยื่นใบหน้าเข้าใกล้เลย์มากขึ้น พอรู้สึกตัวอีกที่ใบหน้าของผมและของเลย์ก็แทนจะแนบชิดกันแล้วผมวางหน้าผากของผมลงบนหน้าผากของเลย์ ผมสูดกลิ่นหอมของเลย์และคลอเคลียไปตามใบหน้าของเลย์ ผมหอมแก้วเลย์เบาๆ และเหลือบสายตาไปมองริมฝีปากของเลย์ หา
ตอนพิเศษ พี่น้องชื่อของเขาคือโอนิกซ์ อายุเจ็ดขวบแล้ว เขามีน้องสาวชื่อเอย์ลิน เขาและน้องสาวมีความทรงจำของชาติเดิมอยู่ครบไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะคุณพ่อของเขา คีอาร์...คือตัวปัญหาระดับจักรวาล แม้แต่การจะมีลูกยังสร้างปัญหาโดยการดึงวิญญาณจากโลกอื่นให้มาเกิดเป็นลูกตัวเองอีกแม่ของเขาชื่อว่าเลล่า เป็นนักเขียน ได้ยินว่าแบบนั้น เป็นนักเขียนที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จักมาเลยแต่วันนี้โอนิกซ์ไม่ได้จะมาเล่าเรื่องของพ่อแม่ เขาจะเล่าช่วงเวลาที่เขาได้ดูแลน้องสาวของเขา!โอนิกซ์ได้รับหน้าที่ดูแลน้องสาววัยสองขวบเพราะพ่อแม่ของพวกเขาติดงาน โอนิกซ์ได้ใช้เวลาสอนน้องสาวให้เดิน พูดและเข้าใจภาษาของคนที่นี่ มันจะดีกว่าหากเข้าใจที่คนอื่นพูดโดยไม่ต้องใช้เวทเข้าใจภาษาโอนิกซ์สามารถทำให้เอย์ลินเรียนรู้ภาษาได้อย่างรวดเร็วเพราะเขาและเอย์ลินมาจากโลกเดียวกันในชาติก่อนจึงพูดภาษาเดียวกัน โอนิกซ์ไม่ค่อยสนใจนักว่าน้องสาวของเขาจะเป็นใครในชีวิตก่อน เขามีความสุขกับครอบครัวในตอนนี้ เขาดีใจที่มีน้องสาวน่ารัก"เอย์ลิน เรียกพี่ชายหน่อยสิ เธอไม่เคยเรียกพี่ชายเลยนะ พี่ชายโอนิกซ์น่ะ" โอนิกซ์พยายามยิ้มสว
บทพิเศษ[ดูแลคนท้อง]คนท้องต้องถูกดูแลอย่างดี โอนิกซ์ได้รับคำสอนจากท่านพ่อของเขามาอย่างนั้นเพราะงั้นเขาจึงระวังตัวเต็มที่เพื่อปกป้องท่านแม่ของเขาด้วยเหตุนี้เองไม่ว่าเลล่าจะไปไหนหรือทำอะไรทุกคนก็ต้องเห็นโอนิกซ์เกาะติดแม่ของเขาไม่ห่าง หากไม่มีโอนิกซ์ก็จะมีคีอาร์มาแทน สองพ่อลูกร่วมมือกันทำงานตามติดเลล่าอย่างเป็นระบบระเบียบกันเลยทีเดียว“นี่...ก็รู้อยู่หรอกนะว่าเป็นห่วง แต่ถ้าจะตามทุกฝีก้าวแบบนี้มันอึดอัดนะ! จะให้ฉันรำคาญจนล้มป่วยรึไง!”เนื่องจากคนท้องมักจะมีอารมณ์แปรปรวนอยู่แล้ว บ่อยครั้งจึงจะได้เห็นเลล่าตะโกนไล่สองพ่อลูกให้ออกห่างๆ บ้างตามติดมากไปมันก็น่ารำคาญนะ!“ขอโทษ...ผมแค่อยากอยู่กับเลย์ตลอดเวลา” คีอาร์ทำหน้าเศร้า“ผมแค่ดีใจที่จะมีน้องแล้วเอง...” โอนิกซ์เอ่ยเสียงเหงาหงอย เลล่าปิดปากเงียบไม่พูดกับพวกเขาแต่สุดท้ายเลล่าก็ต้องใจอ่อนเมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนกับลูกหมาถูกทิ้งของพวกเขา แค่คนเดียวก็พออดทนได้อยู่หรอก แต่สองพ่อลูกนั่นทำพร้อมกันเลยนี่นา หัวใจของเลล่าทำงานหนักจริงๆ ...“ก็แค่อย่ามากไปเท่านั้น และอย่าทำท่าทางระวังตัวตลอดเวลาด้วย อารมณ์มันเหมือนอยู่ในสนามรบตลอดเวลา คนท้องจะเครี
ตอนที่ 72มีความสุขจริงๆ!ฉันประคองร่างของเรมไว้ในอ้อมแขน แม้ฉันจะรู้จักกับเรมแค่วันเดียวแต่ก็รู้สึกเสียใจที่เธอต้องตายเพราะปกป้องฉัน ฉันกอดร่างของเธอไว้ด้วยความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดและรู้สึกโกรธตัวเองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กที่ใสซื่อคนหนึ่งต้องตายในตอนนั้นเองคีอาร์ก็สามารถทำให้ลูกแก้วเข้าไปในวิญญาณของเอมิลี่ได้สำเร็จ เอมิลี่แสดงท่าทีทรมานออกมาเมื่อลูกแก้วเข้าไปในร่าง ฉันรู้สึกได้ว่าแรงกดดันจากของพลังของเธอลดลงอย่างรวดเร็ว“ไม่นะ พลังของฉันเกิดอะไรขึ้น!” เอมิลี่กรีดร้องอย่างไม่พอใจเมื่อพลังของเธอหายไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปสักพักลูกแก้วนั้นก็ออกมาจากร่างของเอมิลี่และบินตรงกลับมาหาฉัน ฉันรับลูกแก้วไว้ขณะเดียวกันก็ให้เรมนอนอย่างสงบบนพื้น“ขอบคุณที่ช่วยเหลือเด็กน้อย” ฉันเอ่ยเสียงเบา ขณะผละออกจากเรมและเดินไปหาเอมิลี่“ลูกแก้วนั่น! เอาคืนมาให้ฉัน!” เอมิลี่รู้ว่าพลังตัวเองหายไปไหน เธอจึงพุ่งเข้ามาหาฉันเพื่อแย่งลูกแก้วไป ฉันจึงเก็บมันเข้าไปในช่องเก็บของเพื่อไม่ให้มันถูกแย่งไปเอมิลี่แสดงสีหน้าโกรธจัดออกมาและเหมือนจะเข้ามาทำร้ายฉัน คีอาร์จึงใช้พลังตรึงร่างที่เป็นวิญญาณของเอมิลี่ไว้และดึงเธอใ
ตอนที่ 71ต่อสู้จนโลกถล่มความวุ่นวายและความวินาศสันตะโรเข้าปกคลุมฐานทัพลี้ภัยแห่งหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้นไม่ได้เกิดมาจากซอมบี้ซึ่งเป็นศัตรูของมนุษยชาติแต่อย่างใด แต่เกิดมาจากมนุษย์ที่เป็นมากกว่ามนุษย์สองคนต่อสู้กันต่างหากเอมิลี่อดีตนักเขียนผู้มีดวงตาพระเจ้า เนื่องจากเธอกลืนกินคนที่พลังเหมือนกันเธอจึงมีพลังมหาศาลและมากพอที่จะทำให้โลกเกิดความวุ่นวายได้ เธอถือว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับเหล่านักเขียนผู้มีดวงตาพระเจ้าทุกคนเลยล่ะส่วนอีกคนก็คือ คีอาร์ มนุษย์ผู้มีพลังจิตจากโลก MP เขามีความทะเยอทะยานในการสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ นั่นทำให้เขากลายเป็นตัวปัญหาระดับจักรวาลเนื่องจากพลังที่แหกกฎจักรวาลที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองเมื่อทั้งสองสู้กันมันคงไม่ใช่การต่อสู้เล็กน้อยตูม!เสียงระเบิดดังขึ้นมาตามด้วยตึกที่พังละลายลงมาเป็นแถบ เอมิลี่เดินออกจากซากตึกที่ถล่มลงมาและควบคุมซากตึกรอบบริเวณให้ลอยขึ้นและพุ่งเข้าไปโจมตีคีอาร์ที่ลอยอยู่เหนือพื้น เมื่อพลังดวงตาพระเจ้ารวมกันเธอก็เริ่มที่จะทำอะไรได้หลายอย่างคล้ายกับพลังแห่งการควบคุมสรรพสิ่งของพระเจ้า ยิ่งเธอกลืนกินมากเท่าไหร่พลังก็จะยิ่งแข็งแกร่
ตอนที่ 70เจอกันแล้วการที่ได้ตื่นขึ้นมาในที่แปลกตาทำเอาฉันนั่งมึนไปพักใหญ่ ฉันจำได้ว่าก่อนที่จะนอนหลับไปตัวเองได้นอนอยู่ข้างๆ คีอาร์นะ แต่ไหงพอตื่นขึ้นมาอีกทีฉันถึงได้มาอยู่กลางดงพืชมีชีวิตไปได้ล่ะ? รอบข้างของฉันมีแต่พวกพืชมีชีวิตเคลื่อนไหวได้เต็มไปหมด ดูเหมือนฉันจะถูกลักพาตัวโดยพืชมีชีวิตพวกนี้นะว่าแต่พวกมันพาฉันมาทำไม? พวกมันไม่ได้เอาฉันไปย่อยกิน แต่นำฉันมาปล่อยไว้กลางดงพวกมันโดยไม่ทำอะไรเลยแต่อย่างไรก็ตามฉันควรออกจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะเปลี่ยนใจมากินฉัน พลังน้ำแข็งของฉันได้แช่แข็งพวกมันในชั่วพริบตา ฉันจึงวิ่งออกจากดงของพวกพืชมีชีวิตได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหลังจากที่ฉันออกมาได้พวกมันก็พังน้ำแข็งออกมาได้พอดี อาจจะเพราะพวกมันมีน้ำกรดเคลือบตัวอยู่จึงละลายน้ำแข็งของฉันได้อย่างง่ายดายพวกมันดูอันตรายกว่าที่คิด และมันจะยิ่งอันตรายหากพวกมันจับฉันได้ ฉันหนีออกจากที่นั่นไปไกลเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่คาดเลยว่าระหว่างที่หนีออกจากดงพืชมีชีวิตพวกนั้นฉันจะไปจ๊ะเอ๋กับคนกลุ่มหนึ่ง“อย่าขยับ! ถ้าเธอขยับพวกเราจะยิง!” หนึ่งในสี่คนในกลุ่มนั้นตะโกนและเล็งปืนมาทางฉันฉันยกมือขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อถูกจ่อปืนใส่
ตอนที่ 69หายในที่สุดพวกฉันก็มาถึงเมือง B แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าเมืองแห่งนี้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ที่นี่เต็มไปด้วยซอมบี้ไม่มีมนุษย์เหลืออยู่เลย ฉันอดไม่ได้ที่จะนำลูกแก้วที่ออสตินให้มาออกมาเพื่อตรวจดู ลูกแก้วนี้จะมีปฏิกิริยาเมื่อมันสัมผัสได้ถึงพลังดวงตาพระเจ้าที่มีพลังมากกว่าดวงตาพระเจ้าปกติทั่วไป ถึงมันจะไม่เคยส่งสัญญาณแปลกๆ แต่ฉันก็คิดว่าเรื่องพวกนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับผู้แทรกแซงจากโลกอื่นแต่ลูกแก้วไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยฉันสงสัยว่ามันใช้ได้จริงๆ งั้นเหรอ? หรือเพราะอยู่ห่างไกลเกินไปจึงสัมผัสมันถึงตัวตนของเอมิลี่ไม่ได้...ว่าแต่ไกลแค่ไหนกัน คงไม่ใช่ว่าคนละซีกโลกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะไปยังไง โลกนี้ยิ่งไม่ปกติอยู่ด้วย ไม่มีเครื่องบินให้โดยสารในโลกที่เป็นแบบนี้แน่“เอายังไงต่อดี? กลับเมือง A หรือจะไปต่อ?” โคนี่หันมาถามความเห็นทุกคน ในโลกที่ถูกทอดทิ้งนี้ทุกคนดูไม่มีเป้าหมายนอกจากการเอาชีวิตรอด พวกเขาจะไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบสถานที่ปลอดภัยที่แท้จริง“นี่ รู้กันรึเปล่าว่าซอมบี้พวกนี้เกิดมาจากอะไร?” ฉันตั้งคำถามขึ้นมา โคนี่และเจมส์ชะงัก เอลล่าหันมามองหน้าฉันประมาณว่าทำไมถึงถามขึ้นมา“เอ่อ.
ตอนที่ 68ออกจากเมืองเมื่อเสียงเตือนภัยซอมบี้บุกได้ดังขึ้นในช่วงเวลาเพียงไม่นานเมือง A ก็ได้กลายเป็นสถานที่วุ่นวายและเสียงดังอย่างมาก ผู้ที่มีพลังพยายามที่จะไปจัดการพวกซอมบี้ แต่ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนกำแพงถึงได้เกิดไฟไหม้และระเบิด ซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกบุกเข้ามาเยอะมากขึ้นกว่าเดิมฉันที่กำลังมองเหตุการณ์จากที่สูงถอนหายใจและกุมขมับ การที่จะฟื้นฟูพื้นที่เป็นเรื่องยากซะแล้วสิ“ไปช่วยพวกเขาเท่าที่จะทำได้แล้วกัน” ฉันพูดกับคีอาร์และโอนิกซ์“พวกเขาไม่ใช่คนในปกครองของผม แต่ก็จะพยายามช่วยแล้วกัน” โอนิกซ์พึมพำ ฉันขมวดคิ้วสงสัยกับคำว่า คนในปกครองของเขา“น่าสนุกดีนะ...ผมจะได้รับพลังใหม่ไหมเมื่อให้ชูบี้กินชอมบี้เข้าไปน่ะ” คีอาร์เอ่ยกับตัวเองด้วยท่าทีสนใจ จะว่าไปถ้าไม่ใช่พวกคลั่งไคล้การไขว่คว้าหาพลังใหม่ๆ เพื่อความแข็งแกร่งจริงๆ คีอาร์คงไม่มีแรงผลักดันจนดิ้นรนมาถึงจุดนี้ได้หรอก ความสนใจในการค้นหาความสามารถและพลังใหม่ๆ ของเขาทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆถึงว่าล่ะทำไมออสตินถึงบอกว่าคีอาร์คือตัวปัญหา“อย่าให้เละมากล่ะ” ฉันเตือนพวกเขา“ไม่ต้องห่วง” โอนิกซ์ยิ้มสดใส แต่ฉันไม่ไว้ใจอยู่ดี ฉันได้รู้แล้วว่
ตอนที่ 67ซอมบี้บุกเมือง? ช่างมันสิ!โลกที่ถูกทอดทิ้งเป็นโลกที่อยู่ยากมาก ในเขตเมืองที่อยู่อาศัยค่อนข้างสกปรกและแออัด ก็เข้าใจว่าทุกคนพยายามหนีเอาตัวรอดและมาอาศัยในที่เดียวกันจนรักษาระเบียบและความสะอาดไม่ไหว แต่กลิ่นที่เหม็นจนไม่อยากอยู่นี่มันอะไรกันฉัน ไม่สิ คีอาร์โชคดีหน่อยที่เป็นนายทหารเขาจึงได้อาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ที่ดูดีกว่าคนทั่วไป แต่ออกจะมีพื้นที่เล็กสักนิดหน่อยสำหรับครอบครัวหนึ่ง เนื่องจากมีเตียงเดียวฉัน โอนิกซ์ และคีอาร์จึงต้องนอนเบียดกันในคืนแรก แม้ว่าคีอาร์จะชอบนอนเบียดกับฉันแต่คีอาร์ก็อดบ่นถึงความแคบและล้าสมัยของที่นี่ไม่ได้ก็เพราะคีอาร์เกิดในโลกที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย มีรถบินได้ มีพลังหลากหลาย และอื่น ๆ ที่นี่เทียบไม่ติดเลยล่ะฉันเห็นโลกที่เป็นแบบนี้แล้วก็คิดอยากจะฟื้นฟูและพัฒนามัน อย่างแรกคงต้องเพิ่มพลังในโลกนี้ก่อน พลังจากภายนอกหรือก็คือจากนักอ่านมันจะทำให้โลกสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ง่ายขึ้น พลังจะไปเสริมธรรมชาติของโลก มีอากาศที่ดี มีน้ำสะอาด มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ และคงจะไปเสริมพลังให้มนุษย์ด้วย นั่นจะทำให้มนุษย์สามารถเอาตัวรอดจากภัยพิบัติได้ฉันเพิ่งเคยเห็นโลกที่ใกล้จะล่ม
ตอนที่ 66โลกที่ถูกทิ้งก็ต้องมีซอมบี้“ในเมื่อคุณหายดีแล้วผมคงจะต้องส่งคุณไปที่โลกที่ถูกทอดทิ้งทันที แต่ก่อนที่คุณจะไปผมต้องบอกเรื่องอย่างหนึ่งกับคุณ นั่นก็คือเรื่องร่างที่คุณจะใช้ในโลกนั้น ทางเราจะตัดสินใจเองว่าคุณจะได้ร่างไหน รวมถึงร่างของคนรักและลูกของคุณด้วยนะ เนื่องจากโลกนั้นใกล้ล่มสลายมากกว่าโลกอื่น ๆ เราจึงค่อนข้างระวังเป็นพิเศษ แต่หากจะต่อสู้ก็ต่อสู้แบบเต็มที่ได้เลย แต่อย่าบ่อยเกินไปก็พอ และไม่ต้องกังวลว่าหากตายในโลกนั้นจะเป็นอันตรายกับคุณ พวกเราจะหาร่างใหม่ให้ทันทีเมื่อร่างเดิมตาย และอีกเรื่อง คุณต้องระวังการใช้ระบบด้วยเพราะหากผู้ทรยศอยู่ใกล้ๆ อีกฝ่ายจะรู้ตัวทันทีว่าคุณเป็นนักเขียน และสุดท้ายขอให้คุณโชคดี”ออสตินร่ายยาวไม่หยุดพักหายใจ จากนั้นเขาก็โบกมือส่งฉันไปที่โลกที่ถูกทอดทิ้งโดยไม่ให้ฉันเอ่ยอะไรเพิ่มเติมฉันรู้สึกเอ๋อไปครู่หนึ่ง หลังจากที่ออสตินตรวจพบว่าวิญญาณของฉันหายเป็นปกติแล้วเขาก็มาหาฉันและได้ร่ายประโยคยาวๆ เมื่อครู่และส่งฉันไปโลกต่อไปโดยไม่ให้ฉันได้อ้าปากพูดอะไรเลย อะไรจะรีบปานนั้น...เจ็บ...ความรู้สึกแรกเมื่อมาถึงร่างที่ออสตินเตรียมไว้ให้ในโลกที่ถูกทอดทิ้งคือความร